คีธ เยตส์ถอนหายใจออกมา “เขาไม่กล้าหรอก!” “มันไม่ถึงเจ้าชายยอร์กหรอก เรื่องนี้ได้ทวีความรุนแรงถึงขนาดที่ออสการ์ อาร์มสตรองมาเกี่ยวข้องด้วย!” “เหล่าชนชั้นสูงจำนวนมากจากโวลซิ่ง, มอร์ดู, โกลเด้น แซนด์, และที่อื่น ๆ พวกเขาต่างก็ให้ความสนใจและจับตาดูเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก!” “เชลดอน ซาเวียร์เองก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ก็จะเหลือแค่เจ้าชายยอร์กลำพัง!” “ถ้าไม่มีใครสามารถให้หลักฐานได้ว่าแมนดี้ ซิมเมอร์บริสุทธิ์ ถ้าออกมาก็ใช่ว่าจะช่วยอะไรได้!” ทั้งตระกูลเยตส์ต่างก็พากันหัวเราะเยาะกับคำพูดของคีธ เลย์ตันยิ้ม “แมนดี้ยังเด็กมากนัก หลังจากเหตุการณ์นี้ เธอก็จะเข้าใจถึงความสำคัญของการมีผู้สนับสนุน” “ถ้าไม่มีตระกูลเยตส์อยู่เบื้องหลัง เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้!” คีธขมวดคิ้ว “ในความเห็นของฉัน เราควรปล่อยให้เธออยู่ในบริษัทต่อไปอีกสักสองสามปีจะดีกว่าไหม หลังจากนั้นเราค่อยเข้ายึดครองซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ทั้งหมดแทน?” คุณย่าเยตส์ตอบด้วยใบหน้าอันเรียบเฉยว่า “แมนดี้ยังมีความสามารถอยู่บ้าง พวกเราที่เหลือที่นี่ไม่มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจเลย เราอาจไม่สามารถทำผลกำไรได้” “การปล่อยใ
ขณะที่ตระกูลเยตส์จัดเตรียมการต่าง ๆ ในทางกลับกันครอบครัวของแมนดี้ก็ตกอยู่ในสภาวะสิ้นหวังและวิตกกังวลอย่างมากเนื่องจากข่าวการเข้าจับกุมของแมนดี้ ฮาร์วีย์ซึ่งอยู่ที่สกาย คอร์ปอเรชั่นก็ได้รับข่าวด้วยเช่นกัน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีใครกล้าโจมตีแมนดี้และซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของเขา “ประธานกรรมการบริหารยอร์ก! จากข้อมูลที่ดิฉันค้นพบ มีความเป็นไปได้สูงที่เหตุการณ์ครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์” อีวอนน์พูดพรางขมวดคิ้ว เธอถือเอกสารหลายฉบับอยู่ในมือ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้มาทำงานสักพักก่อนหน้านี้เนื่องจากปัญหาต่าง ๆ กับตระกูลซาเวียร์… ทันทีที่เธอรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับแมนดี้ เธอไม่สนใจเรื่องของตัวเองและรีบกลับมาที่สำนักงานในทันที “นอกจากรีเจนซี่ เอ็นเทอร์ไพรส์แล้ว ฉันยังสงสัยว่ายังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ควบคุมทุกอย่างอยู่เบื้องหลังด้วยค่ะ มิฉะนั้น สื่อและเหล่าเจ้าหน้าที่จากฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องคงจะไม่ตอบสนองอย่างรวดเร็วขนาดนี้!” “สิ่งที่ยากที่สุดในตอนนี้คือการค้นหาความจริง และโอกาสในการขายของเราทั้งหมดน่าจะถึงทางตัน!” อีวอนน์ยังคงพลิ
โยเอล เกรฮัมที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์รู้สึกงุนงง ก่อนที่จะพูดขึ้นมาว่า “หัวหน้าผู้ฝึกสอน ไม่ใช่ว่าผมไม่ต้องการช่วยนะครับ คราวนี้รัฐบาลเซาท์ไลท์ส่งทีมปฏิบัติการพิเศษมาเอง คำพูดของผมจึงไม่มีอำนาจเลย” “ถ้าอย่างนั้นลองติดต่อผู้อาวุโสซาเวียร์ดูซิ” “นั่นก็อาจไม่เป็นประโยชน์ด้วยเช่นกัน ผมได้ยินมาว่าตั้งแต่ผู้อาวุโสออสการ์ อาร์มสตรองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เหล่าคนใหญ่คนโตในโวลซิ่งก็โกรธจัดและต้องการผลลัพธ์ภายในสามวัน” “ใครก็ตามที่กล้าเข้ามาแทรกแซงการสืบสวนสอบสวนจะต้องถูกเล่นงานอย่างหนักแน่นอน” “โอเค ผมเข้าใจแล้ว” ฮาร์วีย์วางสายและหัวเราะ เขาพอที่จะเดาได้ว่าใครเป็นคนที่เข้ามาแทรกแซงในเรื่องนี้โดยใช้รัฐบาลเซาท์ไลท์เป็นเครื่องมือ แม้ว่าผู้ร้ายอาจที่จะเป็นตระกูลซาเวียร์ แต่ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าสร้างปัญหาใด ๆ ได้แน่นอนเนื่องจากความเกี่ยวข้องกับอีวอนน์ ไคล์ ควินแลนผู้บัญชาการลำดับสองของเซาท์ไลท์เป็นสมาชิกของตระกูลควินแลนจากจอร์เจีย ในบรรดาตระกูลสิบอันดับแรก ตระกูลควินแลนจากจอร์เจียอยู่ในอันดับที่สูงกว่าตระกูลซาเวียร์จากโวลซิ่งด้วยซ้ำ มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะมีความสนใจในธุรกิจระดับ
ไม่มีใครคาดคิดว่าอเล็กซ์ สวิฟต์จะมีจิตใจที่แน่วแน่มากขนาดนี้ แน่วแน่ถึงขนาดที่เขายอมขัดใจตำนานในวงการทหารและหัวหน้าผู้ฝึกสอนของค่ายศัสตราวุธ ถ้าหากหัวหน้าผู้ฝึกสอนของค่ายศัสตราวุธแค่เอ่ยปาก เขาก็จะสามารถขึ้นเป็นหัวหน้ากองกำลังเก้าอันดับแรกได้อย่างง่ายดาย และเขาอาจที่จะสามารถเข้ารับตำแหน่งผู้อาวุโสของกองทัพได้ในอนาคต เขาเป็นคนที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัดและดูมีอิทธิพลอย่างไม่น่าเชื่อ อเล็กซ์ไม่คาดคิดว่าจะต้องมาเผชิญหน้ากับบุคคลเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ฮาร์วีย์ไม่ได้โกรธเลย มือของเขาประสานกันไว้ที่ด้านหลัง เขาพูดต่ออย่างเย็นชา “หมายความว่าคุณกำลังจัดการกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้โดยไม่มีอคติใด ๆ เลยน่ะหรือ คุณสวิฟต์?” อเล็กซ์ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “โดยปกติแล้ว เหตุการณ์นี้เกี่ยวข้องกับหลายสิ่งหลายอย่าง รวมทั้งชื่อเสียงของบุคคลสำคัญระดับประเทศของประเทศ H ผมไม่สามารถแสดงความโปรดปรานจากทั้งสองฝ่ายได้ ผมเกรงว่าผู้บังคับบัญชาจะไล่ผมออก” ฮาร์วีย์ตอบกลับว่า “แล้วการสอบสวนเป็นอย่างไรบ้างล่ะในตอนนี้?” “เรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เมื่อพิจารณาจากหลักฐานที่มีอยู่ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากซ
"ไม่มีปัญหาครับ! ผมยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่!” อเล็กซ์รีบตอบรับพร้อมกับโค้งคำนับทันที หลังจากนั้นไม่นาน สถานีตำรวจบัควู้ดก็ได้ส่งข้อมูลจากกล้องวงจรปิดในมุมต่าง ๆ มาให้ฮาร์วีย์ เรย์ได้โทรจัดการเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญและเริ่มตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ในทันที ฮาร์วีย์ยังสั่งให้คนของเขาเก็บตัวอย่างบางส่วนจากที่เกิดเหตุมาด้วย เมื่อฮาร์วีย์ตรวจสอบวัสดุแล้วเขาก็ยิ้มออกมาและพูดขึ้นมาว่า “หัวหน้าสวิฟต์ ทรายนี้เป็นทรายทะเลจริง ๆ ด้วย” “มันถูกห้ามใช้ในการก่อสร้างเนื่องจากมีฤทธิ์กัดกร่อนค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามสัญญาณของการสึกกร่อนดังกล่าวจะปรากฏออกมาในอีกสิบหรือยี่สิบปีต่อมาเท่านั้น” “อีกทั้งยังมีคอนกรีตที่ผสมอยู่ในทรายเป็นจำนวนมาก ตึกมันจะถล่มลงมาทันทีได้อย่างไร?” “ถ้าให้ตัดสินจากเหล่าตัวอย่างนี้ มันต้องมีใครบางคนจงใจผสมอย่างอื่นในวัสดุนี้อย่างแน่นอน” "อะไรนะ?!" อเล็กซ์และคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้าง มีคนพยายามที่จะใส่ร้ายแมนดี้หรือ? “กรดเข้มข้น” ฮาร์วีย์ตอบด้วยท่าทางนิ่ง ๆ “วิธีการง่าย ๆ ก็คือเติมกรดเข้มข้นที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงลงไปในส่วนผสมของอาคารที่ยังไม่แข็งตัวเต็มที่
ใบหน้าของทั้งไซม่อนและลิเลียนนั้นเคร่งเครียดมาก โดยเฉพาะลิเลียน เธอเอาแต่ถามไปรอบ ๆ เพียงเพื่อจะรู้ว่าแมนดี้ต้องติดคุกอย่างน้อยสิบปีจริง ๆ หรือเปล่า คุณย่าเยตส์เข้ามาจับมือลิเลียน เธอปลอบโยนลิเลียนโดยพูดว่า “ลิเลียน ฉันล่ะเป็นกังวลจริง ๆ เกรงว่าทั้งไซม่อนและเธอก็อาจที่จะต้องเข้าคุกพร้อมกับแมนดี้ไปด้วย!” “เพราะในท้ายที่สุด พวกเธอสองคนก็เป็นคนที่มอบเงินปิดปากให้กับครอบครัวของผู้เสียหาย หากสิ่งนี้ถูกเปิดเผยพวกเธอทั้งคู่จะต้องติดร่างแหไปด้วยแน่!” “โชคยังดีที่พวกเธอสองคนยังอยู่ดี!” คุณย่าเยตส์แสดงท่าทางปลอบโยน แต่คำพูดที่เธอใช้นั้นมันทำให้สีหน้าของทั้งไซม่อนและลิเลียนเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขายังคงต้องการได้รับความมั่งคั่งและความรุ่งเรือง! ใครจะไปอยากติดคุก? ลิเลียนโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “คุณแม่! โปรดช่วยพวกเราและแมนดี้ด้วยนะคะ!” “เธอกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร? พวกเราคือครอบครัวนะ!” “ถ้าฉันสามารถช่วยได้ ฉันจะช่วยเธออย่างแน่นอน!” “มันก็แค่… ฉันถามพี่ชายของเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เขาบอกว่ามันค่อนข้างยาก เธอเข้าใจใช่ไหม?” คุณย่าเยตส์เหลือบมองคีธหลังจากที่พูดจบ คีธดูงุนงง “
ลิเลียนอึ้งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “คุณแม่ คุณแม่กำลังพูดถึงข้อตกลงเรื่องอะไรกันคะ?” “แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องของซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์อยู่แล้ว! เพื่อที่จะช่วยครอบครัวของเธอแก้ปัญหานี้ ฉันจึงตัดสินใจที่จะนำเงินออมของฉันออกไปประมาณหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้นของบริษัท ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของแมนดี้” คุณย่าเยตส์พูดยิ้ม ๆ “หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์?!” ไซม่อนและลิเลียนทั้งสองต่างมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยรู้เรื่องการดำเนินงานของบริษัทมากนัก แต่พวกเขาก็พอที่จะรู้ว่าซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ พวกเขาจะขายหุ้นของพวกเขาด้วยเงินเพียงหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ได้อย่างไร? เมื่อมองไปที่การจ้องมองที่ดูสับสน คุณย่าเยตส์ก็หัวเราะออกมา “ฉันรู้ว่าพวกเธอสองคนไม่สามารถยอมรับข้อเสนอนี้ได้ในตอนนี้ แต่เธอไม่รู้หรอกว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันร้ายแรงมากแค่ไหน” “มาเถอะแกรนต์ มาบอกคุณลุงและคุณป้าของคุณเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้หน่อย” แกรนต์ ไบร์ทเดินออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดอย่างสุภาพว่า “คุณลุง คุณป้าครับ ผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเป็นรอ
ทั้งไซม่อนและลิเลียนต่างก็รู้สึกลังเล พวกเขารู้สึกว่าการขายหุ้นทั้งหมดของแมนดี้ในราคาหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์นั้นถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาเริ่มหวาดกลัวอย่างมากหลังจากฟังคำอธิบายของแกรนต์ แกรนต์ยังคงยิ้มและพูดต่อ “คุณลุง คุณป้าครับ พวกคุณยังไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอีกเหรอครับ?” “ถ้าพวกคุณยังลังเลอยู่ แล้วไม่รับหนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์ครั้งนี้ พวกคุณจะต้องแบกรับภาระหนี้ก้อนโตนะครับ!” “ผมรับประกันได้เลยว่าถึงแม้หลังจากที่คุณขายบริษัทให้กับตระกูลเยตส์แล้ว พวกเราจะยังคงอนุญาตให้แมนดี้ทำงานในบริษัทต่อไปได้” “พวกคุณไม่มีอะไรจะเสียแล้วนะครับ!” อย่างไรก็ตาม ไซม่อนและลิเลียนยังคงตัดสินใจไม่ได้ จู่ ๆ คุณย่าเยตส์ก็กระแอมขัดจังหวะและเปลี่ยนเรื่อง “ลิเลียน เธอคิดยังไงกับแกรนต์บ้าง?” ลิเลียนตอบอย่างรวดเร็วว่า “เขาเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ คนหนึ่ง!” "ถูกต้องแล้ว!" คุณย่าเยตส์หัวเราะ “แกรนต์อยู่ในธุรกิจนี้มานานหลายปีแล้วและมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชน หลังจากการได้มาซึ่งหุ้นของ ซิลเวอร์นิมบัส เอ็นเทอร์ไพรส์ พวกเราตระกูลเยตส์วางแผนที่จะมอบหุ้นให้กับเขาสิ
“อย่างนั้นเหรอ?”ร็อดนีย์ทำเสียงเยาะเย้ยหลังจากได้ยินคำพูดของฮาร์วีย์“ฉันไม่ได้ต้องการดูหมิ่นอะไรแกหรอกนะไอ้หนู!“แกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเหรอ ถึงได้พูดอะไรออกมาแบบนั้น?“มา ๆ! บอกฉันหน่อยว่าแกเรียนที่ไหน ฉันจะได้ประเมินความสามารถของแกได้!“บอกตามตรงนะ ถึงแม้ว่าแกจะพาอาจารย์ซีเกลอร์มาที่นี่ โอกาสก็ยังคงมีเท่าเดิม!”ฮาร์วีย์เหลือบมองที่หัวของเวส ดูเหมือนว่าพลังชั่วร้ายที่อยู่ในตัวเขากำลังจะปรากฏออกมาแล้ว ความทุกข์ทรมานที่เขารู้สึกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาการนอนไม่หลับอาจเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยสำหรับเขาไปเลยก็ได้ถ้าเขาสามารถข่มใจให้นอนหลับได้ เขาก็จะต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายอยู่ดีณ จุดนี้ เขาคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่สัปดาห์เท่านั้นฮาร์วีย์รู้สึกสงสารอย่างไม่ต้องคิดทบทวนอะไรเลยฮาร์วีย์หันไปมองร็อดนีย์“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยหรอก ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้จากอาจารย์คนไหนทั้งนั้น”ร็อดนีย์ตกตะลึง ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา"แล้วยังมีหน้ามั่นใจได้ถึงขนาดนี้อีกเหรอ?”“แต่ผมรู้เรื่องศิลปะการฆ่านะ” ฮาร์วีย์ตอบ“ยกตัวอย่างเช่น เมื่ออยู่ต่อหน
“อะไรนะ!”อาร์เล็ตตกใจมากกับอาการของคุณปู่ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ฮาร์วีย์สรุปอาการได้แม่นยำร็อดนีย์ก็สรุปอาการเหมือนเขาเป๊ะเวสทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเขามองไปที่ฮาร์วีย์ เขาไม่คาดคิดว่าฮาร์วีย์จะเก่งกาจได้ถึงขนาดนั้นไคริทำสีหน้าแสดงความชื่นชมเธอเชื่อมั่นในความสามารถของฮาร์วีย์มาโดยตลอด นั่นคือเหตุผลที่เธอพาเขามาที่นี่ตั้งแต่แรกเป็นไปตามคาด เขาทำได้อย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้เวสมองฮาร์วีย์ก่อนจะหันไปมองร็อดนีย์“เรารู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ร็อดนีย์“ลองทำตามวิธีการของคุณก็แล้วกัน แล้วดูซิว่าคุณจะรักษาผมได้หรือเปล่า”“ผมจะขอพูดตรง ๆ กับคุณนะเวส มีแหล่งพลังงานชั่วร้ายอยู่ในตัวคุณ วิธีเดียวที่จะช่วยคุณได้คือต้องกำจัดแหล่งพลังงานนั้นออกไป” ร็อดนีย์ตอบอย่างเคร่งขรึม“แต่ถึงกระนั้นผมก็มีอะไรอยากจะบอกคุณ“ขั้นตอนนี้มีความเสี่ยงมาก“ถ้าเราไม่ระวัง พลังงานชั่วร้ายในคุณก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วฆ่าคุณทันที”อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อ“มั่นใจแค่ไหนคะ คุณปู่ฟอสเตอร์?”ร็อดนีย์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง“ผมบอกไม่ได้ว่าแหล่งพลังงานนั้นอยู่ตรงไหนกันแน่ ดังนั้นตอนนี้โอกาสสำเร็จมีเพียงยี่สิบถึงส
“นานสุดแค่สองสามสัปดาห์เหรอ?อาร์เล็ตตัวแข็งทื่อก่อนที่จะระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกมา“ไอ้สารเลว! แกไม่เพียงแต่ไม่เก่งอะไรสักอย่างแล้ว แต่ยังกล้าสาปแช่งคุณปู่ของฉันอีกเหรอ?!“แกนี่มันช่างชั่วช้าจริง ๆ!“ไอ้คนไร้มนุษยธรรม!“ออกไป! ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!“เลิกพยายามสร้างภาพที่นี่ได้แล้ว!“ถ้าฉันไม่เห็นแก่ไคริล่ะก็ฉันจะหักขาแกด้วยมือของฉันเองแล้ว!”เห็นได้ชัดว่าคำเตือนของฮาร์วีย์ทำให้อาร์เล็ตโกรธเคืองอย่างมากบรืน!มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นก่อนที่รถโตโยต้า อัลพาร์ดสีเหลืองจะแล่นมาจอดอยู่ข้างนอกมีคนหนุ่มสาวสองสามคนกระโดดลงมาจากรถ พร้อมทั้งถือกล่องโบราณอยู่ในมือหลังจากนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินออกมาเขาสวมเสื้อคลุมที่เปล่งรังสีออร่าของผู้ปราดเปรื่องออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยฮาร์วีย์ทำหน้าสงสัยก่อนจะจดจำใบหน้านั้นได้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยระดับสุดยอดของโกลด์เด้น แซนด์“ในที่สุดคุณปู่ฟอสเตอร์ก็มาถึงแล้ว!อาร์เล็ตเดินออกไปรับด้วยสีหน้าเบิกบานใจ“คุณปู่มาถูเวลาพอดีเลย! ไม่อย่างนั้นครอบครัวของเราคงโดนนักต้มตุ่นหลอกเอา
ฮาร์วีย์ยิ้มจาง ๆ หลังจากได้ยินข้อสงสัยของอาร์เล็ต“สถานการณ์ของคุณเพแกนไม่ได้มีความซับซ้อนอะไร แค่ร่างกายของเขาโดนพลังงานชั่วร้ายเล่นงานเท่านั้นเอง“ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขทันทีที่มีการจัดการที่ต้นเหตุ"“พลังงานชั่วร้ายเหรอ?”เวสชะงักไปครู่หนึ่ง“แต่ฉันก็ระวังตัวอยู่เสมอนะ ฉันไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ที่จะมีพลังชั่วร้ายแบบนั้นเลย“ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูฮวงจุ้ยก็ยังออกแบบคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ให้ฉันด้วย ที่ดินก็มีความบริสุทธิ์ผุดผ่องด้วย แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?“นอกจากนี้เราก็อยู่ที่นี่มาหลายปีแล้วด้วย แต่ไม่เคยเกิดเรื่องร้าย ๆ อะไรกับเราเลยจวบจนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้“นั่นเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้แหล่งพลังงานชั่วร้ายนั้นได้เพิ่งหาทางเข้ามาที่นี่ได้" ฮาร์วีย์ตอบอย่างตรงไปตรงมา“เมื่อเร็ว ๆ นี้มันเจอหนทางที่เข้ามาที่นี่ได้เหรอ?'อาร์เล็ตหัวเราะอย่างเย็นชา“คุณคิดว่าเราโง่หรือไง?“พลังชั่วร้ายมีแต่ในบ้านผีสิงเท่านั้นแหละ!“บ้านของเราอยู่ในสภาพเดิมมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว! ทำไมถึงเกิดขึ้นได้ล่ะ?!“คุณอ้างว่ามันมาที่นี่เมื่อไม่นานมานี้เหรอ?“ก็บอกมาเลยสิว่าปู่
อาร์เล็ตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เวสฟังอีกครั้ง ก่อนจะกัดฟันกรอดต่อหน้าฮาร์วีย์“ทำไมคุณถึงทำอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ?!“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ของฉัน คุณก็คงตายแน่!“คุณคิดที่จะช่วยใครเพียงให้ได้ค่าขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองน่ะเหรอ?!“คุณช่างเป็นคนน่ารังเกียจจริง ๆ!"ในดวงตาของอาร์เล็ตมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม“ถ้าไม่ใช่เพราะผมที่ยกโครงเหล็กของรถเอาไว้ ป่านนี้คุณเพแกนก็คงกลายเป็นเศษเนื้อเละ ๆ ไปแล้วล่ะ”ใบหน้าของอาร์เล็ตดูมืดมนลงทันที“คุณกล้าดียังไงมาสาบแช่งคุณปู่ของฉันแบบนั้น ไอ้สารเลว!?!“ยอมรับออกมาต่อหน้าทุกคนซะว่าคุณพูดล้อเล่น!“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ คุณปู่ของฉันก็คงไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาหรอก!”สีหน้าของอาร์เล็ตดูเย็นชาราวกับน้ำแข็งในตอนนี้เธอรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเมื่อคิดว่าฮาร์วีย์อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ของเธอต้องเสียชีวิต“ฮาร์วีย์เป็นนักศิลปะป้องกันตัวนะอาร์เล็ต เขามีความแข็งแกร่งกว่าผู้ชายธรรมดาทั่วไปหลายเท่า เขาต้องมั่นใจที่จะช่วยคุณปู่ของคุณได้ ถึงได้ลงมือทำไปอย่างนั้น"ไคริก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว“ฉันไม่รู้ร
เมื่อได้ยินคำพูดของไคริ ผู้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้นก็ทำสีหน้าที่ดูแย่มากเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งหมดต่างรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีโอกาสที่จะตายสูงมาก เมื่อดูจากสภาพร่างกายของเขาแล้ว“ขอบคุณที่เป็นห่วงลุงนะ"ชายคนนั้นแค่ยิ้มให้เฉย ๆ ราวกับว่าเขารู้ว่าความตายของเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้“โอ้ ไคริ… หลานไม่ต้องเศร้าเสียใจกับเรื่องปู่หรอก ปู่รู้ว่ามีชีวิตก็ย่อมมีตายเป็นธรรมดา“เออจริงสิ ปู่ได้ยินมาว่าหลานถูกลอบทำร้ายในระหว่างบินมาที่นี่เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่นา“หลานสบายดีไหม?“ปู่มีหัวไชเท้าร้อยปีอยู่สองสามหัว เอาไปกินเพื่อเพิ่มพลังได้นะ"แน่นอนว่าชายคนนี้เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของไคริไคริยิ้ม“ขอบคุณค่ะลุง!“หนูไม่เป็นอะไรค่ะ มีคนบนเที่ยวบินเดียวกันได้ช่วยหนูเอาไว้ นั่นคือเหตุผลที่หนูยังมายืนอยู่ตรงนี้ได้"จากนั้นไคริก็ชี้ไปที่ฮาร์วีย์“หนูขอแนะนำให้ลุงรู้จักกับฮาร์วีย์ค่ะ เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตหนูไว้ในตอนนั้น“ฮาร์วีย์ นี่คือลุงของฉันค่ะ เวส เพแกน“ตระกูลเพแกนเป็นหนึ่งในตระกูลที่ตัดขาดจากโลกภายนอกที่อยู่ในโกลด์เด้น แซนด์แห่งนี้ พวกเขาถือเป็นหนึ่งในตระกูลลึกลับของเมืองนี้
บรืน!สิบห้านาทีต่อมาก็มีเฟอร์รารี่สีแดงคันหนึ่งเข้ามาจอดตรงหน้าวิลล่าเมื่อกระจกรถเลื่อนลงมาก็เห็นใบหน้าอันงดงามของไคริแถมเธอยังใส่แว่นกันแดดด้วย เลยทำให้เธอดูทันสมัยและงามพริ้งเป็นพิเศษไคริเหลือบมองฮาร์วีย์ก่อนจะส่งยิ้มให้จาง ๆ“เชิญค่ะคุณยอร์ก"ฮาร์วีย์ไม่มีโอกาสได้มองหน้าไคริอย่างใกล้ชิดมาก่อน...แต่เมื่อได้มองภายใต้แสงแดดอันสดใส เขาบอกได้เลยว่าไครินั้นดูสวยราวกับภาพวาด แค่ความสวยดุจเทพธิดาเพียงอย่างเดียว ก็ทำให้ตึกรามบ้านช่องพังถล่มด้วยการมองเพียงแวบเดียวได้แล้วแมนดี้ก็มีหน้าตางดงามเช่นกัน แต่ไคริก็สวยไม่ได้ด้อยไปกว่าเธอเลยทั้งสองคนนี้เป็นดั่งดอกไม้ที่สวยงดงาม เธอทั้งคู่ต่างก็มีรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งยากจะบอกได้ว่าใครสวยกว่าใครโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากจะได้คนไหนมากกว่ากันพวกเขาทั้งหมดคงอยากได้ทั้งสองคนนั่นแหละฮาร์วีย์สงบสติอารมณ์ตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวเข้าไปในรถทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็มีกลิ่นหอมภายในรถโชยเข้าจมูกทันที แล้วเมื่อมองเห็นขาอันเรียวเล็กของไคริเข้าไปอีก ฮาร์วีย์ก็อดที่จะรู้สึกวิงเวียนคล
ฮาร์วีย์ก้มศีรษะลงอย่างไม่ลังเล ก่อนจะตัดสินใจยอมแพ้ในเรื่องนี้จากนั้นเขาก็ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปแมนดี้ทำเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เธอคิดว่าฮาร์วีย์ดูแปลก ๆ ไปในตอนนั้น***ในเช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ฮาร์วีย์กำลังจะออกไปข้างนอกเพื่อทำการสอบสวนคนในตระกูลจอห์นก่อนที่เขาจะเดินออกไปนั้นก็มีสายโทรศัพท์เข้ามาฮาร์วีย์เหลือบมองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา“คุณไม่โทรหาฉันเลยนะคะ? ฉันเป็นเพื่อนของคุณนะฮาร์วีย์"มีเสียงนุ่ม ๆ ดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง เธอคือไครินั่นเอง“คุณพาเทลเหรอ?”ฮาร์วีย์ตัวแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าไคริจะโทรหาเขาในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้“คุณเรียกแต่ชื่อฉันไม่ได้เหรอคะ?” ไคริถามด้วยน้ำเสียงร่าเริง“ก็ได้ครับไคริ"ฮาร์วีย์ไม่อ้อมค้อม“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับผมในช่วงเช้าตรู่ขนาดนี้เหรอ?”ฮาร์วีย์รู้ดีว่าคนอย่างไคริจะไม่มีวันทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทางที่เธอจะแค่โทรมาเชิญฮาร์วีย์ไปดื่มชาด้วยกันเท่านั้น“บอกตามตรงนะคะว่าฉันได้สืบหาข้อมูลของคุณนับตั้งแต่วันที่เราเจอกันที่สนามบิน“ฉันได้ส่งคนไปติดตามคุณด้วย“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังอะไร“เพราะยังไงก็ตามฉันต
แมนดี้ขมวดคิ้วหลังจากได้ยินน้ำเสียงอันชอบธรรมชองอัลม่า“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพี่ชายเธอเลยนะอัลม่า“เลิกพยายามจับคู่ให้เราสักทีได้ไหม?”อัลม่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะทำเสียงเยาะเย้ย“พี่ชายฉันเป็นผู้ชายที่มีความโดดเด่น! เขาเป็นลูกน้องที่นายน้อยคนโตให้ความไว้วางใจมากที่สุด!“ผู้หญิงในเมืองนี้ต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟน!“ฉันให้โอกาสเธอก็เพราะเธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน! ฉันเก็บผู้ชายที่มีความโดดเด่นเอาไว้ให้เธอโดยเฉพาะ!“ไม่มีใครได้รับโอกาสนี้หรอก!อัลม่าทำสีหน้าที่ดูหยิ่งผยอง“เธอควรจะรู้ว่าอะไรดีสำหรับเธอนะแมนดี้!”แมนดี้ทำสีหน้าเหมือนทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะเอาหัวพิงหมอนพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผาก“เอาล่ะพอแค่นี้ก่อนนะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันพรุ่งนี้ ฉันต้องขอตัวก่อนละนะ" แน่นอนว่าเธอไม่อยากจะโต้เถียงกับอัลม่าในเรื่องนี้“ราตรีสวัสดิ์นะ!”อัลม่ายิ้มจาง ๆ“แต่ยังไงก็ตามฉันได้สัญญากับพี่ชายไว้แล้วนะแมนดี้...“ฉันบอกเขาไปว่าเธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ ถึงแม้ว่าเธอจะคบหากับไอ้ตัวโสโครกที่เป็นสามีเก่าของเธอมาสามปีเต็มแล้วก็ตาม!“อย่าทำอะไรโง่ ๆ นะ!“ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ชายฉันจะจัดการกับเข