Share

บทที่ 662

Author: ชวินเป่ยอี๋
หลังจากที่หวังหยวนพูดคำเหล่านี้จบ หวงเจียวเจียวก็ตกใจเช่นกัน!

นางคิดไม่ถึงว่าหวังหยวนจะฉลาดถึงขนาดที่เขาสามารถวิเคราะห์จากคำพูดของนาง และสถานการณ์ปัจจุบันว่านางมาจากเมืองหวง!

หวงเจียวเจียวสะดุ้งตกใจ ทว่าสีหน้าของหวังหยวนดูน่าเกลียดทันที!

แต่ในขณะนี้ เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดหวงเจียวเจียวถึงมาหาเขา!

เป็นไปได้ไหมว่า...

นางต้องการโน้มน้าวเขาหรือ?

ในขณะนี้ หวังหยวนเดาว่าสถานการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเขาเป็นต้นเหตุหรือ?

แม้ว่าการตัดสินของนางจะสมเหตุสมผล แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะจินตนาการว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเขาจริง ๆ!

“คุณชายหวังสมกับเป็นวีรบุรุษท่ามกลางผู้คนจริง ๆ เช่นนั้นข้าน้อยก็ขอพูดอย่างตรงไปตรงมา แท้จริงแล้วข้ามาจากฮวงเหยียน ข้ามาที่นี่ครั้งนี้ก็เพื่อเป็นตัวแทนของฮวงเหยียน...ดึงตัวคุณชายหวัง”

หวงเจียวเจียวพูดด้วยรอยยิ้ม ทว่าแววตาของหวังหยวนกลับแฝงไปด้วยความเย็นชา!

“จริงหรือ? เช่นนั้นเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ก็เพราะข้าหรือ?”

หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ หวงเจียวเจียวก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่ก็ยังพยักหน้า “ถูกต้อง เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพื่อคุณชายหวัง”

หว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 663

    เมื่อกล่าวเช่นนั้น หวงเจียวเจียวก็จากไปทันที หวังหยวนมองไปที่ด้านหลังของหวงเจียวเจียวพร้อมรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ต้าเย่... กำลังจะจบสิ้นแล้วจริง ๆ ราวกับบ้านปรักหักพังที่มีอากาศพัดเข้ามาจากทั่วทิศทาง อันตรายแขวนอยู่บนเส้นด้าย! อย่างน้อยในสายตาของเขา คนผู้นั้นของเมืองหวงเก่งกาจกว่าคนที่อยู่ในต้าเย่มากนัก! หากว่าเขาไม่ได้มาที่ราชสำนักนี้ เกรงว่าอีกไม่นาน ฮวงเหยียนก็จะค่อย ๆ รุกล้ำต้าเย่ เมื่อถึงเวลายกทัพบุกโจมตี ต้าเย่จะถูกกวาดล้าง! ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีพวกคนเถื่อนคอยจ้องตาเป็นมัน! หวังหยวนถอนหายใจพร้อมรู้สึกหมดหนทาง “ให้ใต้เท้าเฉิงเข้ามาพบข้าในห้องหนังสือเถอะ” หวังหยวนพูดแล้วหันกลับไปห้องหนังสือ เขารู้ว่าที่เฉิงเหลียวมาเวลานี้ก็เพื่อต้องขอความช่วยเหลือจากเขา หวังหยวนย่อมรู้สึกรังเกียจเฉิงเหลียวผู้นี้ ชายหน้าเนื้อใจเสือที่เล่นงานลับหลังผู้อื่น! หากไม่ใช่เพราะเขา หวังหยวนเองก็คงไม่ตกเป็นเป้าของธนาคารเทียนเซี่ย และเขาก็คงไม่ก่อเรื่องปล้นธนาคารเทียนเซี่ยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องภายหลัง ในตอนนี้... เขาไม่สามารถปล่อยให้กองทัพชิงฉวนโจมตีเข้ามาได้!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 664

    หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เขาก็ไม่พูดอะไรอีก ทว่ากลับนั่งอยู่ที่นั่นและเริ่มดื่มชา เขารู้ว่าเฉิงเหลียวจะลังเล ท้ายที่สุดแล้ว หากบรรลุข้อตกลงนี้และถูกจับได้ เขาจะต้องตายอย่างอนาถ! เฉิงเหลียวในตอนนี้ลังเลจริง ๆ! แม้ว่าเขาจะรู้ว่าตอนนี้มีอันตรายทั่วทุกทิศทาง แต่หากเขาไม่ตอบกลงกับหวังหยวนจริง ๆ ทุกอย่างก็จะจบสิ้น! ในขณะนี้ เขากัดฟันและพูดทันที “ตกลง ทว่า...ข้อตกลงระหว่างท่านกับข้าจะต้องไม่ทิ้งร่องรอยเป็นอันขาด!” เฉิงเหลียวสูดหายใจเข้าลึก นี่คือขีดจำกัดของเขา! หวังหยวนย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นจึงยิ้มและพูดอย่างราบเรียบว่า “หากปราศจากความพยายามอย่างจริงใจ แม้แต่การทิ้งบันทึกที่เป็นลายลักษณ์อักษรไว้ก็ไม่มีประโยชน์” “เฉิงเหลียว ในเมื่อท่านรับปากแล้ว ข้าก็ไม่กลัวว่าท่านจะกลับคำ” เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เฉิงเหลียวก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านไม่กลัวว่าข้าจะทรยศเหรอ?” “ไม่กลัว...คนอย่างหวังหยวนใช้คนก็อย่าระแวง หากระแวงใครก็อย่าใช้เขามาโดยตลอด ยิ่งกว่านั้น หากท่านไม่ซื่อสัตย์ต่อข้า ข้าย่อมมีวิธีจัดการกับท่านอยู่แล้ว” หวังหยวนยิ้มเบา ๆ และหลังจากพูดเช่นนี้ เฉิงเห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 665

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ เฉิงเหลียวก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และสับสนเล็กน้อยหวังหยวนเหลือบมองเขาแล้วขมวดคิ้ว “ทำไมเล่า ท่านไม่เข้าใจความหมายของข้าหรือ?” เฉิงเหลียวรีบพูดว่า “เข้าใจแล้ว ข้าจะสั่งให้คนไปจัดการ” หวังหยวนตอบรับอืมเบา ๆ จากนั้นพูดขึ้นว่า “สั่งการทหารทั้งห้าพันนาย พร้อมทั้งเรียกผู้บัญชาการนับพัน และผู้บัญชาการนับร้อยออกมาด้วย ข้ามีเรื่องต้องเจราจาด้วย” เฉิงเหลียวไม่ปฏิเสธ และมองไปที่เฉิงอู๋จี้ คนข้างหลังเข้าใจทันที และรีบไปเรียกคนเหล่านี้ออกมา ตอนนี้พวกเขาไม่มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้แล้ว แน่นอนว่าหวังหยวนต้องสร้างขวัญกำลังใจแก่พวกเขา! มีเพียงนายพลเหล่านี้มีความหวังเท่านั้น พวกเขาจึงจะสามารถปกป้องต่อไปได้! ไม่นาน นายพลเหล่านี้ก็มาที่บ้านของหวังหยวน แต่พวกเขาต่างดูหดหู่ใจ ไร้ซึ่งความหวัง และดูราวกับกำลังรอความตายอยู่ “ใต้เท้าเฉิง เราควรทำอย่างไรดีขอรับ! พรุ่งนี้ก็ถูกสังหารหมู่ทั้งเมืองแล้ว!” “พวกเราทุกคนจะตายใช่หรือไม่!” “เพราะอะไรกัน...เหตุใดเราถึงน่าเวทนาถึงเพียงนี้!” ทันทีที่พวกเขาเข้ามาและเห็นเฉิงเหลียว พวกเขาก็ร้องไห้โวยวายทันที แต่ละคนคร่ำครวญด้วยความหวา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 666

    หวังหยวนยิ้มและพยักหน้า“ดีมาก สิ่งที่ข้าขอให้เจ้าทำตอนนี้ คือไปปลอบขวัญให้กำลังใจผู้คน บอกพวกเขาว่าอย่าตื่นตระหนก บอกพวกเขาว่าถ้าพวกเขายืนหยัดในวันพรุ่งนี้ได้ วันต่อไปพวกเขาก็จะยืนหยัดต่อไปได้ ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะใช้วิธีการอะไร แต่วันนี้เจ้าต้องปลอบขวัญผู้คนให้ได้สักหน่อยก็ยังดี”"ทำได้ไหม?"หวังหยวนพูดช้า ๆ พวกขุนพล นายพันและนายร้อยหลายคนต่างก็พยักหน้าแม้ว่าในเมืองตอนนี้จะตกในสภาวะตื่นตระหนก แต่ออกไปไหนไม่ได้ ด้วยความสิ้นหวัง บางคนก็แค่ซ่อนสีหน้าร้องไห้อย่างขมขื่น มันง่ายที่จะปลอบพวกเขาให้สงบสติอารมณ์"คืนนี้พวกเจ้าทุกคนนอนหลับพักผ่อนกินข้าวให้ดี พรุ่งนี้นอกเมืองจะไม่เห็นทหารสักคน!"หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เขาก็โบกมือให้พวกเขาออกไปหลายคนไม่เชื่อว่าหวังหยวนจะทำได้จริง ๆ!แต่ออกไปจากที่นี่ดีกว่า ทำตามที่หวังหยวนได้ว่าไว้ ขุดคูเมืองและปลอบขวัญให้กำลังใจผู้คน!ในเวลานี้ เฉิงเหลียวอดไม่ได้ที่จะถามออกมาว่า "เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?"หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "แม่ทัพของกองทัพชิงชวนชื่อเจิ้งไท่ชิงสินะ ข้าได้ยินมาว่าคน ๆ นี้มีพรสวรรค์ในการเป็นผู้นำกองทัพใช่หรือไม่?"เฉิงเหลียวพยักหน้า "

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 667

    หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่าน'หลังจากที่เจิ้งเซิงอ่านจดหมายแล้ว เขาก็แค่นสถบอย่างเย็นชา“หวังหยวนผู้นี้บังอาจมาก กองทัพใกล้เข้าประชิดเมืองแล้ว เขายังกล้ายั่วยุพวกเราอีก!”“ท่านพ่อ อย่าไปสนใจ พรุ่งนี้เราจะตีเมืองและจับตัวเขาเอาไว้!”เจิ้งเซิงมีสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม ไม่สนเหตุผลอะไรแล้วแต่หลังจากที่เจิ้งไท่ชิงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ลูกพ่อ พ่อขอถามสักหน่อย ถ้าเจ้ามีวลาหนึ่งวัน เจ้าจะช่วยแก้ไขวิกฤติการณ์ในเฉิงโจวได้หรือไม่"หลังจากที่เจิ้งเซิงได้ยิน เขาก็ส่ายหน้าทันที“จะเป็นไปได้อย่างไร? แค่วันเดียวจะแก้ไขได้อย่างไร ท่านพ่อ อย่าฟังคำพูดไร้สาระของหวังหยวน เขาแค่ถ่วงเวลา รอการเปลี่ยนแปลง”“แม้ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ต่อให้เวลาเขาสามวัน มันก็ไม่มีประโยชน์!”กองหนุนที่ใกล้ที่สุดจะมาถึงที่นี่จะใช้เวลาห้าวัน ยิ่งกว่านั้น เขารู้แล้วว่ากองทัพหลักของชาวหวงที่ประชิดรุกล้ำชายแดน ไม่มีกำลังพอที่จะจัดการกับพวกเขา!ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ในตอนนี้ ต้าเย่เองก็น่ารู้ด้วยว่า หากจะหยุดยั้งการรุกรานของราชสำนักหวง กองทัพชิงโจวของพวกเขาที่อยู่ในต้าเย่ หากพวกเขาคิดจะกำจัดมั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 668

    เฉิงเหลียวรู้ว่าการปิดล้อมเมืองจะเริ่มในตอนกลางวัน ไม่ใช่ตอนกลางคืน แต่เป็นในตอนเช้า!นั่นเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการตีเมือง!แต่กองทัพชิงชวนยังไม่มา นั่นหมายความว่าพวกเขาจะไม่มา!อย่างน้อยวันนี้...จะไม่มาแล้ว!“ทำไมกัน? เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”เฉิงเหลียวอดไม่ได้ที่จะถามออกมา“เจ้าไม่ได้อ่านจดหมายเมื่อวานหรอกหรือ? ทำไมเจ้ายังถามอยู่อีกล่ะ?” หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ถึงแม้ข้าจะอ่านแล้ว แต่...เขานั้น...มั่นใจในความสามารถ คิดอยากจะสู้กับเจ้าหรือเปล่า?”นั่นคือทั้งหมดที่เฉิงเหลียวคิดได้ นอกจากนั้นเขายังคิดอะไรไม่ออกอีกเลยหวังหยวนยิ้มมองเฉิงเหลียว แล้วพูดอย่างเรียบเฉย“เจ้าอยากฟังความจริง จริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”หวังหยวนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มเหลือบมองเฉิงเหลียว หลังจากพูดจบ เขาก็ตกใจนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง"ย่อมแน่อยู่แล้ว"เฉิงเหลียวพูดตามตรง“ในเมื่อเจ้าอยากฟังก็นั่งลง แล้วข้าจะเล่าให้ฟัง”หลังจากหวังหยวนพูดจบ เฉิงเหลียวก็หายใจเข้าลึก ๆ และนั่งลงฝั่งตรงข้ามหวังหยวนและตั้งใจฟัง“เรื่องในวันนี้ที่ข้าจะพูด เจ้าได้ยินแล้ว ถ้าอยากพูดข้างนอกก็พูดไปเถอะ ข้าไม่สนหรอก ที่ข้าบอกเจ้าเพราะว

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 669

    เฉิงเหลียวไม่เชื่อว่าราชสำนักหวงจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เพื่อหวังหยวนแบบนี้!แม้จะต้องเสียสละเจิ้งไท่ชิงคนนี้ก็ตาม!“เจ้าอาจไม่เชื่อ แต่ข้าไม่ได้โกหกเจ้า ไม่เช่นนั้นทำไมเฉิงเหลียวถึงยกทัพขึ้นมาล่ะ นอกจากนี้ราชสำนักหวงจะไม่ทำอะไรนี้ ข้าคิดว่าจะมีสงครามที่ชายแดนเร็ว ๆ นี้ ราชสำนักหวงจะใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็งไปพร้อม ๆ กัน ในท้ายที่สุด เพื่อให้ข้ายอมสวามิภักดิ์ต่อราชสำนักหวง พวกเขาจะบังคับให้ต้าเย่มอบตัวข้า”การคาดเดาของหวังหยวนไม่ใช่การพูดอย่างไม่มีมูลความจริงอย่างแน่นอนคำพูดของหวงเจียวเจียว เขาเข้าใจคำตอบแล้ว!เขาคิดได้เลยว่าชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป!ต้าเย่จะยอมสู้กับราชสำนักหวงเพราะเขาได้อย่างไร?เฉิงเหลียวที่ได้ยินก็รู้สึกตกใจ ไม่อยากจะเชื่อเลยแต่สิ่งที่หวังหยวนพูดทำให้เขาไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ เมื่อลองมาคิดดู เขาก็เดาได้ว่ามีสิ่งแปลก ๆ มากมายเกิดขึ้น และทั้งหมดนั้นอาจเป็น...จริงด้วย!“ข้ารู้ชะตากรรมของตัวเอง ต้าเย่จะไม่ปกป้องข้า แต่ข้าที่ยังปกป้องเฉิงโจว เพราะข้าอยากปกป้องชีวิตข้าเองด้วย!”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เฉิงเหลียวก็ขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด“เจ้าบอกว่า...เพื

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 670

    เฉิงเหลียวสับสนงุนงงไปหมด แสดงความปรารถนาดีต่อเขางั้นเหรอ?มันหมายความว่าอะไรกันแน่?เขาไม่เข้าใจ!ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นมิตรต่อกัน อาจกล่าวได้ว่าหากราชสำนักหวงเห็นคุณค่าความสามารถของหวังหยวนจริง ๆ เจิ้งไท่ชิงก็ควรจะถือว่าเขาเป็นศัตรูทางการเมืองสิ!จะมาแสดงความปรารถนาดีได้อย่างไร?“หวังหยวน นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?”เฉิงเหลียวไม่เข้าใจจริง ๆ แต่หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม "ธรรมดามาก เขารู้ว่าวันนี้ถ้าเขาตีเมืองข้าคงไม่สามารถปกป้องเฉิงโจวได้ แต่ที่เขาไม่ได้ตีเมือง เขาอยากเห็นความสามารถของข้า และพิสูจน์ความสามารถตัวเองด้วย แต่ก็เช่นกัน… เขาเองก็อยากเป็นเพื่อนกับข้าด้วย!”“เพราะว่าหากข้าสามารถปกป้องเฉิงโจวได้จริง ๆ ข้าจะกลายเป็นคนมีชื่อเสียงอย่างแน่นอน เขาต้องการโน้มน้าวราชสำนักหวงและข้าด้วย เจ้าเข้าใจไหม”“บอกตามตรง ความรู้สึกนี้... ข้าจะจำมันไว้จริง ๆ”หวังหยวนหายใจเข้าลึก ๆ เขาที่ทำเช่นนี้รู้สึกหมดหนทางนักไม่เช่นนั้นเขาจะทำอะไรที่เฉิงโจวไม่ได้เลย อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนมีความสามารถ กับเหล่าชายหนุ่มที่ไม่มีใจจะสู้ มีเพียงความหวาดกลัวและไม่มีความหวัง เขาจะชนะได้อย่างไร?ด

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2238

    น่าเสียดาย หากต้องการเก็บเกสรดอกหน้าผาชันก็จำเป็นต้องมีทักษะอย่างแท้จริง!“ท่านรู้จักดอกหน้าผาชันด้วยหรือ?”หวังหยวนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว“ย่อมต้องรู้จักสิ”“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”“ง่ายมาก! ข้าเองก็มาเพื่อดอกหน้าผาชันนี้เช่นกัน!”ชายคนนั้นกอดอกพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ท่านต้องการดอกหน้าผาชันไปทำอะไร?”หวังหยวนรีบถาม“แน่นอนว่าต้องนำไปแลกเงิน”“ดอกหน้าผาชันนับว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อหาทางอยู่รอด!”“ดอกหน้าผาชันหนึ่งดอกสามารถขายได้สิบตำลึงเงิน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของข้า!”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เพียงแค่สิบตำลึงเงินเองหรือ?“เหตุใดจึงมีราคาแต่ไม่มีคนขาย?”หากสามารถใช้เงินซื้อดอกหน้าผาชันในตอนนั้นได้ เขาจะลำบากเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?บ่ายวันนี้ หวังหยวนได้แอบสอบถามมาแล้ว ปรากฏว่าในเผ่าไม่มีดอกหน้าผาชันแม้แต่ดอกเดียว!เขามีบารมีสูงส่งในเผ่า ผู้คนในเผ่าย่อมไม่หลอกลวงเขาหรือว่า...ชายตรงหน้าเขากำลังโกหก?“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้?”“แน่นอนว่าดอกหน้าผาชันไม่ได้มีไว้ขายให้กับคนในเผ่า เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2237

    ในขณะที่หวังหยวนกับเกาเล่อกำลังพูดคุยกัน พลันได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น“เขาพูดถูก หากตกลงมาจากยอดเขานี้ ต่อให้เจ้ามีสามเศียรหกกรก็จะต้องแหลกเป็นชิ้นแน่นอน!”“ถึงตอนนั้น สภาพย่อมดูไม่จืด!”หวังหยวนกับเกาเล่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียด รีบหันไปมองตามต้นเสียงเมื่อสักครู่นี้พวกเขาทั้งสองคนกลับไม่ทันสังเกตว่าในความมืดมิดนั้นยังมีผู้อื่นซ่อนอยู่ด้วย!“พวกท่านไม่ต้องเครียด! ข้าไม่มีเจตนาร้ายต่อพวกท่าน!”ชายคนนั้นค่อย ๆ เดินออกมาจากความมืด เขาแต่งกายด้วยชุดผ้าป่าน อายุใกล้เคียงกับหวังหยวน ใบหน้าใต้แสงจันทร์ ของเขาเปื้อนรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา“ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร?”“เหตุใดจึงมาที่นี่ในยามนี้?”ภูเขาทางเหนือตั้งอยู่ในที่ห่างไกล รอบด้านไม่มีบ้านเรือนผู้คน แม้แต่หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ยังอยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้!ไม่เช่นนั้น หวังหยวนคงไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาหลายชั่วยาม!แต่ในสถานที่เช่นนี้กลับมีคนแปลกหน้าปรากฏตัว จะไม่ให้สงสัยได้อย่างไร?ชายคนนั้นยิ้มพลางโบกมือเอ่ยว่า “ข้าก็เพียงแค่เดินทางผ่านมาที่นี่ เห็นพวกท่านทั้งสองกำลังเตรียมปีนหน้าผา จึงคิดจะดูความสนุกสักหน่อย”“แต่ข

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2236

    ในใจนางก็รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี และที่พูดเช่นนี้กับไฉจวิ้นก็เพราะว่านางมองว่าไฉจวิ้นเป็นน้องชายแท้ ๆ ของนางเองไม่ใช่หรือ?หากปฏิบัติต่อคนนอกย่อมไม่ใช่ท่าทีเช่นนี้หยอกล้อกันอยู่ครู่หนึ่ง หลิ่วหรูเยียนอาจจะรู้สึกเหนื่อยจึงหลับไปอย่างรวดเร็วในคืนนั้น หลังจากที่หวังหยวนกินอาหารเสร็จก็ได้ออกไปอย่างเงียบเชียบหลายชั่วยามต่อมาก็เป็นเวลาเที่ยงคืน หวังหยวนมายืนอยู่ตรงหน้าผาของภูเขาทางเหนือเมื่อมองออกไป อาจเป็นเพราะความมืดมิด จึงมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของหน้าผา ให้ความรู้สึกกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก!หวังหยวนกอดอกยืนอยู่ด้านข้าง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มจางที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและสง่างาม“พายุใหญ่คลื่นยักษ์แบบไหนที่ไม่เคยพบเจอ?”“สถานการณ์แบบไหนที่ไม่เคยประสบ?”“เพียงแค่หน้าผา คิดจะขวางทางข้าได้หรือ?”“ช่างน่าขันนัก!”ขณะที่พูด หวังหยวนก็ลุกขึ้นเตรียมที่จะปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่า ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวมาจากด้านหลังเขาหันกลับไปโดยสัญชาตญาณ สายตาจับจ้องไปที่ผู้มาเยือน ผู้ที่มานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเกาเล่อ!ท่ามกลางความมืดมิด ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังหวัง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2235

    “เช่นนั้นก็ได้ขอรับ...”เมื่อเห็นท่าทีที่แข็งกร้าวของหวังหยวน ไท่สื่อลี่ก็ไม่ได้กล่าวต่ออีก สุดท้ายก็จำต้องจากไปส่วนหวังหยวนนั่งลงศึกษาแผนที่อย่างละเอียดภายในห้องเมื่อไฉจวิ้นกลับมา หลิ่วหรูเยียนก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหาไฉจวิ้นอย่างรวดเร็ว พลิกดูห่อผ้าในมือเขาอย่างตื่นเต้น“ครั้งนี้เจ้าทำได้ดีมาก!”“ซื้อของดี ๆ มาฝากข้ามากมายเพียงนี้เลยหรือ?”“ต่อไปต้องมอบเรื่องเช่นนี้ให้เจ้าจัดการแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนลูบศีรษะของไฉจวิ้น พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มไฉจวิ้นรู้สึกอึดอัด นี่นางเห็นเขาเป็นเด็กน้อยชัด ๆ แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้ว อายุอานามก็ไม่น้อย กลับถูกปฏิบัติเหมือนเด็กงั้นหรือ?ช่างน่าเจ็บใจนัก!แต่พี่สะใภ้ผู้นี้ก็เป็นคนที่เขาไม่อาจล่วงเกิน จึงทำได้เพียงอดทนหากเป็นผู้อื่นที่กล้าลูบศีรษะของเขา นี่ถือว่าเป็นการหาเรื่องตายชัดๆ!“จริงสิ พี่ใหญ่ของเจ้าอยู่ไหน?”“เมื่อครู่เขาออกไปกับไท่สื่อลี่ นี่ก็ผ่านมานานแล้ว ยังไม่กลับมาอีก หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลิ่วหรูเยียนกินขนมพลางเอ่ยถามไฉจวิ้นชี้ไปที่นอกประตู แล้วตอบว่า “พี่ใหญ่อยู่ในลานบ้านขอรับ เมื่อครู่ตอนที่ข้าเข้ามา เขากำลั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2234

    ครึ่งชั่วยามต่อมา ไท่สื่อลี่นำแผนที่มาให้ด้วยตนเอง ทางด้านหวังหยวนเฝ้ารออยู่ที่ลานบ้านเมื่อรับแผนที่มาก็ตรวจดูอย่างละเอียด คิ้วของหวังหยวนขมวดแน่นช่างอันตรายยิ่งนัก!แม้ว่าภูเขาทางเหนือจะเป็นภูเขาโดดเดี่ยว แต่ด้านข้างเป็นหน้าผาทั้งสิ้น หากต้องการเก็บเกสรของดอกหน้าผาชันก็ต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผา ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือกเดินนี่ช่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากยิ่งนัก!หากไม่มีวิชาตัวเบา การปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่านั้นยากราวกับปีนขึ้นสวรรค์!หวังหยวนตกอยู่ในห้วงความคิด ครุ่นคิดหาวิธีเก็บเกสรดอกหน้าผาชันส่วนไท่สื่อลี่ไม่ได้เอ่ยคำใด ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเวลาผ่านไปทีละน้อย ไม่นานไฉจวิ้นก็กลับมาพร้อมกับห่อผ้าห่อใหญ่ ในมือไม่เพียงแต่มีของกิน ยังมีของเล่นน่าสนใจอีกมากมายด้วยทั้งหมดนี้ก็เพื่อเอาใจหลิ่วหรูเยียนเป็นเพราะเขาเอง หลิ่วหรูเยียนจึงไม่อาจออกไปเที่ยวเล่นได้ สตรีนั้นอารมณ์แปรปรวน เขากลัวว่าหลิ่วหรูเยียนจะเก็บเรื่องนี้มาคิดเล็กคิดน้อย“กลับมาแล้ว”หวังหยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยไฉจวิ้นพยักหน้า เขามองหวังหยวนก่อนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดี หรือว่าเมื่อครู่นี้ทะเลาะกับพี่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2233

    “ช่างสมกับเป็นท่านหวัง ไม่มีสิ่งใดปิดบังท่านได้จริง ๆ”ไท่สื่อลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนไม่ได้แอบหนีออกมาจากห้อง เขาจึงกระซิบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าได้พูดคุยกับท่านหมอเทวดาอันแล้ว เขาได้บอกอาการของฮูหยินกับข้าทั้งหมดแล้วขอรับ”“อีกทั้งยังบอกวิธีที่จะทำให้อาการของฮูหยินดีขึ้นด้วย”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาพลันเป็นประกาย“ท่านหมายถึง...”หวังหยวนไม่ได้เอ่ยประโยคหลังออกมา แต่ชี้ไปที่ท้องของตนไท่สื่อลี่เข้าใจความหมายในทันที จากนั้นก็พยักหน้า“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!”“เช่นนั้นรีบบอกข้ามา วิธีแก้ต้องทำอย่างไร?”“อีกอย่างคือก่อนหน้านี้ข้าได้ถามท่านหมอเทวดาแล้วว่ามีวิธีใดที่จะทำให้อาการของภรรยาข้าดีขึ้นหรือไม่ ท่านหมอเทวดาไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน ข้านึกว่าไม่อาจรักษาภรรยาของข้าให้หายได้...”“ดูท่าแล้ว ท่านหมอเทวดาจงใจปิดบังข้า!”หวังหยวนเข้าใจดีว่าอันจูหมิงคงมีเหตุผลที่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่บอกเรื่องนี้กับไท่สื่อลี่ไท่สื่อลี่รีบโบกมือกล่าวว่า “ท่านหวังอย่าได้เข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าท่านหมอเทวดาอันไม่อยากบอกท่าน แต่เป็นเพราะว่าตัวยาที่ใช้รักษาฮูหยินนั้นหายา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2232

    เมื่อกลับถึงห้อง ด้วยการดูแลของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนจึงจำต้องนอนลงบนเตียงเมื่อเห็นนางพลิกตัวไปมาไม่หยุด หวังหยวนก็เข้าใจได้ในทันที นี่เป็นเพราะนางไม่อยากนอนหลับ“เจ้านี่นะ เหตุใดจึงได้ดื้อรั้นเพียงนี้?”“ในตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเห็นอะไรในตัวเจ้า!”“หากรู้ล่วงหน้าว่าการเดินทางครั้งนี้จะพบเจอกับเรื่องราวมากมายเพียงนี้ ก็ควรจะให้เจ้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังแต่แรก เจ้าจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย”“สุดท้ายแล้วก็เป็นความผิดของข้า...”หวังหยวนจิบชาพลางพึมพำกับตนเอง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า ภาพในความคิดย้อนกลับไปถึงคำพูดของอันจูหมิงก่อนหน้านี้ยามนี้เขาก็ยังคงคิดหาวิธีที่จะบอกกล่าวเรื่องนี้กับหลิ่วหรูเยียนไม่ได้สำหรับหวังหยวนแล้ว การไม่อาจตั้งครรภ์ได้นั้นสำคัญตรงไหนกัน?ครอบครัวของเขามีเหล่าภรรยาที่เพียบพร้อม ย่อมไม่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้แต่สำหรับหลิ่วหรูเยียนแล้ว สตรีที่ไม่มีบุตรก็ไม่นับว่าเป็นสตรีเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ หวังหยวนจะไม่รู้สึกอึดอัดใจได้อย่างไร?ดูท่าแล้วคงต้องหาจังหวะที่เหมาะสม จากนั้นค่อยบอกความจริงกับหลิ่วหรูเยียน นางจะได้ไม่เจ็บปวดมากนัก“นี่ท่านกำลังคิดอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2231

    “เอาล่ะ!”“ตอนนี้เจ้าเชื่อฟังพี่ใหญ่ของเจ้าใช่หรือไม่?”“พี่ใหญ่ของเจ้าไม่อยู่ไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นคำพูดของพี่สะใภ้ก็ไม่มีค่าแล้วใช่หรือไม่?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ภายภาคหน้าเจ้าก็ไม่ต้องเรียกข้าว่าพี่สะใภ้ ข้าจะออกไปเดินเล่นเอง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับข้า พี่ใหญ่ของเจ้าจะต้องมาเอาเรื่องกับเจ้า ถึงตอนนั้นก็คอยดูเถิดว่าจะเป็นอย่างไร!”หลิ่วหรูเยียนเฉลียวฉลาด ไฉจวิ้นผู้ไม่ประสีประสาจะต่อกรกับนางได้อย่างไร?เพียงชั่วครู่ ไฉจวิ้นถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนกำลังจะเดินจากไป เขาก็รีบวิ่งตาม พลางประจบประแจงว่า “พี่สะใภ้! ท่านอย่าได้ทำให้ช้าต้องลำบากใจเลยขอรับ ตกลงหรือไม่?”“ท่านเพิ่งจะหายป่วย สภาพร่างกายก็ยังฟื้นตัวไม่ดี อีกทั้งท่านหมอเทวดาก็บอกแล้วว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ท่านถึงจะหายดี ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพักผ่อนนะขอรับ!”“แต่ในเมื่อท่านยืนกรานจะออกไป เช่นนั้นพวกเราเดินเล่นเพียงครู่เดียว จากนั้นก็รีบกลับมาก็ได้ ตกลงหรือไม่ขอรับ?”ในที่สุดไฉจวิ้นก็ยอมอ่อนข้อให้ทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นผู้ที่เขาไม่อาจล่วงเกิน!ล่วงเกินหวังหยวนก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าพวกเขาล้วนเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2230

    “นี่คือคำสั่ง!”เกาเล่อถอนหายใจอย่างจนใจ ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ แต่หันหลังเดินไปยังทิศทางหนึ่งในไม่ช้า หวังหยวนก็กลับเข้าไปในห้องทันทีที่เข้าประตูไป เขาเห็นหลิ่วหรูเยียนลืมตาตื่นและกำลังจะลุกขึ้นหวังหยวนรีบวิ่งไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วกล่าวว่า “ฝีมือของท่านหมอเทวดาอันช่างล้ำเลิศยิ่งนัก เพียงเวลาสั้น ๆ เจ้าก็ฟื้นคืนสติแล้วหรือ?”“อีกทั้งดูเหมือนว่า เจ้าจะดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตนดีขึ้น แม้ว่าบริเวณหน้าท้องจะยังเจ็บอยู่บ้าง อีกทั้งร่างกายก็ยังอ่อนแรง แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มากยามนี้ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าอาการดีขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามธรรมชาติหวังหยวนประคองนางนั่งลงที่โต๊ะ จากนั้นนางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของข้าแข็งแรง ท่านไม่เห็นสตรีด้านนอกเหล่านั้นหรือไร แต่ละคนล้วนดูอ่อนแอ จะนำมาเปรียบเทียบกับข้าได้อย่างไร?”“ร่างกายของข้าแข็งแรงดั่งวัว ประกอบกับฝีมืออันล้ำเลิศของท่านหมอเทวดาอัน การรักษาให้หายดีก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา”“น่าเสียดาย ร่างกายอันงดงามของข้ากลับมีรอยแผลเป็น นี่ช่างดูไม่น่ามองเอาเสียเลย”“ไม่ได้! เมื่อข้าหาย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status