แชร์

บทที่ 100

ผู้แต่ง: เหยียนซี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
แม่นมหวังรีบปลอบใจเฉาหยูเฟิ่ง จากนั้นก็ส่งคนไปเรือนนายท่านเพื่อแจ้งนายท่าน

“แม่นมหวัง เด็กหน้าประตูนำจดหมายมา”

สาวใช้กระซิบกับแม่นมหวัง

แม่นมหวังรับจดหมายมาดู ทันใดนั้นก็ตื่นตระหนก

“ฮูหยิน เกิดเรื่องแล้ว”

เฉาหยูเฟิ่งน้ำตานองหน้าหันมองที่แม่นมหวัง “ตอนนี้ยังมีเรื่องใดสำคัญกว่าอวิ้นเออร์อีก”

แม่นมหวังกล่าวอย่างร้อนใจ “ฮูหยิน นายท่านพี่ส่งคนส่งจดหมายมา”

สายป่านนี้แล้ว ท่านพี่ยังส่งคนมาส่งจดหมาย ต้องเป็นเรื่องเร่งด่วนแน่

นางรับจดหมายจากแม่นมหวัง เมื่อได้อ่านเนื้อหาข้างในจดหมาย เฉาหยูเฟิ่งสบสนจนใจรู้สึกชา

แม่นมหวังร้อนใจเช่นกัน สามีนางตอนนี้ไม่รู้เป็นเช่นไรบ้าง

ความคิดของเฉาหยูเฟิ่งเปลี่ยนไป สายตานางมองไปยังแม่นมหวัง

“แม่นมหวัง หากเรื่องไม่อาจทำให้ทั้งสองฝ่ายพอใจได้ เจ้ารู้ใช่ไหมว่าควรทำเช่นไร?”

แม่นมหวังกำหมัดแน่น “ฮูหยินโปรดวางใจ”

เฉาหยูเฟิ่งกุมมือแม่นมหวังแน่น “แม่นมหวัง ข้าจะดูแลลูกสาวเจ้าให้ดี หาครอบครัวดีๆ คุ้มครองนาง”

แม่นมหวังพยักหน้า ลูกสาวมีสกุลเฉาดูแล นางก็วางใจแล้ว

“ฮูหยิน คุณหนูป่วยอย่างมีลับลมคมใน ได้ยินว่าเจียงหวานหว่านเป็นวิชาแพทย์ เกรงว่าอาการป่วยของคุณหนูต้อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 101

    “เจ้าไม่ต้องแก้ตัวให้เจียงหวานหว่านเลย นับตั้งแต่นางกับสกุลหลิ่วกลับจวน สกุลเจียงของพวกเราก็โชคร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากอาการป่วยของอวิ้นเออร์เกี่ยวข้องกับนาง ข้าจะขับไล่นางออกไปจากจวนสกุลเจียงเป็นแน่”เจียงป๋อเหนียนไม่เพียงแต่ไม่พอใจเจียงหวานหว่านมากเท่านั้น แต่ยังดูถูกเหยียดหยามสกุลหลิ่วอีกด้วย ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งฐานะของเขาในตอนนี้เลยยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว ดังนั้นเจียงป๋อเหนียนจึงหันหลังเดินไปจะคิดบัญชีกับเจียงหวานหว่านและเมื่อเขามาถึงเรือนเหมย ประตูเรือนเหมยปิดสนิทอยู่เจียงป๋อเหนียนเดินไปเคาะประตูประตูเรือนเหมยถูกเปิดออก และใบหน้าของสือหลิ่วก็ปรากฏขึ้นเจียงป๋อเหนียนยกเท้าก้าวเดินเข้าไป แต่สือหลิ่วขวางเขาไว้“คาราวะนายท่าน”เจียงป๋อเหนียนไม่ได้ชายตามองสือหลิ่วเลยแม้แต่น้อยเขาย่ำเท้าจะเดินเข้าไปข้างใน“นายท่าน ฮูหยินกับคุณหนูยังไม่ตื่น นายท่านไปนั่งพักที่ห้องโถงก่อนเถอะขอรับ”สือหลิ่วสงสารฮูหยินและคุณหนูที่ทรมานมาทั้งคืน จึงอยากให้พวกนางได้นอนพักอีกสักหน่อยเจียงป๋อเหนียนกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่งว่า “ไปตามเจียงหวานหว่านมาเดี๋ยวนี้”สือหลิ่วยังไม

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 102

    ณ ศาลาว่าการจิงจ้าวอิ่งในขณะที่เฉาหยูเฟิ่งกับแม่นมหวังยืนอยู่บนแท่นไต่สวนของศาลาว่าการจิงจ้าวอิ่ง ทั้งสองได้สบตากันจี้ฉวนจงจ้องมองเฉาหยูเฟิ่งและแม่นมหวังด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเขาไต่สวนพวกโจรหมู่บ้านเทียนหู่และชุนฮว๋ามันตลอดทั้งคืน“เฉาหยูเฟิ่ง เมื่อคืนหลิ่วซู่ฮูหยินสกุลเจียงถูกลักพาตัว ข้าจับตัวคนร้ายได้แล้วตามคำให้การของคนร้าย ผู้สั่งการคือจางวั่งไฉผู้เป็นสามีของคนสกุลหวัง เจ้าเป็นคนสั่งการอยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้หรือไม่?”เฉาหยูเฟิ่งรีบกล่าวร้องทุกข์ออกมาว่า “นายท่านขอรับ ต่อให้ข้ามีความกล้าหาญมากมายเพียงใด แต่เรื่องเช่นนี้ข้าก็ไม่กล้าทำเป็นอันขาด”จี้ฉวนจงกล่าวด้วยความโกรธว่า “คนสกุลเจียง คนสกุลเฉา เจ้าเพียงตอบมาว่าใช่หรือไม่ใช่ก็พอ ไม่จำเป็นต้องพูดจามากความ”“ตอบนายท่าน ข้าไม่รู้และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย”เฉาหยูเฟิ่งปัดความผิดไปอย่างไร้มลทิน“คนสกุลหวังภรรยาของจางวั่งไฉเป็นคนรับใช้ติดตามเจ้า เจ้ากล้าพูดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้าอย่างนั้นหรือ”จี้ฉวนจงไม่เชื่อคำพูดของเฉาหยูเฟิ่งคนรับใช้จะเอาความกล้ามาจากไหนไปลักพาตัวขุนนาง“ได้โปรดนาย

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 103

    จี้ฉวนจงแอบเย้ยหยันอยู่ในใจ หากไม่เห็นแก่หน้าตาของสกุลเฉา เขาไม่มีทางสนใจเจียงป๋อเหนียนผู้นี้แน่นอน“หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะรออีกสักหน่อย”เจียงป๋อเหนียนเอ่ยปากกล่าวอีกว่า “ท่านจี้ ให้สกุลเฉากลับจวนไปพร้อมกับข้าก่อนได้หรือไม่”จี้ฉวนจงขมวดคิ้วพลางกล่าว “ท่านเจียง หากสกุลเฉาหนี ท่านเจียงต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด”เมื่อเห็นจี้ฉวนจงไม่สบอารมณ์เช่นนี้ เจียงป๋อเหนียนจึงฝืนยิ้มพลางกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “ขอบคุณท่านจี้มากที่เมตตา วันหลังข้าจะมาขอบคุณอย่างเป็นทางการ”จี้ฉวนจงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ท่านเจียงกลับดีๆ ล่ะ ข้าไม่ไปส่ง”เจียงป๋อเหนียนยกมือโค้งคำนับพลางกล่าว “ข้าขอตัวลา”“ท่านเจียง ท่านอ๋องเป็นคนพาฮูหยินเจียงมาร้องความที่จิงจ้าวอิ่งด้วยตัวเอง”เมื่อนึกถึงจวนสกุลเฉาแล้ว จี้ฉวนจงจึงกล่าวเตือนเจียงป๋อเหนียนเล็กน้อย“ขอบคุณท่านจี้ที่เตือนข้า”ในขณะที่กล่าวนั้น เจียงป๋อเหนียนได้ติดตามเจ้าหน้าที่ไปนำตัวเฉาหยูเฟิ่งออกจากจิงจ้าวอิ่งเขาส่งคนไปแจ้งลาในวัง หากเขาไม่จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย เขาจะกลายตัวตลกที่ผู้คนพูดถึงในโรงน้ำชาอีกครั้งเป็นแน่เฉาหยูเฟิ่ง

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่104

    น้ำเสียงของเจียงหวานหว่านเย็นชา ยิ่งทวีความโกรธของเจียงป๋อเหนียนมากยิ่งขึ้นส่วนสกุลหลิ่วนางก็มาเช่นกัน แต่ไม่ได้ปรากฏตัวออกมา ให้ดาวมฤตยูผู้นี้ออกมาเจอเขาเพียงผู้เดียว“หากว่าเจ้ามีเรื่องด่วนก็ไปทำเถอะ พ่อมาหาแม่ของเจ้า”ดวงตาของเจียงหวานหว่านเผยความไม่อดทนออกมา“ท่านพ่อ ท่านแม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพิ่งจะดื่มยาไป นอนแล้วเจ้าค่ะ ท่านพ่อมีเรื่องอันใดก็พูดกับลูกได้ อย่างไรเสีย คำร้องนั่นลูกก็เป็นคนเขียนมันเอง”เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของเจียงป๋อเหนียนพลันเปลี่ยนไปทันที ลูกสาวตัวนี้คนนี้ของเขาเดาถูกแล้วว่าเขามาที่นี่ด้วยเหตุอันใดในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็จะพูดอย่างตรงไปตรงมาเสียเลย“ไปถอนคำร้องซะ หากคนนอกรู้เรื่องนี้เข้าเขาจะเอาไปพูดเป็นเรื่องตลกเอาได้”เจียงหวานหว่านได้ยินเช่นนี้ดวงตาของนางก็เผยความเย็นชาขึ้น“ท่านพ่อ หน้าตาของสกุลเจียงสำคัญไปกว่าชีวิตของท่านแม่อย่างนั้นหรือ?”เพื่อให้เรื่องนี้แก้ไขไปได้ เจียงป๋อเหยียนไม่อาจใช้ไม้แข็งกับเจียงหวานหว่านได้“พ่อไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น หากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสกุลเฉา พ่อไม่มีทางปล่อยนางแน่นอน และไม่ยอมให้แม่ของเจ้าต้อ

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่105

    จี้ฉวนจงหยิบเอาสำนวนคำร้องออกมาหลายแผ่น ก่อนจะกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า“จางเทียน เจ้ายึดครองพื้นที่ภูเขาและตั้งตนเป็นผู้นำ ขายตัวผู้หญิง ต่อมาก็ลักพาตัวฮูหยินเจียง ความผิดเหล่านี้สามารถฆ่าเจ้าได้หลายร้อยหลายพันครั้ง เจ้ายังกล้าบอกว่าตัวเองถูกใส่ร้ายอีกอย่างนั้นหรือ?”จางเทียนเห็นสำนวนคำร้องเหล่านั้นเข้าก็ตื่นตระหนกลุกลี้ลุกลนขึ้น ดวงตาเบิกกว้างมองไปมาด้วยความตกใจชุนฮว๋ามองจางเทียนด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะหัวเราะเสียงดังลั่นออกมา“เจ้าคนสารเลว กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ”จางเทียนจ้องมองชุนฮว๋าด้วยสายตาโหดร้าย เขาแทบอยากหั่นเนื้อชุนฮว๋าออกมาเป็นหมื่นพันชิ้นโยนให้สุนัขกินสายตาของเจียงหวานหว่านมองไปที่หรงซีเขาดูท่าทางเย่อหยิ่ง นัยน์ตาเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจนางไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้เลย เขาดูดีมากจริงๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของเจียงหวานหว่านที่มองไป หรงซีก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ใบหน้าขี้เล่นเจียงหวานหว่านลดสายตาลงเพื่อปกปิดความเขินอายของตนเองส่วนเฉาหยูเฟิ่งเมื่อเห็นพี่ชายตัวเองมาเช่นนี้ นางก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากท่านพ่อต้องเป็นคนส่งท่านพี่มาเป็นแน่ ครอบครัวของนางทำให้

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 106

    เจ้าหน้าที่รับห่อยามาจากมู่เซียง นำไปให้ขุนนางผู้พิสูจน์หลักฐานหลังจากพิสูจน์หลักฐานแล้ว จึงตอบว่า “ท่าน นี่คือยากัดกร่อนหัวใจ หลังจากกินยาตัวนี้ไป จะทำให้หัวใจอ่อนแรงลง ร่างกายก็ยิ่งทรุดโทรมลงเรื่อยๆ ไม่ถึงครึ่งปี หัวใจวายตายได้แน่นอน”เจียงหวานหว่านกำหมัดแน่น หากไม่ใช่เพราะนางตรวจเจอเร็วกว่านี้ ท่านแม่นางคงถูกเฉาหยูเฟิ่งวางยาจนถึงแก่ชีวิตไปแล้วจี้ฉวนจงนึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนใช้วิธีการวางยาพิษเช่นนี้ทำร้ายคนอื่น“สกุลหวัง เจ้าช่างกล้าบังอาจยิ่งนัก นึกไม่ถึงเลยว่าจะวางยาพิษทำร้ายคนอื่นได้เช่นนี้”ในตอนที่มู่เซียงเอาห่อยาออกมา แม่นมหวังเกิดอาการเหม่อลอยเล็กน้อย“ท่าน หลายวันก่อนมู่เซียงทำงานผิดพลาด ข้าน้อยกล่าวตักเตือนสั่งสอนนางเพียงไม่กี่คำ นึกไม่ถึงว่านางแค้นฝังใจ กล้าใส่ร้ายป้ายสีข้าน้อยได้ถึงเพียงนี้ ได้โปรดท่านให้ความเป็นธรรมแก่ข้าน้อยด้วย”แม่นมหวังร้องสะอื้นไห้พลางกล่าว“หยุดเอะอะเสียงดังได้แล้ว”จี้ฉวนจงเคาะโต๊ะกับไม้เคาะอย่างแรงเจียงหวานหว่านเอากระดาษแผ่นหนึ่งและแผ่นเงินออกมายื่นให้จี้ฉวนจง“ท่าน นี่คือบันทึกจากบัญชีตลาดมืดที่ข้าคัดลอกมาได้ ราคายากัดกร่อนหัวใ

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 107

    ภายนอกนางดูสงบนิ่งมาก แต่ในใจแอบภาวนาว่าให้จางวั่งไฉยอมรับผิดเรื่องทั้งหมดจางวั่งไฉถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวซ้ายขวาเดินเข้ามาในห้องโถง กดไหล่เขา บังคับให้เขาคุกเข่าลง“เป็นเขา คนผู้นี้นี่แหละที่ลักพาตัวข้า”หลิ่วซู่ชี้ไปที่จางวั่งไฉ ในใจนางโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่งเจียงหวานหว่านปลอบหลิ่วซู่ ดวงตาจ้องมองจางวั่งไฉราวกับธนู“ท่าน เหตุใดท่านถึงทำเรื่องเช่นนี้ได้ เช่นนี้จะให้ข้ากับลูกทำเช่นไร!”คำพูดของแม่นมหวังบอกเป็นนัยให้จางวั่งไฉรู้ว่าอย่าได้เปิดโปงนาง ทั้งสองมีลูก หากเกิดเรื่องขึ้นกับนางจะไม่มีใครดูแลลูก“จางวั่งไฉ สกุลเฉาของเรามีคนรับใช้จิตใจบ้าคลั่งเช่นนี้ได้อย่างไร ช่างทำให้สกุลเฉาอับอายขายหน้าจริงๆ รีบสังหารเจ้าคนจิตใจบ้าคลั่งผู้นี้เร็วเข้า เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง”เฉาอวี้เจียงเห็นจางวั่งไฉก็ปริปากด่าขึ้นทันทีภายนอกแสดงออกว่ากำลังตำหนิจางวั่งไฉ แต่อันที่จริงแล้วเขากำลังเตือนจางวั่งไฉอยู่ว่าอย่าได้กล่าววาจาเหลวไหลออกมา คำพูดของเฉาอวี้เจียงได้ผล สายตาของจางวั่งไฉเผยความหวาดกลัวออกมา เขากลัวสกุลเฉาอำนาจของสกุลเฉานั้นยิ่งใหญ่นัก หากวันนี้เอาสกุลเฉาเข้ามาเก

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 108

    น้ำเสียงของเจียงหวานหว่านเย็นยะเยือกดุจดั่งน้ำแข็ง“จางวั่งไฉ เงยหน้าขึ้นมามองดูดีๆ สิ เจ้ารู้จักสองแม่ลูกคู่นี้หรือไม่”เมื่อจางวั่งไฉได้ยินคำพูดนี้ของเจียงหวานหว่าน ก็รีบหันไปมองสองแม่ลูกที่กำลังเดินเข้ามาด้านหลังทันที“ท่านพ่อ”เด็กผู้ชายที่ถูกหญิงผู้นั้นจูงมือเรียกขานขึ้น พลางวิ่งเข้าไปหาจางวั่งไฉแต่ก็ถูกหญิงผู้นั้นคว้าตัวห้ามเอาไว้จางวั่งไฉมองไปที่สองแม่ลูกที่ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอย่างกะทันหันเช่นนี้ด้วยสายตาที่ไม่อยากเชื่อหญิงผู้นี้รูปร่างหน้าตางดงามมาก นางเรียกจางวั่งไฉด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “จางหลาง!”แม่นมหวังเห็นเช่นนี้แล้ว มีอันใดไม่เข้าใจอีกเล่า“จาง วั่ง ไฉ!”น้ำเสียงของแม่นมหวังแหลมคมขึ้นอีกทั้งยังเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอีกด้วย“เงียบ!”จี้ฉวนจงเคาะไม้อย่างแรงพลางตะโกนเตือนขึ้นเจียงหวานหว่านเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของแม่นมหวังก็รู้สึกสะใจเป็นอย่างยิ่งก่อนหน้านี้จางวั่งไฉได้มีลูกนอกสมรสและแอบเลี้ยงดูอยู่ข้างนอกเพื่อไม่ให้แม่นมหวังรู้เรื่องนี้ เขาทุ่มเทไปไม่น้อยและพยายามอย่างมากเพื่อเลี้ยงดูอนุภรรยาและลูกอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ข้างๆ เมืองหลวง

บทล่าสุด

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 210

    เจียงหวานหว่านตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองชาติก่อน หรงมู่หานขังนางเอาไว้ในห้องลับ ยังมีสตรีอีกนางหนึ่งอยู่ด้วยตอนที่นางถูกจับเข้าไป สตรีนางนั้นก็ถูกนำตัวออกไปสตรีนางนั้นหายใจโรยรินตอนที่หิ้วสตรีนางนั้นออกไป นางได้เห็นใบหน้าสตรีนางนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจตอนนั้นคิดว่าสตรีนางนั้นหน้าตาคุ้นตามากเมื่อรวมกับใบหน้าของหรงซี สตรีนางนั้นและหรงซีมีความคล้ายกันอยู่แปดส่วนคงเป็นเสด็จแม่ของหรงซีซ่างกวนเสวี่ยเจียงหวานหว่านมองหรงซีด้วยสายตาสับสนนางรู้แล้ว เป็นความลับที่ชาติก่อนนางกับหรงซีไม่ล่วงรู้นางคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับหรงซีเช่นไรหรงซีเห็นสีหน้าเจียงหวานหว่านก็คิดว่านางต้องรู้เรื่องบางอย่าง“เจ้ารู้จักเสด็จแม่ข้า?”หรงซีกล่าวประโยคนี้ออกมาสัญชาตญาณเขาบอกเขาว่าเจียงหวานหว่านเคยพบเสด็จแม่ของเขาเจียงหวานหว่านสับสนในใจห้องลับอยู่ในห้องอักษรของฝ่าบาทหากสตรีนางนั้นเป็นเสด็จแม่ของหรงซีจริงเช่นนั้นใครเป็นผู้บงการเรื่องการหายตัวของเสด็จแม่หรงซี ก็ไม่ต้องคาดเดาแล้วเป็นฝ่าบาทองค์ปัจจุบันฝ่าบาทมีประสงค์ใดจึงได้กักขังเสด็จแม่ของหรงซีเอาไว้ในห้องลับหรือเพื่อควบคุมอำนาจทหารในมือหรง

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 209

    “เจียงหวานหว่าน เจ้าเคยทำอาหารให้เซียวหวายกินหรือไม่?”เจียงหวานหว่านยิ้ม “นอกจากท่านแม่และสือหลิ่วแล้ว ข้าเคยทำอาหารให้ท่านอ๋องแค่คนเดียว”หรงซีพอใจกับคำตอบของเจียงหวานหว่านมาก“ต่อไปทำอาหารให้ข้ากินได้คนเดียวเท่านั้น”เจียงหวานหว่านคิดสักพัก “ได้”หรงซีพอใจมากเมื่อเห็นคราบโจ๊กที่มุมปากนางหรงซีใช้นิ้วหัวแม่มือเช็ดให้ ทำเอาเจียงหวานหว่านเขินจนหน้าแดง“ท่านอ๋อง มือท่านไม่มีแรงไม่ใช่หรือ?”เจียงหวานหว่านถามอย่างรู้ทัน“อืม”หรงซีหน้าไม่แดง ใจไม่เต้นเร็วเจียงหวานหว่านเบะปาก หรงซีกำลังโกหกชัดๆแต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่หรงซีถูกพิษเพราะขนมของนาง นางก็ยอมให้ความร่วมมือกับเขา“ท่านอ๋องต้องกินให้มากหน่อย ไม่แน่พรุ่งนี้ก็อาจลุกจากเตียงได้แล้ว”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยความหงุดหงิด“ยาพิษกลืนวิญญาณ จะหายเร็วเพียงนั้นได้เช่นไร”“ตุบ”ชามในมือเจียงหวานหว่านร่วงลงพื้น“ท่านถูกยาพิษกลืนวิญญาณ?”ผู้ถูกยาพิษกลืนวิญญาณจะต้องตายภายในสามวันนางจับมือของหรงซีแล้ววางนิ้วมือตัวเองทาบลงไปหรงซีเห็นท่าทางร้อนใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นในใจ“ชีพจรท่านอ๋องได้รับความเสียหาย ยังดีที่ยายใบ้อยู่ด้วย

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 208

    เจียงหวานหว่านส่ายหน้า นางไม่ได้วางยาหรงซี“ปล่อยนาง”หรงซีได้ยินเสียงจึงเอ่ยปาก“ท่านอ๋อง พิษถอนหมดแล้ว พักผ่อนมากๆ”หญิงชรานั่งอยู่ข้างเตียงหรงซีกล่าวเสียงทุ้มต่ำ“ขอบคุณมากยายเฒ่า”หรงซีกล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรงหญิงชราลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปตอนที่เจียงหวานหว่านได้เห็นใบหน้าหญิงชราก็ใจกระตุกหญิงชราก็คือยายใบ้ อาจารย์ของซิ่วกู่“เทียนซู เจ้าก็ออกไปด้วย”“ท่านอ๋อง แต่ว่า...”เทียนซูไม่ไว้ใจกลัวว่าเจียงหวานหว่านจะคิดร้ายต่อท่านอ๋อง“ออกไป...”แม้เสียงของหรงซีจะอ่อนแรง แต่น้ำเสียงนั้นก็เกินพอแล้วเทียนซูมองเจียงหวานหว่านด้วยสายตาเตือน จากนั้นก็ออกจากห้องไปเจียงหวานหว่านเห็นหรงซีใบหน้าซีดขาว นางไม่กล้าเข้าไปหานางนึกถึงฉากที่หรงซีตายเพื่อนางในชาติที่แล้วขึ้นมา“เข้ามา”หรงซีขมวดคิ้วเจียงหวานหว่านน้ำตาตก เดินเข้าไปหาหรงซี“เจียงหวานหว่าน เป็นโชคดีของเจ้าที่ข้ายังไม่ตาย”หรงซีมองเจียงหวานหว่านที่กำลังตื่นตระหนกทำสิ่งใดไม่ถูกเขาถูกพิษหลังจากที่กินขนมของเจียงหวานหว่านแต่เขาไม่สงสัยในตัวเจียงหวานหว่านสักนิด“ท่านอ๋อง ข้าไม่รู้เหตุใด...”“เจ้าไม่ใช่คนวางยา ข้ารู้”

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 207

    “ไอ้หยา”เจียงจิ่นเซวียนแกล้งทำเงินตกพื้นอย่างไม่ตั้งใจสือหลิ่วเห็นดังนั้นก็วางกล่องอาหารลงและวิ่งไปเก็บเศษเงินที่ตกกระจายอยู่ทั่วพื้นเจียงจิ่นเซวียนค่อยๆ ขยับและเปิดกล่องอาหารอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็โรยผงบางอย่างลงไปสือหลิ่วเก็บเศษเงินกลับมาหมดแล้ว เจียงจิ่นเซวียนกล่าวขอโทษ “แม่นางสือหลิ่วลำบากแล้ว”“ไม่เป็นไร คุณชายสี่ ข้าไปก่อนเจ้าค่ะ”สือหลิ่วหยิบกล่องอาหารขึ้นมาแล้วบอกลาเจียงจิ่นเซวียนเจียงจิ่งเซวียนกล่าวอย่างนุ่มนวล “แม่นางสือหลิ่วเดินทางระวังด้วย”“เจ้าค่ะ”สือหลิ่วรู้สึกเขินอายหลังจากพยักหน้าให้เจียงจิ่นเซวียนแล้ว นางก็เดินทางไปจวนอ๋องในมุมที่สือหลิ่วมองไม่เห็น เจียงจิ่นเซวียนยิ้มเยาะเย็นชานี่คือบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาให้เจียงหวานหว่านสือหลิ่วไม่สงสัยสักนิด นางเดินถือกล่องอาหารมาถึงจวนอ๋องหลังส่งกล่องอาหารเรียบร้อย นางไปร้านหนังสือเพื่อซื้อกระดาษให้เจียงจิ่นเซวียนซื้อกระดาษเสร็จแล้ว สือหลิ่วกลับถึงจวนและนำกระดาษไปส่งให้เจียงจิ่นเซวียน“แม่นางสือหลิ่ว เรื่องซื้อกระดาษในวันนี้ ไม่ต้องบอกน้องหก นางไม่ชอบให้ข้าเข้าใกล้คนเรือนเหมย หากนางรู้ว่าข้าเรียกใช้คนข

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 206

    เจียงหวานหว่านมองดูรถม้าจวนอ๋องจากไปรถม้าจวนอ๋องไปไกลแล้ว เจียงหวานหว่านเก็บสายตากลับมาและเดินเข้าจวนไป“น้องหก รอก่อน”เจียงจิ่นเซวียนเรียกเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหยุดเดินแล้วถามเสียงเย็น “มีเรื่องใด?”“น้องหก ได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋อง เป็นวาสนาของเจ้านัก ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำให้ท่านอ๋องโกรธจนลากคนในจวนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”เจียงจิ่นเซวียนเดินมาข้างกายเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านหงุดหงิด เจียงจิ่นเซวียนไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปจริงด้วย คอยแต่จะหาโอกาสถากถางนางน้ำเสียงดูแคลนหาว่านางไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง ช่างเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนางจริงๆ“พี่สี่คอยปรนนิบัติรัชทายาทมาตั้งหลายปี การประจบสอพลอคงเป็นสิ่งที่พี่สี่ถนัดนัก หน้าไหว้หลังหลอกเป็นความสามารถโดดเด่นของพี่สี่ พี่สี่ใช้ชีวิตได้อย่างหน้าซื่อใจคดจริงๆ”รอยยิ้มจอมปลอมของเจียงจิ่นเซวียนเลือนหายไปเขานึกไม่ถึงว่าเจียงหวานหว่านจะด่าเขาไม่ไว้หน้าสักนิดเจียงหวานหว่านไม่มองเจียงจิ่นเซวียนแม้แต่น้อย นางเดินเข้าไปในประตูจวนหากอยู่นานกว่านี้หน่อยนางยิ่งรู้สึกขยะแขยง เจียงจิ่นเซวียนน่ารังเกียจกว่าเจียงจิ่นหนิงเสียอีกเจียงจิ่น

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 205

    นางเปิดผ้าม่านเตรียมตัวลงรถม้าทันใดก็ถูกแรงกระชากนางกลับเข้ามาในรถม้าเจียงหวานหว่านจมเข้าสู่อ้อมกอดหรงซีกลิ่นหอมอำพันทะเลลอยเข้าจมูกนางหรงซีกุ้มหน้ามองเจียงหวานหว่านไม่พูดไม่จาเจียงหวานหว่านคิดจะลุกขึ้นกลับถูกหรงซีกอดเอาไว้แน่นคนสองคนจ้องตากันและกัน ไม่มีใครพูดจา“เหตุใดรถม้าจวนอ๋องถึงจอดอยู่ตรงนี้?”เจียงจิ่นเซวียนกลับมาถึงจวนพอดีและเห็นรถม้าจวนอ๋องจอดอยู่หน้าบ้านของตนเจียงหวานหว่านได้ยินเสียงเจียงจิ่นเซวียน ดวงตาก็กลับมาแจ่งชัดอีกครั้ง“ท่านอ๋อง พี่สี่ข้าอยู่ข้างนอก รีบปล่อยข้า”หรงซียิ้มเย็น “ข้าต้องกลัวเขาด้วย?”เจียงหวานหว่านกัดฟัน “ท่านอ๋องไม่กลัว แต่ชื่อเสียงข้าไม่เหลือแล้ว วันหน้าหากแต่งงานก็จะถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์เอาได้”“เจ้าคิดจะแต่งกับใคร? กู้ฉางชิง? หรือเซียวหวาย?”เจียงหวานหว่านประหลาดใจ นางแต่งงานเกี่ยวข้องอันใดกับพวกเขาฝีเท้าของเจียงจิ่นเซวียนเดินเข้ามาใกล้เจียงหวานหว่านกดร่างต่ำลงแล้วกล่าวอย่างออดอ้อน “ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ”หรงซีได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเจียงหวานหว่าน ความโมโหในใจลดไปไม่น้อย“เจียงหวานหว่าน เจ้าติดค้างข้า ครั้งหน้าข้าไม่ปล่อ

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 204

    เจียงหวานหว่านได้ฟังคำพูดของหรงซีก็หันไปยิ้มให้เซียวหวายอย่างจนปัญญา“เซียวหวาย ขอโทษด้วย พรุ่งนี้ข้าจะไปพบเจ้า”เซียวหวายยิ้มแย้ม “แม่นางเจียง พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้า”“ก็ดี...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบประโยค เจียงหวานหว่านรู้สึกว่าตัวเองถูกจับข้อมือเอาไว้ไม่รู้ว่าหรงซีลงมาจากรถม้าตั้งแต่เมื่อใดเขาสีหน้าบึ้งตึง ดึงข้อมือเจียงหวานหว่าน ลากนางขึ้นรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง โปรดปล่อยแม่นางเจียงด้วย”เซียวหวายเห็นเจียงหวานหว่านถูกหรงซีผลักขึ้นรถม้า เขาจึงตามไปขวางแต่ถูกเทียนซูขวางเอาไว้ เซียวหวายผลักเทียนซู ทว่าเทียนซูไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยหรงซีทำเหมือนไม่ได้ยินเซียวหวายโกรธเจียงหวานหว่านหันหน้ามากล่าวกลับเซียวหวายที่อยู่ด้านหลัง“คุณชายเซียว ข้าไปก่อนนะ”มือของหรงซีดึงศีรษะเจียงหวานหว่านเข้าไปในรถม้าเซียวหวายนั่งอยู่บนรถม้าสกุลเซียว กำลังตามท้ายรถม้าจวนอ๋อง“ท่านอ๋อง รถม้าของคุณชายเซียวตามอยู่ด้านหลัง”เทียนซูที่อยู่ด้านนอกกล่าวรายงานหรงซี“สะกดรอยตามราชวงศ์ มีเจตนาไม่ดี เทียนซู ส่งคุณชายเซียวไปยังสถานที่ที่เขาควรไป”เทียนซูลังเล“ท่านอ๋อง คุณชายเซียวเป็นน้องชายเซียวกุ้ย

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 203

    เซียวกุ้ยเฟยยิ้มอย่างอบอุ่น“ฝีมือของอ้ายเฟย ข้าชอบยิ่งนัก”ฝ่าบาทตรัสด้วยถ้อยคำสองแง่สองง่ามเซียวกุ้ยเฟยหุบตาลงด้วยความเขินอาย จากนั้นก็พยุงฝ่าบาทเดินไปด้วยกันรอจนกระทั่งไม่เห็นเงาฝ่าบาทแล้วหรงซีสีหน้าเย็นชา ดวงตาเย็นชายิ่งกว่า จับจ้องมองหรงมู่หานหรงมู่หานรับรู้ถึงความโกรธท่วมท้นของหรงซี“เสด็จอา หลานขอตัวก่อน”ระหว่างที่กล่าว สายตาเขาเหล่มองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านกรอกตาบนใส่หรงมู่หานนัยน์ตาหรงซีใกล้ระเบิดแล้วเขาขยับข้อมือก้อนเงินถูกดีดออกไปดีดโดนบริเวณกระดูกขาของหรงมู่หาน“เอื้อ...”หรงมู่หานรู้สึกถึงกระแทกที่ขาความเจ็บปวดจู่โจมกะทันหัน ทำให้เขาทรุดเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเจียงหวานหว่าน”“องค์ชายรอง รู้ว่าผิดรู้จักแก้ไข เป็นสิ่งที่ดียิ่ง แต่ไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองเช่นนี้”เจียงหวานหว่านกล่าวด้วยท่าทางใจกว้าง“เจ้า พวกเจ้า...”หรงซีและเจียงหวานหว่านเดินเคียงข้างกันจากไปโดยไม่สนใจหรงมู่หานหรงมู่หานรู้ว่าเป็นฝีมือหรงซีความรู้สึกอัปยศอดสูพุ่งเข้าสู่หน้าอกใบหน้าของเขาถูกหรงซีกับเจียงหวานหว่านทำลายจนป่นปี้หรงมู่หานมองแผ่นหลังทั้งสองคนแล้วสาบานกับตัวเอง

  • บุตรสาวขาโหดกลับมาหลังตายอนาถ   บทที่ 202

    วิชาการแพทย์ของเจียงหวานหวานล้ำเลิศ พิษในร่างกายของน้องชายจะกำจัดไปได้เมื่อใดก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว เขาต้องวางแผนเอาไว้“น้องชาย ช่วงนี้สุขภาพเจ้าดีหรือไม่ เจ้าไม่ได้ไปให้หมอหลวงตรวจนานแล้ว”หรงซีหุบสายตาลง จากนั้นก็ประสานมือ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงนึกถึง ช่วงนี้น้องชายสุขภาพไม่ดี วันนี้จะไปให้หมอหลวงตรวจอาการ”ฝ่าบาทเมื่อได้รับฟังก็เบาพระทัยลงมากพิษในตัวน้องชายถูกถอนไปแล้วหรือไม่ ถามหมอหลวงก็รู้แล้วฝ่าบาทหรี่พระเนตร มีแผนการในพระทัยแค่หมอหลวงจับชีพจรก็จะรู้ว่าหรงซีถอนพิษไปแล้วหรือไม่“แม่นางเจียง โรคของหรงซี เจ้ามีวิธีรักษาหรือไม่?”ฝ่าบาททอดพระเนตรเจียงหวานหว่าน“ฝ่าบาท แม่นางเจียงก็รักษาโรคของข้าไม่หายเช่นกัน”หรงซีกล่าวประโยคหนึ่งเจียงหวานหว่านรู้สึกว่าหรงซีประหลาดมาก เหตุใดกล่าวเช่นนั้นทว่าเมื่อเห็นสายพระเนตรฝ่าบาท นางเข้าใจทันทีฝ่าบาทต้องการให้หรงซีประคองความมั่นคงของแคว้น เขาไม่มีทางเปิดโอกาสให้หรงซีได้ครองบัลลังก์ในสมองเจียงหวานหว่านผุดความคิดหนึ่งขึ้นมาพิษหนอนกู่ในร่างกายหรงซีเป็นของฝ่าบาทจังหวะหัวใจนางเต้นเร็วขึ้น หากเป็นเช่นนี้ หรงซีก็จะถูกฝ่าบาทควบคุม

DMCA.com Protection Status