โชคดีที่รู้ว่าหวังหยวนไม่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาจึงเบาใจได้!...ในเมืองหลวงของอาณาจักรต้าเย่ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอียืนอยู่ด้วยกัน พวกเขารอฟังข่าวตลอดทั้งคืน ไม่ได้หลับนอนเลยแม้แต่น้อยทั้งสองมีความเห็นตรงกัน คือถือว่าหวังหยวนเป็นภัยคุกคาม จึงต้องรอฟังข่าวจากลูกน้อง!น่าเสียดาย...เมื่อข่าวมาถึง สีหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนไป!“ล้มเหลว”เจี๋ยงโฉ่วอีขมวดคิ้วกล่าว “ก่อนพวกเขาออกเดินทาง ท่านบอกว่าพวกเขาล้วนเป็นทหารเอกทั้งนั้นไม่ใช่หรือ? ทุกคนมีฝีมือเยี่ยมยอด ไม่อาจผิดพลาดได้!”“แล้วตอนนี้ล่ะ? พวกเราไม่เพียงแต่ฆ่าหวังหยวนไม่ได้ ซ้ำยังเสียคนไปมาก หากหวังหยวนรู้ว่าพวกเราเกี่ยวข้อง อาจทำให้ราชวงศ์ต้าเย่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก!”“ตอนนี้ฝ่าบาทประชวรหนัก หากหวังหยวนยกทัพมาโจมตีจริง ๆ ประชาชนคงหวาดกลัว กองทัพคงแตกแยก! หากเปิดศึกกันจริง พวกเราจะสู้เขาได้อย่างไร?”เจี๋ยงโฉ่วอีรู้จักประมาณตนในฐานะที่ปรึกษาคนสำคัญของราชวงศ์ต้าเย่ เขาย่อมรู้เรื่องราวต่าง ๅ เป็นอย่างดี!หวังหยวนมีทหารห้าหมื่นนาย และในเมืองหลิงยังมีขุนพลอีกมากมาย!หากเปิดศึกเต็มรูปแบบ ราชวงศ์ต้าเย่จะถูกโจมตีทั้งสองด้าน ทำให้ตกอยู
ในป่าลึกท่ามกลางหุบเขา“ใครอยู่ข้างนอก?”หวังหยวนนั่งอยู่ในกระโจม เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินไปมาหน้ากระโจมจึงเอ่ยถามครู่ต่อมาไท่สื่อลี่ก็เดินเข้ามา“ท่านไท่สื่อเองหรือ?”“ตอนนี้ใกล้จะดึกมากแล้ว คืนนี้เกิดเรื่องมากมาย เหตุใดท่านจึงยังไม่พักผ่อน? แต่กลับมาที่นี่แทนเล่า? มีเรื่องใดจะพูดกับข้าหรือไม่?”หวังหยวนลุกขึ้นถามด้วยรอยยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นสีหน้ายังคงสงบนิ่ง!เห็นท่าทางของหวังหยวนแล้ว ไท่สื่อลี่รู้สึกนับถือ หวังหยวนช่างเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ!พวกเขาไม่อาจเทียบเทียมได้!เพิ่งผ่านพ้นอันตรายมา ชีวิตเกือบจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่หวังหยวนกลับตั้งสติได้เร็ว สีหน้ากลับมาเป็นปกติได้ การควบคุมอารมณ์เช่นนี้ช่างต่างจากคนธรรมดาทั่วไป!ต่อให้หวังหยวนจะแสร้งทำก็ยังน่ายกย่อง!“ท่านหวัง!”“ข้ามาในยามวิกาลเพื่อจะพูดคุยเรื่องการลอบสังหารกับท่าน!”ไท่สื่อลี่ประสานมือ ค้อมศีรษะกล่าว“การลอบสังหารรึ?”“ท่านรู้หรือว่าใครส่งนักฆ่ามา?”หวังหยวนเลิกคิ้ว หลังจากนั่งลงจิบชาแล้วจึงมองไปที่ไท่สื่อลี่สายตาของเขาคมกริบดุจดาบคู่!ทำให้ไท่สื่อลี่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง!“ไม่ใช่ ไม่ใ
“ใช้คนอย่าระแวง ระแวงก็อย่าใช้!”“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับพวกนั้น...”เห็นได้ชัดว่าหวังหยวนรู้ความจริงอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องบอกไท่สื่อลี่!ไท่สื่อลี่เป็นคนเฉลียวฉลาดจึงไม่กล้าถามมาก เมื่อเห็นว่าหวังหยวนไม่ได้สงสัยพวกเขา เขาก็เบาใจขึ้น“เช่นนั้นเชิญท่านพักผ่อนเถิดขอรับ ข้าต้องขอตัวก่อน”ไท่สื่อลี่กล่าวอย่างสุภาพ แล้วออกจากกระโจมไปหวังหยวนยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาคงไม่ได้พักผ่อนตอนที่คุยกับไท่สื่อลี่ เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างนอก เกาเล่อนั่นเอง!ตอนนี้เขาอยากพบเกาเล่อโดยเร็ว เพื่อให้เกาเล่อไปสืบหาความจริงและไขข้อข้องใจ!“ท่านผู้นำ!”เกาเล่อที่เข้ามาในกระโจมรีบเดินไปหาหวังหยวน แล้วถาม “ท่านผู้นำไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่ขอรับ?”เมื่อครู่หวังหยวนไล่พวกเขาออกไป แล้วอยู่คนเดียวในกระโจม นี่คือสิ่งที่เกาเล่อกังวลที่สุด!การที่หวังหยวนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แสดงว่าคนที่ลอบสังหารล้วนเป็นยอดฝีมือ!ต้องระวังตัวให้มาก!หวังหยวนมีปืนคาบศิลา แต่ฝีมือการต่อสู้ยังอ่อนด้อยกว่าอีกฝ่าย หากอีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่าย่อมเสียเปรียบ!“ข้าดูเหมือนคนบาดเจ็บหรือ?”
“ไม่อร่อยเลยสักนิด”เมื่อได้เคี้ยวข้าวสาลีผสมถั่ว หวังหยวนวางชามดินเผาลง รู้สึกเหมือนกินแกลบไม่มีผิด ตอนนี้ใครมาบอกว่าการข้ามกาลเวลามันดี เขาก็พร้อมที่จะบอกความในใจให้พวกเขา ข้ามกาลเวลามาถึงช่วงราชวงศ์ต้าเย่ คล้ายช่วงยุคสมัยโบราณของจีน เจ้าของร่างเดิมเป็นเป็นเจ้าของที่ดินเล็ก ๆ ตอนที่พ่อแม่ยังอยู่ ตอนเช้าได้กินข้าวต้มข้าวฟ่าง เที่ยงได้กินข้าวผสมข้าวฟ่าง ตอนเย็นได้กินเซาปิ่งพร้อมธัญพืชผสม ทุก ๆ สิบวันหลังจากกลับมาจากโรงเรียนในเมือง ถึงจะได้กลับมากินให้หายอยากได้สำหรับคนทั่วไป แต่ละวันกินข้าวต้มข้าวฟ่าง หรือข้าวสาลีผสมถั่ว ส่วนเนื้อนั้นในช่วงปกติอย่าไปคิดถึงมันเลย คงมีแค่ช่วงฉลองตรุษจีนเท่านั้นถึงจะได้กินเนื้อบ้าง ส่วนแป้งและข้าวสารนั้นเป็นที่นิยมของเจ้าของที่ดิน คหบดีและขุนนาง นึกถึงพวกไข่ เนื้อหมู ไก่ ปลา บนโลกที่ถูกทิ้ง หวังหยวนอดที่จะตีตัวเองไม่ได้ น้ำเสียงที่ฟังดูขลาดกลัวของคน ๆ หนึ่งดังขึ้น “ท่านพี่ ขอโทษนะ ในบ้านไม่มีข้าวฟ่างแล้ว ให้ท่านที่เป็นบัณฑิตเพิ่งหายป่วยกินข้าวสาลีผสมถั่วเช่นนี้?” แววตาของหวังหยวนมีประกายขึ้นมา สาวน้อยคนสวยที่ท่าทางขี้ขลาดยืนอยู่หน้าห้องโ
หวังหยวนเลิกคิ้ว "ถ้าข้าทำได้ล่ะ?" หลิวโย่วไฉเผยสีหน้าเจ้าเล่ห์ "ถ้าเจ้าทำได้ ข้าจะไม่คิดดอกเบี้ย! แต่ถ้าทำไม่ได้ เจ้าจะต้องขายตัวเองเป็นคนรับใช้นายของข้า ว่าอย่างไรบ้าง?" หลี่ซื่อหานหน้าถอดสี “ท่านพี่ อย่ารับปากนะ!” เจ้าของที่ใจดำคนนี้ต้องการให้เขาขายตัวเองเป็นทาส หวังหยวนโกรธมาก แต่เขาเดินไปเขียนสัญญาสองฉบับและหยิบแผ่นหมึกสีแดงออกมา "เขียนชื่อและประทับนิ้วซะ!" “ได้!” หลังจากเขียนชื่อด้วยลายมือน่าเกลียด และประทับลายนิ้วมือสีแดงแล้ว หลิวโย่วไฉก็เดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ คนเสเพลเช่นนี้ เขาไม่มีหาเงินสี่สิบกว้านได้ภายในสามวันอย่างแน่นอน แม้ว่าครอบครัวของสาวน้อยจะร่ำรวย แต่พวกเขาก็อยากให้นางทิ้งคนเสเพลพรรค์นี้อยู่เสมอ ดังนั้นการยืมเงินคงจะเป็นไปไม่ได้แน่ การเดิมพันครั้งนี้ จะได้ทาสมาฟรี ๆ และสามารถขายได้ต่อในราคาหลายสิบกว้านด้วย! เข้าใกล้เป้าหมายที่ตระกูลหลิวจะครอบครองที่ดินพันหมู่ไปอีกหนึ่งเก้า 'สามีภรรยา' ยืนอยู่ตรงข้ามกันในลานบ้าน “ซื่อหาน” หวังหยวนอยากจะปลอบนาง หลี่ซื่อหานเช็ดน้ำตา และรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอน หวังหยวนเข้าใจว่านี่เป็นทำร้าย
งานที่เหลือใช้แรงออกน้อยกว่ามาก แค่ล้างรากหญ้าแล้วบดในครกหิน หลังจากทำงานยุ่งมานาน หวังหยวนรู้สึกเหนื่อยมากจนปวดหลังไปหมด เขาจึงเอารากหญ้าที่ตำใส่ถังน้ำ จึงค่อย ๆ เดินทอดน่องไปที่ริมแม่น้ำ หวังหยวนเห็นพวกปลาแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ เขาจึงโรยแป้งหมี่ถั่วเหลืองและน้ำลงไป ด้วยเหยื่อที่วางลงไป จำนวนปลาที่รุมเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ หวังหยวนค่อย ๆ เทของเหลวที่ได้จากการตำรากหญ้าลงไปอย่างระมัดระวัง เมื่อน้ำที่ได้จากการตำรากหญ้านั้นกระจายตัว ปลาที่ค่อย ๆ ลอยหงายท้องขึ้นมาจากน้ำ หนึ่งตัว! สองตัว! ... หลังจากนั้นสักพัก หวังหยวนก็จับปลาตัวใหญ่ได้แปดตัว และตัวเล็กอีกสิบห้าตัว ปลาตัวใหญ่หนักประมาณสองกิโลครึ่ง ตัวเล็กหนักประมาณสองร้อยห้าสิบกรัม ปลาที่เล็กกว่านี้ก็ปล่อยมันไป เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หวังหยวนก็กลับบ้านด้วยของที่เต็มตะกร้า ผ่านกระท่อมมุงหลังคาจากสี่หลัง คอกวัวและลานเล็ก ๆ ที่ล้อมรั้วทางด้านตะวันออกของหมู่บ้าน “ลุงหานซาน!” หวังหยวนตะโกนเรียกเขา เด็กน้อยน่ารักที่เหมือนตุ๊กตาตัวน้อยสวมเสื้อคลุมยัดนุ่นวิ่งออกมาจากเรือน ไปมองดูหวังหยวนในชุดคลุมตัวอย่างสงสัยและเขินอาย "หวั
ในโลกนี้มีการตกปลา ตกเบ็ด จับปลา แต่ยังไม่มีใครวางยาปลา หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ข้าค้นพบเคล็ดลับการตกปลาและก็จับปลากลับมาได้ตั้งเยอะ รีบกินเร็วเข้า ระวังถูกก้างทิ่มเอาล่ะ!" “เคล็ดลับการตกปลา!” หลี่ซื่อหานที่สงสัยอยู่แล้วนั้น ยิ่งเจอความเป็นห่วงเอาใจใส่ของหวังหยวน ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับกวางที่ตกใจอีกครั้ง ทั้งสองคนก็กินปลาต่อไป ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมไม่ค่อยได้กินปลาหรือเปล่า หรือเป็นเพราะปลาสดใหม่ หวังหยวนพบว่าปลาที่ทอดในน้ำมันหมูสักพัก และใส่เกลืออบรอสักสิบห้านาที และโรยด้วยผักป่า มันจะอร่อยมากซะกินจนหมดเกลี้ยง มาดูทางหลี่ซื่อหาน นางกินเหมือนแมวดมไม่มีผิด กินไปเพียงแค่ครึ่งชิ้นเท่านั้น “ท่านพี่ ข้าอิ่มแล้ว อีกครึ่งตัวนี้ข้ายังไม่ได้แตะมัน!” เห็นหวังหยวนมองมาที่นาง หลี่ซื่อหานก็วางตะเกียบลงแล้วผลักจานปลานั้นมา “ข้ากินอิ่มแล้ว แค่มองเจ้ากินปลาแบบนี้ก็น่ามองแล้ว รีบกินเถอะ!” หวังหยวนลุกขึ้นและออกจากห้องโถง เมื่อใดก็ตามที่มีเนื้ออยู่ในบ้าน หลี่ซื่อหานลังเลไม่กล้ากินมัน ปล่อยให้เจ้าของร่างเดิมกินก่อนเสมอ นี่จึงทำให้นางผอมลงจนผอมซูบ จนความงามแต่เดิมของนางก็หายไ
หวังซื่อไห่เอามือจับชายแขนเสื้อตัวเองยืนน้ำลายไหลอยู่หน้าประตูบ้านหวังหยวน หวังหยวนถามว่า "เจ้าทำอะไรน่ะ?" ต้าหู่และเอ้อหู่ก้าวออกมาล้อมขนาบหวังซื่อไห่ทั้งซ้ายและขวา มายืนน้ำลายไหลบ้านพี่หยวนแต่เช้า เจ้าอันธพาลนี่ต้องคิดเรื่องไม่ดีอยู่แน่ ๆ หวังซื่อไห่ตกใจจนสะดุ้ง แล้วจึงรีบถอยออกไปจากประตู “ข้า ข้าอยากกินปลา!" ช่างหน้าด้านได้อย่างตรงไปตรงมา หวังหยวนส่ายหน้า “เจ้ามาช้าไป ปลาถูกกินหมดแล้ว!” “เช้ากินหมดแล้ว ยังมีตอนเย็นอีก แค่อยากกินปลาเอง ให้ข้าไปขุดรากหญ้ากับเจ้าก็ได้นะ ไม่มีปัญหา” เมื่อวานที่เดินเตร็ดเตร่อยู่นั้น พบว่าที่บ้านหวังหยวนนั้นกินปลา และบ้านหวังหานซานก็ได้กินปลาเช่นกัน เดินมาแต่เช้าก็พบว่าบ้านหวังหยวนก็กินปลา และพ่อลูกหวังหานซานด้วย เมื่อนึกถึงที่หวังหยวนพูดถึงประโยชน์ เขาเข้าใจแล้วว่าเขาพลาดอะไรไป ปลาสองมื้อ! หวังหยวนกระพริบตา "งั้นไปเอาไข่สองฟองก่อน" ในชนบทแม้ว่าจะมีผู้เลี้ยงไก่อยู่ไม่กี่ราย แต่ไข่ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้และขายเป็นเงิน กว่าจะได้ไข่สองฟองไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ "...ตกลง!" หวังซื่อไห่กัดฟันและหันกลับมา หวังหานซานเตือนว่า "หวังหยว
“ใช้คนอย่าระแวง ระแวงก็อย่าใช้!”“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับพวกนั้น...”เห็นได้ชัดว่าหวังหยวนรู้ความจริงอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องบอกไท่สื่อลี่!ไท่สื่อลี่เป็นคนเฉลียวฉลาดจึงไม่กล้าถามมาก เมื่อเห็นว่าหวังหยวนไม่ได้สงสัยพวกเขา เขาก็เบาใจขึ้น“เช่นนั้นเชิญท่านพักผ่อนเถิดขอรับ ข้าต้องขอตัวก่อน”ไท่สื่อลี่กล่าวอย่างสุภาพ แล้วออกจากกระโจมไปหวังหยวนยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาคงไม่ได้พักผ่อนตอนที่คุยกับไท่สื่อลี่ เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างนอก เกาเล่อนั่นเอง!ตอนนี้เขาอยากพบเกาเล่อโดยเร็ว เพื่อให้เกาเล่อไปสืบหาความจริงและไขข้อข้องใจ!“ท่านผู้นำ!”เกาเล่อที่เข้ามาในกระโจมรีบเดินไปหาหวังหยวน แล้วถาม “ท่านผู้นำไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่ขอรับ?”เมื่อครู่หวังหยวนไล่พวกเขาออกไป แล้วอยู่คนเดียวในกระโจม นี่คือสิ่งที่เกาเล่อกังวลที่สุด!การที่หวังหยวนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แสดงว่าคนที่ลอบสังหารล้วนเป็นยอดฝีมือ!ต้องระวังตัวให้มาก!หวังหยวนมีปืนคาบศิลา แต่ฝีมือการต่อสู้ยังอ่อนด้อยกว่าอีกฝ่าย หากอีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่าย่อมเสียเปรียบ!“ข้าดูเหมือนคนบาดเจ็บหรือ?”
ในป่าลึกท่ามกลางหุบเขา“ใครอยู่ข้างนอก?”หวังหยวนนั่งอยู่ในกระโจม เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินไปมาหน้ากระโจมจึงเอ่ยถามครู่ต่อมาไท่สื่อลี่ก็เดินเข้ามา“ท่านไท่สื่อเองหรือ?”“ตอนนี้ใกล้จะดึกมากแล้ว คืนนี้เกิดเรื่องมากมาย เหตุใดท่านจึงยังไม่พักผ่อน? แต่กลับมาที่นี่แทนเล่า? มีเรื่องใดจะพูดกับข้าหรือไม่?”หวังหยวนลุกขึ้นถามด้วยรอยยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นสีหน้ายังคงสงบนิ่ง!เห็นท่าทางของหวังหยวนแล้ว ไท่สื่อลี่รู้สึกนับถือ หวังหยวนช่างเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ!พวกเขาไม่อาจเทียบเทียมได้!เพิ่งผ่านพ้นอันตรายมา ชีวิตเกือบจะแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่หวังหยวนกลับตั้งสติได้เร็ว สีหน้ากลับมาเป็นปกติได้ การควบคุมอารมณ์เช่นนี้ช่างต่างจากคนธรรมดาทั่วไป!ต่อให้หวังหยวนจะแสร้งทำก็ยังน่ายกย่อง!“ท่านหวัง!”“ข้ามาในยามวิกาลเพื่อจะพูดคุยเรื่องการลอบสังหารกับท่าน!”ไท่สื่อลี่ประสานมือ ค้อมศีรษะกล่าว“การลอบสังหารรึ?”“ท่านรู้หรือว่าใครส่งนักฆ่ามา?”หวังหยวนเลิกคิ้ว หลังจากนั่งลงจิบชาแล้วจึงมองไปที่ไท่สื่อลี่สายตาของเขาคมกริบดุจดาบคู่!ทำให้ไท่สื่อลี่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง!“ไม่ใช่ ไม่ใ
โชคดีที่รู้ว่าหวังหยวนไม่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาจึงเบาใจได้!...ในเมืองหลวงของอาณาจักรต้าเย่ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอียืนอยู่ด้วยกัน พวกเขารอฟังข่าวตลอดทั้งคืน ไม่ได้หลับนอนเลยแม้แต่น้อยทั้งสองมีความเห็นตรงกัน คือถือว่าหวังหยวนเป็นภัยคุกคาม จึงต้องรอฟังข่าวจากลูกน้อง!น่าเสียดาย...เมื่อข่าวมาถึง สีหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนไป!“ล้มเหลว”เจี๋ยงโฉ่วอีขมวดคิ้วกล่าว “ก่อนพวกเขาออกเดินทาง ท่านบอกว่าพวกเขาล้วนเป็นทหารเอกทั้งนั้นไม่ใช่หรือ? ทุกคนมีฝีมือเยี่ยมยอด ไม่อาจผิดพลาดได้!”“แล้วตอนนี้ล่ะ? พวกเราไม่เพียงแต่ฆ่าหวังหยวนไม่ได้ ซ้ำยังเสียคนไปมาก หากหวังหยวนรู้ว่าพวกเราเกี่ยวข้อง อาจทำให้ราชวงศ์ต้าเย่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก!”“ตอนนี้ฝ่าบาทประชวรหนัก หากหวังหยวนยกทัพมาโจมตีจริง ๆ ประชาชนคงหวาดกลัว กองทัพคงแตกแยก! หากเปิดศึกกันจริง พวกเราจะสู้เขาได้อย่างไร?”เจี๋ยงโฉ่วอีรู้จักประมาณตนในฐานะที่ปรึกษาคนสำคัญของราชวงศ์ต้าเย่ เขาย่อมรู้เรื่องราวต่าง ๅ เป็นอย่างดี!หวังหยวนมีทหารห้าหมื่นนาย และในเมืองหลิงยังมีขุนพลอีกมากมาย!หากเปิดศึกเต็มรูปแบบ ราชวงศ์ต้าเย่จะถูกโจมตีทั้งสองด้าน ทำให้ตกอยู
เมื่อชายผู้มีแผลเป็นที่หน้าออกคำสั่ง ความกลัวในใจของทุกคนก็ลดลงไปมาก!ในเมื่อพวกเขามีใจมุ่งมั่นจะตายอยู่แล้ว แม้ว่าวันนี้จะฆ่าหวังหยวนไม่ได้ พวกเขาก็เข้ามาในถ้ำเสือแล้ว การจะหนีรอดย่อมยากลำบาก สู้ใช้โอกาสนี้ฆ่าหวังหยวนก่อน แล้วค่อยว่ากันทีหลัง!“ปัง! ปัง! ปัง!”เมื่อทุกคนเข้าใกล้ หวังหยวนก็เหนี่ยวไก เสียงปืนดังขึ้นแต่ละครั้ง มีคนล้มลงกับพื้นทีละคน แต่ด้วยจำนวนที่มากกว่า หวังหยวนจึงยังถูกล้อมอยู่!“แค่พลังเฮือกสุดท้าย ยังจะดิ้นรนอีกหรือ?”ชายผู้มีแผลเป็นบนใบหน้าจ้องมองหวังหยวนอย่างดุร้าย“วันนี้คือวันตายของเจ้า!”ว่าแล้ว ชายหน้าแผลเป็นก็ชักดาบยาว พุ่งเข้าหาหวังหยวนหมายจะเอาชีวิต!“เคร้ง!”เนื่องจากหวังหยวนถูกล้อม เมื่อชายหน้าแผลเป็นลงมือ สถานการณ์ของหวังหยวนก็ยิ่งตกอยู่ในอันตราย!ดาบของชายหน้าแผลเป็นเกือบจะฟันถูกหวังหยวน ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น ชายหน้าแผลเป็นรู้สึกเจ็บแปลบที่แขน ดาบในมือจึงหลุดออกจากมือ!“ใครบังอาจทำร้ายท่านผู้นำ!”“ข้า ต่งอวี่ อยู่ที่นี่! ใครขวางทางต้องตาย!”ต่งอวี่ตะโกนลั่น ก่อนจะชักธนูยิงใส่คนเหล่านั้น!ทหารพลธนูรีบตามมาสมทบทันที!ลูกธนูพุ่งราวกับสาย
แต่หวังหยวนไม่ใช่คนใจบุญ ใครคิดจะเล่นงานเขาต้องดูตัวเองก่อนว่ามีฝีมือแค่ไหน!“เช่นนั้นขอให้ความร่วมมือของเราราบรื่น!”จากนั้นทุกคนจึงเริ่มดื่มกันต่อเมื่องานเลี้ยงเลิกรา หวังหยวนก็เริ่มโซเซ เพราะดื่มสุราไปมาก อาการจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อยโชคดีที่มีทหารห้าหมื่นนายติดตามมา แถมยังมีต้าหู่กับต่งอวี่ด้วย หวังหยวนจึงวางใจได้ เขาจึงกล้าดื่มสุราอย่างสบายใจ!ในที่มืด เงาร่างมากมายรวมตัวกันนอกค่ายของหวังหยวน จ้องมองแสงไฟในค่ายชายผู้มีใบหน้าเต็มไปด้วยแผลเป็นที่อยู่ข้างหน้าสุดและสวมหน้ากาก กล่าวกับคนข้างหลัง “ก่อนมาที่นี่ ข้าได้บอกพวกเจ้าแล้วว่าครั้งนี้มีแต่ตายกับตาย!”“แต่พวกเราต้องทำภารกิจที่ท่านขุนพลมอบหมายให้สำเร็จ! นั่นคือการสังหารหวังหยวน แม้ต้องแลกมาด้วยชีวิต นั่นก็เพื่อกำจัดศัตรูตัวฉกาจของราชวงศ์ต้าเย่!”“พวกเจ้าทำได้หรือไม่?”ทุกคนพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น!“ดี!”“ก่อนลงมือ มีเรื่องต้องเตือนพวกเจ้า หากถูกจับเป็น จงกัดยาพิษที่ซ่อนไว้ในฟันกราม เพื่อไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน!”ทุกคนพยักหน้าพวกเขาเตรียมพร้อมอย่างดี วันนี้คือวันที่พวกเขาตอบแทนอาณาจักร!แต่การตายมีทั้งที่ไร้ค่าและมีค่า!ก่อ
“พวกเราสามารถลงมืออย่างเป็นความลับได้!”“ไม่มีใครรู้เห็น!”“แม้แต่คนใจร้อนของหวังหยวน จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือพวกเรา?”“อย่าลืมว่าไท่สื่อลี่และคนอื่น ๆ ได้ฆ่าเจียงเซี่ยวแล้ว หากคนของเจียงเซี่ยวในป่าลอบสังหารหวังหยวน ย่อมไม่มีใครสงสัยใช่หรือไม่?”ซือฟางแสยะยิ้ม แผนการร้ายผุดขึ้นในใจ!“ดี!”เจี๋ยงโฉ่วอีหัวเราะ แล้วยกนิ้วให้ซือฟาง ช่างเป็นขุนพลที่กล้าหาญและมีไหวพริบจริง ๆ!มีซือฟางคอยปกป้อง ราชวงศ์ต้าเย่ย่อมปลอดภัยไร้กังวล!...ที่งานเลี้ยงในป่า หวังหยวนและคนอื่น ๆ นั่งอยู่ด้วยกัน มีต้าหู่และต่งอวี่ แต่ไม่มีเกาเล่อเพราะเกาเล่อมีภารกิจสำคัญยิ่งกว่านั้น นั่นคือการสืบหาข่าวสารที่เป็นประโยชน์!หวังหยวนเพิ่งพบกับคนของเผ่าทางเหนือ ยังไม่รู้จักสถานการณ์ภายใน จึงต้องให้เกาเล่อไปตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหา!แน่นอนว่านี่ก็เพื่อความสะดวกในการดำเนินการในอนาคต!หวังหยวนถือว่าดินแดนของเผ่าเหล่านี้เป็นของตนเองแล้ว!ย่อมต้องดูแลอย่างดี!ในงานเลี้ยง ไท่สื่อลี่ได้บอกแผนการของหวังหยวนให้หัวหน้าเผ่าคนอื่นแล้ว ตอนนี้ทุกคนกำลังปรึกษาหารือและถกเถียงถึงข้อดีข้อเสีย!เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก เ
“ท่านเจี๋ยง!”“ท่านคือผู้ปราดเปรื่องที่สุดในราชวงศ์ต้าเย่!”“เป็นคนสนิทที่ฝ่าบาททรงไว้วางพระทัย!”“ครั้งที่ราชวงศ์ต้าเย่ตกอยู่ในอันตราย ก็เพราะท่านคอยถวายคำแนะนำ จึงสามารถรักษาแผ่นดินของราชวงศ์ต้าเย่ไว้ได้!”“บัดนี้ภัยพิบัติมาถึง ท่านกลับมานั่งถอนหายใจ ไม่เอ่ยคำใดเลยหรือ?”ซือฟางเป็นคนใจร้อน พูดพลางเดินไปมาไม่หยุด“ท่านขุนพล! เชิญนั่งพักก่อนเถิด!”“ท่านเดินไปมาเช่นนี้ทำให้ข้าเวียนหัวไปหมดแล้ว!”เจี๋ยงโฉ่วอีโบกมือ ก่อนกล่าวว่า “บอกตามตรง หลายวันมานี้ ข้าเองก็ครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ แต่ยังหาทางออกที่ดีไม่ได้!”“ท่านขุนพลมาดื่มสุราที่นี่ คงคิดหาวิธีรับมือได้แล้วกระมัง?”“เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะใช้ได้หรือเปล่ากระมัง?”“ข้าพูดถูกหรือไม่?”ซือฟางไม่ได้ปิดบัง พยักหน้ารับในทันที“เช่นนั้นท่านขุนพลรีบบอกมาเถิดว่ามีวิธีใด? พวกเราลองปรึกษากัน บางทีอาจช่วยกันแก้ไขปัญหา รับมือหวังหยวนเพื่อปกป้องแผ่นดินของเราได้!”เจี๋ยงโฉ่วอีรีบถามแม้ว่าเขาจะเป็นที่ปรึกษาของไป๋เหยียนเฟย แต่บางครั้งก็ต้องการคนช่วยเตือนสติ จึงจะคิดแผนการที่ดีได้!คนเราแม้จะฉลาดแค่ไหน บางครั้งก็อาจพลาดพลั้งได้!ทุกอย่าง
“ได้!”“ทุกคนโปรดวางใจ เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง!”“ทุกคนแค่ทำหน้าที่ของตนไป ไม่จำเป็นต้องกังวล!”เจี๋ยงโฉ่วอีปลอบใจทุกคน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังกระโจมใหญ่ทหารยามหน้าประตูต่างโค้งคำนับด้วยความเคารพซือฟางมีอำนาจเด็ดขาดในกองทัพ ส่วนเจี๋ยงโฉ่วอีมีอำนาจในราชสำนัก ทั้งสองเป็นขุนนางคู่บุญ คนหนึ่งเป็นฝ่ายทหาร คนหนึ่งฝ่ายพลเรือน ร่วมมือกันอย่างแข็งขัน เป็นเสาหลักของราชวงศ์ต้าเย่ จึงสามารถรักษาความมั่นคงของราชวงศ์ต้าเย่ไว้ได้!“ไสหัวไป!”ทันทีที่เจี๋ยงโฉ่วอีเปิดประตูเข้ามาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลั่น!“ข้าไม่ได้สั่งไว้หรือว่าห้ามใครมารบกวนข้า?”“ใครอนุญาตให้พวกเจ้าเข้ามา?”“รีบออกไป! ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่ปรานี!”เจี๋ยงโฉ่วอีไม่สนใจคำพูดของซือฟาง ยังคงเดินเข้าไปในกระโจมพร้อมกับหัวเราะ“เจ้า...”ซือฟางโกรธจัดจนพลิกโต๊ะล้มเสียงดัง แล้วผุดลุกขึ้นยืน แต่พอเห็นเจี๋ยงโฉ่วอีก็ชะงัก ดวงตาแดงก่ำค่อยสงบลงเมื่อครู่เขามัวแต่ดื่มสุรา ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง จึงไม่รู้ว่าใครเข้ามา!ตอนนี้เห็นเจี๋ยงโฉ่วอีแล้วจึงสงบสติอารมณ์ลงได้“ที่แท้ก็เป็นท่านเจี๋ยง”“ข้าผิดไปที่เห็นท่านเป็นทหารโง่เขลา ขออภัย
“ยิ่งกว่านั้น พวกข้าก็เหมือนคนที่ทรยศ นำดินแดนของเผ่าตัวเองมาถวายท่าน หากกลับไปเผ่า คงไม่อาจอธิบายกับสมาชิกเผ่าได้!”“ท่านเป็นผู้ปกครอง ย่อมรู้ดีว่าหากสูญเสียใจของผู้คนไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?”ไท่สื่อลี่จ้องมองหวังหยวน ใบหน้าแสดงความกังวลว่าหวังหยวนจะโกรธอยู่เสมอหวังหยวนโบกมือด้วยรอยยิ้ม แล้วกล่าวว่า “จริงอย่างที่ท่านว่า แต่ข้าไม่ได้คิดจะปกครองเผ่า เพียงแต่ต้องการเป็นพันธมิตรกับพวกท่านเท่านั้น!”“ข้าจะคอยช่วยเหลือให้เผ่าของพวกท่านพัฒนาขึ้น ส่วนสิ่งที่ข้าต้องการก็ง่ายมาก คือหากข้าต้องการความช่วยเหลือ พวกท่านต้องช่วยเหลือข้าโดยไม่มีเงื่อนไข ตอนนี้ท่านคงเข้าใจแล้วกระมัง?”เป็นเช่นนี้เอง!ไท่สื่อลี่เข้าใจในทันที นี่ช่างเป็นข้อเสนอที่ดี!ตราบใดที่หวังหยวนไม่เข้ามายุ่งเรื่องภายใน แถมยังคอยช่วยเหลือ ใครบ้างจะไม่ยอมร่วมมือด้วย?“ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนี้ ข้าจะรับหน้าที่นี้เอง ประเดี๋ยวข้าจะไปปรึกษากับพวกพ้อง บอกความคิดของท่านให้พวกเขารู้ก่อนนะขอรับ!”“พวกเขาล้วนเป็นคนมีเหตุผล คงจะให้คำตอบที่ท่านพอใจ!”“จะไม่ทำให้ท่านหวังผิดหวังขอรับ!”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ด้วยความพึงพอใจ เพียงแค่