“ท่านเจี๋ยงกับท่านขุนพลต้องการให้องค์ชายน้อยขึ้นครองราชย์เพื่อที่จะควบคุมองค์ชายน้อย จากนั้นราชวงศ์ต้าเย่ก็จะตกอยู่ในกำมือของพวกเขา!”“แม้ว่าองค์ชายใหญ่จะเป็นฮ่องเต้ที่ดี หากขึ้นครองราชย์ย่อมจะนำความเจริญมาสู่ประชาชน แต่ตอนนี้เขามีอายุสิบกว่าปีแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง คงไม่ยอมถูกควบคุมง่าย ๆ”“ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาไปหาฝ่าบาทหลายครั้ง เพื่อขอให้ฝ่าบาทปลดองค์ชายใหญ่ และตั้งองค์ชายน้อยเป็นรัชทายาทแทน!”“โชคดีที่ฝ่าบาทประชวรหนัก จึงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงสมหวังไปแล้ว!”“สองคนนี้มีจิตใจทะเยอทะยาน ต้องระวังให้ดี!”คำพูดของไป๋ลั่วหลีทำให้หวังหยวนเข้าใจสถานการณ์ภายในราชวงศ์ต้าเย่ทันทีไม่ว่าบ้านใครก็มีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น!ราชวงศ์ต้าเย่เหมือนจะสงบสุข มีขุนพลมากมาย แต่เรื่องราวกลับซับซ้อนกว่าที่หวังหยวนคิดไว้!“แล้วเจ้าอยากให้ข้าช่วยเหลืออย่างไร?”หวังหยวนถามต่อภายในราชวงศ์ต้าเย่เต็มไปด้วยปัญหา ตอนนี้อาจเกิดการแย่งชิงบัลลังก์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นี่เป็นโอกาสที่จะซื้อใจคน!หากสามารถสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับราชวงศ์ต้าเย่ได้อีกครั้งในตอนนี้
เมื่อเรื่องราวกระจ่างแล้ว หวังหยวนและเกาเล่อก็ต่างสบายใจ ต่างกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตน ก่อนจะจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราคืนนี้คงหลับฝันดีได้แล้วรุ่งเช้า หวังหยวนบอกลาไท่สื่อลี่และคนอื่น ๆ“ท่านหวัง! พวกข้าจะกลับเผ่าไปรอฟังข่าวจากท่านนะขอรับ!”“หากเผ่าของพวกข้าพัฒนาขึ้น พวกข้าจะรักษาสัญญาด้วยการติดตามรับใช้ท่านตลอดไป!”ไท่สื่อลี่ประสานมือกล่าวด้วยความตื่นเต้นเมื่อนำข่าวนี้กลับไป คนในเผ่าย่อมเชื่อฟังพวกเขา นี่เป็นเรื่องดีต่อทุกคนในเผ่า!แม้จะเป็นเพียงเครื่องมือของผู้อื่นก็ต้องมีคุณค่า!หากไม่มีค่าพอที่จะให้ใครใช้ประโยชน์ นั่นคือโศกนาฏกรรมที่แท้จริง...“ดี!”“แต่ท่านต้องให้แผนที่ภูมิประเทศ บอกจำนวนคนและข้อมูลต่าง ๆ กับข้าด้วย”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ แล้วสั่งการไท่สื่อลี่และคนอื่น ๆ อดตกใจไม่ได้“เหตุใด?”“พวกท่านกลัวว่าข้าจะคิดร้ายต่อพวกท่านหรือขอรับ?”หวังหยวนหัวเราะ “หากข้าอยากฆ่าพวกท่านจริง คงไม่ต้องเสียเวลาหรอก แค่ขยับนิ้วก็สามารถนำทัพเข้ายึดเผ่าของพวกท่านได้แล้ว!”นี่คือความจริงไท่สื่อลี่และคนอื่น ๆ ต่างพยักหน้า“วางใจเถิด”“ข้าแค่ต้องการดูภูมิประเทศและจำนวนประชาก
“ส่วนเจ้า...”หวังหยวนสั่งการเสร็จจึงหันไปมองเกาเล่อ“เจ้าพาสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อแทรกซึมเข้าไป!”“หากข้ามีเหตุฉุกเฉินจะพยายามติดต่อเจ้า!”“จำไว้! อย่าอยู่ห่างจากข้ามากเกินไป เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะได้ช่วยเหลือกันได้!”หวังหยวนกำชับเพิ่มเติมเกาเล่อรีบรับคำ แล้วเดินออกไปหวังหยวนเปลี่ยนชุดเป็นชุดธรรมดา ทาใบหน้าให้เลอะเทอะ แล้วเดินไปข้างหลังไป๋ลั่วหลีก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูตอนนี้สิ ข้าดูเหมือนคนรับใช้ของเจ้าหรือไม่?”“นี่...”ไป๋ลั่วหลีอดส่ายหน้าไม่ได้นางมองหวังหยวนที่หน้าตาเหมือนแมวลายพร้อยมอมแมม แล้วกล่าวว่า “แม้แต่คนรับใช้ในจวนข้า ก็ไม่มีใครแต่งตัวสกปรกเลอะเทอะถึงเพียงนี้!”“ดูเหมือนจะตั้งใจเกินไปเจ้าค่ะ”หวังหยวนหัวเราะ ไม่ได้เอ่ยคำใด เขาจำเป็นต้องปลอมตัวหากซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีรู้ว่าเขายังอยู่ในเมืองหลวงคงจะสงสัย แล้วจะยิ่งยุ่งยากมากกว่าเดิม!ว่าแล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองเมื่อมาถึงหน้าประตูเมือง ก็เห็นทหารยามกำลังสอบถามเด็กหนุ่มคนหนึ่ง“เจ้าหนุ่ม หูหนวกเป็นใบ้หรือ?”“จะเข้าเมืองต้องบอกเหตุผลก่อน! ไม่เช่นนั้น ข้าไม่ให้เจ้าเข้าเมืองเด็ดขาด!”
ขณะที่หวังหยวนและไป๋ลั่วหลีกำลังตื่นตะลึงก็มีเสียงฝีเท้ารีบเร่งดังขึ้น จากนั้นจึงเห็นทหารวิ่งมาล้อมเด็กหนุ่มคนนั้นไว้!ทุกคนต่างชูหอกขึ้น!ดูน่าเกรงขาม!“เจ้าหนุ่ม!”“เจ้ากล้าทำร้ายทหารยาม! อยากตายหรืออย่างไร?”ทหารที่อยู่ข้างหน้าตะโกน “ยอมจำนนซะ แล้วตามพวกข้าไปติดคุกเสียโดยดี หากเจ้าสำนึกผิดอาจจะรอดชีวิต!”“แต่ถ้าเจ้ายังดื้อรั้น อย่าหาว่าพวกข้าโหดเหี้ยม!”“ข้าจะฆ่าเจ้าเสียเดี๋ยวนี้!”เด็กหนุ่มคนนั้นปัดฝุ่นบนมือ ท่าทางยังคงสงบนิ่งขณะหัวเราะเบา ๆ “พวกเจ้าอย่ามาขู่ข้า!”“ข้าแค่จะเข้าเมืองเพื่อไปซื้อยาให้ปู่เท่านั้น!”“แม้ว่าท่านปู่จะบอกให้ข้าอยู่ในโอวาท อย่าหาเรื่องใคร แต่ถ้าพวกเจ้ายังบีบบังคับ ข้าย่อมไม่ปรานีเช่นเดียวกัน!”เด็กหนุ่มบิดคอ ยืดเส้นยืดสายเมื่อทหารยามเห็นเขามีท่าทางแข็งกร้าวจึงพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วเด็กหนุ่มไม่ยอมแพ้ เข้าต่อสู้กับพวกเขาอย่างดุเดือด!ในชั่วพริบตา หลายร่างปลิวว่อน ทหารยามกระเด็นออกไป!แต่เด็กหนุ่มยังคงยืนหยัดอย่างองอาจ!ทหารแค่สิบกว่าคนไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้!“ข้าไม่อยากเสียเวลากับพวกเจ้า!”“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าตรวจสอบอะไร แต่ไม่ต้องห
ในโลกนี้ยังมีคนดีเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ?หวังหยวนยกยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “แม้ว่าข้าจะไม่มีหน้ามีตา เช่นนั้นเจ้านายของข้ามีหน้ามีตาพอหรือไม่?”เขาไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้ ประเดี๋ยวจะเกิดเรื่องวุ่นวาย!แต่เขามีคนหนุนหลังที่สามารถช่วยเหลือได้!ทันใดนั้น ไป๋ลั่วหลีก็เดินออกมาจากฝูงชนเพียงแค่เห็นไป๋ลั่วหลี ทุกคนย่อมจำนางได้จึงพากันถอยหลังกรูด หัวหน้าทหารรีบประสานมือค้อมตัว กล่าวด้วยความสุภาพ “ปรากฏว่าเป็นคุณหนูไป๋นี่เอง!”ชาวบ้านรอบข้างต่างทักทายไป๋ลั่วหลี!หวังหยวนคิดในใจ “ไม่คิดว่าไป๋ลั่วหลีจะมีชื่อเสียงในเมืองมากถึงเพียงนี้ ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”“ดูท่าว่าชื่อเสียงหญิงงามผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งของต้าเย่คงไม่เกินจริง!”ไป๋ลั่วหลีเดินมาข้างหน้า ชี้ไปที่เด็กหนุ่ม แล้วกล่าวว่า “เขาเป็นคนของข้า วันนี้ให้เกียรติข้าหน่อย เรื่องนี้จบแค่นี้ พวกท่านคงไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่?”เหล่าทหารยามส่ายหน้าพวกเขาจะกล้ามีปัญหาได้อย่างไร?ไป๋ลั่วหลีเป็นถึงคุณหนูใหญ่ผู้สูงส่ง มีอำนาจในราชสำนัก และเป็นคนโปรดของฝ่าบาท!หากพวกเขาทำให้ไป๋ลั่วหลีไม่พอใจก็เท่ากับหาเรื่องใส่ตัว!พวกเขาไม่ใช่คนโง่เขลา คงไม่ทำเรื่อ
หลังจากซื้อยาเสร็จ หวังหยวนและพวกพ้องก็ออกจากเมือง มุ่งหน้าสู่ป่าทันทีไม่นาน พวกเขาก็มาถึงกระท่อมมุงจากหลังหนึ่งกระท่อมดูทรุดโทรม แต่มีความสะอาดสะอ้าน ด้านนอกมีรั้วไม้ล้อมรอบ ข้าวของในบ้านจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ดูเหมือนว่าคนที่อาศัยอยู่ที่นี่จะเป็นคนรักความสะอาด“ที่นี่คือบ้านของเจ้าหรือ?”หวังหยวนมองไปที่เด็กหนุ่ม แล้วเอ่ยถามเด็กหนุ่มพยักหน้า ก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วขอรับ ที่นี่คือบ้านของข้ากับท่านปู่”“แม้ว่าบ้านจะเล็ก แต่ก็มีครบทุกอย่าง!”“ข้างในกว้างขวางมาก!”หืม?หวังหยวนเลิกคิ้วพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก มองไป๋ลั่วหลีและหลิ่วหรูเยียน แล้วเดินเข้าไปในกระท่อมเขาอยากรู้ว่ากระท่อมหลังเล็กหลังนี้มีอะไรพิเศษ?ในพริบตา พวกเขาก็เข้ามาในกระท่อม เมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ จึงพบว่าห้องสะอาดสะอ้าน มีเครื่องใช้ครบครัน!บนผนังทั้งสองด้านมีหนังสัตว์แขวนอยู่!“นี่เป็นหนังสัตว์ที่เจ้ากับปู่ล่ามาทั้งหมดหรือ?”หวังหยวนนึกถึงคำพูดของเด็กหนุ่มตอนอยู่ในเมืองเด็กหนุ่มมักจะออกไปล่าสัตว์กับปู่ หมีดำในสายตาของเขาก็เป็นแค่สัตว์ธรรมดา!สามารถฆ่าหมีและเสือได้อย่างง่ายดาย!ตอนแรกคิดว่าเขาพู
เมื่อเห็นชายชราล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา จะให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีได้อย่างไร?น่าเสียดาย...เขาทำอะไรได้น้อยมาก ไม่สามารถช่วยให้ชายชราหายป่วยได้แต่เขาก็ไม่สามารถทนดูผู้มีพระคุณตายไปต่อหน้าต่อตาได้!“เห็ดหลินจือพันปีหรือ?”“ของล้ำค่าเช่นนั้น เจ้าได้มาอย่างไร?”“เจ้าขโมยมาหรือ?”สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป น้ำเสียงแข็งกระด้างขณะขมวดคิ้วกล่าว “ปู่สอนเจ้าเสมอว่าคนเราจนได้ แต่อย่าไร้ศักดิ์ศรี!”“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องไม่ขโมยหรือปล้น! ลูกผู้ชายต้องยืนหยัดในแผ่นดิน หากต้องการมีที่ยืนในโลกต้องรักษาคุณธรรม!”ช่างเป็นยอดคนอย่างแท้จริง!หวังหยวนที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินคำพูดของชายชรา แล้วพยักหน้าเห็นด้วยแม้ว่าทุกคนจะเข้าใจหลักการนี้ แต่การรักษาคุณธรรมไว้ให้ได้นั้นยากยิ่ง!เด็กหนุ่มได้รับการสั่งสอนจากชายชรามาตั้งแต่เด็กจึงดูไร้เดียงสา!คงได้รับอิทธิพลมาจากชายชรา“ท่านปู่! ท่านเข้าใจผิดแล้วขอรับ!”“ข้าไม่ได้ขโมยเห็ดหลินจือพันปีมา แต่พี่ชายกับพี่สาวที่อยู่นอกประตูเป็นคนซื้อให้ต่างหาก!”“พวกเขามอบเห็ดหลินจือพันปีให้ข้า! ข้าจะจดจำบุญคุณนี้ไว้ วันข้างหน้าจะตอบแทนพวกเขาแน่นอน
“ท่านโปรดอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ขอบคุณท่าน เพียงแต่อยากพูดคุยเรื่องของจวิ้นเอ๋อร์!”ชายชรารีบกล่าวหวังหยวนไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงแต่รอฟังครู่ต่อมา ชายชราก็กล่าว “ข้าชื่อไฉปิ่งอี้ อายุห้าสิบกว่าปี แต่เมื่อหลายปีก่อน ข้าได้สร้างความแค้นให้ศัตรูไว้จึงถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ทำให้ต้องหลบหนีมาอยู่ที่นี่!”“แม้ว่าข้าจะอายุเพียงห้าสิบกว่าปี แต่เนื่องจากบาดแผลยังไม่หายดี แถมยังทรุดหนักขึ้น ทำให้รูปร่างหน้าตาของข้าเปลี่ยนไปจนดูแก่ชรา...”หวังหยวนพยักหน้า ชายชราผู้นี้ช่างน่าสงสารตอนแรกเขาคิดว่าชายชรามีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะอาการบาดเจ็บภายใน!น่าเศร้าใจยิ่งนัก!“ท่าน ข้าตายก็ไม่สำคัญ เพราะเป็นการตายที่สมควรแล้ว!”“หากตอนหนุ่ม ๆ ข้าไม่ทะเยอทะยานเกินไป แล้วจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร?”“แต่จวิ้นเอ๋อร์เป็นเด็กดี ข้ากลัวว่าหลังจากข้าตาย เขาจะรักษาคุณธรรมไว้ไม่ได้ กลัวว่าจิตใจจะเปลี่ยนแปลง แล้วค่อย ๆ หลงผิดไป”“เขาอายุแค่สิบห้าปี ยังเป็นแค่เด็ก...”“ข้าหวังว่าหลังจากข้าตาย ท่านจะพาเขาไปด้วย ข้าเห็นว่าท่านไม่ใช่คนธรรมดา หากจวิ้นเอ๋อร์ได้ติดตามท่านคงสร้างผลงานได้ ไม
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห