“จันทร์ทำอะไรอยู่” เสียงของน้าพิกุลถามในเวลาเช้าหลังจากที่เธอไปทำกับข้าวให้คนงานและกลับมาไม่เห็นลูกเลี้ยง
“จันทร์ฉันกำลังจัดห้องอยู่ค่ะ น้าพิกุลน้ามีอะไรจะให้จันทร์ทำหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตะโกนออกมาจากห้องนอน
“น้าเอากับข้าวมาให้น่ะ” ปกติแล้วเวลาอยู่คนเดียวพิกุลก็จะทานข้าวที่สวนยางกับคนงาน แต่วันนี้มีชมจันทร์มาอยู่ด้วยเธอก็เลยขอแบ่งกับข้าวมาทานที่บ้านเพราะยังไงกับข้าวก็เหลือทุกวันอยู่แล้ว
“น้าพิกุลกินมาหรือยังคะ” ชมจันทร์เปิดเปิดประตูออกมาถาม
“ยังเลย น้าว่าจะมากินด้วยกันนี่แหละ จันทร์หุงข้าวแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ จันทร์หุงข้าวแล้วกำลังว่าจะทำไข่เจียวอยู่เลย เห็นมีแกงไตปลาเหลืออยู่”
“ไม่ต้องเจียวไข่หรอก อุ่นแค่แกงไตปลาก็พอน้าเอาคั่วกลิ้งกับแกงเทโพมาจากสวนยางแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ น้าพิกุลรอแป๊บหนึ่งนะคะจันทร์ขอจัดตรงนี้อีกนิด”
“เร็วหน่อยนะเดี๋ยวมีอย่างอื่นต้องไปทำต่อ”
เมื่อน้าพิกุลบอกว่ามีธุระชมจันทร์ก็รีบออกมาจากห้องและจัดการอุ่นแกงไตปลา ระหว่างนั้นก็แกะถุงคั่วกลิ้งกับแกงเทโพ และตักข้าวใส่จานไว้รอ พอแกงร้อนก็ตักใส่ชาม ไม่นานทั้งสองก็ทานอาหารเสร็จ
“สายๆ น้าว่าจะพาจันทร์เข้าไปในเมืองสักหน่อย”
“หมายถึงตัวอำเภอใช่ไหมคะ” คำว่าในเมืองของคนที่นี่มีได้สองอย่างคือตัวอำเภอกับตัวจังหวัดซึ่งถ้าเป็นตัวจังหวัดก็ต้องใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง
“ตัวอำเภอจ้ะ เดี๋ยวเราไปขึ้นรถสองแถวแล้วไปด้วยกัน”
“น้าพิกุลจะไปซื้อของใช้เหรอคะ”
“เปล่าหรอกน้าจะไปซื้อของให้เรานั่นแหละ”
“ของอะไรคะ”
“ของที่ต้องเตรียมไว้เวลาไปอยู่บ้านนายหัว”
“ไม่เห็นต้องเตรียมอะไรเลยจันทร์เอาของที่กลับมาจากหอก็ได้ค่ะ”
“ต้องเตรียมสิอย่าลืมนะว่าเราไปครั้งนี้เราไม่ใช่ไปทำงานเอกสารอย่างเดียว” พิกุลย้ำให้เด็กสาวเข้าใจถึงภารกิจที่ตัวเองจะต้องทำอีกครั้ง
ชมจันทร์ไม่ชอบการกระทำแบบนี้เลยแต่หญิงสาวก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเธอกลัวอิทธิพลของนายหัวชาวีอีกครั้งก็ยังอยากรู้เรื่องมารดาของตนมากจนต้องยอมทำตามที่น้าพิกุลบอกทุกอย่าง
ทั้งสองคนนั่งรถสองแถวประมาณ 45 นาทีก็มาถึงตัวอำเภอซึ่งมีห้างสรรพสินค้าสาขาเล็กๆ มาเปิดอยู่
“น้าพิกุลจะซื้ออะไรบ้างคะ”
“ของใช้เดี๋ยวเราค่อยซื้อก่อนกลับก็ได้จะได้ไม่ต้องถือให้หนักน้าว่าเราไปซื้อเสื้อผ้ากันก่อนดีไหม”
ชมจันทร์ขี้เกียจจะถามว่าทำไมจะต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่เธอก็เลยเดินตามน้าพิกุลไปยังร้านขายชุดชั้นในและชุดนอน
“โอ้โห แบบนี้มันเซ็กซี่เกินไปหรือเปล่าใครจะกล้าใส่กันคะ”
“กล้าไม่กล้าเราก็ต้องใส่นะจันทร์”
“แบบนี้วัยรุ่นเขาฮิตใส่กันค่ะ”
“แต่มันโป๊ะมากเลย”
“ชุดชั้นในมันอยู่ข้างในไม่มีใครเห็นหรอกค่ะ” น้องพนักงานรีบอธิบายเมื่อเห็นสีหน้าชมจันทร์ว่าไม่ค่อยชอบชุดเท่าไหร่
“มันก็จริงนะคะ ชุดมันอยู่ข้างในแล้วทำไมเราจะต้องใส่แบบเซ็กซี่ด้วยเหรอคะชมจันทร์หันมาถามน้าพิกุล”
“จันทร์คิดว่าถ้าแต่งตัวกะโปโล ใส่ชุดชั้นในเก่าๆ แล้วนายหัวเขาจะชอบหรือไง อย่าลืมนะเรามีเวลาแค่สามเดือนเอง จากนั้นจันทร์ก็ต้องกลับไปเรียนแล้ว จะเอาตังค์ที่ไหนเรียนล่ะถ้าไม่ได้นายหัว” พิกุลกระซิบให้พอได้กันแค่สองคน
“แต่มันเซ็กซี่เกินไปนี่คะ”
“ใส่ไปเถอะอีกสักพักก็ชิน”
“แล้วน้าพิกุลเอาเงินที่ไหนมาซื้อคะ”
“น้าเบิกเงินเดือนล่วงหน้ามาจากนายหัวนะ” พิกุลโกหกลูกเลี้ยงทั้งที่จริงแล้วเธอได้เงินมาจากไหนหัวก้อนแรกหนึ่งแสนบาทและนายหัวจะให้เธออีกก้อนในวันที่เธอไปจากที่นี่
พิกุลเลือกชุดนอนสายเดี่ยวผ้าซาตินแบบกระโปรงเหนือเข่าให้กับชมจันทร์สามชุดและชุดนอนกางเกงขาสั้นกับเสื้อสายเดี่ยวอีกสองชุดไว้ใส่สลับกัน
ส่วนชุดชั้นในที่เธอเลือกให้ก็เป็นจีสตริงลายลูกไม้มีทั้งสีขาวสีแดงสีดำรวมๆ แล้วก็ 10 กว่าชุด บราเซียร์ก็มีทั้งแบบเกาะอกแบบถอดสายได้ทุกอย่างรวมๆ แล้วไม่ต่ำกว่าอย่างละ 10 ชิ้น
“แค่นี้ใช่ไหมคะที่เราต้องซื้อ” ชมจันทร์มองถุงในมือด้วยความเสียดายเงินเพราะจ่ายไปไม่น้อยเลย
“จันทร์ต้องเลือกเสื้อผ้าที่ใส่อยู่บ้านด้วย”
“ใส่แบบเดิมไม่ได้เหรอคะจันทร์ฉันเสียดายตังค์”
“ต้องเสียดายตังค์หรอกนะเราจะทำงานใหญ่มันก็ต้องลงทุนกันหน่อย” น้าพิกุลพาชมจันทร์ไปเลือกเสื้อผ้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสื้อแขนกุดกางเกงขาสั้นหรือไม่ก็เดรสแขนกุดเหนือเข่าเผื่อเวลานายหัวจะพาออกไปข้างนอก
ชมจันทร์ขอเลือกเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาวอีกสองสามตัวโดยให้เหตุผลว่าเผื่อจะตามนายหัวออกไปทำงานข้างนอกบ้านซึ่งน้าพิกุลก็ตามใจและยังแถมชุดสำหรับใส่เที่ยวกลางคืนให้อีกสองชุดเพราะรู้ว่านายหัวชอบเข้าไปเที่ยวกลางคืนในเมือง
“เราต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ”
“ต้องทำให้ถึงสิเพราะนายหัวเจอผู้หญิงมามากน้ากลัวว่าเราจะเอาเขาไม่อยู่”
หลังจากได้เสื้อผ้าแล้วน้าพิกุลก็ชวนเธอไปซื้อรองเท้าแต่ชมจันทร์ปฏิเสธเพราะเธอมีรองเท้าผ้าใบคู่ใหม่ที่เพิ่งซื้อมากับรองเท้าสวมแบบสานที่ไม่ได้เก่ามาก
“งั้นก็ตามใจนะเดี๋ยวเราไปซื้อพวกครีมบำรุงผิวกันต่อ”
“ครีมบำรุงผิวจันทร์มีแล้วค่ะ พี่ชายของเพื่อนเพิ่งเอามาฝากยี่ห้อดีเหมือนกัน”
“ถ้างั้นก็ไปซื้อลิปสติกกับน้ำหอม”
“พวกเครื่องสำอางกับครีมทาผิวพวกนี้นะพิกุลไม่ต้องซื้อให้จันทร์หรอกค่ะ จันทร์มีของที่ใช้ประจำอยู่แล้ว”
“แล้วน้ำหอมล่ะจันทร์ใช้น้ำหอมหรือเปล่า” เพราะอยากให้ชมจันทร์ประทับใจนายหัวเธอเลยเตรียมทุกอย่างให้เต็มที่
“จันทร์ใช้น้ำหอมตามตลาดนัดค่ะ”
“แบบนั้นกลิ่นมันจะติดทนได้ยังไง น้าจะพาไป ซื้อเอาที่มันดีๆหน่อยแต่”
“มันแพงนะคะน้าขวดหนึ่งตั้งเป็นพันเลย”
“ไม่แพงหรอกมันมีหลายขนาด น้าได้ยินพวกสาวๆ ในสวนยางคุยกันว่าร้านไหนขายของถูกตามน้ามาทางนี้”
ชมจันทร์อยากจะปฏิเสธแต่เห็นท่าทางตั้งใจของน้าพิกุลแล้วก็เลยเดินตามไปที่ร้านขายน้ำหอมพนักงานเอาน้ำหอมแต่ละกลิ่นมาให้หญิงสาวเลือก ชมจันทร์เลือกกลิ่นที่ไม่ฉุนเท่าไหร่แต่น้าพิกุลบอกว่ากินนั้นมันดูเด็กไปจึงเสนออีกกลิ่นหนึ่งที่คนขายแนะนำว่าเป็นกลิ่นที่กระตุ้นอารมณ์ของผู้ชายได้เป็นอย่างดี
“มันจะน่าเกลียดเกินไปหรือเปล่าคะ” ชมจันทร์ไม่อยากใช้น้ำหอมกลิ่นที่พนักงานเสนอเลย
“ไม่น่าเกลียดหรอกน่าเราใช้นิดเดียวก็พอ”
“จริงค่ะ กลิ่นนี้ดีมากเขาเรียกน้ำหอมจอมยั่วค่ะ”
“จำไว้นะจันทร์เราต้องแต่งตัวให้ดูดีเสมอเสื้อผ้าหน้าผมต้องพร้อมตื่นเช้ามาก็ต้องรีบอาบน้ำแต่งตัวให้สะอาดสะอ้านอย่าปล่อยให้ตัวเองมีกลิ่นอับเด็ดขาด”
“แหมน้าก็พูดเกินไป ปกติจันทร์ก็อาบน้ำเช้าเย็นอยู่แล้ว”
“น้ารู้ว่าเราอาบน้ำเช้าเย็นแต่ก็ควรจะรักษาจุดซ่อนเร้นด้วยให้มันสะอาดที่สุด”
“เดี๋ยวน้าจะพาไปซื้อสเปรย์ฉีดจุดซ่อนเร้นด้วยนะ ฉีดแล้วจะช่วยดับกลิ่นอับได้แถมยังมีรสชาติด้วย”
“ไม่เอาหรอกค่ะแบบนั้นมันอันตราย”
“อันตรายที่ไหนล่ะน้าได้ยินมาว่ายี่ห้อนี้หมอเขาเป็นคนแนะนำด้วยนะ” พิกุลรู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยคุยกับเจ๊อ้วนเจ้าของผับที่มีสาวๆ มาคอยบริการหนุ่มๆ เขาเล่าให้ฟังว่าสเปรย์พวกเวลาฉีดจุดซ่อนเร้นแล้วจะทำให้กลิ่นหอมอีกทั้งยังมีรสชาติที่หวานทำให้ผู้ชายได้กลิ่นก็จะหลงใหลอีกด้วย
“ก็ได้ค่ะ” ชมจันทร์ไม่ปฏิเสธแต่เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะไม่ใช้ผลิตภัณฑ์พวกนี้อย่างเด็ดขาดเพราะมันจงใจจนเกินไปอีกอย่างเธอก็ไม่รู้ว่ามันอาจจะอันตรายหรือเปล่าแค่ใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้นมันก็น่าจะพอแล้ว หญิงสาวได้แต่คิดในใจเพราะรู้ว่าปฏิเสธไปน้าพิกุลก็ไม่ยอมอยู่ดี
เช้าวันจันทร์พิกุลปลุกชมจันทร์ให้ตื่นนอนตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและเตรียมของไปอยู่บ้านนายหัวชาวีหญิงสาวมีกระเป๋าเป้ใบเล็กที่ใส่ของใช้จำเป็นและกระเป๋าเดินทางใบขนาดย่อมที่ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ทั้งหมดไว้ในนั้น“จันทร์เอามอเตอร์ไซค์ไปไว้ที่บ้านนายหัวเลยก็ได้เผื่อมีความจำเป็นจะต้องใช้”“ค่ะ จันทร์ไปก่อนนะคะน้าพิกุล”“จ้ะ อย่าลืมที่น้าบอกนะทำตัวให้ดี ทำตัวให้น่ารักจันทร์มีจุดมุ่งหมายอะไรก็อย่าลืม”“ค่ะน้าพิกุล” ชมจันทร์ขี่จักรยานยนต์คู่ใจมายังบ้านของนายหัวชาวีตั้งแต่ 8 โมงก็เจอกับป้าสมรที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่“สวัสดีค่ะป้า”“อ้าว หนูจันทร์มาแต่เช้าเลยมาทางนี้เดี๋ยวป้าพาไปดูห้องนะ”ป้าสมรรีบพาชมจันทร์เอาของไปเก็บในห้องนอน ซึ่งป้าสมรกับสายรุ้งทำความสะอาดไว้รอแล้ว“ขอบคุณค่ะ ป้าสมรกับพี่รุ้งนอนห้องไหนคะ”“เราสองคนนอนเรือนเล็กหลังบ้าน”“จันทร์ไปนอนที่นั่นก็ได้ค่ะ” ชมจันทร์ไม่อยากให้ป้าสมรกับสายรุ้งรู้สึกว่าเธอมีอภิสิทธิ์เหนือกว่าลูกจ้างคนอื่นๆ“ไม่ได้หรอกจ้ะ นายหัวสั่งให้จันทร์นอนห้องนี้ก็ต้องนอนห้อง นั้น อีกอย่างงานของนายก็ไม่ค่อยเป็นเวลาเผื่อนายจะเรียกใช้งานจะได้ไม่ต้องเดินไปเรียกใ
หัวหน้าคนงานกลับออกไปแล้วตอนนี้ในห้องทำงานจึงเหลือแค่ชมจันทร์กับนายหัวชาวีเขากำลังนั่งอ่านเอกสารทางการเงินอยู่ส่วนเธอก็ได้รับมอบหมายให้จัดเรียงเอกสารใหม่ทั้งหมด ซึ่งดูแล้วน่าจะใช้เวลาหลายวันกว่าเอกสารทุกอย่างจะเรียบร้อยอีกทั้งยังต้องสแกนเอกสารสำคัญต่างๆ จัดเป็นไฟล์ลงคอมพิวเตอร์ซึ่งถือว่างานค่อนข้างหนักเลยทีเดียว“นายหัวคะเอกสารในแฟ้มพวกนี้จันทร์ต้องสแกนแล้วเก็บลงคอมพ์หมดเลยใช่ไหมคะ”“อืม ทำได้ไหมล่ะ”“ทำได้ค่ะแต่จันทร์สงสัยค่ะ ว่าทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้”“มันจะไม่เยอะได้ยังไงล่ะฉันไม่ได้ทำมาตั้งหลายปี”“แล้วนายหัวจะเอาทุกปีเลยเหรอคะ”“เอาแค่สามปีย้อนหลังก็ได้นะ เพราะเกินจากนั้นก็ไม่น่าจะสำคัญอะไร”“งั้นจันทร์ขอคัดเอกสารสามปีก่อนนะคะ แล้วค่อยสแกนทีหลังได้ไหม”“จะทำยังไงก็แล้วแต่ เธอจัดการเลยฉันจะไม่ยุ่ง เธอคิดว่าเอกสารทั้งหมดใช้เวลากี่วันกว่าจะเสร็จ”“การจัดเรียงไม่น่าจะนานค่ะ ส่วนการสแกนก็แล้วแต่ว่าเครื่องของนายหัวใจเร็วไหม”“ฉันเพิ่งนึกได้ว่าเครื่องมันเก่ามากแล้ว เอางี้แล้วกันเธอจัดเรียงเอกสารให้เรียบร้อยก่อน ส่วนเครื่องสแกนเอกสารเดี๋ยวฉันจะซื้อตัวใหม่มาให้”“จะซื้อใหม่เลยเหรอคะจันทร์แ
การสอบวิชาสุดท้ายของนักเรียนสาขาวิชาการบัญชีจบลงในเวลาเที่ยง นักเรียนต่างพากันทยอยออกจากห้อง บางคนยิ้มแย้มเพราะตัวเองทำข้อสอบได้ดี บางคนก็หน้าตาห่อเหี่ยวเพราะทำข้อสอบได้ไม่ดีพอนักเรียนที่ออกมาจากห้องแล้วก็พากันจับกลุ่มคุยถึงเรื่องข้อสอบรวมถึงการเรียนต่อในระดับปวส.หรือบางคนก็อยากจะไปต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยและก็มีบางคนที่หยุดเรียนเพียงแค่นี้ตอนนี้ในห้องสอบเหลือนักเรียนอีกไม่กี่คนและหนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวที่ชื่อชมจันทร์ซึ่งกำลังทำข้อสอบข้อสุดท้ายอย่างตั้งใจ ก่อนจะเก็บดินสอและยางลบบนโต๊ะลงถุงซิปสีใสแล้วลุกขึ้นเพื่อเดินไปส่งกระดาษคำตอบที่อาจารย์คุมสอบหน้าห้อง ชมจันทร์มักจะออกห้องสอบเป็นคนสุดท้ายแบบนี้เสมอ เธออยากทำคะแนนดีๆ เพราะมันจะมีผลกับการขอทุนการศึกษา“ขอโทษนะบิว ปัท” ชมจันทร์บอกเพื่อนทั้งสองคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องสอบทั้งที่ออกมาก่อนหน้าแล้วเกือบ 20 นาที“ไม่เป็นไรเราสองคนชินแล้ว จันทร์ก็ออกห้องสอบคนสุดท้ายตลอดอยู่แล้ว” บิวหรือบุหลันตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง“เราจะไม่ไปฉลองด้วยกันหน่อยเหรอจันทร์อีกนานเลยกว่าจะได้เจอกันอีก” ปัทมาพรหรือปัทถามด้วยความเสียดายเพราะชมจันทร์บอกตั้งแต่เช้าแ
“อิ่มสุดๆ ไปเลยค่ะน้าพิกุล ท้องจันทร์แตกไหมเนี่ย” ชมจันทร์รวบช้อนกับส้อมก่อนจะนั่งพิงพนักเก้าอี้และเอามือลูบท้องของตนเองที่ตอนนี้ป่องออกมานิดๆ เพราะทานขนมจีนแกงไตปลาฝีมือน้าพิกุลไปถึงสองจาน“เดี๋ยวกินเสร็จแล้วจันทร์ช่วยเอาแกงไตปลาไปให้นายหัวชาวีได้ไหม”“นายหัวชาวีที่อยู่ถัดจากบ้านเราไปเหรอคะน้า”“ใช่จ้ะ จันทร์เคยไปบ้านหลังนั้นใช่ไหม”“ค่ะ จันทร์เคยไปแต่ก็นานแล้วตั้งแต่สมัยพ่อของคุณนายหัวชาวียังอยู่ แต่พอท่านเสียจันทร์ก็ไม่ค่อยได้ไปบ้านหลังนั้นเท่าไหร่ค่ะ แล้วทำไมเราต้องเอาไปให้เขาด้วยล่ะคะ” ชมจันทร์ไม่เข้าใจเพราะเท่าที่รู้มาบ้านหลังนั้นก็มีแม่ครัวอยู่แล้ว“นายหัวชาวีเขาก็ชอบกินแกงไตปลาเหมือนกันเมื่อตอนกลางวันน้าคุยกับแม่ครัวอีกคนว่าจะรีบกลับมาทำแกงไตปลา พอนายหัวได้ยินเขาก็บอกว่าเขาเองก็ชอบกินน้าก็เลยทำเผื่อ”น้าพิกุลของชมจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวให้คนงานในสวนยางของนายหัวชาวีส่วนบิดาของเธอก็เป็นคนขับรถส่งน้ำยางและปาล์มให้กับสวนของนายหัวมาตั้งแต่เธอจำความได้“ได้ค่ะเดี๋ยวจันทร์เอาไปให้เองค่ะ น้าพิกุลคะจันทร์ฉันลืมไปเลยค่ะ น้าบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับจันทร์เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องบ้านกับสวนยางข
ระหว่างที่น้าพิกุลไปเตรียมแกงไตปลาให้นายหัวชาวี ชมจันทร์ก็เดินไปหลังบ้านเพื่อเอารถจักรยานยนต์ของตนเองออกมาเตรียมไว้ แม้ว่าบ้านของนายหัวชาวีจะอยู่ติดกับบ้านของเธอแต่ระยะทางก็ไกลพอสมควรเพราะบ้านของเขาอยู่ลึกเข้าไปจากถนนอีกฝั่งซึ่งถ้าเดินไปก็คงจะเหนื่อยกว่าจะถึง“อย่าลืมนะจันทร์ว่าเรามีภารกิจสำคัญคือจะต้องทำให้นายหัวสนใจ” พิกุลบอกกับลูกเลี้ยงที่สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ชมจันทร์พยักหน้าให้กับน้าพิกุลก่อนจะรับปิ่นโตและขี่จักรยานยนต์คู่ใจออกไปยังบ้านของนายหัวชาวีหญิงสาวเคยเจอนายหัวชาวีครั้งสุดท้ายก็หลายปีแล้วเธอไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ก่อนก็เคยแอบชอบเขาอยู่หรอกแต่พอได้ยินว่าเขาเจ้าชู้และเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้าเธอก็เลยไม่ได้ติดตามเรื่องราวของเขาอีกเลยบ้านของนายหัวชาวีเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงมีบริเวณรอบๆ บ้านค่อนข้างกว้าง หญิงสาวจอดรถจักรยานยนต์บริเวณด้านหน้าก่อนจะตะโกนเรียกเจ้าของบ้าน“นายหัวชาวีอยู่ไหมคะ นายหัวคะน้าพิกุลให้จันทร์เอาแกงไตปลามาให้ค่ะ” หญิงสาวตะโกนอยู่ด้านล่างสักพักก็มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินออกมา“ใครละนั่น”“สวัสดีค่ะป้าสมรจันทร์เอง”“อ้าวหนูจันทร์หรอกเหรอ มา
หลังจากทานแกงไตปลากับขนมจีนอิ่มแล้วนายหัวชาวีก็กลับมาในห้องทำงานของตนเองอีกครั้ง เขานั่งตรวจเอกสารต่างๆ ที่มีทั้งบัญชีรายรับ รายจ่ายของสวนยาง สวนปาล์มและโรงงานแปรรูปยางพาราขนาดเล็กที่เขากับเพื่อนร่วมกันลงทุนก็รับซื้อน้ำยางจากชาวบ้านมาแปรรูปส่งบริษัทใหญ่อีกทีชาวีมองโฉนดที่ดินที่บิดาของชมจันทร์เอามาจำนองแล้วก็ถอนหายใจเพราะจำนวนเงินที่เขาออกไปนั้นมากกว่ามูลค่าของที่ดินอยู่มาก เขาคุยเรื่องนี้กับน้าพิกุลแล้ว เธอยื่นข้อเสนอให้หลานสาวมาทำงานกับเขาเพื่อเป็นการใช้หนี้ ซึ่งชาวียังไม่ตอบตกลงเพราะไม่รู้ว่าหลานสาวของน้าพิกุลจะสวยสมกับราคาคุยหรือเปล่าแต่เมื่อเขา ได้เจอเธอก็รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปน่าจะคุ้มชายหนุ่มโทรศัพท์ไปหาน้าพิกุลเพื่อคุยถึงข้อตกลงทันทีเพราะกลัวว่าถ้าตนเองไม่รับข้อเสนอน้าพิกุลจะพาเธอไปขายให้คนอื่น“ว่าไงคะนายหัว เจอชมจันทร์ของพิกุลแล้วใช่ไหม”“อืม ฉันเจอแล้ว”“เป็นไงคะสวยถูกใจนายหัวไหม”“ก็สวยดีนะแต่เหมือนว่าเด็กนั่นจะไม่รู้ว่านอกจากจะมาทำงานเอกสารแล้วเธอต้องทำอย่างอื่นด้วย”“รู้สิคะ แต่ใครจะกล้าพูดกันตรงๆ ล่ะ เด็กมันไม่เคยมันก็ต้องไว้ท่าทีกันหน่อย”“แน่ใจนะว่าไม่ได้ย้อมแมวขาย”
เมื่อวางสายจากน้าพิกุลแล้วชาวีก็นั่งทำงานต่อแต่เขาไม่มีสมาธิทำงานเลยเมื่อนึกถึงใบหน้าเนียนสวยดวงตากลมโตของหญิงสาวที่ชื่อชมจันทร์เขาชอบนอนกับผู้หญิงสวยๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่เคยพาใครมานอนที่บ้านเพราะไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวาย แต่เมื่อตกลงจ่ายเงินกับน้าพิกุลไปถึงสามแสนเขาก็จะใช้งานชมจันทร์ให้คุ้มทั้งงานเอกสารและงานบนเตียงระยะเวลาสามเดือนที่หญิงสาวปิดเทอมเขาจะตักตวงทุกอย่างให้มากที่สุดก่อนที่จะปล่อยเธอให้เป็นอิสระชาวีไม่เคยคบใครนานและเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เพราะไม่เคยมีใครทำให้เขามีความสุขจนอยากจะหยุด ชายหนุ่มเป็นคนเบื่อง่ายแต่ก็ใช่ว่าไม่เคยอยากมีครอบครัวเขาเคยมีแฟนที่คบกันมานานแต่เธอก็ทนอยู่กับเขาไม่ได้เพราะบางครั้งเรื่องบนเตียงของเขามันก็เกินกว่าผู้หญิงจะรับไหวชาวีเก็บเอกสารทุกอย่างลงลิ้นชักจากนั้นล็อกกุญแจก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงาน“นายหัวจะไปไหนคะ” ป้าสมรที่นั่งดูทีวีอยู่ถามเจ้านายเพราะปกติแล้วเวลานี้เจ้านายจะไม่ออกมาจากห้องทำงานเลย“ฉันจะเข้าไปในเมืองหน่อยนะป้าสมรฝากดูแลบ้านด้วยนะ พรุ่งนี้ให้คนมาทำความสะอาดห้องที่อยู่ตรงข้ามห้องฉันด้วย”“ได้ค่ะ” ป้าสมรรับปากโดยไม่ถามว่าเขาจะให้ใ
เมื่อสารินทร์และบริกรลงไปชั้นล่างแล้วชาวีก็เรียกหญิงสาวเข้ามานั่งใกล้ๆ“ชื่ออะไร”“หนูชื่อหลินค่ะ คุณล่ะคะ”“เรียกฉันว่านายหัวก็พอ”“ค่ะนายหัว” หญิงสาวเทเหล้าให้กับนายหัวชาวีดื่มอีกแล้วจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและลากเธอไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านหลังสุดซึ่งเป็นห้องที่มีไว้บริการแขกที่ไม่อยากออกไปต่อข้างนอกเมื่อประตูห้องปิดลงนายหัวหนุ่มก็ดันร่างเธอให้ชิดกับผนังห้องแล้วรีบประกบจูบลงไปทันที ทำเอาหญิงสาวตั้งตัวแทบไม่ทันแต่เธอก็จูบกลับเพราะอยากให้เขาประทับใจกับการบริการครั้งแรก“อืม...นายหัวขาใจเย็นๆ สิคะ”หญิงสาวอ้อนเสียงหวานเมื่อเขาผละจูบออกแต่เขาก็ประกบจูบลงมาอีกครั้งโดยไม่คิดจะฟังเธอเลยสักนิด เขาถอดชุดสายเดี๋ยวของเธอออกอย่ารวดเร็วก่อนจะโยนมันไปกองที่พื้น มือหนาบีบเคล้นหน้าอกของหญิงสาวอย่างไม่ปรานี หลินทั้งเจ็บและเสียวซ่านแต่เธอก็สู้ไม่ถอยเพราะคนที่เคยนอนกับเขาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าถึงแม่จะเจ็บกายแต่เขาก็จ่ายให้อย่างคุ้มค่า เธอหวังว่าวันนี้จะทำให้เขามีความสุขและเรียกใช้บริการเธออีกเมื่อเหล้าเข้าปากชาวีก็มักจะคุมตนเองไม่ได้เขาจูบอย่างหนักหน่วงจนหญิงสาวปากบวมเจ่อก่อนจะลากปลายลิ้นร้อนมายังซอกคอขบ
หัวหน้าคนงานกลับออกไปแล้วตอนนี้ในห้องทำงานจึงเหลือแค่ชมจันทร์กับนายหัวชาวีเขากำลังนั่งอ่านเอกสารทางการเงินอยู่ส่วนเธอก็ได้รับมอบหมายให้จัดเรียงเอกสารใหม่ทั้งหมด ซึ่งดูแล้วน่าจะใช้เวลาหลายวันกว่าเอกสารทุกอย่างจะเรียบร้อยอีกทั้งยังต้องสแกนเอกสารสำคัญต่างๆ จัดเป็นไฟล์ลงคอมพิวเตอร์ซึ่งถือว่างานค่อนข้างหนักเลยทีเดียว“นายหัวคะเอกสารในแฟ้มพวกนี้จันทร์ต้องสแกนแล้วเก็บลงคอมพ์หมดเลยใช่ไหมคะ”“อืม ทำได้ไหมล่ะ”“ทำได้ค่ะแต่จันทร์สงสัยค่ะ ว่าทำไมมันถึงเยอะขนาดนี้”“มันจะไม่เยอะได้ยังไงล่ะฉันไม่ได้ทำมาตั้งหลายปี”“แล้วนายหัวจะเอาทุกปีเลยเหรอคะ”“เอาแค่สามปีย้อนหลังก็ได้นะ เพราะเกินจากนั้นก็ไม่น่าจะสำคัญอะไร”“งั้นจันทร์ขอคัดเอกสารสามปีก่อนนะคะ แล้วค่อยสแกนทีหลังได้ไหม”“จะทำยังไงก็แล้วแต่ เธอจัดการเลยฉันจะไม่ยุ่ง เธอคิดว่าเอกสารทั้งหมดใช้เวลากี่วันกว่าจะเสร็จ”“การจัดเรียงไม่น่าจะนานค่ะ ส่วนการสแกนก็แล้วแต่ว่าเครื่องของนายหัวใจเร็วไหม”“ฉันเพิ่งนึกได้ว่าเครื่องมันเก่ามากแล้ว เอางี้แล้วกันเธอจัดเรียงเอกสารให้เรียบร้อยก่อน ส่วนเครื่องสแกนเอกสารเดี๋ยวฉันจะซื้อตัวใหม่มาให้”“จะซื้อใหม่เลยเหรอคะจันทร์แ
เช้าวันจันทร์พิกุลปลุกชมจันทร์ให้ตื่นนอนตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและเตรียมของไปอยู่บ้านนายหัวชาวีหญิงสาวมีกระเป๋าเป้ใบเล็กที่ใส่ของใช้จำเป็นและกระเป๋าเดินทางใบขนาดย่อมที่ใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ทั้งหมดไว้ในนั้น“จันทร์เอามอเตอร์ไซค์ไปไว้ที่บ้านนายหัวเลยก็ได้เผื่อมีความจำเป็นจะต้องใช้”“ค่ะ จันทร์ไปก่อนนะคะน้าพิกุล”“จ้ะ อย่าลืมที่น้าบอกนะทำตัวให้ดี ทำตัวให้น่ารักจันทร์มีจุดมุ่งหมายอะไรก็อย่าลืม”“ค่ะน้าพิกุล” ชมจันทร์ขี่จักรยานยนต์คู่ใจมายังบ้านของนายหัวชาวีตั้งแต่ 8 โมงก็เจอกับป้าสมรที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่“สวัสดีค่ะป้า”“อ้าว หนูจันทร์มาแต่เช้าเลยมาทางนี้เดี๋ยวป้าพาไปดูห้องนะ”ป้าสมรรีบพาชมจันทร์เอาของไปเก็บในห้องนอน ซึ่งป้าสมรกับสายรุ้งทำความสะอาดไว้รอแล้ว“ขอบคุณค่ะ ป้าสมรกับพี่รุ้งนอนห้องไหนคะ”“เราสองคนนอนเรือนเล็กหลังบ้าน”“จันทร์ไปนอนที่นั่นก็ได้ค่ะ” ชมจันทร์ไม่อยากให้ป้าสมรกับสายรุ้งรู้สึกว่าเธอมีอภิสิทธิ์เหนือกว่าลูกจ้างคนอื่นๆ“ไม่ได้หรอกจ้ะ นายหัวสั่งให้จันทร์นอนห้องนี้ก็ต้องนอนห้อง นั้น อีกอย่างงานของนายก็ไม่ค่อยเป็นเวลาเผื่อนายจะเรียกใช้งานจะได้ไม่ต้องเดินไปเรียกใ
“จันทร์ทำอะไรอยู่” เสียงของน้าพิกุลถามในเวลาเช้าหลังจากที่เธอไปทำกับข้าวให้คนงานและกลับมาไม่เห็นลูกเลี้ยง“จันทร์ฉันกำลังจัดห้องอยู่ค่ะ น้าพิกุลน้ามีอะไรจะให้จันทร์ทำหรือเปล่าคะ” หญิงสาวตะโกนออกมาจากห้องนอน“น้าเอากับข้าวมาให้น่ะ” ปกติแล้วเวลาอยู่คนเดียวพิกุลก็จะทานข้าวที่สวนยางกับคนงาน แต่วันนี้มีชมจันทร์มาอยู่ด้วยเธอก็เลยขอแบ่งกับข้าวมาทานที่บ้านเพราะยังไงกับข้าวก็เหลือทุกวันอยู่แล้ว“น้าพิกุลกินมาหรือยังคะ” ชมจันทร์เปิดเปิดประตูออกมาถาม“ยังเลย น้าว่าจะมากินด้วยกันนี่แหละ จันทร์หุงข้าวแล้วใช่ไหม”“ค่ะ จันทร์หุงข้าวแล้วกำลังว่าจะทำไข่เจียวอยู่เลย เห็นมีแกงไตปลาเหลืออยู่”“ไม่ต้องเจียวไข่หรอก อุ่นแค่แกงไตปลาก็พอน้าเอาคั่วกลิ้งกับแกงเทโพมาจากสวนยางแล้ว”“ขอบคุณค่ะ น้าพิกุลรอแป๊บหนึ่งนะคะจันทร์ขอจัดตรงนี้อีกนิด”“เร็วหน่อยนะเดี๋ยวมีอย่างอื่นต้องไปทำต่อ”เมื่อน้าพิกุลบอกว่ามีธุระชมจันทร์ก็รีบออกมาจากห้องและจัดการอุ่นแกงไตปลา ระหว่างนั้นก็แกะถุงคั่วกลิ้งกับแกงเทโพ และตักข้าวใส่จานไว้รอ พอแกงร้อนก็ตักใส่ชาม ไม่นานทั้งสองก็ทานอาหารเสร็จ“สายๆ น้าว่าจะพาจันทร์เข้าไปในเมืองสักหน่อย”“หมายถึง
“สบายตัวไหมล่ะมึง” สารินทร์แซวเพื่อนเมื่อเห็นเขาเดินมาจากชั้นสอง“อืม”“ไม่ค้างที่นี่เหรอวะ นี่มันดึกแล้วนะ” เขาถามเพราะตอนนี้ผับปิดแล้ว ขณะตนเองกำลังนั่งดื่มอยู่ตามลำพัง ส่วนหญิงสาวที่นอนอยู่ในห้องนั้นเดี๋ยวก็จะมีคนของเขาพาออกไปทางด้านหลังของผับ“ไม่ล่ะพรุ่งนี้ว่าจะเข้าไปดูคนงานในสวนสักหน่อย ไปถึงก็น่าจะเช้าพอดี”“มีงานหรือมีใคร มึงนี่แปลกนะปกติเข้ามาในเมืองมึงต้องปล่อยจนน้ำแทบหมดตัวแต่นี่กูว่ามึงยังไปต่อได้อีก หรือกะจะเก็บไว้ให้แม่สาวน้อยชมจันทร์วะ”“มึงก็พูดเกินไป กูแค่เบื่อๆ รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้”“แปลกๆ ยังไงวะ อย่าบอกนะว่ามึงกามตายด้านไปแล้ว”“ไม่ใช่แบบนั้นกูมีความรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่”“นี่กูเอาน้องตัวเด็ดให้มึงเลยนะ”“กูรู้ว่าน้องเขาเด็ดแต่มันก็ยังไม่ถึงใจกูอยู่ดี” เขามีความสุขมากก็จริงแต่พอเสร็จกิจความรู้สึกว่างเปล่าก็เข้ามาแทน“มึงนี่เอาใจยากชะมัดเลยวะ ถ้าเบื่อสาวไทยก็ลองไปหาสาวต่างชาติดูสิ”“กูชอบคนไทย”“แล้วเมื่อไหร่มึงจะเจอคนที่รับมึงได้ล่ะ”“มึงก็ย้ำจริงนะว่าจะไม่มีใครรับกูได้ กูว่าต้องมีสักคนแหละที่เซ็กซ์จัดและซาดิสต์แบบกู”“ไอ้มี มันก็มีแต่ป่านนี้เขาคงมีเจ้าของไปแล้ว
เมื่อสารินทร์และบริกรลงไปชั้นล่างแล้วชาวีก็เรียกหญิงสาวเข้ามานั่งใกล้ๆ“ชื่ออะไร”“หนูชื่อหลินค่ะ คุณล่ะคะ”“เรียกฉันว่านายหัวก็พอ”“ค่ะนายหัว” หญิงสาวเทเหล้าให้กับนายหัวชาวีดื่มอีกแล้วจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและลากเธอไปยังห้องนอนที่อยู่ด้านหลังสุดซึ่งเป็นห้องที่มีไว้บริการแขกที่ไม่อยากออกไปต่อข้างนอกเมื่อประตูห้องปิดลงนายหัวหนุ่มก็ดันร่างเธอให้ชิดกับผนังห้องแล้วรีบประกบจูบลงไปทันที ทำเอาหญิงสาวตั้งตัวแทบไม่ทันแต่เธอก็จูบกลับเพราะอยากให้เขาประทับใจกับการบริการครั้งแรก“อืม...นายหัวขาใจเย็นๆ สิคะ”หญิงสาวอ้อนเสียงหวานเมื่อเขาผละจูบออกแต่เขาก็ประกบจูบลงมาอีกครั้งโดยไม่คิดจะฟังเธอเลยสักนิด เขาถอดชุดสายเดี๋ยวของเธอออกอย่ารวดเร็วก่อนจะโยนมันไปกองที่พื้น มือหนาบีบเคล้นหน้าอกของหญิงสาวอย่างไม่ปรานี หลินทั้งเจ็บและเสียวซ่านแต่เธอก็สู้ไม่ถอยเพราะคนที่เคยนอนกับเขาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าถึงแม่จะเจ็บกายแต่เขาก็จ่ายให้อย่างคุ้มค่า เธอหวังว่าวันนี้จะทำให้เขามีความสุขและเรียกใช้บริการเธออีกเมื่อเหล้าเข้าปากชาวีก็มักจะคุมตนเองไม่ได้เขาจูบอย่างหนักหน่วงจนหญิงสาวปากบวมเจ่อก่อนจะลากปลายลิ้นร้อนมายังซอกคอขบ
เมื่อวางสายจากน้าพิกุลแล้วชาวีก็นั่งทำงานต่อแต่เขาไม่มีสมาธิทำงานเลยเมื่อนึกถึงใบหน้าเนียนสวยดวงตากลมโตของหญิงสาวที่ชื่อชมจันทร์เขาชอบนอนกับผู้หญิงสวยๆ แต่ส่วนใหญ่จะไม่เคยพาใครมานอนที่บ้านเพราะไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวาย แต่เมื่อตกลงจ่ายเงินกับน้าพิกุลไปถึงสามแสนเขาก็จะใช้งานชมจันทร์ให้คุ้มทั้งงานเอกสารและงานบนเตียงระยะเวลาสามเดือนที่หญิงสาวปิดเทอมเขาจะตักตวงทุกอย่างให้มากที่สุดก่อนที่จะปล่อยเธอให้เป็นอิสระชาวีไม่เคยคบใครนานและเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เพราะไม่เคยมีใครทำให้เขามีความสุขจนอยากจะหยุด ชายหนุ่มเป็นคนเบื่อง่ายแต่ก็ใช่ว่าไม่เคยอยากมีครอบครัวเขาเคยมีแฟนที่คบกันมานานแต่เธอก็ทนอยู่กับเขาไม่ได้เพราะบางครั้งเรื่องบนเตียงของเขามันก็เกินกว่าผู้หญิงจะรับไหวชาวีเก็บเอกสารทุกอย่างลงลิ้นชักจากนั้นล็อกกุญแจก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงาน“นายหัวจะไปไหนคะ” ป้าสมรที่นั่งดูทีวีอยู่ถามเจ้านายเพราะปกติแล้วเวลานี้เจ้านายจะไม่ออกมาจากห้องทำงานเลย“ฉันจะเข้าไปในเมืองหน่อยนะป้าสมรฝากดูแลบ้านด้วยนะ พรุ่งนี้ให้คนมาทำความสะอาดห้องที่อยู่ตรงข้ามห้องฉันด้วย”“ได้ค่ะ” ป้าสมรรับปากโดยไม่ถามว่าเขาจะให้ใ
หลังจากทานแกงไตปลากับขนมจีนอิ่มแล้วนายหัวชาวีก็กลับมาในห้องทำงานของตนเองอีกครั้ง เขานั่งตรวจเอกสารต่างๆ ที่มีทั้งบัญชีรายรับ รายจ่ายของสวนยาง สวนปาล์มและโรงงานแปรรูปยางพาราขนาดเล็กที่เขากับเพื่อนร่วมกันลงทุนก็รับซื้อน้ำยางจากชาวบ้านมาแปรรูปส่งบริษัทใหญ่อีกทีชาวีมองโฉนดที่ดินที่บิดาของชมจันทร์เอามาจำนองแล้วก็ถอนหายใจเพราะจำนวนเงินที่เขาออกไปนั้นมากกว่ามูลค่าของที่ดินอยู่มาก เขาคุยเรื่องนี้กับน้าพิกุลแล้ว เธอยื่นข้อเสนอให้หลานสาวมาทำงานกับเขาเพื่อเป็นการใช้หนี้ ซึ่งชาวียังไม่ตอบตกลงเพราะไม่รู้ว่าหลานสาวของน้าพิกุลจะสวยสมกับราคาคุยหรือเปล่าแต่เมื่อเขา ได้เจอเธอก็รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปน่าจะคุ้มชายหนุ่มโทรศัพท์ไปหาน้าพิกุลเพื่อคุยถึงข้อตกลงทันทีเพราะกลัวว่าถ้าตนเองไม่รับข้อเสนอน้าพิกุลจะพาเธอไปขายให้คนอื่น“ว่าไงคะนายหัว เจอชมจันทร์ของพิกุลแล้วใช่ไหม”“อืม ฉันเจอแล้ว”“เป็นไงคะสวยถูกใจนายหัวไหม”“ก็สวยดีนะแต่เหมือนว่าเด็กนั่นจะไม่รู้ว่านอกจากจะมาทำงานเอกสารแล้วเธอต้องทำอย่างอื่นด้วย”“รู้สิคะ แต่ใครจะกล้าพูดกันตรงๆ ล่ะ เด็กมันไม่เคยมันก็ต้องไว้ท่าทีกันหน่อย”“แน่ใจนะว่าไม่ได้ย้อมแมวขาย”
ระหว่างที่น้าพิกุลไปเตรียมแกงไตปลาให้นายหัวชาวี ชมจันทร์ก็เดินไปหลังบ้านเพื่อเอารถจักรยานยนต์ของตนเองออกมาเตรียมไว้ แม้ว่าบ้านของนายหัวชาวีจะอยู่ติดกับบ้านของเธอแต่ระยะทางก็ไกลพอสมควรเพราะบ้านของเขาอยู่ลึกเข้าไปจากถนนอีกฝั่งซึ่งถ้าเดินไปก็คงจะเหนื่อยกว่าจะถึง“อย่าลืมนะจันทร์ว่าเรามีภารกิจสำคัญคือจะต้องทำให้นายหัวสนใจ” พิกุลบอกกับลูกเลี้ยงที่สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ชมจันทร์พยักหน้าให้กับน้าพิกุลก่อนจะรับปิ่นโตและขี่จักรยานยนต์คู่ใจออกไปยังบ้านของนายหัวชาวีหญิงสาวเคยเจอนายหัวชาวีครั้งสุดท้ายก็หลายปีแล้วเธอไม่รู้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่ก่อนก็เคยแอบชอบเขาอยู่หรอกแต่พอได้ยินว่าเขาเจ้าชู้และเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้าเธอก็เลยไม่ได้ติดตามเรื่องราวของเขาอีกเลยบ้านของนายหัวชาวีเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงมีบริเวณรอบๆ บ้านค่อนข้างกว้าง หญิงสาวจอดรถจักรยานยนต์บริเวณด้านหน้าก่อนจะตะโกนเรียกเจ้าของบ้าน“นายหัวชาวีอยู่ไหมคะ นายหัวคะน้าพิกุลให้จันทร์เอาแกงไตปลามาให้ค่ะ” หญิงสาวตะโกนอยู่ด้านล่างสักพักก็มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินออกมา“ใครละนั่น”“สวัสดีค่ะป้าสมรจันทร์เอง”“อ้าวหนูจันทร์หรอกเหรอ มา
“อิ่มสุดๆ ไปเลยค่ะน้าพิกุล ท้องจันทร์แตกไหมเนี่ย” ชมจันทร์รวบช้อนกับส้อมก่อนจะนั่งพิงพนักเก้าอี้และเอามือลูบท้องของตนเองที่ตอนนี้ป่องออกมานิดๆ เพราะทานขนมจีนแกงไตปลาฝีมือน้าพิกุลไปถึงสองจาน“เดี๋ยวกินเสร็จแล้วจันทร์ช่วยเอาแกงไตปลาไปให้นายหัวชาวีได้ไหม”“นายหัวชาวีที่อยู่ถัดจากบ้านเราไปเหรอคะน้า”“ใช่จ้ะ จันทร์เคยไปบ้านหลังนั้นใช่ไหม”“ค่ะ จันทร์เคยไปแต่ก็นานแล้วตั้งแต่สมัยพ่อของคุณนายหัวชาวียังอยู่ แต่พอท่านเสียจันทร์ก็ไม่ค่อยได้ไปบ้านหลังนั้นเท่าไหร่ค่ะ แล้วทำไมเราต้องเอาไปให้เขาด้วยล่ะคะ” ชมจันทร์ไม่เข้าใจเพราะเท่าที่รู้มาบ้านหลังนั้นก็มีแม่ครัวอยู่แล้ว“นายหัวชาวีเขาก็ชอบกินแกงไตปลาเหมือนกันเมื่อตอนกลางวันน้าคุยกับแม่ครัวอีกคนว่าจะรีบกลับมาทำแกงไตปลา พอนายหัวได้ยินเขาก็บอกว่าเขาเองก็ชอบกินน้าก็เลยทำเผื่อ”น้าพิกุลของชมจันทร์ทำงานเป็นแม่ครัวให้คนงานในสวนยางของนายหัวชาวีส่วนบิดาของเธอก็เป็นคนขับรถส่งน้ำยางและปาล์มให้กับสวนของนายหัวมาตั้งแต่เธอจำความได้“ได้ค่ะเดี๋ยวจันทร์เอาไปให้เองค่ะ น้าพิกุลคะจันทร์ฉันลืมไปเลยค่ะ น้าบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับจันทร์เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องบ้านกับสวนยางข