Home / โรแมนติก / บ้านสีรุ้ง / EP.01 พายุอารมณ์

Share

บ้านสีรุ้ง
บ้านสีรุ้ง
Author: ชนิตร์นันท์

EP.01 พายุอารมณ์

last update Last Updated: 2024-12-07 19:03:10

พายุหอบเม็ดฝนสาดกระหน่ำใส่หลังคาบ้าน ลมหวีดหวิวดังครวญราวกับภูตผีร้ายต้องการจะหลอกหลอนผู้คน ฟ้าร้องคำรามลั่นดังเป็นระยะ ราวกับจะข่มขวัญผู้ที่ได้ยินให้หวาดผวา พายุรุนแรงที่หอบฝนมานั้น แม้จะน่าหวาดหวั่นและไร้ความปรานีต่อทุกสิ่งบนโลก แต่ก็ไม่อาจทำให้เสียงแผดลั่นด้วยความไม่พอใจของผู้เป็นเจ้าของบ้านลดทอนลงได้เลย

          กลับกัน ยิ่งธรรมชาติด้านนอกโหดร้ายเพียงใด เสียงคนภายในบ้านหลังนี้ก็ยิ่งแผดลั่นให้ดังยิ่งกว่า เพราะนี่คือทางที่ต้องเลือก หากสิ่งที่ต้องการนั้นไม่มีใครยอมใคร จุดแตกหักที่ไม่อยากให้มาถึงก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ และหากเพียงคนในครอบครัวจะมีความเข้าใจ สิ่งที่เผชิญหน้าอยู่ขณะนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นเลย

          “กูบอกให้มึงเลิก กูไม่ยอม มึงต้องเลิก!”

          ชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุดยืนจังก้า กำมือแน่น ตะโกนก้องแข่งกับฟ้าฝน โดยมีหญิงวัยใกล้เคียงกันยืนปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นอยู่ด้านข้าง แต่ก็ยังพยายามจะห้ามปรามไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

          “พี่...ใจเย็นๆ นะพี่ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันก่อน ลูกเขาเลือกแล้ว เราก็ต้องยอมรับนะพี่ เราจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้” เธอเอ่ยเสียงกลั้วสะอื้นขณะพยายามยื้อท่อนแขนแกร่งของสามีที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาช้านาน แม้สิ่งนั้นจะยิ่งทำร้ายหัวใจ แต่ก็ต้องพูดออกไป เพราะจะมีอะไรทุกข์ใจได้เท่าพ่อกับลูกต้องมาแตกหักกันตรงหน้าของเธอผู้เป็นแม่อีกเล่า

          “จะบ้ารึไง ยังไงกูก็จะไม่ยอม มึงต้องทำตามที่กูสั่ง มึงเป็นลูกกู มึงต้องฟังคำสั่งกูเท่านั้น กูสั่งให้มึงเลิก มึงก็ต้องเลิก!” ประโยคแรกเขาหันไปตวาดเมียคู่ทุกข์คู่ยากที่ใบหน้านองไปด้วยหยาดน้ำตา แต่ประโยคตามมานั้นตวาดใส่ลูกชายที่ไม่ได้ดังใจเลยสักอย่าง

          “พี่...ฉันขอเถอะนะ ใจเย็นๆ กันก่อน ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันก็ได้ แรงใส่กันแบบนี้ก็มีแต่จะพัง”

          “พังก็พังไปสิ กูไม่สนใจแล้ว ยังไงกูก็จะไม่มีวันยอม กูไม่ยอม กูเป็นพ่อมัน กูต้องสั่งมันได้ มึงจะไม่ฟังคำสั่งกูใช่ไหม ใช่ไหม!”

          เขาพูดพร้อมถลาเข้าไปจะลงมือลงไม้กับลูกชายที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า เพราะแววตาของลูกนั้นบ่งบอกว่าไม่มีวันยอมแน่ นั่นยิ่งเพิ่มพายุรุนแรงสาดซัดใส่จิตใจของคนเป็นพ่อมากขึ้นอีก

          “พี่อย่า! พี่อย่าทำลูก หฤษฎ์ออกไปก่อนลูก ออกไปก่อน แม่ขอละ ออกไป”

          ผู้เป็นแม่ตรงเข้าไปกอดรัดรอบเอวของสามีพร้อมกับออกปากให้ลูกไปจากที่นี่ แต่ดวงตาฉ่ำชื้นไปด้วยน้ำตานั้นฉายชัดถึงความอาดูร เพราะสำหรับแม่ที่เลี้ยงดูลูกอย่างใกล้ชิด เธอไม่เคยคิดอยากให้ลูกไปจากอก แต่หากจำเป็นเธอก็ต้องยอม

          “มึงอย่าไปไหนนะ กูไม่ให้มึงไป ถ้ามึงไม่ฟังกู วันนี้กูจะเอาเลือดหัวมึงออกให้ได้ ให้มันรู้ไปว่ากูกับมึงใครมันจะแน่กว่ากัน”

          “พี่อย่า! พี่!”

          พ่อตะโกนก้องไปด้วยแรงอารมณ์ เสียงร้องไห้กับเสียงร้องห้ามของแม่ที่ดังอย่างต่อเนื่อง พ่อเดินเข้ามาหาด้วยหวังจะใช้กำลังทำร้ายตามที่ปากพูด เพื่อให้เขาหลาบจำและเลือกเดินตามทางที่พ่อต้องการ แม่ยื้อพ่อไว้ไม่อยู่จึงทรุดลงและใช้สองมือรั้งขาไม่ให้พ่อก้าวเข้าใกล้เขาไปมากกว่านี้ สิ่งที่ได้ยินกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ากำลังส่งผลถึงการตัดสินใจ 

          “วันนี้กูต้องเอาเลือดหัวมึงออกให้ได้ ไม่งั้นอย่ามาเรียกกูว่าพ่อ”

          พ่อยังพยายามจะเดินเข้าหาแม้จะไม่ถนัดเพราะแม่พยายามใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมดของตัวเองรั้งเอาไว้ไม่ให้เข้าถึงตัวเขาได้ แต่เขาล่ะ เขาซึ่งเป็นต้นเหตุของทุกเรื่องกลับยืนนิ่งเหมือนร่างนี้ไร้วิญญาณไปแล้ว เพราะภาพแม่ที่ยื้ดยุดร่างกายของพ่อเอาไว้เหมือนภาพสโลวโมชันที่เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ

          เสียงกราดเกรี้ยวของพ่อ เสียงร้องไห้ปนเสียงห้ามของแม่ดังซ้ำๆ ย้ำๆ อยู่ในหัวจนเขารับรู้ได้ถึงอาการปวดหนึบที่ขมับพร้อมกับอาการเกร็งที่ต้นคอและบ่า         

          ความเสียใจของพ่อแม่กับความสุขของตัวเขาเอง สิ่งใดที่ชั่งตวงแล้วได้น้ำหนักมากกว่ากัน เขาควรออกไปจากที่นี่และทิ้งครอบครัวไว้เบื้องหลัง หรือน้อมรับในสิ่งที่พ่อต้องการ จะได้ไม่มีใครต้องเสียใจอีกนอกจากตัวเขาเอง สิ่งไหนกันที่เขาควรเลือก

          “พี่อย่า อย่าทำลูก อย่า!”

          “ปล่อยกู ปล่อย!”

          พ่อแผดเสียงดังลั่นใกล้ๆ เรียกสติของเขาให้กลับคืน และเขาก็เห็นแม่ยื้อต้นขาของพ่อไว้แน่น พ่อจึงสะบัดสุดแรง จนร่างผอมบางของแม่กระเด็นไปอีกทาง

          “แม่!”

          ร่างของแม่ถลาไปไม่ต่างจากหัวใจเขาถูกกระชาก ร่างกายไวตามความคิดเพราะเขาปราดเข้าไปประคองแม่เอาไว้ได้ทัน ก่อนที่ร่างผอมบางนั้นจะกระทบพื้นบ้าน แต่นั่นก็ทำให้พ่อเข้าถึงตัวเขาได้ทันเช่นกัน

Related chapters

  • บ้านสีรุ้ง   EP.02 ไปตามทาง

    ร่างสันทัดถูกกระชากจากแรงของพ่อ ก่อนจะตามด้วยฝ่ามือที่ตั้งใจจะทำให้เขาเจ็บ แต่เขาก็ไวกว่าจึงหลบหลีกได้ นั่นทำให้ผู้เป็นพ่อโกรธเกรี้ยวมากขึ้น ทั้งฝ่ามือฝ่าเท้าจึงกระหน่ำใส่ลงมาไม่ยั้ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของแม่และเสียงของฟ้าฝนที่กระหน่ำคำรามไม่หยุด โดยที่เขาทำได้เพียงปัดป้อง “พี่อย่าทำลูก อย่า พี่!” ร่างผอมบางสั่นและสะอื้นจนหายใจไม่ออก แต่ก็พยายามยื้อฝ่ามือฝ่าเท้าของสามีไม่ให้กระทบตัวลูก “พี่...อย่าทำลูก อย่าทำ...” แต่เรี่ยวแรงเธอไม่พอที่จะต้านทานอารมณ์ของสามี “มึงสู้กูเรอะ มึงสู้กูเรอะ กูเป็นพ่อมึงนะ กูเป็นพ่อมึง” “ผมไม่ได้สู้ พ่อ...ผมไม่ได้สู้พ่อ...” เสียงสั่นตามความสะเทือนใจเมื่อพ่อแปลความหมายของการปัดป้องเป็นต่อสู้ น้ำตาของเขาเกือบร่วงพรู แต่ก็ฝืนไว้เพราะเขาตัดสินใจแล้ว ยังไงเสียวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง พ่อต้องยอมรับทางที่เขาเลือกเดิน เส้นทางชีวิตที่มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่จะต้องรับผิดชอบตัวเองต่อไปในภายภาคหน้า “กูทำให้มึงขนาดนี้ มึงก็ยังไม่สำนึกบุญคุณของกูเลยใช่ไหม มึงมันดีแต่ทำให้กูช้ำใจ...ทำให้กูต้องอับอายขายขี้ห

    Last Updated : 2024-12-07
  • บ้านสีรุ้ง   EP.03 นายต้นไม้

    ทุ่งข้าวเขียวขจีที่เห็นผ่านเลนส์กล้องให้ความรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจแก่ผู้ที่กำลังเก็บภาพความประทับใจนั้นไว้ เพราะความสดชื่นจากใบข้าวสีเขียวสดที่เรียงตัวอัดแน่นตัดกับสีของท้องฟ้าและสีของแผ่นดินโดยรอบ รวมทั้งกลิ่นของไอดิน กลิ่นโคลน หรือแม้กระทั่งกลิ่นมูลวัวที่โชยตามลมมาเป็นระยะ ล้วนคือองค์ประกอบที่เขาต้องการจะถ่ายทอดลงไปในภาพถ่ายเหล่านี้ทั้งสิ้น ชายหนุ่มผิวสีแทนรูปร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีครีมแบบลำลอง สวมรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดาววัยเก๋า สะพายเป้สีดำใบใหญ่ไว้ด้านหลัง มีสายกล้องคล้องอยู่รอบคอ เขาก้าวเดินไปตามคันนากว้างราวหนึ่งเมตรกว่า ทางเดินสไตล์ลูกทุ่งของโฮมสเตย์แบบชาวนา สถานที่ซึ่งเป็นโจทย์สำหรับเขาในครั้งนี้ องค์ประกอบของชายหนุ่มไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไปที่นิยมมาสัมผัสธรรมชาติท้องทุ่งนาในถิ่นภาคเหนือ แต่สิ่งที่ทำให้เขาดูแตกต่างและเป็นจุดเด่นจนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ต้องเหลียวมองโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสาวๆ ก็คือ ผมยาวหยักศกน้อยๆ รวบมวยไว้เป็นจุกเหนือท้ายทอย และใบหน้าที่มีกล้องบดบังไว้เป็นบางส่วน เพราะนั่นทำให้คนที่มองมาต้องชะงัก

    Last Updated : 2024-12-07
  • บ้านสีรุ้ง   EP.04 งานที่เป็นความลับ

    แม้จะหงุดหงิดใจเล็กน้อยเมื่อถูกขัดจังหวะ แต่ก็ต้องยอมเพราะคนที่รู้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวนี้มีไม่กี่คน ดังนั้นคนที่โทร. เข้ามาในเวลานี้ก็เดาได้เลย แล้วก็เป็นไปตามที่คิด เมื่อหน้าจอโทรศัพท์แสดงหน้าตากวนๆ ของใครบางคน “ว่าไงไอ้ทิต” เขาส่งเสียงปนหงุดหงิดนิดๆ ออกไป เพราะอยากให้คนต้นสายรับรู้ความไม่พอใจของเขาบ้าง ไม่ใช่ว่าอยากจะโทรศัพท์มาเวลาไหนก็ทำได้ เพราะตกลงกันแล้วว่าให้แค่ส่งข้อความมา เขาว่างตอนไหนจะโทร. กลับไปเอง ไม่ต้องโทร. มาตาม มาทวง หรือมาอะไรทั้งนั้น นั่นจะทำให้เขาหงุดหงิด .. ณ ออฟฟิศ ‘สำนักพิมพ์ พรจากฟ้า’ สำนักพิมพ์ที่ผลิตและจัดจำหน่ายนิตยสารท่องเที่ยวชั้นนำของเมืองไทย หนุ่มหล่อเทรนด์เกาหลีนายหนึ่งนั่งยิ้มให้หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา เพราะจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ระบุชื่อคนส่งว่า ‘นายต้นไม้’ มือหนึ่งคลิกเมาส์เพื่อเปลี่ยนหน้าจอไปเป็นงานที่ได้รับมอบหมาย คือการจัดอาร์ตเวิร์กของหน้านิตยสาร ส่วนอีกมือก็กระชับโทรศัพท์ที่หนีบไว้ตรงซอกคอให้ถนัดมากขึ้น เพราะงานตัวเองก็เร่ง แต่งานเพื่อนก็ต้องทำ แต่ที่สนุกสุดๆ ก็คือได้ยั่วอารมณ์คนทางนั้น “ไม่ว่า

    Last Updated : 2024-12-07
  • บ้านสีรุ้ง   EP.05 หฤหรรษ์

    นิ้วมือเรียวสวยนวลเนียนไร้ริ้วรอยบรรจงใช้ปากคีบสเตนเลสคีบเอากลีบดอกไม้สีชมพูอมม่วงจากในโหลสุญญากาศออกมาใส่ในถ้วยเซรามิกสีขาวซึ่งมีลวดลายด้านนอกเป็นดอกไม้สีชมพูกระจิริด แต่ด้านในกลับไร้ลวดลาย เป็นเพียงผิวสีขาวเรียบสะอาดตาพร้อมมีรูเล็กหลายรูอยู่ที่ก้นถ้วย ถ้วยใบย่อมถูกซ้อนทับอีกชั้นด้วยกาน้ำชาที่ทำจากแก้วบางใส ทำให้รู้ว่ารูเล็กเหล่านั้นคงมีไว้เพื่อส่งผ่านน้ำร้อนที่เข้าไปสกัดผ่านชาชนิดต่างๆ จนกลายเป็นน้ำชาสำหรับดื่ม ทว่ากลีบดอกไม้เหล่านั้นกินได้จริงหรือ “คุณรุ้งเจ้า กิ๋นได้แต้ๆ ก่เจ้า” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเปล่งคำถามเป็นภาษาคำเมืองฟังแล้วระรื่นหู ทำให้ ‘หฤหรรษ์ คีรีรัตนะ’ หรือ ‘คุณรุ้ง’ ตามที่ถูกเอ่ยเรียก ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเหลือบดวงตาสวยหวานขึ้นมองสาวน้อยที่นั่งยองๆ และจ้องตาแป๋วมองเธอปรุงชาอยู่นานสองนาน “กินได้สิ อองตองไม่เชื่อฉันเหรอ” หฤหรรษ์ถามพลางเทน้ำร้อนลงไปในถ้วยที่วางกลีบดอกบัวหลวงสีชมพูเอาไว้ เมื่อน้ำร้อนไหลผ่านกลีบดอกไม้ที่ผ่านการทำให้แห้งพอแค่ท่วม หฤหรรษ์ก็รีบเทน้ำร้อนทิ้งทันทีเพื่อชะล้างเอาเศษฝุ่นละอองที่อาจติดอยู่ตามก

    Last Updated : 2024-12-07

Latest chapter

  • บ้านสีรุ้ง   EP.05 หฤหรรษ์

    นิ้วมือเรียวสวยนวลเนียนไร้ริ้วรอยบรรจงใช้ปากคีบสเตนเลสคีบเอากลีบดอกไม้สีชมพูอมม่วงจากในโหลสุญญากาศออกมาใส่ในถ้วยเซรามิกสีขาวซึ่งมีลวดลายด้านนอกเป็นดอกไม้สีชมพูกระจิริด แต่ด้านในกลับไร้ลวดลาย เป็นเพียงผิวสีขาวเรียบสะอาดตาพร้อมมีรูเล็กหลายรูอยู่ที่ก้นถ้วย ถ้วยใบย่อมถูกซ้อนทับอีกชั้นด้วยกาน้ำชาที่ทำจากแก้วบางใส ทำให้รู้ว่ารูเล็กเหล่านั้นคงมีไว้เพื่อส่งผ่านน้ำร้อนที่เข้าไปสกัดผ่านชาชนิดต่างๆ จนกลายเป็นน้ำชาสำหรับดื่ม ทว่ากลีบดอกไม้เหล่านั้นกินได้จริงหรือ “คุณรุ้งเจ้า กิ๋นได้แต้ๆ ก่เจ้า” สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มเปล่งคำถามเป็นภาษาคำเมืองฟังแล้วระรื่นหู ทำให้ ‘หฤหรรษ์ คีรีรัตนะ’ หรือ ‘คุณรุ้ง’ ตามที่ถูกเอ่ยเรียก ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเหลือบดวงตาสวยหวานขึ้นมองสาวน้อยที่นั่งยองๆ และจ้องตาแป๋วมองเธอปรุงชาอยู่นานสองนาน “กินได้สิ อองตองไม่เชื่อฉันเหรอ” หฤหรรษ์ถามพลางเทน้ำร้อนลงไปในถ้วยที่วางกลีบดอกบัวหลวงสีชมพูเอาไว้ เมื่อน้ำร้อนไหลผ่านกลีบดอกไม้ที่ผ่านการทำให้แห้งพอแค่ท่วม หฤหรรษ์ก็รีบเทน้ำร้อนทิ้งทันทีเพื่อชะล้างเอาเศษฝุ่นละอองที่อาจติดอยู่ตามก

  • บ้านสีรุ้ง   EP.04 งานที่เป็นความลับ

    แม้จะหงุดหงิดใจเล็กน้อยเมื่อถูกขัดจังหวะ แต่ก็ต้องยอมเพราะคนที่รู้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวนี้มีไม่กี่คน ดังนั้นคนที่โทร. เข้ามาในเวลานี้ก็เดาได้เลย แล้วก็เป็นไปตามที่คิด เมื่อหน้าจอโทรศัพท์แสดงหน้าตากวนๆ ของใครบางคน “ว่าไงไอ้ทิต” เขาส่งเสียงปนหงุดหงิดนิดๆ ออกไป เพราะอยากให้คนต้นสายรับรู้ความไม่พอใจของเขาบ้าง ไม่ใช่ว่าอยากจะโทรศัพท์มาเวลาไหนก็ทำได้ เพราะตกลงกันแล้วว่าให้แค่ส่งข้อความมา เขาว่างตอนไหนจะโทร. กลับไปเอง ไม่ต้องโทร. มาตาม มาทวง หรือมาอะไรทั้งนั้น นั่นจะทำให้เขาหงุดหงิด .. ณ ออฟฟิศ ‘สำนักพิมพ์ พรจากฟ้า’ สำนักพิมพ์ที่ผลิตและจัดจำหน่ายนิตยสารท่องเที่ยวชั้นนำของเมืองไทย หนุ่มหล่อเทรนด์เกาหลีนายหนึ่งนั่งยิ้มให้หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขา เพราะจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ระบุชื่อคนส่งว่า ‘นายต้นไม้’ มือหนึ่งคลิกเมาส์เพื่อเปลี่ยนหน้าจอไปเป็นงานที่ได้รับมอบหมาย คือการจัดอาร์ตเวิร์กของหน้านิตยสาร ส่วนอีกมือก็กระชับโทรศัพท์ที่หนีบไว้ตรงซอกคอให้ถนัดมากขึ้น เพราะงานตัวเองก็เร่ง แต่งานเพื่อนก็ต้องทำ แต่ที่สนุกสุดๆ ก็คือได้ยั่วอารมณ์คนทางนั้น “ไม่ว่า

  • บ้านสีรุ้ง   EP.03 นายต้นไม้

    ทุ่งข้าวเขียวขจีที่เห็นผ่านเลนส์กล้องให้ความรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจแก่ผู้ที่กำลังเก็บภาพความประทับใจนั้นไว้ เพราะความสดชื่นจากใบข้าวสีเขียวสดที่เรียงตัวอัดแน่นตัดกับสีของท้องฟ้าและสีของแผ่นดินโดยรอบ รวมทั้งกลิ่นของไอดิน กลิ่นโคลน หรือแม้กระทั่งกลิ่นมูลวัวที่โชยตามลมมาเป็นระยะ ล้วนคือองค์ประกอบที่เขาต้องการจะถ่ายทอดลงไปในภาพถ่ายเหล่านี้ทั้งสิ้น ชายหนุ่มผิวสีแทนรูปร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีน้ำตาลและกางเกงขาสั้นสีครีมแบบลำลอง สวมรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดาววัยเก๋า สะพายเป้สีดำใบใหญ่ไว้ด้านหลัง มีสายกล้องคล้องอยู่รอบคอ เขาก้าวเดินไปตามคันนากว้างราวหนึ่งเมตรกว่า ทางเดินสไตล์ลูกทุ่งของโฮมสเตย์แบบชาวนา สถานที่ซึ่งเป็นโจทย์สำหรับเขาในครั้งนี้ องค์ประกอบของชายหนุ่มไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไปที่นิยมมาสัมผัสธรรมชาติท้องทุ่งนาในถิ่นภาคเหนือ แต่สิ่งที่ทำให้เขาดูแตกต่างและเป็นจุดเด่นจนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ต้องเหลียวมองโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสาวๆ ก็คือ ผมยาวหยักศกน้อยๆ รวบมวยไว้เป็นจุกเหนือท้ายทอย และใบหน้าที่มีกล้องบดบังไว้เป็นบางส่วน เพราะนั่นทำให้คนที่มองมาต้องชะงัก

  • บ้านสีรุ้ง   EP.02 ไปตามทาง

    ร่างสันทัดถูกกระชากจากแรงของพ่อ ก่อนจะตามด้วยฝ่ามือที่ตั้งใจจะทำให้เขาเจ็บ แต่เขาก็ไวกว่าจึงหลบหลีกได้ นั่นทำให้ผู้เป็นพ่อโกรธเกรี้ยวมากขึ้น ทั้งฝ่ามือฝ่าเท้าจึงกระหน่ำใส่ลงมาไม่ยั้ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของแม่และเสียงของฟ้าฝนที่กระหน่ำคำรามไม่หยุด โดยที่เขาทำได้เพียงปัดป้อง “พี่อย่าทำลูก อย่า พี่!” ร่างผอมบางสั่นและสะอื้นจนหายใจไม่ออก แต่ก็พยายามยื้อฝ่ามือฝ่าเท้าของสามีไม่ให้กระทบตัวลูก “พี่...อย่าทำลูก อย่าทำ...” แต่เรี่ยวแรงเธอไม่พอที่จะต้านทานอารมณ์ของสามี “มึงสู้กูเรอะ มึงสู้กูเรอะ กูเป็นพ่อมึงนะ กูเป็นพ่อมึง” “ผมไม่ได้สู้ พ่อ...ผมไม่ได้สู้พ่อ...” เสียงสั่นตามความสะเทือนใจเมื่อพ่อแปลความหมายของการปัดป้องเป็นต่อสู้ น้ำตาของเขาเกือบร่วงพรู แต่ก็ฝืนไว้เพราะเขาตัดสินใจแล้ว ยังไงเสียวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง พ่อต้องยอมรับทางที่เขาเลือกเดิน เส้นทางชีวิตที่มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่จะต้องรับผิดชอบตัวเองต่อไปในภายภาคหน้า “กูทำให้มึงขนาดนี้ มึงก็ยังไม่สำนึกบุญคุณของกูเลยใช่ไหม มึงมันดีแต่ทำให้กูช้ำใจ...ทำให้กูต้องอับอายขายขี้ห

  • บ้านสีรุ้ง   EP.01 พายุอารมณ์

    พายุหอบเม็ดฝนสาดกระหน่ำใส่หลังคาบ้าน ลมหวีดหวิวดังครวญราวกับภูตผีร้ายต้องการจะหลอกหลอนผู้คน ฟ้าร้องคำรามลั่นดังเป็นระยะ ราวกับจะข่มขวัญผู้ที่ได้ยินให้หวาดผวา พายุรุนแรงที่หอบฝนมานั้น แม้จะน่าหวาดหวั่นและไร้ความปรานีต่อทุกสิ่งบนโลก แต่ก็ไม่อาจทำให้เสียงแผดลั่นด้วยความไม่พอใจของผู้เป็นเจ้าของบ้านลดทอนลงได้เลย กลับกัน ยิ่งธรรมชาติด้านนอกโหดร้ายเพียงใด เสียงคนภายในบ้านหลังนี้ก็ยิ่งแผดลั่นให้ดังยิ่งกว่า เพราะนี่คือทางที่ต้องเลือก หากสิ่งที่ต้องการนั้นไม่มีใครยอมใคร จุดแตกหักที่ไม่อยากให้มาถึงก็คงจะเลี่ยงไม่ได้ และหากเพียงคนในครอบครัวจะมีความเข้าใจ สิ่งที่เผชิญหน้าอยู่ขณะนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นเลย “กูบอกให้มึงเลิก กูไม่ยอม มึงต้องเลิก!” ชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุดยืนจังก้า กำมือแน่น ตะโกนก้องแข่งกับฟ้าฝน โดยมีหญิงวัยใกล้เคียงกันยืนปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นอยู่ด้านข้าง แต่ก็ยังพยายามจะห้ามปรามไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ “พี่...ใจเย็นๆ นะพี่ ค่อยๆ พูด ค่อยๆ จากันก่อน ลูกเขาเลือกแล้ว เราก็ต้องยอมรับนะพี่ เราจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้”

DMCA.com Protection Status