“คุณยังอยากได้ลูกเขยที่ถูกไล่ออกจากตระกูลอื่นและยื่นคำขาดว่าจะให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของเราอีก?!”“เคลลี่ มาโลน คุณมันบ้าไปแล้ว! คุณมันบ้า!”เคลลี่ตอบอย่างเย็นชาว่า “เฮเซล มาโลนและฮาร์วีย์ ยอร์กเป็นคู่รักในวัยเด็ก ทั้งสองตระกูลตกลงเรื่องการแต่งงานกันไว้แล้ว ผมเพียงทำตามคำสัญญา ทำไม มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”"คุณ…"จูน ลีโกรธมากจนหายใจไม่ออก เธอนั่งบนเก้าอี้และจ้องไปที่เคลลี่ราวกับอยากจะฉีกเขาเป็นชิ้น ๆเฮเซลขมวดคิ้ว เธอรู้สึกขยะแขยงขึ้นไปอีก เมื่อเธอมองไปที่ฮาร์วีย์นอกจากการล่าเรื่องใส่ตัวแล้วแล้ว ฮาร์วีย์ยังถนัดไขว่คว้าสิ่งที่เขาไม่คู่ควรมาครองเสียด้วยเป็นเพราะฮาร์วีย์ที่ทำให้พ่อแม่ที่รักและห่วงใยกันของเฮเซลต้องทะเลาะกันแม่ของเธออาจจะเป็นลมล้มพับไปเพราะความโมโหสตีเว่น วอล์คเกอร์โกรธมากจนต้องจากไปเช่นนั้น ไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงต่อไปเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านั้น เฮเซลก็รู้สึกขยะแขยงมากขึ้นไปอีกฮาร์วีย์ไม่ต้องการให้ตระกูลมาโลนทะเลาะกันอีก เขายืนขึ้นและหยุดคนทั้งคู่“คุณลุง คุณป้า หยุดทะเลาะกันเถอะครับ!”“ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผมเอง!”“ฉันได้เตรียมการไว้แล้วก่อนที่จะมายังมอ
ฮาร์วีย์ ยอร์กเดินออกจากอาคารแห่งสันติ แล้วมองไปข้างหลังโดยไม่พูดอะไรสักคำเขาเป็นหัวหน้าสาขาของหลงเหมินแห่งมอร์ดู และนี่คือที่ที่เขาจะเปิดเผยตัวตนของเขาแม้ว่าเคลลี่ มาโลนและครอบครัวของเขาไม่เชื่อฮาร์วีย์ แต่ในอนาคตพวกเขาจะได้รู้ฮาร์วีย์ไม่คิดที่จะอธิบายเช่นกัน เขาเรียกรถแท็กซี่และมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางที่ไทสัน วูดส์จัดไว้ให้โทรศัพท์ของฮาร์วีย์สั่น เพราะมีข้อความเข้ามาเคลลี่ขอร้องให้ฮาร์วีย์พักในโรงแรมไปก่อน จากนั้นจึงบอกฮาร์วีย์ว่าอย่าไล่ตามความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง และให้อยู่กับความเป็นจริง นอกจากนี้เขายังเตือนฮาร์วีย์ว่าอย่าได้พูดอะไรให้มากความฮาร์วีย์อดไม่ได้ที่จะยิ้มหลังจากเห็นข้อความ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พบกันนานแล้ว แต่เคลลี่ก็ยังเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพฮาร์วีย์รู้สึกว่าเคลลี่ห่วงใยเขาอย่างแท้จริงฮาร์วีย์ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จากนั้นก็ตอบกลับไปโดยไม่ได้ให้คำอธิบายมากนัก โดยบอกว่าเขามีการเตรียมการอย่างอื่นไว้แล้วและหากเขามีเวลาจะไปเยี่ยมเคลลี่อีกครั้งหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถแท็กซี่ก็มาถึงคลับส่วนตัวระดับไฮเอนด์บริเวณปากอ่าวของมอร์ดูฮาร์วีย์มาที่ห้อง
จอร์จ ซาเบลเปิดรูปภาพในโทรศัพท์ด้วยความเคารพ ก่อนส่งภาพไปยังจอโทรทัศน์ จากนั้นจึงเริ่มอธิบาย“ในบรรดาบุตรชายสี่คนจากตระกูลบาวเออร์ บุตรชายคนที่สองและสามเป็นพวกไม่เอาถ่านทั้งคู่ ไม่มีข้อดีอะไรให้พูดถึง“แต่ไอเดน ลูกชายคนโต และมาร์โกลูกชายคนเล็กเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสามารถ“นอกจากความสามารถในการต่อสู้ที่ดีแล้ว พวกเขายังได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกผู้ก่อตั้งสาขามอร์ดู ของหลงเหมินหลายคน“ก่อนหน้านี้ ไอเดนเป็นพันธมิตรกับรองหัวหน้าสาขาอย่างจอช วอร์ด ในขณะที่มาร์โก้เข้าร่วมกองกำลังกับรองหัวหน้าสาขาอย่างจัสติน วอล์คเกอร์ “รองหัวหน้าสาขาสองคนนี้เป็นคนที่ค่อนข้างมีอิทธิพล แต่พวกเขาไม่ได้ช่วยเหลือเด็กหนุ่มทั้งสองคนนี้โดยไม่หวังค่าตอบแทนใด ๆ“ทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงกันว่าเมื่อตระกูลบาวเออร์ได้เลื่อนตำแหน่ง พวกเขาจะต้องสนับสนุนรองหัวหน้าสาขาเหล่านี้และจัดตั้งให้พวกเขาได้เป็นผู้นำสาขาอย่างเป็นทางการ“ตระกูลบาวเออร์มีอิทธิพลอย่างมากต่อสาขามอร์ดูของหลงเหมิน มันคงยากที่จะไต่เต้าขึ้นไปหากปราศจากการสนับสนุนจากตระกูลบาวเออร์”จอร์จเปิดภาพอีกภาพแล้วพูดต่อ“นี่คือดรูว์ เชลตัน รองหัวหน้าสาขาเพียงคนเดีย
จอร์จ ซาเบลและโอลด์ ไนเนอร์ได้เตรียมการในมอร์ดูไว้หลายอย่างแล้ว ทั้งคู่ไม่สามารถรอให้ฮาร์วีย์ ยอร์กดำเนินการได้เพราะพวกเขาก็อยากจะมีโอกาสได้แสดงฝีมือเช่นกันฮาร์วีย์คิดแล้วตอบว่า “หากเราต้องดำเนินการตอนนี้ มันคงมีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป”“ปล่อยให้พวกเขาสู้กันไปก่อน พอหัวส่วนใหญ่หายไป เราจะกวาดล้างส่วนหางเอง“มีข่าวเกี่ยวกับตระกูลสมิธบ้างไหม?”ฮาร์วีย์เปลี่ยนเรื่อง“ตระกูลสมิธ…”จอร์จมีสีหน้าเคร่งขรึม หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็กระซิบว่า “นายท่านยอร์ก ผมไร้ความสามารถ”“ผมพยายามรวบรวมข้อมูลจากทุกแหล่งที่ผมมี แต่หน่วยสอดแนมที่ส่งไปหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ราวกับมีตาที่มองไม่เห็นกำลังจ้องมองเราอยู่“นั่นคือเหตุผลที่หลังจากสูญเสียมือดีที่สุดของผมไปสองสามคน ฉันจึงห้ามไม่ให้พวกเขาทำภารกิจต่อ“ได้โปรดให้คำแนะนำผมทีว่าผมต้องทำอย่างไรต่อไป”ฮาร์วีย์รู้สึกงุนงงเล็กน้อย“หน่วยสอดแนมที่คุณฝึกฝนไม่ได้ข้อมูลอะไร และพวกเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่รู้ว่าพวกเขาตายหรือยังมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ?”จอร์จพยักหน้า"น่าสนใจ ตระกูลสมิธมีปัญหามากกว่าที่ฉันคิด คุณหรือคนของคุณอย่าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องน
“เธอเป็นก็แค่ขยะ! ยังคิดว่าตัวเองเป็นคนเก่งที่สุดในหลงเหมินสาขามอร์ดูอีกเหรอ?!”“นายน้อยบาวเออร์ปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพ!”“เธอยังไม่รู้จักรสชาติแห่งความตายหรอก แต่ขาก็ก้าวลงนรกไปครึ่งหนึ่งแล้ว!”“เธอควรจะยอมสละและแบ่งหุ้นที่เป็นของนายน้อยบาวเออร์ แล้วเธอก็จะสามารถเพลิดเพลินกับเกียรติยศและความร่ำรวยทั้งหมดที่เธอเคยมีได้! มึอาหารดี ๆ และชุดสวย ๆ ที่เคยได้ใส่!”“แต่เธอมันไม่มีหัวคิด! เรื่องนี้เธอจะโทษใครได้?!“มา พาเธอกลับมา! นายน้อยบาวเออร์รออยู่!”ในขณะที่ผู้นำกลุ่มกำลังพูด เขาก็ตบหน้าเธออีกสองครั้ง ราเชล ฮาร์ดีดูคล้ายกับว่าเธอกำลังจะเป็นลมหลังจากถูกทุบตีอย่างหนักแต่เรเชลยังคงมีสติสัมปชัญญะอยู่บ้าง เธอมองไปยังทิศทางของฮาร์วีย์ ยอร์ก และคนอื่น ๆ โดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงพึมพำเบา ๆ ว่า “ช่วยฉันด้วย…”เพี๊ยะ!นักสู้คนนั้นตบหน้าเธออีกครั้ง จากนั้นอุทานอย่างเย็นชา “ช่วยเธอเหรอ? ใครจะกล้า?! ใครจะยอมเหยียบหน้านายน้อยบาวเออร์?!”เขาชี้ไปที่ฮาร์วีย์หลังจากพูดคำเหล่านั้น จากนั้นพูดอย่างเย็นชา “จำไว้ นายไม่เห็นอะไรทั้งนั้น! นายไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง!”“หากนายไม่ฟัง ฉันจะฆ่านาย!”นั
หลังจากได้เห็นไอเดน บาวเออร์แล้วฮาร์วีย์ ยอร์กก็เข้าใจว่าทำไมจอช วอร์ดถึงต้องการเป็นพันธมิตรกับเขาไอเดนดูเหมือนทายาทเศรษฐีจอมเสเพล ไม่ว่าฮาร์วีย์จะมองเขาอย่างไร มันก็คงไม่ยากที่จะควบคุมคนอย่างเขา ถ้าเขาเป็นคนที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งจริง ๆจอชยังสามารถเข้าควบคุมไคเซ็น กรุ๊ปผ่านไอเดนได้ และอาจจะควบคุมไปแม้กระทั่งทั้งตระกูลบาวเออร์ จอชมีแผนค่อนข้างดี ช่างน่าอายนักที่เขาสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนที่ไม่ควรและต้องชดใช้ด้วยชีวิต“วิกเตอร์ ทำไมกับอีแค่พาผู้หญิงพิการกลับไปแกถึงเสียเวลานานนัก?”ไอเดนเดินไปข้างหน้าและตบหน้านักสู้ผู้หยิ่งผยองทันที“แกไม่รู้หรือไงว่าถ้าแกไร้ความสามารถในการทำงาน แกจะถูกกฎแห่งตระกูลเล่นงาน?”“ฉันถอดกางเกงลงไปครึ่งนึงแล้ว ทำไมแกยังมาเสียเวลาอยู่ที่นี่?”“แกจะกวนประสาทฉันรึไง?”วิคเตอร์กลัวจนหน้าซีดไปหมด เขาโค้งคำนับและตอบในทันที “นายน้อยบาวเออร์ เป็นความผิดของผมเอง มันเป็นความผิดของผมทั้งหมด! ผมทำให้คุณไม่มีความสุข!”“แต่เรื่องทั้งหมดนี้จะโทษผมฝ่ายเดียวไม่ได้! พวกบ้านนอกเหล่านี้ถือดีว่าพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่พยายามจะช่วยหญิงสาวที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก พวกเขาไ
วูบ!ไทสัน วูดส์ไม่เสียเวลาพูดและก้าวไปข้างหน้า เขาผลักนักสู้บางคนออกไป แล้วคว้าราเชล ฮาร์ดีซึ่งนอนอยู่บนพื้นเหวี่ยงไปทางจอร์จ ซาเบลโอลด์ ไนเนอร์เดินไปข้างหน้าและปกป้องราเชลไว้ข้างหลังเขาโดยที่ยังไม่มีคำสั่งใด ๆ"แกไอ้บัดซบ! กล้าต่อกรกับเราเหรอ!”วิกเตอร์ตัวสั่นด้วยความโกรธ เขาชักปืนออกมาแล้วเล็งไปที่ไทสัน“ตายไปซะ!”ก่อนที่วิกเตอร์จะเหนี่ยวไก ไทสันก็หัวเราะเบา ๆ แล้วกระโจนไปข้างหน้า ก่อนที่ใครจะทันได้โต้ตอบ ในชั่วพริบตาเขาก็อยู่ต่อหน้าวิกเตอร์ ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ปืนก็ย้ายมาอยู่ในมือของไทสันแล้วแมลงตัวเล็ก ๆ เช่นนี้ไม่สมควรที่ต้องให้ถึงฮาร์วีย์ ยอร์กพวกเขาผ่านไทสันไปไม่ได้ด้วยซ้ำ“อยากให้ฉันตายเหรอ?”ไทสันไม่สนใจสถานการณ์“ตอนที่ฉันเอาชีวิดรอดในโลกใต้ดิน แกยังเล่นโคลนอยู่เลย!”ไทสันจับผมของวิกเตอร์แล้วทุบหน้าเขาลงบนโต๊ะหินอ่อนปัง!วิกเตอร์เป็นอัมพาตอยู่บนพื้นพร้อมกับเสียงที่ดังโครมคราม เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กลับไอเดน บาวเออร์และคนอื่น ๆ ตกตะลึง พวกเขาดูไม่ออกเลย ไม่คิดเลยว่าฮาร์วีย์จะมีผู้คุ้มกันที่มีความสามารถระดับนี้มาด้วยนี่คือถิ่นของพวกเขา!ในถ
การแสดงออกของนักสู้เหล่านั้นดูน่ากลัว พวกเขาไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ แต่ก็ถอยไปไหนไม่ได้เช่นกันใบหน้าของไอเดน บาวเออร์บวมแดงหลังจากถูกตบหน้าหลายครั้ง รอยฝ่ามือขนาดใหญ่บนใบหน้าของเขาทำให้ฝูงชนตกใจ ดวงตาของไอเดนกระตุกอย่างต่อเนื่องเพราะเหตุนี้"แกมันสารเลว! ฉันจะบอกแกเอาไว้อย่างหนึ่ง ฉันไม่สนว่าแกจะเป็นใคร ฉันไม่สนว่าแกมาจากไหน และฉันไม่สนใจว่าใครจะอยู่เบื้องหลังแก!”“ฆ่าฉันเดี๋ยวนี้เลย!”“ไม่อย่างนั้น พรุ่งนี้ฉันจะฆ่าตระกูลของแกทั้งตระกูล!”“ฉันไอเดน บาวเออร์ พูดคำไหนคำนั้น!”ฮาร์วีย์ ยอร์กเดาะลิ้นด้วยความดูแคลน จากนั้นเขาก็เชยกรามของไอเดนขึ้นด้วยปลายปืนและตบหน้าของเขาเพี๊ยะ!“คิดว่าฉันจะไม่ฆ่านายเหรอ?”เพี๊ยะ!“คิดจะฆ่าคนทั้งตระกูลของฉันด้วยความสามารถง่อย ๆ ของตัวเองงั้นเหรอ?”เพี๊ยะ!“ฉันต้องกลัวนายรึไง?!”เพี๊ยะ!“ใครใช้ให้นายกล้าอวดดีต่อหน้าฉัน!”ศีรษะของไอเดนส่ายอย่างรุนแรงเพราะการตบของฮาร์วีย์ จากนั้นเขาก็อุทานออกมาอย่างโมโหว่า “ฉันพูดคำไหนคำนั้น!”ฮาร์วีย์ถอนหายใจ ก่อนจะปรากฏยิ้มอันอบอุ่นบนใบหน้า“ดูเหมือนว่าฉันจะเมตตาต่อนายมากเกินไป”ฮาร์วีย์คว้าผมของไอเดนไว้แล
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข