อาเวลกระเด็นถอยหลังไปสองสามก้าว เขาจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยความตกใจคนอื่นต่างตกใจเล็กน้อย หากแต่ไม่ใช่เพราะพวกเขาคิดว่าฮาร์วีย์มีฝีมือ พวกเขากลับตกใจที่ได้เห็นว่ามีคนโง่ขนาดนี้อยู่ในโลกด้วยบร็อคสเตซี่และทุกคนต่างหน้าซีดด้วยความตกใจและถอยออกห่าง แต่มีเพียงแมนดี้เท่านั้นที่ยืนข้างฮาร์วีย์แม้จะเธอจะดูซีดเซียวราวกับกระดาษการตบสองครั้งของเขาได้ปิดโอกาสที่จะให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาญาติดีกันอีกจนหมดสิ้นแม้แต่คนธรรมดาก็ไม่อาจแบกรับความอัปยศนี้ไว้ได้ เพราะกลัวว่าพวกเขาจะโกรธจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีเรื่องกับนายน้อยอาเวลไนส์เวลล์ด้วยแล้วฮาร์วีย์เสร็จแน่ เขาหมดทางรอดแล้ว!ใช้เวลาอยู่นานกว่าอาเวลจะกลับมามีสติ เขาแตะใบหน้าตัวเองอีกหน และจ้องมองฮาร์วีย์ด้วยแววตาเป็นประกาย “ส*รเลว นายกล้าดียังไงถึงมาตบฉันอีก”“แล้วยังไง?”“ถ้าตบอีกรอบจะเป็นยังไง?”ฮาร์วีย์ไม่ยี่หระ จากนั้นเขาก็ตบหน้าอาเวลอีกครั้งเพี๊ยะ!เสียงตบนั้นดังสนั่น! การตบครั้งนี้ทำให้อาเนลเลือกกำเดาออกมันทำให้อาเวลหวาดกลัวในทันใดนั้นเองเขาคุกเข่าลงบนพื้นในทันที“นายน้อยไนส์เวลล์ เราไม่รู้จักชายคนนี้จริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกที
ฮาร์วีย์มองไปที่อาเวลอย่างเฉยชาและพูดว่า "คุณแน่ใจเหรอว่าอยากสู้กับผม?"อาเวลตกใจ จากนั้นเขาก็หัวเราะเบา ๆวันนี้เกิดอะไรขึ้น?ลูกเขยแต่งเข้าบ้านตบเขาต่อหน้าผู้คนจำนวนมากถึงสามครั้ง แถมหมอนั่นยังถามเขาว่าเขาต้องการต่อสู้กับตัวเองหรือไม่อีก!อาเวลโกรธจนแทบจะเสียสติ เขาคิดไปว่าใครก็ตามที่กล้าตบเขาจะต้องมาจากตระกูลที่ร่ำรวยหรือไม่ก็เป็นเจ้าชายที่ไหนสักองค์แทนที่จะเป็นสามีแมงดาอย่างฮาร์วีย์หากวันนี้อาเวลไม่ฆ่าลูกเขยแต่งเข้าบ้านอย่างฮาร์วีย์ เขาคงไม่มีหน้าออกไปเดินตามท้องถนน“นี่ นี่ นี่…”เมื่อเห็นพฤติกรรมที่เย่อหยิ่งของฮาร์วีย์ขณะเผชิญหน้ากับอาเวล บร็อก,สเตซี่, เรย์ และคนอื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง“เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานการณ์ในบัควู้ดวุ่นวายมากจนตระกูลไนส์เวลล์ต้องดิ้นรนเพื่อรักษาตำแหน่งของการเป็นตระกูลชั้นหนึ่ง พวกเขาทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้”“แต่นายน้อยแห่งไนส์เวลล์อย่างคุณ นอกจากจะวางมาดเย่อหยิ่งและเผด็จการแล้วกลับไม่ทำประโยชน์อะไรสักอย่าง คุณไม่กลัวว่าจะถูกหลอกและสร้างปัญหาเพิ่มให้ตระกูลของคุณหรือ?”ฮาร์วีย์กล่าวอย่างเฉยเมยเขายังตีหน้าซื่อแบบนี้ได้อย่างไร
หลังจากนั้น ลูกน้องของอาเวลก็คว้าขวดไวน์เปล่าหลายขวด เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเขากำลังจะทุบขวดใส่หัวฮาร์วีย์ในอีกอึดใจ“ให้ฉันแนะนำนายสักหน่อยแล้วกัน ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว หากนายคุกเข่าอ้อนวอน นายก็อาจยังมีโอกาสรอด!”"ใช่! อ้อนวอนแค่ไม่กี่ครั้ง นายน้อยไนส์เวลล์ก็อาจจะอารมณ์ดีและปล่อยให้นายมีลมหายใจต่อไป”“นายค่อนข้างเก่ง แต่ถ้าตอนนี้นายยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องยืนอยู่ตรงไหน มันจะสายเกินไป”ผู้หญิงสองสามคนที่เหลือจ้องมองฮาร์วีย์ที่สงบนิ่งและคิดว่าเขายังคงเสแสร้งอยู่'ในเวลาเช่นนี้ ทำไมไม่รีบคุกเข่าร้องขอความเมตตากัน? อยากหาเรื่องเจ็บตัวนักรึอย่างไร?! ช่างเจ็บปวดอะไรอย่างนี้!'พวกเขาไม่เข้าใจว่าฮาร์วีย์จะทรงพลังเพียงใดสำหรับพวกเขาแล้ว ฮาร์วีย์คงไม่มีทางจะมีอำนาจมากไปกว่านายน้อยไนส์เวลล์ฮาร์วีย์พูดอย่างเฉยเมย “คุกเข่าเหรอ? ถ้าอาเวลคุกเข่าให้ ผมก็อาจจะปล่อยเขาไป”ทุกคนขำในความเย่อหยิ่งของเขา“อยากให้ฉันคุกเข่าเหรอ?”อาเวลหัวเราะเขาโยนที่เขี่ยบุหรี่ในมือแล้วเดินเข้าไปหาฮาร์วีย์ทีละก้าว “นี่ นายยอร์ก พอเห็นนายเย่อหยิ่งได้จนถึงตอนนี้ ฉันนับถือนายในฐานะลูกผู้ชายตัวจริงเลยล่ะ”“วันนี้ฉั
ดวงตาของอาเวลกระตุกในขณะนี้เขารู้สึกถึงความกลัวขึ้นมาฉับพลันอีกฝ่ายเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในไนส์เวลล์ เชน ไนส์เวลล์เชียว!เขาจะมีสิทธิ์เดินเพ่นพ่านตามท้องถนนโดยไม่ได้รับการอนุมัติจากเชนและตระกูลไนส์เวลล์ได้อย่างไรแต่ฮาร์วีย์ซึ่งอยู่ข้างหน้าเขากำลังพูดกับปู่ของเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชาฟังดูเหมือนหัวหน้าดุด่าลูกน้อง หรือเจ้านายที่กำลังตักเตือนคนรับใช้อาเวลเหงื่อแตกพลั่ก“ซีอีโอยอร์กใจเย็นก่อน! กรุณาใจเย็น ๆ! ผมจะให้คำอธิบายแก่คุณอย่างแน่นอน!”เชนก็เหงื่อออกจนชุ่มทั้งตัวเช่นกันเขารู้ดีว่าฮาร์วีย์มีอำนาจเพียงใดหลังจากฮาร์วีย์มาถึงบัควู้ด อดีตตระกูลชั้นนำในบัควู้ดพังทลายไปทีละตระกูล เพียงแค่นั้นก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าฮาร์วีย์แข็งแกร่งเพียงใดไม่รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่าฮาร์วีย์เคยช่วยเหลือตระกูลไนส์เวลล์มาก่อนเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ไนส์เวลล์ยังคงดำรงอยู่ได้ในตอนนี้ก็เพราะพวกเขาเข้าข้างฝ่ายที่ถูกต้องถึงกระนั้นอาเวลผู้สืบเชื้อสายที่ไร้ยางอายของพวกเขากลับไปยั่วยุคนอย่างเขาเข้าจริง ๆ..."คำอธิบายเหรอ? คุณจะให้คำอธิบายอะไรต่อผม?”ฮาร์วีย์ยืนขึ้นและเดินตรงไปที่ที่อาเวลอยู่
ฮาร์วีย์เห็นความขุ่นเคืองและโกรธขึงในดวงตาของอาเวลเขาเอื้อมมือไปลูบใบหน้าของอาเวลอย่างแผ่วเบา ก่อนพูดอย่างไม่แยแสว่า “ดูเหมือนคุณไม่อยากจะเชื่อใช่ไหม?”“คุณคิดว่าผมใช้เชนมาเพื่อเอาชนะคุณเหรอ”“ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ผมไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะท้าทายคุณเลยหรืออย่างไร?”ฮาร์วีย์มีรอยยิ้มแกน ๆ บนใบหน้าของเขาอาเวลหลีกจากมือของฮาร์วีย์และพูดอย่างขมขื่นว่า “ซีอีโอยอร์ก พอได้แล้ว!”แม้ว่าอาเวลจะไม่ได้พูดตรง ๆ แต่เขาก็ยอมลงให้เชนไม่ใช่เพราะฮาร์วีย์ฮาร์วีย์ไม่อยากเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ เขาหยิบขวดไวน์ขึ้นมาจากพื้นแทนปัง!ฮาร์วีย์ตีหัวของอาเวลด้วยขวดไวน์นั้นขวดแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเลือดก็เปื้อนใบหน้าของอาเวล เขาร้องตวาดและเซถอยหลังไปสองสามก้าวเขากลั้นความโกรธทั้งหมดไว้และไม่กล้าระบายออกมา“นี่เป็นเพราะคุณไม่เคารพภรรยาผม”ปัง!“นี่เป็นเพราะคุณกวาดล้างพื้นที่และอยากกำจัดผม”ปัง!“นี่เป็นเพราะผมไม่ชอบคุณเอาเสียเลย”“ผมตีคุณสามครั้ง คุณก็เลยไม่พอใจใช่ไหม?”ฮาร์วีย์พูดพลางตบหน้าอาเวลอีกครั้ง"ใช่!"อาเวลตะโกนผ่านฟันที่กัดแน่น“คุณซื่อสัตย์ดีนี่ ไม่ว่าจะโกรธแค่ไหนก็ทำได้เพี
แมนดี้สูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วพูดว่า “ฮาร์วีย์คราวนี้คุณปลอดภัยแล้ว คุณต้องขอบคุณซีอีโอพาร์ค”สเตซี่ซึ่งยืนอยู่ด้านข้างเดินเข้ามาหาฮาร์วีย์ด้วยสายตาเย็นชา "เศษส*ะ! ถ้าไม่ใช่เพราะซีอีโอพาร์คโทรหานายท่านลีเพื่อช่วยเหลือนาย ฉันกลัวว่านายคงจะถูกโยนลงแม่น้ำไปแล้ว!”“แถมเกือบจะลากเราลงไปด้วย!”“ไอ้โง่เอ๊ย! อยากจะเป็นฮีโร่อะไรของนายก็เป็นไปสิ แต่อย่าลากเราไปเกี่ยวด้วย!”“นายคิดว่านายเก่งขนาดนั้นเลยรึยังไง? ถึงได้กล้าไปตบนายน้อยไนส์เวลล์ต่อหน้าผู้คนมากมายถึงสามครั้ง!”“ฉันจะบอกให้นายรู้ไว้ว่านายควรจะขอบคุณนะ! ถ้าไม่ใช่เพราะความใจดีของซีอีโอพาร์ค ชีวิตของนายก็คงจบลงไปแล้ว”สเตซี แร และคนอื่น ๆ เริ่มตักเตือนฮาร์วีย์บร็อคกอดอกและแสร้งทำหน้าตาเฉยเมย ราวกับว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นจะเหลือแต่ร่างไร้วิญญาณบร็อกหาคนมาช่วย?ฮาร์วีย์ตกตะลึง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ยิ้ม เขาไม่เคยคิดเลยว่าบร็อกยังกล้าเสแสร้งถึงขนาดนี้เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฮาร์วีย์เริ่มเข้าใจพฤติกรรมของคนจากประเทศ Jพวกเขาทุกคนล้วนเป็นเช่นนี้แมนดี้ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “คุณลีโอ คุณฟลินน์ อย่าทำแบบนี้ สถานการณ
แมนดี้ดูลังเล “ซีอีโอพาร์ค ฉันเกรงว่า…”บร็อกแสยะยิ้ม “คุณบอกว่าคุณเป็นหนี้บุญคุณผมไม่ใช่หรือ แต่จะไม่มาก็ได้ แล้วต่อจากนี้ไป ความร่วมมือระหว่างคุณกับสตาร์ แชโบลจะต้องยุติลงไปโดยปริยาย!”แมนดี้ไม่สบายใจ เธอรู้ว่าบร็อกมีเจตนาไม่ดี แต่เธอก็ยังพูดไปว่าว่าเธอเป็นหนี้บุญคุณเขาฮาร์วีย์พูดอย่างเย็นชา “บร็อก คืนนี้คุณช่วยพวกเราไว้จริงหรือ? คุณรู้ได้อย่างไร?"“ด้วยความสามารถของสตีฟ ลี เขาจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร?”หัวใจของบร็อกสั่นไหวราวกับมีใครบางคนล่วงรู้ความลับ เขากระโดดขึ้นทันทีและตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ส*รเลว นายหมายความว่าอย่างไร?”“นายไม่ใช่แค่ดูถูกฉัน แต่ยังดูถูกนายท่านลีด้วย!”“ให้ตายเถอะ! ถ้าฉันรู้ฉันคงไม่หาคนช่วยนายหรอก ฉันควรจะปล่อยให้นายน้อยไนส์เวลล์กระทืบนายจนตาย!”“ฉันใช้เส้นสายของฉันเพื่อช่วยนาย แต่นายยังเนรคุณแล้วยังกล้ามาถามฉันอีกเหรอ?”"ฉันจะบอกนายให้ ถ้าไม่ใช่เพราะซีอีโอพาร์ค ฉันจะฆ่ายาบเสียเดี๋ยวนี้!”ขณะที่ฮาร์วีย์กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แมนดี้ก็คว้าตัวเขาไว้ “ฮาร์วีย์ ซีอีโอพาร์คโทรหานายท่านลี”“เราควรตอบแทนบุญคุณเขา!”ความปลอดภัยของฮาร์วีย์เป็นสิ่งสำคัญที่สุ
พวกเขามองไปที่ฮาร์วีย์ราวกับว่ากำลังมองคนโง่เขากล้าพูดว่าเขามีรถทั้งที่เขาขับแค่มินิแวนหรือ? รถมินิแวนถือเป็นรถยนต์ได้หรือเปล่า?"ขยะเอ๊ย!"แต่ฮาร์วีย์ไม่พูดให้เปลืองน้ำลาย แต่เขาหยิบกุญแจรถของโรลส์รอยซ์ ออกมาแล้วกดมันไฟหน้าสีชมพูของรถโรลส์รอยซ์ แฟนทอมสว่างวาบ และไฟที่สวยงามก็ส่องเป็นทางเบื้องหน้าแมนดี้ในทันที“ที่รัก คุณยังไม่เคยเห็นฟีเจอร์ใหม่นี้ใช่ไหม? ไปกันเถอะ."ฮาร์วีย์ทำท่าทางแบบสุภาพบุรุษและพาแมนดี้ที่กำลังงุนงงเล็กน้อยไปที่ที่นั่งฝั่งผู้โดยสารในไม่ช้า โรลส์รอยซ์ แฟนทอมก็หายไป เหลือเพียงไฟท้ายที่ส่องมาบร็อกและคนอื่น ๆ ดูเฉื่อยชาราวกับว่าถูกฟ้าผ่าฮาร์วีย์เป็นเจ้าของรถโรลส์รอยซ์?เป็นไปได้อย่างไร?***“ที่รัก รถคันนี้แพงขนาดนั้นเลยเหรอ?”แมนดี้นั่งอยู่บนที่นั่งผู้โดยสารด้วยความประหลาดใจ เธอรู้ว่าฮาร์วีย์ขอรถ แต่เธอไม่คิดว่ามันจะแพงขนาดนี้“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาให้ผมมาฟรี ๆ ” ฮาร์วีย์ยักไหล่“บางทีนี่อาจไม่เหมาะ เบนท์ลีย์ของเราไม่ได้แพงขนาดนั้น เราจะเอาเปรียบคนอื่นไปรึเปล่า ถ้าเราใช้โรลส์รอยซ์คันนี้” แมนดี้รู้สึกผิดเล็กน้อยฮาร์วีย์หัวเราะ “รถเป็นชื่อของคุณอ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข