หานหาน เป็นชื่อที่นางไม่รู้จัก ตามที่นางรู้ ชาติก่อนคนสนิทข้างกายหรงซีไม่มีคนผู้นี้“ไท่ฟู่ ผู้ป่วยเหล่านี้ล้วนเป็นทหารปลดเกษียณ เกรงว่ามีคนอยากซ้ำเติมชีวิตของพวกเขา ทำลายบารมีของท่านอ๋องในกองทัพเดิมทีในใจโจวไท่ฟู่รู้สึกผิดปกติ เมื่อได้ฟังคำเตือนของเจียงหวานหว่าน เขาก็เข้าใจในทันที มีคนคิดจะจัดการท่านอ๋อง“แม่นางเจียง ตลอดชีวิตข้าไม่เคยทุจริต และจะไม่ปล่อยให้ผู้ใดถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม”เจียงหวานหว่านส่ายหน้าและกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เกรงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจะรู้จักนิสัยโจวไท่ฟู่ดี คิดจะยืมมือไท่ฟู่ฆ่าคน”โจวไท่ฟู่ตกใจ ครุ่นคิดอย่างละเอียด ครั้งนี้องค์รัชทายาทและองค์ชายรองพยายามอย่างมากเพื่อแนะนำให้เขามาตรวจสอบครั้งนี้คนที่ใส่ร้ายท่านอ๋อง คิดแม้กระทั่งอยากให้ท่านอ๋องถึงตายนั้นเป็นใคร หรือทั้งสองคนล้วนมีส่วนร่วม“ไท่ฟู่ สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ความจริง”เพื่อใส่ร้ายหรงซี ผู้บงการเบื้องหลังต้องเตรียมการมาพอสมควรเจียงหวานหว่านแบมือออก หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาฝืนหนึ่ง มีผงสีขาวอยู่บนผ้าเช็ดหน้า“ไท่ฟู่ มีคนวางยาพิษผู้ป่วย นี่เป็นผงแป้งที่พบอยู่ในซอกเล็บมือของหมอเหมียว
เจียงหวานหว่านกระซิบกับหมอข่งหมอข่งพยักหน้า เขากับท่านหมอเจียงจะต้องหาคนร้ายให้เจอหรงมู่หานมองดูท่าทางสบายๆ ผ่อนคลายของเจียงหวานหว่าน เขาสงสัยมากว่านางจะหาตัวคนร้ายด้วยวิธีใดเพียงไม่นาน ผู้ป่วยทุกคนรุดไปยังพื้นที่เปิดโล่งเจียงหวานหว่านกวาดตามองทุกคน นางรู้จักผู้ป่วยทุกคนเป็นอย่างดี“ทุกคนฟังข้าพูด ก่อนที่หมอเหมียวตายไปอย่างกะทันหันนั้นได้ทิ้งหลักฐานสำคัญเอาไว้ ขอให้คนที่ขานรายชื่อเดินออกมาข้างหน้า ยื่นมือทั้งสองข้างของพวกเจ้าออกมา”แม้ในใจผู้ป่วยจะยังโกรธแค้นเจียงหวานหว่าน แต่พวกเขาก็อยากคืนความยุติธรรมให้หรงซีเช่นกันเจียงหวานหว่านมองไปทีละคน แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดจนกระทั่งนางตรวจสอบทุกคนในหอบรรพชนหมดแล้ว ทว่าก็ยังไม่พบผู้ใดทำตัวผิดปกติเจียงหวานหว่านเริ่มลำบากใจ นางจะหาคนร้ายวางยาพิษที่อยู่เบื้องหลังได้เช่นไร“อาจารย์กัว ทุกคนในหอบรรพชนมาอยู่ที่นี่หมดแล้วหรือ?”กัวอี้เทียนพยักหน้า “ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่แล้ว”ไม่ถูก ในบรรดาคนเหล่านี้ไม่มีคนที่นางตามหา เจียงหวานหว่านเริ่มท้อใจโจวไท่ฟู่ถอนหายใจ “แม่นางเจียง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแล้วแต่ฟ้าลิขิต อย่าได้ขัดขืนเ
นิ้วมือของหมอเคอชี้ไปที่เจียงหวานหว่าน ทว่าสายตากลับจ้องมองไปที่โจวไท่ฟู่และหรงมู่หาน“ไท่ฟู่ องค์ชายรอง พวกท่านต้องช่วยตัดสินให้ข้า ท่านหมอเจียงอาศัยที่ได้รับการสนับสนุนจากท่านอ๋อง ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่นตามใจชอบ ไม่เห็นกฎหมายแคว้นตงหลินอยู่ในสายตา”หรงซีหานหันไปมองเจียงหวานหว่าน “แม่นางเจียง เรื่องที่หมอเคอพูดเป็นความจริงหรือไม่?”ความจริงกับหัวเจ้าสิ เจียงหวานหว่านก่นด่าหรงมู่หานในใจต่อให้ในใจเกลียดหรงมู่หานมากแค่ไหน นางก็ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้า“องค์ชายรอง ข้าขอให้ไปตรวจสอบที่ห้องหมอเคอ”หรงมู่หานพยักหน้าเห็นด้วยกับคำแนะนำของเจียงหวานหว่าน“เหตุใดจึงตรวจสอบห้องข้าแค่คนเดียว”หมอเคอไม่ยอมและประท้วง“เช่นนั้นก็ตรวจสอบพร้อมกัน”หรงมู่หานออกคำสั่ง ทหารรับคำสั่งไปตรวจสอบขณะที่ทุกคนกำลังรอ เจียงหวานหว่านค่อยๆ เอ่ยปากกล่าว “หมอเหมียวชื่นชอบชา ภายในห้องมีใบชาอยู่หลายชนิด แต่ที่เขาชื่นชอบที่สุดก็คือชาซีกุย”หมอเคอไม่เคลื่อนไหวเจียงหวานหว่านยิ้มมุมปาก จากนั้นก็บอกเขาอีกเรื่องหนึ่ง“ข้าเห็นว่าหมอเหมียวหมกมุ่นอยู่กับชาซีกุย จึงบอกวิธีหนึ่งกับเขา คือนำรสชาติชาซีกุยมาทำเป็นเครื่อง
“คุ้มครององค์ชายรองและโจวไท่ฟู่”ทหารล้อมรอบหรงมู่หานและโจวไท่ฟู่เหล่าผู้ป่วยตกใจพากันแตกกระเจิงออกไปเจียงหวานหว่านหันมองตามทิศที่อาวุธลับโจมตีมา ตรงนั้นไม่มีคน“เทียนซู เจ้าเห็นหรือไม่ว่าเป็นใคร?”เทียนซูส่ายหน้า นึกไม่ถึงว่าคนร้ายจะฆ่าคนต่อหน้าเขาและเขาไม่รู้สึกตัวเลย ฆาตกรจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญแม้เจียงหวานหว่านจะเสียดาย แต่ก็รู้ว่าเป็นเพราะเทียนซูเอาความสนใจทั้งหมดมาวางไว้ที่นาง จนไม่สนใจสิ่งอื่นรอบตัวโจวไท่ฟู่ตกใจไม่หาย เมื่อครู่เขาอยู่ใกล้กับหมอเคอมาก เกือบจะต้องไปพบพญายามแล้วหรงมู่หานมองตรงไปที่เจียงหวานหว่านหากไม่ได้นางมารักษาผู้ป่วย คนเหล่านี้คงเสียชีวิตไปนานแล้วแผนการของเขาและพวกคงไม่ถูกทำลายเช่นนี้ ภายใต้ใบหน้ารอยยิ้มอบอุ่น ภายในจิตใจกลับชั่วร้ายและเห็นแก่ตัวสตรีที่ฉลาดงดงามเช่นนี้ หากสามารถทำให้นางทำทุกอย่างเพื่อเขาได้ คงไม่มีสิ่งใดดีกว่านี้แล้ว“แม่นางเจียง โชคดีที่เจ้าเปิดโปงหมอเคอ มิฉะนั้นข้าและโจวไท่ฟู่คงต้องใช้ชีวิตด้วยความกังวล”โจวไท่ฟู่เข้าใจดี เจียงหวานหว่านคิดจะถามถึงผู้บงการเบื้องหลัง แต่ผู้บงการเจ้าเล่ห์มาก เขาฆ่าคนปิดปากตอนนี้คนตายไปแล้ว
ผู้ป่วยในหอบรรพชนเริ่มกระซิบกัน บรรยากาศตึงเครียดเจียงหวานหว่านเห็นท่าไม่ดี สั่งให้กัวอี้เทียนนำคนไปปิดล้อมประตูหอบรรพชนทั้งสี่ทิศอย่างแน่นหนา ป้องกันคนคิดหลบหนีหมอข่งที่ยืนอยู่ด้านข้างมองดูศพหมอเคอด้วยความรู้สึกหลากหลายนึกไม่ถึงว่าหมอเคอจะทำร้ายหมอเหมียวที่เป็นดั่งอาจารย์และเพื่อนของเขาเองได้ลงคอก็เพื่อที่จะให้ถึงเป้าหมายของตนแต่หมอเคอกลับถูกคนฆ่าทิ้ง ไม่ได้มีจุดจบที่ดีเช่นกันสำนักหมอหลวงชิงเหอส่งพวกเขาสามคนมารักษาคนไข้ ทว่ากลับมีเพียงเขาคนเดียวที่รอดนี่เป็นกลอุบายกำจัดคนจริงๆ!เทียนซูเองก็รับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ป่วย เขายื่นเฝ้าเจียงหวานหว่านไม่ห่าง กลัวว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นนางต้องรีบถอนพิษชนิดนี้ มิฉะนั้นจะเกิดเรื่องใหญ่ เพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป ผู้ป่วยเหล่านี้อาจหลบหนีออกจากหอบรรพชนหากพวกเขาหลบหนีออกไปจากหอบรรพชน เช่นนั้นก็จะเป็นการปล่อยให้พิษชนิดนี้แพร่ออกไป ผลที่ตามมานั้นยากเกินจิตนาการได้กัวอี้เทียนสั่งให้คนจับตาดูผู้ป่วยทุกฝีเก้าเจียงหวานหว่านปิดประตูและเริ่มค้นความยาถอนพิษกลางคืนดึกดื่น เจียงหวานหว่านก็ยังไม่ได้พักผ่อน เวล
ทุกคนนิ่งเงียบ พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากความตายเลยหรือ?“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ขอให้ทุกคนให้เวลาข้าหน่อย ข้าจะคิดค้นสูตรยาถอนพิษออกมาให้ได้ พวกเราต้องรอดไปด้วยกัน”ไช่หยางอารมณ์ขุ่นมัว “จะให้พวกเราเชื่อเจ้าได้เช่นไร”เดิมทีพวกเขาก็ไม่เชื่อเจียงหวานหว่านอยู่แล้ว สตรีอายุเยาว์วัยเช่นนี้จะรักษาโรคพวกเขาให้หายได้เช่นไรแต่วันที่สองที่เจียงหวานหว่านตรวจอาการให้พวกเขา พวกเขาถึงได้รู้จักเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านตอบไช่หยาง “จะเชื่อข้าหรือจะรอวันตาย เจ้าเลือกเองได้”ไช่หยางอ้าปาก แต่ก็ไม่ได้พูดต่อเจียงหวานหว่านรู้ว่าพวกผู้ป่วยตรงหน้ามีความมุมานะมากกว่าผู้ป่วยทั่วไป“พวกเจ้าจงเอาความมุมานะที่ใช้ตอนออกรบออกมาให้หมด คิดถึงตอนที่พวกเจ้าพุ่งเข้าสู่สนามรบ ปกป้องบ้านเมืองในตอนนั้น ทว่าตอนนี้กลับหวาดกลัวโรคระบาดจนกลายเป็นทหารหนีทัพ พวกเจ้าไม่รู้สึกผิดต่อรอยแผลเป็นทุกรอยบนตัวบ้างหรือ?”สายตาของพวกผู้ป่วยพากันหันมองเจียงหวานหว่านเป็นจุดเดียว พวกเขาลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยเป็นใคร พวกเขาก็เคยเป็นทหารคนหนึ่ง“ท่านหมอเจียง เจ้ารักษาพวกเราได้จริงหรือ?”ท่ามกลางผู้ป่วย มีคนถามขึ้นอย่างอ่อนแ
ตอนที่หรงมู่หานพบหรงซีก็รู้สึกอึ้งเล็กน้อยเขานึกไม่ถึงว่าหรงซีถูกควบคุมตัวไว้ยังสงบนิ่งอยู่เช่นนี้ได้หรงซีไม่แปลกใจสักนิดกับการมาของพวกเขา ราวกับว่าเขารู้อยู่แล้ว“คารวะท่านอ๋อง”“คารวะเสด็จอา”โจวไท่ฟู่และหรงมู่หานคารวะหรงซีหรงซีหันไปมองโจวไท่ฟู่ “ไท่ฟู่ไม่ต้องพิธีรีตอง เชิญนั่ง”หรงมู่หานยังคงอยู่ในท่าประสานมือคารวะ เมื่อเห็นหรงซีเชิญไท่ฟู่นั่งลงเพียงคนเดียว ทว่าเขายังคงรักษาท่าประสานมือคารวะอยู่เหมือนเดิม ทำให้เขารู้สึกอับอายถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงองค์ชายรองแห่งแคว้นตงหลิง หรงซีกล้าทำกับเขาเช่นนี้ได้อย่างไรเขาเก็บความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้ ใบหน้ายังคงรักษารอยยิ้มสุภาพอบอุ่นหรงซีพูดคุยกับโจวไท่ฟู่สองสามประโยค เมื่อเห็นว่าหรงมู่หานยังคงอยู่ในท่าประสานมือคารวะเหมือนเดิม เขามองด้วยความแปลกใจ“องค์ชายรอง เหตุใดเจ้ายังไม่นั่งลงอีก?”หรงมู่หานยิ้มแห้ง “เสด็จอายังไม่ได้เอ่ยปาก หลานชายไม่กล้านั่ง”หรงซียิ้มไม่สนใจคำพูดแฝงความตำหนิของหรงมู่หาน “องค์ชายรอง นั่งลงเถอะ”โจวไท่ฟู่รอให้หรงมู่หานนั่งเรียบร้อยแล้ว เขาถึงจะบอกเจตนาในการมากับหรงซีเมื่อได้ยินว่านายพลลูกน้องของตัวเองเป
หรงซีตามหาท่านแม่อยู่ตลอด จนกระทั่งตอนนี้เขายังไม่มีเบาะแสแม้แต่น้อย“ท่านอ๋อง ดูออกว่าแม่นางเจียงมีไมตรีให้ท่าน”โจวไท่ฟู่ใช้เวลาที่ว่างอยู่มองหรงซีหรงซีไม่พูดจา เขากำลังตั้งใจดูหมากล้อม“ได้ยินว่าแม่นางเจียงติดตามท่านหญิงหลิงโหรวไปนอกเมือง นึกไม่ถึงว่าจะถูกท่านพามาที่เมืองชิงเหอ เกรงว่าชื่อเสียงของนางจะเสียหายแล้ว”โลกนี้โหดร้ายกับสตรี หากชื่อเสียงด่างพร้อยก็จะเป็นผลเสียต่อสตรีในการแต่งงาน“ท่านหญิงหลิงโหรวอยู่ในเมืองชิงเหอด้วยเช่นกัน”โจวไท่ฟู่นึกไม่ถึงว่าเพื่อชื่อเสียงของเจียงหวานหว่าน หรงซีจะเชิญท่านหญิงหลิงโหรวมาถึงเมืองชิงเหอ“ท่านอ๋องช่างจริงใจ ช่างเป็นสุภาพบุรุษ ช่างองอาจ”หรงมู่หานลงหมากขาวในมือ“ไท่ฟู่ การชมหมากด้วยความเงียบถือว่าเป็นสุภาพบุรุษ”“ฮ่าๆๆ”โจวไท่ฟู่หัวเราะอย่างชอบใจดูเหมือนว่าหรงซีก็ไม่ได้ไม่สนใจแม่นางเจียงทั้งสองคนเล่นหมากล้อมกัน ราวกับความวุ่นวายภายนอกไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาคนที่หรงมู่หานพามากำลังค้นเรือนของหรงซี แต่ล้วนไม่พบสิ่งใดเหตุใดจึงไม่พบสิ่งใดเลย หรงมู่หานไม่เชื่อ เขาเดาว่าหรงซีซ่อนหลักฐานแผนการกบฏไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วเขาสั่งให้คนต