แชร์

บทที่ 2103

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
“ท่านโปรดอย่าเข้าใจผิด ข้าไม่ได้ขอบคุณท่าน เพียงแต่อยากพูดคุยเรื่องของจวิ้นเอ๋อร์!”

ชายชรารีบกล่าว

หวังหยวนไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงแต่รอฟัง

ครู่ต่อมา ชายชราก็กล่าว “ข้าชื่อไฉปิ่งอี้ อายุห้าสิบกว่าปี แต่เมื่อหลายปีก่อน ข้าได้สร้างความแค้นให้ศัตรูไว้จึงถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ทำให้ต้องหลบหนีมาอยู่ที่นี่!”

“แม้ว่าข้าจะอายุเพียงห้าสิบกว่าปี แต่เนื่องจากบาดแผลยังไม่หายดี แถมยังทรุดหนักขึ้น ทำให้รูปร่างหน้าตาของข้าเปลี่ยนไปจนดูแก่ชรา...”

หวังหยวนพยักหน้า ชายชราผู้นี้ช่างน่าสงสาร

ตอนแรกเขาคิดว่าชายชรามีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นเพราะอาการบาดเจ็บภายใน!

น่าเศร้าใจยิ่งนัก!

“ท่าน ข้าตายก็ไม่สำคัญ เพราะเป็นการตายที่สมควรแล้ว!”

“หากตอนหนุ่ม ๆ ข้าไม่ทะเยอทะยานเกินไป แล้วจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร?”

“แต่จวิ้นเอ๋อร์เป็นเด็กดี ข้ากลัวว่าหลังจากข้าตาย เขาจะรักษาคุณธรรมไว้ไม่ได้ กลัวว่าจิตใจจะเปลี่ยนแปลง แล้วค่อย ๆ หลงผิดไป”

“เขาอายุแค่สิบห้าปี ยังเป็นแค่เด็ก...”

“ข้าหวังว่าหลังจากข้าตาย ท่านจะพาเขาไปด้วย ข้าเห็นว่าท่านไม่ใช่คนธรรมดา หากจวิ้นเอ๋อร์ได้ติดตามท่านคงสร้างผลงานได้ ไม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2104

    แม้ว่าหนทางข้างหน้าจะสดใส!ยิ่งกว่านั้น ไฉจวิ้นยังเป็นคนรักษาคำพูด!ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะยอมเสียเงินซื้อเห็ดหลินจือพันปีให้เขาได้อย่างไร?ไฉปิ่งอี้กุมอกหัวเราะ อาจเป็นเพราะเสียงหัวเราะทำให้แผลกำเริบ เขาจึงไออย่างรุนแรงหวังหยวนรีบเข้าไปลูบหลังให้จนไฉปิ่งอี้รู้สึกดีขึ้นครู่ต่อมา ไฉปิ่งอี้ก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นอะไร ข้าอยู่มานานพอแล้ว แม้ว่าข้าจะดูเหมือนคนป่วย แต่ความทุกข์ทรมานของข้าหนักมากกว่าที่ท่านคิด...”“เนื่องจากบาดแผลยังไม่หายดี หลายปีมานี้ ข้าต้องทนทุกข์ทรมาน ทุกครั้งที่อาการกำเริบ ข้าเจ็บปวดมาก แค่ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติก็ยังไม่ได้ แม้แต่การนอนหลับยังนับว่าเป็นเรื่องยาก...”“เพราะฉะนั้น ข้าอยู่มานานเกินพอแล้ว!”“ที่ข้ายังไม่ฆ่าตัวตายก็เพราะเป็นห่วงไฉจวิ้น!”“ตอนนี้ได้พบกับท่านแล้ว ข้าก็หมดห่วง คืนนี้ข้าจะบอกความจริงกับไฉจวิ้น...”นี่...หวังหยวนเป็นคนฉลาด จะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อได้อย่างไร?ทันใดนั้น หวังหยวนก็เบิกตากว้าง รีบคว้าแขนไฉปิ่งอี้ไว้แล้วกล่าว “ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น!”“หากท่านเชื่อใจข้า ก็ไปกับพวกเราเถิด ข้าจะจัดหาที่อยู่ให้ท่าน!”“ข้ามีคนเก่งกาจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2105

    “อืม!”ไฉปิ่งอี้ตอบรับด้วยรอยยิ้ม แล้วดื่มยาจนหมดน่าเสียดาย เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาป่วยหนัก แม้เห็ดหลินจือพันปีจะเป็นยาชั้นดีก็คงช่วยอะไรไม่ได้...ผลลัพธ์ย่อมเดาได้อยู่แล้ว“เช่นนั้นพวกข้าขอตัวก่อน”หวังหยวนเห็นไฉปิ่งอี้นอนลงบนเตียงจึงบอกลา แล้วพาหญิงสาวทั้งสองกลับเมืองหลวงไฉจวิ้นส่งพวกเขาออกจากบ้าน แล้วกลับเข้าไปดูแลปู่ระหว่างทาง ไป๋ลั่วหลีมองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัย “ท่านหวังมาที่นี่ก็เพื่อรับเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นศิษย์ไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ถือว่าเป็นกำลังเสริมให้ท่านได้”“เด็กหนุ่มคนนั้นมีพละกำลังมาก หากเข้าร่วมกองทัพก็จะเป็นกำลังสำคัญ”“แต่โอกาสอยู่ตรงหน้า เหตุใดท่านจึงเลือกที่จะจากไป?”หลิ่วหรูเยียนก็สงสัยเช่นกันหวังหยวนลังเลครู่หนึ่ง แล้วส่ายหน้ากล่าว “บอกตามตรง ข้าตกลงกับไฉปิ่งอี้แล้ว คาดว่าคืนนี้ไฉปิ่งอี้คงจะปลิดชีพตัวเอง...”“เขาจะจัดการทุกอย่าง พรุ่งนี้เช้า ข้าแค่มารับไฉจวิ้นก็พอ”“ต่อไปไฉจวิ้นจะเป็นเหมือนน้องชายแท้ ๆ ของข้า”หลิ่วหรูเยียนและไป๋ลั่วหลีเข้าใจทันทีที่แท้เป็นเช่นนี้!ไม่แปลกใจเลยที่หลังจากหวังหยวนคุยกับไฉปิ่งอี้ สีหน้าของหวังหยวนกลับดูเศร้าหมอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2106

    ไป๋ลั่วหลีกำชับ แล้วเดินออกจากห้องเพื่อมุ่งหน้าไปยังวังหลวงในห้อง หวังหยวนและหลิ่วหรูเยียนนั่งอยู่ที่โต๊ะหวังหยวนส่ายหน้ากล่าว “ไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นเช่นนี้”“ไม่นานมานี้ ข้าเพิ่งพบกับไป๋เหยียนเฟย แต่ผ่านไปไม่นาน นางก็ใกล้จะจากโลกนี้ไปแล้ว...”“ชีวิตคนเรามีทั้งสุขและทุกข์ เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา...”หลิ่วหรูเยียนไม่ได้เอ่ยคำใดน่าเสียดาย ไป๋เหยียนเฟยเพิ่งขึ้นครองราชย์ได้ไม่ถึงห้าปี จักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่ก็ต้องจากไปแล้ว...น่าเศร้าใจยิ่งนัก!“หลายวันมานี้ เจ้าติดตามข้าไปทุกที่ คงจะเหนื่อยมากแล้วใช่หรือไม่?”“ตอนนี้ว่างแล้ว พวกเราก็มาพักผ่อนกันเถิด”“ตอนนี้พวกเราทำได้เพียงรอคอยอย่างอดทน รอดูสถานการณ์...”ไป๋เหยียนเฟยยังไม่สิ้นพระชนม์ พวกเขาจึงไม่อาจผลีผลามได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ราชวงศ์ต้าเย่เกลียดชังแต่ก็ไม่อาจจากไปได้ เพราะประเดี๋ยวสถานการณ์จะควบคุมไม่ได้!ช่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก!โชคดีที่หวังหยวนสังเกตเห็นว่าไป๋เหยียนเฟยคงอยู่ได้อีกไม่นาน คงไม่เกินวันสองวันนี้...เมื่อถึงตอนนั้น ราชวงศ์ต้าเย่คงจะเปลี่ยนแปลงเขาจะพลิกสถานการณ์ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสามารถของเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2107

    “ท่านขุนพล! ท่านให้พวกเขามาขวางข้าไว้เช่นนี้ หมายความว่าอย่างไร?”ไป๋ลั่วหลีเดินไปหาซือฟาง พลางขมวดคิ้วกล่าว ไม่ได้ให้ความเคารพซือฟางแม้แต่น้อย!หากเทียบกันแล้ว ฐานะของนางย่อมสูงกว่าซือฟาง!ปกตินางอยู่เคียงข้างฝ่าบาท แค่นางเอ่ยปากก็สามารถควบคุมขุนพลใหญ่ซือฟางได้แล้ว!แต่ไม่คิดว่า...วันนี้ซือฟางกลับกล้าพูดกับนางเช่นนี้เลยหรือ?ช่างน่าเจ็บใจ!“แม่นางไป๋ ท่านอย่าโทษข้าเลย นี่เป็นคำสั่งของไท่จื่อ!”“ฝ่าบาททรงหมดสติ พักผ่อนอยู่ในตำหนัก แต่ก่อนหน้านั้น พระองค์ได้มอบราชกิจสำคัญให้ไท่จื่อแล้ว”“ไท่จื่อเพิ่งจะขึ้นครองตำแหน่ง ย่อมต้องระมัดระวัง วังหลวงจึงเป็นเขตหวงห้าม หากไม่มีข้านำทาง ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้า!”ซือฟางกล่าวอย่างชอบธรรม“ไท่จื่อหรือ?”“ฝ่าบาทแต่งตั้งไท่จื่อตั้งแต่เมื่อไหร่?”ไป๋ลั่วหลีสงสัย ตอนที่หวังหยวนมาที่ราชวงศ์ต้าเย่ แม้ว่าไป๋เหยียนเฟยจะป่วยหนักและอ่อนแอ แต่ก็ยังถามถึงเรื่องไท่จื่อเรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนนางไม่ได้ยินข่าวใด ๆ เลย แล้วเหตุใดถึงมีไท่จื่อองค์ใหม่แล้ว?“ใครเป็นไท่จื่อ!”ทันใดนั้น ไป๋ลั่วหลีก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงรีบถาม“ไท่จื่อองค์ปัจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2108

    เหล่าทหารองครักษ์ต่างเข้าใจ พากันชักดาบเล็งไปที่ไป๋ลั่วหลีเห็นได้ชัดว่าหากไป๋ลั่วหลีบุกเข้าไปในวังหลวง ก็จะถูกฆ่าอย่างไร้ความปรานี!ไป๋ลั่วหลีลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือ เพียงแค่ถามว่า “แล้วองค์ชายใหญ่อยู่ที่ใด?”“ในเมื่อข้าเข้าเฝ้าฝ่าบาทไม่ได้ อย่างน้อยก็ขอเข้าเฝ้าองค์ชายใหญ่ได้หรือไม่?”องค์ชายใหญ่ไป๋อวิ๋นเฟยเป็นคนอ่อนโยนและสง่างาม หากเขาขึ้นครองราชย์ ราชวงศ์ต้าเย่จึงจะสงบสุข!มีเพียงไป๋อวิ๋นเฟยเท่านั้นที่สามารถควบคุมซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอี เพื่อไม่ให้พวกเขาใช้อำนาจโดยไม่ชอบ!“องค์ชายใหญ่อยู่ที่ตำหนัก ท่านไปพบเมื่อไหร่ก็ได้!”“ส่วนวังหลวง...”“ท่านเข้าไม่ได้!”ซือฟางเตือนอีกครั้งไป๋ลั่วหลีไม่ได้อยู่ต่อให้ตนเองต้องเดือดร้อน นางต้องเปลี่ยนแผน!ในพริบตาเดียว นางก็ออกจากวังหลวงไปซือฟางมองตามแผ่นหลังนางไปด้วยความเย้ยหยัน แล้วเดินจากไปไม่นานเจี๋ยงโฉ่วอีเดินออกมาจากที่ซ่อนไปหาซือฟาง“ฆ่าผู้หญิงคนนั้นเลยดีหรือไม่?”“แม้ว่านางจะเป็นหญิงงามผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้าเย่ และมีพรสวรรค์จริง แต่ดูจากท่าทางแล้ว นางจงรักภักดีต่อไป๋อวิ๋นเฟย วันข้างหน้าคงเป็นศัตรูก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2109

    “ก๊อก ก๊อก ก๊อก...”เสียงเคาะประตูดังขึ้น ปลุกให้หวังหยวนและหลิ่วหรูเยียนตื่นจากฝัน“ใคร?”หวังหยวนคว้าปืนคาบศิลาที่ซ่อนไว้ใต้หมอน มองไปที่ประตูอย่างระมัดระวัง แล้วเอ่ยถามเสียงเย็น“ข้าเองเจ้าค่ะ!”เสียงของไป๋ลั่วหลีดังมาจากข้างนอก“คุณหนูไป๋เองหรือ”หวังหยวนเก็บปืน ก่อนจะสวมเสื้อผ้าเดินไปเปิดประตู สายตามองไป๋ลั่วหลีใต้แสงจันทร์ เห็นได้ชัดว่าไป๋ลั่วหลีดูเหนื่อยล้า มีเหงื่อเกาะบนหน้าผาก“ดึกดื่นป่านนี้ไม่ยอมพักผ่อน มาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ?”“หรือว่า...”“ฝ่าบาท...”หวังหยวนเลียริมฝีปากแห้งผาก สีหน้าเคร่งขรึมขึ้น“ท่านหวังอย่ากังวล ฝ่าบาทยังปลอดภัยดี เพียงแต่สถานการณ์ในเมืองหลวงดูเหมือนจะเปลี่ยนไป”ไป๋ลั่วหลีเข้ามาในห้อง ดื่มชาสองถ้วย แล้วกล่าวต่อ “ตอนที่พวกเราไปปราบกบฏ ไม่คิดว่าซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีจะใช้วิธีใดไม่ทราบ ทำให้ไป๋หมิงได้เป็นไท่จื่อ!”“ตอนนี้องค์ชายใหญ่ถูกลดอำนาจ ราชกิจสำคัญต่าง ๆ ตกอยู่ในมือของซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอี ไป๋หมิงอายุแค่สิบกว่าปี ตอนนี้เปรียบเสมือนฮ่องเต้หุ่นเชิด...”“หากฝ่าบาทสิ้นพระชนม์ ไป๋หมิงก็จะขึ้นครองราชย์ เมื่อถึงตอนนั้น ซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2110

    “ในเมื่อคุณหนูเอ่ยปากแล้วก็เชิญนำทางเถิด”หวังหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มไป๋ลั่วหลีรู้สึกเขินอายเล็กน้อย ที่บอกว่าพักผ่อนทำกิจกรรมในห้องทั้งวันหมายความว่าอย่างไร?หรือว่า...นางไม่กล้าคิดต่อเพราะนางยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้...ส่วนหลิ่วหรูเยียนถึงกับหน้าแดงก่ำ แอบด่าหวังหยวนอยู่ในใจ “พูดโดยไม่คิด ช่างน่าอายจริง ๆ!”แม้ว่านางกับเขาจะทำเรื่องลับ ๆ ในห้องจริง แต่ก็ไม่ควรพูดออกมาเช่นนี้ไม่ใช่หรือ?ไม่รักษาหน้าตาของนางบ้างหรือไร?“อะแฮ่ม”ไป๋ลั่วหลีกระแอมสองครั้ง แล้วตั้งสติกล่าว “เช่นนั้นพวกเราไปกันเถิดเจ้าค่ะ”ใต้แสงจันทร์ เงาร่างสามร่างเดินไปตามถนน ไม่นานก็มาถึงตำหนักหลังหนึ่ง“ที่นี่คือ...”หวังหยวนมองตำหนักที่อยู่ตรงหน้า แล้วเอ่ยถาม“ที่นี่คือตำหนักขององค์ชายใหญ่ไป๋อวิ๋นเฟย ตอนกลางวันข้าออกจากวังหลวงมาพบกับองค์ชายใหญ่ที่นี่”“องค์ชายใหญ่เป็นห่วงบ้านเมือง เมื่อรู้ว่าท่านยังอยู่ในเมืองหลวงจึงอยากให้ข้าพาท่านมาพบ”“หวังว่าท่านจะช่วยเหลือองค์ชายใหญ่กอบกู้ราชวงศ์ต้าเย่ คืนความสงบสุขให้บ้านเมืองอีกครั้ง!”ไป๋ลั่วหลีประสานมือกล่าวที่แท้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2111

    “ในเมื่อท่านหวังกล่าวเช่นนั้น ท่านมีแผนการอะไรหรือไม่?”“พวกเราต้องลงมือเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต!”ไป๋อวิ๋นเฟยรินน้ำชาให้หวังหยวน แล้วถามสถานการณ์บีบคั้น หากพลาดพลั้ง เขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายถึงขั้นเสียราชบัลลังก์!แผ่นดินที่เสด็จแม่สร้างขึ้นจะตกไปอยู่ในมือคนอื่นไม่ได้!หากเรื่องนี้แพร่ออกไป คงจะถูกคนทั่วหล้าหัวเราะเยาะไม่ใช่หรือ?หวังหยวนหรี่ตาลง กล่าวด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถิด ข้ามีแผนการแล้ว ตอนนี้ฝ่าบาทยังมีพระชนม์ชีพอยู่ แม้จะประชวรหนัก แต่ก็ยังอยู่ในวังหลวง!”“แม้ว่าซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีจะกล้า แต่ก็คงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม กองทัพทั่วหล้ายังไม่ได้อยู่ในมือพวกเขา พวกเขาจะอวดดีเกินไปได้อย่างไร?”“ตอนนี้พวกเราแค่รอคอย รอจังหวะที่เหมาะสม”“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฝ่าบาท...”ความหมายของหวังหยวนชัดเจน ตอนนี้ไม่ใช่แค่ซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีที่ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่พวกเขาก็เช่นกันทำได้เพียงรอคอยให้ไป๋เหยียนเฟยสิ้นพระชนม์ แผ่นดินจึงจะเปลี่ยนมือ!แต่ก่อนหน้านั้น ใครก็ไม่อาจผลีผลามได้ ไม่เช่นนั้นย่อมเกิดหายนะ!หากแก้ปัญหาไม่ได้จะยิ่งยุ่งยาก!“ตกลง! เช่นนั้นข้าจะทำตามที่ท่านว่า!”ไป๋อวิ๋น

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status