ว่าไงนะ? เสวียนอ๋องคัดเลือกพระชายา แต่กลับให้พระชายาหลีอ๋องเป็นคนจัดการเนี่ยนะ?นี่ ช่างเป็นเรื่องประหลาดอย่างไม่เคยพบเจอ! เหลวไหลเกินไปแล้ว!อย่าว่าแต่พระสนมหรงจะโมโหจนหน้าเขียวเลย ขนาดไทเฮาก็ยังตกใจจนหน้าเหวอนี่ ออกจะเกินจินตนาการของคนปกติทั่วไปแล้วทุกคนหันไปมองกู้อวิ๋นซีอย่างตกตะลึง แทบจะลืมสิ้นแล้วทุกอย่างส่วนกู้อวิ๋นซี...อย่าพูดถึงเลย น้ำผลไม่ที่ดื่มเข้าไปในปากติดคอจนไอสำลักออกมาอย่างแรงทันที"ซีเออร์ เจ้าเป็นอะไรมากไหม?" ไทเฮาแสดงสีหน้าเป็นกังวลกู้อวิ๋นซีก็อยากที่จะพูดปลอบใจสักประโยคว่านางไม่เป็นไร แต่แค่อ้าปาก ก็กลายเป็นไออย่างหนัก "แค่ก แค่กๆๆ..."ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ สำลักจนแดงก่ำไปทั้งหน้าจวินเย่เสวียนขมวดคิ้วน้อยๆ ยกมือขึ้นฉับพลัน ฝ่ามือใหญ่ก็ตบลงไปเบาๆ บนหลังของนางบริเวณโดยรอบ เงียบเป็นเป่าสากไปชั่วขณะหนึ่งแต่ละคนจ้องมองไปที่แขนยาวของจวินเย่เสวียนที่อยู่บนหลังของกู้อวิ๋นซี ด้วยอาการตกใจจนตาค้าง!นางเป็นพระชายาของหลีอ๋องนะ! เป็นน้องสะใภ้ของเขา!ต่อให้ไม่ว่าจะเอ็นดูแค่ไหน ก็ไม่ควรมีกริยาอาจหาญเช่นนี้!การกระทำนี้ ออกจะดูสนิทสนมกันเกินไปแล้ว!มันออกจะเกิน
ไทเฮาเป็นเสด็จย่าของหลีอ๋องเป็นพระมารดาของฝ่าบาทพระชายาหลีอ๋องขอร้องให้ไทเฮาประทานหนังสือหย่าให้นางฉบับหนึ่ง ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ค่อยถูกต้องตามธรรมเนียม แต่ขอเพียงไทเฮาตอบตกลง ต่อให้เรื่องราวระหว่างทางจะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็จะสามารถทำได้สำเร็จในเมื่อเรื่องแบบนี้มันไม่ได้เป็นปัญหาที่มีกฎที่ตายตัว ขนาดฝ่าบาทเองก็ยังต้องฟังไทเฮาแต่ว่า ทำไมกู้อวิ๋นซีจะต้องหย่ากับหลีอ๋องด้วยล่ะ?หรือว่า นางรังเกียจที่หลีอ๋องร่างกายไม่แข็งแรง?แต่ต่อให้ร่างกายไม่แข็งแรง เขาก็เป็นถึงหลีอ๋องนะ!เป็นอ๋องแห่งแคว้น ฐานะสูงส่งไม่มีใครเทียบ หากว่าหย่าไปแล้ว ตลอดชีวิตของกู้อวิ๋นซีก็จะไม่สามารถแต่งงานใหม่กับผู้ชายคนไหนได้อีกชาตินี้ทั้งชาติ นางจะต้องโดดเดี่ยวไปจนแก่ตาย!นางเสียสติไปแล้วหรือยังไง?พระสนมหรงเองก็คิดไม่ถึงเลย ผู้หญิงคนนี้ กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?หรือนางยังหวังว่า หลังจากหย่ากับหลีเออร์แล้ว จะแต่งงานกับเสวียนเออร์ เป็นพระชายาเสวียนอ๋อง?นางฝันหวานเกินไปแล้ว!ต่อให้นางต้องตาย ก็จะไม่มีวันยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด!"กู้...""เจ้าเห็นจวนเสวียนอ๋องของข้าเป็นสถานที่ใดกัน?"
กู้อวิ๋นซีถูกโยนตัวลงบนเตียงนี่เป็นครั้งแรกที่จวินเย่เสวียนโยนตัวนางลงบนเตียงของตัวเอง ด้วยฐานะที่แท้จริงของตัวเองอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้กู้อวิ๋นซีเพิ่งคิดว่าจะลุกขึ้นนั่ง ร่างกายสูงใหญ่ของเขาก็ทาบทับตามลงมาอย่างรุนแรง ปิดช่องทางหนีทั้งหมดของนางไปเรียบร้อยนางพูดอย่างโมโห "เสวียนอ๋อง ท่านคิดว่าตอนนี้ท่านมาใกล้ชิดกับข้าถึงเพียงนี้ด้วยฐานะอะไร?""เจ้าว่ายังไงล่ะ" ทันใดนั้นจวินเย่เสวียนก็โน้มตัวไปข้างหน้าอีกกู้อวิ๋นซีตกใจกลัว คิดที่จะถอยหลังหนีแต่กลับถูกเขาบังคับให้ล้มลงบนเตียงในทันทีเมื่อนางพบว่าท่าทางในตอนนี้ช่างล่อแหลมเหลือเกิน ตอนที่คิดจะลุกขึ้นมา ก็ไม่ทันเสียแล้วฝ่ามือใหญ่ของเขาแตะลงบนหัวไหล่ของนาง ไม่จำเป็นต้องออกแรงอะไรเลย ก็สามารถขังนางไว้ใต้ร่างของตัวเองได้แล้ว"เสวียนอ๋อง เสด็จแม่ของท่านยังอยู่ด้านนอกนะ ท่านได้ยินเสียงเรียกของนางแล้วหรือยัง?"นางพยายามดิ้นรนอย่างสุดแรงด้านนอก มีเสียงร้องเรียกของพระสนมหรงดังเข้ามาจริงๆ "เสวียนเออร์ เจ้า...เจ้าจะบังอาจเกินไปแล้ว! นางเป็นพระชายาของน้องชายเจ้านะ!"น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยไฟแห่งโทสะ พอเพียงไม่ใช่คนหูหนวก ก็ต้องฟังออกกัน
"อย่าทำแบบนี้!"กู้อวิ๋นซีออกแรงขัดขืน แต่อย่างไรก็ไม่อาจหลุดจากการพันธนาการที่มือไปได้ราวกับในคืนแต่งงาน มือสองข้างของนางถูกผ้าม่านมัดไว้กับเสาไม้ ไม่อาจสลัดให้หลุดได้ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังของตัวนางกู้อวิ๋นซีมองเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัด แต่ต่อให้ไม่มอง ก็รู้ว่าตอนนี้เขามีท่าทางอย่างไร"อย่าทำแบบนี้..." นางกัดริมฝีปาก ริมฝีปากบางกำลังสั่นไหวน้อยๆ "อย่าทำแบบนี้เลย ขอร้องล่ะ"พระสนมหรงกับแม่เฒ่าชิงและเยียนเป่ยต่างก็อยู่ด้านนอกประตูทำไมเขาถึงได้ทำแบบนี้กับนางในช่วงเวลาแบบนี้ ในสถานที่นี้ ด้วยสถานะเช่นนี้!"ขอร้องข้าเหรอ?" จวินเย่เสวียนก้มหน้า ริมฝีปากบางเฉียดผ่านหัวไหล่บอบบางของนางไปพลังไอเย็นจัดจนสามารถเสียดแทงเข้าถึงกระดูกได้ เย็นจนกู้อวิ๋นซีอดที่จะตัวสั่นเทิ้มไม่ได้ร่างกายเย็นวาบ นางไม่กล้าแม้แต่จะก้มหน้าลงไปมองเสื้อผ้าถูกถอดลงไปกองตรงช่วงเอว ผ้าชิ้นสุดท้ายบนร่างกายก็ถูกเขาดึงทึ้งออกไปแล้วกู้อวิ๋นซีหลับตาลง พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ขอร้องล่ะ ข้าขอร้องท่าน อย่าทำแบบนี้เลย อื้อ!"หน้าอกถูกบีบรัด นางตกใจจนเบิกตาโพลง คิดอยากที่จะขัดขืน แต่ก็ไม่กล้าขยับเยอะ"จวินเย่เสวี
จวินเย่เสวียนโบกมือหนึ่งทีปึก ผ้าม่านที่มัดมือทั้งสองข้างของกู้อวิ๋นซี ขาดออกไปตามเสียงกู้อวิ๋นซีตัวอ่อนไปทั้งร่าง จนเกือบจะล้มร่วงลงไปบนพื้นเขาเพียงแค่ยกมือขึ้นมาเฉยๆ กู้อวิ๋นซีก็ถูกเขาหยิบตัวขึ้นมาแล้ว โยนลงไปบนเตียงนางตกใจจนรีบจัดแจงใส่เสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยกว่าที่จะใส่เสื้อผ้าได้ ไม่ง่ายเลย เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไป ก็ไม่เห็นเงาร่างของจวินเย่เสวียนอยู่ในห้องแล้วจวินฉู่หลียืนอยู่ข้างประตู ไม่กล้าหันหน้ากลับมามองนาง กลัวว่าสายตาของเขาจะสร้างความเสื่อมเสียให้กับตัวนางแต่นาง ไม่บริสุทธิ์มาตั้งนางแล้ว"ซีเออร์..." เมื่อไม่ได้ยินเสียงสวมใส่เสื้อผ้าของหญิงสาวบนเตียง จวินฉู่หลีจึงลองถามออกไป "เจ้า...เสร็จแล้วหรือยัง?"กู้อวิ๋นซีไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไรเสื้อผ้าสวมใส่เสร็จแล้ว แต่ความรู้สึกของร่างกายมันยังไม่สงบลงราวกับว่า...ราวกับคนสารเลวนั่นยังคงอยู่ในร่างกายของนางอย่างนั้น หว่างขาสองข้าง ยังคงรู้สึกเจ็บปวดอย่างทรมานในที่สุดจวินฉู่หลีก็หันกลับมา มองนางหนึ่งทีเมื่อมั่นใจแล้วว่านางสวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย เขาถึงได้หมุนตัวเดินมาหยุดที่ข้างเตียงบนใบหน้าของนาง
สองพี่น้องนี่ เสียสติกันไปหมดแล้ว!กู้อวิ๋นซีพยายามดึงมือของตัวเองกลับอย่างสุดแรง แล้วหันไปมองค้อนผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเตียง"ข้าไม่ใช่ภรรยาของเจ้า!"จวินฉู่หลีไม่ได้โกรธ แต่กลับยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนมากขึ้นอีก "คนทั่วทั้งแผ่นดินต่างรู้กันว่าเจ้าคือภรรยาของข้านะ!""ข้าไม่ใช่!" คนที่แต่งงานกับนาง อีกทั้งผู้ชายที่เข้าหอกับนางคือจวินเย่เสวียน ไม่ใช่เขา!"คืนนี้เจ้าเองก็ได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว เขากับข้าได้..."กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปาก หลังจากที่สีหน้าขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อน้อยๆ แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นสีขาวซีดอย่างรวดเร็ว"เจ้าเองก็ได้เห็นแล้ว ยังจะทนได้อีกอย่างไร? หากว่าเจ้ายังสามารถทนได้อีก เจ้ายังนับเป็นผู้ชายได้อีกหรือ?"นางจ้องมองไปที่จวินฉู่หลี พยายามจะสงบอารมณ์ตัวเองให้ได้มากที่สุด "จวินฉู่หลี หากว่าเจ้ายังเป็นผู้ชาย ตอนนี้ก็จงมอบหนังสือหย่ามาให้ข้าซะ ไล่ข้าออกไปจากจวนอ๋องเลย!""เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ ข้าเป็นคนทำให้มันเกิดขึ้นมาเองกับมือ หากว่ามีความผิด นั่นก็ล้วนเป็นความผิดของข้าทั้งหมด เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย"รอยยิ้มของจวินฉู่หลี อบอุ่น อ่อนโยน เสมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิเสมอ
กู้อวิ๋นซีอยากจะพูดกลับไปมากว่าตัวเองไม่ใช่ภรรยาของเขาแต่นางรู้ว่าปัญหานี้เขาไม่เคยให้ความสำคัญเลยขาของนางยังคงรู้สึกไม่สบายอยู่ เมื่อกี้ มันเจ็บมากจริงๆตอนที่ถูกจวินฉู่หลีอุ้มกลับไป ตลอดทาง ลมเย็นๆ ยามค่ำคืนพัดเข้ามาโดนตัวเขามองดูเขาที่สวมชุดคลุมยาวสีขาวทั้งตัว ชายผ้าพลิ้วไหว ทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาดหากไม่ใช่จวินเย่เสวียนเข้ามาวุ่นวาย ตอนนี้บางทีนางอาจจะเป็นภรรยาของเขาจริงๆ แล้วก็ได้ด้วยนิสัยของจวินฉู่หลี ชีวิตหลังแต่งงานของพวกเขา น่าจะอบอุ่นและสมบูรณ์แบบมากแน่เหตุใดจวินเย่เสวียนถึงได้ร้ายกาจเช่นนี้นะ?เหตุใดจะต้องทำลายทุกอย่างนี้?เหตุใดในเมื่อเขาใจโหดเพียงนี้ ชั่วร้ายเพียงนี้ แต่จนถึงตอนนี้นางก็ยังไม่อาจเกลียดเขาได้เลยจริงๆ?จวินฉู่หลีเดินช้ามาก ราวกับไม่อยากให้สิ้นสุดทางเดินนี้อย่างนั้นตอนแรกกู้อวิ๋นซียังกลัวว่าเขาจะเหนื่อยที่อุ้มนาง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตลอดทางที่เดินมานี้ ฝีเท้าของเขายังเดินอย่างมั่นคง ลมหายในสม่ำเสมอไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิดแต่ถึงจะไม่อยากให้เดินจนจบเส้นทางนี้อย่างไร สุดท้ายก็ต้องสิ้นสุดในที่สุดจวินฉู่หลีก็อุ้มนางกลับมาจนถึงหอหนิงซ
เมื่อเห็นว่านางตั้งป้อมเพียงนี้ ท่าทางแบบนี้ ทำให้จวินฉู่หลีรู้สึกขำขันรอยยิ้มตรงมุมปากของจวินฉู่หลีชัดขึ้น อบอุ่นยิ่งขึ้น "อย่ากลัวข้าเลย ข้าไม่มีทางทำร้ายเจ้าเด็ดขาด"ถึงแม้ คืนนี้จะผ่านประสบการณ์ "ได้ประจักษ์กับสายตาตัวเอง" มาแล้ว ในใจของเขาคล้ายกับว่าจะมีสัตว์ร้ายตัวน้อยๆ เกิดขึ้นมาแต่เขา ไม่มีทาง!อย่างน้อยเขาก็จะพยายามห้ามใจตัวเองไว้!กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปากล่าง แล้วลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ"นอนเถอะ" จวินฉู่หลีดึงผ้าห่มขึ้นให้นางอีกครั้ง"ต่อไป...เจ้าก็สามารถหยุดเขาไว้ได้ใช่ไหม" ตอนนี้นางยังคิดหาวิธีที่จะออกจากที่นี่ไม่ได้เลยคำขู่ของจวินเย่เสวียน ราวกับยังคงดังก้องอยู่ข้างหูคิดจะไปจากจวนเสวียนอ๋อง นอกจากว่า เจ้าจะข้ามศพข้าไปก่อนคนสารเลวนั่น ไม่เคยพูดล้อเล่น!ในตอนนี้กู้อวิ๋นซีรู้สึกอับจนหนทางกับอนาคตของตัวเองเหลือเกินแต่อย่างน้อย อย่าให้คนสารเลวนั่นมาทำเรื่องอย่างว่ากับนางก่อนที่นางจะหาวิธีออกไปจากจวนเสวียนอ๋องได้หรือไม่?นางกลัวมากจริงๆ...ใครจะไปคิดว่าจวินฉู่หลีที่รักและอบอุ่นกับนางเสมอจะส่ายหน้าออกมา "ขอโทษที่ข้า...ไม่สามารถทำได้""เจ้าบอกว่าข้าเป็นภรรยาของเจ้าน
"ท่านอ๋อง ข้าต้องการยาเล็กน้อย อีกทั้งเหล้ากาหนึ่ง" กู้หรูชิวกล่าวจวินเย่เสวียนโบกมือหนึ่งที ความจริงเยียนเป่ยไม่ยินยอม แต่สุดท้ายเขาก็ไปเตรียมของมาให้กู้หรูชิวอย่างรวดเร็วกู้หรูชิวเดินไปอยู่ตรงหน้าของหลานโจว พูดอย่างอ่อนโยนว่า "คุณชายท่านนี้ ขออภัยด้วย"ที่ขมับของหลานโจวมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาเยี่ยนอีกำมือแน่น แต่ก็ได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่ได้พูดอะไรเยียนเป่ยร้อนใจ "ท่านอ๋อง หลานโจวติดตามข้างกายท่านมาสิบกว่า สิบกว่าปี เขา..."จวินเย่เสวียนไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองด้วยสายตาเย็นชากู้หรูชิวบดยาหลายชนิดให้กลายเป็นผงแล้วใส่ลงไปในเหล้าหลานโจวรู้ว่านั่นเป็นยาที่ทำให้เขาขาดสติ โดยส่วนมากไว้ใช้สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อลดความเจ็บปวดของร่างกายเขาไม่รู้เลยว่ายาพวกนี้เมื่อเอามาผสมกับเหล้าแรงจะสามารถดึงวิญญาณของคนๆ หนึ่งได้แต่เมื่อทั้งสองชนิดผสมเข้าด้วยกัน ก็สามารถทำให้คนๆ หนึ่งมีสติเลือนลาน ช้าเชือนได้จริงๆ!เมื่อเห็นว่ากู้หรูชิวผสมยากับเหล้าเข้ากันดีแล้ว เดินถือมาอยู่ตรงหน้าของตัวเอง หลานโจวก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอย่างสงบว่า "ท่านอ๋อง เป็นกระหม่อมที่เอายาพิษรุนแรง
ไม่รอให้หลานโจวได้เอ่ยปาก หมอคนนั้นก็พูดขึ้นว่า "จะไม่มีปัญหาได้อย่างไร? ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นดื่มยาพิษอะไรเข้าไป ซึ่งเป็นการทำร้ายเด็กในท้องตั้งนานแล้ว"เมื่อหมอคิดไปถึงสีหน้าของผู้หญิงคนนั้นในตอนนั้น ก็อดที่จะสงสารไม่ได้"ผู้หญิงคนนั้นจะต้องรักลูกในท้องของนางมากแน่ ข้าน้อยแนะนำให้นางรีบตัดสินใจ อะ เอาเด็กออก..."เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของเสวียนอ๋อง ที่จู่ๆ ก็เย็นเยียบขึ้นมา หมอคนนั้นก็หวาดกลัวจนตัวสั่น ฉับพลันไม่รู้ว่าควรจะพูดต่อไปหรือไม่แต่ก็เป็นจวินเย่เสวียนที่พูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างเย็นชา "พูดต่อ!"หมอคนนั้นถึงได้พูดต่อไปอย่างกลัวๆ กล้าๆ "ข้าน้อยคิดเพื่อร่างกายของผู้หญิงคนนั้นเองถึงได้แนะนำให้ดื่มยาขับเลือด แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ยินยอม ข้าน้อยรู้ว่านางยังแอบมีความหวังอยู่"สายตาของจวินเย่เสวียนมองไปยังร่างของหลานโจวหลานโจวรู้สึกสิ้นหวังมากเขารู้อยู่แล้วว่าสักวัน วันนี้ก็จะต้องมาถึงแต่แค่คิดไม่ถึงว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้"มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?" ในที่สุดเยียนเป่ยก็ทนไม่ไหวเขาเชื่อใจหลานโจวขนาดนั้น แต่ทำไมตอนนี้ หลานโจว...ดูเหมือนว่าหลานโจวกำลังปกปิดอะไรไว้อยู่จริงๆ
"เสวียนเออร์ เจ้า...เจ้าพูดเรื่องเหลวไหลอะไร? ข้าจะไปทำอะไรนางได้? นางอยู่ในการคุ้มครองของเจ้าตลอดเวลานะ!"พระสนมหรงรู้สึกละอายใจ แต่ก็พยายามรักษาจิตใจให้สงบนิ่งนางปล่อยมือที่จับชายเสื้อของจวินเย่เสวียนเอาไว้ แล้วก้าวถอยหลังไปสองก้าวเริ่มรู้สึกหวาดกลัวลูกชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ขึ้นมาอย่างประหลาด"เสวียนเออร์ เจ้าลืมความเจ็บปวดของเจ้าได้เร็วขนาดนี้เชียวเหรอ? นางเป็นคนฆ่า...ของเจ้าเองกับมือเพื่อช่วยหลีเออร์นะ...""ลูก" คำนี้พระสนมหรงไม่กล้าที่จะพูดมันออกไปรอบข้างมีทั้งขันทีและนางกำนัลมากมายแต่นางรู้ดีว่าลูกชายของนางเข้าใจจริงดังนั้น ประโยคนี้ทำให้จวินเย่เสวียนกำหมัดแน่นทีเดียวเขาไม่อาจทำใจยอมรับเรื่องนี้ได้!โชคดีที่หลังจากกลับมา นางได้พบกับมู่อันหนิงแล้ว และได้คุยกับเรื่องคำที่จะพูดแล้วมู่อันหนิงช่างรู้งานจริงๆ!หากว่าไม่มีมู่อันหนิง พระสนมหรงเองคนเดียวคงไม่อาจจัดการเรื่องให้ดีได้เช่นนี้"เสวียนเออร์ แม่ก็แค่สงสารเจ้า หรือว่าเจ้าไม่คิดแค้นนาง...""นางช่วยลูกชายสุดที่รักของท่านไว้ แต่ท่านกลับ แค้นนาง?"จวินเย่เสวียนหรี่ตาลง ฉับพลันก็เดินขึ้นไปข้างหน้าพระสนมหรงตกใจจ
"เจ้า..."พระสนมหรงคิดไม่ถึงเลยว่ากู้อวิ๋นซีจะกล้ายอมรับออกมาจริงๆ!นางทำไปเพื่อแก้แค้นนางจริงๆ!แถมนางยังคิดจะให้ลูกชายทั้งสองคนของนางกลายเป็นศัตรู ฆ่ากันเอง!พระสนมหรงโมโหจนตัวสั่น แต่กู้อวิ๋นซีกลับใช้ดวงตาคู่โตชุ่มชื้นนั้นมองมาที่นางด้วยสายตาที่ไร้เดียงสาอย่างเดิมรอยยิ้มที่มุมปากเหมือนจะอ่อนโยน แต่คำพูดที่ออกมากลับเย็นชาสุดขีด"เสด็จแม่ ข้าเกือบจะถูกท่านฆ่าตายแล้ว หากว่าข้าไม่ทำให้ลูกชายทั้งสองของท่านตายไปบ้าง ข้าจะทำใจเรื่องความแค้นนี้ได้อย่างไร?""นังแพศยา เจ้ากล้า!"พระสนมหรงโมโหจนเสียสติ ยกมือขึ้นมาอย่างเร็ว และกำลังจะตบลงไปบนหน้าของกู้อวิ๋นซีอย่างแรงที่น่าแปลกก็คือ การต้องเผชิญกับฝ่ามือของตัวเอง กู้อวิ๋นซีไม่เพียงไม่คิดหลบ แต่ยังกลับยิ้มออกมาอย่างสะใจพระสนมหรงตกใจ จู่ๆ ก็เข้าใจได้ทันทีว่าตัวเองโดนหลอกแล้ว!แต่แรงตบที่นางอ้างออกไปมันไม่สามารถเก็บกลับได้ทันแล้ว ฝ่ามือนี้ในที่สุดก็จบลงไปบนหน้าของกู้อวิ๋นซีอย่างแรงเพราะว่าแรงมาก กู้อวิ๋นซีถึงได้ล้มลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นทันทีตาลายไปหมด ลุกขึ้นมาไม่ได้เลย"ซีเออร์!" เงาของสองร่างปรากฎออกมาในทันทีตอนที่จวินฉู่หลีช่
ความจริงแล้วพระสนมหรงไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่กลับมาจะยังเจอหน้าผู้หญิงคนนี้อีกตอนนั้นที่นางจากมา กู้อวิ๋นซีนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างเตียง ปากก็กระอักเลือดสีดำ ลมหายใจรวยรินถึงแม้นางจะมีความสงสารอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดถึงว่าลูกชายของตัวเองทังสองคนจะต้องผิดใจกันเพราะผู้หญิงคนนี้ นางก็ใจแข็งได้อีกครั้งวันนั้นที่ออกคำสั่งไม่ให้มีใครมา จริงๆ แล้วไม่ใช่ความปรารถนาของมู่อันหนิงแค่คนเดียวแต่เป็นความอนุญาตกลายๆ ของพระสนมหรงอีกด้วยเพียงแค่มู่อันหนิงนับว่ายังดีอยู่บ้างที่รับจบเรื่องนี้เอาไว้เอง ไม่ได้ทำให้ลูกชายทั้งสองของนางเกลียดนางด้วยเรื่องนี้ ทำให้ท่าทีที่พระสนมหรงมีต่อมู่อันหนิงก็ยิ่งดีขึ้นอีกเดิมคิดว่าหลังจากสามเดือนผ่านไป ตอนที่กลับมากู้อวิ๋นซีก็คงจะตายไปนานแล้ว และด้วยระยะเวลาที่ยาวนานนี้ ลูกชายทั้งสองของนางก็คงทำใจเรื่องผู้หญิงคนนี้ไปได้แล้วถึงตอนนั้น หลีเออร์ก็จะมีชีวิตใหม่ ส่วนเสวียนเออร์ นางเองก็ชอบมู่อันหนิงถ้าจะให้มู่อันหนิงมาเป็นพระชายาของเสวียนอ๋อง นางก็พอใจอย่างมากสรุปก็คือมันจะต้องเป็นการจบเรื่องที่สมบูรณ์แบบแต่นางคิดไม่ถึงเลยว่ากู้อวิ๋นซีไม่เพียงไม่ตาย แต่ยังกล้าท
สองวันต่อจากนั้น กู้อวิ๋นซีก็พักอยู่ที่ตำหนักของไทเฮาตลอดสองวันนี้จวินฉู่หลียุ่งมากด้านหนึ่งก็ยุ่งเรื่องการก่อสร้างจวนหลีอ๋อง อีกด้านหนึ่งก็ยุ่งเรื่องการย้ายไปประจำการที่เมืองฝานกู้อวิ๋นซีได้พักผ่อนอยู่สองวัน พอถึงเช้าตรู่วันที่สาม ในที่สุดก็ได้รับข่าวดี"คนในจวนแม่ทัพออกนอกเมืองไปแล้วเหรอ?"ข่าวนี้ทำให้นางอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูกไปทั้งวัน"เจ้ากังวลว่าเสวียนอ๋องจะมาขัดขวางเหรอ?" ขนาดมู่เฟยหย่ายังดูออกเลยว่านางเบาใจไปมากกู้อวิ๋นซีไม่ได้ตอบคำถามนี้ความคิดของจวินเย่เสวียน ใครจะเดาออกกัน?สามวันก่อนหน้านี้เขาถูกนางทำให้โกรธจนกลับออกไป เสวียนอ๋องเป็นคนอารมณ์แปรปรวณ อีกทั้งยังรู้ว่านางตั้งใจจะให้คนในจวนแม่ทัพออกห่างจากความวุ่นวายนี้ดังนั้นการที่เขาจะขวางก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"เรื่องนี้ข้าได้ปรึกษากับอาหลีแล้ว อาหลีเองก็เคยคิดวิธีรับมือ หากว่าเสวียนอ๋องตั้งใจจะขวาง อาหลีก็จะทำตามที่ข้าบอก"การที่จวินเย่เสวียนเก็บตัวเงียบแบบนี้ เป็นเรื่องที่เหนือการคาดหมายไปเหมือนกัน"วันนี้เจ้าช่วยข้าออกไปตามหาคุณชายมู่อีกครั้งเถอะ" จู่ๆ กู้อวิ๋นซีก็พูดขึ้นมา"หามาตั้งหลายวันแล้วยังไม่ได้ข
"อื้อ!"หมอนใบหนึ่งกระเด็นมาโดนที่หัวของมู่เฟยหย่าพอดิบพอดีมู่เฟยหย่าจึงทำได้เพียงแค่ต้องเงียบปากไปเท่านั้นแต่ในหัวสมองของนางยังคงมีภาพแผ่นหลังที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง ราวกับถูกคนทั้งโลกละทิ้งของจวินเย่เสวียนตอนเดินจากไปวนเวียนอยู่ไม่หายนางรู้สึกปวดใจจริงๆ นะ!ก็ไม่รู้ว่าทำไมกู้อวิ๋นซีถึงใจร้ายได้แบบนี้กู้อวิ๋นซีในตอนนี้ นิ่งสงบราวกับผิวน้ำที่ไร้คลื่นความเจ็บปวดของเขา มันเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดของนางแม้เพียงสักหนึ่งส่วน มีอะไรให้น่าสงสารกัน?อีกอย่าง ต่อไปเสวียนอ๋องก็มีโอกาสอีกกว้างไกลในอนาคตแต่ตัวนางกับคนในจวนแม่ทัพกลับต้องตกอยู่ในสภาพที่ลำบากแค่สถานการณ์ของตัวนางเองในตอนนี้ก็ไม่มีสิทธิที่จะไปสงสารคนอื่นแล้ว"เอาล่ะ ข้าไม่พูดแล้ว แต่ว่า เจ้าไม่ใช่ต้องการจะแก้แค้นเหรอ? เหตุใดเจ้าถึงไม่ใช้เสวียนอ๋องกับหลีอ๋องมาต่อกรกับพระสนมหรงโดยตรงล่ะ?"ตอนนี้เป็นไง ทำให้เสวียนอ๋องโกรธจนจากไปแล้ว ต่อไปไม่ใช่ว่าจะมีศัตรูที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกคนอย่างนั้นเหรอ?กู้อวิ๋นซีได้แต่มองนางอย่างนิ่งสงบ "แล้วถ้าหากว่าเป็นเจ้า เจ้าจะทำอย่างไร?"มู่เฟยหย่าคิดสักพัก ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้นางแล้วพู
"ข้าชอบอาหลีหรือไม่ ข้าไม่รู้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้ได้ชัดเจน"กู้อวิ๋นซีเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา อย่างน้อย ครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ"จวินเย่เสวียน ข้าไม่รักท่านแล้ว""เจ้าคิดว่าข้าจะสนหรือยังไง?" น้ำเสียงของจวินเย่เสวียนที่พูดออกมาแทบจะแค้นมันออกมาจากซอกฟันอยู่แล้วถ้าเป็นในเวลาปกติ กู้อวิ๋นซีจะต้องกลัวแน่แต่ตอนนี้ ไม่รู้ทำไม จู่ๆ นางก็รู้สึกไม่กลัวแล้วจริงๆ"ทางที่ดีท่านอ๋องพูดแล้วก็ทำให้ได้ด้วย ไม่สน ต่อไปก็อย่ามารบกวนชีวิตของพวกเราสองสามีภรรยา"ใบหน้าเขาเรียบเฉย ดูแล้วจิตใจสงบนิ่งราวผิวน้ำแต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าคำพูดของกู้อวิ๋นซี เป็นเหมือนมีดเล่มหนึ่งที่ปักเข้าไปในหัวใจเขาอย่างจังลึกและแรงมาก!ประกายแสงเพียงน้อยนิดในดวงตาของเขา หายไปหมดแล้ว"กู้อวิ๋นซี เจ้าอย่าเสียใจทีหลังล่ะ!"...ในที่สุดเขาก็ไปแล้วกู้อวิ๋นซีนั่งลงไปบนพื้นอย่างอ่อนแรง หมดอาลัยตายอยากด้านนอกมีคนวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อนนางจับขอบเตียงเอาไว้เพื่อพยุงตัวเองขึ้นมาอย่างช้าๆเพิ่งจะลุกขึ้นมาได้ ก็เห็นจวินฉู่หลีที่วิ่งเข้ามาในห้องโถงด้วยสีหน้าที่ร้อนรน"ท่านพี่สี่เขา...""ไปแล้ว" กู้
การปรากฎตัวขึ้นของจวินเย่เสวียนเป็นอะไรที่กู้อวิ๋นซีคิดไม่ถึงมาก่อนตอนที่เห็นเงาร่างของเขาเดินเข้ามา นางก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ ก่อนจะถอยหลังไปหลายก้าวโดยสัญชาตญาณ"เจ้าคิดเหรอว่ามาหลบอยู่ที่ตำหนักของเสด็จย่าแล้วจะสามารถหลบข้าพ้น?"สายตาเย็นเยียบของจวินเย่เสวียนจับจ้องไปที่ร่างกายของนางตรงๆ"ให้คนของจวนแม่ทัพย้ายไปที่เมืองฝาน เพื่อจะได้รอดพ้นจากขอบเขตอำนาจของข้าก็คิดว่าจะสามารถไปไหนก็ได้แล้วอย่างนั้นเหรอ?""ก็แค่พวกมดแมลงตัวเล็กๆ ที่ต้องการรักษาชีวิตเท่านั้น ท่านอ๋อง ท่านต้องการปกป้องครอบครัวของท่าน ข้าก็ต้องการให้ครอบครัวของข้าได้มีชีวิตต่อไป เหตุใดท่านอ๋องถึงไม่ยอมปล่อยพวกเขาไปล่ะ?"กู้อวิ๋นซียังคงเดินถอยหลังอยู่ ไม่ทันระวังก็เลยเดินถอยไปจนถึงเตียงนอน จนไม่อาจถอยหลังได้อีก"ท่านอ๋อง คนที่ท่านแค้นคือข้า ไม่เกี่ยวกับพวกเขา ท่านอ๋องจะสามารถปล่อยให้พวกเขาได้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่?"ถึงแม้ฝีเท้าของจวินเย่เสวียนจะดูเอื่อยเฉื่อย แต่เพียงไม่นานเขาก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว"ดังนั้น ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเจ้ายังพูดว่าต้องการผู้ชายที่แข็งแกร่งยิ่งใหญ่แบบข้าในอ้อมแขนของข้า แต่คืนนี