Share

บทที่ 225

Author: เจียงหนานเยียน
สุขภาพของนางไม่ดี แต่เส้นผมกลับดียิ่ง ทั้งดกทั้งดำ

เยียนเซียวหรานกับนางเคยมีการกระทำที่ใกล้ชิดกันมาก่อน ก่อนหน้านี้ก็รู้ว่าเส้นผมของนางดียิ่ง แต่ตอนนั้นความสนใจไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น ในเวลาเมื่อได้สัมผัสอีกครั้งก็มีความรู้สึกอย่างอื่น

เขาได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตนเอง

เสียงหัวใจเต้นนี้ควบคุมไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เต้นอย่างบ้าคลั่งเล็กน้อย

เสียงของฉางเซิงที่อยู่หน้าประตูดังลอยมา “คุณชายสาม ท่านตื่นแล้วหรือไม่? บ่าวจะเข้าไปปรนนิบัติท่านล้างหน้าขอรับ!”

เยียนเซียวหรานพยายามทำเสียงของตนให้สงบเล็กน้อย “ข้ากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เจ้ารออยู่ข้างนอกประเดี๋ยว”

ฉางเซิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เยียนเซียวหรานเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่เคยหลีกเลี่ยงเขา เหตุใดวันนี้จึงอยากจะหลีกเลี่ยงเขากันนะ?

เพียงแต่เยียนเซียวหรานออกคำสั่งแล้ว เขาจึงทำได้เพียงยืนอยู่ด้านนอก “ขอรับ”

ซือเจ๋อเยว่กลับมีความรู้สึก ‘กำลังจะถูกจับได้ว่าแอบคบชู้’ พูดตรง ๆ นางยังคงรู้สึกร้อนตัวอยู่

นางหันหน้าไปมองเยียนเซียวหราน เขาพยักหน้าเล็กน้อย ดึงหน้าต่างให้เปิด

นางปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ตอนที่กำลังปีนขึ้นไปจู่ ๆ ขาของนางก็
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 226

    เยียนเซียวหรานพยายามข่มความกลัวภายในใจลงไป ไม่ให้ความรู้สึกเหล่านั้นแผ่ขยายในใจของเขาเพียงแต่ทันทีที่เมล็ดพันธุ์ของความรู้สึกถูกหว่านลงไป หลายครั้งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์บางครั้งยิ่งข่มเอาไว้ ในทางกลับกันยิ่งทำให้เติบโตอย่างรวดเร็วเรื่องที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานกังวลนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นางไม่อยากถูกคนอื่นเห็นว่านางออกมาจากในห้องของเยียนเซียวหรานเรื่องนี้ทันทีที่ถูกใครพบเข้า เกรงว่าชื่อเสียงทั้งหมดของนางจะต้องถูกทำลาย จนไม่มีหน้าไปพบเหล่าไท่จวินดวงของนางถือว่าไม่เลว ตอนที่ออกมาจากห้องของเยียนเซียวหรานไม่มีใครเห็นเข้านางเดินมาถึงด้านหน้าเรือนของเฟิ่งจือเซี่ย ถึงได้เจอกับสาวใช้คนหนึ่งเฟิ่งจือเซี่ยก็ตื่นแล้วเช่นกัน ในเวลานี้กำลังตัดแต่งดอกไม้ภายในสวนเมื่อนางเห็นซือเจ๋อเยว่ก็ถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “เหตุใดองค์หญิงจึงเดินมาจากทางนี้?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “วันนี้ข้าตื่นเช้า จึงเดินเล่นในจวน ดังนั้นจึงเดินมาจากทางนี้”เฟิ่งจือเซี่ยไม่ได้สงสัย เพียงยิ้มบาง ๆ “องค์หญิงตื่นเช้าจริงๆ”“ข้าให้สาวใช้ทำขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ องค์หญิงอยากจะมากินด้วยกันก่อนสักนิดห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 227

    ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า “ไม่เป็น ยันต์นั้นของข้าเพียงแค่ทำให้จิตใจของเจ้าสงบขึ้น”ถึงอย่างไรเยียนเอ้อร์ก็กลายเป็นวิญญาณแล้ว การมาหาเฟิ่งจือเซี่ยแบบนี้สุดท้ายแล้วจะทำให้มีผลกระทบที่ไม่ดีบางอย่างต่อนางอันที่จริงยันต์อันนั้นของซือเจ๋อเยว่เป็นการขับไล่พลังชั่วร้ายในร่างกายของนางเท่านั้น หลังจากที่ขับไล่ของพวกนั้นแล้ว ก็จะทำให้คนรู้สึกโล่งขึ้นไม่น้อย ก็จะไม่รู้สึกปวดหัวอีกเพียงแต่เรื่องพวกนี้นางคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องพูดกับเฟิ่งจือเซี่ยอย่างชัดเจนขนาดนั้นเฟิ่งจือเซี่ยจับพูดกับซือเจ๋อเยว่อีกสองสามประโยค ขนมก็ทำเสร็จแล้วถูกยกขึ้นมาหลังจากพวกนางกินข้าวเช้าเสร็จ เฟิ่งจือเซี่ยพูดกับซือเจ๋อเยว่ “ต่อไปหากองค์หญิงมีเวลา ก็มาคุยเป็นเพื่อนข้า”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าเป็นเพราะหลังจากเรื่องครั้งก่อนนางจึงค่อนข้างสนิทกับตน หญิงตั้งครรภ์ทั้งคิดมากและขี้วิตกกังวล จึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มในเวลานี้เอง ผู้ดูแลเดินเข้ามา “องค์หญิง มีคนมาจากวังหลวง เชิญท่านเข้าวังขอรับ”ซือเจ๋อเยว่คิดว่าคนพวกนั้นของจวนหนิงกั๋วกงจะต้องไปฟ้องฮ่องเต้เจาหมิง นางเลิกคิ้วเล็กน้อยทีหนึ่งหลบเลี่ยงเรื่องพวกนี้ไม่พ้น จึงให้ผู้ดูแลไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 228

    ในเวลานี้ นางกำนัลคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วกล่าว “ฮองเฮา อวิ๋นไท่เฟยขอเข้าเฝ้าเพคะ”ฮองเฮายิ้มพร้อมกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยไม่แต่งงานใหม่เพื่ออดีตฮ่องเต้ ถึงแม้จะอยู่ที่ในวังหลวง แต่ก็เป็นคนชอบเก็บตัวมาตลอด”“วันนี้นางมายากที่นางจะมาหาข้า ข้าย่อมอยากพบ”“ใครก็ได้ เชิญอวิ๋นไท่เฟยเข้ามา”ในไม่ช้า อวิ๋นไท่เฟยก็เดินเข้ามา ทันทีที่นางเข้ามาแล้วเห็นองค์หญิงสามแทบอยากจะพุ่งตัวเข้าไปแล้วนำองค์หญิงสามมากอดเอาไว้ในอ้อมอกเมื่อองค์หญิงสามเห็นอวิ๋นไท่เฟยสีหน้าก็เปลี่ยนไป นางไม่รอให้อวิ๋นไท่เฟยเดินเข้ามาหา รีบลุกขึ้นแล้วไปยืนที่ด้านหลังของฮองเฮาท่าทีขององค์หญิงสามชัดเจนมาก นั่นก็คือนางกับอวิ๋นไท่เฟยไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่อยากใกล้ชิดกับอวิ๋นไท่เฟยเมื่ออวิ๋นไท่เฟยเห็นปฏิกิริยาของนาง น้ำตาก็รื้นขึ้นมาอวิ๋นไท่เฟยในนามพระชายาของอดีตฮ่องเต้ ในนามมีซือเจ๋อเยว่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว แต่นางไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เลยแม้แต่น้อยคนที่นางชอบก็คือองค์หญิงสามกับองค์ชายเก้า นางมอบความเป็นแม่ให้แก่พวกเขาอย่างเต็มเปี่ยม เพียงแค่ไม่ว่านางอยากจะเจอองค์หญิงสามหรือว่าองค์ชายเก้าต่างก็ลำบากองค์ชายเก้าต่างยังพอทน นางยังค

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 229

    ตอนนี้โรคประหลาดขององค์หญิงสาม อย่างไรเสียก็ควรต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุดถึงจะถูกเพคะ”ฮองเฮาจึงกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยกล่าวถูกต้อง เพียงแต่โรคขององค์หญิงสามคือโดนคุณไสย ราชครูไม่อยู่ ดังนั้นข้าจึงได้เชิญองค์หญิงเจ๋อเยว่มาที่นี่”อวิ๋นไท่เฟยกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “ถึงแม้เจ๋อเยว่จะเติบโตในสำนักเต๋า แต่นางก็เป็นแค่สตรีนางหนึ่ง จะไปรู้อะไรกันเพคะ?”“ฮองเฮารีบเขียนจดหมายหาราชครู ให้เขารีบกลับมารักษาโรคให้องค์หญิงสามถึงจะถูกนะเพคะ”ฮองเฮาถอนหายใจ “อวิ๋นไท่เฟยอาจจะไม่ทราบ เมื่อหลายวันก่อนราชครูลงไปทางทิศใต้เพื่อสอนพระคัมภีร์ ไม่สามารถกลับมาได้ภายในระยะเวลาอันสั้น”“โรคประหลาดขององค์หญิงถึงอย่างไรก็เสียเกียรติของราชวงศ์ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ก็ไม่ควรเชิญคนที่ไม่เกี่ยวข้องมารักษานางด้วยเช่นกัน”อวิ๋นไท่เฟยกล่าวเสียงแข็ง “หม่อมฉันได้ยินมาว่าเจ้าอาวาสแห่งวัดเป้ากั๋วอภินิหารล้ำลึก เชิญท่านมารักษาองค์หญิงสาม ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่านี้แล้วเพคะ”ฮองเฮาเหมือนกับลำบากใจเล็กน้อย ยังคงกล่าว “ในเมื่ออวิ๋นไท่เฟยพูดเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็เอาตามที่อวิ๋นไท่เฟยว่าก็แล้วกัน”“ใครก็ได้ เชิญเจ้าอาวาสแห่งวั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 230

    อวิ๋นไท่เฟย “...”นางคิดไม่ถึงว่าซือเจ๋อเยว่จะพูดจาแบบนี้ต่อหน้าพระพักตร์ของฮองเฮา นั่นไม่ใช่การตบหน้านางธรรมดาแล้วนางร้องไห้ออกมา “เจ้ามันลูกอกตัญญู!”ฮองเฮาที่อยู่ด้านข้างกล่าว “อวิ๋นไท่เฟย เรื่องอื่นข้าอาจจะไม่รู้ แต่เรื่องนี้ข้าทราบตั้งแต่ต้นจนจบ”“เจ้าดุด่าองค์หญิงเจ๋อเยว่โดยที่ไม่ถามเหตุผลเช่นนี้ เชื่อคนอื่นแต่ไม่เชื่อนาง ทำให้นางน้อยใจได้ง่ายมากจริงๆ”“เรื่องนี้ข้าคงต้องพูด เจ้าทำไม่ถูกต้อง”“พวกเจ้าเป็นมารดาลูกกัน เดิมทีข้าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพียงแต่เจ๋อเยว่เป็นคนที่ข้าเชิญเข้าวัง อยู่ดี ๆ คงจะให้นางได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจเช่นนี้ไม่ได้”อวิ๋นไท่เฟยหน้าถอดสี “ฮองเฮาหมายความว่าอย่างไรเพคะ?”ฮองเฮากล่าวเสียงเรียบ “ไม่ได้หมายความว่าอะไร เพียงแค่อยากจะไกล่เกลี่ยให้พวกเจ้าสองคนเท่านั้น”“ไม่อย่างนั้นก็เอาเช่นนี้เถอะ เจ้าขอโทษเจ๋อเยว่ เรื่องนี้ก็ถือว่าให้จบกันไป”อวิ๋นไท่เฟยไม่สนใจแสร้งร้องไห้ ทันใดนั้นก็พูดเสียงแหลมขึ้นมา “ให้ขอโทษนาง? นางเป็นใคร? ให้หม่อมฉันขอโทษนางหรือเพคะ?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวเสียงเรียบ “ฮองเฮา เกรงว่าระหว่างหม่อมฉันกับอวิ๋นไท่เฟยต่อให้เป็นท่านก็คงพู

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 231

    “หลังหม่อมฉันกลับเมืองหลวง นางก็บังคับให้หม่อมฉันแต่งเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสามอีก ครั้งนั้นหม่อมฉันจึงบอกนางไปว่า พระคุณที่ให้กำเนิดของนางนั้น หม่อมฉันได้ชดใช้ให้แล้ว”“หลังจากนั้น ทุกคราที่พบหน้า นางล้วนสร้างความลำบากให้แก่หม่อมฉันต่างๆ นานา ไม่มีท่าทางที่ผู้เป็นมารดาควรมีแม้แต่น้อย”“แม้นางจะให้กำเนิดหม่อมฉัน ทว่าไม่เคยเลี้ยงดูหม่อมฉัน บุญคุณในการให้กำเนิดนั้น หม่อมฉันได้ตอบแทนแล้ว จึงไม่ต้องการให้นางใช้ฐานะมารดามาสร้างความขุ่นข้องดูแคลนอีกต่อไป”“ดังนั้น หม่อมฉันขอให้เสด็จอาช่วยตัดสินให้ ให้หม่อมฉันตัดขาดความสัมพันธ์ฉันท์มารดาบุตรีกับนางเสียเพคะ”เมื่อฮ่องเต้เจาหมิงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง “เจ้าจะตัดความสัมพันธ์กับอวิ๋นไท่เฟย?”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าตระกูลทางฝั่งมารดาเจ้าคือจวนหนิงกั๋วกง หากเจ้าสะบั้นสัมพันธ์กับนาง ก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับจวนหนิงกั๋วกงอีก”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดนี้ของเขา ก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ฟังจากน้ำเสียงของเขา คล้ายจะคิดว่านางเห็นละโมบในอำนาจของจวนหนิงกั๋วกงนางจึงกล่าวทันทีว่า “หม่อมฉันกลับเมืองหลวงมานานถึงเพียงนี้ คนของจวน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 232

    ซือเจ๋อเยว่ก็ไม่รู้ว่าเขาหมายความเช่นใด ลือกันว่าเขาโปรดปรานอวิ๋นไท่เฟยอย่างยิ่ง นางจึงไม่กล้าพูดความจริงนางจึงกล่าวว่า “เมื่อวานหม่อมฉันไปรักษาโรคที่จวนหนิงกั๋วกง เรื่องที่จวนหนิงกั๋วกงถูกเผา ไม่เกี่ยวกับหม่อมฉันจริงๆ นะเพคะ”ฮ่องเต้เจาหมิงมองนาง ด้วยรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ข้าก็ไม่ได้บอกว่าเรื่องที่จวนหนิงกั๋วกงถูกเผาเกี่ยวกับเจ้านี่”ซือเจ๋อเยว่ “…”นางรู้สึกว่า คำพูดนี้ของตนเหมือนจะยิ่งปกปิดยิ่งเปิดเผยแล้ว จึงยิ้มเจื่อน เสมือนว่าตนมิได้กล่าวคำพูดนี้มาก่อนฮ่องเต้เจาหมิงโบกมือเบาๆ ขันทีและนางกำนัลที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายก็ถอยออกไปขันทีคนสนิทของเขาเฝ้าอยู่ไม่ไกล ไม่ให้ผู้อื่นเข้าใกล้หลังฮ่องเต้เจาหมิงมองสำรวจนางขึ้นลงคราหนึ่ง “นิสัยนี้ของเจ้าเหมือนเสด็จพี่อยู่หลายส่วนทีเดียว”“ตอนเจ้ากลับมาเมืองหลวง ข้ายังเป็นห่วงอยู่บ้าง บัดนี้ดูไปแล้ว คงจะกังวลไปเปล่าๆ แล้ว”ซือเจ๋อเยว่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเขา จึงยิ้มถามว่า “เสด็จอาทรงกังวลสิ่งใดเพคะ?ฮ่องเต้เจาหมิงตอบว่า “กังวลเรื่องความสัมพันธ์ของเจ้ากับจวนหนิงกั๋วกง กลัวว่าเจ้าจะถูกอำนาจพวกนั้นมอมเมาจิตใจ คิดว่าตนเองควรแซ่อว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 233

    “ก็คือที่พูดกันว่าฮ่องเต้ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางไม่อาจไม่ตายนั่นแหละเพคะ”นางกล่าวจบก็ถามเขาอีกว่า “เสด็จอา พระองค์คงมิได้กลัวจวนหนิงกั๋วกงกระมัง?”ฮ่องเต้เจาหมิง “…”คำถามนี้ ดุจดั่งการแทงดาบเข้าสู่หัวใจของเขาเรื่องเช่นนี้ เขาไม่มีทางยอมรับต่อหน้าผู้เยาว์คนหนึ่งเป็นแน่เขากล่าวด้วยสีหน้าดำคล้ำว่า “หากเจ้าไม่ใช่สายเลือดเพียงคนเดียวของเสด็จพี่ แค่คำพูดนี้ของเจ้า ข้าก็สามารถประทานโทษตายให้เจ้าแล้ว”ซือเจ๋อเยว่หดคอกล่าวว่า “ตั้งแต่เด็กหม่อมฉันเติบโตมาในอารามเต๋า จึงไม่รู้เรื่องในเมืองหลวง”“เพราะหม่อมฉันได้ยินเสด็จอาตรัสเช่นนั้น เลยรู้สึกสงสัย ถามไปอย่างนั้นเองเพคะ”“ก็ใช่ เสด็จอาทรงเก่งกาจเพียงนั้น จะทรงกลัวจวนหนิงกั๋วกงได้อย่างไร?”“หากเสด็จอาทรงอยากลงโทษพวกเขา ก็แค่ราชโองการฉบับเดียวเท่านั้น”เพลานี้ ฮ่องเต้เจาหมิงไม่มีปัญญาจะพูดกับนางว่า ราชโองการไม่อาจออกส่งเดชได้เขารู้สึกว่าที่ตนกล่าวกับนางนั้น ไม่เพียงไม่ได้ยินข้อมูลจากปากนาง แต่กลับถูกนางควบคุมอีกด้วยเขาจึงกล่าวเสียงเย็นว่า “หากเจ้าไม่มีเรื่องอื่น ก็จงออกจากวังไปเถอะ!”ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าวว่า “หม่อมฉันยังมีเรื่อง

Pinakabagong kabanata

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 381  

    เขาจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา "เป็นข้าที่ไร้เดียงสาเกินไป คิดว่าเรื่องราวระหว่างเราจะต่างออกไป" "แต่ข้ากลับลืมไปว่า เจ้าเป็นคนของสำนักเต๋า เราสองคนก็อยู่กันคนละฝ่ายตั้งแต่แรกเริ่ม" "ซือเจ๋อเยว่ ตั้งแต่นี้ไปข้าขอตัดขาดจากเจ้า หากพบกันอีก ข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!" เมื่อเอ่ยจบเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งจากร่างกายแล้วขว้างออกไป สิ่งนั้นทำหน้าที่รับแรงโจมตีจากค่ายกลแทนเขา ก่อนที่ตัวเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลราวกับดาวตกก็ไม่ปาน ซือเจ๋อเยว่รีบไล่ตามออกไป แต่ภายนอกกลับไร้เงาของไป๋จื้อเซียน นางรู้สึกเป็นกังวลอย่างยิ่ง วันนี้เขาเข้าใจนางผิด แล้วจากไปเช่นนี้ ภายภาคหน้าก็ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าจะเกิดอันใดขึ้นอีก ยังดีที่เขาเคยสาบานต่อสวรรค์ ว่าจะไม่สังหารผู้บริสุทธิ์ อย่างน้อยสถานการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายถึงระดับนั้น แต่เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาขาดสะบั้นในบัดนี้ ด้วยนิสัยของเขา ย่อมต้องหาหนทางสังหารนางให้ได้อย่างแน่นอน! นางคิดว่าตนเองยังคงประเมินไป๋จื้อเซียนต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถหลบหนีออกจากค่ายกลพิทักษ์ขุนเขาได้ เยียนเซียวหรานถามขึ้น "เมื่อครู่นี้เกิดอันใดขึ้น?" ซือเจ๋อเยว่ถอนหายใจ "ตุ๊

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 380

    ซือเจ๋อเยว่ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้นับหลังจากตั้งแต่ที่อาจารย์สามปั้นเสร็จแล้ววางไว้ที่นี่ ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอะไรนางคิดมาตลอดว่าอาจารย์สามทำเช่นนี้เพราะจะหยอกนางเล่น ไม่คิดเลยว่าจนกระทั่งวันนี้จะมีความเคลื่อนไหวแล้วที่ประตูมีเสียงของไป๋จื้อเซียนดังลอยเข้ามา “เจ้าล่อลวงข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะฆ่าข้าใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ากลับไปมองก็เห็นไป๋จื้อเซียนยืนอยู่ที่หน้าประตู ตุ๊กตาดินเผาเหล่านั้นรวมตัวกันกลายเป็นค่ายกล จะจัดการกับเขาหลังจากที่วันนี้เขาเดินเข้ามาในสำนักเต๋า ความสามารถทุกด้านก็ถูกลดทอนลง ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้ยังเป็นตุ๊กตาที่อาจารย์สามปั้นขึ้นเองกับมืออีกด้วย ด้านในมีค่ายกลที่ร้ายแรงเป็นอย่างยิ่งซ่อนอยู่ไป๋จื้อเซียนในเวลานี้ถูกค่ายกลนี้ขังเอาไว้ ไม่สามารถดิ้นให้หลุดได้เขาเกิดความสงสัยมาก ประกอบกับก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่อยากจะจัดการเขามาตลอด เขาจึงคิดว่านางเป็นผู้ควบคุมให้ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้มาจัดการเขาก่อนหน้านี้ซือเจ๋อเยว่เคยคิดอยากจะจัดการเขาในสำนักเต๋าจริง ๆ แต่เป็นครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนางจริง ๆเป็นเพราะร่างกายที่พิเศษเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 379

    ความทรุดโทรมนี้เริ่มปรากฏตั้งแต่ประตูเขาที่เก่าและทรุดโทรม ยาวไปตลอดทางจนถึงกระทั่งถึงโถงใหญ่ของสำนักเต๋าด้านในก็มีเพียงรูปหล่องทองคำปรมาจารย์เต๋าที่ยังมีสภาพดีอยู่เพียงเท่านั้น อาคารอื่น ๆ ของวัดก็สามารถใช้คำว่าชำรุดทรุดโทรมมาบรรยายได้เมื่อซือเจ๋อเยว่กลับมา นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ที่เฝ้าภูเขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ท่านกลับมาแล้ว ไม่ไปไหนแล้วใช่หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่ได้ยินก็กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอาศัยคืนเดียวก็จะไปแล้ว”ใบหน้าของนักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ก็มีสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้นมาทันที นางหยิบทองหนึ่งกำมือออกมาจากมิติคาถาเต๋าแล้วมอบให้เขา “ค่าอาหารของปีนี้”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ใช้สองมือรับทองคำ ใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาทันที “อย่างไรเสียศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็เก่งกาจ!”สำนักเต๋าผ่านไปด้วยความยากลำบากมาก ทองคำเหล่านี้เมื่อแลกเป็นเงินก็ได้หลายพันตำลึง เพียงพอที่จะให้พวกเขามีกินได้ถึงสิ้นปีซือเจ๋อเยว่ถามเขา “พวกอาจารย์ออกจากสำนักเต๋าตั้งแต่เมื่อใด?”นักพรตเต๋ารุ่นเยาว์ “ทันทีที่ศิษย์พี่หญิงใหญ่ออกไปจากสำนักเต๋า เจ้าสำนักพวกเขาก็ไปแล้ว”ซือเจ๋อเยว่ขมวดคิ้ว “พวกเขาได้บอกหรือไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 378

    ซือเจ๋อเยว่เผชิญหน้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจของไป๋จื้อเซียน นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกด้วยท่าทางเช่นนี้ของเขา เกรงว่าคนที่ไม่รู้จะคิดว่าพวกเขากำลังสุมหัวกันกลั่นแกล้งเขาแต่เรื่องจริงคือเขาเกือบทำให้พวกเขาต้องติดกับดักจนตายในเวลานี้นางจำต้องกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋มาก”ไป๋จื้อเซียนมองนางด้วยสีหน้าน่าสงสารพร้อมกล่าว “เมื่อครู่นี้เจ้าดุข้า”ซือเจ๋อเยว่ “...”นางสูดหายใจในใจทีหนึ่ง เจ้าหมอนี่แสดงละครเก่งมาก!นางยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ข้ามีนิสัยใจร้อน เวลามองอะไรก็มักจะมองแค่สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ไม่สู้คุณชายไป๋ที่มองการณ์ไกล”“คุณชายไป๋คาดการณ์เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในตอนหลังได้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าชื่นชมตบะอันล้ำลึกทำให้ข้านับถือจากใจจริง”“ครั้งหน้าหากยังมีเรื่องแบบเดียวกันอีก คุณชายไป๋ได้โปรดแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเสียหน่อย พวกเราจะได้ร่วมมือกันได้ดี”นางพูดจบก็ยิ้มให้เขาเล็กน้อย “คุณชายไป๋ช่วยพวกเราคำนวณดูหน่อยได้หรือไม่ พวกเรากลับเมืองหลวงครั้งนี้ จะล้มจวนหนิงกั๋วกงได้หรือไม่?”ไป๋จื้อเซียน “...”ถึงแม้เขาจะมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้วก็ตาม เรียนรู้เพียงความสามารถฆ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 377

    “ถึงแม้วันนี้ข้ากับชื่อปาเลี่ยจะบุกฝ่าออกมาได้ แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด”“การล้อเล่นแบบนี้ อย่างไรคุณชายไป๋ช่วยลดลงหน่อยจะดีมาก”ไป๋จื้อเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา เขาหันหน้าไปมองไป๋จื้อเซียน โดยไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อยชื่อปาเลี่ยที่อยู่ข้าง ๆ พูดไกล่เกลี่ย “ครั้งนี้พวกข้าไม่เป็นอะไร อย่างไรก็ช่างเถอะ”ความโกรธที่ไป๋จื้อเซียนมีอยู่มากมายไม่มีที่ระบาย ยกมือขึ้นแล้วสะบัดทำให้ชื่อปาเลี่ยลอยกระเด็นออกไปชื่อปาเลี่ย “!!!!!”หากวันหลังเขายังกล้าสอดเรื่องของพวกเขาอีก เขาก็คือก็คือไอ้ลูกหมา!เขากระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ร้องโอ๊ยออกมาทีหนึ่งซือเจ๋อเยว่รีบยื่นมือออกไปประคองชื่อปาเลี่ย “เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”ชื่อปาเลี่ยกุมหน้าอกกล่าว “ข้าเจ็บหน้าอกนิดหน่อย”ในระหว่างที่พูดเขารู้สึกผิดปกติบริเวณหน้าอก ยื่นมือออกไปแล้วล้วง ไม่คิดเลยว่าจะควักสมุดบันทึกเล็ก ๆ เล่มหนึ่งออกมาจากข้างใน “นี่มันอะไรกัน?”หลังจากซือเจ๋อเยว่รับมาก็เปิดสมุดบันทึกเล่มเล็ก พบว่าเป็นสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้ายฉบับนั้นที่เยียนอ๋องซื่อจื่อกล่าวไว้นางทั้งตกใจทั้งดีใจ “นี่คือสำเนาคำสั่งเคลื่อนย้าย!”เยียนเซียวหรา

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 376

    ซือเจ๋อเยว่รีบกล่าว “ข้าไม่เป็นอะไร”นางพูดจบก็กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”เยียนเซียวหรานยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เป็นอะไร”เขาพูดจบก็ประสานมือคำนับไป๋จื้อเซียนกล่าว “ขอบคุณคุณชายไป๋ที่พาองค์หญิงออกมาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ข้าไม่ต้องเป็นพะวงที่จะบุกฝ่ากองทัพออกมา”สีหน้าของไป๋จื้อเซียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เรื่องนี้เขาวางแผนทำร้ายเยียนเซียวหราน เยียนเซียวหรานขอบคุณเขาจึงทำให้เขารู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมากยังมีท่าทีของซือเจ๋อเยว่อีก ในดวงตาของนางมีเพียงเยียนเซียวหรานเท่านั้น ไม่มีเขาเลยแม้แต่น้อยความรู้สึกแบบนี้ทำให้ไป๋จื้อเซียนไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งเขารู้สึกไม่พอใจ จึงอยากจะทำร้ายชื่อปาเลี่ยอีกครั้งดวงตาของเขากวาดมองไปยังชื่อปาเลี่ย ชื่อปาเลี่ยได้หลบไปอยู่ที่ด้านหลังของซือเจ๋อเยว่อย่างรวดเร็ว “คุณชายไป๋จะทำร้ายข้า องค์หญิงช่วยด้วย!”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าไป๋จื้อเซียนมีนิสัยขี้โมโห เขาติดตามอยู่ข้าง ๆ พวกเขา ก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดเวลา ไม่รู้ว่าจะเบิดขึ้นเมื่อไหร่เพียงแต่หากปล่อยเขาไป วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะก่อเหตุวุ่นวายอะไรขึ้นอีกนางคิดว่า อย่างไรเสียก็ต้องคิดหาว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 375

    เขายิ้มแย้มพร้อมกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ข้าพาเจ๋อเยว่นำไปก่อน พวกเจ้าสู้ ๆ ล่ะ”ซือเจ๋อเยว่ “...”เยียนเซียวหราน “...”ซือเจ๋อเยว่กล่าวด้วยความร้อนใจ “นี่ เจ้าพาพวกเขาไปด้วยกันสิ!”ไป๋จื้อเซียนกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “สถานการณ์แบบนี้ไม่ฆ่าคนก็พาพวกเขาออกไปไม่ได้”“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสาบานต่อสวรรค์ไว้ว่า ไม่สามารถลงมือฆ่าคนได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังนั้น...”ซือเจ๋อเยว่หันหน้ามองเขา ในดวงตาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งสองข้างของเขาแฝงไปด้วยหยอกเย้า ท่าทางเหมือนกับกำลังดูละครด้วยความสุขนางรู้ดีว่า เรื่องในวันนี้เขานั้นเจตนา!นางรู้ดีว่า คนที่ชั่วร้ายเช่นไป๋จื้อเซียนจะยอมร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร?นางกล่าวด้วยความร้อนใจ “ปล่อยข้าลง! ข้าจะไปช่วยพวกเขา!”ไป๋จื้อเซียนยิ้มด้วยความร่าเริงพร้อมกล่าว “ตอนนี้ด้านล่างมีแต่คน ทั้งเจ้ายังไม่เป็นวรยุทธ์ หากลงไปจริง ๆ ก็รังแต่จะยิ่งอันตราย”“อีกอย่าง ขอเพียงเจ้าสงบ เยียนเซียวหรานก็จะไม่เป็นพะวง ก็สามารถแสดงความสามารถของเขาได้อย่างเต็มที่”“ข้าเชื่อ ด้วยความสามารถของเขา ต้องสามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้แน่ ปลอดภัยหายห่วง” ซือเจ๋อเยว่ค้อนเขา เขากะพริบตาใส

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 374

    เยียนเซียวหรานกวัดแกว่งกระบี่ในมืออย่างสุดแรง พยายามพาซือเจ๋อเยว่พุ่งตัวออกไปด้านนอกชื่อปาเลี่ยกลับด่าทออย่างบ้าคลั่งอยู่ตรงนั้น “ไอ้แม่งเอ๊ย ครั้งก่อนเกือบตายที่ด่านอวิ๋นหลิ่ง ครั้งนี้ยังจะมาอีก!”เขาพูดจบก็กล่าวกับซือเจ๋อเยว่อีก “องค์หญิง ค่ายกลนั่นของท่านเมื่อครั้งก่อน เอาออกมาใช้อีกครั้งได้หรือไม่?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี “เอามาใช้อีกครั้ง ข้าก็สามารถตายตรงนี้ต่อหน้าพวกเจ้าได้เลย!”ชื่อปาเลี่ย “...”เยียนเซียวหรานกล่าวเสียงขรึม “เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว พุ่งไปข้างหน้าด้วยกันกับข้า”ซือเจ๋อเยว่ครุ่นคิด ครั้งนี้อยู่ภายในห้องปิดตาย จะอย่างไรก็ต้องพุ่งตัวเข้าไปหาก่อนดังนั้นนางจึงหยิบยันต์ออกมา ใช้คาถาเต๋าทำให้ระเบิด ภายในชั่วพริบตา ภายในห้องก็มีลมกระโชกแรงเกิดขึ้น พัดทหารยามพวกนั้นที่อยู่หน้าประตูลอยกระเด็นออกไปข้างนอกชื่อปาเลี่ยหลบไม่ทัน หัวจึงกระแทกพื้นเยียนเซียวหรานอยากจะจับเขาเอาไว้ แต่ลมแรงเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถจับเขาได้เลยซือเจ๋อเยว่คว้าขาของชื่อปาเลี่ยเอาไว้แล้วกล่าว “รีบไป!”ชื่อปาเลี่ย “!!!!!!”เขาเองก็อยากจะหนีไปโดยเร็วเช่นกัน แต่ปัญหาคือลมทั้งรุนแ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 373

    สิ่งของที่อยู่ด้านในมองดูค่อนข้างสลับซับซ้อน กองกันเละเทะ ทันทีที่ดูก็รู้ว่าหลังจากถูกใครบางคนรื้อค้นจนเละเทะ ก็ไม่ได้จัดระเบียบใหม่ภายในห้องที่รกรุงรังแบบนี้ อยากจะตามหาสิ่งของที่พวกเขาอยากได้ เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้หลังจากที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานรื้อค้นรอบหนึ่ง ก็ไม่ได้อะไรแม้แต่อย่างเดียวทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ก็เห็นความจนปัญญาจากดวงตาของอีกฝ่ายภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะตามหาต่อไปแล้วในเวลานี้เอง เสียงของทหารยามก็ดังลอยมาจากหน้าประตู “ใครกัน?”ซือเจ๋อเยว่รีบเก็บไข่มุกราตรีลงไป ด้านในจึงกลับคืนสู่ความมืดอีกครั้งเนื่องจากเมื่อครู่นี้ทหารยามได้เห็น ‘การแสดง’ ของไป๋จื้อเซียน ภายในใจจึงหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เพราะมีคำสั่งของนายพลที่เฝ้าด่าน เขาจึงไม่กล้าละทิ้งหน้าที่โดยพลการอีก จึงเรียกเพื่อนร่วมงาน ตั้งใจว่าจะจุดเทียนแล้วเข้าไปตรวจค้นด้านในตอนที่เขากำลังจะเปิดประตู ทหารยามคนนั้นก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นใบหน้าที่ชั่วร้ายของไป๋จื้อเซียน เสื้อผ้าสีแดงราวกับเลือดทหารยามไม่ได้รู้สึกตัวในทันที ยังถามว่า “เจ้าเป็นใคร?”ไป๋จื้อ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status