แชร์

บทที่ 311

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
เขามองเห็นท่าทางของนางก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

ซือเจ๋อเยว่นอนจนเกือบหมดยามจื่อ เยียนเซียวหรานถึงปลุกนางให้ตื่น เพื่อไปหาชื่อปาเลี่ยด้วยกัน

ตอนที่พวกเขามาถึง ชื่อปาเลี่ยผลักประตู แล้ววิ่งด้วยเท้าเปล่าออกมาด้านนอก

ด้านหลังเขามีคนชุดดำหลายคนวิ่งตามออก คนชุดดำเหล่านั้นถือมีดดาบแล้วก็ฟันใส่เขา

ชื่อปาเลี่ยอ้าปากกำลังจะตะโกน แต่กลับส่งเสียงไม่ออก

ดวงตาของเยียนเซียวหรานหรี่ลงเล็กน้อย ชักกระบี่แล้วก็พุ่งตัวเข้าไปหา ต่อสู้กับคนชุดดำพวกนั้นทันที

ซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถา คนชุดดำพวกนั้นเหมือนกับถูกอะไรบางอย่างดึงเอาไว้ ร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

ทันทีที่กระบี่ในมือของเยียนเซียวหรานขยับ ก็ปาดเข้าที่ลำคอของคนชุดดำพวกนั้นทันที

ทันทีที่คนชุดดำ ดวงวิญญาณก็ลอยออกจากร่าง

ซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถา เพื่อดึงดวงวิญญาณพวกนั้นกลับมา ถาม “ใครเป็นคนส่งพวกเจ้ามา?”

ตอนที่คนชุดดำยังไม่ตาย ซือเจ๋อเยว่เอาชนะไม่ได้

ทันทีที่พวกเขาตาย ซือเจ๋อเยว่สามารถบีบบังคับดวงวิญญาณของพวกเขาได้ง่ายดายราวกับบีบโคลน

ดวงวิญญาณของคนชุดดำตกใจไม่น้อย พวกเขายอมรับความจริงเรื่องที่ตนเองตายไปแล้วไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่

ทันทีที่พวกเขาหันหน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 312

    เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวก็หันหน้าไปมอง ในดวงตาเกิดความอาฆาตแค้นขึ้นจวนหนิงกั๋วกงกระทำการโหดเหี้ยมเป็นอย่างยิ่ง แค่เห็นต่างก็จะสังหารผู้คนการกระทำเช่นนี้ เหมือนไม่เหมือนกับปฏิบัติต่อมนุษย์เลยสักนิดนางหันหน้ากลับไปกล่าวกับเยียนเซียวหราน “กลับไปที่โรงเตี๊ยมเพื่อช่วยคนเถอะ”ชื่อปาเลี่ยมองไม่เห็นดวงวิญญาณพวกนั้น เห็นเพียงซือเจ๋อเยว่กำลังพูดคุยกับอากาศ ขนของเขาลุกชันไปทั่วทั้งตัวเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ก่อนหน้านี้เขาก็เห็นถึงความผิดปกติแล้วเขาดึงแขนเสื้อของเยียนเซียวหราน อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พบว่าตนเองส่งเสียงออกมาไม่ได้เลยสักนิดซือเจ๋อเยว่หันไปมองเขาแวบหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อ เขารู้สึกสบายขึ้นไม่น้อยภายในชั่วพริบตา แล้วก็สามารถพูดได้ทันทีเขามองซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว “ท่าน... ท่าน... ท่าน...”เขาพูดคำว่าท่านอยู่ครู่ใหญ่แต่ก็ไม่สามารถพูดออกมาเป็นประโยคได้ซือเจ๋อเยว่ไม่ได้สนใจเขา กล่าวเพียง “มัวอึ้งอะไรอยู่ ไปช่วยคนด้วยกัน!”ชื่อปาเลี่ยตอบ “อ้อๆ” สองครั้ง ไม่กล้าไม่เชื่อฟังคำพูดของนาง รีบเดินตามเข้าไปในใจของยิ่งเพิ่มความประหลาดใจที่มีต่อซือ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 313

    เมื่อครู่นี้ซือเจ๋อเยว่ร่วมมือกันกับเยียนเซียวหราน นางกลัวว่าจะปล่อยให้คนของจวนกงหนิงกั๋วหนีไปได้ จึงใช้คาถาเต๋าภายในแดนมายาคาถาเต๋าประเภทนี้มีข้อกำหนดค่อนข้างสูงสำหรับร่างกายมนุษย์ หลังจากนางฆ่าคนชุดดำพวกนั้นแล้ว ก็หมดสติไปชื่อปาเลี่ยเห็นฉากน็ประหลาดใจเล็กน้อย จึงถาม “นาง...นางเป็นอะไรไป?”เยียนเซียวหรานไม่ได้ตอบคำถามของเขา กล่าวเพียง “ไปที่พักของเจ้า”ชื่อปาเลี่ยตกตะลึงไปทันที ทั้งยังตอบ “อ้อๆ” สองครั้งติดกัน แล้วก็เดินนำทางอยู่ข้างหน้าเมื่อเขานึกถึงใบหน้าที่ซีดขาวนั้นของซือเจ๋อเยว่ก็เข้าใจ แม่นางผู้นี้เก่งกาจก็ส่วนเก่งกาจ เกรงว่าร่างกายจะไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนักคนเช่นเขามาตรฐานการทำงานค่อนข้างเรียบง่าย นั่นก็คือมีความแข็งแกร่งเล็กน้อยซือเจ๋อเยว่แข็งแกร่งขนาดนี้ เขาไม่มีทางเกิดความคิดอย่างอื่นอีกแล้วหลังจากที่พวกเขามาถึงที่พักของชื่อปาเลี่ย ศพที่อยู่ด้านในยังไม่ได้จัดการครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้เยียนเซียวหรานพูด ชื่อปาเลี่ยก็รีบลงมือจัดการศพทันทีเนื่องจากก่อนหน้านี้ด้านในห้องเคยต่อสู้กัน จึงเละเทะมาก เขารีบเก็บกวาดมือเป็นระวิงเยียนเซียวหรานมองเตียงที่เละเทะตัวนั้นแว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 314

    ที่สำคัญคือ เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างของตัวเขากำลังดันนางอยู่นางเพิ่งฟื้น หัวสมองยังมึนงงอยู่เล็กน้อย ภาพเหตุการณ์ในความฝันรบกวนนางไม่น้อยเลยทีเดียว นางอยากจะตามหาของสิ่งนั้นออกมาแล้วนำไปโยนทิ้งเสียดังนั้นนางจึงยื่นมือไปคว้า ทันทีที่คว้าก็เห็นได้ชัดว่าความรู้สึกไม่ถูกต้อง แต่นางกลับยังไม่ได้สติว่าสิ่งที่นางจับอยู่คืออะไรในเวลาเดียวกัน ดวงตาของเยียนเซียวหรานก็ลืมขึ้น กล่าวเสียงอู้อี้ซือเจ๋อเยว่กำลังมองเขาอยู่พอดี ทั้งสองคนสบตากันเยียนเซียวหรานไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จับที่มือของนางซือเจ๋อเยว่ก็ได้สติขึ้นทันควัน ตระหนักได้ทันทีว่าตนกำลังทำอะไรอยู่มือของนางราวกับมีไฟฟ้าแล่นผ่าน อยากจะชักมือกลับมา แต่กลับถูกเยียนเซียวหรานกดเอาไว้นางกล่าวด้วยสีหน้าเขินอาย “คือว่า... ข้า...ข้าเพิ่งฟื้น จึงมึนงงเล็กน้อย”เยียนเซียวหรานเขยิบเข้าใกล้นางเล็กน้อย พ่นลมหายใจรดใบหน้าของนาง กล่าวช้า ๆ “องค์หญิง ข้าก็เป็นบุรุษธรรมดาคนหนึ่ง”ซือเจ๋อเยว่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเขาสักเท่าใดในตอนแรก จึงกล่าวเพียง “ข้าเข้าใจ ว่าเจ้าปกติมาก”เยียนเซียวหรานคิดว่าระหว่างพวกเขาสองคนขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป วันใดวันห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 315

    หลังจากซือเจ๋อเยว่เดินออกไป ก็ยื่นมือออกมากุมหน้าอก ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสนนางคิดว่ามีคนกำลังมองนางอยู่ นางหันหน้ากลับไปทันที จึงเห็นชื่อปาเลี่ยที่กำลังมองนางอยู่ในเวลานี้นางอารมณ์ของนางไม่นับว่าดีนัก ค้อนเขาทีหนึ่ง “มองอะไร?”ชื่อปาเลี่ยหดหัวทันทีกล่าว “แม่นาง ท่านหิวหรือไม่? ข้าตุ๋นเนื้อเอาไว้แล้ว ท่านอยากลองชิมดูหน่อยหรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ท่าทางที่ขี้ขลาดนั้นของเขา ก็รู้ว่าเมื่อคืนเขาตกใจจนแย่แล้วเขาไม่พูดยังดี ทันทีที่พูดนางก็พบว่านางหิวแล้วจริง ๆนางไม่เกรงใจกับเขาเช่น ถามตรง ๆ “เนื้ออยู่ไหน?”ชื่อปาเลี่ยรีบกล่าวด้วยความดีใจ “ข้าจะไปเอามาให้ท่านเดี๋ยวนี้!”ถึงแม้ว่าชื่อปาเลี่ยไม่ใช่คนดีอะไร แต่ฝีมือทำอาหารก็ไม่เลว เนื้อตุ๋นหม้อนั้นนุ่นจนละลาย กินคู่กับเต้าเจี้ยว รสชาติค่อนข้างดีเลยทีเดียวหลังจากซือเจ๋อเยว่กินไปหนึ่งคำก็ชมเขาทันที “ใช้ได้นี่! ดูไม่ออกเลยว่าเจ้าจะมีฝีมือยอดเยี่ยม”ชื่อปาเลี่ยยิ้มอย่างประจบประแจง ถามนาง “แม่นางรู้จักคุณชายสามได้อย่างไรหรือ?”การกินเนื้อของซือเจ๋อเยว่หยุดชะงักไปทันที นางไม่มีทางบอกเขาว่า พวกเขาเจอกันครั้งแรกนางก็หลับนอนกับเขาแล้วนางไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 316

    อาหารมื้อนี้ซือเจ๋อเยว่กินอย่างค่อนข้างทรมานก่อนหน้านี้นางอยากจะอยู่ใกล้เยียนเซียวหรานอีกนิด เพื่อที่จะเพิ่มอายุขัยจากบนตัวของเขาบัดนี้ได้ใกล้ชิดแล้ว แต่กลับทำให้นางรู้สึกว่าชีวิตน้อย ๆ ของนาง สักวันหนึ่งจะต้องมอบให้อยู่ในมือของเขาข้าง ๆ ยังมีชื่อปาเลี่ยที่ดวงตากำลังกลอกไปมา ความรู้สึกแบบนั้นช่างยากที่จะอธิบายด้วยคำพูดสั้น ๆซือเจ๋อเยว่กินเพียงไม่กี่คำก็พูดว่าอิ่มแล้ว จะออกไปเดินสูดอากาศทันทีที่นางเดินไป ชื่อปาเลี่ยก็เขยิบเข้าไปใกล้เยียนเซียวหรานกล่าวด้วยสีหน้าซุบซิบนินทา “คุณชายสาม นางเป็นคนที่ท่านชอบหรือ?”เยียนเซียวหรานเหลือบตามองเขาแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไรชื่อปาเลี่ยยิ้มตาหยีพร้อมกล่าว “แม่นางผู้นี้หน้าตาสะสวยยิ่ง ความสามารถก็มาก เหมาะสมกับคุณชายสามนัก”“เพียงแต่นางเป็นนักพรตหญิง ข้าได้ยินมาว่าในสำนักเต๋า เหมือนว่าห้ามแต่งงานออกเรือน”“หากคุณชายสามชอบนางละก็ อย่างไรเสียก็รีบทำให้นางสึกเร็วหน่อย”มือที่กำลังถือชามข้าวของเยียนเซียวหรานหยุดชะงักทันที เขาอยู่กับซือเจ๋อเยว่ด้วยกันทุกวัน รู้ว่านางเป็นคาถาเต๋า แต่กลับไม่เคยคิดถึงเรื่องที่นางเป็นนักพรตหญิงมาก่อนเลยที่เขาสับส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 317

    ถึงแม้ซือเจ๋อเยว่จะทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่เมื่อคิดว่าก็แค่ค้างที่บ้านของเขาอีกคืนเดียว จึงคร้านที่จะไปสนใจเพียงแต่ตอนที่นอนตอนกลางคืน ก็เกิดปัญหาขึ้นในบ้านของชื่อปาเลี่ยมีห้องเพียงห้องเดียวเท่านั้น หลังจากตกดึก เยียนเซียวหรานก็อุ้มซือเจ๋อเยว่เข้าห้องทันทีในดวงตาที่เต็มไปด้วยเพลิงของความอยากรู้อยากเห็นของชื่อปาเลี่ยที่เกือบจะเผาเขา เขาชอบชื่นชอบการดูละครที่แฝงไปด้วยการบีบบังคับเช่นนี้เพียงแต่ก่อนที่เยียนเซียวหรานจะปิดประตูได้มองเขาแวบหนึ่ง สายตานั้นโหดเหี้ยมเกินไป ต่อให้เขากล้าหาญขนาดไหน เขาก็ไม่กล้าแอบไปฟังที่มุมกำแพงอีกแต่เขารู้อยู่แล้วว่าทั้งสองคนอยู่ในห้อง แต่ก็ไม่สามารถไปฟังได้ เขาจึงรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยเยียนเซียวหรานแบกซือเจ๋อเยว่เข้าไปในห้อง แล้วกดนางลงบนเตียง “ท่านคิดว่าท่านสามารถปล่อยเรื่องตอนนั้นไปง่าย ๆ ได้อย่างนั้นหรือ?”ซือเจ๋อเยว่แสร้งโง่ต่อ “ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่”เยียนเซียวหรานหยิบผ้าเช็ดหน้าที่นางทำตกไว้ครั้งนั้นโดยไม่ตั้งใจออกมา แล้วหยิบถุงหอมที่นางพกติดตัวออกมา จากนั้นก็หยิบหน้ากากสุนัขจิ้งจอกที่อยู่ในมิติคาถาเต๋าของนางออกมาซื

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 318

    ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างเหี่ยวเฉา “มาถึงขั้นนี้แล้ว ข้ายังจะเสแสร้งต่อไปได้ที่ไหนกัน”“เจ้าเองก็เช่นกัน รู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้ว แต่กลับแสร้งทำเป็นไม่รู้!”เยียนเซียวหรานพ่นลมหายใจ “ข้าจะตามท่านทันเสียที่ไหนกัน วันแต่งงานวันนั้นท่านก็จำข้าได้แล้ว ยังจะกราบไหว้ฟ้าดินแต่งงานกับข้าได้อีก”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างร้อนใจ “ข้าไม่ได้กราบไหว้ฟ้าดินแต่งงานกับเจ้า ข้ากราบไหว้ฟ้าดินแต่งงานกับพี่ใหญ่ของเจ้าต่างหาก!”เยียนเซียวหรานเขยิบเข้าไปใกล้นางเล็กน้อย “ท่านทำเรื่องพรรคนั้นกับข้า เหตุใดท่านถึงได้ใจเย็นแต่งงานกับพี่ใหญ่ของข้าได้อีก?”ซือเจ๋อเยว่กุมใบหน้ากล่าว “ที่ทำเช่นนั้นเพราะข้าเองก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน!”หลังจากที่นางกลับเมืองหลวง อวิ๋นไท่เฟยก็บังคับให้นางแต่งงานกับเยียนอ๋องซื่อจื่อแทนองค์หญิงสาม อีกทั้งตอนนั้นนางก็ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเยียนเซียวหรานกับเยียนอ๋องซื่อจื่ออีกด้วยหากนางรู้ ตอนนั้นไม่ว่าหัวเด็ดตีนขาดก็ไม่มีทางแต่งงานเข้าจวนเยียนอ๋องตอนที่นางรู้ก็ขี่หลังเสือลงได้ยากแล้ว ตอนนั้นสถานการณ์แบบนั้น ไม่แต่งก็คงจะไม่ได้นางถึงขนาดยังคิดอยากจะหนีในคืนแต่งงานเสียด้วยซ้ำ แต่อันที่จร

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 319

    “อันที่จริงตอนที่ข้าสองขวบ ข้าเคยตายไปแล้วรอบหนึ่ง”“ตอนหลังในระหว่างที่ข้าเติบโต ข้าก็ยิ่งเจอกับภัยพิบัติไม่หยุดหย่อน”“อันที่จริงข้าไม่ได้รู้สึกเพียงครั้งเดียว ที่ข้ามีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากขนาดนี้ ยังไม่สู้ตายไปเสียดีกว่า”“เพียงแต่ทุกครั้งที่เห็นบรรดาอาจารย์พยายามรักษาชีวิตของข้าแล้ว พยายามอย่างเต็มที่ ข้าเองก็ทนไม่ได้”“ข้าจะไม่ปิดบังเจ้า ครั้งนี้ที่ข้าเข้าเมืองหลวง เป็นเพราะท่านอาจารย์ใหญ่บอกข้าว่าในเมืองหลวงมีโอกาสเปลี่ยนแปลงโชคชะตาที่ตายตั้งแต่เยาว์วัยของข้าได้ ข้าถึงได้มา”“อันที่จริงจนถึงบัดนี้ ข้าได้เฉยชาต่อเรื่องความตายแล้ว”“แต่ว่าเยียนเซียวหราน เจ้าแตกต่าง เจ้าแบกความรับผิดชอบของทั้งจวนเยียนอ๋อง เจ้ามีทั้งท่านย่า ท่านแม่ พี่สะใภ้ บรรดาน้องสาวที่ต้องการให้เจ้าดูแล”“ถ้าเจ้าเป็นอะไรไป พวกนางจะมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยความยากลำบากมาก ไม่เพียงที่ตัวเจ้าเองต้องยืนหยัดขึ้นมา ยังต้องให้กำเนิดบุตรเพื่อสืบทอดจวนเยียนอ๋อง”“ทุกคนภายในจวนปฏิบัติกับข้าดียิ่ง ข้าติดค้างเจ้ามากมายเหลือเกิน ดังนั้นข้ายินดีที่จะมาชายแดนเพื่อตามหาความจริงเกี่ยวกับการตายในการสู้รบของเยียนอ๋อง สืบหาหลักฐ

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 354  

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่อากาศโดยรอบเริ่มบางเบาจนผิดปกติ  พวกเขาเพียงแค่เดินตามปกติ แต่กลับรู้สึกหายใจติดขัด  ชื่อปาเลี่ยอ้าปากหอบหายใจ พลางเอ่ยด้วยความตระหนก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าหายใจไม่ออก?”  ซือเจ๋อเยว่เอ่ยเสียงเบา “เราก้าวเข้าสู่ค่ายกลของผู้อื่นแล้ว”  ชื่อปาเลี่ยเอ่ยด้วยความสงสัย “แต่เมื่อครู่ยามที่เข้ามา ท่านได้ทำลายค่ายกลไปแล้วไม่ใช่หรือ?”  ซือเจ๋อเยว่ตอบไป “นี่คือค่ายกลซ้อนค่ายกล ผู้วางค่ายกลนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง ฝีมือในด้านค่ายกลไม่ได้ด้อยกว่าข้าเลย” “แม้แต่ยามที่ก้าวเข้ามาครั้งแรก ข้าเองก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ” “ในเมื่อเราตกเข้ามาแล้ว ยามนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางทำลายค่ายกลนี้”  ชื่อปาเลี่ยรีบถาม “ทำอย่างไรจึงจะทำลายได้?”  ซือเจ๋อเยว่กวาดตามองโดยรอบแล้วเอ่ยขึ้น “หากต้องการทำลายต้องหาแกนกลางค่ายกลให้พบ ขอเพียงหามันเจอ การทำลายค่ายกลนี้ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างยิ่ง”  “ส่วนเรื่องที่ว่ามันอยู่ที่ใด ยามนี้ข้าเองก็ยังไม่แน่ชัด เราต้องหาต่อไป”  ยิ่งพวกเขาก้าวไปข้างหน้าเท่าใด ก็ยิ่งรู้สึกว่าการหายใจยากลำบากเท่านั้น พื้นดินรอบตัวกลายเป็นสีดำไหม้ ฟ้า

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 353  

    ราชครูมองเห็นโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกงกระจัดกระจาย ก่อนที่มันจะรวมตัวขึ้นอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย  เขายกนิ้วขึ้นคำนวณบางสิ่ง แต่เมื่อได้ผลลัพธ์ เขากลับแย้มยกริมฝีปากแล้วเอ่ยด้วยความไม่พอใจ “นี่มันตัวอันใด!”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเอ่ยถาม “ท่านราชครู เป็นอันใดไปหรือขอรับ?”  ทว่าราชครูกลับตอบไม่ตรงคำถาม “ทุกสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีเหตุและผลของมัน”  “มีบางเรื่องที่ข้าสามารถแทรกแซงได้ แต่บางเรื่องต้องปล่อยให้นางเป็นผู้จัดการเอง”  “นางคนนั้นมีชะตาชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น เมื่อยามทุกข์ก็ทุกข์อย่างแท้จริง” “แม้ข้าจะสงสารนางเพียงใด แต่เรื่องบางเรื่องก็มีแต่นางที่ต้องเผชิญด้วยตนเอง”  เด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวเอ่ยถาม “ท่านกำลังเอ่ยถึงชะตากรรมใดกัน? หรือว่าท่านกำลังเป็นห่วงศิษย์พี่หญิง?”  ราชครูหยิบไม้ขนไก่ข้างตัวขึ้นมาแล้วหวดลงไปที่หลังของเด็กรับใช้สำนักเต๋าชุดเขียวทันที “ผู้ใดสนใจนางกัน?!”  “ชะตาชีวิตของนางเป็นชะตาที่ต้องตาย แม้แต่มหาเทพเซียนมาเองก็ไม่อาจช่วยนางได้!”  “ตลอดหลายปีมานี้ เป็นเพราะนาง ข้าแก่ขึ้นไปตั้งเท่าใด ข้าจะไปสนใจนางเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 352  

    ดังที่ซือเจ๋อเยว่คาดการณ์ไว้ อดีตหนิงกั๋วกงพลันกระอักเลือดออกมา  เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเคียดแค้น “ซือเจ๋อเยว่!”  ตลอดหลายวันผ่านมานี้ เขาทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อรักษาโชคชะตาของจวนหนิงกั๋วกง  สมบัติวิเศษล้ำค่าที่เขาเสาะหามานานหลายปีล้วนถูกใช้ไปจนหมดสิ้น จึงจะประคับประคองไว้ได้อย่างยากลำบาก ครั้งก่อนที่ไป๋จื้อเซียนบุกเข้าไปยังห้องลับ และกลืนกินดวงวิญญาณของบรรพบุรุษคนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็ทำให้อดีตหนิงกั๋วกงเริ่มรู้สึกถึงความสั่นคลอนของพลัง  แม้เวลานั้นสถานการณ์จะอันตราย แต่ค่ายกลใหญ่แห่งชายแดนยังไม่ถูกทำลายโดยสมบูรณ์  หากสามารถจัดการพลังที่หลงเหลือได้อย่างเหมาะสม ก็ยังสามารถต่อเวลาของโชคชะตาในจวนหนิงกั๋วกงออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เมื่อรู้ว่าซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานออกจากเมืองหลวง เขาจึงเร่งวางแผนเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก เดิมทีเขาคิดว่าหากสามารถสกัดซือเจ๋อเยว่และเยียนเซียวหรานเอาไว้ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งได้ ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา  ทว่าเมื่อครู่ เขาได้รับสารลับจากนกพิราบส่งข่าวจากด่านอวิ๋นหลิ่ง  ข้อความในจดหมายบอกเอาไว้ว่าที่ด่านอวิ๋นหลิ่งนั้น เกิดหิมะตกหนัก

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 351  

    ดังนั้น เขาจึงเปลี่ยนจากบุรุษผู้ซื่อสัตย์ กลายเป็นคนหยาบกระด้างและไม่สนใจเหตุผลใด ๆ อีกต่อไป  เขาชินเสียแล้วกับสายตาของผู้คนที่มองเขาปานสิ่งสกปรก เขาใช้ชีวิตอย่างเมามายไร้จุดหมายไปวัน ๆ  แต่เมื่อวาน ยามที่ไป๋จื้อเซียนคิดจะสังหารเขา ซือเจ๋อเยว่กลับทุ่มเทสุดกำลังเพื่อช่วยชีวิตเขา  ยิ่งไปกว่านั้นแววตาที่นางใช้มองเขา ก็หาได้แตกต่างไปจากการมองคนอื่นไม่ ไม่มีแม้เพียงเศษเสี้ยวของความดูแคลน  เขาจึงรู้สึกว่าสตรีในโลกนี้ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเช่นมารดาหรือสตรีที่เขาเคยหมายปองในอดีต  เขากระแอมเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณชายสาม หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ท่านพอจะพาข้าไปเมืองหลวงได้หรือไม่?”  เยียนเซียวหรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย “เจ้าคิดจะไปเมืองหลวง?”  ชื่อปาเลี่ยตอบไป “ใช่ขอรับ ข้าไม่อยากอยู่ที่ชายแดนอีกต่อไปแล้ว ที่นี่ทุกคนล้วนรู้เรื่องของข้า หากข้าไม่เลือกเป็นอันธพาลก็ต้องเป็นเพียงคนไร้ค่า” “แต่ข้าไม่อยากเป็นอันธพาลและไม่อยากเป็นคนไร้ค่า ข้าเพียงแค่อยากเป็นคนธรรมดา”  “ข้าต้องการพึ่งพาความสามารถของตนเอง มีชีวิตที่ดี และแต่งงานกับสตรีดี ๆ สักคน เพื่อใช้ชีวิตอย่างปกติสุข”  เยียนเซียวหรานเอ่ย

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 350

    คำพูดประโยคนี้เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไรเพียงแต่เขายังจับใจความสำคัญได้อย่างหนึ่ง “วันแต่งงานวันนั้นท่านก็อยากจะลูบคลำข้าแล้ว?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวแก้ไข “ไม่ใช่ว่าอยากลูบคลำเจ้า เพียงแค่คิดว่าขาของเจ้าทั้งยาวทั้งตรง น่าดูจริง ๆ จึงอยากจะลูบสักครั้ง”เยียนเซียวหราน “...เขาคิดว่านางเป็นคนที่มีความสามารถ ไม่คิดเลยว่าจะมีความคิดแบบนี้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วซือเจ๋อเยว่กล่าวอีกครั้ง “ตอนหลังจำเจ้าได้ กลัวว่าเจ้าจะเอามีดฟันข้า ต่อให้ในใจมีความคิดมากกว่านี้ ก็ทำได้เพียงข่มเอาไว้เท่านั้น”เยียนเซียวหรานกล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ท่านทำเรื่องแบบนั้นออกมาแล้ว ไม่คิดเลยว่ายังจะกลัวข้าลงมืออีก”“ต่อให้ข้าลงมือ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกกระมัง? เรื่องแบบนั้นอย่างไรเสียก็น่าอาย ข้าไม่สามารถบอกใครได้ ก็เหลือแค่อดทนไว้เท่านั้น”ซือเจ๋อเยว่เม้มริมฝีปากยิ้มบาง ๆ ทีหนึ่ง “พูดถูกต้อง แต่หลังจากเกิดเรื่องครั้งนั้นขึ้นเจ้าก็ดุจริง ๆ นี่นา!”เยียนเซียวหรานค้อนนางทีหนึ่ง “หากมีคนฉวยโอกาสตอนท่านไม่ระวังตัว ทำเรื่องแบบนั้นกับท่าน ท่านจะไม่โมโหหรือ?”ซือเจ๋อเยว่หดคอ “โมโหนั่นเป็นเรื่องแน่อยู่แล้ว ข้า...

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 349

    “สิ่งชั่วร้ายนั่นไม่มายังพอไหว ทันทีที่มาก็จะเอาชีวิตของพวกมันเสีย”นางมีความมั่นใจต่อค่ายกลที่ตนเองวาดมาก โดยเฉพาะในเวลานี้ พวกเขายิ่งต้องเก็บสะสมพลังงานเอาไว้เยียนเซียวหรานพยักหน้าเบา ๆ ทีหนึ่ง นอนลงไปแล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมกอดหลวม ๆนางเงยหน้าขึ้นหันหน้ามองเขา เขากล่าวเสียงอ่อนโยน “ท่านนอนให้สบายเถอะ รักษาสุขภาพให้ดีขึ้น เรื่องพวกนี้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่างก็ต้องพึ่งพาท่าน”นับตั้งแต่เขาสารภาพรักกับนางครั้งก่อน ตอนที่ซือเจ๋อเยว่อยู่ตามลำพังกับเขาก็มักจะมีความไม่สบายใจเกิดขึ้นบัดนี้นางคิดว่าเขาได้ช่วยชีวิตนางมาหลายครั้งแล้ว ทั้งสองคนเคยมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยามาก่อนเช่นกัน หากนางเขินอายจนเกินไปก็จะยากที่จะพูดนางคิดว่าไม่สู้ถือโอกาสในคืนนี้คุยเรื่องนี้ให้ชัดเจนไปเลยนางจึงกล่าว “คือว่า...ชีวิตของข้าในตอนนี้ผูกไว้กับเจ้า หากพูดว่าชอบเจ้าในเวลานี้ เหมือนว่ากำลังพยายามประจบเอาใจเจ้า”“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยชอบใครมาก่อน ไม่รู้ว่าการชอบเป็นความรู้สึกแบบใด”“แต่ว่ามีข้อหนึ่งที่ข้าสามารถแน่ใจได้ ข้าไม่ได้รังเกียจที่ใกล้ชิดกับเจ้า บางทีนี่อาจจะเป็นความชอบก็ได้”“สุขภาพของข้าเป็

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status