Share

บทที่ 1953

Author: ชวินเป่ยอี๋
“พวกเราไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพวกนี้หรอก!”

“ได้ยินมาว่าการลอบสังหารครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่ราชทูตจากต่างอาณาจักร!”

“พวกนั้นคงไม่สนใจคนธรรมดาอย่างพวกเราหรอก!”

“...”

ผู้คนต่างพูดคุยกันไปต่าง ๆ นานา

เห็นได้ชัดว่าข่าวสารได้แพร่สะพัดออกไปใหญ่โต ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะเรื่องใหญ่เช่นนี้เกิดขึ้น ชาวบ้านจะปิดหูปิดตาได้อย่างไร?

ไม่นานหวังหยวนและพรรคพวกก็เข้าไปในโรงหมอ

“อาการของคุณหนูไป๋เป็นอย่างไรบ้าง?”

หวังหยวนถามตรงประเด็นทันที

ภายในโรงหมอ ทุกคนต่างวุ่นวายกันใหญ่

หมอที่มีชื่อเสียงในเมืองล้วนมาชุมนุมกันที่นี่ และกำลังตรวจอาการของไป๋ลั่วหลี

หมอคนหนึ่งรีบเดินมาหาหวังหยวน เขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก แล้วรายงานว่า “อาการของคุณหนูไป๋ยังคงตัวอยู่...”

“แต่ว่าท้องน้อยของนางถูกแทงด้วยดาบ บาดแผลโดนอวัยวะภายใน ต้องรีบเย็บแผลทันที!”

“ส่วนจะรอดชีวิตหรือไม่ ต้องรอดูผลหลังจากเย็บแผลเสร็จสิ้นขอรับ!”

หวังหยวนพยักหน้า แต่ในใจกังวลยิ่งนัก

เขามาจากโลกยุคใหม่ย่อมทราบถึงความสำคัญของการแพทย์ แต่ด้วยระดับการแพทย์ในยุคนี้ ถึงแม้การผ่าตัดจะดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่ความจริงแล้วอันตรายมาก!

หากรักษาไม่ถูกวิธี อาจทำให
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1954

    แต่หากเกิดเรื่องขึ้นจริง เช่นนั้นแผนการทั้งหมดก็จะพังทลายลง โครงการเขื่อนกั้นน้ำก็ต้องล้มเลิก ประชาชนในดินแดนทั้งเก้าก็จะเดือดร้อนเพราะเพลิงสงครามอีกครั้ง!นี่เป็นสิ่งที่หวังหยวนกังวลที่สุด“ข้าคิดว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ...”ตอนนี้ตงฟางฮั่นเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียดตลอดทั้งคืนเขาอยู่กับหวังหยวน แต่ไม่ได้พูดแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใดเพราะทุกอย่างได้ถูกวางแผนไว้อย่างรอบคอบแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็เพียงรอผลลัพธ์เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ครุ่นคิดเกี่ยวกับกระบวนการลอบสังหารครั้งนี้อย่างละเอียด“ท่านตงฟางมีความเห็นเช่นไร?”“ที่นี่มีแต่พวกเดียวกัน ท่านสามารถพูดได้ตามใจ” หวังหยวนรีบถามตอนนี้ต้องระดมความคิดเพื่อหาเบาะแส แล้วตามหาผู้บงการเพื่อล้างมลทินให้ตัวเอง!“รอบร้านสุราล้วนเป็นคนของพวกเราทั้งนั้น”“การที่คนร้ายสามารถเข้ามาลอบสังหารราชทูตได้ แสดงว่าพวกมันเก่งกาจมาก!”“แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น การจะหลบหลีกสายตาของเราแล้วแอบเข้ามาได้ลับ ๆ ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย!”“ดังนั้นข้าจึงสันนิษฐานว่าเรื่องนี้อาจเป็นฝีมือคนภายใน!”ต่งอวี่ได้ฟังดังนั้นก็เบิกตากว้างหรือว่า...มีสา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1955

    “ข้าแค่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น”ซ่งติ้งกั๋วโบกมือ แล้วชี้ไปที่ทหารองครักษ์ข้างกาย “ตอนนั้นสถานการณ์คับขัน ข้าเองก็ไม่มีวรยุทธ์ หากไม่ได้คนของข้ามาช่วยไว้ทันเวลา คงบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกับคุณหนูไป๋...”“ตอนนี้คงได้แต่นอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงหมอเช่นกัน”“พูดแล้วช่างน่ากลัวยิ่งนัก เกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?”ทุกคนมองซ่งติ้งกั๋วด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีผู้ใดเอ่ยปากแต่คำพูดของเขานั้นเป็นการตำหนิหวังหยวนอย่างชัดเจน!แต่ไม่ว่าใครจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง หวังหยวนจะปรารถนาให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร?“อะแฮ่ม”เสียงกระแอมเบา ๆ ดึงความสนใจ เซียวตั๋วมองไปที่ซ่งติ้งกั๋ว แล้วเดินเข้าไปหา“ท่านอัครเสนาบดีซ่ง”“ข้าพอมีความรู้ทางการแพทย์อยู่บ้าง ในเมื่อหมอทั้งเมืองกำลังรักษาคุณหนูไป๋ ขอให้ข้าตรวจดูบาดแผลของท่านได้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เซียวตั๋วก็ยื่นมือออกไปหมายจะจับมือซ่งติ้งกั๋ว ทันใดนั้น ทหารองครักษ์สองคนก็พุ่งตัวเข้ามาขวางหน้าเซียวตั๋วด้วยสีหน้าเคร่งขรึม!“เจ้าเป็นใคร?”“กล้าดีอย่างไรมาตรวจอาการท่านอัครเสนาบดีของพวกข้า?”“ถอยไป! ไม่มีธุระอะไรกับเจ้า!”ทหารองครักษ์ทั้งส

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1956

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น ต่งอวี่ก็ยิ่งเดือดดาลขณะที่เขากำลังจะระเบิดอารมณ์ หวังหยวนก็พุ่งเข้ามาตบหน้าทหารองครักษ์ผู้นั้นอย่างแรง!ทหารองครักษ์ผู้นั้นกำลังจะตอบโต้ แต่เมื่อเห็นว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือหวังหยวนก็พลันหน้าซีดเผือด กลืนน้ำลายลงคอ ไม่กล้าพูดต่อเพราะที่นี่คือเมืองอู่เจียง เป็นเขตแดนของหวังหยวน ถึงแม้เจ้านายของพวกเขาจะมาพบหวังหยวนก็ยังต้องให้เกียรติอยู่บ้างหากพวกเขาทำเรื่องเกินเลย ผลที่ตามมาคงไม่อาจคาดเดา...อาจทำให้พวกเขาและเจ้านายต้องติดอยู่ในเมืองอู่เจียง!“ต่งอวี่เป็นขุนพลของข้าและเป็นพี่น้องของข้าด้วย!”“ปกติแล้วพวกเราสองคนเท่าเทียมเสมอกัน!”“พวกเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้าดีอย่างไรมาเทียบเคียงกับต่งอวี่?”“ซ้ำยังกล้าพูดจาโอหังอีกหรือ?”หวังหยวนโมโหขนถึงขีดสุด เนื่องจากต้องให้เกียรติซ่งติ้งกั๋วอยู่บ้างแต่ในเมื่อคนพวกนี้ไม่รู้จะที่ต่ำที่สูง เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดมาก ลงมือเลยแล้วกัน ถือว่าช่วยสั่งสอนคนพวกนี้แทนซ่งติ้งกั๋ว!ไม่ให้เสียมารยาทจนเกินไป“อะแฮ่ม”“ท่านหวัง!”“ขออภัยที่ข้าสั่งสอนคนไม่ดี!”ทันใดนั้นซ่งติ้งกั๋วก็รีบเข้ามาไกล่เกลี่ย “ท่านหวัง คงเป็นเรื

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1957

    “เช่นนั้นพวกเราเปิดศึกกับพวกมันเลยสิขอรับ!”“จำเป็นต้องกลัวพวกมันด้วยหรือ?”ต่งอวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจคนของอาณาจักรต้าเป่ยแม้แต่น้อยตอนนี้เขาอยากกลับไปรบในสนามรบและสร้างความดีความชอบ นี่เป็นสิ่งที่บุรุษสมควรทำ!จะทนอยู่ที่นี่ให้เสียเกียรติยศไปเพื่ออะไร?“ยังไม่ถึงเวลา”หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม แล้วปลอบใจต่งอวี่ ก่อนจะหันไปมองเซียวตั๋ว“เหตุใดจู่ ๆ เจ้าจึงอยากตรวจบาดแผลของซ่งติ้งกั๋ว?”เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเซียวตั๋วหากไม่ใช่ว่าเขายืนกรานจะตรวจบาดแผลก็คงไม่เกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้เซียวตั๋วลังเลครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยความคิดของตนเอง“ข้ารู้สึกว่าซ่งติ้งกั๋วมีพิรุธ”“เขาได้รับบาดเจ็บที่ท้องน้อย แต่กลับเดินได้อย่างปกติ ไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดแม้แต่น้อย”“ข้าจึงสงสัยว่าบาดแผลของเขาอาจไม่สาหัสอย่างที่คิดขอรับ!”“นี่ก็แสดงให้เห็นถึงปัญหา...”“ซ่งติ้งกั๋วไม่มีวรยุทธ์ ส่วนมือสังหารที่พวกข้าพบล้วนเป็นยอดฝีมือ หากมีคนไปลอบสังหารซ่งติ้งกั๋วจริง เขาคงไม่อาจหนีรอดมาได้!”“ส่วนที่เขาอ้างว่ามีองครักษ์คุ้มกันอยู่หน้าห้อง และมีองครักษ์เข้ามาช่วยเหลือท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1958

    “อย่าปล่อยให้พลาดไปแม้แต่เบาะแสเดียว!”“พวกเราต้องให้คำอธิบายกับคุณหนูไป๋ให้ได้!”ต่งอวี่รับคำสั่งด้วยความกระตือรือร้น!จนกระทั่งรุ่งสาง หมอในโรงหมอจึงเดินออกมา โชคดีที่ข่าวคราวเป็นไปในทางที่ดีถึงแม้ว่าไป๋ลั่วหลีจะยังคงไม่ได้สติ แต่ก็พ้นขีดอันตรายแล้วเพียงพักรักษาตัวอีกสองสามวันก็จะหายเป็นปกติต่อไปจะไม่มีผลข้างเคียงใด ๆเมื่อทุกคนทราบข่าวต่างก็แยกย้ายกันกลับไปยังที่พัก ส่วนโรงหมอยังคงมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนาโดยมีต่งอวี่เป็นผู้ดูแลด้วยตัวเอง!เมื่อคืนเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย ต่อไปจะต้องไม่ปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายลง ไม่เช่นนั้นเรื่องราวจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น!คืนนี้เป็นอีกคืนที่นอนไม่หลับ!รุ่งเช้าวันต่อมาเนื่องจากเมื่อคืนเข้านอนดึก จนกระทั่งเที่ยงวัน หวังหยวนก็ยังไม่ตื่นเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ทำให้หวังหยวนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย เขายกมือขึ้นลูบขมับตัวเอง แล้วพูดไปทางหน้าประตู “เข้ามา”ไม่นานต่งอวี่ก็รีบรุดเข้ามา เขาสวมชุดเกราะเต็มยศ บนชุดเกราะมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ทันใดนั้นหวังหยวนก็รู้สึกตัวตื่นเต็มตา รีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“มีค

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1959

    “วางกองกำลังเช่นนี้ไม่ยิ่งใหญ่เกินไปหน่อยหรือ?”หวังหยวนเห็นกองกำลังถึงกับประหลาดใจ จึงพูดกับต่งอวี่พลางแย้มยิ้ม“เจ้าไม่กลัวว่าเขาจะจนตรอกหรือ?”ต่งอวี่หัวเราะในลำคอ แล้วกล่าวว่า “นั่นยิ่งถูกใจข้าเลยไม่ใช่หรือขอรับ?”“เดิมทีข้าอยากจะประลองกับซ่งติ้งกั๋วตัวต่อตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีโอกาส หากซ่งติ้งกั๋วกระทำการใดเกินเลย ข้ายินดีรับมือเองขอรับ”“น่าเสียดายที่ลูกน้องของเขามีน้อยเหลือเกิน หากคิดสู้กับพวกเราตอนนี้ก็มีแต่ตายเท่านั้น”“ข้าคิดไว้แล้ว หลังจากฆ่าเขาแล้ว ข้าจะปลิดชีพตัวเองเพื่อไถ่โทษ!”“ถึงตอนนั้น ท่านจะได้มีคำอธิบายกับคนของอาณาจักรต้าเป่ยขอรับ”หวังหยวนยกยิ้ม ไม่ได้เอ่ยคำใด ภายในใจซาบซึ้งเป็นอย่างมากต่งอวี่ห่วงใยเขาเสมอ ถึงกับคิดจะสละชีพตัวเองเพื่อสังหารซ่งติ้งกั๋ว!ถึงแม้ว่าซ่งติ้งกั๋วจะเป็นถึงอัครเสนาบดีแห่งอาณาจักรต้าเป่ย แต่หากเทียบกับต่งอวี่แล้ว เขายังมีค่าน้อยกว่านัก!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนให้ความสำคัญกับมิตรภาพ เขาถือว่าต่งอวี่เป็นสหายร่วมรบ ถึงแม้ว่าต่งอวี่จะฆ่าซ่งติ้งกั๋วจริง เขาก็จะไม่ปล่อยให้ต่งอวี่ต้องตกอยู่ในอันตราย!แม้จะต้องแลกด้วยสิ่งใด เขาจะปก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1960

    “ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องมีคำอธิบายที่ชัดเจนให้กับคุณหนูไป๋ด้วย”“แม้ว่าคุณหนูไป๋จะฟื้นคืนสติแล้ว แต่ดูเหมือนจะต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรกว่าจะเคลื่อนไหวได้สะดวก”“ถ้าหากไม่สืบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่าง ข้าจะมีหน้าไปพบคุณหนูไป๋ได้อย่างไร?”“หากไม่สืบสวนเรื่องนี้ให้กระจ่าง ข้าจะกล้าไปพบนางได้อย่างไร”“เฮือก!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซ่งติ้งกั๋วก็เบิกตากว้าง สีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่เขาเป็นขุนนางผู้มากประสบการณ์ในราชสำนักมานาน ย่อมปกปิดอารมณ์ได้อย่างแนบเนียน ไม่นานก็ควบคุมสีหน้าของตัวเองได้เขาเลียริมฝีปากแห้งผาก แล้วเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว “ไป๋ลั่วหลีฟื้นแล้วหรือ? พ้นขีดอันตรายแล้วหรือยัง?”“พ้นแล้ว”หวังหยวนตอบพลางแย้มยิ้มบัดซบ!ซ่งติ้งกั๋วที่นั่งอยู่ที่โต๊ะกำมือแน่นใต้โต๊ะ เดิมทีคิดว่าจะสามารถฆ่าไป๋ลั่วหลีได้ ถึงแม้ว่าเซียวตั๋วจะรอดชีวิต แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าหวังหยวนมีความสัมพันธ์อันดีกับอาณาจักรต้าเย่ สามารถใช้โอกาสที่ไป๋ลั่วหลีตายทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองอาณาจักรแตกหัก!จากนั้นอาณาจักรต้าเป่ยจะได้ฉวยโอกาส!ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่เขาวางไว้ แต่ไม่นึกเลยว่าไป๋ลั่วหลีจะรอดชีวิต ช่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1961

    “ไม่ยอมดื่มสุราคารวะ ชอบสุราลงทัณฑ์!”“ใครบ้างจะมองไม่ออกว่าชายคนนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ยังกล้าทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!”“ถ้าคุณหนูไป๋เป็นอะไรไป ข้าจะถลกหนังเขาทั้งเป็น!”ต่งอวี่กัดฟันกล่าวด้วยความเกรี้ยวกราดหวังหยวนและพรรคพวกไม่ได้อยู่ต่อ รีบออกจากโรงเตี๊ยมตราบใดที่ยังควบคุมตัวซ่งติ้งกั๋วไว้ได้ก็เพียงพอแล้ว อย่างน้อยก็ถ่วงเวลาได้บ้างต่อไปเพียงแค่หาหลักฐานที่ซ่งติ้งกั๋วคิดร้ายต่อเซียวตั๋วและไป๋ลั่วหลีให้เจอก็พอจึงจะโยนความผิดให้อาณาจักรต้าเป่ยได้!“เซียวตั๋ว ขออภัยด้วย เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น คงต้องรบกวนเจ้าอยู่ในเมืองนี้สักพักก่อน”“ต้องลำบากเจ้าแล้ว”เมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่าง หวังหยวนก็พูดกับเซียวตั๋วด้วยรอยยิ้มเซียวตั๋วก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “เป็นสิ่งที่ข้าต้องทำอยู่แล้วขอรับ”“ตอนนี้คุณหนูไป๋ยังไม่ได้สติ เรื่องราวยังไม่กระจ่าง แน่นอนว่าข้าต้องอยู่ที่นี่เพื่อให้ความร่วมมือในการสืบสวน”“เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับตัวเอง”“ท่านหวังไม่ต้องเกรงใจ หากมีเรื่องใด โปรดส่งคนมาแจ้งข้าได้ตลอดเวลา ข้ายินดีบอกทุกอย่างที่ทราบขอรับ!”ทัศนคติของเซียวตั๋วนับว่าดียิ่งนัก

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status