แชร์

บทที่ 451

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ยืมชุดเกราะ!”

นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลย ผู้บัญชาการเจ้าหน้าที่ซุนกำลังลังเล แต่เมื่อเห็นแววตาเสียดสีของผู้ตรวจการสวี่ที่มองเขาราวกับว่าเป็นคนโง่เขลา เขาจึงพยักหน้าอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “ไม่ทราบว่าคุณชายต้องการเท่าไหร่ ข้าจะให้คนไปเอามาอย่างสุดความสามารถ”

หวังหยวนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ข้าขอเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบคู่ก็พอแล้ว!”

ที่ว่าการอำเภอก็ไม่มีเกราะที่ดีเช่นกัน ล้วนเป็นเกราะหนังที่มีแผ่นเหล็กอยู่ข้างใน ทว่าก็สามารถป้องกันโจรภูเขาได้ดี

“ไม่มีปัญหา คุณชายโปรดรอสักครู่!”

หลังจากตอบในหนึ่งลมหายใจ ผู้บัญชาการเจ้าหน้าที่ซุนก็รู้สึกผ่อนคลายและรีบไปเอาชุดเกราะ

เมืองฝูตั้งอยู่ที่ชายแดน นอกเหนือจากการจ่ายภาษีทุกปีแล้ว ยังรับผิดชอบในการผลิตดาบ ปืน คันธนู และชุดเกราะอีกด้วย เมื่อรวมของโกดังของที่ว่าการอำเภอกับกองทหารรักษาการณ์เข้าด้วยกัน ก็สามารถชดเชยสิ่งนี้ได้

ผู้ตรวจการสวี่ก็กล่าวทักทายแล้วจากไป!

กลุ่มคนขับรถช้า ๆ ไปยังที่ว่าการอำเภอ!

แต่ก่อนที่จะขับไปยังที่ว่าการอำเภอได้ รถม้าแสนสวยคันหนึ่งก็ขับเข้ามา และคนขับคือหูเทียน!

“คุณชาย!”

ม่านในรถม้าถูกเปิดออก จากนั้นหูเมิ่งอิ๋งก็อ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 452

    มีสาวงามยืนอยู่ข้างหลัง! หูเมิ่งอิ๋งกล่าวด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล “คุณชาย ท่านไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยง ให้ข้าไปที่หุบเขาชิงหลง และขอให้เขามอบตัวลุงเจี้ยนออกมาได้อย่างแน่นอน” นางรู้ว่าเหลิ่งอวิ๋นคิดอย่างไรกับนาง ทว่านางคิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนขี้หึงมากจนจัดการกับคุณชายด้วยเหตุผลเช่นนี้ “ไม่ได้!” หวังหยวนส่ายหัวโดยไม่ลังเล “หากเจ้าไปที่หุบเขาชิงหลง เขายังจะปล่อยเจ้ากลับอีกเหรอ?” หูเมิ่งอิ๋งตกตะลึงอยู่กับที่! ด้วยนิสัยของเหลิ่งอวิ๋น เขาสามารถทำสิ่งนี้ได้จริง ๆ บังคับกักขังนางไว้ในหุบเขาชิงหลง หวังหยวนกล่าวว่า “เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ข้าจะช่วยลุงเจี้ยนออกมาได้อย่างแน่นอน" หูเมิ่งอิ๋งพูดอย่างเป็นกังวล “แต่เขามีโจรภูเขาหลายพันคนที่สามารถฆ่าโดยไม่กระพริบตา ท่านมีเพียงประมาณสองร้อยคนเท่านั้น แล้วจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร” “โจรภูเขาล้วนแต่เป็นพวกหัวมังกุฎท้ายมังกร ไม่ว่าจะมีคนมากเท่าไรห่พวกเขาก็ไม่สามารถรวมเป็นหนึ่งได้!” หวังหยวนยิ้มอย่างเหยียดหยาม “เจ้าไม่ต้องกังวล ข้ามีวิธีการแล้ว!” การส่งอู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่ลงมือก่อนคือการเตรียมการล่วงหน้า เพียงแต่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 453

    เถียนชียิ้มและพูดว่า “ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ ขุนพลหงเยี่ยไม่รู้อย่างแน่นอน ช่วงสองวันนี้นางได้รับเชิญจากเสี่ยวไท่ซุ่ยให้ไปเยี่ยมชมสันเขาไป่หู!” ดวงตาของชิงเมี่ยนโช่วมืดลง “ส่งสหายจากขุนเขาเฮยสรงและสันเขาไป๋หูทั้งหมดไปรับใช้นาง นี่จะช่วยให้นางไม่ต้องไปเดินเตร่รอบ ๆ สันเขาไป๋หู และเฮยสรงซานได้ตลอดทั้งวัน!” เมื่อคำนึงถึงอาหารแล้ว เสี่ยวไท่ซุ่ยและขุนเขาเฮยสรงต่างก็ตกลงที่จะส่งคนไปจัดระเบียบใหม่ ภายในไม่กี่วันคนนับพันก็จะมาถึง เถียนชีตกตะลึง: นั่นคือคนนับพันคนเชียวนะ ใครก็ตามที่สั่งการพวกเขาได้ก็ย่อมมีอำนาจใหญ่เป็นอันดับสองในภูเขา! อาจารย์จ้าวหลังค่อมกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพ ท่านอย่าทำเช่นนั้นเด็ดขาด อำนาจทางการทหารเป็นเรื่องของชีวิตและความตาย มันจะต้องอยู่ในกำมือของเรา ขุนพลหงเยี่ยเพิ่งมาถึง และนางอาจจะไม่ได้มีจิตใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเรา เราจะมอบคนนับพันคนให้นางสั่งการได้อย่างไร!” “ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวล ปล่อยให้นางสั่งหารสักสองสามวัน นางยังไม่สามารถนำกองทหารออกไปได้” เหลิ่งอวิ๋นเปลี่ยนเรื่อง “ท่านอาจารย์ เขียนจดหมายอีกฉบับถึงเจ้าไก่อ่อนนั่น เขาอยากซื้อหินแก้วนั้นไม่ใช่หรือ? ให้เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 454

    อู่จั้งโหวพูดประจบ จากนั้นจึงเปลี่ยนเรื่องและพูดว่า “ครั้งนี้ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามหาน้องสาวเท่านั้น ข้ามาเพื่อหาวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ด้วย!” ฉางเฟิงตกตะลึง “วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่?” อู่จั้งโหวพูดเสียงดัง “เขาเป็นทหารผ่านศึกในชุดเกราะทมิฬ ไม่นานมานี้ ตามคำร้องขอของแม่ทัพหนุ่ม เขาได้ไปที่สนามรบทางตอนเหนืออีกครั้ง และใช้หน้าไม้ยักษ์ยิงอ๋องถูหนานจนตาย” “อะไรนะ วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ยิงอ๋องถูหนานจนตาย เขาอยู่ที่ไหน!” กลุ่มโจรภูเขากำลังเดือดพล่าน พวกเขาเกลียดนายพลและทหารที่ล้อมปราบพวกโจรภูเขา แต่พวกเขายังคงชื่นชมกองทัพชุดเกราะทมิฬที่สามารถกวาดล้างชาวหวง กลุ่มหมาป่า กลุ่มคนป่าเถื่อน และคนต่างถิ่นจากก้นบึ้ง โดยเฉพาะวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สังหารอ๋องถูหนานได้! “ในเมื่อน้องสาวของข้าอยู่ที่นี่ พวกเจ้าก็น่าจะเคยเห็นเขาเหมือนกัน!” อู่จั้งโหวพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “เขาคือบุรุษที่อยู่กับน้องสาวของข้า เดิมทีเขาเป็นองครักษ์ของแม่ทัพมู่ซึ่งอยู่อันดับที่สามสิบแปด นามสกุลเขาคือผิง และชื่อของเขาคือเจี้ยน!” “เป็นเขาเหรอ?” โจรภูเขาหลายคนนึกขึ้นได้! โจรภูเขาบางคนที่เข้าร่วมในการปิดล้อม และสังห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 455

    “อะไรนะ?” ในห้องประชุม หลังจากชิงเมี่ยนโช่วเหลิ่งอวิ๋นได้รับข่าวก็มีสีหน้าดูมืดมนและไม่มั่นคง จากการที่ผิงเจี้ยนฆ่าคนไปสามสิบคน และใช้อาวุธวิเศษที่ตัดเหล็กได้เหมือนโคลน เขาจึงรู้ว่าผิงเจี้ยนไม่ธรรมดา! แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นองครักษ์กองทัพเกราะทมิฬและมีส่วนเกี่ยวข้องในการยิงสังหารอ๋องถูหนาน ยิ่งกว่านั้นคือมีส่วนเกี่ยวข้องกับแม่ทัพหนุ่ม! อย่างไรก็ตาม เขายังคงมีข้อสงสัย! วีรบุรุษผู้มากความสามารถเช่นนี้ทำงานให้กับเจ้าไก่อ่อนอย่างหวังหยวนที่เขียนบทกวีแย่ ๆ ได้อย่างไร? นอกจากนี้ เรื่องราวการพบกันระหว่างหงเยี่ย อู่จั้งโหว และหวังหยวนทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ! เถียนชีซึ่งเดิมเป็นผู้รับผิดชอบคนที่สองของหุบเขาชิงหลง และปัจจุบันเป็นนายพลมีเหงื่อเย็นอาบบนหน้าผากของเขา “ท่านแม่ทัพ รีบปล่อยผิงเจี้ยนเร็ว ๆ เถอะ สิ่งที่อู่จั้งโหวพูดนั้นเป็นเรื่องจริง เขาเป็นองครักษ์ชุดเกราะทมิฬจริง ๆ เขายังสวมชุดเกราะทมิฬไปทั้งตัวอีกด้วย ยิ่งกว่านั้น ตอนที่จับกุมเขาเหล่าสหายยังยึดอาวุธจากข้าศึกที่รบแพ้จากเขามาด้วย เดิมคิดว่าอยากจะทำความสะอาดก่อนแล้วค่อยมอบให้ท่านแม่ทัพ!” เหลิ่งอวิ๋นจ้องไปที่เถียนชี ไอ้สา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 456

    พวกโจรภูเขาในสันเขาเชียนเฮ่อไม่สามารถเอาชนะทหารเขตหลงหนานได้ด้วยซ้ำ พวกเขาจะไปเอาความกล้ามาจากไหนที่จะต่อกรกับกองกำลังชายแดนของแม่ทัพหนุ่ม “ท่านอาจารย์ ท่านพูดวกไปมาก็เพื่ออยากให้ข้าปล่อยตัวผิงเจี้ยน เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหวังหยวนนั่นมาที่หุบเขาชิงหลง” เหลิ่งอวิ๋นหันกลับมาด้วยใบหน้าเย็นชา “แม่ทัพอย่างข้ารู้ดีว่าผู้มีความรู้อย่างพวกท่านล้วนชอบบัณฑิตที่สามารถเขียนบทกวีดี ๆ ได้ บัณฑิตถงเซิงสกุลหวังผู้นั้นถูกรสนิยมของท่าน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าอยากจะบอกท่านไว้ว่า ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะฆ่าบัณฑิตถงเซิงสกุลหวังผู้นั้น และไม่มีใครหยุดข้าได้ ไม่เช่นนั้นก็อย่าตำหนิข้าที่ไม่ไว้หน้า!” “...” อาจารย์จ้าวขมวดคิ้วและหยุดนิ่งอยู่กับที่! เหลิ่งอวิ๋นเดินออกจากห้องประชุมด้วยหน้านิ่ง “ออกคำสั่ง ห้ามใครพูดถึงเรื่องนี้เป็นอันขาด ให้ผู้ที่เข้าร่วมปิดล้อมผิงเจี้ยนหุบปากไว้ให้ดี อย่าปล่อยให้ขุนพลหงเยี่ยรู้เป็นอันขาด ผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามกฎทหาร!” เมื่อได้ยินว่าจะไม่ปล่อยตัวผิงเจี้ยนและจะปกปิดข่าวแทน โจรภูเขาหลายคนต่างขมวดคิ้ว ท่านแม่ทะพคิดจะทำอะไร ทุกคนต่างรู้แล้วว่าผิงเจี้ยนผู้นั้นเป็นองครักษ์ในชุดเก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 457

    ต้าหู่เดินเข้าไปฟังสิ่งที่หวังหยวนมอบหมายอยู่พักหนึ่ง จากนั้นดวงตาทั้งคู่ของเขาก็สว่างขึ้น พวกเขาจองโรงเตี๊ยมทั้งหมดแล้ว คนทั้งกลุ่มก็เข้าไปพักผ่อนและรอข่าวสารเพิ่มเติม ...อู่จั้งโหวและเซี่ยซานหู่มาถึงสันเขาไป๋หู หงเยี่ยและเสี่ยวไท่ซุ่ยพาคนออกมาทักทายพวกเขา ทั้งสองฝ่ายต่างทักทายกัน อู่จั้งโหวกำหมัดของเขาแล้วพูดว่า “น้องซั่นอู่ ขอบคุณเจ้าที่ดูแลน้องสาวของข้า งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราในใต้หล้า พวกเราพี่น้องขอลาแล้ว!” หงเยี่ยรู้สึกสับสน พี่ใหญ่มาเข้าพบหัวหน้าและเตรียมจะจากไป ก่อนที่จะได้พูดคุยกันสักสองสามประโยค ใบหน้าผิวขาวซีดของเสี่ยวไท่ซุ่ยสวีซั่นอู่ดูน่าเกลียดเล็กน้อย “พี่อู่จั้งโหว ข้าทำอะไรให้ท่านขุ่นเคืองหรือไม่ หรือว่าท่านรังเกียจใบหน้าของข้าทร่ไม่น่าดู ยังไม่ทันดื่มสุราหรือน้ำสักคำก็จะจากไปแล้ว!” อู่จั้งโหวโบกมือ “น้องชาย โปรดอย่าเข้าใจผิด เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า!” หงเยี่ยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “พี่ใหญ่ แล้วเหตุผลของท่านคืออะไรกันแน่!” “เฮ้อ!” อู่จั้งโหวถอนหายใจ “มันยากที่จะอธิบายสั้น ๆ!” เซี่ยซานหู่ลุกขึ้นยืนทันที และอธิบายสิ่งที่พูดในหุบเขาชิงหลงอีกรอบ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 458

    “ขอบคุณพี่ชายยิ่งนัก!” เสี่ยวไท่ซุ่ยสวีซั่นอู่หายใจลำบาก! อู่จั้งโหวโบกมือ “แต่ตอนนี้ชิงเมี่ยนโช่วได้ก่อเหตุนี้แล้ว ไม่รู้ว่าแม่ทัพหนุ่มจะบุกโจมตีเมื่อไร ข้าไม่วางใจให้น้องสาวของข้าอยู่ที่นี่ต่อ” ปัง! ทันทีที่ตบโต๊ะ เสี่ยวไท่ซุ่ยก็ลุกขึ้นยืน “ข้าจะไปหาชิงเมี่ยนโช่ว แล้วขอให้เขาปล่อยตัวผิงเจี้ยน อย่าสร้างหายนะให้กับสันเขาเชียนเฮ่อ!” อู่จั้งโหวคว้าเขาไว้แล้วพูดว่า “เรื่องนี้เจ้าทำคนเดียวไม่ได้ ทางที่ดีที่สุดคือรวบรวมผู้ที่มีความคิดเห็นเหมือนกัน และสามารถทำงานร่วมกันได้ เมื่อมีผู้คนมากขึ้น ก็จะมีอำนาจกดดันเขาได้มากขึ้น!” เสี่ยวไท่ซุ่ยก็คิดเช่นเดียวกัน จากนั้นจึงรีบจัดกำลังคนเพื่อแจ้งให้โจรภูเขาที่อยู่ใกล้ ๆ รวมตัวกันทันที! หงเยี่ย อู่จั้งโหว และเซี่ยซานหู่ก็ลงจากภูเขาเช่นกัน! หงเยี่ยพูดตรงประเด็นทันที “พี่ใหญ่ ลุงเจี้ยนเป็นวีรบุรุษที่ยิงสังหารอ๋องถูหนานจริง ๆ เหรอ!” “พี่ใหญ่ไม่ได้โกหกเจ้า!” อู่จั้งโหวเอ่ยถามว่า “เจ้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังหลายวันมานี้ เคยทำให้คุณชายโกรธหรือไม่?” หงเยี่ยเม้มริมฝีปากของนาง “พี่ชาย ข้าทำให้เขาโกรธแล้วอย่างไรเล่า ชายคนนั้นน่ารังเกียจยิ่งก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 459

    พี่ชายและน้องสาวทั้งสองคนขี่ม้าไปที่ขุนเขาเฮยสรง และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเฮยเมี่ยนจินกัง! อู่จั้งโหวทวนคำพูดเหล่านั้นอีกครั้ง! “ให้ตายเถอะ ชิงเมี่ยนโช่วเจ้าคนน่ารังเกียจนั่น ถึงกับกล้าจับตัวลุงเจี้ยน!” เฮยเมี่ยนจินกังสาปแช่งเสียงดังแล้วอุทานว่า “กล้ามากที่จับตัวลุงเจี้ยน เขายิงสังหารอ๋องถูหนาน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ข้ารู้สึกพิเศษเมื่อเห็นเขาในวันนั้น” หงเยี่ยเม้มริมฝีปากของนางแล้วพูดว่า “แล้วท่านวางแผนจะทำอย่างไรเล่า?” “แน่นอนว่าข้าจะพาคนไปช่วยพาตัวลุงเจี้ยนออกมา!” เฮยเมี่ยนจินกังตบหน้าอกของเขา ยิ้มอีกครั้งแล้วพูดว่า “แต่ตอนนี้มันดึกแล้ว วันนี้คงไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้ เราค่อยออกเดินทางกันพรุ่งนี้ดีไหม!” พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า หงเยี่ยและอู่จั้งโหวก็ไม่ปฏิเสธ ดังนั้นพวกเขาจึงพักค้างคืนที่ขุนเขาเฮยสรง บนภูเขาเตรียมสุราและอาหารไว้แล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็แลกเปลี่ยนถ้วยสุรากัน ส่วนหงเยี่ยขอตัวไปพักผ่อนก่อน ในขณะที่อู่จั้งโหวและเฮยเมี่ยนจินกังยังคงดื่มต่อไป พวกเขาทั้งสองโอบไหล่ของกันและกัน เฮยเมี่ยนจินกังตัวสูง ในขณะที่อู่จั้งโหวตัวเตี้ย เฮยเมี่ยนจินกังโค้งงอและเบ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1866

    นอกจากฝีมือของหวังหยวนจะจัดว่ายอดเยี่ยมแล้วยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสักครู่นี้นางยังบังเอิญเห็นปืนคาบศิลาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อของหวังหยวน นางจึงรู้ตัวตนของหวังหยวนแล้วทันใดนั้นแม่นางหรูเยียนก็ยกยิ้มจาง ก่อนจะกล่าวเสียงเรียบว่า “หากข้าเดาไม่ผิด ท่านคงเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักข้าได้อย่างไร?” หวังหยวนตกตะลึง“คนมีชื่อเสียงเช่นนี้ ข้าจะไม่รู้จักได้อย่างไร?” แม่นางหรูเยียนกอดอกและกล่าวช้า ๆ ว่า “จากอาวุธลับในแขนเสื้อของท่าน ก็สามารถบอกตัวตนของท่านได้แล้ว”“ดังนั้น…” หวังหยวนจงใจลากเสียงยาว “เจ้าเป็นคนของอาณาจักรต้าเป่ยใช่หรือไม่? หรือว่าอาณาจักรต้าเย่ ไม่ก็คนเมืองหวงใช่หรือเปล่า?”ในปัจจุบัน แผ่นดินของดินแดนทั้งเก้าถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วน เขาครอบครองส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีกสามส่วนถูกครอบครองโดยอีกสามคนแม้ว่าจะยังไม่รบกันในตอนนี้ แต่ก็ต้องมีสงครามเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นแต่คนที่สามารถจดจำอาวุธลับในมือเขาได้ก็มีไม่มาก นั่นก็พิสูจน์ได้ว่าแม่นางหรูเยียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับหนึ่งในกองกำลังเหล่านี้ จึงสามารถจำต

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1865

    หวังหยวนที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักฝีเท้าทันที แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เฉินเทียนอับอาย ในสายตาของหวังหยวนนั้น ชายคนนี้ก็เป็นเพียงชายเจ้าสำราญคนหนึ่งที่ประพฤติตนไร้สาระ จึงไม่สมควรได้รับการใส่ใจทว่าเหตุผลที่เขาก้าวออกไปนั้น ไม่ใช่เพราะหันหลังให้ความทุกข์ยาก แต่เป็นเพราะเชื่อมั่นว่าแม่นางหรูเยียนจะสามารถจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยฝีมือของแม่นางหรูเยียน เพียงแค่นายน้อยขี้เมาคนหนึ่งจะมีความหมายอะไร? แต่เฉินเทียนกลับกล้าเอ่ยวาจาท้าทายเขาต่อหน้า ซ้ำยังใช้คำหยาบคายอย่างยิ่ง หวังหยวนจึงไม่อาจปล่อยวางได้! ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?ทันใดนั้น หวังหยวนก็หันมาถีบเข้าที่อกของเฉินเทียนอย่างแรง! ในวินาทีต่อมา ร่างของเฉินเทียนก็กระเด็นไปหลายวาเหมือนลูกบอล ก่อนจะหยุดลง... เลือดไหลทะลักออกมาจากจมูก!ดูสภาพแล้วน่าเวทนาเหลือเกิน! แม่นางหรูเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ยกมือปิดปากหัวเราะเบา ๆหวังหยวนปัดฝุ่นบนมือ และพูดอย่างใจเย็นว่า “งาช้างไม่งอกออกจากปากสุนัข!” “มอบโอกาสให้เจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นคุณค่า ยังกล้าพูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าข้าอีก สมควรตายนัก!”ด้วยเหตุใดไม่ทราบ แม่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1864

    “ได้! ข้ายินยอม!”แม่นางหรูเยียนจำต้องยอมจำนนดังที่หวังหยวนคาดการณ์ไว้ นางยังคงมีจุดประสงค์ของตนเอง จึงไม่สามารถยอมแพ้ในสถานการณ์นี้ได้ ส่วนเรื่องความแค้นกับหวังหยวน ภายหลังค่อยแก้แค้นภายหลังยังไม่สาย…“ถูกต้อง”เมื่อแม่นางหรูเยียนตอบตกลง หวังหยวนจึงลุกขึ้นยิ้ม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ทุกคนเข้าใจผิดแล้วจริง ๆ”“ข้ากับแม่นางหรูเยียนเป็นเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมานานหลายปี ครั้งนี้ข้ามาเพื่อปรึกษาหารือเรื่องบางอย่างกับนาง”“หากเราจะทำอะไรกันจริง เราจะนั่งห่างกันถึงเพียงนี้หรือ?”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มผู้คนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา คำพูดนี้ยังไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือนักหวังหยวนเหลือบมอง และกล่าวอีกครั้ง “ทุกคน! คงไม่รู้ว่าข้าแต่งงานแล้วใช่หรือไม่?”“ภรรยาของข้ารอข้าอยู่ที่บ้าน และนางก็รู้จักแม่นางหรูเยียน นางจึงให้ข้ามาพบกับนาง”“ทุกท่านดูข้าสิ ข้าดูเหมือนคนเจ้าชู้หรือ?”ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือของคนจากหอชิงสุ่ย ฝูงชนจึงค่อย ๆ แยกย้ายสลายตัวกันไป ไม่มีใครอยู่ต่อมีเพียงคนเดียวที่ยังไม่จากไปไหน นั่นคือเฉินเทียนขี้เมาสีหน้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1863

    แม่นางหรูเยียนเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของที่นี่ เหล่าบุรุษมากมายต่างมาเยือนที่นี่เพราะนาง แต่บัดนี้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นแล้ว ผู้คนมากมายต่างมารวมตัวกันนอกประตู ต่างพากันกระซิบกระซาบวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างไม่ขาดสาย“นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางหรูเยียนแสร้งทำเป็นสูงส่งเป็นเปลือกนอก แต่เบื้องหลังกลับเป็นเช่นนี้!”“ข้าก็พอจะเข้าใจ คนเราล้วนมีด้านมืด นางจะมาทำเป็นสูงส่งได้อย่างไร?”“นางแสร้งทำเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่อง!”ทันใดนั้นความคิดของทุกคนที่มีต่อแม่นางหรูเยียนก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากหลายคนบ่นว่าเงินที่เสียไปก่อนหน้านี้ไม่คุ้มค่าเลยจริง ๆ! หากรู้ว่านางเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะมาที่นี่เพื่ออะไร? เสียเงินทองมากมายไปกับการฟังเพลง มันช่างเป็นเรื่องไร้สาระ!สีหน้าของแม่นางหรูเยียนเปลี่ยนไป นางรีบหยิบผ้าไหมขึ้นมาปิดบังใบหน้า แล้วชี้ไปที่หวังหยวนพลางกล่าวว่า “เรื่องราวไม่ได้เป็นอย่างที่พวกท่านคิด!”“บุรุษผู้นี้เป็นเพียงคนเจ้าชู้! ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาบุกเข้ามาในห้องได้อย่างไร!”“ทุกท่านเข้าใจผิดแล้ว!”ทุกคนต่างหัวเราะเยาะในกลุ่มคนมีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น “แม่นางหรูเยียน เจ้าคิดว่าพวกข้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

DMCA.com Protection Status