Share

บทที่ 224

Author: เจียงหนานเยียน
ตอนที่ซือเจ๋อเยว่ตื่นขึ้นมาในวันต่อมายังอยู่ในอ้อมกอดของเยียนเซียวหราน

ตอนที่นางลืมตาขึ้นมาก็เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเยียนเซียวหราน นางก็มีความงุนงงไปชั่วขณะหนึ่ง

นางคิดว่าตนยังกำลังอยู่ในความฝัน หรืออาจจะเป็นเพราะวิธีการลืมตาของนางไม่ถูกต้อง

นางรีบหลับตาลง จากนั้นก็ลืมตาอีกครั้ง ใบหน้าอันหล่อเหลาของเยียนเซียวหรานยังอยู่

นางกะพริบตาปริบ ๆ พยายามหวนคิด ในที่สุดก็นึกเรื่องเมื่อคืนได้

นางถูกวิญญาณของเยียนอ๋องซื่อจื่อทำร้ายจนบาดเจ็บ จากนั้นจึงมาหาเยียนเซียวหราน...

เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นนางจำไม่ได้เลยสักนิด

ดูท่าทางแบบนี้ เมื่อคืนนี้เขาน่าจะรับนางเอาไว้

ซือเจ๋อเยว่ในเวลานี้โชคดีเป็นอย่างยิ่ง โชคดีที่เมื่อวานนี้นางพูดเรื่องเส้นสีแดงกับเขา ไม่อย่างนั้นการที่นางมาหาเขาแบบนี้ จะต้องถูกเขาจับโยนออกไปแน่นอน

น้อยมากที่นางจะได้เห็นเยียนเซียวหรานในสภาพแบบนี้ คิดว่าผู้ชายที่หล่อเหลาสุด ๆ แบบนี้อยู่ตรงหน้า นางต้องชมเชยให้ดี ๆ เสียหน่อย

เพียงแต่นางยังไม่ได้มองจนพอใจ ก็ได้ยินเสียงของเยียนเซียวหรานดังลอยมา “หล่อไหม?”

ซือเจ๋อเยว่ตอบด้วยความจริงใจยิ่ง “หล่อ”

เยียนเซียวหราน “...”

ถึงแม้ว่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
benya2999
อัพเดทหลายๆ ตอนหน่อยนะคะ รออ่านค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 225

    สุขภาพของนางไม่ดี แต่เส้นผมกลับดียิ่ง ทั้งดกทั้งดำเยียนเซียวหรานกับนางเคยมีการกระทำที่ใกล้ชิดกันมาก่อน ก่อนหน้านี้ก็รู้ว่าเส้นผมของนางดียิ่ง แต่ตอนนั้นความสนใจไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น ในเวลาเมื่อได้สัมผัสอีกครั้งก็มีความรู้สึกอย่างอื่นเขาได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตนเองเสียงหัวใจเต้นนี้ควบคุมไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เต้นอย่างบ้าคลั่งเล็กน้อยเสียงของฉางเซิงที่อยู่หน้าประตูดังลอยมา “คุณชายสาม ท่านตื่นแล้วหรือไม่? บ่าวจะเข้าไปปรนนิบัติท่านล้างหน้าขอรับ!”เยียนเซียวหรานพยายามทำเสียงของตนให้สงบเล็กน้อย “ข้ากำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า เจ้ารออยู่ข้างนอกประเดี๋ยว”ฉางเซิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เยียนเซียวหรานเปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่เคยหลีกเลี่ยงเขา เหตุใดวันนี้จึงอยากจะหลีกเลี่ยงเขากันนะ?เพียงแต่เยียนเซียวหรานออกคำสั่งแล้ว เขาจึงทำได้เพียงยืนอยู่ด้านนอก “ขอรับ”ซือเจ๋อเยว่กลับมีความรู้สึก ‘กำลังจะถูกจับได้ว่าแอบคบชู้’ พูดตรง ๆ นางยังคงรู้สึกร้อนตัวอยู่นางหันหน้าไปมองเยียนเซียวหราน เขาพยักหน้าเล็กน้อย ดึงหน้าต่างให้เปิดนางปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ตอนที่กำลังปีนขึ้นไปจู่ ๆ ขาของนางก็

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 226

    เยียนเซียวหรานพยายามข่มความกลัวภายในใจลงไป ไม่ให้ความรู้สึกเหล่านั้นแผ่ขยายในใจของเขาเพียงแต่ทันทีที่เมล็ดพันธุ์ของความรู้สึกถูกหว่านลงไป หลายครั้งที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์บางครั้งยิ่งข่มเอาไว้ ในทางกลับกันยิ่งทำให้เติบโตอย่างรวดเร็วเรื่องที่ซือเจ๋อเยว่กับเยียนเซียวหรานกังวลนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นางไม่อยากถูกคนอื่นเห็นว่านางออกมาจากในห้องของเยียนเซียวหรานเรื่องนี้ทันทีที่ถูกใครพบเข้า เกรงว่าชื่อเสียงทั้งหมดของนางจะต้องถูกทำลาย จนไม่มีหน้าไปพบเหล่าไท่จวินดวงของนางถือว่าไม่เลว ตอนที่ออกมาจากห้องของเยียนเซียวหรานไม่มีใครเห็นเข้านางเดินมาถึงด้านหน้าเรือนของเฟิ่งจือเซี่ย ถึงได้เจอกับสาวใช้คนหนึ่งเฟิ่งจือเซี่ยก็ตื่นแล้วเช่นกัน ในเวลานี้กำลังตัดแต่งดอกไม้ภายในสวนเมื่อนางเห็นซือเจ๋อเยว่ก็ถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “เหตุใดองค์หญิงจึงเดินมาจากทางนี้?”ซือเจ๋อเยว่ตอบ “วันนี้ข้าตื่นเช้า จึงเดินเล่นในจวน ดังนั้นจึงเดินมาจากทางนี้”เฟิ่งจือเซี่ยไม่ได้สงสัย เพียงยิ้มบาง ๆ “องค์หญิงตื่นเช้าจริงๆ”“ข้าให้สาวใช้ทำขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ องค์หญิงอยากจะมากินด้วยกันก่อนสักนิดห

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 227

    ซือเจ๋อเยว่ส่ายหน้า “ไม่เป็น ยันต์นั้นของข้าเพียงแค่ทำให้จิตใจของเจ้าสงบขึ้น”ถึงอย่างไรเยียนเอ้อร์ก็กลายเป็นวิญญาณแล้ว การมาหาเฟิ่งจือเซี่ยแบบนี้สุดท้ายแล้วจะทำให้มีผลกระทบที่ไม่ดีบางอย่างต่อนางอันที่จริงยันต์อันนั้นของซือเจ๋อเยว่เป็นการขับไล่พลังชั่วร้ายในร่างกายของนางเท่านั้น หลังจากที่ขับไล่ของพวกนั้นแล้ว ก็จะทำให้คนรู้สึกโล่งขึ้นไม่น้อย ก็จะไม่รู้สึกปวดหัวอีกเพียงแต่เรื่องพวกนี้นางคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องพูดกับเฟิ่งจือเซี่ยอย่างชัดเจนขนาดนั้นเฟิ่งจือเซี่ยจับพูดกับซือเจ๋อเยว่อีกสองสามประโยค ขนมก็ทำเสร็จแล้วถูกยกขึ้นมาหลังจากพวกนางกินข้าวเช้าเสร็จ เฟิ่งจือเซี่ยพูดกับซือเจ๋อเยว่ “ต่อไปหากองค์หญิงมีเวลา ก็มาคุยเป็นเพื่อนข้า”ซือเจ๋อเยว่รู้ว่าเป็นเพราะหลังจากเรื่องครั้งก่อนนางจึงค่อนข้างสนิทกับตน หญิงตั้งครรภ์ทั้งคิดมากและขี้วิตกกังวล จึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มในเวลานี้เอง ผู้ดูแลเดินเข้ามา “องค์หญิง มีคนมาจากวังหลวง เชิญท่านเข้าวังขอรับ”ซือเจ๋อเยว่คิดว่าคนพวกนั้นของจวนหนิงกั๋วกงจะต้องไปฟ้องฮ่องเต้เจาหมิง นางเลิกคิ้วเล็กน้อยทีหนึ่งหลบเลี่ยงเรื่องพวกนี้ไม่พ้น จึงให้ผู้ดูแลไ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 228

    ในเวลานี้ นางกำนัลคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วกล่าว “ฮองเฮา อวิ๋นไท่เฟยขอเข้าเฝ้าเพคะ”ฮองเฮายิ้มพร้อมกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยไม่แต่งงานใหม่เพื่ออดีตฮ่องเต้ ถึงแม้จะอยู่ที่ในวังหลวง แต่ก็เป็นคนชอบเก็บตัวมาตลอด”“วันนี้นางมายากที่นางจะมาหาข้า ข้าย่อมอยากพบ”“ใครก็ได้ เชิญอวิ๋นไท่เฟยเข้ามา”ในไม่ช้า อวิ๋นไท่เฟยก็เดินเข้ามา ทันทีที่นางเข้ามาแล้วเห็นองค์หญิงสามแทบอยากจะพุ่งตัวเข้าไปแล้วนำองค์หญิงสามมากอดเอาไว้ในอ้อมอกเมื่อองค์หญิงสามเห็นอวิ๋นไท่เฟยสีหน้าก็เปลี่ยนไป นางไม่รอให้อวิ๋นไท่เฟยเดินเข้ามาหา รีบลุกขึ้นแล้วไปยืนที่ด้านหลังของฮองเฮาท่าทีขององค์หญิงสามชัดเจนมาก นั่นก็คือนางกับอวิ๋นไท่เฟยไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ไม่อยากใกล้ชิดกับอวิ๋นไท่เฟยเมื่ออวิ๋นไท่เฟยเห็นปฏิกิริยาของนาง น้ำตาก็รื้นขึ้นมาอวิ๋นไท่เฟยในนามพระชายาของอดีตฮ่องเต้ ในนามมีซือเจ๋อเยว่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว แต่นางไม่ชอบซือเจ๋อเยว่เลยแม้แต่น้อยคนที่นางชอบก็คือองค์หญิงสามกับองค์ชายเก้า นางมอบความเป็นแม่ให้แก่พวกเขาอย่างเต็มเปี่ยม เพียงแค่ไม่ว่านางอยากจะเจอองค์หญิงสามหรือว่าองค์ชายเก้าต่างก็ลำบากองค์ชายเก้าต่างยังพอทน นางยังค

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 229

    ตอนนี้โรคประหลาดขององค์หญิงสาม อย่างไรเสียก็ควรต้องได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุดถึงจะถูกเพคะ”ฮองเฮาจึงกล่าว “อวิ๋นไท่เฟยกล่าวถูกต้อง เพียงแต่โรคขององค์หญิงสามคือโดนคุณไสย ราชครูไม่อยู่ ดังนั้นข้าจึงได้เชิญองค์หญิงเจ๋อเยว่มาที่นี่”อวิ๋นไท่เฟยกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “ถึงแม้เจ๋อเยว่จะเติบโตในสำนักเต๋า แต่นางก็เป็นแค่สตรีนางหนึ่ง จะไปรู้อะไรกันเพคะ?”“ฮองเฮารีบเขียนจดหมายหาราชครู ให้เขารีบกลับมารักษาโรคให้องค์หญิงสามถึงจะถูกนะเพคะ”ฮองเฮาถอนหายใจ “อวิ๋นไท่เฟยอาจจะไม่ทราบ เมื่อหลายวันก่อนราชครูลงไปทางทิศใต้เพื่อสอนพระคัมภีร์ ไม่สามารถกลับมาได้ภายในระยะเวลาอันสั้น”“โรคประหลาดขององค์หญิงถึงอย่างไรก็เสียเกียรติของราชวงศ์ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ก็ไม่ควรเชิญคนที่ไม่เกี่ยวข้องมารักษานางด้วยเช่นกัน”อวิ๋นไท่เฟยกล่าวเสียงแข็ง “หม่อมฉันได้ยินมาว่าเจ้าอาวาสแห่งวัดเป้ากั๋วอภินิหารล้ำลึก เชิญท่านมารักษาองค์หญิงสาม ไม่มีอะไรจะเหมาะสมไปกว่านี้แล้วเพคะ”ฮองเฮาเหมือนกับลำบากใจเล็กน้อย ยังคงกล่าว “ในเมื่ออวิ๋นไท่เฟยพูดเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็เอาตามที่อวิ๋นไท่เฟยว่าก็แล้วกัน”“ใครก็ได้ เชิญเจ้าอาวาสแห่งวั

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 230

    อวิ๋นไท่เฟย “...”นางคิดไม่ถึงว่าซือเจ๋อเยว่จะพูดจาแบบนี้ต่อหน้าพระพักตร์ของฮองเฮา นั่นไม่ใช่การตบหน้านางธรรมดาแล้วนางร้องไห้ออกมา “เจ้ามันลูกอกตัญญู!”ฮองเฮาที่อยู่ด้านข้างกล่าว “อวิ๋นไท่เฟย เรื่องอื่นข้าอาจจะไม่รู้ แต่เรื่องนี้ข้าทราบตั้งแต่ต้นจนจบ”“เจ้าดุด่าองค์หญิงเจ๋อเยว่โดยที่ไม่ถามเหตุผลเช่นนี้ เชื่อคนอื่นแต่ไม่เชื่อนาง ทำให้นางน้อยใจได้ง่ายมากจริงๆ”“เรื่องนี้ข้าคงต้องพูด เจ้าทำไม่ถูกต้อง”“พวกเจ้าเป็นมารดาลูกกัน เดิมทีข้าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพียงแต่เจ๋อเยว่เป็นคนที่ข้าเชิญเข้าวัง อยู่ดี ๆ คงจะให้นางได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจเช่นนี้ไม่ได้”อวิ๋นไท่เฟยหน้าถอดสี “ฮองเฮาหมายความว่าอย่างไรเพคะ?”ฮองเฮากล่าวเสียงเรียบ “ไม่ได้หมายความว่าอะไร เพียงแค่อยากจะไกล่เกลี่ยให้พวกเจ้าสองคนเท่านั้น”“ไม่อย่างนั้นก็เอาเช่นนี้เถอะ เจ้าขอโทษเจ๋อเยว่ เรื่องนี้ก็ถือว่าให้จบกันไป”อวิ๋นไท่เฟยไม่สนใจแสร้งร้องไห้ ทันใดนั้นก็พูดเสียงแหลมขึ้นมา “ให้ขอโทษนาง? นางเป็นใคร? ให้หม่อมฉันขอโทษนางหรือเพคะ?”ซือเจ๋อเยว่กล่าวเสียงเรียบ “ฮองเฮา เกรงว่าระหว่างหม่อมฉันกับอวิ๋นไท่เฟยต่อให้เป็นท่านก็คงพู

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 231

    “หลังหม่อมฉันกลับเมืองหลวง นางก็บังคับให้หม่อมฉันแต่งเข้าจวนเยียนอ๋องแทนองค์หญิงสามอีก ครั้งนั้นหม่อมฉันจึงบอกนางไปว่า พระคุณที่ให้กำเนิดของนางนั้น หม่อมฉันได้ชดใช้ให้แล้ว”“หลังจากนั้น ทุกคราที่พบหน้า นางล้วนสร้างความลำบากให้แก่หม่อมฉันต่างๆ นานา ไม่มีท่าทางที่ผู้เป็นมารดาควรมีแม้แต่น้อย”“แม้นางจะให้กำเนิดหม่อมฉัน ทว่าไม่เคยเลี้ยงดูหม่อมฉัน บุญคุณในการให้กำเนิดนั้น หม่อมฉันได้ตอบแทนแล้ว จึงไม่ต้องการให้นางใช้ฐานะมารดามาสร้างความขุ่นข้องดูแคลนอีกต่อไป”“ดังนั้น หม่อมฉันขอให้เสด็จอาช่วยตัดสินให้ ให้หม่อมฉันตัดขาดความสัมพันธ์ฉันท์มารดาบุตรีกับนางเสียเพคะ”เมื่อฮ่องเต้เจาหมิงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง “เจ้าจะตัดความสัมพันธ์กับอวิ๋นไท่เฟย?”“เจ้ารู้หรือไม่ว่าตระกูลทางฝั่งมารดาเจ้าคือจวนหนิงกั๋วกง หากเจ้าสะบั้นสัมพันธ์กับนาง ก็จะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับจวนหนิงกั๋วกงอีก”เมื่อซือเจ๋อเยว่ได้ยินคำพูดนี้ของเขา ก็รู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ฟังจากน้ำเสียงของเขา คล้ายจะคิดว่านางเห็นละโมบในอำนาจของจวนหนิงกั๋วกงนางจึงกล่าวทันทีว่า “หม่อมฉันกลับเมืองหลวงมานานถึงเพียงนี้ คนของจวน

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 232

    ซือเจ๋อเยว่ก็ไม่รู้ว่าเขาหมายความเช่นใด ลือกันว่าเขาโปรดปรานอวิ๋นไท่เฟยอย่างยิ่ง นางจึงไม่กล้าพูดความจริงนางจึงกล่าวว่า “เมื่อวานหม่อมฉันไปรักษาโรคที่จวนหนิงกั๋วกง เรื่องที่จวนหนิงกั๋วกงถูกเผา ไม่เกี่ยวกับหม่อมฉันจริงๆ นะเพคะ”ฮ่องเต้เจาหมิงมองนาง ด้วยรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ข้าก็ไม่ได้บอกว่าเรื่องที่จวนหนิงกั๋วกงถูกเผาเกี่ยวกับเจ้านี่”ซือเจ๋อเยว่ “…”นางรู้สึกว่า คำพูดนี้ของตนเหมือนจะยิ่งปกปิดยิ่งเปิดเผยแล้ว จึงยิ้มเจื่อน เสมือนว่าตนมิได้กล่าวคำพูดนี้มาก่อนฮ่องเต้เจาหมิงโบกมือเบาๆ ขันทีและนางกำนัลที่ปรนนิบัติอยู่ข้างกายก็ถอยออกไปขันทีคนสนิทของเขาเฝ้าอยู่ไม่ไกล ไม่ให้ผู้อื่นเข้าใกล้หลังฮ่องเต้เจาหมิงมองสำรวจนางขึ้นลงคราหนึ่ง “นิสัยนี้ของเจ้าเหมือนเสด็จพี่อยู่หลายส่วนทีเดียว”“ตอนเจ้ากลับมาเมืองหลวง ข้ายังเป็นห่วงอยู่บ้าง บัดนี้ดูไปแล้ว คงจะกังวลไปเปล่าๆ แล้ว”ซือเจ๋อเยว่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเขา จึงยิ้มถามว่า “เสด็จอาทรงกังวลสิ่งใดเพคะ?ฮ่องเต้เจาหมิงตอบว่า “กังวลเรื่องความสัมพันธ์ของเจ้ากับจวนหนิงกั๋วกง กลัวว่าเจ้าจะถูกอำนาจพวกนั้นมอมเมาจิตใจ คิดว่าตนเองควรแซ่อว

Latest chapter

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 363

    ไป๋จื้อเซียนเห็นว่านางมองเขา สุดท้ายแล้วเขาก็อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่อยากให้ฆ่าสังหารผู้คน ข้าไม่สังหารก็สิ้นเรื่อง”ที่เขาสังหารคนก็เพราะว่าในใจของเขาไม่มีความสุข คนทั่วไปสำหรับเขาเป็นเหมือนมดแมลง สามารถบีบให้ตายได้ตามใจชอบซือเจ๋อเยว่ได้ยินเขากล่าวเช่นนี้ก็ลูบจมูกเบา ๆ ทีหนึ่ง ถามเขา “เพราะฉะนั้น ข้าเป็นสหายเก่าเมื่อหนึ่งพันปีก่อนของเจ้าจริง ๆ หรือ?”ไป๋จื้อเซียนพยักหน้า “ถูกต้อง เจ้าให้สัญญากับข้าว่าจะเจอกันหนึ่งพันปีหลังจากนั้น”ซือเจ๋อเยว่กล่าวอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก “ต้องขออภัยจริง ๆ เรื่องพวกนั้นข้าจำมันไม่ได้แล้ว”“ข้ารู้” ไป๋จื้อเซียนกล่าวเสียงราบเรียบ “ตอนนี้ข้าได้สาบานกับสวรรค์แล้ว ตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วใช่หรือไม่?”ครึ่งประโยคหลังเขายังไม่ได้พูด เขายังไม่รู้ว่า เมื่อหนึ่งพันปีก่อนนางใส่ใจเขามาก ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเหลือความทรงจำเมื่อหนึ่งพันปีช่วงนั้นเอาไว้มีเพียงเพราะหมกมุ่นมากถึงได้เก็บความทรงจำเอาไว้นานขนาดนี้ตอนนี้นางจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เขาจะค่อย ๆ ทำให้นางจำเขาให้ได้ก่อนหน้านี้นางมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อเขาก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้เข

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 362

    เขาถึงขนาดคิดว่า ในใจของนาง เขาก็เป็นคนที่พิเศษคนนั้นเช่นกันเมื่อเขาคิดเช่นนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเขาหยิบสิ่งของอย่างหนึ่งออกมา พลังชั่วร้ายพวกนั้นทั้งหมดถูกดูดไปอย่างสะอาดหมดจดแล้ว จากนั้นก็ลอยจากท้องฟ้ามาที่ตรงหน้าของสีหน้าของเยียนเซียวหรานเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือถือกระบี่ไม้ท้อก้าวไปข้างหน้า มือของซือเจ๋อเยว่กดที่บนมือของเขาจนถึงตอนนี้ ความแตกต่างของความสามารถระหว่างพวกเขามีมากเกินไป ไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลยวันนี้หากต้องลงมือกันจริง ๆ เกรงว่าพวกเขาจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่ทั้งหมด แล้วก็สังหารไป๋จื้อเซียนไม่ได้อีกด้วยในเรื่องการกำจัดปีศาจ ซือเจ๋อเยว่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ตลอดครั้งนี้เอาชนะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าค่อยหาตัวช่วยที่จะทำให้เสมอกัน แล้วค่อยหาโอกาสลงมือกับเขาอีกครั้งการกระทำนี้ของนางทำให้ไป๋จื้อเซียนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นัก ยกมือขึ้น แล้วโบกมือใส่เยียนเซียวหรานทันทีเยียนเซียวหรานถือกระบี่ไม้ท้อขวางเอาไว้ จึงต้านทานการโจมตีครั้งนี้ของไป๋จื้อเซียนได้ เพียงแต่เขาก็ถอยหลังไปหลายก้าวเช่นกันไป๋จื้อเซียนมีความประหลาดใจเล็กน้อย “โอ้ ไอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 361

    นางเป็นผู้มีพรสวรรค์แห่งสำนักเต๋า ดังนั้นการร่ายคาถาก็เหมือนกับกินข้าวกินน้ำ แต่สำหรับคนในสำนักเต๋าทั่วไปแล้ว กลับเป็นเรื่องที่ยากมากทว่าตอนนี้เยียนเซียวหรานไม่เพียงเคยเห็นนางร่ายคาถาไม่กี่ครั้ง ก็สามารถร่ายคาถาได้แล้ว นี่ถึงจะเรียกว่าผู้มีพรสวรรค์!นางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ในเมื่อเจ้าร่ายคาถาเป็น เช่นนั้นพวกเรามาเผชิญหน้าด้วยกัน!”เยียนเซียวหรานพยักหน้าหลังจากที่เขารู้จักนาง ถึงได้เข้าใจเรื่องพวกนี้ทั้งหมดก่อนหน้านี้เขาไม่เข้าใจคาถาเต๋า แต่ตอนหลังเขาได้ไปเรียนรู้ดาววิบัติดวงนั้นเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาตั้งรับเตรียมพร้อมตอนที่ห่างจากพวกเขาไปประมาณสิบกว่าจั้ง เยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงปราณชั่วร้ายที่รุนแรงเป็นอย่างยิ่งหลังจากที่ปราณชั่วร้ายกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด คมราวกับมีด ก็เกิดความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อพัดโดนหน้าซือเจ๋อเยว่ร่ายคาถาปกป้องร่างกายของพวกเขาเอาไว้ ตอนที่เตรียมที่จะพุ่งตัวเข้าไปต่อสู้ด้วยนั้น ข้าง ๆ ก็มีสีแดงปรากฏขึ้นแวบหนึ่งจากนั้นพลังชั่วร้ายที่เย็นยะเยือกที่เดิมทีรุนแรงมากก็สลายหายไปภายในชั่วพริบตาเยียนเซียวหรานสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 360

    วิธีการพูดแบบนี้ของซือเจ๋อเยว่ อันที่จริงเป็นคำศัพท์เฉพาะของสำนักเต๋าคำศัพท์นี้หมายถึงไม่ใช่ดาวฤกษ์ที่อยู่บนท้องฟ้า ทว่าใช้ทักษะชั่วร้ายมารวมตัวกันจนกลายเป็นพลังชั่วร้ายพลังชั่วร้ายประเภทนี้ไม่ใช่วิญญาณทั่วไปที่ตายด้วยความโกรธแค้นจนกลายเป็นพลังชั่วร้าย แต่เป็นพลังชั่วร้ายที่ก่อตัวมาจากความคิดชั่วร้ายและวิญญาณชั่วร้ายที่สะสมของโลกใบนี้หลังจากที่บรรดาเต๋าสายดำตามหาพลังชั่วร้ายประเภทนี้จนเจอ ค่อยใช้การฝึกพลังเฉพาะสกัดให้บริสุทธิ์ แล้วนำพวกมันมารวมไว้ด้วยกัน ก็เหมือนกับสิ่งที่เห็นอยู่ในตอนนี้พลังชั่วร้ายประเภทนี้หลังจากที่ถูกเจ้าของฝึกฝนมานาน ก็จะกลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในมือของเต๋าสายดำเมื่อเจ้าของของพลังชั่วร้ายตอนที่สั่งให้พวกมันไปจัดการคนคนหนึ่ง พวกมันก็สามารถกลืนกินคนคนนั้นได้จากนั้นพวกเขาค่อยให้มนุษย์เกิดความคิดชั่วร้าย แล้วค่อยใช้ความคิดชั่วร้ายเป็นอาหารบำรุงพวกมัน ทว่าคนที่อยู่ที่นั่น ได้กลายเป็นหุ่นเชิดที่มีชีวิต มีพวกเขาคอยควบคุมซือเจ๋อเยว่จ้องมองดาววิบัติที่เข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยดาววิบัติดวงนี้ใหญ่กว่าที่นางเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ ในเวลาเด

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 359

    นั่นเป็นเพราะหลังจากที่ตอนนั้นเขาเข้าไปในค่ายกลแล้ว ตกอยู่ในภาพลวงตา เหมือนเช่นเยียนเซียวหรานในตอนนี้ตัวประหลาดนั่นโหดเหี้ยมน่ากลัวเกินไป ภายในร่างกายกักขังเศษวิญญาณเอาไว้มากมายขนาดนั้นนางไม่จำเป็นต้องเดา เศษวิญญาณที่ตัวประหลาดกักขังเอาไว้ภายในร่างกายพวกนั้น เกรงว่าทั้งหมดจะเป็นองครักษ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อเมื่อนางนึกถึงเรื่องศพอันไม่สมบูรณ์ของเยียนอ๋องซื่อจื่อที่ถูกขนกลับมายังจวนเยียนอ๋อง เกรงว่าจะไม่ได้โดนสัตว์ป่ากัดเอา ทว่าถูกตัวประหลาดนี้ฉีกนางไม่สามารถจินตนาการได้ เยียนอ๋องซื่อจื่อและกลุ่มคนถูกขังอยู่ภายในค่ายกลนี้ ตอนที่ถูกตัวประหลาดฉีกกินทั้งเป็น จะน่าเวทนาและหมดหนทางมากขนาดไหน!ทว่าเรื่องทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงแค่ต้องการฆ่าปิดปากพวกเขา จากนั้นก็ทำเป็นตาค่ายกล ถูกกักขังระหว่างหยินกับหยางตลอดไป กลับชาติมาเกิดใหม่ไม่ได้ต่อให้วิญญาณที่ไม่สมบูรณ์จะหนีไปแล้วกลับชาติมาเกิดใหม่ หากไม่โง่ ปัญญาอ่อน ก็จะอายุสั้น เพราะดวงวิญญาณไม่สมบูรณ์ ได้รับความทุกข์ทรมานเพราะกลับชาติมาเกิดคนผู้นี้จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ทำให้รู้สึกโกรธมากจริง ๆ!พวกเขาวิ่งไปข้างหน้าอยู่ครู่หนึ่งถึงได้หยุดลงแล

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 358

    ตัวประหลาดจับลูกธนูดอกนั้นไว้แล้วโยนใส่พวกเขาเยียนเซียวหรานหลบด้วยความรวดเร็ว ธนูดอกนั้นลอยเฉียดหัวของเขาไปซือเจ๋อเยว่ส่งเสียงร้องประหลาดใจออกมาเบา ๆ พลังสังหารของตัวประหลาดตัวนี้มากเสียจนน่าหวาดกลัวสีหน้าของเยียนเซียวหรานเองก็ค่อนข้างดูแย่เช่นกัน หากเป็นเช่นนี้ ต่อไปอยากจะยิงให้ถูกตัวประหลาดอีกก็คงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากตอนที่ซือเจ๋อเยว่เห็นตัวประหลาดไล่ตามมา พลังชั่วร้ายสีดำที่แผ่ซ่านออกมาจากมือ นางจึงมีวิธีการแล้วนางหยิบลูกธนูดอกหนึ่งขึ้นมาแล้วติดยันต์ที่ด้านบน ให้เยียนเซียวหรานยิงอีกครั้งตัวประหลาดในเวลานี้อยู่ใกล้กับพวกเขามาก เยียนเซียวหรานทำได้เพียงหลบไปก่อน แล้วค่อยยิงธนูดอกนั้นออกไปตัวประหลาดตัวนั้นมองเห็นการเคลื่อนไหวนี้ของเขา ในดวงตาปรากฏความเหยียดหยามขึ้นมาแวบหนึ่ง ใช้วิธีการเดิมซ้ำอีกครั้งเพื่อจับธนูดอกนั้นเพียงแต่ครั้งนี้ตอนที่มันจับลูกธนูดอกนั้นเอาไว้ ทันใดนั้นยันต์ห้าอัสนีบาตรก็ทำงาน ภายในชั่วพริบตา เสียงฟ้าร้องคำรามลั่น ฟ้าผ่ามันจนไหม้เกรียมเยียนเซียวหรานแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าทำแบบนี้น่าจะผ่าจนตัวประหลาดตายแล้ว ทว่าครู่ต่อมา ตัวประหลาดก็ขยับอ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 357

    ตลอดทาง เขากลับทำให้ตัวประหลาดนั่นไม่ต้องครุ่นคิดอีก วิ่งไล่ตามชื่อปาเลี่ยไปทันทีในระหว่างที่ซือเจ๋อเยว่กำลังพูด ตัวประหลาดก็ได้โจมตีชื่อปาเลี่ยหลายรอบแล้วชื่อปาเลี่ยในเวลานี้ได้สติกลับคืนมาอย่างสมบูรณ์แล้ว กลัวว่าจะช่วยชีวิตเขาไม่ได้ เขาจำต้องคิดหาหนทางช่วยเหลือตัวเองศักยภาพของร่างกายเขาถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด ไม่นึกเลยว่าเขาจะหลบการโจมตีนับครั้งไม่ถ้วนของตัวประหลาดได้อย่างหวุดหวิดเขาในเวลานี้พลางร้องอย่างสิ้นหวัง พลางหลบอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นเจ้าอ้วนที่คล่องแคล่วที่สุดในใต้หล้านี้ได้สำเร็จเมื่อซือเจ๋อเยว่มองเห็นท่าทางที่ตกอยู่ในอันตรายของเขา ทั้งรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร แล้วก็อยากจะขำอีกด้วย เนื่องจากตอนที่เขาหลบ เรียกได้ว่าไม่ได้สนใจภาพลักษณ์เลยสักนิดนางกล่าวกับเยียนเซียวหราน “ถึงแม้ในหนังสือจะไม่ได้บอกวิธีการที่สามารถสังหารตัวประหลาดประเภทนี้เอาไว้ สิ่งของบนโลกใบนี้อยากจะให้หายไปก็มีเพียงสองวิธี”“หนึ่งคือการโจมตีทางกายภาพ อีกอย่างก็คือการโจมตีแบบลี้ลับ”“ในเมื่อการโจมตีทางกายเมื่อครู่นี้ไม่ได้ผล เช่นนั้นก็ต้องลองการโจมตีแบบลี้ลับดูเสียหน่อย”ครั้งก่อนนางวาดยันต์สำรองเอาไว

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 356

    ตอนนี้สิ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ก็คือสัตว์ยักษ์สีแดงที่สูงประมาณหนึ่งจั้งตัวหนึ่งสัตว์ยักษ์ตัวนั้นมีดวงตาสีดำที่คล้ายกับระฆัง ไม่มีคิ้ว ไม่มีขนตาจมูกมีเพียงรูจมูกสองรู ปากไม่มีริมฝีปาก ปรากฏให้เห็นฟันแหลมคมเต็มปาก ภายใต้ฟันอันแหลมคม เวลานี้ยังมีของเหลวสีเหลืองไหลย้อยออกมาเพียงแค่พวกนี้ก็พอทนแล้ว ร่างกายของเขายังมีตุ่มสีแดงเต็มตัวตุ่มพวกนั้นห้อยอยู่บนร่างกายของสัตว์ยักษ์ ปกคลุมร่างกายของมันที่เดิมทีเต็มไปด้วยขนสีดำ มองดูน่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างยิ่ง ซือเจ๋อเยว่ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนมีความรู้กว้างขวางมาโดยตลอด กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนขนาดนี้ชื่อปาเลี่ยร้องออกมาอย่างอดไม่ได้ “นี่มันตัวบ้าอะไรกันเนี่ย!”นี่เป็นคำถามที่เยี่ยมมากจริง ๆ ซือเจ๋อเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านี่มันคือตัวบ้าอะไรสัตว์ยักษ์ที่กำลังน้ำลายไหลตัวนั้นเดินมุ่งหน้าเข้ามาหาพวกเขา ทันทีที่มันเข้าใกล้ กลิ่นคาวกลุ่มนั้นก็รุนแรงขึ้นซือเจ๋อเยว่สะอิดสะเอียนจนอยากอ้วก!ตอนที่เยียนเซียวหรานมองเห็นสัตว์ยักษ์ตัวนั้น เสียงเตือนภายในใจของเขาก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งตอนที่สัตว์ยักษ์ตัวนั้นเดินเ

  • บ่วงดวงชะตา พระชายาหมอดูมือฉมัง   บทที่ 355  

    นางมีแววตาเปล่งประกายล้ำลึก “ช่างเป็นฝีมือที่สูงส่งยิ่งนัก!”  เยียนเซียวหรานมองนาง นางจึงเอ่ยต่อ "ฟ้าคือหยาง ดินคือหยิน ยามหยินหยางกลับตาลปัตร สรรพสิ่งพลิกผัน กฎแห่งฟ้าดินถูกตัดขาด!"  “แต่สิ่งใดที่หลอกลวงได้ชั่วคราว ย่อมไม่อาจปิดบังไปชั่วชีวิต!”  “เหล่าดวงวิญญาณผู้ซื่อสัตย์แห่งสนามรบ ท่านทั้งหลายที่คืนสู่แผ่นดิน ณ ที่แห่งนี้ โปรดร่วมมือกับข้ากำจัดภาพลวงที่ปกคลุมโลกใบนี้ จงสลายม่านมายา! ทำลายมันเสีย!”  นางฟาดฝ่ามือลงกับพื้นดิน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสี่ทิศ เสียงแตกร้าวดังมาจากรอบทิศ  ทันทีที่เสียงนั้นดังขึ้น พื้นดินสีดำสนิทรอบตัวก็พลันหายไป อาการหายใจที่ยากลำบากบัดนี้กลับมาเป็นปกติ  ต้นไม้ที่เคยหายไปปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันกลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายและความเสื่อมสลาย  ขุนเขาเช่นนี้ หาได้มีภาพของทัศนียภาพอันงดงามเหนือจินตนาการอย่างที่ชื่อปาเลี่ยที่เคยบอกเอาไว้ไม่  แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ากลับเป็นดินแดนรกร้างที่ไร้ซึ่งชีวิต!  เกรงว่าภาพที่เยียนอ๋องเห็นในอดีตก็คงจะเป็นเพียงภาพมายาเท่านั้น เพียงแค่นางยังไม่เข้าใจเหตุผล ผู้ที่วางค่ายกลนี้ เหตุใดจึงต้องสร้างภาพลวงเช่น

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status