...กลับไปที่คฤหาสน์สกุลหยาง ใบหน้าของหยางว่านหลี่ซีดเผือด เขาพูดอย่างเคร่งเครียด “จงชักดาบออกมาเปิดทาง เจ็บได้แต่อย่าถึงตาย!”ที่หน้าประตูคฤหาสน์สกุลหยางมีทั้งขอทาน คนจรจัด และอันธพาลจำนวนมาก ยืนตะโกนร้องขอให้ตระกูลหยางคืนเงิน บางคนขอมากถึงหนึ่งร้อยตำลึง ส่วนใหญ่ขอสิบตำลึงฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ...คนแปดคนหยิบดาบออกจากฝัก เดินตรงไปยังฝูงชน แล้วใช้ดาบฟันพวกเขา!“อ๊าก ตระกูลหยางจะฆ่าคน!”“วิ่งเร็วเข้า!”“คนตระกูลหยางบ้าไปแล้ว ไม่ให้เงินแล้วยังฆ่าคนอีก!”มีเสียงคนกรีดร้อง แล้วฝูงชนก็แยกย้ายกันไปทันที!พวกเขาเป็นผู้ลี้ภัย ขอทาน และคนยากจน มีไม่กี่คนที่กล้าหาญ!ทันทีที่เห็นคนวิ่งหนีไป ความกล้าหาญที่เกิดจากการรวมกลุ่มก็หายไป!ชั่วพริบตา ผู้คนหลายร้อยคนที่มาขวางประตูคฤหาสน์สกุลหยางก็สลายตัวไปหมด!“พวกหัวมังกุท้ายมังกร!”หยางว่านหลี่ตะคอกอย่างเหยียดหยาม แล้วรถม้าก็ขับเข้าไปในคฤหาสน์สกุลหยาง!“นายน้อยเล็กกลับมาแล้ว!”คนเฝ้าประตูตะโกน คนรับใช้และสาวใช้จำนวนมากก็ออกมาต้อนรับเขา!หยางว่านหลี่พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ปล่อยให้คนมากมายมาขวางประตูอยู่ ท่านอาสามอยู่ที่ไห
มีรถม้าคันหนึ่งที่ไม่ค่อยงดงามนักแล่นมา ต้าหู่ขับรถม้า ส่วนเอ้อร์หู่กับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งขี่ม้าอยู่ข้าง ๆหวังหยวนหลับตางีบหลับอยู่ในรถม้า ขณะที่หูเมิ่งอิ๋งที่แต่งตัวเป็นหนุ่มน้อยสุดหล่อกำลังแอบมองเขาเหตุใดคุณชายถึงฉลาดปราดเปรื่องถึงเพียงนี้!ขุดรากถอนโคนของตระกูลหยางขึ้นมาได้ด้วยตัวเขาเองจริง ๆไปเยี่ยมหมู่บ้านทั้งสิบแปดแห่งทั้งวันทั้งคืน และชักชวนชาวบ้านหลายครัวเรือน และหัวหน้าบ่อเกลือหลายคนให้รวมตัวกันประท้วง หากตระกูลหยางจะไม่ย่อมจ่ายเงินแปดอีแปะ ก็จะไม่ยอมขายเกลือให้สักเม็ดและผลตอบรับจากใบประกาศทั่วเมือง ก็ทำให้นางยิ่งตกตะลึงมากยิ่งขึ้น สามารถโจมตีศัตรูเช่นนี้ได้ด้วย!ในขณะนี้ นางกลายเป็นเหมือนต้าหู่ เอ้อร์หู่ และชาวบ้านหมู่บ้านต้าหวังคนอื่น ๆ แล้ว เพราะเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดที่คุณชายทำไม่ได้!เพราะเขาได้ทำสิ่งที่น่าทึ่งมากมาย!รถม้าหยุดลง หูเมิ่งอิ๋งสะกิดหวังหยวน “คุณชาย มาถึงแล้ว!”“ไปกันเถอะ!”หวังหยวนยืดตัวหลังออกจากรถม้า กวาดสายตาสังเกตรอบตัวทันที!มีแม่น้ำใสสายใหญ่ และเวทีขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นข้างแม่น้ำ มีทหารคอยเฝ้าอารักขาอยู่ทั่ว!รอบเวที มีรถม้าหลายร้อยคันจอดอยู่
เมื่อทั้งสองขึ้นไปที่ติ้งหลงไถ ก็เห็นศาลาแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง โดยมีภาชนะสำริดมีขาตั้งอยู่ตรงกลาง ที่สลักลวดลายแสดงถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษมีบันไดกว้างอยู่ใต้ภาชนะสำริดนั้นชุดน้ำชา โต๊ะน้ำชา และฟูกมีสีเหลืองสดใส เป็นของราชวงศ์โดยเฉพาะเครื่องใช้ระดับกลางก็มีรูปแบบคล้ายกัน แต่เนื้อสัมผัสด้อยกว่าเล็กน้อย มีไว้สำหรับผู้ตัดสินบทกวี!ชุดน้ำชาชั้นล่างเป็นสีขาวล้วน มีให้เฉพาะจิ้นซื่อเท่านั้นส่วนจู่เหริน มีเพียงฟูกอันเดียวเท่านั้น!นี่คือลำดับชั้นของระบบศักดินา ที่ขยายไปสู่ทุกช่องว่างในชีวิต!หวังหยวนพบที่นั่งของตัวเองทันที แม้ว่าจะอยู่ในแถวที่สองแต่ก็อยู่ตรงหัวมุมไม่มีใครอยู่บนเวที หวังหยวนจึงรีบขึ้นเวทีอย่างรวดเร็ว แล้วพาหูเมิ่งอิ๋งไปยังที่นั่งที่จัดไว้ แล้วมองไปในระยะไกล!คนอื่น ๆ สนใจบทกวี แต่เขาไม่มีความสนใจเลยจริง ๆ ไม่รู้แม้แต่วิธีแต่งบทกวีด้วยซ้ำครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการไล่เป็ดขึ้นคอนเลย!“นั่นคือหวังหยวน ผู้ตัดสินคนใหม่ในครั้งนี้ ข้าได้ยินมาว่าเขายังเป็นถงเซินอยู่เลย!”“ถงเซินคนนี้จะมีเก่งกาจมากเพียงใด ถึงสามารถมาตัดสินคนอย่างพวกเราได้!”“นี่คือกา
มีตราประทับของเจ้าเมืองเมืองจิ่วซาน ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสี่หลายคนต่างไปแสดงความเคารพ จางหานยกยิ้มและพยักหน้า ไม่ได้มีท่าทางเย่อหยิ่งหยางว่านหลี่ขมวดคิ้ว จางหานให้เงินห้าพันตำลึงแก่ชมรมกวีนิพนธ์ เพื่อช่วยสนับสนุนกุบ กุบ กุบ...ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกีบม้าดังขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วทหารม้ากลุ่มหนึ่งก็ควบม้าเข้ามา!ที่นำหน้ามามีชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดหรูหรา ด้านหลังล้วนมีแต่ทหารม้าหุ้มเกราะ!“ผู้บัญชาการเสวี่ยมาถึงแล้ว!”ก่อนที่ทหารม้าจะก้าวออกมา ผู้ประกาศก็ตะโกนบอกทุกคนในกลุ่มผู้ชมครู่ต่อมา จางหานและเหยียนฟู่กู่ก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วทั้งสองก็ลงจากเวทีไปทักทายเขา!ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวอีกมากมาย!แม้แต่หยางว่านหลี่ที่เย่อหยิ่งเมื่อครู่นี้ก็ยังลงไปชั้นล่างด้วยสีหน้าหวาดเกรง!บนเวที นอกเหนือจากทหารที่ยืนเฝ้า เหลือเพียงไป๋เฟยเฟยและหวังหยวนเท่านั้น!ในขณะนี้ พวกเขาทั้งห้าต่างมองมา ขณะที่อีกฝ่ายก็มองกลับไปเช่นกัน และต่างก็ประหลาดใจที่อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้านไป๋เฟยเฟยเดินไปหาขณะโบกพัด แล้วหรี่ตาลง “เจ้าก็เป็นบัณฑิตเหมือนกัน เจ้าควรรู้ว่าผู้บัญชาการนั้นยิ่งใหญ่เพียงใด เหตุใดเจ้าไม่
เฮือก!หลายคนตกใจ ชายคนนี้กล้าพูดถึงเพียงนี้!เหยียนฟู่กู่ ไป๋เฟยเฟย และหญิงสาวชุดสีม่วงตาสว่างทันที!เจ้าเมืองและผู้บังคับบัญชาเสวี่ยผานขมวดคิ้วพร้อมกัน แล้วมองไปข้างหลังเขาด้วยสายตาเย็นชา!เฮือก!หยางว่านหลี่ที่อยู่ข้างหลังหน้าซีด มีเหงื่อเย็นไหลลงมาบนหน้าผากในงานประชุมกวี ใครก็ตามที่สามารถครองใจผู้ชมด้วยงานเขียนได้ คือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด!ใครก็ตามที่กล้าพูดถึงเรื่องสถานะเพื่อกดขี่คนอื่น จะถูกบัณฑิตทั่วโลกตำหนิอย่างรุนแรง หากข่าวนั้นแพร่กระจายออกไปสิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่นี้รีบร้อนเกินไป จึงเกี่ยวข้องกับสถานะของเสวี่ยผาน จางหาน และเหยียนฟู่กู่ เพราะเขาต้องการยืมมือคนเหล่านี้โจมตีคนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้ามในสมาคมกวีนิพนธ์!บรรยากาศเคร่งเครียด ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น“ท่านไห่เทียนมาถึงแล้ว!”“ท่านจิ่วเปียนมาถึงแล้ว!”“ท่านหลวนชิงมาถึงแล้ว!”“ท่านถงกู่มาถึงแล้ว!”ชายชราสามคนที่มีเคราและผมสีขาว สวมชุดแขนยาวแบบดั้งเดิม และวังไห่เทียนก็มาถึงที่ติ้งหลงไถ“ไม่ต้องลงมารับพวกเราหรอก มือเท้าของคนชราอย่างพวกเรายังปกติดี!”วังไห่เทียนดุพลางหัวเราะ ก้าวขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับช
วังไห่เทียนเป็นเจ้าภาพในนาม แต่ความจริงแล้วเป็นเจ้าเมืองจางหานที่รับหน้าที่นี้จางหานยืนขึ้นแล้วพูดว่า “ท่านไห่เทียน โปรดเสนอหัวข้อบทกวีเพื่อจรรโลงโลกนี้ด้วย!”อึก!หลังจากจิบสุราแล้ว วังไห่เทียนก็โบกมือ “ไม่มีชื่อในโลกนี้ สามารถแต่งได้อย่างอิสระ ตราบใดที่สร้างผลงานใหม่ ก็สามารถส่งผลงานมา เพื่อรับรางวัลที่ดีที่สุดได้”ทุกคนต่างตื่นเต้น!หากมีการตีกรอบ ก็ต้องทำให้ตรงจุด ซึ่งยากมาก!แต่มันจะง่ายกว่า หากไม่มีข้อจำกัดทุกคนต่างก็เป็นบัณฑิต มีใครบ้างที่ไม่เขียนบทกวี เพียงแค่หยิบยกที่เคยแต่งไว้ออกมาก็ได้“เป็นความคิดที่ดี!”ชายชราทั้งสามคนหัวเราะและพยักหน้าหัวข้อบทกวีสามารถทดสอบสติปัญญาคนได้แน่นอน แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะสร้างผลงานที่ดีมีผู้สมัครเข้าร่วมไม่มากนักในปีนี้ ดังนั้น จึงทำได้เพียงผ่อนคลายข้อกำหนดต่าง ๆ ลงเท่านั้น“อืม!”หวังหยวนพยักหน้าอย่างเหม่อลอย!ไม่ว่าจะมีหัวข้อหรือไม่ก็ไม่สำคัญ เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อแต่งบทกวีอยู่แล้ว!จุดประสงค์หลักของการมาร่วมงานประชุมกวีครั้งนี้ คือการหาคนรวยมาซื้อดาบราชวงศ์ถังแต่หากเขาขายของในงานประชุมกวี เขาจะต้องถูกไล่ลงจากเวที และถูกม
สีหน้าเคร่งขรึมและดูหมดความอดทนเช่นนี้ ทำให้ผู้ชมทุกคนเบิกตากว้างทันทีหูเมิ่งอิ๋งก้มหน้าลง หากเป็นเรื่องอื่น นางมั่นใจในตัวคุณชายมาก!แต่เมื่อต้องแต่งบทกวี ไม่มีความมั่นใจเลยจริง ๆ!การแต่งบทกวีเป็นความสามารถทางวรรณกรรม หากมีพรสวรรค์ด้านนี้ ก็คงมีชื่อเสียงไปนานแล้ว!แต่คุณชายไม่ได้โด่งดังเลยในเมืองฝู!ทุกอย่างเป็นไปตามแผน หยางว่านหลี่ก็ได้ใจ “เพื่อให้ยุติธรรม เรามาขอให้เจ้าเมืองถามคำถามดีกว่า แล้วทุกคนก็ร่วมกันแต่ง!”หวังหยวนโบกมือ “ตกลง!”เจ้าเมืองจางหานกล่าวว่า “ทุกคนคือบัณฑิตแห่งต้าเย่ หากก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว จะกลายเป็นขุนนางในราชสำนัก แต่แม้กระทั่งตอนนี้ ก็สามารถรับใช้ราชสำนักได้ บัดนี้ศัตรูต่างแดนเพ่งเล็งราชสำนักก็อยู่ ทำให้ราชสำนักตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เราถูกหักเงินเดือน ความภักดีต่อฮ่องเต้เริ่มสั่นคลอน หัวข้อการประชุมกวีนิพนธ์ในวันนี้ จะเป็นการคลายความกังวลของราชสำนัก!”ทุกคนขมวดคิ้ว!ตามที่เจ้าเมืองคาดไว้ ไม่ลืมที่จะประจบสอพลอราชสำนักในงานประชุมกวีบทกวีเช่นนี้แต่งยากที่สุด!หากเขียนยกย่องโจ่งแจ้งเกินไป จะถูกตำหนิว่าประจบประแจงได้ง่าย และสูญเสียจุดยืนทา
เมื่อเขามาถึงงานประชุมกวีนิพนธ์ติ้งหลงไถ น้องเขยที่เขาไม่ชอบก็อยู่ที่โต๊ะตัดสินแล้ว ส่วนเขารออยู่ด้านล่างเพื่อรับการตัดสิน ซึ่งทำให้เขาไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้!ฟึ่บ!ใบหน้าของหยางว่านหลี่ซีดลง เขาอุตส่าห์ท่องมาหลายครั้ง และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แม้ว่าถ้อยคำของเขาจะดี แต่ก็เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและไม่พอใจ เขาจะคลายความกังวลของราชสำนักได้อย่างไร… อ๊ะ!”“แค้นชิงกู่ฝังใจ ยังไม่ชดใช้! เมื่อใด ล้างหนี้ใคร่รู้? ควบรถบดค่ายศัตรู ย่ำเขาปาตี่พินาศไป! กระหายหาญ ฉีกกินเนื้อคนเถื่อน ดื่มเลือดสรวลสันต์ รอก่อนถึงวันกอบกู้แผ่นดินผัน เข้าเฝ้าโห่ร้องฉลองชัย!”หวังหยวนพูดเสียงดัง ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ต่างเปลี่ยนไปไม่ใช่ว่าเขาต้องการเปลี่ยนคำพูดของงักฮุย แต่เนื่องจากเวลาและสถานที่แตกต่างกัน เขาจึงต้องเปลี่ยนคำสองสามคำให้เหมาะสมกับโอกาสจบเรียบร้อย!ทั่วบริเวณเงียบกริบ!ครู่ต่อมา ผู้แข่งขันแห่กันไปหาหวังหยวน ต่างสูญเสียความยับยั้งชั่งใจ ไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าละอาย หากจะขอคำแนะนำจากถงเซิง ที่สำคัญกว่านั้น น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกรงขามและยกย่อง!“ท่านหมิงถัน, แค้นชิงกู่ ท่านหมายถ
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“
“เจ้าไม่มีอารมณ์จะทะเลาะกับข้า แสดงว่าเจ้าคงอารมณ์ไม่ดีจริง ๆ”“ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่เล่าให้ข้าฟังสักหน่อยล่ะ อย่างน้อยก็ให้ข้าสนุกขึ้นมาบ้าง”หวังหยวนนั่งลงข้างหลิ่วหรูเยียน เขานั่งไขว่ห้างมือวางบนราวบันไดขณะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยรอยยิ้ม“เหตุใดท่านถึงน่ารำคาญนัก?”“ดูไม่ออกหรือว่าข้าไม่อยากคุยกับท่าน?”“รีบกลับไปดื่มกับพวกเขาซะเถอะ จะมานั่งขวางหูขวางตาข้าทำไม?”หลิ่วหรูเยียนกลอกตามองหวังหยวนแท้จริงแล้ว นางเพียงแค่รู้สึกว่างเปล่าหลังจากได้ล้างแค้นสำเร็จ ราวกับชีวิตไม่มีจุดหมายอีกต่อไป นางไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป จึงทำให้ดูเหม่อลอยและเศร้าสร้อยแต่ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่วังหยวนมาที่นี่ นางกลับรู้สึกเหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง“ว่ามาสิ เป็นอะไรไป?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่อง“ข้าอยากไปพบตานสยงเฟย”“ครั้งก่อนท่านสัญญากับข้าว่า เมื่อจับตานสยงเฟยได้จะให้ข้าจัดการเขา ยังจำได้หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนถาม“อืม...”หวังหยวนครุ่นคิด ใช้นิ้วเคาะขมับพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียเรื่องของพรรคทมิฬเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจตัดสินใจเพียงเพราะคำพูดของคนคนเดียวได้ ยิ่งกว่านั้น เพื่อจับตานสยงเฟย ยังต้องสูญ
“หวังหยวน! เจ้าช่างน่ารังเกียจ! กล้าเล่นงานแบบไม่ทันตั้งตัวหรือ?”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างเดือดดาลส่วนโอวหยางอวี่และลั่วเฉินเห็นท่าไม่ดี จึงไม่รีรอ รีบพาผู้ใต้บัญชาหนีลงจากเขา!แต่น่าเสียดาย ที่เชิงเขามีการวางกองกำลังดักไว้แล้ว!ตานสยงเฟยและคนอื่น ๆ ต่างถูกจับเป็น!การต่อสู้ครั้งนี้ หวังหยวนได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ!แต่เนื่องจากหน้าผาแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ห่างไกล โดยรอบไม่มีบ้านเรือนหรือเมืองจึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่หวังหยวนต้องการเพราะที่นี่คืออาณาจักรต้าเป่ย หากหานเทารู้ว่าเขายกทัพมาในดินแดนของอาณาจักรต้าเป่ย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร พวกเขาก็อาจจะหาเรื่องจู่โจมได้!เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องราวคงจะวุ่นวายและเกิดความขัดแย้ง!หลังจากที่จับตานสยงเฟยและพรรคพวกได้แล้ว หวังหยวนจึงรีบกลับเมืองอู่เจียงทันที!ใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็กลับมาถึง!ระหว่างทาง แม้ว่าจะมีคนเห็น แต่มีเกาเล่อคอยนำทาง จึงไม่ทำให้คนของอาณาจักรต้าเป่ยรู้ตัว!...ณ ที่ว่าการเมืองอู่เจียงตอนนี้ทุกคนกำลังดื่มฉลองกันอย่างสนุกสนาน!คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์คือหวังหยวน!ส่วนเอ้อหู่และคนอื่น ๆ ต่างก็อยู่ที่
หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใด นางจ้องมองตานสยงเฟยด้วยความโกรธแค้นนางต้องการล้างแค้น!“ชีวิตของเขาเป็นของเจ้า ข้าจะช่วยจับเป็นให้!”“ส่วนต่อไป เจ้าจะจัดการเขาอย่างไรก็สุดแล้วแต่เจ้า!”หวังหยวนกล่าวจบก็หยิบปืนคาบศิลาออกมาจากอก แล้วเล็งไปที่ตานสยงเฟย“ในเมื่อเจ้ารู้จักข้าดี”“เจ้าควรรู้ว่าอาวุธลับของข้าไม่มีผู้ใดเทียบได้ ใช่หรือไม่?”“ข้าแนะนำให้เจ้ายอมจำนนเสีย จะได้ไม่เจ็บตัว!”หวังหยวนเตือนมุมปากของตานสยงเฟยกระตุก เขาสืบเรื่องของหวังหยวนมานาน จึงรู้จักหวังหยวนดี และจำได้ว่าอาวุธในมือของหวังหยวนคืออะไร!ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่ขุนพลที่เก่งกาจก็ยังไม่อาจหลบอาวุธนี้ได้!ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็คว้าตัวสาวกพรรคทมิฬคนหนึ่งมาใช้เป็นโล่มนุษย์!“ปัง!”เสียงปืนดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬคนนั้นล้มลงกับพื้นต้องยอมรับว่าตานสยงเฟยช่างโหดเหี้ยม!เพื่อเอาชีวิตรอด กลับยอมเสียสละชีวิตคนอื่น ช่างน่ารังเกียจ!หวังหยวนยกปืนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะเล็งไปที่ตานสยงเฟย ไม่ให้เขามีโอกาสหนี!“หวังหยวน!”“วันนี้ไว้ชีวิตข้าเถิด ต่อไปข้าจะตอบแทนเจ้าแน่นอน!”“เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“การบีบให้ข้าจนตรอกไม่ได้เป็นผลดีต่อ
ลั่วเฉินพยักหน้า ไม่เอ่ยคำใดอีก เพียงแค่รีบพาผู้ใต้บัญชาออกไป!เสียงโห่ร้องแห่งการฆ่าฟันดังขึ้น สาวกพรรคทมิฬล้มตายเป็นใบไม้ร่วง!ตานสยงเฟยเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเขารู้สึกเจ็บปวดหัวใจ!สมาชิกพรรคทมิฬล้วนเป็นคนที่เขาฝึกฝนเอง เขาทุ่มเทมากมายเพื่อสร้างกองกำลังที่แข็งแกร่ง!เดิมทีเขาต้องการครองแผ่นดิน แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้!สูญเสียกำลังพลไปเยอะมาก!ปัญหาเกิดขึ้นมากมาย!“ตานสยงเฟย! อย่าหนีนะ!”“เจ้าคนสารเลว! หลอกลวงข้ามาหลายปี!”“ไม่เพียงแต่ฆ่าพ่อแม่ข้าเท่านั้น ยังฝึกฝนข้าให้เป็นเครื่องมือทำเรื่องเลวร้ายมากมาย!”“วันนี้พวกเราต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!”ขณะที่ตานสยงเฟยกำลังจะลงจากเขา หลิ่วหรูเยียนก็วิ่งเข้ามา ในมือถือกริชเปื้อนเลือด สายตาเย็นชาราวกับคมดาบจ้องมองตานสยงเฟย!“มาคนเดียวหรือ?”เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนมาคนเดียว ตานสยงเฟยก็หัวเราะในลำคอ เขาหันมาคว้าทวนยาวจากมือผู้ใต้บัญชาที่อยู่ด้านข้าง!เหตุผลที่ตานสยงเฟยสร้างฐานะขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเขามีความคิดที่แตกต่าง แต่ยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย!ในยุคสงคราม ผู้แข็งแกร่งย่อมเป็นผู้ชนะ!ยิ่งกว่านั้น ฝีมือ
“ทุกคนขึ้นเขาเดี๋ยวนี้!”“ห้ามปล่อยให้ใครหนีรอดไปได้!”หวังหยวนออกคำสั่ง ขุนพลนายกองเริ่มเคลื่อนไหวคนที่อาศัยอยู่บนหน้าผาแห่งนี้ล้วนเป็นระดับสูงของพรรคทมิฬและมีตำแหน่งสำคัญ การกำจัดพวกเขาให้หมดสิ้น จึงจะทำให้พรรคทมิฬหายไปอย่างสมบูรณ์!ตัดวัชพืชไม่ถอนราก เมื่อลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาก็งอกขึ้นมาใหม่!เมื่อทุกคนเข้าไปบนหน้าผาแล้ว หวังหยวนก็ออกคำสั่ง ต่งอวี่และเอ้อหู่ต่างเป็นผู้นำพาผู้ใต้บัญชาบุกขึ้นไปบนยอดเขา!ส่วนหวังหยวนและคนอื่น ๆ ก็ตามไปติด ๆ!“เจ้าจะทำอะไร?”หวังหยวนหันไปคว้าแขนหลิ่วหรูเยียน แล้วถามขึ้นหลิ่วหรูเยียนมีสีหน้าเย็นชา กำหมัดแน่น สีหน้าโกรธเกรี้ยวนางขมวดคิ้วกล่าวว่า “ข้าจะขึ้นไปล้างแค้นด้วยตัวเอง!”“ไม่เพียงแต่ข้าเกือบตายเท่านั้น แม้แต่บิดามารดาข้าก็ถูกคนของพรรคทมิฬฆ่าตาย จะปล่อยพวกมันไปได้อย่างไร?”“วันนี้ไม่มีใครหยุดข้าได้ ข้าจะฆ่าตานสยงเฟย ล้างแค้นให้พ่อแม่!”พูดจบ หลิ่วหรูเยียนก็สะบัดแขนหวังหยวนออก ก่อนจะชักกริชออกมาแล้ววิ่งขึ้นไปบนยอดเขา!แม้ว่านางจะเป็นคนบอกที่ตั้งฐานทัพนี้ให้หวังหยวน แต่ไม่มีใครรู้จักที่นี่ดีไปกว่านาง!ไม่นานพวกหวังหยวนก็ขึ้นไปถึงยอดเขา
หวังหยวนกลอกตามองเอ้อหู่ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ชีวิตของทหารที่อยู่ข้างหลังเจ้าล้วนอยู่ในมือเจ้า!”“การที่เจ้าพาพวกเขามาเสี่ยงอันตราย หากไม่มีอะไรผิดพลาดก็ดีไป แต่หากเกิดความผิดพลาด เจ้าจะเผชิญหน้ากับครอบครัวของพวกเขาได้อย่างไร?”“อย่าลืมว่าการเป็นขุนพลไม่ใช่แค่เพื่อรบชนะ!”“แต่ต้องชนะอย่างสวยงาม ลดการสูญเสียให้มากที่สุด!”ทุกคนต่างตกตะลึงเดิมทีพวกเขาคิดว่าการติดตามหวังหยวนก็เพื่อหาเลี้ยงชีพ ในยุคสงคราม การมีข้าวกินก็ดีมากแล้วชีวิตพวกเขาจะสำคัญอะไร?ในสายตาของชนชั้นสูง ชีวิตพวกเขาไม่ต่างจากเศษหญ้า!เป็นเพียงเครื่องมือในการแย่งชิงอำนาจ!แต่หวังหยวนกลับมีเมตตา เห็นใจพวกเขา ทำให้พวกเขาซาบซึ้งจริง ๆ!ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ตัดสินใจแล้ว แม้ว่าจะต้องสูญเสียมากมาย พวกเขาก็ยินดีสละชีพเพื่อช่วยหวังหยวนพิชิตหน้าผาแห่งนี้ และฆ่าคนของพรรคทมิฬให้หมดสิ้น!“รีบก่อไฟทำอาหาร!”“เมื่อทุกคนอิ่มท้องแล้วก็คงถึงเวลาพอดี!”“จำไว้! ห้ามส่งเสียงดัง ประเดี๋ยวพวกมันจะรู้ตัว!”“หากพวกมันรู้ตัวจะเป็นอันตรายต่อพวกเรา!”หวังหยวนกำชับทุกคนพยักหน้ารับ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองเ
ในช่วงเวลาไม่กี่วันต่อมา ด้วยการนำทางของหลิ่วหรูเยียน หวังหยวนและคนอื่น ๆ จึงไม่หลงทาง เดินทางมาถึงเชิงผาได้อย่างรวดเร็ว!บัดนี้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อก็ได้แทรกซึมเข้าไปในพื้นที่โดยรอบแล้วหวังหยวนและคนอื่น ๆ ตั้งค่ายอยู่ในป่าแห่งหนึ่งเมื่อมองไปรอบ ๆ จะเห็นเงาคนมากมาย พวกเขาล้วนเป็นสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ“สืบทุกอย่างเรียบร้อยแล้วหรือ?”หวังหยวนสวมชุดเกราะเตรียมพร้อมรับมือกรณีฉุกเฉินและป้องกันการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว!เกาเล่อรีบเข้ามารายงานด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “สืบเรียบร้อยแล้วขอรับ คนร้ายอยู่บนเขาลูกนี้!”“แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังขนย้ายสิ่งของ ตั้งแต่ที่พวกเรามาถึงก็เห็นรถม้าลงมาจากเขาไม่ต่ำกว่าร้อยคันแล้ว!”“แต่พวกเราไม่ได้ลงมือเพื่อไม่ให้พวกมันตื่นตัว!”“ข้าได้ส่งคนไปตามเส้นทางที่พวกมันใช้ หลังจากที่พวกเราจัดการเรื่องบนหน้าผาแล้ว จากนั้นจึงไปกวาดล้างพวกมัน!”“แล้วทรัพย์สมบัติของพวกมันก็จะตกเป็นของพวกเรา!”หวังหยวนพยักหน้าอย่างพึงพอใจเรื่องนี้จัดการได้ดีมาก!เหตุผลที่พรรคทมิฬเติบโตอย่างรวดเร็วก็เพราะความร่ำรวย!หากตัดเส้นทางการเงินของพวกมัน แม้ว่าตานเฟยจ
ตานเฟยยิ้มอย่างพึงพอใจช่วงนี้หลังจากถูกหวังหยวนจับตามอง เขารู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องมองทุกการกระทำของเขาอยู่ตลอดเวลา!แม้แต่การหาสาวกใหม่ก็ยังยากลำบาก!หวังหยวนคอยขัดขวางเขา เขาจึงต้องสั่งสอนหวังหยวนบ้าง!แต่น่าเสียดาย...ยังหาโอกาสไม่ได้!ยิ่งไปกว่านั้น ตานเฟยไม่ใช่คนโง่ เขารู้ดีว่าตนเองต่างกับหวังหยวน แล้วจะสู้หวังหยวนได้อย่างไร?อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่ได้!ดังนั้นแม้ว่าในใจจะเคียดแค้นอาฆาต แต่ย่อมต้องหลีกเลี่ยง“ที่เจ้าทำงานสำเร็จก็แค่ช่วยถ่วงเวลาเท่านั้น”“ตราบใดที่หลิ่วหรูเยียนยังมีชีวิตอยู่ นางก็เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ!”“ดังนั้นก่อนที่พวกเราจะฆ่านางได้ พวกเราต้องระวังตัวและดำเนินแผนการต่อไป!”“พยายามขนย้ายสิ่งของออกไป หากถึงเวลาจำเป็น พวกเราก็ต้องทิ้งฐานที่มั่นแห่งนี้”ทุกคนต่างรู้สึกเสียดายหน้าผาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ดี ไม่เพียงแต่มีชัยภูมิที่ได้เปรียบเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยมากอีกด้วย!จึงทำให้พวกเขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว!แม้ว่าสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะกระจายอยู่ทั่วดินแดนทั้งเก้า แต่ก็ไม่ได้ตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงหน้าผาแห่งนี้!แต่น่าเสียดา