แชร์

บทที่ 2111

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนั้น ท่านมีแผนการอะไรหรือไม่?”

“พวกเราต้องลงมือเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต!”

ไป๋อวิ๋นเฟยรินน้ำชาให้หวังหยวน แล้วถาม

สถานการณ์บีบคั้น หากพลาดพลั้ง เขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นเสียราชบัลลังก์!

แผ่นดินที่เสด็จแม่สร้างขึ้นจะตกไปอยู่ในมือคนอื่นไม่ได้!

หากเรื่องนี้แพร่ออกไป คงจะถูกคนทั่วหล้าหัวเราะเยาะไม่ใช่หรือ?

หวังหยวนหรี่ตาลง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถิด ข้ามีแผนการแล้ว ตอนนี้ฝ่าบาทยังมีพระชนม์ชีพอยู่ แม้จะประชวรหนัก แต่ก็ยังอยู่ในวังหลวง!”

“แม้ว่าซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีจะกล้า แต่ก็คงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม กองทัพทั่วหล้ายังไม่ได้อยู่ในมือพวกเขา พวกเขาจะอวดดีเกินไปได้อย่างไร?”

“ตอนนี้พวกเราแค่รอคอย รอจังหวะที่เหมาะสม”

“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฝ่าบาท...”

ความหมายของหวังหยวนชัดเจน ตอนนี้ไม่ใช่แค่ซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีที่ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่พวกเขาก็เช่นกัน

ทำได้เพียงรอคอยให้ไป๋เหยียนเฟยสิ้นพระชนม์ แผ่นดินจึงจะเปลี่ยนมือ!

แต่ก่อนหน้านั้น ใครก็ไม่อาจผลีผลามได้ ไม่เช่นนั้นย่อมเกิดหายนะ!

หากแก้ปัญหาไม่ได้จะยิ่งยุ่งยาก!

“ตกลง! เช่นนั้นข้าจะทำตามที่ท่านว่า!”

ไป๋อวิ๋น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2112

    ราชวงศ์ต้าเย่มีองค์ชายเพียงสององค์ หากไป๋อวิ๋นเฟยหายตัวไป แม้ว่าไป๋หมิงจะไม่ได้เป็นไท่จื่อก็คงไม่มีใครกล้าพูดอะไร!ช่างเป็นแผนการที่แยบยล!น่าเสียดาย เล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้อาจหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกหวังหยวนไม่ได้!ในชั่วพริบตา หวังหยวนก็กระโจนออกจากห้องว่องไวเหมือนสายลม มาถึงห้องโถงภายในห้องโถงมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง บนพื้นมีศพนอนเกลื่อนกลาด พวกเขาล้วนเป็นทหารองครักษ์ของตำหนัก!แต่กลับไม่เห็นตัวคนร้าย!“แย่แล้ว! องค์ชายตกอยู่ในอันตราย!”หวังหยวนร้องลั่น จากนั้นจึงรีบวิ่งไปที่ห้องของไป๋อวิ๋นเฟยขณะเดียวกัน ในห้องของไป๋อวิ๋นเฟยไป๋อวิ๋นเฟยยืนอยู่หน้าโต๊ะ ในมือถือดาบยาว บนดาบมีเลือดเปื้อน คนร้ายหลายคนนอนตายอยู่แทบเท้าเขาแต่คนร้ายมีจำนวนมาก ในห้องยังมีคนร้ายอีกสิบกว่าคนยืนถือดาบยาวมองไป๋อวิ๋นเฟยด้วยสายตาเย็นชา รังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมา!แม้แต่เด็กสามขวบก็ดูออกว่าพวกเขาต้องการฆ่าไป๋อวิ๋นเฟย!“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”“ใครบังอาจให้พวกเจ้ามาลอบสังหารข้า?”“หากเรื่องนี้รู้ถึงหูคนอื่น อย่าว่าแต่พวกเจ้าจะเอาชีวิตไม่รอด แม้แต่ตระกูลของพวกเจ้าก็จะต้องชดใช้!”ไป๋อวิ๋นเฟยกล่าวอย่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2113

    “อย่าเสียเวลาพูดมาก!”“ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ในเมื่อเขาเห็นพวกเราแล้วก็อย่าได้ไว้ชีวิต!”“ให้เขาตายไปพร้อมกับไป๋อวิ๋นเฟย!”ชายที่ถือดาบหักขว้างดาบทิ้ง แล้วสั่งผู้ใต้บัญชา เหล่านักฆ่าจึงกระโจนเข้าหาหวังหยวน!“หึ”หวังหยวนแสยะยิ้ม ยกปืนคาบศิลาขึ้นเล็งไปที่พวกเขา!ปัง! ปัง! ปัง!ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น หลายคนล้มลงจมกองเลือด!ในพริบตาเดียว เหล่านักฆ่าสิบกว่าคนก็เหลือเพียงหัวหน้าและผู้ใต้บัญชาอีกสองคน!ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก!“นี่...”“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”หัวหน้ามองอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนขาสั่นเทา“ข้าถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก รู้จักอาวุธมากมาย เชี่ยวชาญเรื่องอาวุธลับ!”“แต่ข้าไม่เคยเห็นอาวุธลับเช่นนี้มาก่อน ยิงได้รวดเร็วมาก ซ้ำยังทรงอานุภาพเหลือเกิน!”“ในมือท่านคืออะไร? และท่านเป็นใคร!”หัวหน้าไม่กล้าขยับหรือถอยออกจากห้อง เขารู้ว่าหวังหยวนกำลังจ้องเขาอยู่ หากเขาขยับเพียงนิดอาจจะถูกอาวุธลับของหวังหยวนเล่นงาน!ถึงตอนนั้น ต่อให้เขามีเก้าชีวิตก็คงไม่รอด...“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะถาม”“หากอยากมีชีวิตรอด จงบอกมาว่าเจ้าเป็นใคร”“พวกเจ้าเป็นแค่เบ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2114

    ไป๋อวิ๋นเฟยกำลังจะพูด แต่หวังหยวนกล่าวขัดขึ้นโดยไม่หันมามอง “องค์ชาย รีบออกไปจากที่นี่! ข้าจะช่วยถ่วงเวลาพวกมันไว้!”“แม้จะไม่มีปืนคาบศิลา! พวกมันก็ฆ่าข้าไม่ได้ในเวลาอันสั้นหรอก!”ว่าแล้วหวังหยวนก็กระโจนเข้าใส่คนร้ายสามคนไป๋อวิ๋นเฟยคือตัวแปรสำคัญ หากต้องการเดินหมากให้สำเร็จ ไม่อาจปล่อยให้เขาเป็นอันตรายได้!เพื่อไม่ให้กระทบแผนการใหญ่!ไป๋อวิ๋นเฟยลังเลครู่หนึ่ง เขารู้ว่าหากอยู่ต่อก็จะเป็นภาระให้หวังหยวน สุดท้ายจึงกัดฟันกล่าว “ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนั้น ข้าขอตัวก่อน!”“ท่านแค่ถ่วงเวลาไว้ ข้าจะไปตามคนมาช่วย เมื่อคนของเรามาถึง พวกมันก็หนีไม่รอด!”หวังหยวนพยักหน้า แล้วเข้าต่อสู้กับคนร้ายหัวหน้าคนร้ายเบิกตากว้าง เขานึกอะไรขึ้นได้จึงมองหวังหยวนแล้วถาม “ท่านคือหวังหยวนหรือ?”แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอาวุธลับในมือหวังหยวนคืออะไร แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อปืนคาบศิลามาก่อน!นับเป็นอาวุธร้ายแรง เป็นหนึ่งในอาวุธลับของหวังหยวน!บนโลกนี้มีเพียงหวังหยวนเท่านั้นที่มี!ในเมื่อหวังหยวนมีอาวุธนี้ แถมไป๋อวิ๋นเฟยยังเรียกเขาว่าท่านหวังด้วยก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า...ชายตรงหน้าคือหวังหยวน ผู้ที่ทำให้ดิน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1

    “ไม่อร่อยเลยสักนิด”เมื่อได้เคี้ยวข้าวสาลีผสมถั่ว หวังหยวนวางชามดินเผาลง รู้สึกเหมือนกินแกลบไม่มีผิด ตอนนี้ใครมาบอกว่าการข้ามกาลเวลามันดี เขาก็พร้อมที่จะบอกความในใจให้พวกเขา ข้ามกาลเวลามาถึงช่วงราชวงศ์ต้าเย่ คล้ายช่วงยุคสมัยโบราณของจีน เจ้าของร่างเดิมเป็นเป็นเจ้าของที่ดินเล็ก ๆ ตอนที่พ่อแม่ยังอยู่ ตอนเช้าได้กินข้าวต้มข้าวฟ่าง เที่ยงได้กินข้าวผสมข้าวฟ่าง ตอนเย็นได้กินเซาปิ่งพร้อมธัญพืชผสม ทุก ๆ สิบวันหลังจากกลับมาจากโรงเรียนในเมือง ถึงจะได้กลับมากินให้หายอยากได้สำหรับคนทั่วไป แต่ละวันกินข้าวต้มข้าวฟ่าง หรือข้าวสาลีผสมถั่ว ส่วนเนื้อนั้นในช่วงปกติอย่าไปคิดถึงมันเลย คงมีแค่ช่วงฉลองตรุษจีนเท่านั้นถึงจะได้กินเนื้อบ้าง ส่วนแป้งและข้าวสารนั้นเป็นที่นิยมของเจ้าของที่ดิน คหบดีและขุนนาง นึกถึงพวกไข่ เนื้อหมู ไก่ ปลา บนโลกที่ถูกทิ้ง หวังหยวนอดที่จะตีตัวเองไม่ได้ น้ำเสียงที่ฟังดูขลาดกลัวของคน ๆ หนึ่งดังขึ้น “ท่านพี่ ขอโทษนะ ในบ้านไม่มีข้าวฟ่างแล้ว ให้ท่านที่เป็นบัณฑิตเพิ่งหายป่วยกินข้าวสาลีผสมถั่วเช่นนี้?” แววตาของหวังหยวนมีประกายขึ้นมา สาวน้อยคนสวยที่ท่าทางขี้ขลาดยืนอยู่หน้าห้องโ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2

    หวังหยวนเลิกคิ้ว "ถ้าข้าทำได้ล่ะ?" หลิวโย่วไฉเผยสีหน้าเจ้าเล่ห์ "ถ้าเจ้าทำได้ ข้าจะไม่คิดดอกเบี้ย! แต่ถ้าทำไม่ได้ เจ้าจะต้องขายตัวเองเป็นคนรับใช้นายของข้า ว่าอย่างไรบ้าง?" หลี่ซื่อหานหน้าถอดสี “ท่านพี่ อย่ารับปากนะ!” เจ้าของที่ใจดำคนนี้ต้องการให้เขาขายตัวเองเป็นทาส หวังหยวนโกรธมาก แต่เขาเดินไปเขียนสัญญาสองฉบับและหยิบแผ่นหมึกสีแดงออกมา "เขียนชื่อและประทับนิ้วซะ!" “ได้!” หลังจากเขียนชื่อด้วยลายมือน่าเกลียด และประทับลายนิ้วมือสีแดงแล้ว หลิวโย่วไฉก็เดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ คนเสเพลเช่นนี้ เขาไม่มีหาเงินสี่สิบกว้านได้ภายในสามวันอย่างแน่นอน แม้ว่าครอบครัวของสาวน้อยจะร่ำรวย แต่พวกเขาก็อยากให้นางทิ้งคนเสเพลพรรค์นี้อยู่เสมอ ดังนั้นการยืมเงินคงจะเป็นไปไม่ได้แน่ การเดิมพันครั้งนี้ จะได้ทาสมาฟรี ๆ และสามารถขายได้ต่อในราคาหลายสิบกว้านด้วย! เข้าใกล้เป้าหมายที่ตระกูลหลิวจะครอบครองที่ดินพันหมู่ไปอีกหนึ่งเก้า 'สามีภรรยา' ยืนอยู่ตรงข้ามกันในลานบ้าน “ซื่อหาน” หวังหยวนอยากจะปลอบนาง หลี่ซื่อหานเช็ดน้ำตา และรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอน หวังหยวนเข้าใจว่านี่เป็นทำร้าย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 3

    งานที่เหลือใช้แรงออกน้อยกว่ามาก แค่ล้างรากหญ้าแล้วบดในครกหิน หลังจากทำงานยุ่งมานาน หวังหยวนรู้สึกเหนื่อยมากจนปวดหลังไปหมด เขาจึงเอารากหญ้าที่ตำใส่ถังน้ำ จึงค่อย ๆ เดินทอดน่องไปที่ริมแม่น้ำ หวังหยวนเห็นพวกปลาแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ เขาจึงโรยแป้งหมี่ถั่วเหลืองและน้ำลงไป ด้วยเหยื่อที่วางลงไป จำนวนปลาที่รุมเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ หวังหยวนค่อย ๆ เทของเหลวที่ได้จากการตำรากหญ้าลงไปอย่างระมัดระวัง เมื่อน้ำที่ได้จากการตำรากหญ้านั้นกระจายตัว ปลาที่ค่อย ๆ ลอยหงายท้องขึ้นมาจากน้ำ หนึ่งตัว! สองตัว! ... หลังจากนั้นสักพัก หวังหยวนก็จับปลาตัวใหญ่ได้แปดตัว และตัวเล็กอีกสิบห้าตัว ปลาตัวใหญ่หนักประมาณสองกิโลครึ่ง ตัวเล็กหนักประมาณสองร้อยห้าสิบกรัม ปลาที่เล็กกว่านี้ก็ปล่อยมันไป เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หวังหยวนก็กลับบ้านด้วยของที่เต็มตะกร้า ผ่านกระท่อมมุงหลังคาจากสี่หลัง คอกวัวและลานเล็ก ๆ ที่ล้อมรั้วทางด้านตะวันออกของหมู่บ้าน “ลุงหานซาน!” หวังหยวนตะโกนเรียกเขา เด็กน้อยน่ารักที่เหมือนตุ๊กตาตัวน้อยสวมเสื้อคลุมยัดนุ่นวิ่งออกมาจากเรือน ไปมองดูหวังหยวนในชุดคลุมตัวอย่างสงสัยและเขินอาย "หวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 4

    ในโลกนี้มีการตกปลา ตกเบ็ด จับปลา แต่ยังไม่มีใครวางยาปลา หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ข้าค้นพบเคล็ดลับการตกปลาและก็จับปลากลับมาได้ตั้งเยอะ รีบกินเร็วเข้า ระวังถูกก้างทิ่มเอาล่ะ!" “เคล็ดลับการตกปลา!” หลี่ซื่อหานที่สงสัยอยู่แล้วนั้น ยิ่งเจอความเป็นห่วงเอาใจใส่ของหวังหยวน ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับกวางที่ตกใจอีกครั้ง ทั้งสองคนก็กินปลาต่อไป ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมไม่ค่อยได้กินปลาหรือเปล่า หรือเป็นเพราะปลาสดใหม่ หวังหยวนพบว่าปลาที่ทอดในน้ำมันหมูสักพัก และใส่เกลืออบรอสักสิบห้านาที และโรยด้วยผักป่า มันจะอร่อยมากซะกินจนหมดเกลี้ยง มาดูทางหลี่ซื่อหาน นางกินเหมือนแมวดมไม่มีผิด กินไปเพียงแค่ครึ่งชิ้นเท่านั้น “ท่านพี่ ข้าอิ่มแล้ว อีกครึ่งตัวนี้ข้ายังไม่ได้แตะมัน!” เห็นหวังหยวนมองมาที่นาง หลี่ซื่อหานก็วางตะเกียบลงแล้วผลักจานปลานั้นมา “ข้ากินอิ่มแล้ว แค่มองเจ้ากินปลาแบบนี้ก็น่ามองแล้ว รีบกินเถอะ!” หวังหยวนลุกขึ้นและออกจากห้องโถง เมื่อใดก็ตามที่มีเนื้ออยู่ในบ้าน หลี่ซื่อหานลังเลไม่กล้ากินมัน ปล่อยให้เจ้าของร่างเดิมกินก่อนเสมอ นี่จึงทำให้นางผอมลงจนผอมซูบ จนความงามแต่เดิมของนางก็หายไ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 5

    หวังซื่อไห่เอามือจับชายแขนเสื้อตัวเองยืนน้ำลายไหลอยู่หน้าประตูบ้านหวังหยวน หวังหยวนถามว่า "เจ้าทำอะไรน่ะ?" ต้าหู่และเอ้อหู่ก้าวออกมาล้อมขนาบหวังซื่อไห่ทั้งซ้ายและขวา มายืนน้ำลายไหลบ้านพี่หยวนแต่เช้า เจ้าอันธพาลนี่ต้องคิดเรื่องไม่ดีอยู่แน่ ๆ หวังซื่อไห่ตกใจจนสะดุ้ง แล้วจึงรีบถอยออกไปจากประตู “ข้า ข้าอยากกินปลา!" ช่างหน้าด้านได้อย่างตรงไปตรงมา หวังหยวนส่ายหน้า “เจ้ามาช้าไป ปลาถูกกินหมดแล้ว!” “เช้ากินหมดแล้ว ยังมีตอนเย็นอีก แค่อยากกินปลาเอง ให้ข้าไปขุดรากหญ้ากับเจ้าก็ได้นะ ไม่มีปัญหา” เมื่อวานที่เดินเตร็ดเตร่อยู่นั้น พบว่าที่บ้านหวังหยวนนั้นกินปลา และบ้านหวังหานซานก็ได้กินปลาเช่นกัน เดินมาแต่เช้าก็พบว่าบ้านหวังหยวนก็กินปลา และพ่อลูกหวังหานซานด้วย เมื่อนึกถึงที่หวังหยวนพูดถึงประโยชน์ เขาเข้าใจแล้วว่าเขาพลาดอะไรไป ปลาสองมื้อ! หวังหยวนกระพริบตา "งั้นไปเอาไข่สองฟองก่อน" ในชนบทแม้ว่าจะมีผู้เลี้ยงไก่อยู่ไม่กี่ราย แต่ไข่ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้และขายเป็นเงิน กว่าจะได้ไข่สองฟองไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ "...ตกลง!" หวังซื่อไห่กัดฟันและหันกลับมา หวังหานซานเตือนว่า "หวังหยว

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2114

    ไป๋อวิ๋นเฟยกำลังจะพูด แต่หวังหยวนกล่าวขัดขึ้นโดยไม่หันมามอง “องค์ชาย รีบออกไปจากที่นี่! ข้าจะช่วยถ่วงเวลาพวกมันไว้!”“แม้จะไม่มีปืนคาบศิลา! พวกมันก็ฆ่าข้าไม่ได้ในเวลาอันสั้นหรอก!”ว่าแล้วหวังหยวนก็กระโจนเข้าใส่คนร้ายสามคนไป๋อวิ๋นเฟยคือตัวแปรสำคัญ หากต้องการเดินหมากให้สำเร็จ ไม่อาจปล่อยให้เขาเป็นอันตรายได้!เพื่อไม่ให้กระทบแผนการใหญ่!ไป๋อวิ๋นเฟยลังเลครู่หนึ่ง เขารู้ว่าหากอยู่ต่อก็จะเป็นภาระให้หวังหยวน สุดท้ายจึงกัดฟันกล่าว “ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนั้น ข้าขอตัวก่อน!”“ท่านแค่ถ่วงเวลาไว้ ข้าจะไปตามคนมาช่วย เมื่อคนของเรามาถึง พวกมันก็หนีไม่รอด!”หวังหยวนพยักหน้า แล้วเข้าต่อสู้กับคนร้ายหัวหน้าคนร้ายเบิกตากว้าง เขานึกอะไรขึ้นได้จึงมองหวังหยวนแล้วถาม “ท่านคือหวังหยวนหรือ?”แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอาวุธลับในมือหวังหยวนคืออะไร แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อปืนคาบศิลามาก่อน!นับเป็นอาวุธร้ายแรง เป็นหนึ่งในอาวุธลับของหวังหยวน!บนโลกนี้มีเพียงหวังหยวนเท่านั้นที่มี!ในเมื่อหวังหยวนมีอาวุธนี้ แถมไป๋อวิ๋นเฟยยังเรียกเขาว่าท่านหวังด้วยก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า...ชายตรงหน้าคือหวังหยวน ผู้ที่ทำให้ดิน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2113

    “อย่าเสียเวลาพูดมาก!”“ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ในเมื่อเขาเห็นพวกเราแล้วก็อย่าได้ไว้ชีวิต!”“ให้เขาตายไปพร้อมกับไป๋อวิ๋นเฟย!”ชายที่ถือดาบหักขว้างดาบทิ้ง แล้วสั่งผู้ใต้บัญชา เหล่านักฆ่าจึงกระโจนเข้าหาหวังหยวน!“หึ”หวังหยวนแสยะยิ้ม ยกปืนคาบศิลาขึ้นเล็งไปที่พวกเขา!ปัง! ปัง! ปัง!ทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น หลายคนล้มลงจมกองเลือด!ในพริบตาเดียว เหล่านักฆ่าสิบกว่าคนก็เหลือเพียงหัวหน้าและผู้ใต้บัญชาอีกสองคน!ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก!“นี่...”“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”หัวหน้ามองอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนขาสั่นเทา“ข้าถูกฝึกฝนมาตั้งแต่เด็ก รู้จักอาวุธมากมาย เชี่ยวชาญเรื่องอาวุธลับ!”“แต่ข้าไม่เคยเห็นอาวุธลับเช่นนี้มาก่อน ยิงได้รวดเร็วมาก ซ้ำยังทรงอานุภาพเหลือเกิน!”“ในมือท่านคืออะไร? และท่านเป็นใคร!”หัวหน้าไม่กล้าขยับหรือถอยออกจากห้อง เขารู้ว่าหวังหยวนกำลังจ้องเขาอยู่ หากเขาขยับเพียงนิดอาจจะถูกอาวุธลับของหวังหยวนเล่นงาน!ถึงตอนนั้น ต่อให้เขามีเก้าชีวิตก็คงไม่รอด...“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เจ้าจะถาม”“หากอยากมีชีวิตรอด จงบอกมาว่าเจ้าเป็นใคร”“พวกเจ้าเป็นแค่เบ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2112

    ราชวงศ์ต้าเย่มีองค์ชายเพียงสององค์ หากไป๋อวิ๋นเฟยหายตัวไป แม้ว่าไป๋หมิงจะไม่ได้เป็นไท่จื่อก็คงไม่มีใครกล้าพูดอะไร!ช่างเป็นแผนการที่แยบยล!น่าเสียดาย เล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้อาจหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกหวังหยวนไม่ได้!ในชั่วพริบตา หวังหยวนก็กระโจนออกจากห้องว่องไวเหมือนสายลม มาถึงห้องโถงภายในห้องโถงมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง บนพื้นมีศพนอนเกลื่อนกลาด พวกเขาล้วนเป็นทหารองครักษ์ของตำหนัก!แต่กลับไม่เห็นตัวคนร้าย!“แย่แล้ว! องค์ชายตกอยู่ในอันตราย!”หวังหยวนร้องลั่น จากนั้นจึงรีบวิ่งไปที่ห้องของไป๋อวิ๋นเฟยขณะเดียวกัน ในห้องของไป๋อวิ๋นเฟยไป๋อวิ๋นเฟยยืนอยู่หน้าโต๊ะ ในมือถือดาบยาว บนดาบมีเลือดเปื้อน คนร้ายหลายคนนอนตายอยู่แทบเท้าเขาแต่คนร้ายมีจำนวนมาก ในห้องยังมีคนร้ายอีกสิบกว่าคนยืนถือดาบยาวมองไป๋อวิ๋นเฟยด้วยสายตาเย็นชา รังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมา!แม้แต่เด็กสามขวบก็ดูออกว่าพวกเขาต้องการฆ่าไป๋อวิ๋นเฟย!“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”“ใครบังอาจให้พวกเจ้ามาลอบสังหารข้า?”“หากเรื่องนี้รู้ถึงหูคนอื่น อย่าว่าแต่พวกเจ้าจะเอาชีวิตไม่รอด แม้แต่ตระกูลของพวกเจ้าก็จะต้องชดใช้!”ไป๋อวิ๋นเฟยกล่าวอย่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2111

    “ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนั้น ท่านมีแผนการอะไรหรือไม่?”“พวกเราต้องลงมือเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต!”ไป๋อวิ๋นเฟยรินน้ำชาให้หวังหยวน แล้วถามสถานการณ์บีบคั้น หากพลาดพลั้ง เขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นเสียราชบัลลังก์!แผ่นดินที่เสด็จแม่สร้างขึ้นจะตกไปอยู่ในมือคนอื่นไม่ได้!หากเรื่องนี้แพร่ออกไป คงจะถูกคนทั่วหล้าหัวเราะเยาะไม่ใช่หรือ?หวังหยวนหรี่ตาลง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถิด ข้ามีแผนการแล้ว ตอนนี้ฝ่าบาทยังมีพระชนม์ชีพอยู่ แม้จะประชวรหนัก แต่ก็ยังอยู่ในวังหลวง!”“แม้ว่าซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีจะกล้า แต่ก็คงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม กองทัพทั่วหล้ายังไม่ได้อยู่ในมือพวกเขา พวกเขาจะอวดดีเกินไปได้อย่างไร?”“ตอนนี้พวกเราแค่รอคอย รอจังหวะที่เหมาะสม”“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฝ่าบาท...”ความหมายของหวังหยวนชัดเจน ตอนนี้ไม่ใช่แค่ซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีที่ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่พวกเขาก็เช่นกันทำได้เพียงรอคอยให้ไป๋เหยียนเฟยสิ้นพระชนม์ แผ่นดินจึงจะเปลี่ยนมือ!แต่ก่อนหน้านั้น ใครก็ไม่อาจผลีผลามได้ ไม่เช่นนั้นย่อมเกิดหายนะ!หากแก้ปัญหาไม่ได้จะยิ่งยุ่งยาก!“ตกลง! เช่นนั้นข้าจะทำตามที่ท่านว่า!”ไป๋อวิ๋น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2110

    “ในเมื่อคุณหนูเอ่ยปากแล้วก็เชิญนำทางเถิด”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มไป๋ลั่วหลีรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ที่บอกว่าพักผ่อนทำกิจกรรมในห้องทั้งวันหมายความว่าอย่างไร?หรือว่า...นางไม่กล้าคิดต่อเพราะนางยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้...ส่วนหลิ่วหรูเยียนถึงกับหน้าแดงก่ำ แอบด่าหวังหยวนอยู่ในใจ “พูดโดยไม่คิด ช่างน่าอายจริง ๆ!”แม้ว่านางกับเขาจะทำเรื่องลับ ๆ ในห้องจริง แต่ก็ไม่ควรพูดออกมาเช่นนี้ไม่ใช่หรือ?ไม่รักษาหน้าตาของนางบ้างหรือไร?“อะแฮ่ม”ไป๋ลั่วหลีกระแอมสองครั้ง แล้วตั้งสติกล่าว “เช่นนั้นพวกเราไปกันเถิดเจ้าค่ะ”ใต้แสงจันทร์ เงาร่างสามร่างเดินไปตามถนน ไม่นานก็มาถึงตำหนักหลังหนึ่ง“ที่นี่คือ...”หวังหยวนมองตำหนักที่อยู่ตรงหน้า แล้วเอ่ยถาม“ที่นี่คือตำหนักขององค์ชายใหญ่ไป๋อวิ๋นเฟย ตอนกลางวันข้าออกจากวังหลวงมาพบกับองค์ชายใหญ่ที่นี่”“องค์ชายใหญ่เป็นห่วงบ้านเมือง เมื่อรู้ว่าท่านยังอยู่ในเมืองหลวงจึงอยากให้ข้าพาท่านมาพบ”“หวังว่าท่านจะช่วยเหลือองค์ชายใหญ่กอบกู้ราชวงศ์ต้าเย่ คืนความสงบสุขให้บ้านเมืองอีกครั้ง!”ไป๋ลั่วหลีประสานมือกล่าวที่แท้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2109

    “ก๊อก ก๊อก ก๊อก...”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ปลุกให้หวังหยวนและหลิ่วหรูเยียนตื่นจากฝัน“ใคร?”หวังหยวนคว้าปืนคาบศิลาที่ซ่อนไว้ใต้หมอน มองไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง แล้วเอ่ยถามเสียงเย็น“ข้าเองเจ้าค่ะ!”เสียงของไป๋ลั่วหลีดังมาจากข้างนอก“คุณหนูไป๋เองหรือ”หวังหยวนเก็บปืน ก่อนจะสวมเสื้อผ้าเดินไปเปิดประตู สายตามองไป๋ลั่วหลีใต้แสงจันทร์ เห็นได้ชัดว่าไป๋ลั่วหลีดูเหนื่อยล้า มีเหงื่อเกาะบนหน้าผาก“ดึกดื่นป่านนี้ไม่ยอมพักผ่อน มาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”“หรือว่า...”“ฝ่าบาท...”หวังหยวนเลียริมฝีปากแห้งผาก สีหน้าเคร่งขรึมขึ้น“ท่านหวังอย่ากังวล ฝ่าบาทยังปลอดภัยดี เพียงแต่สถานการณ์ในเมืองหลวงดูเหมือนจะเปลี่ยนไป”ไป๋ลั่วหลีเข้ามาในห้อง ดื่มชาสองถ้วย แล้วกล่าวต่อ “ตอนที่พวกเราไปปราบกบฏ ไม่คิดว่าซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีจะใช้วิธีใดไม่ทราบ ทำให้ไป๋หมิงได้เป็นไท่จื่อ!”“ตอนนี้องค์ชายใหญ่ถูกลดอำนาจ ราชกิจสำคัญต่าง ๆ ตกอยู่ในมือของซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอี ไป๋หมิงอายุแค่สิบกว่าปี ตอนนี้เปรียบเสมือนฮ่องเต้หุ่นเชิด...”“หากฝ่าบาทสิ้นพระชนม์ ไป๋หมิงก็จะขึ้นครองราชย์ เมื่อถึงตอนนั้น ซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2108

    เหล่าทหารองครักษ์ต่างเข้าใจ พากันชักดาบเล็งไปที่ไป๋ลั่วหลีเห็นได้ชัดว่าหากไป๋ลั่วหลีบุกเข้าไปในวังหลวง ก็จะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี!ไป๋ลั่วหลีลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือ เพียงแค่ถามว่า “แล้วองค์ชายใหญ่อยู่ที่ใด?”“ในเมื่อข้าเข้าเฝ้าฝ่าบาทไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอเข้าเฝ้าองค์ชายใหญ่ได้หรือไม่?”องค์ชายใหญ่ไป๋อวิ๋นเฟยเป็นคนอ่อนโยนและสง่างาม หากเขาขึ้นครองราชย์ ราชวงศ์ต้าเย่จึงจะสงบสุข!มีเพียงไป๋อวิ๋นเฟยเท่านั้นที่สามารถควบคุมซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอี เพื่อไม่ให้พวกเขาใช้อำนาจโดยไม่ชอบ!“องค์ชายใหญ่อยู่ที่ตำหนัก ท่านไปพบเมื่อไหร่ก็ได้!”“ส่วนวังหลวง...”“ท่านเข้าไม่ได้!”ซือฟางเตือนอีกครั้งไป๋ลั่วหลีไม่ได้อยู่ต่อให้ตนเองต้องเดือดร้อน นางต้องเปลี่ยนแผน!ในพริบตาเดียว นางก็ออกจากวังหลวงไปซือฟางมองตามแผ่นหลังนางไปด้วยความเย้ยหยัน แล้วเดินจากไปไม่นานเจี๋ยงโฉ่วอีเดินออกมาจากที่ซ่อนไปหาซือฟาง“ฆ่าผู้หญิงคนนั้นเลยดีหรือไม่?”“แม้ว่านางจะเป็นหญิงงามผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้าเย่ และมีพรสวรรค์จริง แต่ดูจากท่าทางแล้ว นางจงรักภักดีต่อไป๋อวิ๋นเฟย วันข้างหน้าคงเป็นศัตรูก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2107

    “ท่านขุนพล! ท่านให้พวกเขามาขวางข้าไว้เช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร?”ไป๋ลั่วหลีเดินไปหาซือฟาง พลางขมวดคิ้วกล่าว ไม่ได้ให้ความเคารพซือฟางแม้แต่น้อย!หากเทียบกันแล้ว ฐานะของนางย่อมสูงกว่าซือฟาง!ปกตินางอยู่เคียงข้างฝ่าบาท แค่นางเอ่ยปากก็สามารถควบคุมขุนพลใหญ่ซือฟางได้แล้ว!แต่ไม่คิดว่า...วันนี้ซือฟางกลับกล้าพูดกับนางเช่นนี้เลยหรือ?ช่างน่าเจ็บใจ!“แม่นางไป๋ ท่านอย่าโทษข้าเลย นี่เป็นคำสั่งของไท่จื่อ!”“ฝ่าบาททรงหมดสติ พักผ่อนอยู่ในตำหนัก แต่ก่อนหน้านั้น พระองค์ได้มอบราชกิจสำคัญให้ไท่จื่อแล้ว”“ไท่จื่อเพิ่งจะขึ้นครองตำแหน่ง ย่อมต้องระมัดระวัง วังหลวงจึงเป็นเขตหวงห้าม หากไม่มีข้านำทาง ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้า!”ซือฟางกล่าวอย่างชอบธรรม“ไท่จื่อหรือ?”“ฝ่าบาทแต่งตั้งไท่จื่อตั้งแต่เมื่อไหร่?”ไป๋ลั่วหลีสงสัย ตอนที่หวังหยวนมาที่ราชวงศ์ต้าเย่ แม้ว่าไป๋เหยียนเฟยจะป่วยหนักและอ่อนแอ แต่ก็ยังถามถึงเรื่องไท่จื่อเรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนนางไม่ได้ยินข่าวใด ๆ เลย แล้วเหตุใดถึงมีไท่จื่อองค์ใหม่แล้ว?“ใครเป็นไท่จื่อ!”ทันใดนั้น ไป๋ลั่วหลีก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงรีบถาม“ไท่จื่อองค์ปัจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2106

    ไป๋ลั่วหลีกำชับ แล้วเดินออกจากห้องเพื่อมุ่งหน้าไปยังวังหลวงในห้อง หวังหยวนและหลิ่วหรูเยียนนั่งอยู่ที่โต๊ะหวังหยวนส่ายหน้ากล่าว “ไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้”“ไม่นานมานี้ ข้าเพิ่งพบกับไป๋เหยียนเฟย แต่ผ่านไปไม่นาน นางก็ใกล้จะจากโลกนี้ไปแล้ว...”“ชีวิตคนเรามีทั้งสุขและทุกข์ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา...”หลิ่วหรูเยียนไม่ได้เอ่ยคำใดน่าเสียดาย ไป๋เหยียนเฟยเพิ่งขึ้นครองราชย์ได้ไม่ถึงห้าปี จักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่ก็ต้องจากไปแล้ว...น่าเศร้าใจยิ่งนัก!“หลายวันมานี้ เจ้าติดตามข้าไปทุกที่ คงจะเหนื่อยมากแล้วใช่หรือไม่?”“ตอนนี้ว่างแล้ว พวกเราก็มาพักผ่อนกันเถิด”“ตอนนี้พวกเราทำได้เพียงรอคอยอย่างอดทน รอดูสถานการณ์...”ไป๋เหยียนเฟยยังไม่สิ้นพระชนม์ พวกเขาจึงไม่อาจผลีผลามได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ราชวงศ์ต้าเย่เกลียดชังแต่ก็ไม่อาจจากไปได้ เพราะประเดี๋ยวสถานการณ์จะควบคุมไม่ได้!ช่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก!โชคดีที่หวังหยวนสังเกตเห็นว่าไป๋เหยียนเฟยคงอยู่ได้อีกไม่นาน คงไม่เกินวันสองวันนี้...เมื่อถึงตอนนั้น ราชวงศ์ต้าเย่คงจะเปลี่ยนแปลงเขาจะพลิกสถานการณ์ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสามารถของเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status