Share

บทที่ 5

“ใช่...เธอแตกต่างจากพี่ชาย เพราะจริง ๆ พ่อแม่ของเธอเป็นคนไทย แต่ตอนนั้นพวกเขาไม่มีลูกก็เลยรับแม็กซิมิลเลียนมาป็นบุตรบุญธรรม แม็กซิมิลเลียนไม่ได้เรียนต่อจนจบมหาวิทยาลัย เขาแยกตัวไปอยู่คนเดียวและเป็นช่างซ่อมรถประมาณสองปีเห็นจะได้ แต่จากที่สืบทราบก็คือเขายังติดต่อกับน้องสาวคนเดียวอยู่เสมอ มุกมารินน่าจะเป็นคนเดียวที่รู้และบอกเราได้ว่า ตอนนี้พี่ชายของเธออยู่ที่ไหน”

ลีรอยด์รู้สึกคอแห้งจนต้องจิบน้ำชาเล็กน้อย บรรยากาศรอบตัวเขาและคิลเลียนเหมือนมีความกดดันอวลอยู่โดยรอบ แววตาของนาวาอากาศเอกหนุ่มฉายความขึ้งเคียดออกมาอย่างน่ากลัว

“ขอบคุณมากลีรอยด์”

คิลเลียนเก็บรูปกลับเข้าไปในซอง เขาไม่ยอมแตะอาหารบนโต๊ะแม้แต่น้ำในแก้ว

“ถ้ารอให้ตำรวจเข้ามาสืบคดีผมอาจรู้ช้ากว่านี้ อย่างน้อยคุณก็ทำให้ผมรู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป”

“คุณยังต้องการอะไรอีกไหม คิลเลียน?” ลีรอยด์ถามขณะที่อีกฝ่ายนั่งลูบคางอย่างใช้ความคิด

“ผมขอตารางเวลาทำงานของผู้หญิงคนนั้น...ด่วนที่สุด”

“ไม่มีปัญหา ตอนเย็นนี้คุณคอยรับโทรศัพท์จากผมก็แล้วกัน”

นักสืบหนุ่มยกแก้วขึ้นจิบน้ำก่อนลงมือเฉือนเสต๊กเนื้อในจานโดยไม่ทันสังเกตเห็นอะไรบางอย่างฉายวาบในดวงตาสีน้ำเงินดุจห้วงทะเลลึก

มุกมาริน มนัญญา...แม่นักร้องสาวไทยที่คิลเลียนยังจดจำได้ไม่ลืม คืนนั้นถ้าคู่หมั้นของเขาไม่ร้องห้ามก็จะพาหล่อนไปพบผู้จัดการโทษฐานประพฤติตัวไม่เหมาะสม ยิ่งได้รู้ว่าเจ้าหล่อนเข้ามาพัวพันแม้อาจไม่รู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยิ่งเพิ่มความเกลียดชังทบเท่าทวีคูณ

เขาต้องหาทางลากคอไอ้ผู้ชายคนนั้นมาเค้นความจริง ไม่ว่าจะด้วยวิธีการไหนหรือทำเช่นไรทุกวิถีทาง

ร่างเล็กบอบบางในชุดราตรีสั้นสีครีมยังคงนั่งอยู่เพียงลำพังหน้ากระจกภายในห้องแต่งตัวซึ่งเต็มไปด้วยชุดและเครื่องประดับแสนสวยภายใต้แสงไฟนวลตา มุกมารินนั่งกุมโทรศัพท์และหลายครั้งก็ก้มลงมองหน้าจอด้วยสีหน้าเป็นกังวล เธอรอคอยเสียงเรียกเข้าด้วยคาดหวังว่า ใครคนหนึ่ง จะติดต่อกลับมา

“เพิร์ลลี่...เธอมาอยูที่ที่เองหรือจ๊ะ”

เสียงที่ดังขึ้นเบื้องหลังทำให้หญิงสาวรีบเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าก่อนหันไปยังบุรุษร่างสูงในชุดสูท

“เนส...มีอะไรหรือคะ?” มุกมารินเอ่ยถาม เนส ผู้จัดการห้องอาหารหนุ่มวัยสามสิบห้าซึ่งเธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เขาเป็นอเมริกันผิวสี ผมหยิกหยองทว่ามีบุคลิกอันอบอุ่นและเป็นกันเองในแบบฉบับชาวสีม่วง เนสมองนักร้องสาวชาวไทยวัยยี่สิบสี่ผู้มีน้ำเสียงราวกับนางสวรรค์ด้วยดวงตาเป็นประกาย

“ฉันตามหาเธอแทบแย่เลยสาวน้อย”

“คืนนี้ฉันหมดคิวร้องเพลงแล้วค่ะ เนส”

“ขอบคุณพระเจ้าที่เธอยังไม่กลับบ้าน เพราะมีแขกวีไอพี รีเควสให้เธอร้องเพลงให้เขาฟังเป็นการส่วนตัวจ้ะ”

“พรุ่งนี้หรือคะ...ถ้าเป็นช่วงบ่ายฉันว่างค่ะ”

“ตอนนี้จ้ะ”

มุกมารินหยุดชะงักขณะกำลังหันกลับไปหยิบกระเป๋าถือ ร่างเล็กบอบบางหันกลับมามองหน้าผู้จัดการอีกครั้ง

“แต่ตอนนี้มันหมดเวลางานของฉันแล้วนะคะ”

“สเปเชี่ยล”

เนสจีบนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ขณะมองเธออย่างเว้าวอน

“เขาอยากให้เธอไปร้องเพลงให้เขาฟังที่ห้อง”

“เขาหรือคะ...ไม่ค่ะ เนส!” หญิงสาวปฏิเสธทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “คุณก็รู้ว่าฉันจะไม่ร้องเพลงที่ห้องพักของแขกแบบสองต่อสองโดยเฉพาะแขกผู้ชาย”

“ได้โปรด ที่รัก...นึกว่าช่วยฉันสักครั้ง มันไม่ได้มีอะไรน่ากลัว”

“แต่ไม่เหมาะสมค่ะ” มุกมารินเน้นเสียงหนัก “คุณจะไล่ฉันออกก็ได้นะคะ แต่ฉันคงจะทำตามความต้องการของแขกไม่ได้จริง ๆ “

“เธอจะไม่โดนไล่ออก แต่คนที่จะโดนไล่ออกคือฉัน”

เนสเสียงอ่อยและนั่นทำให้หญิงสาวเงียบไปในทันที มุกมารินวางกระเป๋าในมือลง เธอเหมือนถูกต่อยเข้าท้องจนจุก แขกคนนั้นเป็นใครถึงมีอำนาจสั่งได้ขนาดนี้

“อย่าถามเชียวนะว่าเขาเป็นใคร...แต่บอกให้ก็ได้ เขาชื่อคิลเลียน แม็คไพรด์ ฉันรู้แค่ว่ามันไม่มีอะไรมากไปกว่าที่เขาอยากฟังเสียงเพราะ ๆ ของเธอ ที่สำคัญเธอจะไม่เหนื่อยเปล่า เพราะว่าเธอจะได้...นี่จ้ะ”

ผู้จัดการหนุ่มล้วงหยิบบางอย่างในกระเป๋าเสื้อก่อนกรีดนิ้วชูให้เธอดู มันเป็นเช็คเงินสดที่ทำเอาหญิงสาวตะลึงเพราะตัวเลขในนั้นมากถึงหนึ่งแสนดอลล่าห์

“แค่เพลงเดียว...ร้องเสร็จก็กลับ” เนสขยิบตา มุกมารินเม้มปากเข้าหากันแน่นขณะมองเช็คใบนั้นชั่วครู่

“ได้ค่ะ...เนส ฉันจะไปร้องเพลงให้แขกคนนั้นฟัง...เพื่อคุณ”

หนุ่มผิวสีถอนใจโล่งทันทีที่หญิงสาวดึงเช็คจากมือของเขา เนสดึงร่างเล็กเข้ามากอดและกล่าวสำทับ

“ขอบคุณที่สุด...ฉันรักเธอจ้ะสาวน้อย โอเค...ถ้าเธอพร้อมแล้วก็ตามบอดี้การ์ดของเขาขึ้นไปบนห้องพักชั้นที่ยี่สิบนะจ๊ะ”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status