แชร์

บทที่ 299

ผู้เขียน: เจียงหนานเยียน
“สถานการณ์แบบนี้มีความเป็นไปได้สองอย่าง อย่างแรกคือตอนนั้นเยียนอ๋องอยู่ที่ภูเขาเชียนจั้งมีกองทหารตั้งอยู่ที่นั่น ดังนั้นจึงได้มีการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผลเช่นนี้”

“อีกอย่างหนึ่งคือขุนนางผู้ดูแลการขนส่งเสบียงอาหารมีปัญหา แต่ขุนนางท่านนั้นตายอยู่ที่ด่านอวิ๋นหลิ่งระหว่างทางกลับมาจากการขนส่งเสบียงอาหาร”

การคาดเดาของเขามีเหตุผลมาก แต่ก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น

เขาหันหน้าไปหาซือเจ๋อเยว่กล่าว “ดังนั้นที่ข้าเชิญองค์หญิงมา เป็นเพราะอยากจะให้องค์หญิงอันเชิญอ๋องเยียนมาที่นี่ แล้วอยากจะถามเขาด้วยตนเอง”

ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้วแล้วมองเขากล่าว “ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าเคยพูดว่า คนตายไปแล้ว ปกติวิญญาณจะกลับไปยังยมโลกในวันที่ฝังศพ”

“ตามขั้นตอนของยมโลกแล้ว ตอนนี้ท่านพ่อน่าจะกลับชาติมาเกิดใหม่แล้ว ไม่น่าจะมีความทรงจำในอดีตอีกแล้ว”

เหวยอิ้งหวนเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยกล่าว “ที่แท้องค์หญิงก็ไม่ได้เป็นคนที่สามารถทำได้ทุกอย่างนี่!”

“ข้ายังคิดว่าองค์หญิงจะสามารถทำให้คนเห็นวิญญาณได้ทุกเมื่อ เรื่องการเรียกวิญญาณออกมาก็ง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วย”

ซือเจ๋อเยว่ “...”

นางมองออกแล้ว เจ้าหม้อนี่แค้นเรื่องที่ครั้งก่อนน
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 300

    เยียนเซียวหรานหันหน้ามองนาง นางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก่อนหน้านี้พวกเราตัดสินใจกันว่าจะไปที่ช่องเขากรงเสือไม่ใช่หรือ?”“ก่อนหน้าเป็นเพราะมีเรื่องมากมายรัดตัว จึงไม่มีโอกาสได้ไปเสียที”“แม้ว่าตอนนี้ก็ยังคงมีเรื่องมากมายรัดตัว แต่พวกเราก็คงไม่สามารถจัดการเรื่องราวในมือจนหมดเสียก่อนแล้วค่อยไปนี่”“สมุดบัญชีเล่มนั้นที่ใต้เท้าเหวยนำมาส่ง ข้าคิดว่าพวกเรารอไม่ได้อีกแล้ว วันพรุ่งนี้เดินหน้าไปชายแดนทันที”เยียนเซียวหรานถามนาง “ท่านต้องจัดการเรื่องของไป๋จื้อเซียนก่อนไม่ใช่หรือ?”ดวงตาของซือเจ๋อเยว่ล้ำลึกขึ้นเล็กน้อย “เจ้าไม่เข้าใจไป๋จื้อเซียน ไม่รู้ว่าเขามีความแค้นมากขนาดไหน”“ครั้งนี้เขาเสียเปรียบกับพกวเรามาก จะต้องมาเพื่อแก้แค้นข้าอย่างแน่นอน”“ข้าอยู่ที่เมืองหลวง เขาก็จะลงมือที่เมืองหลวง ที่เมืองหลวงคนเยอะจนสามารถทำร้ายผู้บริสุทธิ์ได้อย่างง่ายดาย”“ข้าออกจากเมืองหลวง เขาก็จะตามไปด้วยอย่างแน่นอน ขอเพียงแค่ข้าเตรียมตัวดี ก็จะมีโอกาสฆ่าเขาให้สิ้นซากได้”ครั้งก่อนตอนที่นางเจอกับไป๋จื้อเซียนในเรือนของจวนหนิงกั๋วกง สัมผัสไม่ได้ถึงการมีอยู่ของไป๋จื้อเซียน คิดว่าเขาน่าจะใช้คาถาที่วางไว้ลบล้างยันต

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 301

    “ท่านย่าไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ” ซือเจ๋อเยว่อิงเข้าไปในอ้อมอกของนางด้วยความออดอ้อน “ข้ารู้ดีอยู่แก่ใจ ไม่มีทางให้ตัวเองเป็นอะไรไปหรอกเจ้าค่ะ”“อีกอย่าง ครั้งนี้มีน้องสามไปกับข้าด้วย เขาจะปกป้องข้าเป็นอย่างดี”เหล่าไท่จวินถอนหายใจออกมายาว ๆ ทีหนึ่งพร้อมกล่าว “หากเจ้าจะไปจริง ๆ ข้าก็ขวางเจ้าไม่ได้ มีดเล่มนี้เจ้าพกเอาไว้ป้องกันตัวเถอะ”นางพูดจบก็บิดไม้เท้า แล้วชักมีดสั้นเรียวยาวเล่มหนึ่งออกมาจากด้านในไม้เท้าด้านบนมีดมีตัวหนังสือหลายตัวสลักอยู่ ใบมีดที่เงาวับเย็นยะเยือกคุกรุ่นไปด้วยแรงอาฆาตอันรุนแรงที่ไม่สลายหายไปซือเจ๋อเยว่ค่อนข้างประหลาดใจ “จิงหง? นี่คือมีดจิงหงหรือเจ้าคะ?”เหล่าไท่จวินประหลาดใจเช่นกัน “เจ้ารู้จักมีดเล่มนี้หรือ?”ซือเจ๋อเยว่พยักหน้า “ข้าเคยได้ยินอาจารย์ห้าพูด มีดจิงหงเป็นมีดโบราณเล่มแรก สามารถสังหารสิ่งชั่วร้ายได้ทุกอย่าง”เหล่าไท่จวินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “มีดเล่มนี้สามารถสังหารสิ่งชั่วร้ายได้หรือไม่ข้าไม่รู้ นี่คือสิ่งป้องกันตัวที่ท่านอ๋องผู้เฒ่ามอบให้ข้าไว้ในตอนนั้น”“มีดเล่มนี้อยู่กับข้ามานานหลายปีแล้ว ช่วยชีวิตข้าเอาไว้หลายหน”อันที่จริงมีดเล่มนี้เป็นสิ่งของที่

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 302

    เหล่าไท่จวินในเวลานี้ก็ไม่สะดวกจะออกจากจวนไปซื้ออีก จึงให้คนนำรูปปั้นวีรบุรุษเต๋านี้ย้ายไปไว้ที่ห้องข้าง ๆ ถวายธูปเทียนและเครื่องเซ่นไหว้หลากชนิดบรรดาสตรีที่อยู่ในจวนอ๋องก็มากราบไหว้มรรคาจารย์เต๋าด้วยกัน เพื่อขอพรให้มรรคาจารย์เต๋าปกป้องซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานซือเจ๋อเยว่ไม่รู้ว่านางเพียงคนเดียวทำให้ทุกคนในจวนอ๋องนับถือลัทธิเต๋า ไม่นับถือพระพุทธศาสนาอีกต่อไป นางและรถม้าของเหยียนเซียวหรานในเวลานี้ได้ออกจากเมืองหลวงไปแล้วตอนที่พวกเขาขับออกนอกเมืองหลวง ไป๋จื้อเซียนที่กำลังมุดหัวดูดกลืนพลังชั่วร้ายอยู่อย่างบ้าคลั่งก็ลืมตาขึ้นเขาบำเพ็ญเพียรมาพันปี ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่วิญญาณยังคงแข็งแกร่งตามเดิมความแค้นของเขาที่มีต่อซือเจ๋อเยว่ ได้ฝังลึกเข้าไปในส่วนลึกของวิญญาณเขาแล้วเขาค่อนข้างอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของนางเป็นอย่างยิ่ง ทันทีที่นางออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ได้ทันทีภายในดวงตาที่อ่อนโยนเป็นอย่างยิ่งคู่นั้นก็ปรากฏความเย็นยะเยือกออกมา “คิดจะหนีรึ? ไม่ง่ายแบบนี้หรอก!”เหวยอิ้งหวนในเวลานี้ได้มาถึงศาลต้าหลี่แล้ว ตอนที่เขากำลังตรวจหนังสือราชการก็เหมือนกับสัมผัสอะไรบางอย่างไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 303

    ทั่วทั้งภายในคุกหลวง นอกจากนักโทษแล้ว ก็ไม่เห็นดวงวิญญาณแม้แต่ดวงเดียวเหวยอิ้งหวนมีความสุขขึ้นมาทันที หรือว่าตาทิพย์ของเขาปิดอีกแล้ว?เขาดีใจได้ไม่ทัน ก็ได้ยินเสียงของชายชราดังลอยมา “ใต้เท้า ครั้งก่อนวิญญาณดุร้ายดวงนั้นบุกเข้ามา จับดวงวิญญาณทั้งหมดกินไปแล้ว!”“ใต้เท้า ท่านทวงความยุติธรรมให้พวกเราด้วยนะขอรับ! ไม่อย่างนั้นเขามุทะลุและดุดันแบบนั้น คาดว่าภายหน้าดวงวิญญาณของเมืองหลวงจะต้องถูกเขาจับกินจนหมดแน่!”เหวยอิ้งหวน “...”ที่แท้ไม่ใช่เพราะตาทิพย์ของเขาถูกปิด แต่เป็นเพราะวิญญาณทั้งหมดในศาลต้าหลี่ถูกวิญญาณดุร้ายจับกินไปหมดแล้วชายชราคนนั้นยังคงบ่นพึมพำอยู่ “ใต้เท้า วิญญาณดุร้ายดวงนั้นที่ข้าเห็น เขาสวมเสื้อผ้าสีแดง หน้าตาหล่อเหลามาก แต่ก็โหดร้ายมากเช่นกัน!”เหวยอิ้งหวน “...”เขาคิดว่าวิญญาณดวงนี้ที่อยู่ตรงหน้าจุดความสนใจค่อนข้างเบี่ยงเบน จนป่านนี้แล้ว ยังใส่ใจว่าวิญญาณดวงนั้นหน้าตาดีหรือไม่เขาไม่ได้สนใจวิญญาณดวงนั้น ตรงไปที่จวนเยียนอ๋องทันทีถึงแม้เหล่าไท่จวินจะไม่รับแขก แต่เหวยอิ้งหวนเป็นกรณีพิเศษนางบอกเรื่องที่เยียนเซียวหรานกับซือเจ๋อเยว่น่าจะไปที่ช่องเขากรงเสือกับเหวยอิ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 304

    ซือเจ๋อเยว่ในเวลานี้นั่งอยู่บนรถม้า จามอย่างรุนแรงอยู่หลายทีนางสูดจมูกกล่าว “ใครกำลังด่าข้า?”เยียนเซียวหรานมองนางแวบหนึ่งกล่าว “คงจะเป็นใต้เท้าเหวยกระมัง”ซือเจ๋อเยว่นึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่แอบเบิกตาทิพย์ให้แก่เหวยอิ้งหวน วิธีการเบิกดวงตาแห่งสวรรค์ของนางเมื่อคืนนี้ค่อนข้างพิเศษ ตอนนั้นไม่ได้เปิด จะต้องรอจนถึงตอนเช้าวันนี้ถึงจะเปิดเมื่อลองนับดูเวลา ตอนนี้ตาทิพย์ของเหวยอิ้งหวนก็คงจะเปิดได้ครู่หนึ่งแล้ว คนที่แอบด่านางเป็นไปที่จะเป็นเหวยอิ้งหวนในเวลานี้คงจะโมโหจนกระหืดกระหอบแล้วซือเจ๋อเยว่เบะปากเล็กน้อย กล่าวว่า “เขาใจแคบเกินไปแล้ว! การแอบด่าคนอื่น ช่างไม่เป็นสุภาพบุรุษอย่างยิ่ง”สำหรับคำพูดนี้ของนาง เยียนเซียวหรานทำเพียงยิ้มเล็กน้อยเท่านั้นหลังจากพลบค่ำ พวกเขาก็เข้าพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ภายในโรงเตี๊ยมเหลือเพียงห้องเดียวเท่านั้นเถ้าแก่ของโรงเตี๊ยมกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “คุณชายกับฮูหยินเดิมทีก็เป็นสามีภรรยากัน นอนห้องเดียวกันก็เป็นเรื่องปกติมาก”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ทั้งสองคนออกจากออกนอกบ้านถูกคนมองว่าเป็นสามีภรรยา ยังรู้สึกแปลก ๆ กับความรู้สึกแบบนี้เพียง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 305

    ตอนที่ทั้งสองคนข้ามาท่าทางสนิทสนมกันปกติ เพียงแต่ตอนนั้นเป็นเพราะมีเหตุผลหลายอย่าง ไม่เหมือนกับคืนนี้...เขายืนอยู่ที่ริมระเบียงของทางเดิน ปล่อยให้ลมยามราตรีพัดผ่านใบหน้าของเขา พยายามข่มความคิดที่เดิมไม่ควรมีในใจลงไปซือเจ๋อเยว่อาบน้ำเสร็จ ก็รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่านางเปิดประตูห้องเห็นเยียนเซียวหรานยืนอยู่ที่หน้าประตู ถามเขา “เจ้าจะอาบน้ำด้วยหรือไม่?”เยียนเซียวหรานตอบคำหนึ่ง หันหลังกลับก็เดินเข้าไปข้างในห้อง จากนั้นก็ปิดประตูซือเจ๋อเยว่ “...”นางจะให้เขาไปเอาน้ำสำหรับอาบมาใหม่ ไม่ใช่ให้เขาอาบน้ำต่อจากน้ำที่นางใช้อาบไปแล้ว!ทำแบบนี้มัน...จะน่าอายเกินไปหน่อย!นางรีบเคาะประตูที่ด้านนอก “เซียวหราน เจ้าช่วยเทน้ำที่ข้าอาบทิ้งที ข้าจะไปให้เด็กของโรงเตี๊ยมนำน้ำร้อนมาให้เจ้าใหม่นะ!”เยียนเซียวหราน “...”ตอนที่เขาเดินเข้ามาไม่ได้คิดมาก หลังจากที่หันหน้ากลับไปมองน้ำในอ่างน้ำก็ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่างพวกเขาไม่ใช่สามีภรรยากันจริง ๆ จะอาบน้ำถังเดียวกันได้อย่างไรเมื่อเขาได้ยินคำพูดของซือเจ๋อเยว่ ในใจก็ค่อนข้างรู้สึกเขินอาย โชคดีที่นางช่วยเตือนสติเขา!เขากระแอมเบา ๆ ทีหนึ่ง “...ไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 306   

    ช่องเขากรงเสือคือสถานที่ที่เยียนอ๋องซื่อจื่อสิ้นชีพในการต่อสู้ วิญญาณมักมีความใส่ใจต่อสถานที่ที่ตนเองจากไปเป็นพิเศษ การที่พวกเขาจะเดินทางไปยังช่องเขากรงเสือในครั้งนี้อาจจะได้พบเจอกับเขา ซือเจ๋อเยว่เมื่อเห็นว่าเยียนเซียวหรานมีอารมณ์หม่นหมอง นางจึงยื่นมือไปตบไหล่เขาเบาๆ พลางเอ่ยขึ้น “การเดินทางไปยังช่องเขากรงเสือในครั้งนี้ พวกเราต้องได้อะไรบางอย่างแน่นอน” “เมื่อพวกเรากลับมา คดีของจวนเยียนอ๋องก็น่าจะปิดลงได้เสียที” “หลังจากที่คดีสิ้นสุดลง เจ้าก็หาวิธีที่จะสืบทอดตำแหน่ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเจ้าได้เป็นเยียนอ๋องคนใหม่ เจ้าจะสามารถนำพาจวนเยียนอ๋องไปสู่ความรุ่งโรจน์ในระดับใหม่ได้อย่างแน่นอน” เมื่อเยียนเซียวหรานสบสายตาที่กระจ่างใสของซือเจ๋อเยว่ หัวใจของเขาก็สงบลงทันที  เขาพยักหน้าเบาๆ พลางเอ่ยขึ้น “ท่านพูดถูก” ซือเจ๋อเยว่แย้มยิ้มให้เขาเล็กน้อย “เอาล่ะ ยามนี้ค่ำแล้ว พวกเราควรนอนแต่หัวค่ำ พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางอีกแต่เช้า”  เมื่อเอ่ยจบนางก็ปีนขึ้นเตียงไป เยียนเซียวหรานสบตานางด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความคิด แต่ไม่ได้กล่าวอันใด เขาเดินไปยังเตียงแล้วล้มตัวลงนอนข้างๆ นาง ใช้สองนิ้วดับตะเกียงน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 307   

    การที่ต่างก็นิยมฝึกศิลปะการต่อสู้ย่อมมีข้อเสียอยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือมีโอกาสสูงที่จะเกิดเรื่องวิวาท  อีกทั้งด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น ผู้คนส่วนใหญ่จึงชื่นชอบการดื่มสุรา  เมื่อดื่มสุราแล้ว เรื่องวิวาทก็ยิ่งเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม ระหว่างทางที่เยียนเซียวหรานและซือเจ๋อเยว่เดินทางมา พวกเขาได้เห็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นหลายครั้ง  ทว่าชาวบ้านในแถบนั้นกลับดูชินชากับเหตุการณ์เช่นนี้ เสียจนไม่แม้แต่จะสนใจออกมายืนดู เยียนเซียวหรานปกป้องซือเจ๋อเยว่ตลอดเส้นทาง จนกระทั่งพวกเขามาถึงโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้  ขณะพวกเขาเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม ก็มีคนหนึ่งเดินสวนออกมา และชนเข้ากับไหล่ของซือเจ๋อเยว่ บุรุษคนนั้นสบถด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “เดินไม่ดูทางหรืออย่างไร…โอ้ เป็นแม่โฉมงามเสียด้วย!”  เมื่อเอ่ยจบเขาก็ยื่นมือมุ่งหมายจะแตะใบหน้าของซือเจ๋อเยว่ แต่เยียนเซียวหรานกลับคว้าข้อมือเขาไว้ได้ทัน พลางบิดข้อมือจนอีกฝ่ายร้องออกมาด้วยเสียงแหลมราวกับหมูถูกเชือด บุรุษคนนั้นรีบตะโกนเสียงดัง “ปล่อยมือ! เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าคือผู้ใด บังอาจมาหาเรื่องข้า ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรืออย่างไร!” เยียนเซียว

บทล่าสุด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status