หลังจากทานแกงไตปลากับขนมจีนอิ่มแล้วนายหัวชาวีก็กลับมาในห้องทำงานของตนเองอีกครั้ง เขานั่งตรวจเอกสารต่างๆ ที่มีทั้งบัญชีรายรับ รายจ่ายของสวนยาง สวนปาล์มและโรงงานแปรรูปยางพาราขนาดเล็กที่เขากับเพื่อนร่วมกันลงทุนก็รับซื้อน้ำยางจากชาวบ้านมาแปรรูปส่งบริษัทใหญ่อีกที
ชาวีมองโฉนดที่ดินที่บิดาของชมจันทร์เอามาจำนองแล้วก็ถอนหายใจเพราะจำนวนเงินที่เขาออกไปนั้นมากกว่ามูลค่าของที่ดินอยู่มาก เขาคุยเรื่องนี้กับน้าพิกุลแล้ว เธอยื่นข้อเสนอให้หลานสาวมาทำงานกับเขาเพื่อเป็นการใช้หนี้ ซึ่งชาวียังไม่ตอบตกลงเพราะไม่รู้ว่าหลานสาวของน้าพิกุลจะสวยสมกับราคาคุยหรือเปล่าแต่เมื่อเขา ได้เจอเธอก็รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปน่าจะคุ้ม
ชายหนุ่มโทรศัพท์ไปหาน้าพิกุลเพื่อคุยถึงข้อตกลงทันทีเพราะกลัวว่าถ้าตนเองไม่รับข้อเสนอน้าพิกุลจะพาเธอไปขายให้คนอื่น
“ว่าไงคะนายหัว เจอชมจันทร์ของพิกุลแล้วใช่ไหม”
“อืม ฉันเจอแล้ว”
“เป็นไงคะสวยถูกใจนายหัวไหม”
“ก็สวยดีนะแต่เหมือนว่าเด็กนั่นจะไม่รู้ว่านอกจากจะมาทำงานเอกสารแล้วเธอต้องทำอย่างอื่นด้วย”
“รู้สิคะ แต่ใครจะกล้าพูดกันตรงๆ ล่ะ เด็กมันไม่เคยมันก็ต้องไว้ท่าทีกันหน่อย”
“แน่ใจนะว่าไม่ได้ย้อมแมวขาย”
“ใครจะกล้าทำแบบนั้นกับนายหัวล่ะคะ ชมจันทร์ของพิกุลน่ะเพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ แฟนสักคนยังไม่เคยมี พิกุลเอาหัวเป็นประกันเลยค่ะว่าลูกเลี้ยงของพิกุลบริสุทธิ์ผุดผ่องจริงๆ ที่พิกุลเสนอให้นายหัวก็เพราะเห็นว่าเราเป็นคนกันเอง เสี่ยสมชายเจ้าของร้านวัสดุก่อสร้างเขาก็คอยมาถามอยู่บ่อยๆ เขาสนใจชมจันทร์มากแต่รายนั้นมีลูกมีเมียแล้วพิกุลก็ไม่อยากให้ชมจันทร์ไปทำให้บ้านเขาแตก”
“เธอไม่มีแฟนแน่นะ” เขาถามย้ำเพราะไม่อยากยุ่งกับคนมีเจ้าของเท่าไหร่ เขาอยากให้ผู้หญิงที่เขานอนด้วยมีแค่เขาคนเดียว
“หนูชมจันทร์เป็นเด็กดีตั้งใจเรียนตอนไปอยู่หอก็อยู่หอกับเพื่อนผู้หญิงไม่เคยมีแฟนเลยสักคน” พิกุลรีบโฆษณาสรรพคุณของลูกเลี้ยงตัวเองเพราะรู้มาว่านายหัวคนนี้ชอบผู้หญิงสวย ชมจันทร์ลูกเลี้ยงของเธอก็สวยกว่าทุกคนในละแวกนี้อีกทั้งยังเป็นสาวบริสุทธิ์อีกด้วย
“นายหัวเจอชมจันทร์แล้ว นายหัวคิดว่าจะให้พิกุลเท่าไหร่”
“หนึ่งแสน”
“น้อยไปไหมคะ ชมจันทร์ทั้งสวยทั้งบริสุทธิ์ถ้านายหัวจะให้แค่นี้พิกุลว่าพิกุลพาไปให้เสี่ยสมชายดีกว่า”
“อย่าลืมนะพิกุลว่าโฉนดที่ดินผืนนี้ยังอยู่ที่ฉัน” นายหัวเตือนความจำ
“พิกุลไม่สนใจโฉนดที่ดินนั่นหรอกค่ะพิกุลอยากได้เงินมากกว่า”
“หมายความว่ายังไง”
“พิกุลอยากได้เงินสดสักสามแสนค่ะ”
“ราคานี้ฉันไปผู้หญิงที่อื่นได้หลายคนเลยนะ”
“แต่พิกุลว่าสาวๆ สวยๆ อย่างชมจันทร์คงหายากสักหน่อย”
“ถ้าเธอได้เงินไปสามแสนแล้วฉันต้องคืนโฉนดที่ดินให้อีก มันก็รวมกันเกือบจะล้านแล้วนะพิกุล” นายหัวขาวีคิดว่าตนเองกำลังถูกพิกุลเอาเปรียบ อีกอย่างถ้าเขาอยากจะได้ชมจันทร์มานอนด้วยจริงๆ เขาก็มีวิธีที่ไม่ต้องจ่ายเงินมากขนาดนี้
“ใครว่าพิกุลจะเอาบ้านและที่ดินคืนล่ะ พิกุลก็แค่อยากเงิน ส่วนเรื่องบ้านกับที่ดินนายหัวจะคืนหรือไม่คืนก็แล้วแต่เลยค่ะ”
“เธอไม่อยากได้บ้านคืนจริงๆ เหรอพิกุล”
“ไม่ค่ะ ถึงเอามามันก็เป็นชื่อของชมจันทร์ตามพินัยกรรมอยู่ดี สู้พิกุลเอาเงินสามแสนไปตั้งตัวไม่ดีกว่าเหรอ” พิกุลอยากจะไปจากที่นี่เพราะตอนนี้เธอคบกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่และจะย้ายไปอยู่กับเขา
“ถ้าฉันจ่ายเธอสามแสนเธอก็จะไปจากที่นี่ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“ชมจันทร์รู้ไหมว่าเธอจะไปจากที่นี่”
“ไม่ค่ะ นายหัวอย่าบอกเรื่องนี้กับชมจันทร์นะคะ”
“พิกุลไม่ห่วงเธอเลยเหรอ”
“ห่วงก็ห่วงอยู่หรอกค่ะ แต่พิกุลก็ต้องมีชีวิตของตัวเองบ้าง นี่ก็ปีหนึ่งแล้วที่พิกุลดูแลเธอ ชมจันทร์ไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้วเธอบรรลุนิติภาวะแล้ว” พิกุลคิดว่าตนเองทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว และมันก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องให้หญิงสาวได้เติบโตตามลำพังเพราะเธอกับชมจันทร์ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเลยสักนิด
ชาวีฟังแล้วก็รู้สึกเห็นใจทั้งสองฝ่ายแต่เขาไม่ใช่พ่อพระที่จะรับอุปการะใคร ที่เขายอมจ่ายก็เพื่อเรื่องบนเตียงเท่านั้น เบื่อเมื่อไหร่ก็คงต่างคนต่างไป ส่วนเรื่องที่ดินเขาจะลองคุยกับชมจันทร์ดู บางทีเขาอาจจะให้เธออยู่ที่บ้านของเธอต่อถ้าหากว่าเธอทำให้เขาถูกใจ
“ตกลงฉันจะจ่ายให้พิกุลสามแสน แล้วจะไปเมื่อไหร่”
“น่าจะไปเป็นช่วงที่ชมจันทร์กลับไปโรงเรียน”
“ไหนว่าเรียนจบแล้ว”
“เธอต้องไปรับใบประกาศนียบัตรค่ะ”
“อีกนานไหม”
“น่าจะไม่เกิน 10 วันค่ะ นายหัวคะพิกุลของถามหน่อยได้ไหม”
“ว่ามาสิ”
“นายหัวจะคืนบ้านให้ชมจันทร์ไหม” แม้ตัวเองจะไม่อยู่แต่ลึกๆ ก็ยังห่วงชมจันทร์อยู่ดี
“มันอยู่ที่ว่าลูกเลี้ยงของพิกุลจะทำให้ฉันพอใจมากแค่ไหน”
“ถ้าเธอทำให้นายหัวพอใจ พิกุลก็อยากให้นายหัวช่วยดูแลเธอต่อจากพิกุลด้วยนะคะ”
“ฉันไม่รับปากหรอกนะ เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยถูกใครนานๆ ฉันมันพวกเบื่อง่าย”
“แต่พิกุลว่าชมจันทร์ของพิกุลไม่มีทางทำให้นายหัวเบื่อแน่ๆ ค่ะ” พิกุลบอกกับนายหัวอย่างมั่นใจ
“ฉันฝากบอกชมจันทร์ด้วยว่าให้เอาของใช้ที่จำเป็นมานอนที่บ้านฉันเลย ฉันจะให้คนจัดห้องไว้ให้”
“นายหัวจะให้ไปวันไหนคะ”
“วันจันทร์ที่จะถึง ฉันบอกชมจันทร์ไปแล้ว”
“ได้ค่ะ พิกุลจะบอกให้ชมจันทร์เตรียมตัวไปคอยรับใช้นายหัว”
เมื่อวางสายจากน้าพิกุลแล้วชาวีก็นั่งทำงานต่อแต่เขาไม่มีสมาธิทำงานเลยเมื่อนึกถึงใบหน้าเนียนสวยดวงตากลมโตของหญิงสาวที่ชื่อชมจันทร์เขาชอบนอนกับผู้หญิงสวยๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่เคยพาใครมานอนที่บ้านเพราะไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวาย แต่เมื่อตกลงจ่ายเงินกับน้าพิกุลไปถึงสามแสนเขาก็จะใช้งานชมจันทร์ให้คุ้มทั้งงานเอกสารและงานบนเตียงระยะเวลาสามเดือนที่หญิงสาวปิดเทอมเขาจะตักตวงทุกอย่างให้มากที่สุดก่อนที่จะปล่อยเธอให้เป็นอิสระชาวีไม่เคยคบใครนานและเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เพราะไม่เคยมีใครทำให้เขามีความสุขจนอยากจะหยุด ชายหนุ่มเป็นคนเบื่อง่ายแต่ก็ใช่ว่าไม่เคยอยากมีครอบครัวเขาเคยมีแฟนที่คบกันมานานแต่เธอก็ทนอยู่กับเขาไม่ได้เพราะบางครั้งเรื่องบนเตียงของเขามันก็เกินกว่าผู้หญิงจะรับไหวชาวีเก็บเอกสารทุกอย่างลงลิ้นชักจากนั้นล็อกกุญแจก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงาน“นายหัวจะไปไหนคะ” ป้าสมรที่นั่งดูทีวีอยู่ถามเจ้านายเพราะปกติแล้วเวลานี้เจ้านายจะไม่ออกมาจากห้องทำงานเลย“ฉันจะเข้าไปในเมืองหน่อยนะป้าสมรฝากดูแลบ้านด้วยนะ พรุ่งนี้ให้คนมาทำความสะอาดห้องที่อยู่ตรงข้ามห้องฉันด้วย”“ได้ค่ะ” ป้าสมรรับปากโดยไม่ถามว่าเขาจะให้ใ
เมื่อสารินทร์และบริกรลงไปชั้นล่างแล้วชาวีก็เรียกหญิงสาวเข้ามานั่งใกล้ๆ“ชื่ออะไร”“หนูชื่อหลินค่ะ คุณล่ะคะ”“เรียกฉันว่านายหัวก็พอ”“ค่ะนายหัว” หญิงสาวเทเหล้าให้กับนายหัวชาวีดื่มอีกแล้วจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและลากเธอไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านหลังสุดซึ่งเป็นห้องที่มีไว้บริการแขกที่ไม่อยากออกไปต่อข้างนอกเมื่อประตูห้องปิดลงนายหัวหนุ่มก็ดันร่างเธอให้ชิดกับผนังห้องแล้วรีบประกบจูบลงไปทันที ทำเอาหญิงสาวตั้งตัวแทบไม่ทันแต่เธอก็จูบกลับเพราะอยากให้เขาประทับใจกับการบริการครั้งแรก“อืม...นายหัวขาใจเย็นๆ สิคะ”หญิงสาวอ้อนเสียงหวานเมื่อเขาผละจูบออกแต่เขาก็ประกบจูบลงมาอีกครั้งโดยไม่คิดจะฟังเธอเลยสักนิด เขาถอดชุดสายเดี๋ยวของเธอออกอย่ารวดเร็วก่อนจะโยนมันไปกองที่พื้น มือหนาบีบเคล้นหน้าอกของหญิงสาวอย่างไม่ปรานี หลินทั้งเจ็บและเสียวซ่านแต่เธอก็สู้ไม่ถอยเพราะคนที่เคยนอนกับเขาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าถึงแม่จะเจ็บกายแต่เขาก็จ่ายให้อย่างคุ้มค่า เธอหวังว่าวันนี้จะทำให้เขามีความสุขและเรียกใช้บริการเธออีกเมื่อเหล้าเข้าปากชาวีก็มักจะคุมตนเองไม่ได้เขาจูบอย่างหนักหน่วงจนหญิงสาวปากบวมเจ่อก่อนจะลากปลายลิ้นร้อนมายังซอกคอขบ
“สบายตัวไหมล่ะมึง” สารินทร์แซวเพื่อนเมื่อเห็นเขาเดินมาจากชั้นสอง“อืม”“ไม่ค้างที่นี่เหรอวะ นี่มันดึกแล้วนะ” เขาถามเพราะตอนนี้ผับปิดแล้ว ขณะตนเองกำลังนั่งดื่มอยู่ตามลำพัง ส่วนหญิงสาวที่นอนอยู่ในห้องนั้นเดี๋ยวก็จะมีคนของเขาพาออกไปทางด้านหลังของผับ“ไม่ล่ะพรุ่งนี้ว่าจะเข้าไปดูคนงานในสวนสักหน่อย ไปถึงก็น่าจะเช้าพอดี”“มีงานหรือมีใคร มึงนี่แปลกนะปกติเข้ามาในเมืองมึงต้องปล่อยจนน้ำแทบหมดตัวแต่นี่กูว่ามึงยังไปต่อได้อีก หรือกะจะเก็บไว้ให้แม่สาวน้อยชมจันทร์วะ”“มึงก็พูดเกินไป กูแค่เบื่อๆ รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้”“แปลกๆ ยังไงวะ อย่าบอกนะว่ามึงกามตายด้านไปแล้ว”“ไม่ใช่แบบนั้นกูมีความรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่”“นี่กูเอาน้องตัวเด็ดให้มึงเลยนะ”“กูรู้ว่าน้องเขาเด็ดแต่มันก็ยังไม่ถึงใจกูอยู่ดี” เขามีความสุขมากก็จริงแต่พอเสร็จกิจความรู้สึกว่างเปล่าก็เข้ามาแทน“มึงนี่เอาใจยากชะมัดเลยวะ ถ้าเบื่อสาวไทยก็ลองไปหาสาวต่างชาติดูสิ”“กูชอบคนไทย”“แล้วเมื่อไหร่มึงจะเจอคนที่รับมึงได้ล่ะ”“มึงก็ย้ำจริงนะว่าจะไม่มีใครรับกูได้ กูว่าต้องมีสักคนแหละที่เซ็กซ์จัดและซาดิสต์แบบกู”“ไอ้มี มันก็มีแต่ป่านนี้เขาคงมีเจ้าของไปแล้ว
“จันทร์ทำอะไรอยู่” เสียงของน้าพิกุลถามในเวลาเช้าหลังจากที่เธอไปทำกับข้าวให้คนงานและกลับมาไม่เห็นลูกเลี้ยง“จันทร์ฉันกำลังจัดห้องอยู่ค่ะ น้าพิกุลน้ามีอะไรจะให้จันทร์ทำหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตะโกนออกมาจากห้องนอน“น้าเอากับข้าวมาให้น่ะ” ปกติแล้วเวลาอยู่คนเดียวพิกุลก็จะทานข้าวที่สวนยางกับคนงาน แต่วันนี้มีชมจันทร์มาอยู่ด้วยเธอก็เลยขอแบ่งกับข้าวมาทานที่บ้านเพราะยังไงกับข้าวก็เหลือทุกวันอยู่แล้ว“น้าพิกุลกินมาหรือยังคะ” ชมจันทร์เปิดเปิดประตูออกมาถาม“ยังเลย น้าว่าจะมากินด้วยกันนี่แหละ จันทร์หุงข้าวแล้วใช่ไหม”“ค่ะ จันทร์หุงข้าวแล้วกำลังว่าจะทำไข่เจียวอยู่เลย เห็นมีแกงไตปลาเหลืออยู่”“ไม่ต้องเจียวไข่หรอก อุ่นแค่แกงไตปลาก็พอน้าเอาคั่วกลิ้งกับแกงเทโพมาจากสวนยางแล้ว”“ขอบคุณค่ะ น้าพิกุลรอแป๊บหนึ่งนะคะจันทร์ขอจัดตรงนี้อีกนิด”“เร็วหน่อยนะเดี๋ยวมีอย่างอื่นต้องไปทำต่อ”เมื่อน้าพิกุลบอกว่ามีธุระชมจันทร์ก็รีบออกมาจากห้องและจัดการอุ่นแกงไตปลา ระหว่างนั้นก็แกะถุงคั่วกลิ้งกับแกงเทโพ และตักข้าวใส่จานไว้รอ พอแกงร้อนก็ตักใส่ชาม ไม่นานทั้งสองก็ทานอาหารเสร็จ“สายๆ น้าว่าจะพาจันทร์เข้าไปในเมืองสักหน่อย”“หมายถึง
เช้าวันจันทร์พิกุลปลุกชมจันทร์ให้ตื่นนอนตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและเตรียมของไปอยู่บ้านนายหัวชาวีหญิงสาวมีกระเป๋าเป้ใบเล็กที่ใส่ของใช้จำเป็นและกระเป๋าเดินทางใบขนาดย่อมที่ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ทั้งหมดไว้ในนั้น“จันทร์เอามอเตอร์ไซค์ไปไว้ที่บ้านนายหัวเลยก็ได้เผื่อมีความจำเป็นจะต้องใช้”“ค่ะ จันทร์ไปก่อนนะคะน้าพิกุล”“จ้ะ อย่าลืมที่น้าบอกนะทำตัวให้ดี ทำตัวให้น่ารักจันทร์มีจุดมุ่งหมายอะไรก็อย่าลืม”“ค่ะน้าพิกุล” ชมจันทร์ขี่จักรยานยนต์คู่ใจมายังบ้านของนายหัวชาวีตั้งแต่ 8 โมงก็เจอกับป้าสมรที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่“สวัสดีค่ะป้า”“อ้าว หนูจันทร์มาแต่เช้าเลยมาทางนี้เดี๋ยวป้าพาไปดูห้องนะ”ป้าสมรรีบพาชมจันทร์เอาของไปเก็บในห้องนอน ซึ่งป้าสมรกับสายรุ้งทำความสะอาดไว้รอแล้ว“ขอบคุณค่ะ ป้าสมรกับพี่รุ้งนอนห้องไหนคะ”“เราสองคนนอนเรือนเล็กหลังบ้าน”“จันทร์ไปนอนที่นั่นก็ได้ค่ะ” ชมจันทร์ไม่อยากให้ป้าสมรกับสายรุ้งรู้สึกว่าเธอมีอภิสิทธิ์เหนือกว่าลูกจ้างคนอื่นๆ“ไม่ได้หรอกจ้ะ นายหัวสั่งให้จันทร์นอนห้องนี้ก็ต้องนอนห้อง นั้น อีกอย่างงานของนายก็ไม่ค่อยเป็นเวลาเผื่อนายจะเรียกใช้งานจะได้ไม่ต้องเดินไปเรียกใ
หัวหน้าคนงานกลับออกไปแล้วตอนนี้ในห้องทำงานจึงเหลือแค่ชมจันทร์กับนายหัวชาวีเขากำลังนั่งอ่านเอกสารทางการเงินอยู่ส่วนเธอก็ได้รับมอบหมายให้จัดเรียงเอกสารใหม่ทั้งหมด ซึ่งดูแล้วน่าจะใช้เวลาหลายวันกว่าเอกสารทุกอย่างจะเรียบร้อยอีกทั้งยังต้องสแกนเอกสารสำคัญต่างๆ จัดเป็นไฟล์ลงคอมพิวเตอร์ซึ่งถือว่างานค่อนข้างหนักเลยทีเดียว“นายหัวคะเอกสารในแฟ้มพวกนี้จันทร์ต้องสแกนแล้วเก็บลงคอมพ์หมดเลยใช่ไหมคะ”“อืม ทำได้ไหมล่ะ”“ทำได้ค่ะแต่จันทร์สงสัยค่ะ ว่าทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้”“มันจะไม่เยอะได้ยังไงล่ะฉันไม่ได้ทำมาตั้งหลายปี”“แล้วนายหัวจะเอาทุกปีเลยเหรอคะ”“เอาแค่สามปีย้อนหลังก็ได้นะ เพราะเกินจากนั้นก็ไม่น่าจะสำคัญอะไร”“งั้นจันทร์ขอคัดเอกสารสามปีก่อนนะคะ แล้วค่อยสแกนทีหลังได้ไหม”“จะทำยังไงก็แล้วแต่ เธอจัดการเลยฉันจะไม่ยุ่ง เธอคิดว่าเอกสารทั้งหมดใช้เวลากี่วันกว่าจะเสร็จ”“การจัดเรียงไม่น่าจะนานค่ะ ส่วนการสแกนก็แล้วแต่ว่าเครื่องของนายหัวใจเร็วไหม”“ฉันเพิ่งนึกได้ว่าเครื่องมันเก่ามากแล้ว เอางี้แล้วกันเธอจัดเรียงเอกสารให้เรียบร้อยก่อน ส่วนเครื่องสแกนเอกสารเดี๋ยวฉันจะซื้อตัวใหม่มาให้”“จะซื้อใหม่เลยเหรอคะจันทร์แ
การสอบวิชาสุดท้ายของนักเรียนสาขาวิชาการบัญชีจบลงในเวลาเที่ยง นักเรียนต่างพากันทยอยออกจากห้อง บางคนยิ้มแย้มเพราะตัวเองทำข้อสอบได้ดี บางคนก็หน้าตาห่อเหี่ยวเพราะทำข้อสอบได้ไม่ดีพอนักเรียนที่ออกมาจากห้องแล้วก็พากันจับกลุ่มคุยถึงเรื่องข้อสอบรวมถึงการเรียนต่อในระดับปวส.หรือบางคนก็อยากจะไปต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยและก็มีบางคนที่หยุดเรียนเพียงแค่นี้ตอนนี้ในห้องสอบเหลือนักเรียนอีกไม่กี่คนและหนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวที่ชื่อชมจันทร์ซึ่งกำลังทำข้อสอบข้อสุดท้ายอย่างตั้งใจ ก่อนจะเก็บดินสอและยางลบบนโต๊ะลงถุงซิปสีใสแล้วลุกขึ้นเพื่อเดินไปส่งกระดาษคำตอบที่อาจารย์คุมสอบหน้าห้อง ชมจันทร์มักจะออกห้องสอบเป็นคนสุดท้ายแบบนี้เสมอ เธออยากทำคะแนนดีๆ เพราะมันจะมีผลกับการขอทุนการศึกษา“ขอโทษนะบิว ปัท” ชมจันทร์บอกเพื่อนทั้งสองคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องสอบทั้งที่ออกมาก่อนหน้าแล้วเกือบ 20 นาที“ไม่เป็นไรเราสองคนชินแล้ว จันทร์ก็ออกห้องสอบคนสุดท้ายตลอดอยู่แล้ว” บิวหรือบุหลันตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง“เราจะไม่ไปฉลองด้วยกันหน่อยเหรอจันทร์อีกนานเลยกว่าจะได้เจอกันอีก” ปัทมาพรหรือปัทถามด้วยความเสียดายเพราะชมจันทร์บอกตั้งแต่เช้าแ
“อิ่มสุดๆ ไปเลยค่ะน้าพิกุล ท้องจันทร์แตกไหมเนี่ย” ชมจันทร์รวบช้อนกับส้อมก่อนจะนั่งพิงพนักเก้าอี้และเอามือลูบท้องของตนเองที่ตอนนี้ป่องออกมานิดๆ เพราะทานขนมจีนแกงไตปลาฝีมือน้าพิกุลไปถึงสองจาน“เดี๋ยวกินเสร็จแล้วจันทร์ช่วยเอาแกงไตปลาไปให้นายหัวชาวีได้ไหม”“นายหัวชาวีที่อยู่ถัดจากบ้านเราไปเหรอคะน้า”“ใช่จ้ะ จันทร์เคยไปบ้านหลังนั้นใช่ไหม”“ค่ะ จันทร์เคยไปแต่ก็นานแล้วตั้งแต่สมัยพ่อของคุณนายหัวชาวียังอยู่ แต่พอท่านเสียจันทร์ก็ไม่ค่อยได้ไปบ้านหลังนั้นเท่าไหร่ค่ะ แล้วทำไมเราต้องเอาไปให้เขาด้วยล่ะคะ” ชมจันทร์ไม่เข้าใจเพราะเท่าที่รู้มาบ้านหลังนั้นก็มีแม่ครัวอยู่แล้ว“นายหัวชาวีเขาก็ชอบกินแกงไตปลาเหมือนกันเมื่อตอนกลางวันน้าคุยกับแม่ครัวอีกคนว่าจะรีบกลับมาทำแกงไตปลา พอนายหัวได้ยินเขาก็บอกว่าเขาเองก็ชอบกินน้าก็เลยทำเผื่อ”น้าพิกุลของชมจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวให้คนงานในสวนยางของนายหัวชาวีส่วนบิดาของเธอก็เป็นคนขับรถส่งน้ำยางและปาล์มให้กับสวนของนายหัวมาตั้งแต่เธอจำความได้“ได้ค่ะเดี๋ยวจันทร์เอาไปให้เองค่ะ น้าพิกุลคะจันทร์ฉันลืมไปเลยค่ะ น้าบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับจันทร์เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องบ้านกับสวนยางข
หัวหน้าคนงานกลับออกไปแล้วตอนนี้ในห้องทำงานจึงเหลือแค่ชมจันทร์กับนายหัวชาวีเขากำลังนั่งอ่านเอกสารทางการเงินอยู่ส่วนเธอก็ได้รับมอบหมายให้จัดเรียงเอกสารใหม่ทั้งหมด ซึ่งดูแล้วน่าจะใช้เวลาหลายวันกว่าเอกสารทุกอย่างจะเรียบร้อยอีกทั้งยังต้องสแกนเอกสารสำคัญต่างๆ จัดเป็นไฟล์ลงคอมพิวเตอร์ซึ่งถือว่างานค่อนข้างหนักเลยทีเดียว“นายหัวคะเอกสารในแฟ้มพวกนี้จันทร์ต้องสแกนแล้วเก็บลงคอมพ์หมดเลยใช่ไหมคะ”“อืม ทำได้ไหมล่ะ”“ทำได้ค่ะแต่จันทร์สงสัยค่ะ ว่าทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้”“มันจะไม่เยอะได้ยังไงล่ะฉันไม่ได้ทำมาตั้งหลายปี”“แล้วนายหัวจะเอาทุกปีเลยเหรอคะ”“เอาแค่สามปีย้อนหลังก็ได้นะ เพราะเกินจากนั้นก็ไม่น่าจะสำคัญอะไร”“งั้นจันทร์ขอคัดเอกสารสามปีก่อนนะคะ แล้วค่อยสแกนทีหลังได้ไหม”“จะทำยังไงก็แล้วแต่ เธอจัดการเลยฉันจะไม่ยุ่ง เธอคิดว่าเอกสารทั้งหมดใช้เวลากี่วันกว่าจะเสร็จ”“การจัดเรียงไม่น่าจะนานค่ะ ส่วนการสแกนก็แล้วแต่ว่าเครื่องของนายหัวใจเร็วไหม”“ฉันเพิ่งนึกได้ว่าเครื่องมันเก่ามากแล้ว เอางี้แล้วกันเธอจัดเรียงเอกสารให้เรียบร้อยก่อน ส่วนเครื่องสแกนเอกสารเดี๋ยวฉันจะซื้อตัวใหม่มาให้”“จะซื้อใหม่เลยเหรอคะจันทร์แ
เช้าวันจันทร์พิกุลปลุกชมจันทร์ให้ตื่นนอนตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและเตรียมของไปอยู่บ้านนายหัวชาวีหญิงสาวมีกระเป๋าเป้ใบเล็กที่ใส่ของใช้จำเป็นและกระเป๋าเดินทางใบขนาดย่อมที่ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ทั้งหมดไว้ในนั้น“จันทร์เอามอเตอร์ไซค์ไปไว้ที่บ้านนายหัวเลยก็ได้เผื่อมีความจำเป็นจะต้องใช้”“ค่ะ จันทร์ไปก่อนนะคะน้าพิกุล”“จ้ะ อย่าลืมที่น้าบอกนะทำตัวให้ดี ทำตัวให้น่ารักจันทร์มีจุดมุ่งหมายอะไรก็อย่าลืม”“ค่ะน้าพิกุล” ชมจันทร์ขี่จักรยานยนต์คู่ใจมายังบ้านของนายหัวชาวีตั้งแต่ 8 โมงก็เจอกับป้าสมรที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่“สวัสดีค่ะป้า”“อ้าว หนูจันทร์มาแต่เช้าเลยมาทางนี้เดี๋ยวป้าพาไปดูห้องนะ”ป้าสมรรีบพาชมจันทร์เอาของไปเก็บในห้องนอน ซึ่งป้าสมรกับสายรุ้งทำความสะอาดไว้รอแล้ว“ขอบคุณค่ะ ป้าสมรกับพี่รุ้งนอนห้องไหนคะ”“เราสองคนนอนเรือนเล็กหลังบ้าน”“จันทร์ไปนอนที่นั่นก็ได้ค่ะ” ชมจันทร์ไม่อยากให้ป้าสมรกับสายรุ้งรู้สึกว่าเธอมีอภิสิทธิ์เหนือกว่าลูกจ้างคนอื่นๆ“ไม่ได้หรอกจ้ะ นายหัวสั่งให้จันทร์นอนห้องนี้ก็ต้องนอนห้อง นั้น อีกอย่างงานของนายก็ไม่ค่อยเป็นเวลาเผื่อนายจะเรียกใช้งานจะได้ไม่ต้องเดินไปเรียกใ
“จันทร์ทำอะไรอยู่” เสียงของน้าพิกุลถามในเวลาเช้าหลังจากที่เธอไปทำกับข้าวให้คนงานและกลับมาไม่เห็นลูกเลี้ยง“จันทร์ฉันกำลังจัดห้องอยู่ค่ะ น้าพิกุลน้ามีอะไรจะให้จันทร์ทำหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตะโกนออกมาจากห้องนอน“น้าเอากับข้าวมาให้น่ะ” ปกติแล้วเวลาอยู่คนเดียวพิกุลก็จะทานข้าวที่สวนยางกับคนงาน แต่วันนี้มีชมจันทร์มาอยู่ด้วยเธอก็เลยขอแบ่งกับข้าวมาทานที่บ้านเพราะยังไงกับข้าวก็เหลือทุกวันอยู่แล้ว“น้าพิกุลกินมาหรือยังคะ” ชมจันทร์เปิดเปิดประตูออกมาถาม“ยังเลย น้าว่าจะมากินด้วยกันนี่แหละ จันทร์หุงข้าวแล้วใช่ไหม”“ค่ะ จันทร์หุงข้าวแล้วกำลังว่าจะทำไข่เจียวอยู่เลย เห็นมีแกงไตปลาเหลืออยู่”“ไม่ต้องเจียวไข่หรอก อุ่นแค่แกงไตปลาก็พอน้าเอาคั่วกลิ้งกับแกงเทโพมาจากสวนยางแล้ว”“ขอบคุณค่ะ น้าพิกุลรอแป๊บหนึ่งนะคะจันทร์ขอจัดตรงนี้อีกนิด”“เร็วหน่อยนะเดี๋ยวมีอย่างอื่นต้องไปทำต่อ”เมื่อน้าพิกุลบอกว่ามีธุระชมจันทร์ก็รีบออกมาจากห้องและจัดการอุ่นแกงไตปลา ระหว่างนั้นก็แกะถุงคั่วกลิ้งกับแกงเทโพ และตักข้าวใส่จานไว้รอ พอแกงร้อนก็ตักใส่ชาม ไม่นานทั้งสองก็ทานอาหารเสร็จ“สายๆ น้าว่าจะพาจันทร์เข้าไปในเมืองสักหน่อย”“หมายถึง
“สบายตัวไหมล่ะมึง” สารินทร์แซวเพื่อนเมื่อเห็นเขาเดินมาจากชั้นสอง“อืม”“ไม่ค้างที่นี่เหรอวะ นี่มันดึกแล้วนะ” เขาถามเพราะตอนนี้ผับปิดแล้ว ขณะตนเองกำลังนั่งดื่มอยู่ตามลำพัง ส่วนหญิงสาวที่นอนอยู่ในห้องนั้นเดี๋ยวก็จะมีคนของเขาพาออกไปทางด้านหลังของผับ“ไม่ล่ะพรุ่งนี้ว่าจะเข้าไปดูคนงานในสวนสักหน่อย ไปถึงก็น่าจะเช้าพอดี”“มีงานหรือมีใคร มึงนี่แปลกนะปกติเข้ามาในเมืองมึงต้องปล่อยจนน้ำแทบหมดตัวแต่นี่กูว่ามึงยังไปต่อได้อีก หรือกะจะเก็บไว้ให้แม่สาวน้อยชมจันทร์วะ”“มึงก็พูดเกินไป กูแค่เบื่อๆ รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้”“แปลกๆ ยังไงวะ อย่าบอกนะว่ามึงกามตายด้านไปแล้ว”“ไม่ใช่แบบนั้นกูมีความรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่”“นี่กูเอาน้องตัวเด็ดให้มึงเลยนะ”“กูรู้ว่าน้องเขาเด็ดแต่มันก็ยังไม่ถึงใจกูอยู่ดี” เขามีความสุขมากก็จริงแต่พอเสร็จกิจความรู้สึกว่างเปล่าก็เข้ามาแทน“มึงนี่เอาใจยากชะมัดเลยวะ ถ้าเบื่อสาวไทยก็ลองไปหาสาวต่างชาติดูสิ”“กูชอบคนไทย”“แล้วเมื่อไหร่มึงจะเจอคนที่รับมึงได้ล่ะ”“มึงก็ย้ำจริงนะว่าจะไม่มีใครรับกูได้ กูว่าต้องมีสักคนแหละที่เซ็กซ์จัดและซาดิสต์แบบกู”“ไอ้มี มันก็มีแต่ป่านนี้เขาคงมีเจ้าของไปแล้ว
เมื่อสารินทร์และบริกรลงไปชั้นล่างแล้วชาวีก็เรียกหญิงสาวเข้ามานั่งใกล้ๆ“ชื่ออะไร”“หนูชื่อหลินค่ะ คุณล่ะคะ”“เรียกฉันว่านายหัวก็พอ”“ค่ะนายหัว” หญิงสาวเทเหล้าให้กับนายหัวชาวีดื่มอีกแล้วจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและลากเธอไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านหลังสุดซึ่งเป็นห้องที่มีไว้บริการแขกที่ไม่อยากออกไปต่อข้างนอกเมื่อประตูห้องปิดลงนายหัวหนุ่มก็ดันร่างเธอให้ชิดกับผนังห้องแล้วรีบประกบจูบลงไปทันที ทำเอาหญิงสาวตั้งตัวแทบไม่ทันแต่เธอก็จูบกลับเพราะอยากให้เขาประทับใจกับการบริการครั้งแรก“อืม...นายหัวขาใจเย็นๆ สิคะ”หญิงสาวอ้อนเสียงหวานเมื่อเขาผละจูบออกแต่เขาก็ประกบจูบลงมาอีกครั้งโดยไม่คิดจะฟังเธอเลยสักนิด เขาถอดชุดสายเดี๋ยวของเธอออกอย่ารวดเร็วก่อนจะโยนมันไปกองที่พื้น มือหนาบีบเคล้นหน้าอกของหญิงสาวอย่างไม่ปรานี หลินทั้งเจ็บและเสียวซ่านแต่เธอก็สู้ไม่ถอยเพราะคนที่เคยนอนกับเขาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าถึงแม่จะเจ็บกายแต่เขาก็จ่ายให้อย่างคุ้มค่า เธอหวังว่าวันนี้จะทำให้เขามีความสุขและเรียกใช้บริการเธออีกเมื่อเหล้าเข้าปากชาวีก็มักจะคุมตนเองไม่ได้เขาจูบอย่างหนักหน่วงจนหญิงสาวปากบวมเจ่อก่อนจะลากปลายลิ้นร้อนมายังซอกคอขบ
เมื่อวางสายจากน้าพิกุลแล้วชาวีก็นั่งทำงานต่อแต่เขาไม่มีสมาธิทำงานเลยเมื่อนึกถึงใบหน้าเนียนสวยดวงตากลมโตของหญิงสาวที่ชื่อชมจันทร์เขาชอบนอนกับผู้หญิงสวยๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่เคยพาใครมานอนที่บ้านเพราะไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวาย แต่เมื่อตกลงจ่ายเงินกับน้าพิกุลไปถึงสามแสนเขาก็จะใช้งานชมจันทร์ให้คุ้มทั้งงานเอกสารและงานบนเตียงระยะเวลาสามเดือนที่หญิงสาวปิดเทอมเขาจะตักตวงทุกอย่างให้มากที่สุดก่อนที่จะปล่อยเธอให้เป็นอิสระชาวีไม่เคยคบใครนานและเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เพราะไม่เคยมีใครทำให้เขามีความสุขจนอยากจะหยุด ชายหนุ่มเป็นคนเบื่อง่ายแต่ก็ใช่ว่าไม่เคยอยากมีครอบครัวเขาเคยมีแฟนที่คบกันมานานแต่เธอก็ทนอยู่กับเขาไม่ได้เพราะบางครั้งเรื่องบนเตียงของเขามันก็เกินกว่าผู้หญิงจะรับไหวชาวีเก็บเอกสารทุกอย่างลงลิ้นชักจากนั้นล็อกกุญแจก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงาน“นายหัวจะไปไหนคะ” ป้าสมรที่นั่งดูทีวีอยู่ถามเจ้านายเพราะปกติแล้วเวลานี้เจ้านายจะไม่ออกมาจากห้องทำงานเลย“ฉันจะเข้าไปในเมืองหน่อยนะป้าสมรฝากดูแลบ้านด้วยนะ พรุ่งนี้ให้คนมาทำความสะอาดห้องที่อยู่ตรงข้ามห้องฉันด้วย”“ได้ค่ะ” ป้าสมรรับปากโดยไม่ถามว่าเขาจะให้ใ
หลังจากทานแกงไตปลากับขนมจีนอิ่มแล้วนายหัวชาวีก็กลับมาในห้องทำงานของตนเองอีกครั้ง เขานั่งตรวจเอกสารต่างๆ ที่มีทั้งบัญชีรายรับ รายจ่ายของสวนยาง สวนปาล์มและโรงงานแปรรูปยางพาราขนาดเล็กที่เขากับเพื่อนร่วมกันลงทุนก็รับซื้อน้ำยางจากชาวบ้านมาแปรรูปส่งบริษัทใหญ่อีกทีชาวีมองโฉนดที่ดินที่บิดาของชมจันทร์เอามาจำนองแล้วก็ถอนหายใจเพราะจำนวนเงินที่เขาออกไปนั้นมากกว่ามูลค่าของที่ดินอยู่มาก เขาคุยเรื่องนี้กับน้าพิกุลแล้ว เธอยื่นข้อเสนอให้หลานสาวมาทำงานกับเขาเพื่อเป็นการใช้หนี้ ซึ่งชาวียังไม่ตอบตกลงเพราะไม่รู้ว่าหลานสาวของน้าพิกุลจะสวยสมกับราคาคุยหรือเปล่าแต่เมื่อเขา ได้เจอเธอก็รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปน่าจะคุ้มชายหนุ่มโทรศัพท์ไปหาน้าพิกุลเพื่อคุยถึงข้อตกลงทันทีเพราะกลัวว่าถ้าตนเองไม่รับข้อเสนอน้าพิกุลจะพาเธอไปขายให้คนอื่น“ว่าไงคะนายหัว เจอชมจันทร์ของพิกุลแล้วใช่ไหม”“อืม ฉันเจอแล้ว”“เป็นไงคะสวยถูกใจนายหัวไหม”“ก็สวยดีนะแต่เหมือนว่าเด็กนั่นจะไม่รู้ว่านอกจากจะมาทำงานเอกสารแล้วเธอต้องทำอย่างอื่นด้วย”“รู้สิคะ แต่ใครจะกล้าพูดกันตรงๆ ล่ะ เด็กมันไม่เคยมันก็ต้องไว้ท่าทีกันหน่อย”“แน่ใจนะว่าไม่ได้ย้อมแมวขาย”
ระหว่างที่น้าพิกุลไปเตรียมแกงไตปลาให้นายหัวชาวี ชมจันทร์ก็เดินไปหลังบ้านเพื่อเอารถจักรยานยนต์ของตนเองออกมาเตรียมไว้ แม้ว่าบ้านของนายหัวชาวีจะอยู่ติดกับบ้านของเธอแต่ระยะทางก็ไกลพอสมควรเพราะบ้านของเขาอยู่ลึกเข้าไปจากถนนอีกฝั่งซึ่งถ้าเดินไปก็คงจะเหนื่อยกว่าจะถึง“อย่าลืมนะจันทร์ว่าเรามีภารกิจสำคัญคือจะต้องทำให้นายหัวสนใจ” พิกุลบอกกับลูกเลี้ยงที่สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ชมจันทร์พยักหน้าให้กับน้าพิกุลก่อนจะรับปิ่นโตและขี่จักรยานยนต์คู่ใจออกไปยังบ้านของนายหัวชาวีหญิงสาวเคยเจอนายหัวชาวีครั้งสุดท้ายก็หลายปีแล้วเธอไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ก่อนก็เคยแอบชอบเขาอยู่หรอกแต่พอได้ยินว่าเขาเจ้าชู้และเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้าเธอก็เลยไม่ได้ติดตามเรื่องราวของเขาอีกเลยบ้านของนายหัวชาวีเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงมีบริเวณรอบๆ บ้านค่อนข้างกว้าง หญิงสาวจอดรถจักรยานยนต์บริเวณด้านหน้าก่อนจะตะโกนเรียกเจ้าของบ้าน“นายหัวชาวีอยู่ไหมคะ นายหัวคะน้าพิกุลให้จันทร์เอาแกงไตปลามาให้ค่ะ” หญิงสาวตะโกนอยู่ด้านล่างสักพักก็มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินออกมา“ใครละนั่น”“สวัสดีค่ะป้าสมรจันทร์เอง”“อ้าวหนูจันทร์หรอกเหรอ มา
“อิ่มสุดๆ ไปเลยค่ะน้าพิกุล ท้องจันทร์แตกไหมเนี่ย” ชมจันทร์รวบช้อนกับส้อมก่อนจะนั่งพิงพนักเก้าอี้และเอามือลูบท้องของตนเองที่ตอนนี้ป่องออกมานิดๆ เพราะทานขนมจีนแกงไตปลาฝีมือน้าพิกุลไปถึงสองจาน“เดี๋ยวกินเสร็จแล้วจันทร์ช่วยเอาแกงไตปลาไปให้นายหัวชาวีได้ไหม”“นายหัวชาวีที่อยู่ถัดจากบ้านเราไปเหรอคะน้า”“ใช่จ้ะ จันทร์เคยไปบ้านหลังนั้นใช่ไหม”“ค่ะ จันทร์เคยไปแต่ก็นานแล้วตั้งแต่สมัยพ่อของคุณนายหัวชาวียังอยู่ แต่พอท่านเสียจันทร์ก็ไม่ค่อยได้ไปบ้านหลังนั้นเท่าไหร่ค่ะ แล้วทำไมเราต้องเอาไปให้เขาด้วยล่ะคะ” ชมจันทร์ไม่เข้าใจเพราะเท่าที่รู้มาบ้านหลังนั้นก็มีแม่ครัวอยู่แล้ว“นายหัวชาวีเขาก็ชอบกินแกงไตปลาเหมือนกันเมื่อตอนกลางวันน้าคุยกับแม่ครัวอีกคนว่าจะรีบกลับมาทำแกงไตปลา พอนายหัวได้ยินเขาก็บอกว่าเขาเองก็ชอบกินน้าก็เลยทำเผื่อ”น้าพิกุลของชมจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวให้คนงานในสวนยางของนายหัวชาวีส่วนบิดาของเธอก็เป็นคนขับรถส่งน้ำยางและปาล์มให้กับสวนของนายหัวมาตั้งแต่เธอจำความได้“ได้ค่ะเดี๋ยวจันทร์เอาไปให้เองค่ะ น้าพิกุลคะจันทร์ฉันลืมไปเลยค่ะ น้าบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับจันทร์เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องบ้านกับสวนยางข