เจียงอวิ้นและเจียงจิ่นหนิงปกป้องเฉาหยูเฟิ่งอยู่ทั้งสองข้าง เจียงป๋อเหนียนเอ่ยดุดัน “ผู้บัญชาการโหว ท่านบุกรุกเข้ามาในจวนเจียงตามพลการ ทั้งยังค้นไปทั่วจวนอีก ท่านทำเช่นนี้ทำไมกัน” จะว่าอย่างไร เขาเจียงป๋อเหนียนก็เป็นถึงขุนนางขั้นสามในราชวัง วันนี้ถูกผู้อื่นค้นจวนโดยพลการเช่นนี้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน! “ใต้เท้าเจียง เงียบหน่อย ข้ากำลังตามจับไส้ศึกจากศัตรูอยู่!” เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านอ๋องและองค์ชายรองแล้ว ฐานะของโหวเจี๋ยต่ำต้อยมาก แต่สำหรับเจียงป๋อเหนียน โหวเจี๋ยไม่มองเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ อะไรนะ! ไส้ศึกจากศัตรู! ข้ออ้างในการตรวจค้นของโหวเจี๋ยยิ่งอยู่ยิ่งเลยเถิด เจียงป๋อเหนียนโกรธมาก! ไอ้โหวเจี๋ย ปกติก็ทำตัวแปลกๆ อยู่แล้ว ทั้งยังใช้ชื่อเสียงอำนาจขององค์รัชทายาทมาทำตัวหยิ่งยโสอีก! วันนี้มีงานฉลองมงคลที่จวนเจียง เขากลับพากองทหารบุกเข้ามาด้านใน นี่มันไม่เห็นหัวเขาชัดๆ! “ผู้บัญชาการโหว หากวันนี้ท่านหาตัวไส้ศึกไม่เจอ เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อขอข้อสรุป!”โหวเจี๋ยมองเจียงป๋อเหนียนด้วยสายตาเย็นชา “ใต้เท้าเจียง ทหารรักษาพระองค์เห็นไส้ศึกวิ่งเข้ามาในจวนเจียงกับตา
ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น จวนสกุลเจียงช่างกล้าไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใดเลย นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีของเช่นนั้นอยู่เฉาหยูเฟิ่งตกใจจนนิ่งอึ้งไป เดิมทีในห่อผ้ามีตุ๊กตากระดาษวิชาปีศาจ เขียนชื่อฮูหยินใหญ่เจียงเอาไว้เจียงอวิ้นรู้ว่าในห่อผ้าเป็นของที่ใช้ในการใส่ร้ายสกุลซื่อ เหตุใดถึงได้กลายเป็นของสิ่งนี้ไปได้ เจียงอวิ้นคิดเช่นไรก็คิดไม่ออก!ปากของฮูหยินเจียงสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้ บาปกรรมจริงๆ นี่เป็นถึงหลักฐานเอาผิดได้เชียวนะ!เจียงจิ่นหนิงกลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่ง ขาสั่นทอน“นายท่านเจียง เรือชุนเป็นที่อยู่ของผู้ใด”โหวเจี๋ยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนัก“ของ…ข้าเอง!” เฉาหยูเฟิ่งกล่าวอย่างตะกุกตะกัก เหงื่อผุดพรายเต็มฝ่ามือนางโหวเจี๋ยจำเฉาหยูเฟิ่งได้ เป็นน้องสาวของเฉาอวี้เจียงทหารักษาพระองค์เดินไปข้างหน้า และจับเฉาหยูเฟิ่งไว้“ท่านแม่…”เจียงอวิ้นจะเข้าไปช่วยเฉาหยูเฟิ่งแต่เจียงจิ่นหนิงจับนางเอาไว้ไม่ให้นางเดินไปสถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันนี้ทำให้เฉาหยูเฟิ่งยืนไม่ไหวและไม่อาจทรงตัวได้เจียงป๋อเหนียนกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “โหวเจี๋ย นี่เจ้าฉวยโอกาสแก้แค้นอย่างนั้นหรือ!”เข
ชุนฮว๋าได้ยินก็ตกลงในทันใด เพราะนางเกลียดเจียงหวานหว่านเป็นเพียงสาวบ้านนอกคนหนึ่ง ทำไมถึงเป็นคุณหนูได้!หลิ่วซู่ถูกทหารรักษาพระองค์จับตัวไป ห้ามเคลื่อนไหวเป็นอันขาดแววตาของเจียงหวานหว่านขรึมลงเล็กน้อยพลันหันไปคำนับต่อโหวเจี๋ย“ผู้บัญชาการโหว ข้าขอซักถามอะไรนางหน่อยได้หรือไม่”โหวเจี๋ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตกลงสตรีผู้นี้น่าจะเป็นคุณหนูหกแห่งสกุลเจียงที่ไปอาละวาดที่จวนเจียงและเป็นปรปักษ์กับเจียงป๋อเหนียน ดังนั้นเขายอมไว้หน้าให้ดวงตาลุ่มลึกของหรงซีเลิกขึ้นเล็กน้อยพลางมองเจียงหวานหว่านด้วยแววตาขี้เล่นบนใบหน้าของหรงมู่หานมีความรู้สึกแปลกแยกแฝงอยู่หากเจียงป๋อเหนียนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง เขาจะปล่อยปละละเลยเจียงป๋อเหนียนทันทีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับศัตรู เพียงพอที่จะทำให้เขาหลุดจากบัลลังก์ได้ฮูหยินใหญ่เจียงอายุมากแล้วยืนไม่ไหว จึงหาที่นั่งว่างนั่งลง โดยมีเจียงอวิ้นและเจียงจิ่นหนิงยืนอยู่ข้างๆเจียงอวิ้นหัวเราะแห้ง นางจะคอยดู ว่าโทษหนักเพียงนี้เจียงหวานหว่านจะช่วยสกุลหลิ่วนี่ได้อย่างไรเพียงแค่ทำให้สกุลหลิ่วนี่ออกไปรับโทษให้ได้ ท่านพ่อและท่านแม่ก็จะไม่เป็น
ฮูหยินใหญ่เจียงส่งเสียงตกใจพร้อมพุ่งตัวเข้าไปหาเจียงป๋อเหนียน ไม่ให้ทหารรักษาพระองค์นำตัวเจียงป๋อเหนียนไป“อย่าจับตัวลูกชายข้า ของค้นออกมาจากเรือนของสกุลเฉา จะจับก็ไปจับนาง ปล่อยลูกชายข้า!”“ท่านแม่ ปล่อยท่านแม่ข้า ท่านแม่…”เจียงอวิ้นน้ำตาไหลพรากพุ่งเข้าไปหาเฉาหยูเฟิ่ง ในใจเกลียดชังฮูหยินใหญ่เจียงถึงขีดสุดที่โยนความผิดทั้งหมดให้กับท่านแม่สีหน้าของโหวเจี๋ยไม่สู้ดีนัก “หากยังกล้าขัดขวางงานหลวงอีก จะจับตัวไปทั้งหมด!”เฉาหยูเฟิ่งไม่คาดคิดว่าสกุลหลิ่วไม่เพียงแต่จะรอดพ้นจากเหตุการณ์นี้เท่านั้น แต่ตนยังต้องถูกจับคังคุกแทนด้วย“ท่านพี่ ท่านพี่ช่วยข้าด้วย!”เฉาหยูเฟิ่งน้ำตาไหลขอความช่วยเหลือจากเฉาอวี้เจียงเฉาอวี้เจียงเป็นกังวลมาก กำลังจะเอ่ยปากพูด ทว่าถูกสกุลฉางห้ามเอาไว้ก่อนพร้อมกล่าวเตือนว่า“นายท่าน ท่านไม่ได้มีน้องสาวเพียงคนเดียว ท่านยังมีบุตรชาย แล้วก็ทั้งสกุลเฉาอีก คิดให้ดีก่อนตัดสินใจดีกว่าขอรับ!”เฉาอวี้เจียงกัดฟันแน่น แล้วกลับจวนไปปรึกษาหารือกับบิดาก่อน ดูว่าจะช่วยน้องสาวได้อย่างไร“ผู้บัญชาการโหวโปรดเมตตาด้วย!”แววตาของโหวเจี๋ยเฉียบคมและเยือกเย็น “กฎหมายไม่มีความเมตตา โ
หรงซีแค่นเสียงเย็นชาพร้อมขรึมหน้าลงเจียงหวานหว่านถอนหายใจในใจ ที่นางให้หรงซีมาช่วยสนับสนุนก็เพราะต้องการทำให้โหวเจี๋ยตื่นตัวถึงแม้โหวเจี๋ยจะเป็นคนขององค์รัชทายาท แต่หรงซีมีบุญคุณต่อเขานางไม่หวั่นกลัวเฉาหยูเฟิ่ง แต่กับซั่งกวนปิง นางกลับหมดปัญญาสู้เจียงหวานหว่านถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วโค้งคำนับไปทีหนึ่ง“วันนี้ต้องขอบพระทัยท่านอ๋องมากจริงๆ ข้าติดหนี้บุญคุณท่าน ต่อไปข้าจะตอบแทนอย่างแน่นอน!”หรงซีขมวดคิ้วเบาๆ “หากถูกข้าจับได้ว่าเจ้าทำเรื่องที่ไม่เอื้อต่อแคว้นตงหลิงล่ะก็ ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือข้าเอง!”น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่กลับแฝงด้วยความโหดร้ายอำมหิต“ท่านอ๋องไม่มีโอกาสนั้นแน่นอน”หรงซีหรี่ดวงตาดำขลับของเขาลง ไม่ปริปากพูด เพียงแค่หันหลังเดินจากไปหลังจากออกจากจวนเจียง หรงซีก็สั่งให้ไส้ศึกลูกน้องแอบติดตามเจียงหวานหว่านทันทีหากเจียงหวานหว่านเป็นไส้ศึกของแคว้นศัตรูจริง เขาจะสังหารนางเป็นคนแรกขณะที่เจียงหวานหว่านกลับถึงเรือนเหมย ชุนฮว๋ากำลังคุกเข่าขออภัยอยู่ตรงหน้าหลิ่วซู่สาวใช้คนอื่นๆ ในเรือนยืนแอบส่องอยู่นอกประตู เมื่อเห็นเจียงหวานหว่านกลับมาถึงจึงจะแยกย้ายกันไปเจียงหวานหว่
สีหน้าของเจียงหวานหว่านกรุ่นโกรธพลางเอ่ยเสียงนิ่งขรึมว่า “สั่งสอนนั้นหรือ แม่นมหลี่ใจกว้างเกินไปแล้วกระมัง!”แม่นมหลี่ก้มศีรษะลง“คุณหนูพูดถูกเจ้าค่ะ เพียงแต่เรื่องนี้ต้องบอกฮูหยินใหญ่ให้ชัดเจนเสียก่อนค่อยลงมือจัดการ!”“แม่นมหลี่ ชุนฮว๋าทำเรื่องชั่วร้ายต่อเจ้านาย ไม่ต้องบอกท่านย่าหรอก ส่งตัวไปให้ทางหลวงจัดการเลย!”ชิวเยว์สาวใช้คนหนึ่งเล่าเรื่องชั่วร้ายที่ชุนฮว๋าทำให้กับแม่นมหลี่ฟังเบาๆแม่นมหลี่ตะลึงตกใจ คิดไม่ถึงว่าชุนฮว๋าจะบังอาจเช่นนี้ จึงรีบชี้สั่งให้เหล่าแม่เฒ่าลากตัวชุนฮว๋าออกไป“พวกเจ้า ลากตัวนางไปที่จวนข้าหลวงซะ”หลังจากที่ทุกคนจากไป เรือนเหมยก็กลับสู่สภาวะเงียบอีกครั้งเจียงหวานหว่านนอนอยู่บนเตียง ยังคงไม่สบายใจอยู่เนิ่นนานน้ำในจวนเจียงลึกยิ่งกว่าที่ตนคิดเอาไว้ ไส้ศึกมาที่นี่เพราะแผ่นที่การจัดกำลังทหารเช่นนั้นใครกันแน่ที่ซ่อนอยู่ในศาลบรรพบุรุษ!เผชิญหน้ากับเรื่องที่ไม่รู้เรื่องเช่นนี้ ทำให้เจียงหวานหว่านใจไม่ดีนางอ่อนแอเกินไปจริงๆ นางนึกย้อนถึงเรื่องราวในชาติที่แล้วต่างๆ มากมายพลันนึกถึงกู้ฉางชิงผู้เป็นถุงเงินของหรงมู่หานเมื่อพิจารณาตามกาลเวลาแล้ว หรงมู่หานยัง
“เจ้ารอพวกข้าอยู่ที่นี่ เดี๋ยวจะจ่ายเงินให้”คนขับรถม้ารีบตกลงเจียงหวานหว่านลงจากรถพลันพบว่าสายตาทุกคู่บนถนนสองฝั่งกำลังจับจ้องที่พวกนางอยู่เสียงก่นด่าดังมาจากปากซอยจินอวี๋ มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังรุมทำร้ายเด็กชายอายุห้าหกขวบอยู่เด็กชายที่ถูกทุบตีใช้มือป้องกันศีรษะโดยสัญชาตญาณ ลำตัวห่อหดคล้ายลักษณะของกุ้งเจียงหวานหว่านยกมุมปากขึ้นเด็กชายตรงหน้าคือกู้ฉางเกอ น้องชายของกู้ฉางชิงที่เขามักจะพาไปไหนมาไหนด้วยเสมอเพียงแต่น้องชายของเขาเป็นคนเงียบ ไม่ยอมคบค้ากับคนอื่นในชาติที่แล้ว หรงมู่หานต้องการให้กู้ฉางชิงทำงานให้ตนได้อย่างสบายใจ เขาจึงให้ตนรักษาอาการป่วยของกู้ฉางเกอให้หายตั้งแต่ที่กู้ฉางเกอหายป่วย กู้ฉางชิงก็ยิ่งช่วยให้หรงมู่หานกอบโกยกำไรได้มากกว่าเดิมเจียงหวานหว่านเดินเข้าไปไล่เด็กที่ทำร้ายคนอื่นพวกนั้นออกอย่างรวดเร็วเจียงหวานหว่านเอ่ยด้วยน้ำเสียงบางเบาว่า “เจ้าไม่ต้องกลัวนะ คนชั่วไปหมดแล้ว จะไม่มีใครทำร้ายเจ้าอีก”กู้ฉางเกอยังคงทำท่าป้องกันตัวอยู่เจียงหวานหว่านย่อตัวนั่งลงพร้อมใช้มือตบเบาๆ ที่ตัวของกู้ฉางเกอในที่สุดกู้ฉางเกอก็ยอมโผล่ศีรษะออกมา แล้วมองเจียงหวานหว่านด้
กว่าจะพูดจบได้ประโยคหนึ่งไม่ง่ายนัก กู้ฉางชิงจับหน้าอกของตนไว้ เพื่อระงับอาการไอ“เจ้าได้พบกับข้าแสดงว่าชะตาของเจ้ายังไม่ถึงฆาต เจ้าควรจะขอบคุณน้องชายเจ้านะ!”กู้ฉางชิงรีบปฏิเสธ “ข้าไม่มีสิ่งของมีค่าใดๆ แถมยังป่วยหนัก คุณหนูกลับไปเถิด!”เจียงหวานหว่านหัวเราะหึๆ “คนรุ่นหลังของสกุลกู้มีชีวิตตกอับถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่ากู้เลี่ยงตายตาหลับหรือไม่”กู้ฉางชิงกอดกู้ฉางเกอไว้ให้ออกห่างจากเจียงหวานหว่าน แล้วถามอย่างป้องกันตัวว่า “เจ้าคือใคร”เจียงหวานหว่านหยิบขลุ่ยหยกของท่านอาจารย์ออกมา “สกุลกู้มีชีวิตตกอับถึงเพียงนี้ ไม่ทราบว่ายังสามารถรักษาสัญญาได้หรือไม่”“ปรมาจารย์หมอเซียนเป็นอะไร…กับเจ้า” กู้ฉางชิงเอ่ยถามเจียงหวานหว่านยิ้มเบาๆ “เป็นอาจารย์”“แม่นางตามหาที่นี่เจอได้อย่างไร”เจียงหวานหว่านหัวเราะแห้ง “หลายคนในเมืองหลวงจำสกุลกู้ได้ หากอยากรู้ว่าคนรุ่นหลังของสกุลกู้อยู่ที่ไหน เพียงแค่สืบดูก็รู้!”เมื่อชาติที่แล้วที่กู้ฉางชิงมุ่งมั่นช่วยหรงมู่หานทำงานหาเงินสุดชีวิต ก็เพราะนางท่านอาจารย์มีบุญคุณต่อสกุลกู้ ส่วนนางก็รักษาอาการป่วยของกู้ฉางเกอกู้ฉางชิงรู้สึกขอบคุณ จึงได้ช่วยหรงมู่หานทำเ