ได้ยินเช่นนั้น ต้าหู่ก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง“อืม...หลังจากแก้ไขปัญหานี้แล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วใช่หรือไม่?”ต้าหู่คิดว่าเมื่อโจรเหล่านี้ตกลงว่าจะร่วมมือแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อยดีหวังหยวนยกยิ้ม“จะไม่มีปัญหาได้อย่างไร มีผู้คนมาเป็นกองกำลังอีกมากมาย ข้ายังต้องฝึกพวกเขาอีก จากนี้ไปจะเขาต้องจัดการกับปัญหาอีกมากมายในอนาคต เพราะเราไม่สามารถอยู่ในเมืองสู่ตลอดไปได้”หวังหยวนพูดจบ ต้าหู่ก็เข้าใจใกล้พลบค่ำ โก่วหยาก็กลับมาพร้อมกับผู้คน เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยคราบเลือดเขาขว้างหัวสามหัวลงบนพื้น แล้วพูดทันที “ท่านหวังหยวน ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เหล่าโจรในเมืองสู่จะเชื่อฟังคำสั่งของท่านขอรับ!”เมื่อเห็นเช่นนั้น ดวงตาของหวังหยวนก็เป็นประกาย เขามองโก่วหยาด้วยสายตายากจะคาดเดา!เด็กคนนี้มีพรสวรรค์!แน่นอนว่าไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง!“ไม่เลว!”หวังหยวนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจมาก!“โก่วหยา เจ้าทำได้ดีมาก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจงดูแลกลุ่มโจรในเมืองสู่ ป้องกันตัวเองให้ดี หากวันหนึ่งเกิดปัญหาขึ้น จงรักษาชีวิตตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย แล้วไปบอกข้า ข้าไม่อยากให้เ
“พวกเขาควบคุมเส้นทางสายหลัก คอยเก็บค่าคุ้มครองจากพวกพ่อค้นที่ผ่านทางมา ด้วยราคาสูงจนน่าตกใจ!”“ตราบใดที่จ่ายเงิน ก็จะสามารถขนส่งสินค้าได้อย่างปลอดภัย คาดว่าคนกลุ่มนี้คงทำเงินได้มหาศาลจากการทำเช่นนี้”คำพูดของต้าหู่ทำให้หวังหยวนตกใจไม่คิดเลยว่าตระกูลใหญ่กับโจรจะเป็นกลุ่มเดียวกัน หมายความว่านี่เป็นการก่อกำเนิดห่วงโซ่ขนส่งสินค้าใช่หรือไม่?“พี่หยวน ข้ายังได้ยินมาด้วย ว่ามีอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตระกูลหยางออกอาละวาด และไร้ศีลธรรมได้ถึงเพียงนี้!”หวังหยวนกังวล รีบถามอย่างรวดเร็ว “เอาล่ะ เจ้าหยุดลีลาได้แล้ว รีบบอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น”ต้าหู่ขยับเข้าไปใกล้ ลดเสียงลงกระซิบ “ผู้สนับสนุนที่อยู่เบื้องหลังตระกูลหยาง คือน้องชายของข้าราชการเมืองหยาง!”“ว่าอย่างไรนะ?”เมื่อหวังหยวนได้ยิน สีหน้าของเขาก็กลายเป็นตกตะลึงทันทีปรากฏว่าตระกูลหยางสมรู้ร่วมคิดกับโจรด้วยวิธีเช่นนี้ จึงสามารถควบคุมเส้นทางสายหลักได้อย่างไร้ศีลธรรม สาเหตุที่ตระกูลหยางไม่ถูกกวาดล้างมาหลายปี ก็เพราะพวกเขามีผู้สนับสนุนที่ทรงพลัง อย่างข้าราชการเมืองหยางคอยหนุนหลังอยู่!ไม่แปลกใจเลย!“คุณชาย ตอนนี้เราควรทำอย่างไรกันดี?”ห
“เจ้าค่ะ”ต้าหู่รีบเดินตามหวังหยวนไป ทั้งสองก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าตรงไปบ้านตระกูลหยางเมื่อมาถึงหน้าประตูบ้านตระกูลหยาง หวังหยวนก็เดินไปที่ประตู แล้วเคาะประตูเบา ๆไม่นาน ชายชราวัยห้าสิบก็เปิดประตูออกมา“พวกท่านไม่คุ้นหน้า ขอถามได้หรือไม่ว่าพวกท่านมาจากที่ใดกัน?”คนพูดคือพ่อบ้านตระกูลหยาง เขามองหวังหยวนด้วยความสับสน พิจารณาจากเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่“ท่านผู้เฒ่า ข้าชื่อหวังหยวน วันนี้ข้าต้องการเข้าพบหัวหน้าตระกูลหยาง โปรดแจ้งให้ข้าด้วย”ชายชราพยักหน้า ยิ้มอย่างสุภาพแล้วพูดว่า “ทราบแล้วขอรับ เช่นนั้นกรุณารอที่ประตูสักครู่”ชายชราหันหลังเดินเข้าไปในห้องโถงที่หยางอู่ตวนอยู่“นายท่าน มีชายผู้หนึ่งอ้างว่าชื่อหวังหยวนต้องการเข้าพบขอรับ”“หวังหยวนหรือ?”เมื่อหยางอู่ตวนได้ยินชื่อนั้น นัยน์ตาของเขาก็ฉายแววจริงจังทันที เขาวางถ้วยชาในมือลง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ไม่ให้พบ”“ขอรับ นายท่าน”ก่อนที่พ่อบ้านจะออกไป เขาก็ได้ยินหยางอู่ตวนพูดอีกครั้ง “ช่างเถอะ พาพวกเขาไปรอในห้องโถงใหญ่”“บอกว่าข้ามีเรื่องต้องจัดการ ให้พวกเขารอสักครู่ หากชาหมดก็ให้เติมเรื่อย ๆ จนกว่าพวกเขาจะจากไป”
“ต่อให้ภรรยาจะคลอดบุตร แต่ก็ควรรู้ว่าเป็นการปล่อยให้แขกที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยมานั่งรอนานถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงไม่แวะมาหาแขกก่อนล่ะ?”หวังหยวนวางถ้วยชาลง ส่ายหน้าเบา ๆ เแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ข้าเดาว่า เราคงไม่ได้พบหัวหน้าตระกูลหยางในวันนี้”“เหตุใดกัน?”หลี่ซื่อหานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อมองหวังหยวน ก็เห็นสีหน้าที่แสดงออกว่า ‘ข้าเดาได้ตั้งนานแล้ว’“หากเขาต้องการพบเรา คงไม่มีข้อแก้ตัวมากมายถึงเพียงนี้”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วพูดกับทุกคน “เอาล่ะ เราจะกลับไปกันก่อน วันนี้ท่านหยางคงไม่ออกมาพบพวกเรา”ต้าหู่ยังคงดูไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดินตามออกไปทันทีที่ทุกคนก้าวออกไป ก็เห็นพ่อบ้านเฒ่ารีบเข้ามาหาอย่างกระตือรือร้นเขาพูดกับทุกคนด้วยรอยยิ้มสุภาพบนใบหน้า “ต้องขออภัยทุกท่านด้วย จู่ ๆ เจ้านายของพวกข้ารู้สึกไม่สบายขอรับ”“เขาเพิ่งทำงานเสร็จ แล้วรู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อยจึงกลับไปพักผ่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษา จึงไม่อาจมาพบท่านได้ ต้องขออภัยด้วย”ต้าหู่มีสีหน้าไม่พอใจ ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็เห็นหวังหยวนส่ายหน้าเบา ๆ“เช่
หยางอู่ตวนไม่ได้โกรธ แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามของลูกชายตามตรง เขาถามกลับว่า“ลูกพ่อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าระหว่างทางมาที่นี่ หวังหยวนทำอะไรไปบ้าง?”หลังจากที่หยางอู่ตวนพูดจบแล้ว หยางถิงก็คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่าหวังหยวนกำลังสร้างเส้นทางการค้าบางอย่าง นี่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีขอรับ”“ถูกต้อง ถือได้ว่าเป็นเรื่องดี บอกพ่อสิว่ามันดีอย่างไร?”หยางอู่ตวนถามอีกครั้งหยางถิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ผลประโยชน์ขอรับ วิธีนี้จะทำให้เราเก็บค่าคุ้มครองได้มากขึ้นขอรับ”หยางอู่ตวนพยักหน้า “ใช่แล้ว เจ้าพูดถูก เราจะได้รับค่าคุ้มครองเพิ่มขึ้นแน่นอน”“แต่มันยังไม่เพียงพอ เพียงเพราะค่าคุ้มครอง พ่อไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น”หยางถิงไม่เข้าใจว่าพ่อของเขาจะสื่ออะไร แต่เขาก็ยังถาม“ท่านพ่อ ยังมีความหมายลึกซึ้งอะไรอีกหรือขอรับ?”หยางถิงพูดจบ หยางอู่ตวนก็พยักหน้า“แน่นอนว่าพ่อแค่ต้องการแสดงให้เขาเห็น ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาเข้าใจได้ว่า มันไม่ง่ายเลยที่จะร่วมมือกับเรา การต่อรองราคาก็จะเป็นเรื่องง่าย”“หวังหยวนผู้นี้เป็นเศรษฐี หากไม่ฆ่าก็จะไม่ถูกฆ่า”หลังจากที่หยางอู่ตวนพูดจบ หยางถิงก็ตกต
แม้หยางถิงจะรู้ว่าหวังหยวนเป็นอัจฉริยะด้านธุรกิจ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าหวังหยวนมีสินค้าอะไรบ้างเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้เขาก็ตกใจเล็กน้อย!สิ่งเหล่านี้ช่างดีจริง ๆ!แต่ละอย่างขายดีมาก!“สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่หวังหยวนต้องการจะขาย นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาเปิดเส้นทางการค้าด้วย”“ลูกพ่อ เจ้ารู้หรือไม่ว่าของพวกนี้ทำกำไรได้เท่าใด?”หยางถิงย่อมเข้าใจสิ่งที่หยางอู่ตวนจะสื่อสิ่งเหล่านี้หาได้ยาก“โดยเฉพาะแก้วคริสตัลนี้ ดูเนื้อสัมผัสสิ ช่างพิเศษเหลือเกิน! หวังหยวนมีความสามารถในการสร้างอะไรเช่นนี้จริง ๆ!”“นี่เป็นสิ่งที่คนรวยหลายคนชอบ มันมีค่ามาก หากควบคุมมูลค่าตลาดได้ คงจะทำเงินได้มหาศาล”หยางอู่ตวนพูดจบ ก็มองหยางถิง ลูกชายของเขาด้วยรอยยิ้มหยางถิงเข้าใจทันทีว่าพ่อของเขาหมายความว่าอย่างไร!หลังจากใช้เวลาอยู่นาน เขาก็เกิดความคิดขึ้นมา!หวังหยวนต้องการขายสินค้าเหล่านี้ ผ่านเส้นทางสายหลักเส้นนี้พวกเขาก็สามารถเรียกค่าคุ้มครองได้ แต่จะได้เท่าใดกันเชียว?มันไม่มีค่าเท่าสิ่งเหล่านี้!“ท่านพ่อขอรับ ท่านต้องการ...”หยางถิงพูดจบ หยางอู่ตวนก็หัวเราะทันที“ใช่แล้ว หากสิทธิ์ในการขายสินค้า
หลังจากที่หูเมิ่งอิ๋งพูดจบ หวังหยวนก็พยักหน้าแต่หวงเจียวเจียวก็พูดทันที “พวกเขาเอาแต่ใจมากเช่นนี้ จะร่วมมือกับพวกเขาได้อย่างไร!”แม้ว่าหลี่ซื่อหานจะเข้าใจความหมายของหูเมิ่งอิ๋ง แต่นางก็พยักหน้าและพูดว่า “ข้าเกรงว่าการร่วมมือกับพวกเขานั้น ไม่ง่ายเลย!”หวังหยวนหัวเราะอีกครั้ง มองสตรีทั้งสามแล้วพูดว่า “พวกเขาไม่ได้มองหาผลกำไรอันน้อยนิดจากค่าคุ้มครองหรอก”พูดจบ หลี่ซื่อหานและหวงเจียวเจียวก็นิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว“สามี ท่านหมายความว่าพวกเขาสนใจสินค้าของเราหรือเจ้าคะ?”หลี่ซื่อหานถามทันทีหวังหยวนพยักหน้า “แน่นอน ค่าคุ้มครองเป็นรายได้เท่าใดกันเชียว แต่หากพวกเขาสามารถขายสินค้านี้ได้ พวกเขาก็จะทำเงินได้มหาศาล”หลี่ซื่อหานตกใจ อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เช่นนั้น ตระกูลหยางก็จงใจทำเรื่องยุ่งยากให้แก่สามี เพียงเพราะต้องการแสดงอำนาจ เพื่ออำนวยความสะดวกในความร่วมมือในอนาคตหรือเจ้าคะ?”หวังหยวนพ่นลมหายใจ “ใช่ อย่างน้อยนั่นก็คือการคาดเดาของข้า”แต่หวงเจียวเจียวกลับพูดอย่างไม่พอใจ “ความร่วมมือก็คือความร่วมมือสิ ใช้วิธีเช่นนี้ ช่างหน้าซื่อใจคดยิ่งนัก”เมื่อได้ยินเช่น
หูเมิ่งอิ๋งก็เห็นด้วยเช่นกัน “ด้วยวิธีนี้ เราก็มีสิทธิเริ่มดำเนินการครอบครองได้!” หลังจากที่สตรีทั้งสามพูดจบ หวังหยวนก็หัวเราะทันที “ฮ่าฮ่าฮ่า มีภรรยาเช่นนี้ สามีอย่างข้าก็ไม่ขออะไรอีก พวกเจ้าสมกับที่เป็นภรรยาของข้าจริง ๆ!” หวังหยวนมีความสุขมาก สตรีทั้งสามคนสามารถคิดเรื่องเหล่านี้ได้ ซึ่งทำให้เขาพอใจมากจริง ๆ! หากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ พวกนางก็สามารถช่วยตัวเองในเส้นทางของการทำกิจการในอนาคตได้ แน่นอนว่าหวังหยวนพูดสิ่งเหล่านี้และสอนพวกนาง ไม่เพียงแต่ให้พวกนางช่วยเขาเท่านั้น แต่ยังให้พวกนางเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองอีกด้วย สตรีทั้งสามคนต่างก็มีความสุขมาก ใบหน้าสวยของพวกนางแดงก่ำ และรู้สึกเขินอายเล็กน้อย “ข้า...ข้ายังไม่ได้ตกลงแต่งงานกับท่านเลย” หวงเจียวเจียวอายมากจนนางอดไม่ได้ที่จะกระซิบพูดเบา ๆ ก่อนที่หวังหยวนจะเอ่ยปากพูด หลี่ซื่อหานเม้มริมฝีปากของนางแล้วยิ้ม “เอาน่าน้องหวง เจ้าบอกว่า แม้ว่าท่านพี่จะไม่กลับมาทั้งชีวิตนี้ เจ้าก็จะไม่แต่งงานกับใครอีก” “ข้าก็ได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน” หูเมิ่งอิ๋งที่อยู่ด้านข้างก็เข้าร่วมการสนทนาด้วย “ไอหย๊า พวกท่านอย่าล้อเลียนข้าเลยนะ ท