เมื่อหวังหยวนพูดจบ ทุกคนในกลุ่มเป่ยซาก็ตกตะลึงให้พวกเขาเปลี่ยนหัวหน้ากลุ่มเป่ยซาหรือ?ชายผู้นี้บ้าไปแล้วหรือ?พูดเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?“ฮ่าฮ่าฮ่า...หวังหยวน เจ้าน่าสนใจจริง ๆ ในถิ่นของข้า การพูดกับพี่น้องของข้าเช่นนี้ ก็เหมือนกับร้องขอความตายสถานเดียว!”ลูกพี่เป่ยซามองหวังหยวนด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ราวกับกำลังดูละครตลกหวังหยวนยกยิ้ม ไม่ได้สนใจลูกพี่เป่ยซา ยังคงมองไปยังพวกลูกน้องต่อไปแต่พวกเขาก็ทำให้หวังหยวนผิดหวัง ไม่มีใครกล้าแสดงตัวว่าจะติดตามเขาเขายิ้ม แล้วพูดอีกครั้ง “พวกเจ้าไม่กล้าใช่หรือไม่ เช่นนั้นหากลูกพี่ของเจ้าตายแล้วล่ะ? พวกเจ้าจะยินดีร่วมมือกับข้าหรือไม่?”หวังหยวนพูดเช่นนี้ ราวกับบอกว่าจะขยี้มดให้ตายทำให้ทุกคนสับสนมากยิ่งขึ้น!มีคนมากมายล้อมรอบเขาทั้งสอง แต่เขายังจะบอกว่าอยากฆ่าลูกพี่ของพวกเขาอีก!ชายผู้นี้ต้องเสียสติไปแล้วแน่ ๆ!ลูกพี่เป่ยซาก็รู้สึกเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็หมดความอดทน จึงโบกมือสั่งการ“จับตัวหวังหยวนมาให้ข้า”เมื่อเขาพูดจบ หวังหยวนก็ส่ายหน้า แล้วพูดอย่างใจเย็น “ฆ่าเขาซะ”หลังจากพูดเช่นนั้น ต้าหู่ก็หยิบปืนออกมายิงเข้าที่หัวลูกพี่เป่ยซา ก่อนท
แต่ว่า...แม้ว่าพวกเขาจะยินดี แต่สิ่งต่าง ๆ ก็ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น!“ท่านหวังหยวน แม้ว่าเราจะยินดีทำเช่นนั้น... แต่นอกจากกลุ่มเป่ยซาของเราแล้ว ก็ยังมีกลุ่มอื่นอีกมากมาย”“แม้ว่ากลุ่มเป่ยซาของเราจะเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด แต่... ท่านต้องเข้าใจหลักการขับไล่หมาป่าเขมือบเสือ กลุ่มเป่ยซาของพวกเราไม่อาจปกคลุมท้องฟ้าได้ด้วยมือเดียว”นั่นคือเรื่องที่พวกเขากังวลทุกคนย่อมยินดีที่จะสร้างรายได้แต่คงดีกว่าหากมีทั้งเงินและชีวิต!การเผชิญหน้ากับอีกหลายกลุ่ม มันยากเกินไปสำหรับกลุ่มเป่ยซาโดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปไม่ได้!หวังหยวนย่อมเข้าใจ จึงพูดว่า “ข้าเข้าใจสิ่งที่เจ้าจะสื่อ ข้าจะจัดการกับกลุ่มอื่น ๆ เช่นเดียวกับกลุ่มเจ้า”“คงดีที่สุดหากรวมกลุ่มเหล่านี้เข้าด้วยกัน มันจะสะดวกกว่า”หวังหยวนไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ การกำราบคนเพียงกลุ่มสองกลุ่มนั้นช่างง่ายดายไม่ใช่ว่าหวังหยวนหยิ่งผยอง แต่มันคือข้อเท็จจริง!ประการแรก ดั่งกลยุทธ์ที่ว่าจับโจรเอาหัวโจก หากไม่มีผู้นำ ก็เปรียบเสมือนฝูงมังกรที่ไร้ซึ่งกระดูกสันหลังประการที่สอง ไม่ได้ต้องการแค่ฆ่าเจ้านายของพวกเขา แล้วกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตเท่านั
ได้ยินเช่นนั้น ต้าหู่ก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง“อืม...หลังจากแก้ไขปัญหานี้แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วใช่หรือไม่?”ต้าหู่คิดว่าเมื่อโจรเหล่านี้ตกลงว่าจะร่วมมือแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อยดีหวังหยวนยกยิ้ม“จะไม่มีปัญหาได้อย่างไร มีผู้คนมาเป็นกองกำลังอีกมากมาย ข้ายังต้องฝึกพวกเขาอีก จากนี้ไปจะเขาต้องจัดการกับปัญหาอีกมากมายในอนาคต เพราะเราไม่สามารถอยู่ในเมืองสู่ตลอดไปได้”หวังหยวนพูดจบ ต้าหู่ก็เข้าใจใกล้พลบค่ำ โก่วหยาก็กลับมาพร้อมกับผู้คน เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยคราบเลือดเขาขว้างหัวสามหัวลงบนพื้น แล้วพูดทันที “ท่านหวังหยวน ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เหล่าโจรในเมืองสู่จะเชื่อฟังคำสั่งของท่านขอรับ!”เมื่อเห็นเช่นนั้น ดวงตาของหวังหยวนก็เป็นประกาย เขามองโก่วหยาด้วยสายตายากจะคาดเดา!เด็กคนนี้มีพรสวรรค์!แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง!“ไม่เลว!”หวังหยวนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจมาก!“โก่วหยา เจ้าทำได้ดีมาก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจงดูแลกลุ่มโจรในเมืองสู่ ป้องกันตัวเองให้ดี หากวันหนึ่งเกิดปัญหาขึ้น จงรักษาชีวิตตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย แล้วไปบอกข้า ข้าไม่อยากให้เ
“พวกเขาควบคุมเส้นทางสายหลัก คอยเก็บค่าคุ้มครองจากพวกพ่อค้นที่ผ่านทางมา ด้วยราคาสูงจนน่าตกใจ!”“ตราบใดที่จ่ายเงิน ก็จะสามารถขนส่งสินค้าได้อย่างปลอดภัย คาดว่าคนกลุ่มนี้คงทำเงินได้มหาศาลจากการทำเช่นนี้”คำพูดของต้าหู่ทำให้หวังหยวนตกใจไม่คิดเลยว่าตระกูลใหญ่กับโจรจะเป็นกลุ่มเดียวกัน หมายความว่านี่เป็นการก่อกำเนิดห่วงโซ่ขนส่งสินค้าใช่หรือไม่?“พี่หยวน ข้ายังได้ยินมาด้วย ว่ามีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตระกูลหยางออกอาละวาด และไร้ศีลธรรมได้ถึงเพียงนี้!”หวังหยวนกังวล รีบถามอย่างรวดเร็ว “เอาล่ะ เจ้าหยุดลีลาได้แล้ว รีบบอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น”ต้าหู่ขยับเข้าไปใกล้ ลดเสียงลงกระซิบ “ผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังตระกูลหยาง คือน้องชายของข้าราชการเมืองหยาง!”“ว่าอย่างไรนะ?”เมื่อหวังหยวนได้ยิน สีหน้าของเขาก็กลายเป็นตกตะลึงทันทีปรากฏว่าตระกูลหยางสมรู้ร่วมคิดกับโจรด้วยวิธีเช่นนี้ จึงสามารถควบคุมเส้นทางสายหลักได้อย่างไร้ศีลธรรม สาเหตุที่ตระกูลหยางไม่ถูกกวาดล้างมาหลายปี ก็เพราะพวกเขามีผู้สนับสนุนที่ทรงพลัง อย่างข้าราชการเมืองหยางคอยหนุนหลังอยู่!ไม่แปลกใจเลย!“คุณชาย ตอนนี้เราควรทำอย่างไรกันดี?”ห
“เจ้าค่ะ”ต้าหู่รีบเดินตามหวังหยวนไป ทั้งสองก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าตรงไปบ้านตระกูลหยางเมื่อมาถึงหน้าประตูบ้านตระกูลหยาง หวังหยวนก็เดินไปที่ประตู แล้วเคาะประตูเบา ๆไม่นาน ชายชราวัยห้าสิบก็เปิดประตูออกมา“พวกท่านไม่คุ้นหน้า ขอถามได้หรือไม่ว่าพวกท่านมาจากที่ใดกัน?”คนพูดคือพ่อบ้านตระกูลหยาง เขามองหวังหยวนด้วยความสับสน พิจารณาจากเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่“ท่านผู้เฒ่า ข้าชื่อหวังหยวน วันนี้ข้าต้องการเข้าพบหัวหน้าตระกูลหยาง โปรดแจ้งให้ข้าด้วย”ชายชราพยักหน้า ยิ้มอย่างสุภาพแล้วพูดว่า “ทราบแล้วขอรับ เช่นนั้นกรุณารอที่ประตูสักครู่”ชายชราหันหลังเดินเข้าไปในห้องโถงที่หยางอู่ตวนอยู่“นายท่าน มีชายผู้หนึ่งอ้างว่าชื่อหวังหยวนต้องการเข้าพบขอรับ”“หวังหยวนหรือ?”เมื่อหยางอู่ตวนได้ยินชื่อนั้น นัยน์ตาของเขาก็ฉายแววจริงจังทันที เขาวางถ้วยชาในมือลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ไม่ให้พบ”“ขอรับ นายท่าน”ก่อนที่พ่อบ้านจะออกไป เขาก็ได้ยินหยางอู่ตวนพูดอีกครั้ง “ช่างเถอะ พาพวกเขาไปรอในห้องโถงใหญ่”“บอกว่าข้ามีเรื่องต้องจัดการ ให้พวกเขารอสักครู่ หากชาหมดก็ให้เติมเรื่อย ๆ จนกว่าพวกเขาจะจากไป”
“ต่อให้ภรรยาจะคลอดบุตร แต่ก็ควรรู้ว่าเป็นการปล่อยให้แขกที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยมานั่งรอนานถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่แวะมาหาแขกก่อนล่ะ?”หวังหยวนวางถ้วยชาลง ส่ายหน้าเบา ๆ เแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ข้าเดาว่า เราคงไม่ได้พบหัวหน้าตระกูลหยางในวันนี้”“เหตุใดกัน?”หลี่ซื่อหานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อมองหวังหยวน ก็เห็นสีหน้าที่แสดงออกว่า ‘ข้าเดาได้ตั้งนานแล้ว’“หากเขาต้องการพบเรา คงไม่มีข้อแก้ตัวมากมายถึงเพียงนี้”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วพูดกับทุกคน “เอาล่ะ เราจะกลับไปกันก่อน วันนี้ท่านหยางคงไม่ออกมาพบพวกเรา”ต้าหู่ยังคงดูไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินตามออกไปทันทีที่ทุกคนก้าวออกไป ก็เห็นพ่อบ้านเฒ่ารีบเข้ามาหาอย่างกระตือรือร้นเขาพูดกับทุกคนด้วยรอยยิ้มสุภาพบนใบหน้า “ต้องขออภัยทุกท่านด้วย จู่ ๆ เจ้านายของพวกข้ารู้สึกไม่สบายขอรับ”“เขาเพิ่งทำงานเสร็จ แล้วรู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อยจึงกลับไปพักผ่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษา จึงไม่อาจมาพบท่านได้ ต้องขออภัยด้วย”ต้าหู่มีสีหน้าไม่พอใจ ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็เห็นหวังหยวนส่ายหน้าเบา ๆ“เช่
หยางอู่ตวนไม่ได้โกรธ แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามของลูกชายตามตรง เขาถามกลับว่า“ลูกพ่อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าระหว่างทางมาที่นี่ หวังหยวนทำอะไรไปบ้าง?”หลังจากที่หยางอู่ตวนพูดจบแล้ว หยางถิงก็คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่าหวังหยวนกำลังสร้างเส้นทางการค้าบางอย่าง นี่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีขอรับ”“ถูกต้อง ถือได้ว่าเป็นเรื่องดี บอกพ่อสิว่ามันดีอย่างไร?”หยางอู่ตวนถามอีกครั้งหยางถิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ผลประโยชน์ขอรับ วิธีนี้จะทำให้เราเก็บค่าคุ้มครองได้มากขึ้นขอรับ”หยางอู่ตวนพยักหน้า “ใช่แล้ว เจ้าพูดถูก เราจะได้รับค่าคุ้มครองเพิ่มขึ้นแน่นอน”“แต่มันยังไม่เพียงพอ เพียงเพราะค่าคุ้มครอง พ่อไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น”หยางถิงไม่เข้าใจว่าพ่อของเขาจะสื่ออะไร แต่เขาก็ยังถาม“ท่านพ่อ ยังมีความหมายลึกซึ้งอะไรอีกหรือขอรับ?”หยางถิงพูดจบ หยางอู่ตวนก็พยักหน้า“แน่นอนว่าพ่อแค่ต้องการแสดงให้เขาเห็น ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาเข้าใจได้ว่า มันไม่ง่ายเลยที่จะร่วมมือกับเรา การต่อรองราคาก็จะเป็นเรื่องง่าย”“หวังหยวนผู้นี้เป็นเศรษฐี หากไม่ฆ่าก็จะไม่ถูกฆ่า”หลังจากที่หยางอู่ตวนพูดจบ หยางถิงก็ตกต
แม้หยางถิงจะรู้ว่าหวังหยวนเป็นอัจฉริยะด้านธุรกิจ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าหวังหยวนมีสินค้าอะไรบ้างเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้เขาก็ตกใจเล็กน้อย!สิ่งเหล่านี้ช่างดีจริง ๆ!แต่ละอย่างขายดีมาก!“สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่หวังหยวนต้องการจะขาย นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาเปิดเส้นทางการค้าด้วย”“ลูกพ่อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าของพวกนี้ทำกำไรได้เท่าใด?”หยางถิงย่อมเข้าใจสิ่งที่หยางอู่ตวนจะสื่อสิ่งเหล่านี้หาได้ยาก“โดยเฉพาะแก้วคริสตัลนี้ ดูเนื้อสัมผัสสิ ช่างพิเศษเหลือเกิน! หวังหยวนมีความสามารถในการสร้างอะไรเช่นนี้จริง ๆ!”“นี่เป็นสิ่งที่คนรวยหลายคนชอบ มันมีค่ามาก หากควบคุมมูลค่าตลาดได้ คงจะทำเงินได้มหาศาล”หยางอู่ตวนพูดจบ ก็มองหยางถิง ลูกชายของเขาด้วยรอยยิ้มหยางถิงเข้าใจทันทีว่าพ่อของเขาหมายความว่าอย่างไร!หลังจากใช้เวลาอยู่นาน เขาก็เกิดความคิดขึ้นมา!หวังหยวนต้องการขายสินค้าเหล่านี้ ผ่านเส้นทางสายหลักเส้นนี้พวกเขาก็สามารถเรียกค่าคุ้มครองได้ แต่จะได้เท่าใดกันเชียว?มันไม่มีค่าเท่าสิ่งเหล่านี้!“ท่านพ่อขอรับ ท่านต้องการ...”หยางถิงพูดจบ หยางอู่ตวนก็หัวเราะทันที“ใช่แล้ว หากสิทธิ์ในการขายสินค้า
“หรือว่าแผ่นดินนี้จะต้องตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น?”สิ้นคำพูด ซือฟางก็ซัดกำปั้นลงบนกำแพงเมืองอย่างเดือดดาล!เหล่าขุนพลที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างไม่กล้าเข้าไปใกล้ หรือแม้แต่จะเอ่ยปาก!“ท่านขุนพลไม่ต้องกังวล!”ทันใดนั้น ขุนนางชราผู้หนึ่งก็เดินออกมา บนใบหน้ามีเคราสีขาวโพลน เพียงดูก็รู้ว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน!คนผู้นี้คือที่ปรึกษาคนสำคัญของไป๋เหยียนเฟยนามว่า เจี๋ยงโฉ่วอี!ในราชสำนัก ผู้ที่อยู่เหนือเขามีเพียงจักรพรรดินีเท่านั้น!บัดนี้ไป๋เหยียนเฟยป่วยหนัก ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนพึ่งพาเจี๋ยงโฉ่วอี ราชกิจสำคัญล้วนตกเป็นภาระให้เขาตัดสินใจทั้งสิ้น!เห็นได้ชัดว่าเขามีอำนาจสูงส่งล้นฟ้า!“ปรากฏว่าเป็นท่านเจี๋ยงนี่เอง!”“ท่านคงได้ยินสิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อครู่แล้วกระมัง?”ซือฟางประสานมือคารวะเจี๋ยงโฉ่วอี แล้วเอ่ยถามเจี๋ยงโฉ่วอีพยักหน้า กล่าวอย่างใจเย็นว่า “ข้ารู้ว่าท่านขุนพลจงรักภักดี ย่อมคิดถึงฝ่าบาท แต่พระองค์ก็มีเรื่องที่ต้องกังวลเช่นกัน!”“ครั้งนี้พระองค์ไม่เพียงต้องการให้หวังหยวนช่วยปราบปรามอริทางเหนือเท่านั้น แต่ยัง...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง เจี๋ยงโฉ่วอีก็หยุดพูด พร้อมกับเหลือบมองขุนพลน
“ท่านหวังมาแล้วหรือ?”เมื่อหวังหยวนและพรรคพวกเข้ามาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แต่แฝงด้วยความอ่อนแอดังมาจากด้านในไป๋ลั่วหลีรีบเข้าไปในกระโจม เปิดม่านทั้งสองข้าง หวังหยวนจึงเห็นไป๋เหยียนเฟยนอนอยู่บนเตียงอาการของไป๋เหยียนเฟยดูย่ำแย่กว่าที่เขาคิด ไม่เพียงแต่ใบหน้าซีดเผือดเท่านั้น แม้แต่ริมฝีปากไร้สีเลือดฝาด ดูอ่อนแรงมาก!หวังหยวนเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ได้พบกันนาน เหตุใดฝ่าบาทจึงเป็นเช่นนี้?”“ไม่ได้เชิญหมอมารักษาหรือ?”“แค่ก แค่ก”ไป๋เหยียนเฟยไอสองสามครั้ง ไป๋ลั่วหลีช่วยพยุงนางขึ้น นางเงยหน้ามองหวังหยวน แล้วส่ายหน้ายิ้มอย่างจนใจก่อนกล่าวว่า “เมื่อฟ้าลิขิตแล้ว จะทำเช่นไรได้?”“ข้าตามหาหมอมารักษา หมอชื่อดังทั่วดินแดนทั้งเก้าต่างบอกว่าหมดหนทาง บางทีนี่อาจเป็นเจตจำนงของสวรรค์ก็ได้ไม่ใช่หรือ?”“เมื่อสวรรค์ต้องการให้ข้าตาย ข้าจะฝืนได้อย่างไร?”“แต่น่าเสียดาย กลุ่มกบฏทางเหนือกลับบุกอาณาจักรข้า! ประกอบกับอาณาจักรต้าเป่ยต่างจ้องมองพวกข้าอยู่ ข้าจึงให้ไป๋ลั่วหลีไปเชิญท่านมา หวังว่าท่านจะช่วยปราบกบฏพวกนั้นได้!”หวังหยวนรู้สึกสงสารในบรรดาสี่อาณาจักรใหญ่ เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาณาจักรต้าเย่ และ
“ครั้งนี้คงไม่นาน ข้าจะรีบพาทุกคนกลับมา!”“ยิ่งกว่านั้น ยังมีต้าหู่และขุนพลต่งอยู่กับข้าด้วย พวกเจ้าไม่ต้องกังวล”“แค่รออยู่ที่บ้านก็พอ!”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มเขารู้ว่าตนเองรู้สึกผิดต่อพวกนาง แต่บุรุษเกิดมาแล้วย่อมต้องสร้างฐานะไม่ใช่หรือ?สวรรค์ให้โอกาสเขาเกิดใหม่ จึงต้องใช้ความสามารถสร้างความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้!“น้องหรูเยียนยังไม่ค่อยสนิทกับพวกเจ้า ครั้งนี้ข้าจะพานางไปอาณาจักรต้าเย่ก่อน รอให้พวกเรากลับมาแล้วค่อยทำความรู้จักกัน”หลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ ต่างพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีกในเมื่อหวังหยวนตัดสินใจแล้ว พวกนางก็ได้แต่ทำตามภรรยาย่อมต้องเชื่อฟังสามี!“ท่านตงฟาง!”หลังจากพูดคุยกับภรรยาแล้ว หวังหยวนก็มองไปที่ตงฟางฮั่น“หลังจากที่ข้าไปแล้ว ต้องรบกวนท่านและท่านถงช่วยดูแลที่นี่ด้วย”“ข้าได้สั่งเอ้อหู่ ให้เขาเชื่อฟังคำสั่งของพวกท่าน ห้ามกระทำการโดยพลการ!”“เมืองหลิงคือรากฐานของข้า จึงมีความสำคัญยิ่ง ต้องไม่เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นเด็ดขาด!”“คนของอาณาจักรต้าเป่ยจ้องมองพวกเราอยู่ หานเทาพร้อมจะสู้รบกับข้าทุกเมื่อ พวกท่านต้องระวังตัว!”หวังหยวนกำชับหลายครั้งตงฟางฮั่นแ
ทันใดนั้น เสียงไอก็ขัดจังหวะหวังหยวนเขาหันไปมองตามเสียงจึงเห็นตงฟางฮั่นทั้งสองแค่สบตากันก็เข้าใจความคิดของกันและกัน“คุณหนูไป๋”“ข้าขอคิดทบทวนก่อน จึงค่อยให้คำตอบ! วันนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องหนักใจเช่นนี้เลย รอให้ดื่มกันให้หนำใจก่อน แล้วค่อยพูดคุยกันดีกว่า เจ้าว่าเช่นไร?”หวังหยวนให้เกียรติไป๋ลั่วหลีไป๋ลั่วหลีพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะรอฟังข่าวจากท่านหวังเจ้าค่ะ!”เมื่องานเลี้ยงเลิกราและจัดการเรื่องที่พักของไป๋ลั่วหลีแล้ว หวังหยวนก็รีบออกไปข้างนอกพร้อมกับตงฟางฮั่นริมถนน หวังหยวนและตงฟางฮั่นเดินเล่นไปพลางคุยกัน “ท่านตงฟาง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”“ข้าคิดว่าควรส่งกองกำลังไปช่วย!”“ตอนนี้ไม่ใช่ยุคสงคราม โครงการชลประทานทำให้อาณาจักรอื่น ๆ เห็นถึงประโยชน์ เท่าที่ข้ารู้ แม้แต่อาณาจักรต้าเป่ยก็กำลังเร่งสร้างโครงการชลประทานเหมือนกัน!”“ในเมื่อพวกเราสร้างเสร็จก่อน ก็ควรใช้โอกาสนี้ขยายอาณาเขต!”หืม?หวังหยวนเลิกคิ้ว รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย “ท่านตงฟาง ท่านลืมแล้วหรือ ครั้งก่อนที่พวกเราพบกันที่หอหลิวหลี ต่างให้สัญญากันว่าจะไม่ทำสงครามเพื่อให้โลกสงบสุข!”“หากข้ายกทัพตอน
ดูเหมือนว่าเมืองหลิงจะเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในดินแดนทั้งเก้า!ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เป็นที่หมายปองของทุกคน!เมื่อทุกคนกลับถึงบ้านของหวังหยวน พวกหลี่ซื่อหานได้สั่งให้คนเตรียมอาหารไว้แล้ว เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะแล้ว หวังหยวนจึงแนะนำหลิ่วหรูเยียนให้เหล่าภรรยารู้จักพวกนางชินกับเรื่องแบบนี้แล้วบุรุษมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ไม่นานพวกนางก็สนิทสนมกันดั่งพี่สาวน้องสาวเนื่องจากไป๋ลั่วหลีอยู่ที่นี่ด้วย หวังหยวนจึงไม่อาจอยู่พูดคุยกับภรรยาได้ เพราะต้องไปดูแลไป๋ลั่วหลีก่อนเพื่อไม่ให้เสียมารยาทหวังหยวนกลับมานั่งที่โต๊ะ หลังจากดื่มกับไป๋ลั่วหลีสองสามจอกแล้วจึงกล่าวว่า “คุณหนูไป๋เดินทางมาไกล คงไม่ใช่แค่มาขอบคุณข้ากระมัง?”“ตอนนี้เราเป็นสหายกันแล้ว หากเจ้ามีเรื่องอยากปรึกษาก็บอกมาตามตรงเถิด ไม่ต้องอ้อมค้อม! ข้าไม่ใช่คนใจแคบ! หากมีสิ่งใดให้ข้าช่วย ข้าก็ยินดี”หวังหยวนเป็นคนใจกว้างไป๋ลั่วหลีได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าและถอนหายใจเป็นเช่นที่ร่ำลือกันจริง ๆ!หวังหยวนมีสายตาเฉียบแหลม แม้จะอายุยังน้อยแต่ก็มองคนได้ทะลุปรุโปร่ง ไม่มีความคิดใดหลบเลี่ยงสายตาเขาไปได้!“ในเมื่อท
“ทุกท่านดื่มกันเถิด!”“ไม่ต้องสนใจข้า!”“ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ปราบพรรคทมิฬได้เท่านั้น แต่ยังทำให้เมืองอู่เจียงเจริญรุ่งเรือง เส้นทางคมนาคมทางน้ำก็เปิดใช้งานแล้วทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะความร่วมมือของพวกท่าน!”หวังหยวนยกจอกสุราขึ้นดื่มกับทุกคนวันนี้มีสุรา วันนี้ก็เมามาย ช่างรื่นรมย์ยิ่งนัก!เมื่อฟ้าสาง ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ เช้าวันรุ่งขึ้น หวังหยวนออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านต้าหวังภายในค่ำวันนั้น หวังหยวนก็กลับมาถึงหมู่บ้านต้าหวัง“ท่านหวัง! ไม่ได้พบกันนานเลยนะเจ้าคะ!”“กำลังนึกถึงท่านพอดีเลยเจ้าค่ะ!”เมื่อหวังหยวนเข้าเมืองหลิงก็เห็นไป๋ลั่วหลีเดินเข้ามาหาได้พบเพื่อนเก่า หวังหยวนรู้สึกยินดี รีบลงจากม้าเดินไปหาไป๋ลั่วหลี แล้วถามว่า “คุณหนูไป๋มาที่นี่ได้อย่างไร?”“ข้าตั้งใจมาที่นี่เพื่อขอบคุณท่าน!”“หากไม่ใช่เพราะว่าท่านมอบปืนไรเฟิลซุ่มยิงให้ ข้าจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้อย่างไร?”“ยิ่งกว่านั้น ครั้งก่อนที่เมืองอู่เจียง ท่านยังช่วยชีวิตข้าด้วย บัดนี้ข้าหายดีแล้ว จึงต้องมาขอบคุณท่านด้วยตัวเองเจ้าค่ะ!”พี่น้องต้าหู่และเอ้อหู่ได้รออยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองยืนต้อนรับอยู่ข้าง ๆ ด
ทุกคนต่างพยักหน้าแต่ในใจก็รู้สึกอาลัยการได้อยู่เคียงข้างหวังหยวนนับเป็นโชคดี ใครบ้างอยากจากเขาไป?เพราะการได้อยู่ใกล้ชิดหวังหยวนย่อมมีโอกาสก้าวหน้า!แต่น่าเสียดาย ในเมื่อหวังหยวนตัดสินใจเช่นนี้แล้ว พวกเขาได้แต่ทำตาม“ข้าจะไปล่องเรือต่อ!”“พวกท่านกลับเข้าเมืองกันก่อนเถิด!”“งานเลี้ยงเตรียมพร้อมแล้ว เมื่อขึ้นฝั่งก็ไปที่วังของข้า แล้วข้าจะรีบตามไป ไม่ต้องรอพิธีรีตอง!”ทุกคนรับคำ แล้วลงเรือเล็กมุ่งหน้ากลับเมืองอู่เจียง!ทางด้านหวังหยวนก็พาหลิ่วหรูเยียนและต่งอวี่ล่องเรือชมแม่น้ำต่อ“ลั่วเฉินเป็นอย่างไรบ้าง?”“ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ได้ยินว่าเขายังคงปากแข็งได้อีกหรือ?”หวังหยวนมองไปที่ต่งอวี่แล้วถามขึ้นดูเหมือนว่าเขาคงไม่มีวาสนาได้ทรัพย์สมบัติของพรรคทมิฬ จึงเสียเวลามากมายไปโดยเปล่าประโยชน์!“ข้าละอายใจนักขอรับ!”“ข้าตัดนิ้วเขาไปหลายนิ้ว ใช้วิธีทรมานไปมากมาย แต่เขาก็ยังไม่ยอมปริปากพูด เหมือนกับปากทำด้วยเหล็กเลยขอรับ!”“ข้าคิดว่าแม้จะให้เวลาข้าอีกหนึ่งสัปดาห์ ข้าก็คงเปิดปากเขาไม่ได้...”“คนผู้นี้ช่างดื้อรั้นนัก!”ต่งอวี่ถอนหายใจ แต่ก็อดชื่นชมไม่ได้!แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู
“ไม่ใช่เช่นนั้น!”หลิ่วหรูเยียนส่ายหน้า ในเมื่อหวังหยวนซื่อสัตย์กับนาง นางก็ไม่ควรปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองนางจึงเอ่ยขึ้นว่า “ข้ามีใจให้ท่านมานานแล้ว แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใดที่ข้าเริ่มหลงรักท่าน!”“ข้าแค่กลัวว่าคนรอบข้างท่านจะรับข้าไม่ได้!”“เพราะก่อนหน้านี้ข้าทำเรื่องไม่ดีกับท่านไว้มากมาย...”“ซ้ำยังเกือบฆ่าท่านด้วย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวจากใจจริง นี่คือสิ่งที่นางกังวลหวังหยวนหัวเราะ ก่อนส่ายหน้ากล่าวว่า “เจ้าพูดผิดแล้ว! คนรอบข้างข้าล้วนเชื่อฟังข้า จะน่ากลัวอย่างที่เจ้าคิดได้อย่างไร?”“ส่วนภรรยาของข้าไม่ใช่คนชอบสร้างปัญหา ไม่เช่นนั้นข้าจะวางใจปล่อยให้พวกนางอยู่ข้างหลังได้อย่างไร?”“บ้านของข้าจะสงบสุขได้อย่างไร?”หลิ่วหรูเยียนตกตะลึง แต่ก็เป็นเช่นนั้นจริง!หวังหยวนเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก การมีสตรีอยู่รอบกายหลายคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก!ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าหวังหยวนจะไม่ได้เป็นฮ่องเต้ แต่เขาก็มีคุณสมบัติของผู้นำเทียบเท่าฮ่องเต้ทั้งสาม!การมีภรรยาหลายคนจะเป็นอะไรไป?“ในเมื่อท่านไม่รังเกียจ ข้าก็ยินดีอยู่เคียงข้างท่าน!”“เป็นผู้หญิงของท่าน!”หลิ่วหรูเยียนกล่า
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม