ในโลกนี้ยังมีคนดีเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ?หวังหยวนยกยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “แม้ว่าข้าจะไม่มีหน้ามีตา เช่นนั้นเจ้านายของข้ามีหน้ามีตาพอหรือไม่?”เขาไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้ ประเดี๋ยวจะเกิดเรื่องวุ่นวาย!แต่เขามีคนหนุนหลังที่สามารถช่วยเหลือได้!ทันใดนั้น ไป๋ลั่วหลีก็เดินออกมาจากฝูงชนเพียงแค่เห็นไป๋ลั่วหลี ทุกคนย่อมจำนางได้จึงพากันถอยหลังกรูด หัวหน้าทหารรีบประสานมือค้อมตัว กล่าวด้วยความสุภาพ “ปรากฏว่าเป็นคุณหนูไป๋นี่เอง!”ชาวบ้านรอบข้างต่างทักทายไป๋ลั่วหลี!หวังหยวนคิดในใจ “ไม่คิดว่าไป๋ลั่วหลีจะมีชื่อเสียงในเมืองมากถึงเพียงนี้ ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”“ดูท่าว่าชื่อเสียงหญิงงามผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งของต้าเย่คงไม่เกินจริง!”ไป๋ลั่วหลีเดินมาข้างหน้า ชี้ไปที่เด็กหนุ่ม แล้วกล่าวว่า “เขาเป็นคนของข้า วันนี้ให้เกียรติข้าหน่อย เรื่องนี้จบแค่นี้ พวกท่านคงไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่?”เหล่าทหารยามส่ายหน้าพวกเขาจะกล้ามีปัญหาได้อย่างไร?ไป๋ลั่วหลีเป็นถึงคุณหนูใหญ่ผู้สูงส่ง มีอำนาจในราชสำนัก และเป็นคนโปรดของฝ่าบาท!หากพวกเขาทำให้ไป๋ลั่วหลีไม่พอใจก็เท่ากับหาเรื่องใส่ตัว!พวกเขาไม่ใช่คนโง่เขลา คงไม่ทำเรื่อ
หลังจากซื้อยาเสร็จ หวังหยวนและพวกพ้องก็ออกจากเมือง มุ่งหน้าสู่ป่าทันทีไม่นาน พวกเขาก็มาถึงกระท่อมมุงจากหลังหนึ่งกระท่อมดูทรุดโทรม แต่มีความสะอาดสะอ้าน ด้านนอกมีรั้วไม้ล้อมรอบ ข้าวของในบ้านจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ดูเหมือนว่าคนที่อาศัยอยู่ที่นี่จะเป็นคนรักความสะอาด“ที่นี่คือบ้านของเจ้าหรือ?”หวังหยวนมองไปที่เด็กหนุ่ม แล้วเอ่ยถามเด็กหนุ่มพยักหน้า ก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วขอรับ ที่นี่คือบ้านของข้ากับท่านปู่”“แม้ว่าบ้านจะเล็ก แต่ก็มีครบทุกอย่าง!”“ข้างในกว้างขวางมาก!”หืม?หวังหยวนเลิกคิ้วพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก มองไป๋ลั่วหลีและหลิ่วหรูเยียน แล้วเดินเข้าไปในกระท่อมเขาอยากรู้ว่ากระท่อมหลังเล็กหลังนี้มีอะไรพิเศษ?ในพริบตา พวกเขาก็เข้ามาในกระท่อม เมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ จึงพบว่าห้องสะอาดสะอ้าน มีเครื่องใช้ครบครัน!บนผนังทั้งสองด้านมีหนังสัตว์แขวนอยู่!“นี่เป็นหนังสัตว์ที่เจ้ากับปู่ล่ามาทั้งหมดหรือ?”หวังหยวนนึกถึงคำพูดของเด็กหนุ่มตอนอยู่ในเมืองเด็กหนุ่มมักจะออกไปล่าสัตว์กับปู่ หมีดำในสายตาของเขาก็เป็นแค่สัตว์ธรรมดา!สามารถฆ่าหมีและเสือได้อย่างง่ายดาย!ตอนแรกคิดว่าเขาพู
เมื่อเห็นชายชราล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา จะให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีได้อย่างไร?น่าเสียดาย...เขาทำอะไรได้น้อยมาก ไม่สามารถช่วยให้ชายชราหายป่วยได้แต่เขาก็ไม่สามารถทนดูผู้มีพระคุณตายไปต่อหน้าต่อตาได้!“เห็ดหลินจือพันปีหรือ?”“ของล้ำค่าเช่นนั้น เจ้าได้มาอย่างไร?”“เจ้าขโมยมาหรือ?”สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป น้ำเสียงแข็งกระด้างขณะขมวดคิ้วกล่าว “ปู่สอนเจ้าเสมอว่าคนเราจนได้ แต่อย่าไร้ศักดิ์ศรี!”“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องไม่ขโมยหรือปล้น! ลูกผู้ชายต้องยืนหยัดในแผ่นดิน หากต้องการมีที่ยืนในโลกต้องรักษาคุณธรรม!”ช่างเป็นยอดคนอย่างแท้จริง!หวังหยวนที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินคำพูดของชายชรา แล้วพยักหน้าเห็นด้วยแม้ว่าทุกคนจะเข้าใจหลักการนี้ แต่การรักษาคุณธรรมไว้ให้ได้นั้นยากยิ่ง!เด็กหนุ่มได้รับการสั่งสอนจากชายชรามาตั้งแต่เด็กจึงดูไร้เดียงสา!คงได้รับอิทธิพลมาจากชายชรา“ท่านปู่! ท่านเข้าใจผิดแล้วขอรับ!”“ข้าไม่ได้ขโมยเห็ดหลินจือพันปีมา แต่พี่ชายกับพี่สาวที่อยู่นอกประตูเป็นคนซื้อให้ต่างหาก!”“พวกเขามอบเห็ดหลินจือพันปีให้ข้า! ข้าจะจดจำบุญคุณนี้ไว้ วันข้างหน้าจะตอบแทนพวกเขาแน่นอน
“ไม่อร่อยเลยสักนิด”เมื่อได้เคี้ยวข้าวสาลีผสมถั่ว หวังหยวนวางชามดินเผาลง รู้สึกเหมือนกินแกลบไม่มีผิด ตอนนี้ใครมาบอกว่าการข้ามกาลเวลามันดี เขาก็พร้อมที่จะบอกความในใจให้พวกเขา ข้ามกาลเวลามาถึงช่วงราชวงศ์ต้าเย่ คล้ายช่วงยุคสมัยโบราณของจีน เจ้าของร่างเดิมเป็นเป็นเจ้าของที่ดินเล็ก ๆ ตอนที่พ่อแม่ยังอยู่ ตอนเช้าได้กินข้าวต้มข้าวฟ่าง เที่ยงได้กินข้าวผสมข้าวฟ่าง ตอนเย็นได้กินเซาปิ่งพร้อมธัญพืชผสม ทุก ๆ สิบวันหลังจากกลับมาจากโรงเรียนในเมือง ถึงจะได้กลับมากินให้หายอยากได้สำหรับคนทั่วไป แต่ละวันกินข้าวต้มข้าวฟ่าง หรือข้าวสาลีผสมถั่ว ส่วนเนื้อนั้นในช่วงปกติอย่าไปคิดถึงมันเลย คงมีแค่ช่วงฉลองตรุษจีนเท่านั้นถึงจะได้กินเนื้อบ้าง ส่วนแป้งและข้าวสารนั้นเป็นที่นิยมของเจ้าของที่ดิน คหบดีและขุนนาง นึกถึงพวกไข่ เนื้อหมู ไก่ ปลา บนโลกที่ถูกทิ้ง หวังหยวนอดที่จะตีตัวเองไม่ได้ น้ำเสียงที่ฟังดูขลาดกลัวของคน ๆ หนึ่งดังขึ้น “ท่านพี่ ขอโทษนะ ในบ้านไม่มีข้าวฟ่างแล้ว ให้ท่านที่เป็นบัณฑิตเพิ่งหายป่วยกินข้าวสาลีผสมถั่วเช่นนี้?” แววตาของหวังหยวนมีประกายขึ้นมา สาวน้อยคนสวยที่ท่าทางขี้ขลาดยืนอยู่หน้าห้องโ
หวังหยวนเลิกคิ้ว "ถ้าข้าทำได้ล่ะ?" หลิวโย่วไฉเผยสีหน้าเจ้าเล่ห์ "ถ้าเจ้าทำได้ ข้าจะไม่คิดดอกเบี้ย! แต่ถ้าทำไม่ได้ เจ้าจะต้องขายตัวเองเป็นคนรับใช้นายของข้า ว่าอย่างไรบ้าง?" หลี่ซื่อหานหน้าถอดสี “ท่านพี่ อย่ารับปากนะ!” เจ้าของที่ใจดำคนนี้ต้องการให้เขาขายตัวเองเป็นทาส หวังหยวนโกรธมาก แต่เขาเดินไปเขียนสัญญาสองฉบับและหยิบแผ่นหมึกสีแดงออกมา "เขียนชื่อและประทับนิ้วซะ!" “ได้!” หลังจากเขียนชื่อด้วยลายมือน่าเกลียด และประทับลายนิ้วมือสีแดงแล้ว หลิวโย่วไฉก็เดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ คนเสเพลเช่นนี้ เขาไม่มีหาเงินสี่สิบกว้านได้ภายในสามวันอย่างแน่นอน แม้ว่าครอบครัวของสาวน้อยจะร่ำรวย แต่พวกเขาก็อยากให้นางทิ้งคนเสเพลพรรค์นี้อยู่เสมอ ดังนั้นการยืมเงินคงจะเป็นไปไม่ได้แน่ การเดิมพันครั้งนี้ จะได้ทาสมาฟรี ๆ และสามารถขายได้ต่อในราคาหลายสิบกว้านด้วย! เข้าใกล้เป้าหมายที่ตระกูลหลิวจะครอบครองที่ดินพันหมู่ไปอีกหนึ่งเก้า 'สามีภรรยา' ยืนอยู่ตรงข้ามกันในลานบ้าน “ซื่อหาน” หวังหยวนอยากจะปลอบนาง หลี่ซื่อหานเช็ดน้ำตา และรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอน หวังหยวนเข้าใจว่านี่เป็นทำร้าย
งานที่เหลือใช้แรงออกน้อยกว่ามาก แค่ล้างรากหญ้าแล้วบดในครกหิน หลังจากทำงานยุ่งมานาน หวังหยวนรู้สึกเหนื่อยมากจนปวดหลังไปหมด เขาจึงเอารากหญ้าที่ตำใส่ถังน้ำ จึงค่อย ๆ เดินทอดน่องไปที่ริมแม่น้ำ หวังหยวนเห็นพวกปลาแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำ เขาจึงโรยแป้งหมี่ถั่วเหลืองและน้ำลงไป ด้วยเหยื่อที่วางลงไป จำนวนปลาที่รุมเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ หวังหยวนค่อย ๆ เทของเหลวที่ได้จากการตำรากหญ้าลงไปอย่างระมัดระวัง เมื่อน้ำที่ได้จากการตำรากหญ้านั้นกระจายตัว ปลาที่ค่อย ๆ ลอยหงายท้องขึ้นมาจากน้ำ หนึ่งตัว! สองตัว! ... หลังจากนั้นสักพัก หวังหยวนก็จับปลาตัวใหญ่ได้แปดตัว และตัวเล็กอีกสิบห้าตัว ปลาตัวใหญ่หนักประมาณสองกิโลครึ่ง ตัวเล็กหนักประมาณสองร้อยห้าสิบกรัม ปลาที่เล็กกว่านี้ก็ปล่อยมันไป เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หวังหยวนก็กลับบ้านด้วยของที่เต็มตะกร้า ผ่านกระท่อมมุงหลังคาจากสี่หลัง คอกวัวและลานเล็ก ๆ ที่ล้อมรั้วทางด้านตะวันออกของหมู่บ้าน “ลุงหานซาน!” หวังหยวนตะโกนเรียกเขา เด็กน้อยน่ารักที่เหมือนตุ๊กตาตัวน้อยสวมเสื้อคลุมยัดนุ่นวิ่งออกมาจากเรือน ไปมองดูหวังหยวนในชุดคลุมตัวอย่างสงสัยและเขินอาย "หวั
ในโลกนี้มีการตกปลา ตกเบ็ด จับปลา แต่ยังไม่มีใครวางยาปลา หวังหยวนยิ้มและพูดว่า "ข้าค้นพบเคล็ดลับการตกปลาและก็จับปลากลับมาได้ตั้งเยอะ รีบกินเร็วเข้า ระวังถูกก้างทิ่มเอาล่ะ!" “เคล็ดลับการตกปลา!” หลี่ซื่อหานที่สงสัยอยู่แล้วนั้น ยิ่งเจอความเป็นห่วงเอาใจใส่ของหวังหยวน ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับกวางที่ตกใจอีกครั้ง ทั้งสองคนก็กินปลาต่อไป ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างเดิมไม่ค่อยได้กินปลาหรือเปล่า หรือเป็นเพราะปลาสดใหม่ หวังหยวนพบว่าปลาที่ทอดในน้ำมันหมูสักพัก และใส่เกลืออบรอสักสิบห้านาที และโรยด้วยผักป่า มันจะอร่อยมากซะกินจนหมดเกลี้ยง มาดูทางหลี่ซื่อหาน นางกินเหมือนแมวดมไม่มีผิด กินไปเพียงแค่ครึ่งชิ้นเท่านั้น “ท่านพี่ ข้าอิ่มแล้ว อีกครึ่งตัวนี้ข้ายังไม่ได้แตะมัน!” เห็นหวังหยวนมองมาที่นาง หลี่ซื่อหานก็วางตะเกียบลงแล้วผลักจานปลานั้นมา “ข้ากินอิ่มแล้ว แค่มองเจ้ากินปลาแบบนี้ก็น่ามองแล้ว รีบกินเถอะ!” หวังหยวนลุกขึ้นและออกจากห้องโถง เมื่อใดก็ตามที่มีเนื้ออยู่ในบ้าน หลี่ซื่อหานลังเลไม่กล้ากินมัน ปล่อยให้เจ้าของร่างเดิมกินก่อนเสมอ นี่จึงทำให้นางผอมลงจนผอมซูบ จนความงามแต่เดิมของนางก็หายไ
หวังซื่อไห่เอามือจับชายแขนเสื้อตัวเองยืนน้ำลายไหลอยู่หน้าประตูบ้านหวังหยวน หวังหยวนถามว่า "เจ้าทำอะไรน่ะ?" ต้าหู่และเอ้อหู่ก้าวออกมาล้อมขนาบหวังซื่อไห่ทั้งซ้ายและขวา มายืนน้ำลายไหลบ้านพี่หยวนแต่เช้า เจ้าอันธพาลนี่ต้องคิดเรื่องไม่ดีอยู่แน่ ๆ หวังซื่อไห่ตกใจจนสะดุ้ง แล้วจึงรีบถอยออกไปจากประตู “ข้า ข้าอยากกินปลา!" ช่างหน้าด้านได้อย่างตรงไปตรงมา หวังหยวนส่ายหน้า “เจ้ามาช้าไป ปลาถูกกินหมดแล้ว!” “เช้ากินหมดแล้ว ยังมีตอนเย็นอีก แค่อยากกินปลาเอง ให้ข้าไปขุดรากหญ้ากับเจ้าก็ได้นะ ไม่มีปัญหา” เมื่อวานที่เดินเตร็ดเตร่อยู่นั้น พบว่าที่บ้านหวังหยวนนั้นกินปลา และบ้านหวังหานซานก็ได้กินปลาเช่นกัน เดินมาแต่เช้าก็พบว่าบ้านหวังหยวนก็กินปลา และพ่อลูกหวังหานซานด้วย เมื่อนึกถึงที่หวังหยวนพูดถึงประโยชน์ เขาเข้าใจแล้วว่าเขาพลาดอะไรไป ปลาสองมื้อ! หวังหยวนกระพริบตา "งั้นไปเอาไข่สองฟองก่อน" ในชนบทแม้ว่าจะมีผู้เลี้ยงไก่อยู่ไม่กี่ราย แต่ไข่ทั้งหมดจะถูกเก็บไว้และขายเป็นเงิน กว่าจะได้ไข่สองฟองไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ "...ตกลง!" หวังซื่อไห่กัดฟันและหันกลับมา หวังหานซานเตือนว่า "หวังหยว
เมื่อเห็นชายชราล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา จะให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีได้อย่างไร?น่าเสียดาย...เขาทำอะไรได้น้อยมาก ไม่สามารถช่วยให้ชายชราหายป่วยได้แต่เขาก็ไม่สามารถทนดูผู้มีพระคุณตายไปต่อหน้าต่อตาได้!“เห็ดหลินจือพันปีหรือ?”“ของล้ำค่าเช่นนั้น เจ้าได้มาอย่างไร?”“เจ้าขโมยมาหรือ?”สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป น้ำเสียงแข็งกระด้างขณะขมวดคิ้วกล่าว “ปู่สอนเจ้าเสมอว่าคนเราจนได้ แต่อย่าไร้ศักดิ์ศรี!”“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องไม่ขโมยหรือปล้น! ลูกผู้ชายต้องยืนหยัดในแผ่นดิน หากต้องการมีที่ยืนในโลกต้องรักษาคุณธรรม!”ช่างเป็นยอดคนอย่างแท้จริง!หวังหยวนที่ยืนอยู่หน้าประตูได้ยินคำพูดของชายชรา แล้วพยักหน้าเห็นด้วยแม้ว่าทุกคนจะเข้าใจหลักการนี้ แต่การรักษาคุณธรรมไว้ให้ได้นั้นยากยิ่ง!เด็กหนุ่มได้รับการสั่งสอนจากชายชรามาตั้งแต่เด็กจึงดูไร้เดียงสา!คงได้รับอิทธิพลมาจากชายชรา“ท่านปู่! ท่านเข้าใจผิดแล้วขอรับ!”“ข้าไม่ได้ขโมยเห็ดหลินจือพันปีมา แต่พี่ชายกับพี่สาวที่อยู่นอกประตูเป็นคนซื้อให้ต่างหาก!”“พวกเขามอบเห็ดหลินจือพันปีให้ข้า! ข้าจะจดจำบุญคุณนี้ไว้ วันข้างหน้าจะตอบแทนพวกเขาแน่นอน
หลังจากซื้อยาเสร็จ หวังหยวนและพวกพ้องก็ออกจากเมือง มุ่งหน้าสู่ป่าทันทีไม่นาน พวกเขาก็มาถึงกระท่อมมุงจากหลังหนึ่งกระท่อมดูทรุดโทรม แต่มีความสะอาดสะอ้าน ด้านนอกมีรั้วไม้ล้อมรอบ ข้าวของในบ้านจัดวางอย่างเป็นระเบียบ ดูเหมือนว่าคนที่อาศัยอยู่ที่นี่จะเป็นคนรักความสะอาด“ที่นี่คือบ้านของเจ้าหรือ?”หวังหยวนมองไปที่เด็กหนุ่ม แล้วเอ่ยถามเด็กหนุ่มพยักหน้า ก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วขอรับ ที่นี่คือบ้านของข้ากับท่านปู่”“แม้ว่าบ้านจะเล็ก แต่ก็มีครบทุกอย่าง!”“ข้างในกว้างขวางมาก!”หืม?หวังหยวนเลิกคิ้วพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก มองไป๋ลั่วหลีและหลิ่วหรูเยียน แล้วเดินเข้าไปในกระท่อมเขาอยากรู้ว่ากระท่อมหลังเล็กหลังนี้มีอะไรพิเศษ?ในพริบตา พวกเขาก็เข้ามาในกระท่อม เมื่อกวาดสายตามองไปรอบ ๆ จึงพบว่าห้องสะอาดสะอ้าน มีเครื่องใช้ครบครัน!บนผนังทั้งสองด้านมีหนังสัตว์แขวนอยู่!“นี่เป็นหนังสัตว์ที่เจ้ากับปู่ล่ามาทั้งหมดหรือ?”หวังหยวนนึกถึงคำพูดของเด็กหนุ่มตอนอยู่ในเมืองเด็กหนุ่มมักจะออกไปล่าสัตว์กับปู่ หมีดำในสายตาของเขาก็เป็นแค่สัตว์ธรรมดา!สามารถฆ่าหมีและเสือได้อย่างง่ายดาย!ตอนแรกคิดว่าเขาพู
ในโลกนี้ยังมีคนดีเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ?หวังหยวนยกยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “แม้ว่าข้าจะไม่มีหน้ามีตา เช่นนั้นเจ้านายของข้ามีหน้ามีตาพอหรือไม่?”เขาไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้ ประเดี๋ยวจะเกิดเรื่องวุ่นวาย!แต่เขามีคนหนุนหลังที่สามารถช่วยเหลือได้!ทันใดนั้น ไป๋ลั่วหลีก็เดินออกมาจากฝูงชนเพียงแค่เห็นไป๋ลั่วหลี ทุกคนย่อมจำนางได้จึงพากันถอยหลังกรูด หัวหน้าทหารรีบประสานมือค้อมตัว กล่าวด้วยความสุภาพ “ปรากฏว่าเป็นคุณหนูไป๋นี่เอง!”ชาวบ้านรอบข้างต่างทักทายไป๋ลั่วหลี!หวังหยวนคิดในใจ “ไม่คิดว่าไป๋ลั่วหลีจะมีชื่อเสียงในเมืองมากถึงเพียงนี้ ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”“ดูท่าว่าชื่อเสียงหญิงงามผู้มีความสามารถอันดับหนึ่งของต้าเย่คงไม่เกินจริง!”ไป๋ลั่วหลีเดินมาข้างหน้า ชี้ไปที่เด็กหนุ่ม แล้วกล่าวว่า “เขาเป็นคนของข้า วันนี้ให้เกียรติข้าหน่อย เรื่องนี้จบแค่นี้ พวกท่านคงไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่?”เหล่าทหารยามส่ายหน้าพวกเขาจะกล้ามีปัญหาได้อย่างไร?ไป๋ลั่วหลีเป็นถึงคุณหนูใหญ่ผู้สูงส่ง มีอำนาจในราชสำนัก และเป็นคนโปรดของฝ่าบาท!หากพวกเขาทำให้ไป๋ลั่วหลีไม่พอใจก็เท่ากับหาเรื่องใส่ตัว!พวกเขาไม่ใช่คนโง่เขลา คงไม่ทำเรื่อ
ขณะที่หวังหยวนและไป๋ลั่วหลีกำลังตื่นตะลึงก็มีเสียงฝีเท้ารีบเร่งดังขึ้น จากนั้นจึงเห็นทหารวิ่งมาล้อมเด็กหนุ่มคนนั้นไว้!ทุกคนต่างชูหอกขึ้น!ดูน่าเกรงขาม!“เจ้าหนุ่ม!”“เจ้ากล้าทำร้ายทหารยาม! อยากตายหรืออย่างไร?”ทหารที่อยู่ข้างหน้าตะโกน “ยอมจำนนซะ แล้วตามพวกข้าไปติดคุกเสียโดยดี หากเจ้าสำนึกผิดอาจจะรอดชีวิต!”“แต่ถ้าเจ้ายังดื้อรั้น อย่าหาว่าพวกข้าโหดเหี้ยม!”“ข้าจะฆ่าเจ้าเสียเดี๋ยวนี้!”เด็กหนุ่มคนนั้นปัดฝุ่นบนมือ ท่าทางยังคงสงบนิ่งขณะหัวเราะเบา ๆ “พวกเจ้าอย่ามาขู่ข้า!”“ข้าแค่จะเข้าเมืองเพื่อไปซื้อยาให้ปู่เท่านั้น!”“แม้ว่าท่านปู่จะบอกให้ข้าอยู่ในโอวาท อย่าหาเรื่องใคร แต่ถ้าพวกเจ้ายังบีบบังคับ ข้าย่อมไม่ปรานีเช่นเดียวกัน!”เด็กหนุ่มบิดคอ ยืดเส้นยืดสายเมื่อทหารยามเห็นเขามีท่าทางแข็งกร้าวจึงพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็วเด็กหนุ่มไม่ยอมแพ้ เข้าต่อสู้กับพวกเขาอย่างดุเดือด!ในชั่วพริบตา หลายร่างปลิวว่อน ทหารยามกระเด็นออกไป!แต่เด็กหนุ่มยังคงยืนหยัดอย่างองอาจ!ทหารแค่สิบกว่าคนไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้!“ข้าไม่อยากเสียเวลากับพวกเจ้า!”“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าตรวจสอบอะไร แต่ไม่ต้องห
“ส่วนเจ้า...”หวังหยวนสั่งการเสร็จจึงหันไปมองเกาเล่อ“เจ้าพาสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อแทรกซึมเข้าไป!”“หากข้ามีเหตุฉุกเฉินจะพยายามติดต่อเจ้า!”“จำไว้! อย่าอยู่ห่างจากข้ามากเกินไป เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะได้ช่วยเหลือกันได้!”หวังหยวนกำชับเพิ่มเติมเกาเล่อรีบรับคำ แล้วเดินออกไปหวังหยวนเปลี่ยนชุดเป็นชุดธรรมดา ทาใบหน้าให้เลอะเทอะ แล้วเดินไปข้างหลังไป๋ลั่วหลีก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูตอนนี้สิ ข้าดูเหมือนคนรับใช้ของเจ้าหรือไม่?”“นี่...”ไป๋ลั่วหลีอดส่ายหน้าไม่ได้นางมองหวังหยวนที่หน้าตาเหมือนแมวลายพร้อยมอมแมม แล้วกล่าวว่า “แม้แต่คนรับใช้ในจวนข้า ก็ไม่มีใครแต่งตัวสกปรกเลอะเทอะถึงเพียงนี้!”“ดูเหมือนจะตั้งใจเกินไปเจ้าค่ะ”หวังหยวนหัวเราะ ไม่ได้เอ่ยคำใด เขาจำเป็นต้องปลอมตัวหากซือฟางกับเจี๋ยงโฉ่วอีรู้ว่าเขายังอยู่ในเมืองหลวงคงจะสงสัย แล้วจะยิ่งยุ่งยากมากกว่าเดิม!ว่าแล้วทั้งสองก็มุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองเมื่อมาถึงหน้าประตูเมือง ก็เห็นทหารยามกำลังสอบถามเด็กหนุ่มคนหนึ่ง“เจ้าหนุ่ม หูหนวกเป็นใบ้หรือ?”“จะเข้าเมืองต้องบอกเหตุผลก่อน! ไม่เช่นนั้น ข้าไม่ให้เจ้าเข้าเมืองเด็ดขาด!”
เมื่อเรื่องราวกระจ่างแล้ว หวังหยวนและเกาเล่อก็ต่างสบายใจ ต่างกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตน ก่อนจะจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราคืนนี้คงหลับฝันดีได้แล้วรุ่งเช้า หวังหยวนบอกลาไท่สื่อลี่และคนอื่น ๆ“ท่านหวัง! พวกข้าจะกลับเผ่าไปรอฟังข่าวจากท่านนะขอรับ!”“หากเผ่าของพวกข้าพัฒนาขึ้น พวกข้าจะรักษาสัญญาด้วยการติดตามรับใช้ท่านตลอดไป!”ไท่สื่อลี่ประสานมือกล่าวด้วยความตื่นเต้นเมื่อนำข่าวนี้กลับไป คนในเผ่าย่อมเชื่อฟังพวกเขา นี่เป็นเรื่องดีต่อทุกคนในเผ่า!แม้จะเป็นเพียงเครื่องมือของผู้อื่นก็ต้องมีคุณค่า!หากไม่มีค่าพอที่จะให้ใครใช้ประโยชน์ นั่นคือโศกนาฏกรรมที่แท้จริง...“ดี!”“แต่ท่านต้องให้แผนที่ภูมิประเทศ บอกจำนวนคนและข้อมูลต่าง ๆ กับข้าด้วย”หวังหยวนตบบ่าไท่สื่อลี่ แล้วสั่งการไท่สื่อลี่และคนอื่น ๆ อดตกใจไม่ได้“เหตุใด?”“พวกท่านกลัวว่าข้าจะคิดร้ายต่อพวกท่านหรือขอรับ?”หวังหยวนหัวเราะ “หากข้าอยากฆ่าพวกท่านจริง คงไม่ต้องเสียเวลาหรอก แค่ขยับนิ้วก็สามารถนำทัพเข้ายึดเผ่าของพวกท่านได้แล้ว!”นี่คือความจริงไท่สื่อลี่และคนอื่น ๆ ต่างพยักหน้า“วางใจเถิด”“ข้าแค่ต้องการดูภูมิประเทศและจำนวนประชาก
“ท่านเจี๋ยงกับท่านขุนพลต้องการให้องค์ชายน้อยขึ้นครองราชย์เพื่อที่จะควบคุมองค์ชายน้อย จากนั้นราชวงศ์ต้าเย่ก็จะตกอยู่ในกำมือของพวกเขา!”“แม้ว่าองค์ชายใหญ่จะเป็นฮ่องเต้ที่ดี หากขึ้นครองราชย์ย่อมจะนำความเจริญมาสู่ประชาชน แต่ตอนนี้เขามีอายุสิบกว่าปีแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง คงไม่ยอมถูกควบคุมง่าย ๆ”“ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าพวกเขาไปหาฝ่าบาทหลายครั้ง เพื่อขอให้ฝ่าบาทปลดองค์ชายใหญ่ และตั้งองค์ชายน้อยเป็นรัชทายาทแทน!”“โชคดีที่ฝ่าบาทประชวรหนัก จึงไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงสมหวังไปแล้ว!”“สองคนนี้มีจิตใจทะเยอทะยาน ต้องระวังให้ดี!”คำพูดของไป๋ลั่วหลีทำให้หวังหยวนเข้าใจสถานการณ์ภายในราชวงศ์ต้าเย่ทันทีไม่ว่าบ้านใครก็มีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น!ราชวงศ์ต้าเย่เหมือนจะสงบสุข มีขุนพลมากมาย แต่เรื่องราวกลับซับซ้อนกว่าที่หวังหยวนคิดไว้!“แล้วเจ้าอยากให้ข้าช่วยเหลืออย่างไร?”หวังหยวนถามต่อภายในราชวงศ์ต้าเย่เต็มไปด้วยปัญหา ตอนนี้อาจเกิดการแย่งชิงบัลลังก์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นี่เป็นโอกาสที่จะซื้อใจคน!หากสามารถสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับราชวงศ์ต้าเย่ได้อีกครั้งในตอนนี้
“หืม?”“เจ้าพูดมาเถิด”หวังหยวนมองไป๋ลั่วหลีด้วยรอยยิ้มหรือว่า...เหตุการณ์ลอบสังหารครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ต้าเย่จริง และไป๋ลั่วหลีก็มีส่วนรู้เห็นด้วย?เมื่อครู่นี้หวังหยวนและเกาเล่อต่างเข้าใจตรงกัน!ในเมื่อมีคนบงการอยู่เบื้องหลัง และคนที่น่าสงสัยถูกตัดออกไปแล้ว แสดงว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!คิดไปคิดมาคงหนีไม่พ้นคนของราชวงศ์ต้าเย่!แต่หวังหยวนไม่คิดว่าไป๋ลั่วหลีจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เรื่องนี้ทำให้เขาใจหาย!เขาถือว่าไป๋ลั่วหลีเป็นสหาย เป็นคู่หู ถึงขั้นสร้างปืนไรเฟิลซุ่มยิงให้นาง นี่คือมิตรภาพที่ลึกซึ้ง!ทำให้หวังหยวนรู้สึกเสียใจไปชั่วขณะหนึ่ง!“ข้าตรวจสอบรูปร่างหน้าตาของคนเหล่านั้นแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นทหารของราชวงศ์ต้าเย่! กล่าวคือ เรื่องนี้น่าจะเป็นฝีมือของซือฟาง!”“เดิมทีข้าไม่ควรบอกท่าน แต่ได้ยินว่าท่านให้ท่านเกาไปสืบเรื่องนี้! ท่านเกามีความสามารถ ไม่นานก็คงจะพบเบาะแส และผลลัพธ์สุดท้ายก็คงเหมือนเดิม!”“สู้ให้ข้าบอกความจริงกับท่านล่วงหน้าไปเลย ดีกว่าให้ท่านเกลียดชังราชวงศ์ต้าเย่เจ้าค่ะ!”ไป๋ลั่วหลีคิดถึงแต่ราชวงศ์ต้าเย่ จึงไม่สนใจเรื่องส่วนตัวหากหวังหยว
“ใช้คนอย่าระแวง ระแวงก็อย่าใช้!”“เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับพวกนั้น...”เห็นได้ชัดว่าหวังหยวนรู้ความจริงอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่จำเป็นต้องบอกไท่สื่อลี่!ไท่สื่อลี่เป็นคนเฉลียวฉลาดจึงไม่กล้าถามมาก เมื่อเห็นว่าหวังหยวนไม่ได้สงสัยพวกเขา เขาก็เบาใจขึ้น“เช่นนั้นเชิญท่านพักผ่อนเถิดขอรับ ข้าต้องขอตัวก่อน”ไท่สื่อลี่กล่าวอย่างสุภาพ แล้วออกจากกระโจมไปหวังหยวนยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาคงไม่ได้พักผ่อนตอนที่คุยกับไท่สื่อลี่ เขาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างนอก เกาเล่อนั่นเอง!ตอนนี้เขาอยากพบเกาเล่อโดยเร็ว เพื่อให้เกาเล่อไปสืบหาความจริงและไขข้อข้องใจ!“ท่านผู้นำ!”เกาเล่อที่เข้ามาในกระโจมรีบเดินไปหาหวังหยวน แล้วถาม “ท่านผู้นำไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่ขอรับ?”เมื่อครู่หวังหยวนไล่พวกเขาออกไป แล้วอยู่คนเดียวในกระโจม นี่คือสิ่งที่เกาเล่อกังวลที่สุด!การที่หวังหยวนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แสดงว่าคนที่ลอบสังหารล้วนเป็นยอดฝีมือ!ต้องระวังตัวให้มาก!หวังหยวนมีปืนคาบศิลา แต่ฝีมือการต่อสู้ยังอ่อนด้อยกว่าอีกฝ่าย หากอีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่าย่อมเสียเปรียบ!“ข้าดูเหมือนคนบาดเจ็บหรือ?”