ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร กู้อวิ๋นซีถึงได้ค่อยๆ มีสติกลับคืนมาในหัวมีแต่ภาพความบ้าระห่ำเมื่อครู่นี้นางรู้สึกเจ็บปวดในใจ ดวงตาก็พลันแดงขึ้นทันใด"ปล่อยข้า!" กู้อวิ๋นซีกัดริมฝีปากไว้แน่น ในแววตาเต็มไปด้วยความอับอายแต่นางก็พยายามจะอดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลรินลงมาการที่เขากระทำการป่าเถื่อน ขืนใจนางและดูถูกเหยียดหยามนางเช่นนี้ ในสายตาของเขา นางไม่ได้ต่างอะไรกับของเล่นเลย!เขาเคยทะนุถนอมนางบ้างไหม?ที่น่าโมโหก็คือ ในระหว่างที่เขากำลังเล่นอย่างเพลิดเพลินนั้น นางก็สูญเสียความสำรวมของตัวเองไปนางช่างสำควรตายจริงๆ!"ซีเออร์..." ความเมามายของจวินเย่เสวียนได้สติกลับคืนมาแล้วมากกว่าครึ่ง คิดอยากที่จะยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าของนางแต่กู้อวิ๋นซีกลับหันหน้าหนีอย่างแรง เพื่อหลบเลี่ยงนิ้วของเขา"อย่าแตะต้องข้า!" แววตาของนาง เย็นชาจนแทบจะไม่มีความอบอุ่นหลงเหลืออยู่เลย"เจ้าเกลียดข้า?" หัวใจของจวินเย่เสวียน เหมือนกันจะถูกฉีกกระชากออกอย่างแรงความอบอุ่นในดวงตา ค่อยๆ หายไป"ข้าเป็นพระชายาของอาหลี จวินเย่เสวียน ท่านคิดว่าข้าไม่สมควรจะเกลียดท่านอย่างนั้นเหรอ?""ข้าเกลียดจนอยากจะฆ่าท่านให้ตายซะ!"ห
"แม่เฒ่า เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหลอะไร? ข้าไปสั่งให้คนวางยาพิษนางตั้งแต่เมื่อไรกัน?" พระสนมหรงจ้องนางเขม็งคิดไม่ถึงว่าแม่เฒ่าชิงจะคุกเขาลงไปนั่งอยู่บนพื้น พลั่ก ก่อนจะพูดอย่างลนลาน "เป็น...เป็นความคิดของบ่าวเองเพคะ""ว่าอย่างไรนะ?" พระสนมหรงตกใจ ฉับพลันก็รู้สึกเย็นไปทั้งร่าง"แม่เฒ่าชิง ทำไมเจ้าถึง...เจ้า...เจ้าทำเช่นนี้ ข้าจะไปตอบกับลูกชายทั้งสองคนได้อย่างไร?""พระสนม ที่บ่าวทำไปก็เพื่อพระองค์ทั้งสิ้นนะเพคะ! พระสนมจิตใจเมตตาไม่กล้าลงมือ เช่นนั้นก็ให้บ่าวเป็นคนกำจัดหนามยอกอกคนนี้แทนพระสนมเอง"แม่เฒ่าชิงคุกเข่าอยู่บนพื้น กำชายกระโปรงของพระสนมหรงเอาไว้แน่น พูดด้วยเสียงแหบพร่า "ตั้งแต่กู้อวิ๋นซีปรากฎตัว จวนอ๋องของเราก็ไม่เคยมีวันไหนที่จะสงบสุขเลย"เสวียนอ๋องกับหลีอ๋องต่างก็ชื่นชอบกู้อวิ๋นซี ผู้ชายสองคนแย่งผู้หญิงคนเดียวในใจของทั้งสองคนพี่น้องจะไม่ผิดใจกันได้อย่างไร?"มีเพียงแค่กู้อวิ๋นซีตายไป พวกเขาถึงจะดีขึ้นได้ ชีวิตของพระสนมเองก็จะได้กลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน""แม่เฒ่า..." พระสนมหรงคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าแม่เฒ่าชิงจะจงรักภักดีกับนางมากถึงเพียงนี้ไม่ว่าทำเรื่องอะไรก็ล้วนเพื่อนางทั้
จวินเย่เสวียนแสดงสีหน้าโกรธจัด "เช่นนั้นการที่เสด็จแม่วางยาพิษฆ่าคนของลูก เสด็จแม่จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกจะต้องให้อภัยท่าน?""เจ้า!" เขายอมรับแล้ว! เขายอมรับว่ากู้อวิ๋นซีเป็นคนของเขาแล้ว!"เจ้า...เจ้า...เจ้าบังอาจ!" พระสนมหรงโกรธจัดจนรีบปรี่เข้าไป ยกมือขึ้นแล้วตบลงไปอย่างแรงเพี๊ยะ ฝ่ามือนี้ ตบลงไปบนใบหน้าของลูกชายตัวเองอย่างแรงพระสนมหรงอึ้งไป เมื่อเห็นรอยนิ้วมือค่อยๆ ปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหล่านั้น ก็รู้สึกผิดขึ้นในใจอยู่บ้าง"เจ้า...เหตุใดจึงไม่หลบ?""ท่านเป็นเสด็จแม่ของลูก แม่ตีลูก เหตุใดจะต้องหลบด้วย?"คำพูดของจวินเย่เสวียนฟังดูแล้วเหมือนจะเคารพ แต่สายตาของเขากลับดุร้าย เย็นชาอย่างน่ากลัว"เจ้ายังรู้ตัวอยู่เหรอว่าเป็นลูกชายของข้า!" พระสนมหรงกำลังอยากจะด่าว่าอะไรสักอย่างแต่จวินเย่เสวียนกลับพูดขัดขึ้นอย่างเย็นชา "หากว่าลูกไม่ใช่ ตอนนี้เสด็จแม่ก็คงจะเป็นคนตายไปแล้ว"พระสนมหรงตกใจจนตัวเย็นเฉียบ มาถึงตอนนี้ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองทำให้เขาโมโหแล้วจริงๆ"เสวียนเออร์ แม่...แม่ก็แค่กลัวว่าเจ้าจะถูกใครข่มขู่อีก เจ้าควรจะรู้ว่าเจ้าไม่สามารถที่จะมีจุดอ่อนใดๆ ได้"เมื่อเห็นว่าเขายังคง
จวินเย่เสวียนเดินออกไปแล้ว ก่อนออกไปก็เรียกให้สาวรับใช้สองคนมาคอยอยู่ปรนนิบัติพระสนมหรงแต่พระสนมหรงก็ยังคงนั่งอยู่ที่พื้นอย่างนั้น ไม่มีการตอบสนองใดๆเขารู้ทั้งรู้ว่าแม่เฒ่าชิงก็เป็นเหมือนกับแม่อีกคนของนาง แต่เขาก็ยังสั่งให้คนโบยแม่เฒ่าชิงจนตายโหดร้ายปานนั้น ไร้ความรู้สึกปานนั้น!ที่ทำไปก็เพื่อกู้อวิ๋นซี!ผู้หญิงคนนั้น สำคัญกับลูกชายของนางถึงขนาดนี้แล้วเชียว!พระสนมหรงหลับตาลง หยาดน้ำตาที่หางตา ร่วงหล่นลงมาอย่างไร้เสียง!…กู้อวิ๋นซีตื่นขึ้นมาในเช้าตรู่ของวันที่สามหลังจากที่ถูกวางยาพิษเมื่อฟื้นขึ้น ข้างกายยังคงมีเงาร่างสีขาวร่างหนึ่งนั่งอยู่ ก็คือจวินฉู่หลีกู้อวิ๋นซีขยับปากน้อยๆ ถึงได้พบว่าลำคอของตัวเองช่างแห้งแหบซะเหลือเกิน"อย่าเพิ่งรีบพูดอะไร ดื่มน้ำก่อนสักหน่อยเถอะ" จวินฉู่หลียกน้ำอุ่นเข้ามา ก่อนจะค่อยๆ ป้อนให้นางดื่มอย่างระมัดระวังผ่านไปสักพัก กู้อวิ๋นซีถึงได้มีสติกลับคืนมาเต็มร้อย"เจ้า...คอยดูแลข้าอยู่ตลอดเลยเหรอ?" ช่วงที่ไม่ได้สติ นางรู้ว่ามีคนหนึ่งที่คอยอยู่ข้างกายตัวเองโดยตลอดเขาคอยดูแลเอาใจใส่นาง คอยเฝ้าดูปกป้องนางทั้งวันทั้งคืนเหมือนกับตอนที่นางถูกช่วย
"ไม่ได้ เก็บไว้ก่อนข้ายังต้องใช้"กู้อวิ๋นซีนวดเบาๆ ที่หางคิ้วก่อนจะดึงกาวปิดแผลที่หลังมือออกบาดแผลยังคงอยู่ แต่ก่อนหน้านี้ได้ทายาไปแล้ว ก็เลยอาการดีขึ้นมาก กำลังสมานตัวอยู่"อันเซี่ย ข้ารู้สึกได้ว่าตัวของข้ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง แต่ข้ายังคงรู้สึกเหนื่อยมาก ข้าอยากจะนอนพักอีกสักหน่อย""อีกอย่าง เจ้าช่วยไปหาของพิษมาให้ข้าอีกสักหน่อย พวกแมงป่อง คางคก แมงมุม...แล้วก็ภาพวาดที่ข้าให้เจ้า เจ้าเอาไปให้คนทำมาแล้วหรือยัง?""ข้าไปหาคนแล้ว แต่ว่าทั่วทั้งเมืองหลวงไม่มีใครสามารถผลิตได้เลย คุณหนู เข็มเงินที่มีรูกลวงอยู่ภายใน ฝีมือเช่นนี้ เกรงว่าทั้งเมืองหลวงก็คงหาช่างทำไม่ได้เจ้าค่ะ"กู้อวิ๋นซีรู้ การผลิตเข็มฉีดยามันยากมากแต่นางต้องการแยกซีรั่ม จำเป็นจะต้องมีเครื่องมืออุปกรณ์หลายหลายชนิดเข็มฉีดยาก็เป็นเพียงหนึ่งในอุปกรณ์เครื่องมือเท่านั้น"แล้วอย่างอื่นล่ะ?""เหมือนกันเจ้าค่ะ พวกเขาต่างบอกว่าไม่เคยแม้แต่จะได้ยิน ไม่เคยแม้แต่จะได้เห็น ต่อให้จะเพิ่มเงินให้ก็ไม่ยอมรับงานนี้ บอกว่าเกรงจะเสียชื่อร้านของตัวเอง""ในเมืองหลวงมีคนที่มีความสามารถมากมายขนาดนี้ เจ้าพยายามไปหาอีกหน่อยเถิด""ก็ไ
คนลึกลับคนนั้นที่อันเซี่ยพูดถึง ดูแล้วก็เป็นคนลึกลับจริงๆ นั่นแหละเขาอาศัยอยู่ในเรือนที่ปลูกขึ้นอย่างเรียบง่ายที่เรียบง่ายก็เป็นเพราะภายในตัวเรือนไม่มีของตกแต่งใดๆ ธรรมดาสุดๆ เมื่อเดินเข้าไปราวกับเดินเข้าไปในบ้านไร่แบบนั้นภายในเรือนมีคนรับใช้กำลังทำงานอยู่หลายคนดูแล้วอายุประมาณสักยี่สิบกว่าปีได้ ผิวสีทองแดง หน้าตาดูสะอาดสะอ้าน"พี่หยางจื่อ ข้าพาคุณหนูของข้ามาแล้ว"อันเซี่ยพูดคุยอย่างค่อนข้างสนิทสนมกับผู้ชายที่ชื่อหยางจื่อ เนื่องจากเคยพูดคุยกันมาบ้างแล้วหยางจื่อหันมาพยักหน้าให้กับนาง สายตามองไปที่ร่างของหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังของนางวันนี้กู้อวิ๋นซีสวมหมวกปิดหน้าลายเรียบง่ายใบหนึ่งไม่สามารถมองเห็นใบหน้าที่ชัดเจนเมื่อนางถอดหมวกออก ขนาดหยางจื่อก็ยังต้องมองอย่างตกตะลึงสวยมาก!ไม่เคบพบเห็นผู้หญิงคนไหนที่สวยงานเช่นนี้มาก่อนเลยไม่ใช่ความสวยงามแบบเย้ายวน แต่เป็นความสวยสง่า ราวกับเทพธิดาที่สูงส่ง"หยางจื่อ ผู้นี้ก็คือคุณหนูของข้า" อันเซี่ยยื่นมือออกไปโบกส่ายข้างหน้าเขาหยางจื่อตกใจ รีบถอยร่นไปสองก้าว ฉับพลับใบหน้าสีทองแดงก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมา"ขะ ขออภัย คุณชายของข้า...รออ
กู้อวิ๋นซีลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปน้ำหมึกที่ปลายพู่กันถึงได้กระเด็นโดนกระโปรงของนางอย่างไม่ทันระวังแต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจเลย เพียงแค่จ้องมองไปที่เงาร่างที่อยู่หลังม่านอย่างไม่กระพริบตาจนเกือบที่จะอดไม่ได้ต้องไปเปิดม่านแล้วบุกเข้าไปมองเขาให้ชัดๆเหตุใดเขาถึงรู้เรื่องความรู้ในยุคปัจจุบัน? ผู้ชายคนนี้ หรือว่า เขาก็ย้อนเวลามาเหมือนกัน?แต่บนโลกนี้จะมีเรื่องประหลาดอะไรเกิดขึ้นมากมายกัน?จะเป็นไปได้อย่างไร?"เหตุใดพระชายาถึงได้ตื่นเต้นปานนี้? ข้าพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ?" น้ำเสียงของผู้ชายคนนั้น ยังคงเย็นชาและไว้ท่าเช่นเดิมกู้อวิ๋นซีถอนหายใจออกมาหนึ่งที ก่อนจะถามว่า "เหตุใดคุณชายถึงรู้จักวิธีการใช้เครื่องมือของข้าพวกนี้ได้?""เพียงแค่สมัยเด็ก เคยเห็นจากท่านอาจารย์มา ก็เลยรู้ว่าคือสิ่งใด ใช้ทำอะไรก็เท่านั้น""ไม่ทราบว่าอาจารย์ของคุณชายคือผู้ใดกัน? สามารถแนะนำ...""ขออภัย" สีหน้าของคุณชายผู้นั้น ถึงกู้อวิ๋นซีจะมองไม่ชัด แต่ก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังไม่พอใจกู้อวิ๋นซีรู้ตัวทันทีว่าตัวเองใจร้อนเกินไปนางพยายามสงบอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นก็ค่อยๆ นั่งลงช้าๆ แต่ก็ยังคงมองไปที่เงาร่างหลังม
อันเซี่ยมองเห็นหญิงสาวในชุดกระโปรงสีเขียวนางหนึ่งเดินเข้าประตูมาพร้อมกับจวินเย่เสวียนนางมีหน้าตาสวยงาม โดนเฉพาะกริยาท่าทางช่างดูสง่างามมีมารยาทแบบหาตัวจับยากถึงแม้จะไม่ได้สวยเท่ากับคุณหนูของพวกนาง แต่ความสวยของผู้หญิงคนนั้น ก็เป็นความสวยในอีกรูปแบบหนึ่งมีความเป็นผู้ใหญ่ สุขุม สง่างามก็คือคุณหนูจวนเสนาฉินโหรวที่เคยมาที่จวนหลายรอบแล้วคนนั้นนั่นเองตอนที่กู้อวิ๋นซีเดินลงจากม้า ฉินโหรวก็มองเห็นนางแล้วด้วยเช่นกันนางหยุดเดินทันที แต่ก็ไม่ได้ขยับออกห่างจากข้างกายของจวินเย่เสวียนเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่พยักหน้าให้กับกู้อวิ๋นซีจากไกลๆ "พระชายาหลีอ๋อง"กู้อวิ๋นซีที่เดินมากับอันเซี่ย คารวะให้กับจวินเย่เสวียนก่อน "องค์ชายสี่"จากนั้นก็ค่อยหันไปยิ้มให้กับฉินโหรว "คุณหนูฉิน"นี่เป็นครั้งแรกที่กู้อวิ๋นซีได้เจอกับจวินเย่เสวียนหลังจากที่นางฟื้นตัวจากการถูกวางยาพิษเขาก็ยังคงเหมือนเดิม เย็นชา เฉยเมย ทั้งตัวแผ่ซ่านพลังของความเป็นผู้ยิ่งใหญ่ สูงส่ง เย็นชาจนยากที่จะเข้าใกล้เพียงแต่สายตาที่มองนางในวันนี้ ดูจะขาดความซับซ้อน แต่เพิ่มความเย็นชามากกว่าปกติไม่น้อยเกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ ขนาดแม่เ