จากคำพูดของอากู่ฉา ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันแต่ไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ถามว่า “หวังหยวน อากู่ฉาต้องการล้างแค้นให้บิดาของเขา ไม่ทราบว่าเจ้าคิดอย่างไร?”หวังหยวนยิ้ม แล้วพูดว่า “ไทเฮา ต้องมีคนพูดเหลวไหลเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นแน่ ข้าไม่ได้สังหารอ๋องถูหนาน อย่าได้กล่าวหาทูตต่างแผ่นดินในเรื่องเช่นนี้อย่างไม่ยุติธรรม”ในเมื่อพวกเจ้าต้องการแสดงละคร ข้าก็จะแสดงละครร่วมกับพวกเจ้า!“เหลวไหล เจ้าสร้างหน้าไม้ขนาดยักษ์ แล้วปล่อยให้คนอื่นยิงพ่อของข้า เจ้ายังไม่กล้ายอมรับเลย หวังหยวน เจ้าเป็นคนขี้ขลาดจริง ๆ เจ้ากล้าทำเช่นนี้เลยหรือ?”อากู่ฉาตะโกนด้วยความโกรธทันที ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้ หวังหยวนก็โบกมืออย่างรวดเร็ว“เฮ้ อ๋องถูหนาน โปรดอย่ากล่าวหาข้า ข้าสร้างหน้าไม้ขนาดยักษ์จริง แต่ข้าไม่ได้สั่งให้ฆ่าพ่อของเจ้า อีกทั้งกองทัพทั้งสองยังต่อสู้กันในระยะไกลขนาดนี้ ข้าไม่เห็นพ่อของเจ้าด้วยซ้ำ จะฆ่าเขาได้อย่างไร บางทีเขาอาจถูกคนอื่นฆ่า... ฆ่าโดยไม่ตั้งใจก็ได้”“ไม่ต้องกังวล ข้าจะตรวจสอบอย่างรอบคอบเมื่อข้ากลับไป ว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อของเจ้า? ดีหรือไม่?”หวังหยวนไม่ยอมรับ ไม่ใช่เพราะขี้ขลาด แต่เป็นเพราะเขาปฏิบัติตามคำพ
ในขณะนี้ ไทเฮาทรงส่งเสียงกระแอมอย่างเย็นชา! “นี่คือท้องพระโรง อากู่ฉา ข้าเข้าใจว่าเจ้าต้องการล้างแค้นให้พ่อของเจ้า ทว่านี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะทำท่าทางเหิมเกริมได้ ห้ามพูดถึงเรื่องนี้อีก ถอยออกจากราชสำนักซะ!” เมื่อพูดเช่นนั้น หวังหยวนก็เห็นร่างที่อยู่หลังม่านลุกขึ้นและจากไป และนางกำนัลหลายคนก็พาอ๋องตัวน้อยออกไปด้วย หวังหยวนกระพริบตา ยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “น้อมส่งฝ่าบาท น้อมส่งไทเฮา” หลังจากพูดเช่นนั้น หวังหยวนก็กำลังจะหันหลังกลับและจากไป และในเวลานี้นั่นเอง ข้าหลวงในวังก็รีบขวางทางหวังหยวนไว้ “คุณชายหวังหยวน ไทเฮาทรงเชิญท่าน” หวังหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไทเฮาผู้นี้... รีบร้อนเกินไปหรือเปล่า? มีคนมากมายคอบจับตามองอยู่ แต่กลับขอให้ตัวเขาไปเข้าเฝ้าพระองค์เชียวหรือ? อย่างไรก็ตาม ในเมื่อผู้อื่นมีความตั้งใจเช่นนี้แล้ว แน่นอนว่าหวังหยวนต้องไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “โปรดนำทางด้วย” ขณะที่พูด ข้าหลวงในวังโน้มตัวไปข้างหน้า และเดินนำหวังหยวนเข้าไปข้างใน ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงส่วนลึกของพระราชวังและมาถึงห้องทรงพระอักษร ทันทีที่หวังหยวนเข้าไป เขาก็เห็นอ๋องตัวน้อยกำลังเล่นอยู่ ในขณะนี
เซียวฉู่ฉู่มองตรงไปที่หวังหยวน ขณะที่นางพูดเช่นนี้ หวังหยวนไม่ได้รู้สึกถึงเจตนาฆ่าเลยแม้แต่น้อย อย่างที่นางพูด มันทำให้ข้าตระหนักถึงความเป็นจริงอย่างแท้จริง! หวังหยวนยิ้มและกล่าวอย่างราบเรียบว่า “ไทเฮา พระองค์ทรงเชิญกระหม่อมมาที่นี่ คงไม่คิดที่จะฆ่ากระหม่อมง่ายดายเช่นนี้ใช่หรือไม่?” เซียวฉู่ฉู่หัวเราะเมื่อได้ยินสิ่งนี้ “หวังหยวน ข้ารู้ว่าเจ้าฉลาดมาก นี่คือเหตุผลที่ข้าใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อพาเจ้ามาที่เมืองหวง แต่สิ่งที่ข้าเพิ่งพูดนั้นไม่ได้พูดผิดชีวิตและความตายของเจ้าเกี่ยวข้องกับข้าจริง ๆ ข้าไม่เพียงแต่พูดถึงเมืองหวงเท่านั้น แม้กระทั่ง... ต้าเย่!” ท่าทางของเซียวฉู่ฉู่โอหังมากเมื่อนางพูดแบบนี้! สิ่งนี้ทำให้หวังหยวนตกใจมาก! “ไทเฮาตรัสเช่นนี้ เพื่ออยากบอกกระหม่อมว่า พระองค์สามารถปกป้องกระหม่อมได้ แม้อยู่ในต้าเย่เช่นนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?” เซียวฉู่ฉู่ยิ้มและกล่าวว่า “อำนาจของเมืองหวงนั้นแข็งแกร่งกว่าต้าเย่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่แม่ทัพมู่สิ้นชีพ ต้าเย่ก็เสื่อมโทรมลงทุกวัน เจ้าย่อมรู้เรื่องนี้ดีกว่าข้า” “เหตุผลที่ข้าพูดไปมากมายเช่นนี้ ก็เพื่อให้เราเจราจาเรื่องต่อไปไ
“ข้าก็กำลังลังเลเช่นกัน ว่าพวกเขาจะมองออกหรือไม่…เจ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไรต่อไป?” ในเวลานี้ เซียวฉู่ฉู่อดไม่ได้ที่จะถาม หวังหยวนพูดอย่างใจเย็น “ทำต่อไปเถอะพ่ะย่ะค่ะ” “เหตุใดเล่า? เจ้าก็คิดว่าพวกเขาไม่เชื่อไม่ใช่หรือ?” เซียวฉู่ฉู่พูดอย่างร้อนรนพร้อมกับสงสัย หวังหยวนหยิบถ้วยชาขึ้นมา เขาจิบชาแล้วหัวเราะทันที “ประการแรก แม้ว่าพวกเขาจะสงสัย แต่พวกเขาอาจรู้เจตนาของไทเฮาด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงคอยเฝ้าดู แต่... อากู่ฉาเป็นเช่นนี้เสมอมา แสดงละครอย่างต่อเนื่อง และทวีความไม่พอใจในตัวไทเฮามากยิ่งขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาจะเชื่อท่านไม่มากก็น้อย” “ประการที่สองนั่นก็คือ อากู่ฉาเข้ารับตำแหน่งแทนอ๋องถูหนาน และควบคุมกองทัพชายแดน! กองทัพแข็งแกร่งเช่นนี้ พวกเขาจะไม่อิจฉาได้อย่างไร?” “ดังนั้น... ความไว้วางใจเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว แม้ว่าร่องรอยจะหนักกว่าเล็กน้อย และร้อนรนไปบ้าง แต่ก็ไม่สำคัญ” หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เซียวฉู่ฉู่ก็พยักหน้า “อย่างไรก็ตาม...ยังคงต้องขจัดข้อสงสัยของพวกเขาถึงจะถูก” ขณะที่พูด นางก็มองไปที่หวังหยวน ทำให้หวังหยวนดูทำอะไรไม่ถูก “ไทเฮา วันนี้กระหม่อมเพิ
หวังหยวนถอนหายใจ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนเผยแพร่ข่าวว่าตนเองเกิดมาเป็นคนมีสติปัญญาความรู้ แต่ชอบอิสระ หากไทเฮาแสร้งทำเป็นให้หวงเจียวเจียวแต่งงานกับตัวเขาจริง ๆ พวกเขาอาจจะเชื่ออย่างนั้นก็ได้!“ไทเฮา พระองค์ทรงตรัสเช่นนั้นแล้ว กระหม่อมก็ไม่อาจปฏิเสธ” “ทว่าหากกระหม่อมทำเช่นนี้แล้ว กระหม่อมจะได้อะไรตอบแทนเล่าพ่ะย่ะค่ะ?” หวังหยวนไม่ได้โง่เขลาขนาดนี้ เซียวฉู่ฉู่ผู้นี้ขอให้เขาช่วยนางมากมายเช่นนี้ แล้วเขาจะไม่ขออะไรเลยได้อย่างไร? “เจ้าขอสิ่งที่เจ้าต้องการได้ตามต้องการ ตราบใดที่ข้าสามารถทำได้ ข้าจะตอบตกลงทั้งหมด” เซียวฉู่ฉู่ยิ่งโอหังมากขึ้น หวังหยวนหัวเราะมากขึ้น “ไทเฮาใจกว้างเช่นนี้ พระองค์ไม่ทรงกังวลว่ากระหม่อมจะหักหลังพระองค์หรือพ่ะย่ะค่ะ?” “เจ้าไม่มีวันทำเช่นนั้นหรอก...” เซียวฉู่ฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “โอ้? เหตุใดเล่า? ไทเฮาทรงพบกระหม่อมวันนี้เป็นครั้งแรก ว่ากันว่ารู้คนรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ ไทเฮารู้ได้อย่างไรเล่าว่ากระหม่อมไม่มีวันทำเช่นนั้น?” หวังหยวนเริ่มแปลกใจขึ้นมา เหตุใดเซียวฉู่ฉู่ผู้นี้ถึงมั่นใจมากว่าเขาจะเป็นพันธมิตรกับนาง! “เพราะเจ้าเคยบอกว่าเจ้าจะไม่ทรยศต่อ
หวังหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในวินาทีต่อมา ชายคนนั้นก็ถอดเสื้อคลุมสีดำออกและเผยให้เห็นตัวตน! “กระหม่อม อ๋องหลงซี คาราวะไทเฮาขอรับ!” เป็นอ๋องหลงซี! ถึงแม้ว่าหวังหยวนจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่แปลกใจนัก เขารู้ว่าอ๋องหลงซีเป็นสหายที่ภักดีและดีที่สุดของไทเฮา และการปรากฏตัวของเขาที่นี่ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร “ข้าเรียกเขามาที่นี่เพราะข้ามีเรื่องจะพูด แม้ว่าเจ้าจะไม่เชื่อว่าเขาเป็นคนลอบสังหารครั้งนั้น แต่ข้าก็ยังต้องให้เขาอธิบายให้ชัดเจนต่อหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงช่องว่างระหว่างเจ้าและข้า” เซียวฉู่ฉู่เอ่ยพูดและมองไปที่อ๋องหลงซี คนข้างหลังหยิบตำราแผ่นไม้ไผ่ออกมาทันที แล้วมอบให้หวังหยวน “องครักษ์เงาของข้าเต็มไปด้วยช่องโหว่มานาน ไม่ว่าจะเป็นอ๋องเจิ้นตงหรืออ๋องเซ่อเป่ย ล้วนมีคนอยู่ในองครักษ์เงาของข้า” “พวกเขาแอบระดมองครักษ์เงาเพื่อสังหารเจ้า ข้ารู้เรื่องนี้มานานแล้ว และไม่ได้เข้าไปแทรกแซง เหตุผลง่ายมาก ข้าคิดว่าเจ้าสามารถจัดการได้” อ๋องหลงซีมองดูหวังหยวนด้วยสีหน้าสงบ ซึ่งทำให้หวังหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง อ๋องหลงซีผู้นี้สงบนิ่งมาก และหวังหยวนไม่สามารถมองเห็นสีห
หลังจากที่หวังหยวนพูดเช่นนี้จบ เกาเล่อก็หัวเราะออกมาทันที “คุณชายหมิงถันพูดเล่นแล้ว ว่ากันว่าใกล้ชิดฮ่องเต้เสมือนอยู่กับพยัฆร้าย ไหนเลยจะไปกล้าพูดจาโผงผางเล่า?” หลังจากที่เกาเล่อพูดจบ เขาก็มองไปที่หวังหยวนและถามอย่างราบเรียบว่า “คุณชายหมิงถัน ท่านคิดอย่างไรกับราชสำนักหวงของข้า?” หวังหยวนพยักหน้า “กองทัพแข็งแกร่ง ม้าบึกบึน บ้านเมืองสงบ ประชาชนสันติอยู่เย็นเป็นสุข!” เมื่อเกาเล่อได้ยินสิ่งนี้ เขาก็หัวเราะ “คุณชายหมิงถันพูดจาฉะฉาน ทว่าแผ่นดินเมืองหวงของเราก็มีบางอย่างผิดปกติ” หวังหยวนกระพริบตาและถามว่า “ผิดปกติอันใด?” เกาเล่อเหลือบมองหวังหยวน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณชายหมิงถัน การสนทนาระหว่างท่านกับข้านั้นเป็นการพูดไปเรื่อยเปื่อย ท่านอย่าเอามาใส่ใจเป็นอันขาด” หวังหยวนพยักหน้า “ไม่ต้องกังวล วันนี้ข้าเพียงพูดคุยกับใต้เท้าเกาแบบสบาย ๆ เท่านั้น หลังจากพูดจบ ข้าก็ลืมแล้วและจะไม่เก็บเอาไปใส่ใจ” “เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก” หลังจากที่เกาเล่อหัวเราะเสร็จ เขาก็พูดว่า “เมืองหวงของข้าดีงามไปทุกสิ่ง ทว่าก็เว้นแต่ไทเฮาองค์นี้... เฮ้อ... มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสตรีที่จะมีอำนาจควบคุม คุณชายห
“อย่างที่สองคืออ๋องหลงซี เขาถูกไทเฮาปล่อยออกมาเพื่อเป็นเหยื่อ ทว่า... เหยื่อนี้ดูเหมือนจะเป็นผู้ยุยงมากกว่า ข้าสงสัยว่ามันยังเกี่ยวข้องกับท่าน ให้ข้าเดานะ... ... ไทเฮาคิดที่จะให้อ๋องหลงซีหันมาต่อต้านท่าน และเรื่องนี้ยังเชื่อมโยงกับท่านอีกด้วย…” “แต่เกี่ยวกับท่านอย่างไรเล่า? อาจจะเป็นไปได้ว่า...พระราชทานงานแต่งงานกระมัง?” หลังจากที่เกาเล่อพูดจบ เขาก็มองหวังหยวนด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย และซ่อนสายตาที่เย็นชา! หวังหยวนสูดหายใจเข้าลึก และรู้สึกสั่นสะท้านมาก! เกาเล่อผู้นี้เฉลียวฉลาดมาก! เขาถึงกับมองทะลุแผนการดังกล่าว! “หวงเจียวเจียว...เป็นทางเลือกที่ดี เพียงแต่ว่า... ร่องรอยการเคลื่อนไหวเช่นนี้ค่อนข้าชัดเจนไปหน่อย คุณชายหมิงถัน ท่านว่า... วิธีการเหล่านี้ของไทเฮา ทั้งสองท่านนั้นมองไม่ออกหรือ?” “เฮ้อ...บางครั้งสตรีก็มักจะคิดว่าตัวเองฉลาด แต่ความเป็นจริงเล่า? คนอื่นต่างก็มองเห็นทั้งหมดนี้” “ท่านคิดว่าตลกไหม?” ดูเหมือนว่าเกาเล่อจะพูดกับตัวเอง แต่คำพูดดังกล่าวยังคงก้องอยู่ในหูของหวังหยวนทุกถ้อยคำ ในขณะนี้ ในใจของหวังหยวนเกิดเจตนาสังหารแล้ว! เกาเล่อผู้นี้เก่งกาจจ