แชร์

บทที่ 819

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หวังหยวนมีความสุขมาก มีอุดมการณ์เดียวกันไม่ต้องพูดอะไรมากก็เข้าใจแล้ว ตอนนี้พวกเขาทุกคนมีความคิดเช่นเดียวกันแล้ว หวังหยวนก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก!

เรื่องนี้วิเคราะต่อกันอีกเล็กน้อย หวังหยวนก็ได้ตัดสินใจแล้ว!

"นายท่าน เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อครอบครองต้าเย่ด้วยกัน!"

จ้าวป๋อเซี่ยวตื่นเต้นมาก แม้ว่าเซี่ยซานหู่และหงเยี่ยไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ แต่พวกเขาก็เชื่อในตัวหวังหยวน และยินดีที่จะร่วมแผนการกับหวังหยวน!

“ทั้งหมดก็เพื่อการป้องกันตัวเอง สำหรับตำแหน่งนายท่านนั้น ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก”

หวังหยวนยิ้มและกล่าวว่า

แต่หลังจากพูดจบ จ้าวป๋อเซี่ยวก็รีบส่ายหน้า

“ไม่หรอก... แผนการทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานของนายท่าน ทุกอย่างล้วนเดินหน้าได้เพราะนายท่าน หากไม่มีท่าน เราก็คงไม่มีความมั่นใจ!”

จ้าวป๋อเซี่ยวไม่คิดอย่างนั้น!

หากไม่มีหวังหยวน พวกเขาก็จะยังระส่ำระสาย ไม่สามารถรวมตัวได้!

เขาภักดีต่อเหลิ่งอวิ๋นในวันนั้นเพราะเรื่องนี้

น่าเสียดายที่เหลิ่งอวิ๋นคลั่งไคล้ในอิสตรีเกินไป และไม่ฉลาดพอ แม้ว่าเขาจะมีทักษะวรยุทธ์สูงส่ง แต่ก็ไม่มีประโยชน์!

ตรงข้ามกับหวังหยวน ให้ความสำคัญกับศีลธรรมและค
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
อ่านข้ามไปเยอะ ไม่ได้อ่านตอนนี้เลยด่าพระเอกเอาๆ แล้วน้องจ้าวลูกพี่ลูกน้องของพระเอกละหายไปไหน ไม่เห็นเอ่ยถึง หรือเอ่ยถึงแต่อ่านผ่านๆเลยลืมไป แล้วน้องจ้าวจะได้เป็นเมียพระเอกไหมเห็นแอบชอบพระเอกอยู่
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 820

    วันรุ่งขึ้น เมื่อหวังหยวนตื่นขึ้นมา ผู้หญิงทั้งสามคนก็เตรียมอาหารไว้แล้วหวังหยวนมาที่โต๊ะอาหารโดยตรงแล้วนั่งลง หลี่ซื่อหานและหูเมิ่งอิ๋งยกอาหารมา และหวงเจียวเจียวตักข้าวให้หวังหยวนกินหลังจากรับประทานอาหารแล้ว หลี่ซือหานก็หยิบสมุดบัญชีออกมาวางลงบนโต๊ะ และเริ่มแนะนำรายได้แต่ละอย่าง“ท่านพี่ กำไรจากน้ำตาลคริสตัลและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เราขายในหลิงโจวนั้นดีมาก เราทำเงินได้มากมายทีเดียว”หวังหยวนพยักหน้า แม้ว่ายอดขายน้ำตาลคริสตัลจะไม่ดีนัก แต่เขาก็ยังต้องคิดหาวิธีอื่นให้เร็วที่สุดเพื่อทำเงินได้มากขึ้น“หากเราต้องการขยายธุรกิจของเราในอนาคต เราต้องหากำลังพลทหาร และสำรองทองคำและหาเงินให้มากขึ้น”“ไม่อย่างนั้น จากสถานการณ์รายได้ของเราในปัจจุบัน เกรงว่ามันจะไม่เพียงพอ”“คุณชายหวัง ตอนนี้เราทำอะไรได้อีกบ้าง? วิเคราะห์ศึกษาช่องทางขายอื่น ๆ ได้หรือไม่?”หวงเจียวเจียวถามอย่างสงสัย“เอ่อ ข้ายังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย”หวังหยวนส่ายหน้า ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ และรีบถามทันที "ใช่แล้ว ได้เอาถังใส่น้ำที่มีกลิ่นฉุนนั้นกลับมาไหม?"ในนั้นมีทองซ่อนอยู่มากมาย ถ้าเขาเอามันกลับมาไม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 821

    หวังหยวนตบถังน้ำแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่เป็นโชคลาภความมั่งคั่งของเรา เราต้องซ่อนมันไว้ให้ดี”“ขอโทษนะ คุณชายหวัง ข้ารู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อย...”หวังหยวนที่พูดได้ครึ่งนึง จู่ ๆ เขาก็เห็นว่าหูเมิ่งอิ๋งหน้าซีดมาก นางขมวดคิ้วกุมท้องของนาง และรีบวิ่งออกไปทันที“เป็นอะไรไป?”หวังหยวนดูสับสนเล็กน้อยเมื่อได้เห็นเช่นนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะถามทั้งสองสาวด้วยความประหลาดใจหลี่ซือหานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ พลางส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ช่วงนี้น้องหูมีประจำเดือนมา นางมักจะทรมานจากอาการปวดท้องจนทนไม่ไหวเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของหวังหยวนก็สว่างปิ้งขึ้นทันทีนี่อาจเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างรายได้!เมื่อผู้หญิงในสมัยโบราณมีประจำเดือน พวกเขาจะใช้เพียงผ้าธรรมดาผืนเดียวซึ่งลำบากมาก นอกจากนี้ยังต้องแอบซักตากให้แห้ง และเคลื่อนไหวมากไม่ได้อีกด้วย!ถ้าทำผ้าอนามัยเอง จะหาเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากการผลิตมันได้หรือไม่นะ?นอกจากนี้ วัตถุดิบในการทำของเหล่านี้ก็ไม่แพงมาก หากซื้อจำนวนมาก อาจได้ในราคาถูกลงมา!นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างรายได้!ดังนั้นหวังหยวนจึงเขียนรายการสิ่งของอย่างอื่นทันที นำรถเข็นทองคำออ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 822

    หวังหยวนหัวเราะ ยุคของเขาของพวกนี้เป็นของพื้นเพธรรมดามาก ๆ นี่เป็นของพื้นฐานสำหรับผู้หญิง!มันเป็นเพียงของใช้สำหรับช่วงเวลาพิเศษเท่านั้น!ถ้าหูเมิ่งอิ๋งไม่ปวดท้องกะทันหัน เรื่องประจำเดือนที่ช่วยเตือนสติตัวเอง เขาก็คงไม่คิดถึงเรื่องนี้เลย!หูเมิ่งอิ๋งกระพริบตา แต่ก็เข้าไปในบ้านเพื่อเปลี่ยน เมื่อนางออกมาก็รู้สึกตื่นเต้นมาก!สิ่งนี้...สะดวกมากเลย!พอดีกับร่างกายมาก!โดยเฉพาะกางเกงทรงพิเศษ นี่เป็นสิ่งที่นางไม่เคยสัมผัสมาก่อนแม้จะแน่นกระชับอยู่บ้าง แต่ก็ยังสบายมาก!“นี่... สิ่งนี้เกินไป... สะดวกเกินไปแล้ว…”หลังจากที่หูเมิ่งอิ๋งออกมาก็ประหลาดใจมาก และไปพูดคุยกับหลี่ซือหานและหวงเจียวเจียวต่อคนยุคนี้ไม่เคยใช้ของแบบนี้ ย่อมพูดได้เลยว่าสะดวกสบายมากเป็นธรรมดา“ท่านพี่คิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้อย่างไร... ท่าน... ท่านเป็นผู้ชาย ท่านทำของที่ผู้หญิงใช้ที่วิเศษแบบนี้ได้อย่างไร…”หลี่ซือหานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและพูดออกมาหวังหยวนก็หัวเราะเช่นกัน เดิมที่ของพวกนี้เขาไม่ใช่คนสร้างออกมา แต่เป็นผลงานในยุคนั้น หลังจากที่หลาย ๆ คนถกเถียงวิจารณ์กันมาก็ไม่มีปัญหา!“ก็...มันก็แค่จินตนาการไปเรื่อยน่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 823

    หลังจากพูดจบ หญิงสาวชุดม่วงก็หัวเราะเช่นกัน“หวังหยวนเป็นคนที่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ แต่ข้าไม่รู้ว่าคนที่มีความสามารถเช่นนี้จะเต็มใจที่จะอยู่ใต้ชายคาของคนอื่นหรือเปล่านี่สิ!”ไป๋เฟยเฟยเองก็เข้าใจสิ่งที่หญิงสาวชุดม่วงพูดโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากประสบกับเหตุการณ์นี้ นิสัยของหวังหยวนย่อมต้องเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา และทุกอย่างก็แปรผันได้!“อย่างไรก็ตาม หวังหยวนอยากมาพบจริง ๆ เรามาพบกันสักครั้งเถอะ ดูสิว่าเขาคุยอะไร ยิ่งไปกว่านั้น ข้าอยากไปหมู่บ้านต้าหวังอีกด้วย ครั้งสุดท้ายที่เห็นหมู่บ้านต้าหวัง ข้ายังรู้สึกประหลาดใจอยู่เลย!”“นอกจากนี้ คราวนี้ก็มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย!”หลังจากที่ไป่เฟยเฟยพูดจบ ก็ออกเดินทางทันทีที่นี่หวังหยวนได้รับจดหมายและหัวเราะเพียงเล็กน้อย รอให้ไป่เฟยเฟยและคนอื่น ๆ มาถึงขณะเดียวกัน ที่วังหลวงต้าเย่ สีพระพักตร์จักรพรรดิซิงหลงดำมืดมาก เขาอยากจับหวังหยวนกลับมาจริง ๆ แต่เขารู้ว่าทำแบบนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการตบหน้าตัวเองเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อีกด้วย!เดิมทีหากจับหวังหยวนได้ เขาโดนวิพากษ์วิจารณ์นิดหน่อยก็ไม่สำคัญ อย่างน้อยเขาก็ควบคุมหวังหยวนเอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 824

    หยางเฟิ่งกั๋วก็พยักหน้าด้วยคำพูดของเป้าชิงสื่อ นั่นคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น!ความคิดของแคว้นหมางนั้นเรียบง่ายมาก วิธีที่ง่ายที่สุดในการรวบรวมอำนาจของพวกเขา คือการเข้าสู่สงครามการใช้สงครามระหว่างแคว้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจภายในราชสำนัก ในขณะเดียวกันก็ใช้แรงกดดันของราชสำนักหวงเพื่อเจรจาสงบศึก อย่างน้อยมีความเสี่ยงที่มณฑลซูโจวจะถูกกองทหารรุกรานชิงดินแดน!จักรพรรดิซิงหลงสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “ในกรณีนี้ เราจะแก้ไขปัญหาแคว้นหมางได้อย่างไรดี?”ในเวลานี้หยางเฟิงกั๋วพูดขึ้นมาว่า “แคว้นหมางไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าเงิน เมื่อเราเจรจาสงบศึกก็ไม่จำเป็นต้องยกดินแดนให้พวกเขา เราสามารถเปิดเส้นทางการค้าได้ แม้ว่ามันจะไม่ทำกำไรสำหรับเรา แต่พวกเขาก็ถือว่าได้รับผลประโยชน์มากมาย!”“อ๋องน้อยขึ้นเป็นกษัตริย์อาจไม่มั่นคง และอาจแอบวางแผนเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ ในอนาคตได้พ่ะย่ะค่ะ!”หยางเฟิ่งกั๋วยิงเข้าประเด็น หลังจากพูดจบจักรพรรดิซิงหลงก็พยักหน้า“ถ้าเช่นนั้นให้ส่งทูตไปที่นั่นเถอะ เจ้ามีใครแนะนำบ้าง”จักรพรรดิซิงหลงถามออกไปเป้าชิงสื่อยิ้มและกล่าวว่า "ฝ่าบาท แน่นอนว่าคือหวังหยวนพ่ะย่ะค่ะ ชายคนนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 825

    หวังหยวนหัวเราะและเชิญพวกเขานั่งลง แล้วพูดอย่างใจเย็น “ถ้าน้องไป๋ชอบ ข้าให้สิ่งนี้กับเจ้าได้นะ”แค่แก้วชิ้นเดียว ในโกดังยังมีเก็บอีกเยอะ!หวังหยวนยังไม่ได้นำมันไปประมูลด้วยซ้ำ!ไป๋เฟยเฟยที่ได้ยินก็ตกใจเล็กน้อยของชิ้นนี้มีราคาอย่างน้อยสองสามร้อยตำลึงทอง การยกให้เขานั้นมันออกจะฟุ่มเฟือยเกินไป“ครั้งก่อนบุญคุณของน้องไป๋ ข้ารู้สึกขอบคุณในความมีน้ำใจของเจ้าเสมอ ข้าเคยบอกไปแล้วว่าข้าติดหนี้บุญเจ้ามาก ไม่ต้องพูดถึงโต๊ะคริสตัลตัวเล็ก ๆ นี้เลย ไม่ว่าโต๊ะคริสตัลกี่โต๊ะก็ไม่สำคัญ!”หวังหยวนรู้สึกซาบซึ้งใจจริง ๆ หากไม่ใช่เพราะนาง หลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ ก็คงไม่ได้กลับไปที่หมู่บ้านต้าหวังอย่างปลอดภัยเช่นเดียวกับที่เขาว่าไว้ โต๊ะคริสตัลธรรมดา ๆ นับว่าเป็นอะไรได้!"ฮ่าฮ่าฮ่า พี่หวังเป็นคนที่มีคุณธรรมจริง ๆ ข้าขอนับถือ แต่...พี่หวังยังจำได้ใช่ไหมว่าตอนที่เจ้าไป เจ้าบอกว่าเจ้าจะให้โอกาสตระกูลไป๋ข้า!"ไป๋เฟยเฟยยังไม่ลืมเรื่องนี้ สิ่งที่นางต้องการมากที่สุด คือให้หวังหยวนเข้าร่วมกับตระกูลไป๋!เพียงแต่...ถ้าหวังหยวนไม่มีแผนอื่น บางทีเขาอาจจะเข้าร่วมได้ แต่ตอนนี้เกรงว่าเขาจะไม่สามารถเข้าร่วมตร

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 826

    หวังหยวนรู้ซึ้งถึงความจริงข้อหนึ่ง!มีเงินทองมากมายแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์!แค่เปลี่ยนความมั่งคั่งนี้ให้กลายเป็นความแข็งแกร่งเท่านั้น เราถึงจะปกป้องความมั่งคั่งไว้!ตอนนี้เขาเริ่มวางแผนให้เกาเล่อเตรียมการเรื่องหน่วยข่าวกรองลับแล้ว แม้ว่าเรื่องนี้จะยาก แต่หวังหยวนก็ยังไม่คิดใช้งานหน่วยข่าวกรองลับในตอนนี้สำหรับลุงหานซานและโรงฝึกยุทธ์ของเขา การรับสมัครหาคนที่ไว้ใจได้ พวกเขาไม่ได้กังวลเป็นพิเศษเรื่องเร่งด่วนเดียวก็คือเงิน!เพราะการมีเงินมากพอเท่านั้น ถึงจะสร้างสมบัติได้มากขึ้นเรื่อย ๆ!สำหรับกองกำลังอื่น ๆ กองกำลังที่ทรงพลังที่สุดที่เขาสามารถใช้ได้ก็คือหุบเขาชิงหลง ที่มีโจรทั้งหมดสองหมื่นคนหวังหยวนวางแผนที่จะสร้างชุดเกราะอย่างเรียบง่าย เพื่อใช้เสริมกำลังด้วยวิธีนี้ ถึงต้องรับมือกับเรื่องต่าง ๆ ก็ยังพอมีโอกาสที่จะปกป้องตัวเองได้!หลังจากได้ยินที่หวังหยวนพูด ไป๋เฟยเฟยก็หายใจเข้าลึก และพยักหน้า“ข้าจะพยายามทำให้ดีที่สุด แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้นก็ไม่อาจแน่ใจได้”“พี่หวัง วันนี้ข้ามาที่นี่ ข้ามีอีกเรื่องจะบอกเจ้า!”ในตอนนั้น ไป่เฟยเฟยก็พูดขึ้นทันทีหลังจากพูดแบบนี้ หวังหยวนก็นิ่งอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 827

    ไป๋เฟยเฟยมองออกทันทีเลยว่าหวังหยวนกำลังคิดอะไร และหัวเราะอีกครั้ง“พี่หวังคงรู้สึกว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมใช่ไหม?”หวังหยวนพยักหน้า “ใช่ ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าทำไม”ไป๋เฟยเฟย หายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน ท่านป้าของข้าให้กำเนิดองค์ชายห้า!”“ตอนนี้องค์ชายใหญ่อายุได้สิบขวบแล้ว ในบรรดาพี่น้องทั้งสี่ของเขา คนสุดท้องเป็นทารกจากตระกูลไป๋ของข้า และคนโตมีอายุแค่ห้าขวบเท่านั้นเอง!”“เดิมทีตระกูลเซิงอยากจะรอสักสองสามปี แต่เมื่อท่านป้าของข้าให้กำเนิดองค์ชายคนนี้ และมีสิทธิ์กลายเป็นรัชทายาท ตระกูลเซิงจึงต้องกังวลอยู่แล้ว!”คำพูดของไป๋เฟยเฟยชัดเจนมาก หวังหยวนก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด!ตระกูลเซิงไม่รีบร้อน นั่นเป็นเพราะว่าฮองเฮาไม่มีลูกชาย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รีบร้อนเป็นธรรมดา นอกจากนี้พี่น้องคนอื่น ๆ ยังอายุน้อยกว่า เช่นเดียวกัน หยงเอ๋อร์คนนี้ก็ฉลาดหลักแหลมจริง ๆดังนั้นจึงไม่มีอะไรให้ต้องกังวล!แต่ในเมื่อลูกสาวของตระกูลไป๋ที่เป็นฮองเฮาคนปัจจุบันมีลูกชาย สถานการณ์ก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!ตำแหน่งกษัตริย์ส่วนใหญ่มักจะสืบทอดมาจากบุตรชายของฮองเฮา แม้ว่าจะมีข้อยกเว้น แต่

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1888

    ทันใดนั้นซูหนานอันก็รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ร่างกายเสียหลักทรุดลงคุกเข่ากับพื้น...“ท่าน...”“ท่านคือหวังหยวน!”ชื่อเสียงของหวังหยวนเลื่องลือไปทั่วหล้า!แม้เขาจะไม่เคยพบหน้าหวังหยวน แต่ก็รู้จักอาวุธลับที่หวังหยวนใช้!เพราะทั่วทั้งใต้หล้านี้ไม่มีอาวุธเช่นนี้อีกแล้ว!ซูหนานอันเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าเหตุใดคนของตระกูลเฉินจึงรีบรุดมาช่วยเหลือราวกับสุนัขรับใช้!ที่แท้ก็เพื่อเอาใจหวังหยวนนี่เอง...บัดนี้เฉินเจิ้นหนานแทบอยากจะตบหน้าตนเอง เหตุใดเขาจึงโง่งมถึงเพียงนี้!“เจ้าหนุ่ม สิ่งนั้นมันอะไรกัน?”“ประทัดหรือ?”ซูอวิ่นอู่ไม่ได้สังเกตเห็นท่าทีของพ่อ กลับชี้หน้าหวังหยวนแล้วพูดขึ้นคนของตระกูลซูหลายคนต่างหัวเราะเยาะหัวเราะไปเถิด ให้เจ้าหัวเราะให้เต็มที่!“อีกสักพักเจ้าจะร้องไห้กันไม่ทัน!”เฉินเทียนสบถในใจ“บังอาจ!”“หุบปากเน่า ๆ ของเจ้าเดี๋ยวนี้!”“เจ้ามันช่างไร้ประโยชน์ รีบคุกเข่าขอขมาท่านหวังเดี๋ยวนี้!”ซูหนานอันตวาดซูอวิ่นอู่ เหตุใดเขาจึงมีลูกชายโง่เขลาเช่นนี้?ไม่เห็นหรือว่าเขากำลังคุกเข่าอยู่!ยังกล้าพูดจาอวดดีกับหวังหยวน ช่างไม่รู้จักกลัวตายเอาเสียเลย!“ท่านพ่อ ท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1887

    ทว่าเฉินเจิ้นหนานไม่ได้สนใจซูหนานอัน กลับรีบวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางประจบสอพลอนี่เป็นโอกาสอันดี!หากสามารถสร้างความสัมพันธ์กับหวังหยวนได้ ประกอบกับการกระทำอันอุกอาจของตระกูลซู ต่อไปในเมืองอู่เจียง เขาย่อมเหนือกว่าตระกูลซู!เปรียบได้กับปลากระโดดลงน้ำเลยทีเดียว!เฉินเจิ้นหนานจะไม่รู้จักฉวยโอกาสเช่นนี้ได้อย่างไร?“เฉินเจิ้นหนาน!”“ท่านไม่ได้ยินที่พ่อข้าพูดหรือไร?”“เหตุใดต้องแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอด!”ซูอวิ่นอู่เห็นเฉินเจิ้นหนานเมินเฉยต่อพ่อของตนจึงตะโกนด้วยความโกรธแม้แต่ตงฟางฮั่นที่ยืนอยู่ข้างหวังหยวนก็เกือบหลุดหัวเราะ ทั้งเฉินเจิ้นหนานและซูหนานอันล้วนเป็นวีรบุรุษแห่งยุค!เขารู้จักทั้งสองคนเป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งคนทั้งสองต่างสร้างฐานะของตระกูลขึ้นมาด้วยสองมือของตนเอง ทั้งยังไต่เต้าขึ้นมาจนมีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!น่าเสียดาย...แม้สุภาษิตจะกล่าวว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น แต่ทายาทของพวกเขากลับเทียบไม่ได้กับบรรพบุรุษ!ไม่สิ!ต้องบอกว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว!“ซูอวิ่นอู่!”“ที่ผ่านมาข้าอดทนกับเจ้าก็มากพอแล้ว วันนี้เจ้ายังกล้าด่าทอพ่อข้าต่อหน้าข้าอีกหรือ?”“เจ้าคนสารเลว!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1886

    ซูหนานอันผ่านพบผู้คนมากมาย ย่อมมีวิจารณญาณที่แตกต่างจากคนทั่วไปขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น หวังหยวนก็เอื้อมมือไปตบบ่าเขา กิริยาเช่นนี้ทำให้พี่น้องตระกูลซูต่างไม่พอใจ“ช่างบังอาจ!”“รีบเอามือสกปรกของเจ้าออกไปเดี๋ยวนี้!”ซูอวิ่นอู่ขึ้นชื่อเรื่องความบุ่มบ่ามอยู่แล้ว ผู้คนในเมืองอู่เจียงต่างรู้ถึงนิสัยใจร้อนของเขา แม้แต่บุตรหลานของอีกสามตระกูลใหญ่ก็ยังไม่กล้าต่อกรกับเขาซึ่งหน้าด้วยซ้ำไม่เพียงแต่มีนิสัยใจร้อนเท่านั้น เขายังมีพละกำลังมหาศาล มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ชายธรรมดาที่จะเข้าใกล้เขาได้ แม้แต่คนสี่ห้าคนก็ยังเข้าใกล้ได้ยาก!ช่างเป็นตัวปัญหายิ่งนัก!“เจ้าจำข้าไม่ได้จริงหรือ?”หวังหยวนจ้องมองซูหนานอัน แม้จะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ก็แผ่รังสีความกดดันที่มองไม่เห็นออกมา!ซูหนานอันส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่สมองกลับครุ่นคิดอย่างหนัก พยายามนึกถึงใบหน้าของหวังหยวน...แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าเคยพบเจอหวังหยวนที่ใดมาก่อน!“ตระกูลซูของเจ้านี่ช่างน่าเกรงขามนัก”“คนที่ไม่รู้คงนึกว่าเมืองอู่เจียงนี้ตกเป็นของตระกูลซูเข้าแล้ว”หวังหยวนพึมพำกับตนเองซูหนานอันยิ่งงุนงง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1885

    “หากไม่อยากตายก็หลีกทางให้ข้า”หวังหยวนเป่าควันดำที่ลอยขึ้นจากปืนคาบศิลา ทอดสายตามองคนทั้งสองอย่างเย็นชาองครักษ์เฝ้าประตูทั้งสองสบตากัน ก่อนจะรีบหลีกทางให้หวังหยวนด้วยความหวาดหวั่น จะกล้าขวางทางต่อไปได้อย่างไร?เพราะพวกเขาไม่เคยพบเห็นอาวุธลับที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาก่อน!หากถูกอาวุธนี้เล่นงานคงต้องสิ้นชีพอย่างแน่นอน...หวังหยวนและตงฟางฮั่นเดินเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลซูอย่างองอาจ ในชั่วพริบตา ทั้งสองก็มาถึงลานกว้างภายในคฤหาสน์เสียงดังจากหน้าประตูทำให้ผู้คนในตระกูลซูแตกตื่น ทุกคนต่างกรูกันออกมา ขณะนี้พวกเขากำลังยืนล้อมรอบลานบ้าน ใบหน้าบึ้งตึงหวังหยวนและตงฟางฮั่นถูกล้อมไว้ทุกทิศทาง“ให้หัวหน้าตระกูลของพวกเจ้าออกมาพบข้า”หวังหยวนกล่าวเสียงเรียบครู่ต่อมาฝูงชนก็แยกออกเพื่อเปิดทาง เผยให้เห็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมหรูหราเดินออกมาจากด้านหลังแม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ก็ยังคงมีสง่าราศีน่าเกรงขามชายผู้นั้นกวาดสายตามองหวังหยวน ก่อนจะเอ่ยปากอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงบังอาจบุกรุกคฤหาสน์ตระกูลซู”“หรือเจ้าอยากรนหาที่ตาย?”ข้างกายซูหนานอันมีชายหนุ่มสองคนยืนอยู่ บุตรชายทั้งสองของเขาต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1884

    สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปยังตงฟางฮั่นพลางเอ่ยถามขึ้นแม้เขาจะได้รับฟังเรื่องราวของเมืองอู่เจียงจากเกาเล่อมาบ้าง แต่ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นในเมืองอู่เจียงมีสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลซูล้วนรวมอยู่ในนั้น!แม้ทั้งสองตระกูลไม่ใช่ตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!“ท่านหวังทราบหรือไม่ว่าตระกูลซูทำธุรกิจด้านใด?”ตงฟางฮั่นเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า“ข้าได้ยินเกาเล่อรายงานว่าตระกูลซูทำธุรกิจขนส่งทางบก”“ว่ากันว่าในอดีต ซูหนานอัน หัวหน้าตระกูลซู เริ่มต้นจากการใช้รถเข็นสามล้อ แล้วค่อย ๆ สร้างฐานะขึ้นมา”“ต่อมาตระกูลซูก็เจริญรุ่งเรืองจนมีอำนาจดังเช่นทุกวันนี้”ทันใดนั้นหวังหยวนก็ตบหน้าผากตนเองอย่างแรง ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกธุรกิจขนส่งทางบก!หากมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ผลประโยชน์ของตระกูลซูย่อมเสียหาย พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ต้องการขัดขวางโครงการนี้มากที่สุด!“ท่านตงฟางช่างเฉียบแหลมนัก!”หวังหยวนเอ่ยชมตงฟางฮั่นส่ายหน้ากล่าวว่า “บัดนี้ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูกต้องหรือไม่”“แต่ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นถึงเจ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1883

    “ข้าคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรพิจารณาว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไปขัดผลประโยชน์ของผู้ใด”“หากไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ อีกฝ่ายคงไม่ลงมือเช่นนี้”“เช่นนั้นพวกเราก็จะพบเป้าหมายได้โดยเร็ว”สมแล้วที่ตงฟางฮั่นเป็นบุคลากรที่ใคร ๆ ก็ต้องการ คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนรู้สึกกระจ่าง!“เช่นนั้นเอง”“ตอนนี้พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่ม!”“กลุ่มแรกให้ฉุนอวี๋อันไปสืบหาตัวคนที่แอบเข้าใกล้บ่อน้ำเมื่อคืน!”“เพื่อตามหาตัวคนวางยา แล้วเค้นถามข้อมูลจากมันให้ได้!”“อีกกลุ่มหนึ่งต้องไปสืบในเมือง ดูว่าใครได้รับผลกระทบ ก็จะทำให้เรามุ่งเป้าหมายได้ถูกต้อง!”“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลอบขวัญชาวบ้าน หากไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะอ้างเรื่องศาลเจ้ามังกรแล้วหยุดการทำงาน!”“เช่นนั้นจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า!”ความคิดของหวังหยวนตรงกับคนอื่น ๆเพราะแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำเพื่อให้เมืองอู่เจียงพัฒนาจากนั้นก็จะสามารถพัฒนาเมืองหลิงได้!“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก!”“ที่จริงข้าพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร”“ไม่ทราบว่าท่านหวังจะไปกับข้าหรือไม่?”ตงฟางฮั่นมองหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1882

    ช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!สิ่งที่เรียกว่าศรัทธาและเทพเจ้าก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็ไม่มีสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไป หากมีเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริง เหตุใดจึงมีผู้คนอดอยากยากไร้อยู่ทั่วทุกหนแห่ง?“ไร้สาระ!”หวังหยวนตำหนิ ฉุนอวี๋อันจึงไม่กล้าพูดต่อ“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”“หรือไม่ทุกคนติดโรคระบาดจึงเป็นเช่นนี้!”“รอข้าไปถึงแล้วค่อยว่ากัน!”หวังหยวนหลับตา ไม่พูดกับฉุนอวี๋อันอีกเพื่อไม่ให้ตนเองโมโหฉุนอวี๋อันงุนงง เขาเคยได้ยินชื่อโรคมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องโรคระบาดมาก่อน!หรือจะเป็นโรคประหลาด?เมื่อเห็นหวังหยวนไม่สนใจ เขาก็เช็ดเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบไม่นานพวกหวังหยวนก็มาถึงเขตก่อสร้าง ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างมามุงดู สถานที่แห่งนี้ช่างคึกคักทางด้านตงฟางฮั่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างตงฟางฮั่นเห็นหวังหยวนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นเดินไปหาหวังหยวน“ท่านตงฟาง ข้าได้ยินเรื่องที่นี่แล้วจึงรีบมา”“ท่านมาก่อน พบเบาะแสอะไรหรือไม่?”ตงฟางฮั่นส่ายหน้า พลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้าให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1881

    ยามตะวันโด่งฟ้า หวังหยวนกับภรรยายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ“ท่าน!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”“ท่านรีบออกมาเถิดขอรับ!”เสียงของฉุนอวี๋อันเต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเคาะประตูไม่หยุดปกติฉุนอวี๋อันเป็นคนรอบคอบ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนเสมอด้วยเหตุนี้ฉุนอวี๋อันจึงถูกมองว่าอ่อนแอ ไร้ความสามารถ เมืองอู่เจียงไม่เคยได้รับการจัดการอย่างดี และสี่ตระกูลใหญ่ก็มีอำนาจอยู่เหนือเขา!วันนี้เขากลับกล้ามาหาหวังหยวนถึงห้อง ทั้งยังมารบกวนการนอนของพวกเขา แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ!หวังหยวนค่อย ๆ ยืดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูมองไปที่ฉุนอวี๋อันเมื่อเห็นเขามีสีหน้าร้อนรนก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”อย่างไรเสียฉุนอวี๋อันก็เคยเป็นผู้ว่าราชการเมือง จึงจำเป็นต้องสงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว แม้ภูผาจะถล่มก็ตามไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา ฉุนอวี๋อันจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!แต่น่าเสียดายที่ฉุนอวี๋อันไม่ได้รับการฝึกฝน!โชคดีที่เขาเห็นข้อนี้ จึงให้ฉุนอวี๋อันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1880

    “ต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว”เกาเล่อรีบพยักหน้า“อีกอย่าง”“เจ้าไปเมืองผีครั้งนี้ต้องระวังตัวด้วย”“คำพูดของหลิ่วหรูเยียนเชื่อได้ แต่ก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมด”“เมืองผีอาจไม่ใช่สถานที่ที่เราจะอยู่ได้ง่าย ๆ...”“หากพบเจอเรื่องยุ่งยากก็ปรึกษาข้าได้ตลอด อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม!”หวังหยวนกำชับอีกสองสามประโยคเกาเล่อเป็นมือขวาของเขา เขาย่อมไม่อยากให้เกาเล่อเป็นอันตราย ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากบ่ายวันนั้น เกาเล่อเดินทางไปเมืองผีด้วยตัวเองส่วนหวังหยวนก็กลับไปที่พักหลี่ซื่อหานรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนเดินเข้ามา นางก็ยิ้มหวานเดินเข้ามาหา แล้วควงแขนหวังหยวนขณะกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านกำลังทำอยู่ในช่วงนี้”“จะรับอนุภรรยาอีกแล้วหรือ?”หวังหยวนถึงกับหน้าเสียใครปากมาก เอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่ซื่อหาน?ที่เขาไปหอนางโลมนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสถานการณ์บ้านเมืองต่างหาก!“ในสายตาเจ้า ข้าเป็นผู้ชายที่เห็นผู้หญิงแล้วอดใจไม่ได้หรือ?”หวังหยวนจิบชา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์หลี่ซื่อหานยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน แต่คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของท่าน อาจทำให้เกิด

DMCA.com Protection Status