แชร์

บทที่ 884

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อหวังหยวนพูดจบ ก็กวาดสายตามองคนอื่น โดยไม่รอให้หัวหน้าเผ่าใหญ่พูดต่อ

“พวกเจ้าทั้งหลาย หวังหยวนผู้นี้เป็นคนเช่นไร พวกเจ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นอะไร หากพวกเจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด ที่น่าจะสังหารหัวหน้าเผ่าอาวุโส ข้าก็จะไม่ตำหนิพวกเจ้า!”

“แต่ว่า... หากข้าสังหารเขาจริง ข้าคงไม่รออยู่ที่นี่ให้พวกเจ้ามาฆ่าหรอก!”

“ชีวิตข้านั้นไม่สำคัญ แม้จะต้องสละชีวิตให้แก่หัวหน้าเผ่าอาวุโสก็ตาม แต่... พวกเจ้าอยากปล่อยฆาตกรให้ลอยนวลจริงหรือ?”

“วันนี้ข้าต้องสอบสวนเรื่องนี้ สอบสวนทุกคน อย่างที่ข้าได้พูดไปแล้ว ใครที่ไม่ได้สังหารท่านหัวหน้าเผ่าอาวุโส ย่อมไม่กลัวการถูกสอบสวน หากกังวลว่าจะถูกสอบสวน ต้องมีอะไรปิดบังไว้ในใจแน่!”

หวังหยวนมองทุกคน

บางทีอาจเป็นเพราะเขาดูมีอำนาจมากไป หรือบางทีหวังหยวนอาจพูดด้วยความจริงใจเพียงพอ หลายคนที่เคยมองหวังหยวนด้วยสายตาสงสัย ก็คลายความสงสัยลงมาก!

หัวหน้าเผ่ารองและหัวหน้าเผ่าสามก็พยักหน้า

“หวังหยวนพูดถูก ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ เช่นนั้นเรามาดูกันว่าจะใครกันแน่ที่เป็นฆาตกรตัวจริง!”

“แต่หวังหยวน เหตุใดเจ้าถึงอยากตรวจสอบหัวหน้าเผ่าใหญ่กับพวกเราล่ะ? เจ้าคิดว่าคนในเผ่าไท่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 885

    ไม่เช่นนั้น วันนี้คงต้องฝ่าฟันการปิดล้อมนี้ออกไป ถึงแม้จะหนีไปได้ ก็เกรงว่าต้าหู่จะต้องอยู่จัดการที่นี่ชนเผ่าไท่ถ่ามีจำนวนหลายร้อยคน ต้าหู่จะเอาชนะพวกเขาได้อย่างไร!อีกทั้งพวกเขายังไม่รู้ด้วยว่า อาวุธชิ้นนี้ของเขามีกระสุนราวสิบสองนัดเท่านั้น ตอนนี้เหลือเพียงเจ็ดหรือแปดนัดแล้วหากถูกรุมโจมตี ต้องตายแน่!แต่โชคดีที่เทคโนโลยีไม่เท่ากัน ทำให้ยังควบคุมสถานการณ์ตรงหน้าได้ และมีโอกาสหลบหนีไปได้!ต้าหู่และสมาชิกเผ่าไท่ถ่าสองคนหายเข้าไปไม่ถึงห้านาที ต้าหู่ก็กลับออกมาด้วยสีหน้าเย้ยหยัน“พวกเจ้าลองดูสิ!”พูดจบ ก็ทิ้งกองจดหมายลงบนพื้นทั้งหมดนี้เป็นจดหมายระหว่างหัวหน้าเผ่าใหญ่กับผู้บัญชาการใหญ่!ชายผู้นี้ประมาทมากจนไม่ได้เผาหลักฐานเช่นนี้ด้วยซ้ำ!แท้จริงแล้วเขาจะประมาทก็ไม่แปลก เพราะจดหมายพวกนี้ถือว่าเป็นของมีค่า เขายังต้องการใช้จดหมายเหล่านี้ แสวงหาผลประโยชน์จากผู้บัญชาการใหญ่อยู่!แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำให้ชื่อเสียงและเกียรติยศของตนถูกทำลาย!หัวหน้าเผ่ารองและหัวหน้าเผ่าสามหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปมาก!“เจ้าคนสารเลว! เดรัจฉาน!”พวกเขาโกรธจัดทันที ไม่คาดคิดว่าหัวหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 886

    หวังหยวนกับต้าหู่ควบม้าไปข้างหน้า ขณะเดียวกัน ผู้บัญชาการใหญ่เหมิงคั่วก็ได้รับข่าวแล้ว!หัวหน้าเผ่าใหญ่ของเผ่าไท่ถ่าล้มเหลว ทั้งยังทำให้ผู้คนรู้ว่าพวกเขามีความเกี่ยวพันกันอีก!เรื่องนี้ทำให้เหมิงคั่วโกรธมาก!“ไม่ได้เรื่อง! เปล่าประโยชน์อะไรเช่นนี้!”เหมิงคั่วโกรธจนหน้าเขียว เรื่องง่าย ๆ กลับกลายเป็นเรื่องยุ่งเหยิง!ยิ่งกว่านั้น ยังเปิดโปงเขาอีก!หากเป็นเช่นนี้ จะไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นหรือ?หวังหยวนรู้แล้วว่าเขาจะโจมตี จะต้องเตรียมรับมือแล้วเป็นแน่!ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังแกว่งเท้าหาเสี้ยน!เดิมทีอ๋องหมานอี๋ก็สงสัยในตัวเขาอยู่แล้ว เขาไม่ต้องการทำตัวเด่นชัดเกินไปนึกว่าสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ใครจะคิดว่ามันจะออกมาเป็นเช่นนี้!“ผู้บัญชาการใหญ่ เราควรทำอย่างไรดีขอรับ? ไม่เช่นนั้น... ก็แค่ส่งกองทัพไปสังหารเขาซะ!”คนสนิทที่อยู่ด้านข้างรีบพูด เมื่อพูดจบ เหมิงคั่วก็ขมวดคิ้ว ในตอนนี้เขาเองก็อยากส่งกองทัพไปสังหารหวังหยวนมาก!แต่ถึงจะอยากทำเช่นนั้นในตอนนี้ ก็ทำไม่ได้อยู่ดี!หากทำเช่นนั้นจริง ๆ จะเป็นโอกาสให้อ๋องหมานอี๋ได้กำจัดเสี้ยนหนามที่อยู่ข้างกายออกไป!ถึงตอนนั้น ตระกูลเซิ่งก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 887

    “ท่านพ่อ แต่หวังหยวนผู้นี้ไม่ได้มีค่าสำหรับราชวงศ์ต้าเย่ ต้าเย่จะยอมต่อสู้กับหมานอี๋เพราะเขาหรือขอรับ?”ทั้งสองไม่เข้าใจ คิดไม่ตกเซิ่งฟางสี่ยิ้มเยาะอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พ่อบอกแล้วว่าในโลกนี้ ผลประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ไม่มีความเกลียดชังอย่างแท้จริง ไม่มีความรังเกียจที่แท้จริง!”“ตราบใดที่ผลประโยชน์สามารถขับเคลื่อนไปได้ จากสงครามก็แปรเปลี่ยนเป็นสันติภาพได้ แม้แต่ความเกลียดชังก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความรักใคร่สมัครสมานได้!”คำพูดนี้อาจฟังดูเหมือนจะผิด แต่หากวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง!ในโลกนี้ไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวร!อย่างน้อย เซิ่งฟางสี่ก็ไม่มี!“พวกเจ้าคงจะสับสนสินะ ครั้งก่อนในราชสำนัก หวังหยวนถูกปฏิบัติเหมือนเป็นคนถูกทอดทิ้ง และถูกส่งไปเป็นทูต ฮ่องเต้ซิงหลงยังบอกอีกว่าเขาจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ ดังนั้นพ่อเชื่อว่าราชสำนักจะไม่สนใจว่าหวังหยวนจะอยู่หรือตาย!”“แต่พวกเจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ ว่าพวกพ้องของหวังหยวนจะทำเช่นไร หากหวังหยวนตายด้วยน้ำมือของหมานอี๋จริง?”“หากไม่เหลืออะไรแล้ว ทหารและพวกโจรเหล่านั้น จะต้องล้างแค้นให้หวังหยวนใช่หรือไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 888

    เซิ่งฟางสี่ออกเดินทางอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มาถึงตำหนักของเสียนกุ้ยเฟยใบหน้าของเซิ่งฟางสี่เคร่งขรึมมาก หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “น้องรอง ถึงเวลาที่เราต้องดำเนินการแล้ว”“ตระกูลไป๋ได้ดำเนินการไปแล้ว หากเราไม่รีบดำเนินการตามแผน ปล่อยให้ตระกูลไป๋ยึดครอง โอกาสในการชนะของเราก็จะหายไปหมดสิ้น!”เซิ่งฟางสี่มองเสียนกุ้ยเฟยด้วยท่าทางลนลาน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า “น้องรอง เราไม่อาจล่าช้าได้อีกต่อไปแล้ว”“พรุ่งนี้เช้า เจ้าต้องหาทางวางยาพิษฝ่าบาทให้จงได้”“ยา... ยาพิษหรือเจ้าคะ?”เสียนกุ้ยเฟยเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก นางกระซิบด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล “เรา... เราต้องทำเช่นนี้จริงหรือ ไม่มีทางอื่นเลยหรือเจ้าคะ?”“ไม่มี!”เซิ่งฟางสี่พูดเสียงแผ่วเบา “ข้าบอกเจ้าเรื่องการเดิมพันครั้งนี้ชัดเจนแล้ว หากเจ้าไม่ทำและพลาดโอกาสครั้งนี้ สิ่งที่รอเราอยู่ก็คือความตาย!”“คนทั้งตระกูลของเราจะต้องตาย เจ้าอยากเห็นชีวิตทั้งชีวิตของหย่งเอ๋อร์ ถูกทำลายด้วยมือของเจ้าหรือ?”คำพูดของเซิ่งฟางสี่ ทำให้ใบหน้าของเสียนกุ้ยเฟยเริ่มไม่สบายใจอีกครั้งหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 889

    “หม่อมฉันไม่ได้เรียกหาหมอหลวงเพคะ...”ก่อนที่เสียนกุ้ยเฟยจะพูดจบ นางก็เห็นสีหน้าฮ่องเต้ดูจริงจังขึ้นทันที ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “เหลวไหล!”“เรื่องร้ายแรงถึงเพียงนี้ เจ้าจะไม่เรียกหาหมอหลวงได้อย่างไร เรียกหมอหลวงเดี๋ยวนี้!”เมื่อได้ยินดังนั้น เสียนกุ้ยเฟยก็จับมือฮ่องเต้ไว้ทันที แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ฝ่าบาท พระองค์เสด็จมาที่นี่เพื่อพบหม่อมฉัน หม่อมฉันก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้วเพคะ”“หากพระองค์ประสงค์ที่จะอยู่กับหม่อมฉันที่นี่ คงดีกว่าหมอหลวงหรือยาดีใด ๆ มากเพคะ”เสียนกุ้ยเฟยมองฮ่องเต้ด้วยสายตาอ่อนโยนราวกับสายน้ำ แล้วพูดเบา ๆ“ฮ่าฮ่า ที่แท้ก็ป่วยเพราะคิดถึงข้านี่เอง เอาเถิด คืนนี้ข้าจะอยู่กับเจ้าที่นี่ก่อน แล้วค่อยกลับ”นัยน์ตาของเสียนกุ้ยเฟยฉายแววกังวล แม้จะยิ้มแย้มอยู่ก็ตาม แม้ว่าแผนของนางจะสำเร็จ แต่นางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่เสมอวันรุ่งขึ้นฮ่องเต้เสด็จออกไปแต่เช้าตรู่เสียนกุ้ยเฟยใส่ยาที่เซิ่งฟางสี่มอบให้นางในมื้อเช้าของฮ่องเต้ วิธีนี้จะช่วยไม่ให้ฮ่องเต้ประชวรทันที เมื่ออยู่ในตำหนักของนาง ความสงสัยก็จะมุ่งไปยังผู้อื่นแทนตามที่คาดไว้ภายในเพียงวันครึ่ง พระพักตร์ของฮ่องเต้ก็เริ่มหมองคล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 890

    หวังหยวนไม่ได้ล่วงรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้ ขณะเดียวกัน เขาก็มาถึงนอกเมืองหลวงของหมานอี๋แล้ว!หมานจิ้งรออยู่ไม่ไกลนัก“องค์หญิง ในที่สุดเราก็ได้พบกันแล้ว!”เมื่อหวังหยวนเห็นหมานจิ้ง ก็พูดด้วยรอยยิ้มทันทีพูดจบ หมานจิ้งก็หัวเราะ แล้วพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่าท่านไม่เป็นปกติสุขตลอดทาง โชคดีที่ท่านปลอดภัยมาจนถึงเมืองหลวงได้”หวังหยวนหัวเราะ “ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมเกรงว่าเมืองหลวงแห่งนี้จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป!”หมานจิ้งเม้มปาก แล้วพูดว่า “อย่ากังวลไปเลย คราวนี้พวกเราหมานอี๋ ไม่ได้สนใจสถานะทางการของท่าน หากท่านต้องการให้พวกเขาสร้างสันติภาพ ท่านคงต้องพยายามอย่างหนัก!”ทันทีที่พูดจบ หวังหยวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “พระเชษฐาของพระองค์ ช่างทุ่มเทใช้กลอุบายสุดตัวเสียจริง!”หมานจิ้งกะพริบตาโตน่ารัก แล้วอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พูดเช่นนั้นได้อย่างไร?”“พระเชษฐาของพระองค์ เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นอ๋องหมานอี๋ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะเหล่าทหารเก่าของพระบิดาท่าน ทุกคนย่อมมีสิทธิ์ที่จะพูด”“เมื่อเขาขึ้นเป็นอ๋ององค์ใหม่ ย่อมไม่ง่ายเลยที่จะล่วงเกิน จึงให้ข้าไปปราบปรามคนเหล่านั้นให้ เป็นการวางกลยุท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 891

    โดยปกติแล้ว นักการทูตต่าง ๆ ล้วนมีคณะทูตอย่างน้อยก็สิบคน แต่ตอนนี้หวังหยวนทั้งสองคนมาถึงที่นี่ แน่นอนว่าเป็นการยั่วยุให้พวกเขาไม่พอใจ! ในสายตาของพวกเขา แสดงให้เห็นว่าต้าเย่นี้ไม่ได้มองพวกเขาอยู่ในสายตา! หวังหยวนยิ้มและกล่าวว่า “คนจำนวนมากไม่ได้แปลว่าเคารพ ยิ่งกว่านั้น เหตุใดต้าเย่ของข้าต้องมองหมานอี๋ไว้ในสายด้วยเล่า?” ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที! “ช่างกล้านัก! พูดจาสาวหาว อย่าคิดว่าเพียงเพราะท่านเป็นทูตแล้วเราจะไม่กล้าฆ่าท่าน!” เมื่อหวังหยวนได้ยินสิ่งนี้ เขาก็หัวเราะทันที “ฆ่าข้า? เช่นนั้นก็ลงมือฆ่าข้าเถอะ หากมันมีประโยชน์ต่อหมานอี๋อย่างพวกท่าน เช่นนั้นหัวของข้าก็จะเป็นของท่าน” “เพียงแต่น่าเสียดายที่การฆ่าข้าไม่มีประโยชน์อะไรต่อพวกท่านเลย ผู้อาสุโสท่านนี้ ท่านก็อายุมากแล้ว อย่าอารมณ์เสียง่าย ๆ เลย นี่จะแสดงให้เห็นว่าท่านป่วยทางจิตเท่านั้น” หวังหยวนไม่สุภาพ หลังจากพูดจบ ใบหน้าของชายชราก็เปลี่ยนไปน่าเกลียด! แน่นอนว่าเขาฟังออกว่าชายหนุ่มคนนี้พูดจาประชดประชัน ว่าเขาเป็นคนแก่หัวร้อนที่ไม่มีอำนาจในเมือง! “หวังหยวน ท่านพูดจาเฉียบคมจริง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 892

    หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ชายชราก็อยากจะพูดต่อ แต่กลับถูกหวังหยวนต่อต้านกลับ! “ท่านคิดว่าเมืองหวงร่วมมือกับหมานอี๋ของพวกท่าน เพื่อบุกโจมตีต้าเย่ของเราหรือ?” “ไม่พูดถึงว่าจะสู้ศึกชนะได้หรือไม่ พวกท่านเคยคำนวณหรือไม่ว่าต้องใช้ทหารจำนวนเท่าใดในการบุกโจมตีต้าเย่ของเรา?” “หากคำนวณเช่นนี้ล่ะก็ ไม่สู้เราร่วมมือกับเมืองหวงเพื่อกำจัดหมานอี๋อย่างพวกท่านให้ราบคาบ” “ใช้เวลาไม่มาก ต้าเย่ของเราก็สามารถยกดินแดนหมานอี๋สองในสามส่วนให้กับเมืองหวงแล้ว ข้าเชื่อว่าเมืองหวงจะเห็นด้วยอย่างแน่นอน!” หวังหยวนพูดโดยตรง แต่ทันใดนั้นใบหน้าของชายคนนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดง และเขารู้สึกโกรธเล็กน้อยและพูดอย่างหนักแน่นว่า “พวกเราก็สามารถยกดินแดนของต้าเย่สองในสามส่วนให้กับเมืองหวงได้เช่นกัน!” แต่หลังจากพูดเช่นนี้จบ หวังหยวนก็ยิ้มอย่างมีความสุขมากขึ้น! “ไร้สาระ! พวกท่านคิดจะสู้ศึกกับต้าเย่ของเราจริงหรือ? เช่นนั้นก็ดี มาดูกันว่าเมืองหวงจะช่วยต้าเย่ของเรา หรือจะช่วยหมานอี๋ของพวกท่าน!” หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เขาก็ทำท่าทางจะเดินออกไป “คุณชายหวังหยวน มันเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น เหตุใดท่านถึงต้องจริงจังด้วยเล่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1888

    ทันใดนั้นซูหนานอันก็รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ร่างกายเสียหลักทรุดลงคุกเข่ากับพื้น...“ท่าน...”“ท่านคือหวังหยวน!”ชื่อเสียงของหวังหยวนเลื่องลือไปทั่วหล้า!แม้เขาจะไม่เคยพบหน้าหวังหยวน แต่ก็รู้จักอาวุธลับที่หวังหยวนใช้!เพราะทั่วทั้งใต้หล้านี้ไม่มีอาวุธเช่นนี้อีกแล้ว!ซูหนานอันเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าเหตุใดคนของตระกูลเฉินจึงรีบรุดมาช่วยเหลือราวกับสุนัขรับใช้!ที่แท้ก็เพื่อเอาใจหวังหยวนนี่เอง...บัดนี้เฉินเจิ้นหนานแทบอยากจะตบหน้าตนเอง เหตุใดเขาจึงโง่งมถึงเพียงนี้!“เจ้าหนุ่ม สิ่งนั้นมันอะไรกัน?”“ประทัดหรือ?”ซูอวิ่นอู่ไม่ได้สังเกตเห็นท่าทีของพ่อ กลับชี้หน้าหวังหยวนแล้วพูดขึ้นคนของตระกูลซูหลายคนต่างหัวเราะเยาะหัวเราะไปเถิด ให้เจ้าหัวเราะให้เต็มที่!“อีกสักพักเจ้าจะร้องไห้กันไม่ทัน!”เฉินเทียนสบถในใจ“บังอาจ!”“หุบปากเน่า ๆ ของเจ้าเดี๋ยวนี้!”“เจ้ามันช่างไร้ประโยชน์ รีบคุกเข่าขอขมาท่านหวังเดี๋ยวนี้!”ซูหนานอันตวาดซูอวิ่นอู่ เหตุใดเขาจึงมีลูกชายโง่เขลาเช่นนี้?ไม่เห็นหรือว่าเขากำลังคุกเข่าอยู่!ยังกล้าพูดจาอวดดีกับหวังหยวน ช่างไม่รู้จักกลัวตายเอาเสียเลย!“ท่านพ่อ ท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1887

    ทว่าเฉินเจิ้นหนานไม่ได้สนใจซูหนานอัน กลับรีบวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางประจบสอพลอนี่เป็นโอกาสอันดี!หากสามารถสร้างความสัมพันธ์กับหวังหยวนได้ ประกอบกับการกระทำอันอุกอาจของตระกูลซู ต่อไปในเมืองอู่เจียง เขาย่อมเหนือกว่าตระกูลซู!เปรียบได้กับปลากระโดดลงน้ำเลยทีเดียว!เฉินเจิ้นหนานจะไม่รู้จักฉวยโอกาสเช่นนี้ได้อย่างไร?“เฉินเจิ้นหนาน!”“ท่านไม่ได้ยินที่พ่อข้าพูดหรือไร?”“เหตุใดต้องแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอด!”ซูอวิ่นอู่เห็นเฉินเจิ้นหนานเมินเฉยต่อพ่อของตนจึงตะโกนด้วยความโกรธแม้แต่ตงฟางฮั่นที่ยืนอยู่ข้างหวังหยวนก็เกือบหลุดหัวเราะ ทั้งเฉินเจิ้นหนานและซูหนานอันล้วนเป็นวีรบุรุษแห่งยุค!เขารู้จักทั้งสองคนเป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งคนทั้งสองต่างสร้างฐานะของตระกูลขึ้นมาด้วยสองมือของตนเอง ทั้งยังไต่เต้าขึ้นมาจนมีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!น่าเสียดาย...แม้สุภาษิตจะกล่าวว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น แต่ทายาทของพวกเขากลับเทียบไม่ได้กับบรรพบุรุษ!ไม่สิ!ต้องบอกว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว!“ซูอวิ่นอู่!”“ที่ผ่านมาข้าอดทนกับเจ้าก็มากพอแล้ว วันนี้เจ้ายังกล้าด่าทอพ่อข้าต่อหน้าข้าอีกหรือ?”“เจ้าคนสารเลว!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1886

    ซูหนานอันผ่านพบผู้คนมากมาย ย่อมมีวิจารณญาณที่แตกต่างจากคนทั่วไปขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น หวังหยวนก็เอื้อมมือไปตบบ่าเขา กิริยาเช่นนี้ทำให้พี่น้องตระกูลซูต่างไม่พอใจ“ช่างบังอาจ!”“รีบเอามือสกปรกของเจ้าออกไปเดี๋ยวนี้!”ซูอวิ่นอู่ขึ้นชื่อเรื่องความบุ่มบ่ามอยู่แล้ว ผู้คนในเมืองอู่เจียงต่างรู้ถึงนิสัยใจร้อนของเขา แม้แต่บุตรหลานของอีกสามตระกูลใหญ่ก็ยังไม่กล้าต่อกรกับเขาซึ่งหน้าด้วยซ้ำไม่เพียงแต่มีนิสัยใจร้อนเท่านั้น เขายังมีพละกำลังมหาศาล มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ชายธรรมดาที่จะเข้าใกล้เขาได้ แม้แต่คนสี่ห้าคนก็ยังเข้าใกล้ได้ยาก!ช่างเป็นตัวปัญหายิ่งนัก!“เจ้าจำข้าไม่ได้จริงหรือ?”หวังหยวนจ้องมองซูหนานอัน แม้จะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ก็แผ่รังสีความกดดันที่มองไม่เห็นออกมา!ซูหนานอันส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่สมองกลับครุ่นคิดอย่างหนัก พยายามนึกถึงใบหน้าของหวังหยวน...แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าเคยพบเจอหวังหยวนที่ใดมาก่อน!“ตระกูลซูของเจ้านี่ช่างน่าเกรงขามนัก”“คนที่ไม่รู้คงนึกว่าเมืองอู่เจียงนี้ตกเป็นของตระกูลซูเข้าแล้ว”หวังหยวนพึมพำกับตนเองซูหนานอันยิ่งงุนงง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1885

    “หากไม่อยากตายก็หลีกทางให้ข้า”หวังหยวนเป่าควันดำที่ลอยขึ้นจากปืนคาบศิลา ทอดสายตามองคนทั้งสองอย่างเย็นชาองครักษ์เฝ้าประตูทั้งสองสบตากัน ก่อนจะรีบหลีกทางให้หวังหยวนด้วยความหวาดหวั่น จะกล้าขวางทางต่อไปได้อย่างไร?เพราะพวกเขาไม่เคยพบเห็นอาวุธลับที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน!หากถูกอาวุธนี้เล่นงานคงต้องสิ้นชีพอย่างแน่นอน...หวังหยวนและตงฟางฮั่นเดินเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลซูอย่างองอาจ ในชั่วพริบตา ทั้งสองก็มาถึงลานกว้างภายในคฤหาสน์เสียงดังจากหน้าประตูทำให้ผู้คนในตระกูลซูแตกตื่น ทุกคนต่างกรูกันออกมา ขณะนี้พวกเขากำลังยืนล้อมรอบลานบ้าน ใบหน้าบึ้งตึงหวังหยวนและตงฟางฮั่นถูกล้อมไว้ทุกทิศทาง“ให้หัวหน้าตระกูลของพวกเจ้าออกมาพบข้า”หวังหยวนกล่าวเสียงเรียบครู่ต่อมาฝูงชนก็แยกออกเพื่อเปิดทาง เผยให้เห็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมหรูหราเดินออกมาจากด้านหลังแม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ก็ยังคงมีสง่าราศีน่าเกรงขามชายผู้นั้นกวาดสายตามองหวังหยวน ก่อนจะเอ่ยปากอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงบังอาจบุกรุกคฤหาสน์ตระกูลซู”“หรือเจ้าอยากรนหาที่ตาย?”ข้างกายซูหนานอันมีชายหนุ่มสองคนยืนอยู่ บุตรชายทั้งสองของเขาต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1884

    สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปยังตงฟางฮั่นพลางเอ่ยถามขึ้นแม้เขาจะได้รับฟังเรื่องราวของเมืองอู่เจียงจากเกาเล่อมาบ้าง แต่ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นในเมืองอู่เจียงมีสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลซูล้วนรวมอยู่ในนั้น!แม้ทั้งสองตระกูลไม่ใช่ตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!“ท่านหวังทราบหรือไม่ว่าตระกูลซูทำธุรกิจด้านใด?”ตงฟางฮั่นเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า“ข้าได้ยินเกาเล่อรายงานว่าตระกูลซูทำธุรกิจขนส่งทางบก”“ว่ากันว่าในอดีต ซูหนานอัน หัวหน้าตระกูลซู เริ่มต้นจากการใช้รถเข็นสามล้อ แล้วค่อย ๆ สร้างฐานะขึ้นมา”“ต่อมาตระกูลซูก็เจริญรุ่งเรืองจนมีอำนาจดังเช่นทุกวันนี้”ทันใดนั้นหวังหยวนก็ตบหน้าผากตนเองอย่างแรง ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกธุรกิจขนส่งทางบก!หากมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ผลประโยชน์ของตระกูลซูย่อมเสียหาย พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ต้องการขัดขวางโครงการนี้มากที่สุด!“ท่านตงฟางช่างเฉียบแหลมนัก!”หวังหยวนเอ่ยชมตงฟางฮั่นส่ายหน้ากล่าวว่า “บัดนี้ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูกต้องหรือไม่”“แต่ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นถึงเจ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1883

    “ข้าคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรพิจารณาว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไปขัดผลประโยชน์ของผู้ใด”“หากไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ อีกฝ่ายคงไม่ลงมือเช่นนี้”“เช่นนั้นพวกเราก็จะพบเป้าหมายได้โดยเร็ว”สมแล้วที่ตงฟางฮั่นเป็นบุคลากรที่ใคร ๆ ก็ต้องการ คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนรู้สึกกระจ่าง!“เช่นนั้นเอง”“ตอนนี้พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่ม!”“กลุ่มแรกให้ฉุนอวี๋อันไปสืบหาตัวคนที่แอบเข้าใกล้บ่อน้ำเมื่อคืน!”“เพื่อตามหาตัวคนวางยา แล้วเค้นถามข้อมูลจากมันให้ได้!”“อีกกลุ่มหนึ่งต้องไปสืบในเมือง ดูว่าใครได้รับผลกระทบ ก็จะทำให้เรามุ่งเป้าหมายได้ถูกต้อง!”“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลอบขวัญชาวบ้าน หากไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะอ้างเรื่องศาลเจ้ามังกรแล้วหยุดการทำงาน!”“เช่นนั้นจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า!”ความคิดของหวังหยวนตรงกับคนอื่น ๆเพราะแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำเพื่อให้เมืองอู่เจียงพัฒนาจากนั้นก็จะสามารถพัฒนาเมืองหลิงได้!“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก!”“ที่จริงข้าพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร”“ไม่ทราบว่าท่านหวังจะไปกับข้าหรือไม่?”ตงฟางฮั่นมองหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1882

    ช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!สิ่งที่เรียกว่าศรัทธาและเทพเจ้าก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็ไม่มีสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไป หากมีเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริง เหตุใดจึงมีผู้คนอดอยากยากไร้อยู่ทั่วทุกหนแห่ง?“ไร้สาระ!”หวังหยวนตำหนิ ฉุนอวี๋อันจึงไม่กล้าพูดต่อ“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”“หรือไม่ทุกคนติดโรคระบาดจึงเป็นเช่นนี้!”“รอข้าไปถึงแล้วค่อยว่ากัน!”หวังหยวนหลับตา ไม่พูดกับฉุนอวี๋อันอีกเพื่อไม่ให้ตนเองโมโหฉุนอวี๋อันงุนงง เขาเคยได้ยินชื่อโรคมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องโรคระบาดมาก่อน!หรือจะเป็นโรคประหลาด?เมื่อเห็นหวังหยวนไม่สนใจ เขาก็เช็ดเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบไม่นานพวกหวังหยวนก็มาถึงเขตก่อสร้าง ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างมามุงดู สถานที่แห่งนี้ช่างคึกคักทางด้านตงฟางฮั่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างตงฟางฮั่นเห็นหวังหยวนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นเดินไปหาหวังหยวน“ท่านตงฟาง ข้าได้ยินเรื่องที่นี่แล้วจึงรีบมา”“ท่านมาก่อน พบเบาะแสอะไรหรือไม่?”ตงฟางฮั่นส่ายหน้า พลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้าให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1881

    ยามตะวันโด่งฟ้า หวังหยวนกับภรรยายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ“ท่าน!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”“ท่านรีบออกมาเถิดขอรับ!”เสียงของฉุนอวี๋อันเต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเคาะประตูไม่หยุดปกติฉุนอวี๋อันเป็นคนรอบคอบ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนเสมอด้วยเหตุนี้ฉุนอวี๋อันจึงถูกมองว่าอ่อนแอ ไร้ความสามารถ เมืองอู่เจียงไม่เคยได้รับการจัดการอย่างดี และสี่ตระกูลใหญ่ก็มีอำนาจอยู่เหนือเขา!วันนี้เขากลับกล้ามาหาหวังหยวนถึงห้อง ทั้งยังมารบกวนการนอนของพวกเขา แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ!หวังหยวนค่อย ๆ ยืดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูมองไปที่ฉุนอวี๋อันเมื่อเห็นเขามีสีหน้าร้อนรนก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”อย่างไรเสียฉุนอวี๋อันก็เคยเป็นผู้ว่าราชการเมือง จึงจำเป็นต้องสงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว แม้ภูผาจะถล่มก็ตามไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา ฉุนอวี๋อันจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!แต่น่าเสียดายที่ฉุนอวี๋อันไม่ได้รับการฝึกฝน!โชคดีที่เขาเห็นข้อนี้ จึงให้ฉุนอวี๋อันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1880

    “ต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว”เกาเล่อรีบพยักหน้า“อีกอย่าง”“เจ้าไปเมืองผีครั้งนี้ต้องระวังตัวด้วย”“คำพูดของหลิ่วหรูเยียนเชื่อได้ แต่ก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมด”“เมืองผีอาจไม่ใช่สถานที่ที่เราจะอยู่ได้ง่าย ๆ...”“หากพบเจอเรื่องยุ่งยากก็ปรึกษาข้าได้ตลอด อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม!”หวังหยวนกำชับอีกสองสามประโยคเกาเล่อเป็นมือขวาของเขา เขาย่อมไม่อยากให้เกาเล่อเป็นอันตราย ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากบ่ายวันนั้น เกาเล่อเดินทางไปเมืองผีด้วยตัวเองส่วนหวังหยวนก็กลับไปที่พักหลี่ซื่อหานรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนเดินเข้ามา นางก็ยิ้มหวานเดินเข้ามาหา แล้วควงแขนหวังหยวนขณะกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านกำลังทำอยู่ในช่วงนี้”“จะรับอนุภรรยาอีกแล้วหรือ?”หวังหยวนถึงกับหน้าเสียใครปากมาก เอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่ซื่อหาน?ที่เขาไปหอนางโลมนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสถานการณ์บ้านเมืองต่างหาก!“ในสายตาเจ้า ข้าเป็นผู้ชายที่เห็นผู้หญิงแล้วอดใจไม่ได้หรือ?”หวังหยวนจิบชา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์หลี่ซื่อหานยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน แต่คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของท่าน อาจทำให้เกิด

DMCA.com Protection Status