เฉินซานเตากล่าวด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาก็มองไปที่หวังหยวนพลางกล่าวต่อ “องค์ชาย พระองค์ช่างมีวาสนา สามารถดึงท่านหวังมาช่วยได้ มีกองหนุนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ การโค่นล้มซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีคงไม่ใช่เรื่องยากแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ไป๋อวิ๋นเฟยไม่ได้เอ่ยคำใด การทวงคืนอำนาจไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะซือฟางควบคุมกองทัพส่วนใหญ่ เว้นแต่หวังหยวนจะยกทัพมาช่วยจึงจะมีโอกาสแต่หากเป็นเช่นนั้น ทั้งเมืองหลิงและต้าเย่ก็จะบอบช้ำ!ในดินแดนทั้งเก้ายังมีอีกสองแคว้นที่จ้องจะโจมตี อีกทั้งยังมีชนเผ่าเล็ก ๆ รอบ ๆ ที่คอยหาโอกาสรุกรานดินแดนทั้งเก้า!สถานการณ์ไม่สู้ดี!“ค่อย ๆ คิดไปทีละก้าว ข้าเชื่อว่าท่านหวังจะช่วยพลิกสถานการณ์ได้”ไป๋อวิ๋นเฟยฝากความหวังไว้ที่หวังหยวน ด้วยตัวเขาเองคนเดียวจะทำอะไรมากได้อย่างไร?การจะพลิกสถานการณ์นั้นขึ้นอยู่กับหวังหยวน จึงต้องดูความสามารถของหวังหยวนไม่นานพวกเขาก็มาถึงจวนเจ้าเมืองอาหารและสุราถูกจัดเตรียมไว้ นางกำนัลและบ่าวไพร่ยืนก้มหน้าต้อนรับอยู่หน้าประตู “พวกเจ้าออกไปให้หมด”“หากข้าไม่เรียก ห้ามใครเข้ามาเด็ดขาด!”“ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าใจร้าย!”เฉินซานเตาตะคอกใส่บ่าวไพร่ แล้วห
“ข้ามีแผนการในใจแล้ว”หวังหยวนกล่าวพลางดื่มสุรา “ตอนนี้ซือฟางมีอำนาจ แต่แผ่นดินก็ยังเป็นของราชวงศ์ไป๋ ผู้ที่ครองราชย์ก็คือไป๋หมิง”“ในระยะเวลาอันสั้น ซือฟางคงไม่ทำอะไรไป๋หมิง เขาแค่ต้องการใช้ฐานะของไป๋หมิงเพื่อควบคุมราชสำนัก เมื่อเขามีอำนาจมั่นคง ไป๋หมิงก็จะหมดประโยชน์”“แต่กว่าจะถึงตอนนั้นก็ยังอีกนาน ดังนั้นพวกเรายังมีโอกาส!”เมื่อเห็นทุกคนมองมาที่เขา หวังหยวนจึงกล่าวต่อ “ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีไม่ใช่คนธรรมดา แต่พวกเขาประสบความสำเร็จและมีอำนาจในเวลาอันรวดเร็ว คงจะเหลิงในอำนาจไม่น้อย”“อีกอย่าง เขายังกำจัดสายลับของข้าในเมืองหลวง ตอนนี้คงไม่เกรงกลัวอะไรแล้ว!”“เช่นนั้นพวกเราก็ใช้จุดอ่อนของเขา หาทางโค่นล้มเขาให้ได้!”การต่อสู้โดยตรงคงสู้ไม่ได้ จึงต้องใช้กลอุบายง่าย ๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์!ด้วยวิธีนี้ ต้าเย่ก็จะไม่เสียหาย!สี่แคว้นใหญ่มีความสมดุลกัน หากสมดุลนี้พังทลาย ดินแดนทั้งเก้าก็จะเกิดสงคราม!ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่หวังหยวนต้องการ!หลายปีที่ผ่านมาเกิดสงครามขึ้น ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัย โจรผู้ร้ายชุกชุม ประชาชนยากลำบาก!หากเกิดเรื่องแบบนี้อีก ความพยายามที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า“ท่านหวัง
แม้ทุกคนจะรู้ว่าหวังหยวนมีองค์กรเครือข่ายผีเสื้อและเกาเล่อคือหัวหน้า แต่เขาย่อมต้องรอบคอบ ห้ามเหลิงในอำนาจ!เช่นนั้นจึงจะไม่มีทางเกิดข้อผิดพลาด!เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบที่เมืองหลวงของต้าเย่อีก!คนที่อยู่ในร้านอาหารชิงเหอล้วนเป็นยอดฝีมือที่เขาคัดเลือกมา ถือเป็นสหายที่เหมือนพี่น้องร่วมเป็นร่วมตาย!แต่น่าเสียดาย...ตอนนี้ทุกอย่างสายเกินแก้ สหายเหล่านั้นถูกสังหารอย่างโหดร้าย เป็นความเจ็บปวดในใจเขา!“ท่านเกา ไม่ต้องถ่อมตัวหรอก”“ในเมื่อท่านมาแล้ว ข้าก็โล่งใจได้เสียที!”เฉินซานเตาหัวเราะ จากนั้นหันไปมองหวังหยวนแล้วรีบอธิบาย “ท่านหวังอย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่ได้ไม่เชื่อใจท่าน แต่เมื่อได้พบกับท่านเกาเล่อ ข้าก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น!”“แม้ว่าพวกเราจะมีกำลังพลไม่มาก แต่เมื่อมีท่านและท่านเกาเล่อ นั้นก็เท่ากับมีทหารมากมายหลายพันคน!”คนผู้นี้ปากหวานถึงเพียงนี้เลยหรือ?หวังหยวนหรี่ตามองเฉินซานเตา แล้วคิดในใจดูเหมือนว่าเฉินซานเตาไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็น เป็นคนเจ้าเล่ห์ที่รับมือยากมากทีเดียว!โชคดีที่คนผู้นี้ไม่ใช่ศัตรู อย่างน้อยตอนนี้ก็ถือว่าเป็นพันธมิตร!“เกาเล่อ เจ้าอธิบายแผนการให้ท
หลังจากฟังไปไม่กี่ประโยค ทุกคนก็เข้าใจทันที ตีงูต้องตีที่จุดตาย ครั้งนี้จะใช้ซือเฉิงเวยมาข่มขู่ซือฟาง!เพียงแต่...เฉินซานเตาลูบเคราพลางขมวดคิ้วกล่าวว่า “แผนการนี้อันตรายมาก ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ ซือฟางนั้นรอบคอบ คงจะปกป้องลูกชายอย่างแน่นหนา”“อีกอย่างเมืองหลวงก็ถูกปิดล้อม หน้าตาของพวกเราคงถูกส่งไปให้ทหารที่เฝ้าเมืองแล้ว พวกเราจะเข้าเมืองได้ยาก...”“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจับตัวซือเฉิงเวย”“อีกอย่าง หากให้ซือฟางเลือกระหว่างอำนาจกับซือเฉิงเวย ข้าคิดว่าเขาคงเลือกอำนาจกระมัง?”ซือฟางมีความทะเยอทะยาน เห็นแก่ชื่อเสียงและผลประโยชน์ แม้จะมีความสามารถ แต่ก็กระหายอำนาจ!จึงทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น!อย่าว่าแต่ใช้ลูกชายแลกกับอำนาจเลย ต่อให้ต้องใช้ชีวิตของตัวเองแลก เขาคงไม่ลังเลด้วยกระมัง?“เรื่องนี้พวกเราคิดไว้แล้ว”หวังหยวนกระแอม แล้วเริ่มกล่าว“เขามียอดฝีมือ ข้าก็มีเหมือนกัน!”“แม้ว่าข้าจะไม่สามารถส่งกำลังพลทั้งหมดไปได้ แต่ก็สามารถส่งยอดฝีมือไปได้!”“การจับตัวซือเฉิงเวยไม่ใช่เรื่องยาก!”“ส่วนแผนการนี้จะสำเร็จหรือไม่ ย่อมต้องลองดูไม่ใช่หรือ?”ทุกคนพยักหน้าตอนนี้ต้องลองทุกวิถีทา
วันข้างหน้าต้องแก้แค้นให้จงได้!“เช่นนั้นข้าขอตัวไปเตรียมการ”“พวกท่านทานอาหารกันก่อนเถิด”เกาเล่อกล่าว แล้วก็ออกไป“ท่านหวัง! ให้ท่านเกาอยู่ทานอาหารด้วยกันเถิด!”“พวกเรามีเวลา!”“เหตุใดจึงต้องรีบร้อนถึงเพียงนั้น?”เฉินซานเตามองตามเกาเล่อด้วยสีหน้าเสียดายเขาอยากจะทำความรู้จักกับเกาเล่อ หากได้เป็นสหายกับเกาเล่อคงจะดีอย่างแน่นอนหวังหยวนยิ้มกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเราทานกันเถิด ข้ารู้จักเขาดี เขาเป็นคนทำอะไรรวดเร็ว ในเมื่อวางแผนแล้วคงกลัวว่าหากชักช้าแล้วจะมีปัญหา”“ท่านขุนพลเฉินไม่ต้องห่วงเขาหรอก พวกเราดื่มกันต่อเถิด!”เฉินซานเตาถอนหายใจ แล้วร่วมรับประทานอาหารกับหวังหยวน...ในจวนขุนพลใหญ่ที่อาณาจักรต้าเป่ย หานเทาอ่านรายงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึมใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ เป็นจังหวะพลางกล่าวกับตัวเอง “ต้าเย่เกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ ช่างน่าตกใจ”“เดิมทีต้าเย่คือศัตรูตัวฉกาจของพวกเรา พวกเราสู้รบกันกำลังจะยึดครองต้าเย่ แต่กลับมีคนมาขัดขวาง!”“หากหวังหยวนไม่เข้ามาขัดขวาง ดินแดนของต้าเย่คงตกเป็นของพวกเราแล้ว!”กล่าวจบ หานเทาก็กำหมัดแน่นพลางทุบโต๊ะ!รองขุนพลหลายคนที่ยืนอยู่มองหน้าก
“นี่...”หานเทาลังเล ดวงตาฉายแววเย็นชาเขาจะไม่อยากกำจัดหวังหยวนได้อย่างไร?“ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีไม่ใช่คนโง่ หากข้าไปหาพวกเขา พวกเขาก็คงไม่ร่วมมือกับข้า!”“หวังหยวนไม่กล้าใช้กำลังทหารกับต้าเย่ เพราะหากเขาทำเช่นนั้น พวกเราย่อมฉวยโอกาสโจมตีได้ง่ายดาย ต่อให้เขาจะยังคงอยู่ในต้าเย่ในตอนนี้ อย่างมากก็เป็นเพียงการเข้าร่วมในความวุ่นวายภายในของราชวงศ์เท่านั้นเอง”“แต่ซือฟางมีอำนาจ หวังหยวนมาคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้!”“เอาอย่างนี้!”ทันใดนั้น หานเทาก็ชี้ไปที่คนผู้หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “เจ้าพาผู้ใต้บัญชาแอบเข้าไปในต้าเย่ ไม่ต้องติดต่อกับคนของซือฟาง แค่แอบดูสถานการณ์!”“หากมีโอกาส ก็ยุยงให้พวกมันทะเลาะกัน!”“ยิ่งหวังหยวนกับซือฟางขัดแย้งกันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีกับพวกเรา!”คนผู้นั้นรีบพยักหน้า “ได้เลยขอรับ!”...อีกด้านหนึ่ง ในเมืองหลวงของต้าเย่ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีอยู่ในวังหลวง ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยซือฟางมองไปที่ห้องบรรทม แล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาทอยู่ที่ไหน? ยังบรรทมอยู่หรือ?”“ใช่”เจี๋ยงโฉ่วอีส่ายหน้ากล่าวว่า “จักรพรรดินีองค์ก่อนช่างเก่งกาจ ทำให้ต้าเย่พัฒนาจากที่เคยอ่อนแอจนกลายเป็นแข็ง
ซือฟางถามขึ้นเปลี่ยนเรื่องทันทีเขาคิดว่าควรจะรีบตามล่าหวังหยวนและพวก แล้วฆ่าไป๋อวิ๋นเฟยและหวังหยวนให้สิ้นจึงจะหมดห่วง!ต้าเย่ก็จะตกเป็นของพวกเขา!ต่อไปแม้ไป๋หมิงจะโตขึ้นและอยากจะทวงคืนอำนาจก็คงไม่มีโอกาส!“ข้าคิดว่าพวกเราควรจะอยู่เฉย ๆ...”เจี๋ยงโฉ่วอีกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “สายลับรายงานว่าหวังหยวนไปเมืองเหอเน่ยเพื่อร่วมมือกับเฉินซานเตา!”“ก่อนหน้านี้พวกเราเคยไปหาเฉินซานเตา แต่เขาบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมมอบตราประทับทหารให้!”“ดูเหมือนว่าเขาคิดจะช่วยไป๋อวิ๋นเฟยทวงคืนอำนาจ!”ซือฟางแค่นเสียงกล่าวว่า “แล้วจะอย่างไร? เฉินซานเตามีทหารแค่หนึ่งแสนนาย จะสู้พวกเราได้อย่างไร”“ในเมื่อเขาอยากเล่น พวกเราก็เล่นกับเขาไปเลย!”“ก่อนที่เขาจะยกทัพ พวกเราก็ชิงลงมือก่อนเพื่อทำลายแผนการของเขา ดีหรือไม่?”ใบหน้าของซือฟางเต็มไปด้วยจิตสังหาร อยากจะสู้กับหวังหยวนตัวต่อตัว!นั่นเพราะเขามองหวังหยวนเป็นเสี้ยนหนาม หากกำจัดหวังหยวนได้ก็จะหมดห่วง!“ไม่ได้!”“ตอนนี้ยังไม่รู้สถานการณ์ แม้กองทัพของเฉินซานเตาจะอยู่ไม่ไกล แต่ข้าให้คนไปสืบแล้ว หากเฉินซานเตามีความเคลื่อนไหว พวกเราก็จะลงมือทันที!”“ชิงลงมือก่อน!”
“ไอ้สารเลวคนไหนทำเช่นนี้?”“ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก!”เฉินซานเตารีบวิ่งเข้ามาดูศพเสี่ยวเต๋อจื่อ แล้วตะโกนออกมาด้วยความโกรธ!ฆ่าคน แค่ตัดหัวก็พอ เหตุใดจึงต้องทรมานเช่นนี้ คนลงมือช่างไร้มนุษยธรรมเหลือเกิน!ไป๋อวิ๋นเฟยสีหน้าเคร่งเครียด พลางกัดฟันกล่าว “ต้องเป็นไอ้สารเลวซือฟาง...”“ตอนนั้นข้ายังเข้าใจเสี่ยวเต๋อจื่อผิด คิดว่าเขาทรยศ ทำให้คนในร้านอาหารชิงเหอต้องตาย”“เห็นสภาพของเสี่ยวเต๋อจื่อ ข้าจึงรู้ว่าเขาต้องเจ็บปวดมาก จึงยอมบอกเรื่องร้านอาหารชิงเหอ คงจะภาวนาให้ตัวเองตายอย่างรวดเร็วเพื่อหนีพ้นจากความทุกข์ทรมาน”ไป๋อวิ๋นเฟยรู้สึกเจ็บปวด ที่เสี่ยวเต๋อจื่อเป็นเช่นนี้ล้วนเป็นเพราะเขา!ซือฟางช่างโหดเหี้ยมอำมหิต ทรมานคนอื่นเช่นนี้ ช่างน่าสะเทือนใจยิ่ง!“หากไม่แก้แค้น ข้าก็ไม่ใช่คน!”“ซือฟาง! เจ้ารอก่อนเถิด! ข้าจะแก้แค้นให้ได้!”“ข้าจะทำให้เจ้าได้รับผลกรรมที่ทำเอาไว้!”ทุกคนเงียบ ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของไป๋อวิ๋นเฟย...ในวังหลวง ไม่มีใครกล้าเข้าข้างเขา ไม่มีใครกล้าบอกข่าวเขาเลย เสี่ยวเต๋อจื่อเป็นคนแรกและคนเดียว สำหรับไป๋อวิ๋นเฟยจึงมีความหมายมาก!เขายังคิดจะตอบแทนบุญคุณเสี่ยวเต๋อจื่อ
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห