พูดจบ หวังหยวนมองฟ่านซือเซวียนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“คุณชายฟ่าน ขอแสดงความเสียใจด้วย... ไม่สิ โชคดีที่แค่เสียเงินทองไป แต่ยังรักษาชีวิตไว้ได้ ถือเป็นบุญ…”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มพลางโบกมือใบหน้าของฟ่านซือเซวียนบูดบึ้งสุดขีด โมโหมาก!“หวังหยวน เจ้าจะมากินเลี้ยงอยู่ตรงนี้อีกหรือ?”“เหตุใดจะไม่ได้ล่ะ? ตอนที่ข้าได้ยินว่าคุณชายฟ่านประสบโชคร้าย และแสดงละครที่ยอดเยี่ยม ข้าก็มีความสุขจริง ๆ เลยอยากจะดื่มอีกสักสองจอก!”จู่ ๆ หวังหยวนก็หัวเราะ หลังจากพูดเช่นนี้ ฟ่านซือเซวียนก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก!“ฮึ่ม หวังหยวน อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าใครขโมยทองคำนี้ไป ตอนนี้รถม้าเหล่านั้นจอดอยู่ในตรอก และไม่มีร่องรอยของทองคำเหลืออยู่ แต่มีรถม้าสองคันอยู่นอกลานบ้านของเจ้า คนที่ขโมยทองไปต้องเป็นเจ้าแน่นอน!”“ตอนนี้ข้าต้องค้นบ้านของเจ้า!”ฟ่านซือเซวียนตะโกนด้วยความโกรธทันที คนหลายสิบคนที่อยู่ข้างหลังเขา ก็จ้องมองมาอย่างกระตือรือร้นเช่นกันหวังหยวนไม่สนใจเลย แต่ถามว่า “ข้าขอถามได้หรือไม่ ตำแหน่งของคุณชายฟ่านคืออะไร? มีตำแหน่งอะไรในราชสำนัก?”เมื่อได้ยินดังนั้น ฟ่านซือเซวียนก็ย่อมเข้าใจ ว่าหวังหยวนต้องการเด
สีหน้าของฟ่านซือเซวียนเปลี่ยนไปมาก เมื่อหวังหยวนพูดเช่นนี้!ต้องบอกว่าสิ่งที่หวังหยวนพูดนั้นสมเหตุสมผล!เขาบุกเข้ามาที่นี่โดยไม่มีหลักฐานหรือคำสั่ง จึงไม่สมเหตุสมผล!ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากราชสำนัก แต่เขาก็ยังเป็นข้าราชการระดับเก้า ตำแหน่งนายทะเบียน หากเขาบุกเข้ามา ก็อาจถูกเขาฆ่าตายในบ้านได้ นี่เสี่ยงเกินไปแม้ว่าเขาจะไม่ตาย แต่เขาทำอะไรไม่ได้หากได้รับบาดเจ็บ!“หวังหยวน สุดท้ายเจ้าก็แค่กลัว มันไร้สาระจริง ๆ หากเป็นเช่นนั้น พรุ่งนี้ข้าจะพาคนมาค้นหาบ้านของเจ้า”ฟ่านซือเซวียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วพูดด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะขนทองออกไปคืนนี้หรือ?”“แล้วเหตุใดเจ้าถึงคิดว่าพรุ่งนี้จะมีคนมาค้นบ้านข้าแน่นอน? สหาย ไม่ว่าจะทำอะไร เจ้าต้องใส่ใจกับหลักฐาน ข้ารู้ว่าเจ้าที่เป็นคนดูแลธนาคารเทียนเซี่ย มีความสามารถค่อนข้างมาก แต่การโน้มน้าวใจเฉิงเหลียวก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”หวังหยวนยังคงดูถูกเหยียดหยาม แล้วมองเขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าทันใดนั้นสีหน้าของฟ่านซือเซวียนก็มืดมน เขามองหวังหยวนแล้วว่าตนไร้อำนาจทันที!รู้สึกเหมือนออกหมัดลงบนฝ้าย อึดอ
“จริงหรือ? แม้ว่าข้า หวังหยวน จะไม่มีความสามารถ แต่ข้าก็สามารถทำธุรกิจได้ดี มิฉะนั้น คนที่อยู่เบื้องหลังเจ้าคงไม่สั่งให้เจ้ามาจัดการกับข้าหรอก และเจ้าก็จะไม่ใช้ธุรกิจเพื่อหลอกลวงข้า”หวังหยวนยกยิ้ม ไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นหันไปหยิบตะเกียบขึ้นมากินอาหารต่อ“หากเจ้ากล้าเดิมพันก็ให้ทำสัญญาเลย หากไม่กล้าก็ออกไป มันรบกวนการกินของข้า”“วันนี้... มีละครสนุกมาให้ดูด้วย มื้อนี้เลยอร่อยขึ้นไปอีก”หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม แล้วชนแก้วกับวังฉงโหลวและคนอื่น ๆพวกเขารู้สึกโล่งใจ หลังจากได้ยินการสนทนาระหว่างหวังหยวนและฟ่านซือเซวียน และรู้สึกผ่อนคลายลงมากในขณะนี้ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นสีแดงหลังจากดื่มสุราฟ่านซือเซวียนยืนอยู่ตรงนั้น แล้วเริ่มครุ่นคิดเขาฉลาดมาก ฉลาดมากจนหาตัวจับยาก สีหน้าของหวังหยวนไร้ซึ่งพิรุธ แต่เมื่อเขามองวังฉงโหลวและคนอื่น ๆ เขาก็ขมวดคิ้ว“ตอนนี้... ไม่ใช่เวลากิน พวกเขาทำอย่างนี้... อาจจะแค่แสดงละครตบตาข้า!”“พวกเขาต้องการแกล้งทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้น และยังจัดงานเลี้ยงฉลอง เพื่อพยายามขจัดความสงสัยในใจของข้า อันที่จริงนี่คือจุดประสงค์ของพวกเขา!”ในที่สุดฟ่านซือเซวีย
หวังหยวนไม่สนใจคำพูดของฟ่านซือเซวียนเลย เพราะเขารู้ว่าไม่ว่าฟ่านซือเซวียนจะคิด หรือคาดเดาอะไรก็ตาม สุดท้ายก็จะไม่พบหลักฐานอยู่ดียิ่งไปกว่านั้น เขายังรู้ด้วยว่าชายคนนี้เป็นคนฉลาด และข้อบกพร่องที่ใหญ่ที่สุดของคนฉลาด ก็คือความเย่อหยิ่ง!หวังหยวนเองก็อยากจะเย่อหยิ่ง แต่หลังจากความล้มเหลวครั้งล่าสุด เขาก็ตั้งคำถามกับตัวเองวิธีนี้ถือเป็นการลงโทษคนฉลาดที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย!ฟ่านซือเซวียนไม่รู้ว่าหวังหยวนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขานั่งลงอธิบายอย่างใจเย็น“มันง่ายมาก ประเด็นแรกคือเวลาที่เพื่อน ๆ ของเจ้ามานั้นบังเอิญเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการลอบวางเพลิง หรือการปล้น มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญเกินไป นี่คือจุดแรกที่ทำให้ข้าเดาได้”หลังจากที่ฟ่านซือเซวียนพูดจบ พวกเขาก็ไม่สนใจ เพราะทุกคนคิดเรื่องนี้ได้อยู่แล้วแต่นี่เป็นเพียงข้อสงสัย!“ประเด็นที่สอง คือคนกลุ่มนี้ไม่ได้ออกจากเฉิงโจว และทองคำก็หายไป ข้าคิดว่าไม่ใช่พวกโจรจากค่ายต้าเฟิง แม้ว่าพวกเขาจะหยิ่งผยองมากเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่พวกเขาไม่กล้าเข้ามาในเฉิงโจว นับประสาอะไรกับการกล้าไปธนาคารของพวกข้า เพื่อปล้นทอง!”“และเมื่อมองทั่วเฉิงโจวแล้ว เจ้า หวั
“เจ้าซ่อนทองคำไว้ในไห!” ฟ้านซือเซวียนเอ่ยพูด ทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ วังฉงโหลวและคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกสะดุ้งในใจ “คุณชายฟ่านล้อเล่นแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ดูแต่ละอันพร้อมกับท่านก็แล้วกัน” หวังหยวนกล่าวและเปิดไหหนึ่งที่อยู่ในมือ ฟ้านซือเซวียนรีบก้มหน้าลงมองทันที นอกจากกลิ่นฉุนที่แตะจมูกแล้ว มีเพียงของเหลวขุ่นเล็กน้อยอยู่ในขวดเท่านั้น ไหที่สองก็เช่นกัน ไหที่สามก็เช่นกัน... ในที่สุดหวังหยวนก็เปิดไหทั้งหมดออก แต่ไม่มีทองคำแม้แต่แท่งเดียว! ในเวลานี้ ในที่สุดสีหน้าของฟ้านซือเซวียนก็เปลี่ยนไป! “เป็นไปได้อย่างไรที่ไม่มี!” เขาไม่เชื่อ เขาคิดว่าการวิเคราะห์ของเขาสมเหตุสมผลแล้ว! นอกจากนี้ เขายังเชื่อว่าหวังหยวนต้องเป็นคนทำแน่ ๆ! แต่เหตุใด... ถึงไม่มี! “คุณชายฟ้าน ท่านฉลาดมาก เมื่อเงื่อนไขเหล่านี้รวมกันย่อมทำให้ท่านสงสัยตัวข้าได้จริง ๆ แต่ความฉลาดของท่านกลับตกเป็นเหยื่อความฉลาดของตนเอง สิ่งที่ข้าต้องการคือทองหนึ่งแสนแปดหมื่นแท่ง” “ข้ากล้าเดิมพันกับท่าน แน่นอนว่าข้ามีความมั่นใจ” “แม้ว่าข้าจะความทรนง แต่ท่านคิดว่าใครกันที่จะสามารถซ่อนทองคำนับแสนในลานนี้ได้?”
หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ต้าหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึง! คิดไม่ถึงว่าหวังหยวนจะใช้วิธีนี้ หากว่าเผยแพร่ออกไปจริง ๆ นั่นหมายความว่าคุณชายตระกูลฟ่านผู้นั้นก็ถึงจุดจบมิใช่หรือ? วันรุ่งขึ้น ข่าวเกี่ยวกับธนาคารเทียนเซี่ยแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และทุกคนก็รู้เรื่องนี้ทันที! พวกเขาต่างตกใจมากจนคิดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าปล้นค่ายต้าเฟิงจริง ๆ! เรื่องนี้ไม่สามารถสรุปได้เพียงการเอะอะโวยวายอีกต่อไป! พูดได้คำเดียวว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน! ชาวบ้านทั้งเฉิงโจวต่างเริ่มค้นหาทุกที่ทันที ท้ายที่สุดตามรายงานของธนาคารเทียนเซี่ย เงินหลายแสนตำลึงทองเหล่านี้ไม่ได้ออกจากเฉิงโจว! ในขณะนี้ ภายในจวนของผู้ว่าราชการฟ่านต้าเสียนและฟ่านซือเสวี่ยนกำลังนั่งอยู่ในห้องโถง เช่นเดียวกับเฉิงเหลียวและเฉิงอู่จี้ “ใต้เท้าเฉิง ข้ายังต้องการความช่วยเหลือจากท่านในเรื่องนี้... ท้ายที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น…” ฟ่านต้าเสียนยกมือขึ้นแล้วยิ้มพร้อมพูดอย่างสุภาพ แม้ว่าเขาจะไม่พูด แต่เฉิงเหลียวก็ย่อมทำสุดความสามารถ ในเมื่อเงินจำนวนนี้... หากเขาไม่สามารถหาจากในเฉิงโจวได้ และอาจทำให้บางคนขุ่นเคือง เช่นนั้นก็
เมื่อพูดอย่างนั้น เขากำลังจะออกคำสั่งให้จับกุมหวังหยวน ใครจะรู้ว่าในขณะนั้น จู่ ๆ บ่าวรับใช้ก็วิ่งเข้ามา “ท่านใต้เท้าเกิดเรื่องแล้วขอรับ! เกิดเรื่องแล้ว!” เฉิงเหลียวขมวดคิ้วและดุเขาทันที “ลุกลี้ลุกลน เป็นอะไรไป พูดมาว่าเกิดอะไรขึ้น!” บ่าวรับใช้รีบเอ่ยปากพูดว่า “ข้างนอก...ข้างนอกมีข่าวลือว่า...ธนาคารเทียนเซี่ยรวมกลุ่มกับผู้อื่น ยักยอกทรัพย์สินภายใต้การดูแลของตัวเอง...” เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ทั้งเฉิงเหลียวและฟ่านต้าเสียนต่างก็ตกตะลึง! “สารเลว! ใครเป็นคนปล่อยข่าวว่าข้าฟ่านต้าเสียนยักยอกทรัพย์สินภายใต้การดูแลของตัวเอง!” ฟ่านต้าเสียนโกรธมากและตบโต๊ะอย่างแรง “ข้าน้อย... ข้าน้อยก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ข่าวลือแพร่สะพัดอยู่ข้างนอก…” ในขณะนี้ ทั้งพ่อค้าและชาวบ้านต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ “เฮ้ย... เจ้าได้ยินเรื่องนี้หรือยัง? เงินจากธนาคารเทียนเซี่ยไม่ได้สูญหาย เป็นหนึ่งในพวกเขาเองที่ยักยอกทรัพย์สินภายใต้การดูแลของตัวเอง โดยอ้างว่าช่วงนี้มีการปล้นในค่ายต้าเฟิง!” “หา? จริงเหรอ! เป็นไปได้อย่างไร!” “จะเป็นไปไม่ได้ได้อย่างไรเล่า ข้ายังได้ยินมาว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิดอีกด้วย! ไม่อย่างนั
หวงปี๋จื่อและคนอื่น ๆ ต่างน้อมรับคำสั่งทันที และตอนนี้ได้นำคนนับพันพุ่งไปยังเฉิงโจวอีกครั้ง! “ใกล้แล้ว...เฉิงโจวใกล้จะจะขอความช่วยเหลือแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเราก็จะสามารถควบคุมเฉิงโจวได้ ลมฝนก็ไม่อาจหยุดยั้งได้!” เจิ้งเซิ่งหัวเราะด้วยสายตาที่มุ่งมั่น! ในขณะที่ ภายในเฉิงโจวยังไม่รู้เรื่องนี้ และยังตกใจกับการปล้นทองคำ ไป๋เฟยเฟยก็รู้ข่าวนี้เช่นกัน จากนั้นหัวเราะเสียงดังออกมาทันที “หวังหยวนผู้นี้โหดเหี้ยมจริง ๆ เขาพูดคำเดียวก็ได้เงินมาหกแสนกว่าตำลึงทองจากธนาคารเทียนเซี่ยในคราวเดียว น่าสนใจ น่าสนใจจริง ๆ!” ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ สตรีในชุดกระโปรงสีม่วงก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “หวังหยวน? เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นเขา?” ไป๋เฟยเฟยกล่าวอย่างราบเรียบว่า “นอกจากเขาแล้วจะมีใครอีกเล่า? คงมีคนในเฉิงโจวไม่มากนักที่กล้าปล้นธนาคาร นอกจากนี้เงินจำนวนนี้ก็ไม่ไหลออกไปข้างนอก และยังอยู่ในเมืองนี้ ข้านึกไม่ออกเลยว่าจะมีใครอื่นที่กล้าทำเช่นนี้อีก!” “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไม่มีกำลังที่จะทำสิ่งนี้ได้!” คนอื่นไม่รู้ แต่นางรู้ดีว่าหวังหยวนเป็นคนเดียวที่ทำได้! คนรอบตัวของเขาไม่ใช่คนธรรมดาเลย! “เป็
“ใช้คนอย่าระแวง ระแวงก็อย่าใช้!”“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับพวกนั้น...”เห็นได้ชัดว่าหวังหยวนรู้ความจริงอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องบอกไท่สื่อลี่!ไท่สื่อลี่เป็นคนเฉลียวฉลาดจึงไม่กล้าถามมาก เมื่อเห็นว่าหวังหยวนไม่ได้สงสัยพวกเขา เขาก็เบาใจขึ้น“เช่นนั้นเชิญท่านพักผ่อนเถิดขอรับ ข้าต้องขอตัวก่อน”ไท่สื่อลี่กล่าวอย่างสุภาพ แล้วออกจากกระโจมไปหวังหยวนยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาคงไม่ได้พักผ่อนตอนที่คุยกับไท่สื่อลี่ เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างนอก เกาเล่อนั่นเอง!ตอนนี้เขาอยากพบเกาเล่อโดยเร็ว เพื่อให้เกาเล่อไปสืบหาความจริงและไขข้อข้องใจ!“ท่านผู้นำ!”เกาเล่อที่เข้ามาในกระโจมรีบเดินไปหาหวังหยวน แล้วถาม “ท่านผู้นำไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่ขอรับ?”เมื่อครู่หวังหยวนไล่พวกเขาออกไป แล้วอยู่คนเดียวในกระโจม นี่คือสิ่งที่เกาเล่อกังวลที่สุด!การที่หวังหยวนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แสดงว่าคนที่ลอบสังหารล้วนเป็นยอดฝีมือ!ต้องระวังตัวให้มาก!หวังหยวนมีปืนคาบศิลา แต่ฝีมือการต่อสู้ยังอ่อนด้อยกว่าอีกฝ่าย หากอีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่าย่อมเสียเปรียบ!“ข้าดูเหมือนคนบาดเจ็บหรือ?”
ในป่าลึกท่ามกลางหุบเขา“ใครอยู่ข้างนอก?”หวังหยวนนั่งอยู่ในกระโจม เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินไปมาหน้ากระโจมจึงเอ่ยถามครู่ต่อมาไท่สื่อลี่ก็เดินเข้ามา“ท่านไท่สื่อเองหรือ?”“ตอนนี้ใกล้จะดึกมากแล้ว คืนนี้เกิดเรื่องมากมาย เหตุใดท่านจึงยังไม่พักผ่อน? แต่กลับมาที่นี่แทนเล่า? มีเรื่องใดจะพูดกับข้าหรือไม่?”หวังหยวนลุกขึ้นถามด้วยรอยยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นสีหน้ายังคงสงบนิ่ง!เห็นท่าทางของหวังหยวนแล้ว ไท่สื่อลี่รู้สึกนับถือ หวังหยวนช่างเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ!พวกเขาไม่อาจเทียบเทียมได้!เพิ่งผ่านพ้นอันตรายมา ชีวิตเกือบจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่หวังหยวนกลับตั้งสติได้เร็ว สีหน้ากลับมาเป็นปกติได้ การควบคุมอารมณ์เช่นนี้ช่างต่างจากคนธรรมดาทั่วไป!ต่อให้หวังหยวนจะแสร้งทำก็ยังน่ายกย่อง!“ท่านหวัง!”“ข้ามาในยามวิกาลเพื่อจะพูดคุยเรื่องการลอบสังหารกับท่าน!”ไท่สื่อลี่ประสานมือ ค้อมศีรษะกล่าว“การลอบสังหารรึ?”“ท่านรู้หรือว่าใครส่งนักฆ่ามา?”หวังหยวนเลิกคิ้ว หลังจากนั่งลงจิบชาแล้วจึงมองไปที่ไท่สื่อลี่สายตาของเขาคมกริบดุจดาบคู่!ทำให้ไท่สื่อลี่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง!“ไม่ใช่ ไม่ใ
โชคดีที่รู้ว่าหวังหยวนไม่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาจึงเบาใจได้!...ในเมืองหลวงของอาณาจักรต้าเย่ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอียืนอยู่ด้วยกัน พวกเขารอฟังข่าวตลอดทั้งคืน ไม่ได้หลับนอนเลยแม้แต่น้อยทั้งสองมีความเห็นตรงกัน คือถือว่าหวังหยวนเป็นภัยคุกคาม จึงต้องรอฟังข่าวจากลูกน้อง!น่าเสียดาย...เมื่อข่าวมาถึง สีหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนไป!“ล้มเหลว”เจี๋ยงโฉ่วอีขมวดคิ้วกล่าว “ก่อนพวกเขาออกเดินทาง ท่านบอกว่าพวกเขาล้วนเป็นทหารเอกทั้งนั้นไม่ใช่หรือ? ทุกคนมีฝีมือเยี่ยมยอด ไม่อาจผิดพลาดได้!”“แล้วตอนนี้ล่ะ? พวกเราไม่เพียงแต่ฆ่าหวังหยวนไม่ได้ ซ้ำยังเสียคนไปมาก หากหวังหยวนรู้ว่าพวกเราเกี่ยวข้อง อาจทำให้ราชวงศ์ต้าเย่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก!”“ตอนนี้ฝ่าบาทประชวรหนัก หากหวังหยวนยกทัพมาโจมตีจริง ๆ ประชาชนคงหวาดกลัว กองทัพคงแตกแยก! หากเปิดศึกกันจริง พวกเราจะสู้เขาได้อย่างไร?”เจี๋ยงโฉ่วอีรู้จักประมาณตนในฐานะที่ปรึกษาคนสำคัญของราชวงศ์ต้าเย่ เขาย่อมรู้เรื่องราวต่าง ๅ เป็นอย่างดี!หวังหยวนมีทหารห้าหมื่นนาย และในเมืองหลิงยังมีขุนพลอีกมากมาย!หากเปิดศึกเต็มรูปแบบ ราชวงศ์ต้าเย่จะถูกโจมตีทั้งสองด้าน ทำให้ตกอยู
เมื่อชายผู้มีแผลเป็นที่หน้าออกคำสั่ง ความกลัวในใจของทุกคนก็ลดลงไปมาก!ในเมื่อพวกเขามีใจมุ่งมั่นจะตายอยู่แล้ว แม้ว่าวันนี้จะฆ่าหวังหยวนไม่ได้ พวกเขาก็เข้ามาในถ้ำเสือแล้ว การจะหนีรอดย่อมยากลำบาก สู้ใช้โอกาสนี้ฆ่าหวังหยวนก่อน แล้วค่อยว่ากันทีหลัง!“ปัง! ปัง! ปัง!”เมื่อทุกคนเข้าใกล้ หวังหยวนก็เหนี่ยวไก เสียงปืนดังขึ้นแต่ละครั้ง มีคนล้มลงกับพื้นทีละคน แต่ด้วยจำนวนที่มากกว่า หวังหยวนจึงยังถูกล้อมอยู่!“แค่พลังเฮือกสุดท้าย ยังจะดิ้นรนอีกหรือ?”ชายผู้มีแผลเป็นบนใบหน้าจ้องมองหวังหยวนอย่างดุร้าย“วันนี้คือวันตายของเจ้า!”ว่าแล้ว ชายหน้าแผลเป็นก็ชักดาบยาว พุ่งเข้าหาหวังหยวนหมายจะเอาชีวิต!“เคร้ง!”เนื่องจากหวังหยวนถูกล้อม เมื่อชายหน้าแผลเป็นลงมือ สถานการณ์ของหวังหยวนก็ยิ่งตกอยู่ในอันตราย!ดาบของชายหน้าแผลเป็นเกือบจะฟันถูกหวังหยวน ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น ชายหน้าแผลเป็นรู้สึกเจ็บแปลบที่แขน ดาบในมือจึงหลุดออกจากมือ!“ใครบังอาจทำร้ายท่านผู้นำ!”“ข้า ต่งอวี่ อยู่ที่นี่! ใครขวางทางต้องตาย!”ต่งอวี่ตะโกนลั่น ก่อนจะชักธนูยิงใส่คนเหล่านั้น!ทหารพลธนูรีบตามมาสมทบทันที!ลูกธนูพุ่งราวกับสาย
แต่หวังหยวนไม่ใช่คนใจบุญ ใครคิดจะเล่นงานเขาต้องดูตัวเองก่อนว่ามีฝีมือแค่ไหน!“เช่นนั้นขอให้ความร่วมมือของเราราบรื่น!”จากนั้นทุกคนจึงเริ่มดื่มกันต่อเมื่องานเลี้ยงเลิกรา หวังหยวนก็เริ่มโซเซ เพราะดื่มสุราไปมาก อาการจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อยโชคดีที่มีทหารห้าหมื่นนายติดตามมา แถมยังมีต้าหู่กับต่งอวี่ด้วย หวังหยวนจึงวางใจได้ เขาจึงกล้าดื่มสุราอย่างสบายใจ!ในที่มืด เงาร่างมากมายรวมตัวกันนอกค่ายของหวังหยวน จ้องมองแสงไฟในค่ายชายผู้มีใบหน้าเต็มไปด้วยแผลเป็นที่อยู่ข้างหน้าสุดและสวมหน้ากาก กล่าวกับคนข้างหลัง “ก่อนมาที่นี่ ข้าได้บอกพวกเจ้าแล้วว่าครั้งนี้มีแต่ตายกับตาย!”“แต่พวกเราต้องทำภารกิจที่ท่านขุนพลมอบหมายให้สำเร็จ! นั่นคือการสังหารหวังหยวน แม้ต้องแลกมาด้วยชีวิต นั่นก็เพื่อกำจัดศัตรูตัวฉกาจของราชวงศ์ต้าเย่!”“พวกเจ้าทำได้หรือไม่?”ทุกคนพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น!“ดี!”“ก่อนลงมือ มีเรื่องต้องเตือนพวกเจ้า หากถูกจับเป็น จงกัดยาพิษที่ซ่อนไว้ในฟันกราม เพื่อไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน!”ทุกคนพยักหน้าพวกเขาเตรียมพร้อมอย่างดี วันนี้คือวันที่พวกเขาตอบแทนอาณาจักร!แต่การตายมีทั้งที่ไร้ค่าและมีค่า!ก่อ
“พวกเราสามารถลงมืออย่างเป็นความลับได้!”“ไม่มีใครรู้เห็น!”“แม้แต่คนใจร้อนของหวังหยวน จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือพวกเรา?”“อย่าลืมว่าไท่สื่อลี่และคนอื่น ๆ ได้ฆ่าเจียงเซี่ยวแล้ว หากคนของเจียงเซี่ยวในป่าลอบสังหารหวังหยวน ย่อมไม่มีใครสงสัยใช่หรือไม่?”ซือฟางแสยะยิ้ม แผนการร้ายผุดขึ้นในใจ!“ดี!”เจี๋ยงโฉ่วอีหัวเราะ แล้วยกนิ้วให้ซือฟาง ช่างเป็นขุนพลที่กล้าหาญและมีไหวพริบจริง ๆ!มีซือฟางคอยปกป้อง ราชวงศ์ต้าเย่ย่อมปลอดภัยไร้กังวล!...ที่งานเลี้ยงในป่า หวังหยวนและคนอื่น ๆ นั่งอยู่ด้วยกัน มีต้าหู่และต่งอวี่ แต่ไม่มีเกาเล่อเพราะเกาเล่อมีภารกิจสำคัญยิ่งกว่านั้น นั่นคือการสืบหาข่าวสารที่เป็นประโยชน์!หวังหยวนเพิ่งพบกับคนของเผ่าทางเหนือ ยังไม่รู้จักสถานการณ์ภายใน จึงต้องให้เกาเล่อไปตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหา!แน่นอนว่านี่ก็เพื่อความสะดวกในการดำเนินการในอนาคต!หวังหยวนถือว่าดินแดนของเผ่าเหล่านี้เป็นของตนเองแล้ว!ย่อมต้องดูแลอย่างดี!ในงานเลี้ยง ไท่สื่อลี่ได้บอกแผนการของหวังหยวนให้หัวหน้าเผ่าคนอื่นแล้ว ตอนนี้ทุกคนกำลังปรึกษาหารือและถกเถียงถึงข้อดีข้อเสีย!เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เ
“ท่านเจี๋ยง!”“ท่านคือผู้ปราดเปรื่องที่สุดในราชวงศ์ต้าเย่!”“เป็นคนสนิทที่ฝ่าบาททรงไว้วางพระทัย!”“ครั้งที่ราชวงศ์ต้าเย่ตกอยู่ในอันตราย ก็เพราะท่านคอยถวายคำแนะนำ จึงสามารถรักษาแผ่นดินของราชวงศ์ต้าเย่ไว้ได้!”“บัดนี้ภัยพิบัติมาถึง ท่านกลับมานั่งถอนหายใจ ไม่เอ่ยคำใดเลยหรือ?”ซือฟางเป็นคนใจร้อน พูดพลางเดินไปมาไม่หยุด“ท่านขุนพล! เชิญนั่งพักก่อนเถิด!”“ท่านเดินไปมาเช่นนี้ทำให้ข้าเวียนหัวไปหมดแล้ว!”เจี๋ยงโฉ่วอีโบกมือ ก่อนกล่าวว่า “บอกตามตรง หลายวันมานี้ ข้าเองก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ แต่ยังหาทางออกที่ดีไม่ได้!”“ท่านขุนพลมาดื่มสุราที่นี่ คงคิดหาวิธีรับมือได้แล้วกระมัง?”“เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้ได้หรือเปล่ากระมัง?”“ข้าพูดถูกหรือไม่?”ซือฟางไม่ได้ปิดบัง พยักหน้ารับในทันที“เช่นนั้นท่านขุนพลรีบบอกมาเถิดว่ามีวิธีใด? พวกเราลองปรึกษากัน บางทีอาจช่วยกันแก้ไขปัญหา รับมือหวังหยวนเพื่อปกป้องแผ่นดินของเราได้!”เจี๋ยงโฉ่วอีรีบถามแม้ว่าเขาจะเป็นที่ปรึกษาของไป๋เหยียนเฟย แต่บางครั้งก็ต้องการคนช่วยเตือนสติ จึงจะคิดแผนการที่ดีได้!คนเราแม้จะฉลาดแค่ไหน บางครั้งก็อาจพลาดพลั้งได้!ทุกอย่าง
“ได้!”“ทุกคนโปรดวางใจ เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง!”“ทุกคนแค่ทำหน้าที่ของตนไป ไม่จำเป็นต้องกังวล!”เจี๋ยงโฉ่วอีปลอบใจทุกคน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังกระโจมใหญ่ทหารยามหน้าประตูต่างโค้งคำนับด้วยความเคารพซือฟางมีอำนาจเด็ดขาดในกองทัพ ส่วนเจี๋ยงโฉ่วอีมีอำนาจในราชสำนัก ทั้งสองเป็นขุนนางคู่บุญ คนหนึ่งเป็นฝ่ายทหาร คนหนึ่งฝ่ายพลเรือน ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน เป็นเสาหลักของราชวงศ์ต้าเย่ จึงสามารถรักษาความมั่นคงของราชวงศ์ต้าเย่ไว้ได้!“ไสหัวไป!”ทันทีที่เจี๋ยงโฉ่วอีเปิดประตูเข้ามาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่น!“ข้าไม่ได้สั่งไว้หรือว่าห้ามใครมารบกวนข้า?”“ใครอนุญาตให้พวกเจ้าเข้ามา?”“รีบออกไป! ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่ปรานี!”เจี๋ยงโฉ่วอีไม่สนใจคำพูดของซือฟาง ยังคงเดินเข้าไปในกระโจมพร้อมกับหัวเราะ“เจ้า...”ซือฟางโกรธจัดจนพลิกโต๊ะล้มเสียงดัง แล้วผุดลุกขึ้นยืน แต่พอเห็นเจี๋ยงโฉ่วอีก็ชะงัก ดวงตาแดงก่ำค่อยสงบลงเมื่อครู่เขามัวแต่ดื่มสุรา ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง จึงไม่รู้ว่าใครเข้ามา!ตอนนี้เห็นเจี๋ยงโฉ่วอีแล้วจึงสงบสติอารมณ์ลงได้“ที่แท้ก็เป็นท่านเจี๋ยง”“ข้าผิดไปที่เห็นท่านเป็นทหารโง่เขลา ขออภัย
“ยิ่งกว่านั้น พวกข้าก็เหมือนคนที่ทรยศ นำดินแดนของเผ่าตัวเองมาถวายท่าน หากกลับไปเผ่า คงไม่อาจอธิบายกับสมาชิกเผ่าได้!”“ท่านเป็นผู้ปกครอง ย่อมรู้ดีว่าหากสูญเสียใจของผู้คนไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?”ไท่สื่อลี่จ้องมองหวังหยวน ใบหน้าแสดงความกังวลว่าหวังหยวนจะโกรธอยู่เสมอหวังหยวนโบกมือด้วยรอยยิ้ม แล้วกล่าวว่า “จริงอย่างที่ท่านว่า แต่ข้าไม่ได้คิดจะปกครองเผ่า เพียงแต่ต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกท่านเท่านั้น!”“ข้าจะคอยช่วยเหลือให้เผ่าของพวกท่านพัฒนาขึ้น ส่วนสิ่งที่ข้าต้องการก็ง่ายมาก คือหากข้าต้องการความช่วยเหลือ พวกท่านต้องช่วยเหลือข้าโดยไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้ท่านคงเข้าใจแล้วกระมัง?”เป็นเช่นนี้เอง!ไท่สื่อลี่เข้าใจในทันที นี่ช่างเป็นข้อเสนอที่ดี!ตราบใดที่หวังหยวนไม่เข้ามายุ่งเรื่องภายใน แถมยังคอยช่วยเหลือ ใครบ้างจะไม่ยอมร่วมมือด้วย?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าจะรับหน้าที่นี้เอง ประเดี๋ยวข้าจะไปปรึกษากับพวกพ้อง บอกความคิดของท่านให้พวกเขารู้ก่อนนะขอรับ!”“พวกเขาล้วนเป็นคนมีเหตุผล คงจะให้คำตอบที่ท่านพอใจ!”“จะไม่ทำให้ท่านหวังผิดหวังขอรับ!”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ด้วยความพึงพอใจ เพียงแค่