คำพูดของไป๋ฝูซานทำให้สีหน้าของเซิ่งฟางฉยงเปลี่ยนไปในทันทีดวงตาของเขาฉายแววโหดเหี้ยมดุดัน กำมือแน่นจนส่งเสียงดังกร๊อบ ดวงตาเต็มไปด้วยความมืดมนเซิ่งฟางฉยงอดไม่ได้ที่จะถามเย้ย “งั้นหรือ?”“ไป๋ฝูซาน เจ้าคงไม่ได้คิดจริง ๆ ใช่หรือไม่ว่าด้วยพวกขยะข้างหลังเจ้าจะจัดการพวกข้าได้อย่างง่ายดาย?”สีหน้าของเซิ่งฟางฉยงแฝงไปด้วยรอยยิ้มเยาะที่เต็มไปด้วยความดูถูกดวงตาของเขาฉายแววโกรธเคือง ขณะพูดจาเย้ยหยันอย่างเย็นชา “ไม่รู้ว่าใครสั่งสอนให้เจ้าบังอาจพูดกับข้าเช่นนี้?”หลังจากคำพูดนั้น ดวงตาของไป๋ฝูซานก็โหดเหี้ยมในทันทีเขาหายใจถี่รัว ความโกรธเกรี้ยวพลันปรากฏบนใบหน้า!“ฮึ่ม!”น้ำเสียงของไป๋ฝูซานเต็มไปด้วยความดูถูกเขาหัวเราะอย่างเย็นชาไม่ต่างจากใบหน้า “แท้จริงแล้วข้าคิดเรื่องนี้มานานแล้ว”“ในเมื่อเจ้าดูถูกพวกข้าเช่นนี้ เช่นนั้นเราลองมาประลองกันดูดีกว่า ว่าสุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้ชนะ!”เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังขึ้นอย่างเย็นยะเยือก!ขณะนี้ไป๋ฝูซานมีใบหน้าที่มืดมน แววโกรธเกรี้ยวในดวงตาปรากฏชัดในทันที!ด้วยคำสั่งของไป๋ฝูซาน ทหารม้าเกราะเหล็กนับไม่ถ้วนก็กระโจนเข้ามาด้วยเสียงดังกึกก้อง พุ่งเข้ามาห
หากไม่รีบสั่งสอนบทเรียนให้พวกเขาอย่างรุนแรง ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในภายหลัง!ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ เซิ่งฟางฉยงก็ยิ่งทนรอไม่ไหวลมหายใจของเขาเริ่มถี่ขึ้นอีกครา สีหน้าเย็นชาเริ่มปรากฏขึ้นอีก!“ดี ข้าเห็นพวกเจ้าแต่ละคนก็แทบจะรอไม่ไหวแล้ว!”ดวงตาของเซิ่งฟางฉยงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มุมปากของเขามีรอยยิ้มที่เย็นชาก่อนพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอีกครั้ง “ไป๋ฝูซาน วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่าอะไรคือความแข็งแกร่งที่แท้จริง!”หลังจากพูดจบ ตอนนี้ความโกรธของเซิ่งฟางฉยงก็ระเบิดออกมาบนใบหน้าทันที!เขาแทบจะระงับความโกรธในใจของตัวเองไม่อยู่แล้ว เขากล่าวด้วยสีหน้าดุดันว่า “ข้าบอกเลยว่าวันนี้เจ้าต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”ทันทีที่เซิ่งฟางฉยงออกคำสั่ง ในวินาทีถัดมา เสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังก็ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง!เสียงฝีเท้ามากมายระคนเสียงโห่ร้องดุดันดังก้องไปทั่วฟ้า!เปลวไฟแห่งสงครามโหมกระหน่ำ!เดิมทีไป๋ฝูซานไม่ต้องการสู้ในสงครามนี้ แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องลงมือแล้ว!ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด ลูกธนูมากมายพุ่งว่อนไปทั่ว ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งสงคราม ควันจากเขม่าลอยฟุ้ง ในเวล
ไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าเพราะเหตุใด ความรู้สึกถึงวิกฤตที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนจึงโถมล้อมตัวเขาโดยพลัน!ไป๋ฝูซานหายใจไม่ทั่วท้อง สีหน้าตึงเครียดวิตกกังวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประสานสายตากับเซิ่งฟางฉยง ความโหดเหี้ยมและอาฆาตในดวงตาคู่คมกริบนั้นทำให้ลมหายใจของเขาติดขัด หัวใจก็สั่นระรัว!บัดซบ!คนชาติชั่วคนนี้มีกลอุบายอันแยบยลซ่อนเร้นอยู่หรือเปล่า!ยิ่งข้าประสานสายตากับเซิ่งฟางฉยงมากเท่าใด ความมั่นใจในใจของเขาก็ยิ่งสั่นคลอนมากขึ้นเท่านั้น!ความหวาดกลัวคุกคามโหมกระหน่ำเข้ามา!หัวใจของไป๋ฝูซานเต็มไปด้วยความกระวนกระวายเขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อระงับความโกรธแค้นที่อยู่ในใจลง แล้วคำรามด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นว่า “ฮ่าฮ่า เซิ่งฟางฉยง เจ้าหมาแก่ คงจะแกล้งขู่ข้าอยู่สินะ!”“เจ้ารู้ดีว่าเมื่อใดที่เจ้าจ้องมองข้าเช่นนี้ ข้าก็อาจคิดมากไป เจ้าคงจงใจใช้กลอุบายชั่วร้ายเช่นนี้ข่มขู่ให้ข้าหวาดกลัว เพื่อบั่นทอนขวัญกำลังใจของพวกข้า!”ดวงตาของไป๋ฝูซานแฝงไปด้วยความอาฆาต เขากำดาบยาวในมือแน่นราวกับจะบดขยี้ให้แหลกละเอียด อยากจะพุ่งเข้าไปในค่ายข้าศึกโดยพลัน แล้วคว้าศีรษะของเซิ่งฟางฉยงมาไว้ในกำมือ!“เซิ่งฟาง
เดิมทีเหล่าทหารเกิดความหวาดกลัวและตื่นตระหนกในใจ เพราะความกลัวที่เกิดจากการที่ไป๋ฝูซาน แม่ทัพของฝ่ายตรงข้ามนำทัพด้วยตนเอง แต่เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเซิ่งฟางฉยง เหล่าทหารก็มีขวัญกำลังใจขึ้นในทันทีพวกเขามองไปที่เซิ่งฟางฉยงอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อรอคอยคำสั่ง!ดวงตาของเซิ่งฟางฉยงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขายกยิ้มก่อนสั่งการเหล่าทหารที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาว่า “เหล่าทหารทั้งหลาย พวกขยะต้าเป่ยเหล่านั้นกล้าพูดจาโอหังนัก!”“พวกเขาคิดจะใช้พลังอันอ่อนด้อยของตนเองมาเหยียบย่ำเหล่าทหารและแผ่นดินของต้าเย่ของเรา มันช่างน่าขันเสียจริง!”“ใช่!”ขวัญกำลังใจของเหล่าทหารที่มีเซิ่งฟางฉยงเป็นผู้นำพุ่งสูงขึ้นทันที!เซิ่งฟางฉยงยกยิ้มจาง แล้วพูดอย่างใจเย็นอีกครั้งว่า “รากฐานของต้าเย่ของเรานั้นหยั่งรากลึก กำลังรบแข็งแกร่ง การจะจัดการกับเหล่ามดปลวกจากต้าเป่ยเหล่านี้ก็แค่ปลิดชีพด้วยดาบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ใช่หรือไม่?”“ใช่ ปลิดชีพด้วยดาบเพียงครั้งเดียว!” เหล่าทหารต่างก็ตื่นเต้น ตอบรับคำพูดของเซิ่งฟางฉยงพร้อมเพรียงกัน!เซิ่งฟางฉยงก็ส่งเสียงดังกว่าเดิม ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่น
ใบหน้าของไป๋ฝูซานเต็มไปด้วยความตกใจ เขาตกตะลึงกับพลังอันแข็งแกร่งของเซิ่งฟางฉยงจนตัวสั่นสะท้านไปหมด!ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ม้าที่เขาขี่อยู่จึงยืนนิ่งราวกับถูกตรึงไว้ที่พื้น ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่ก้าวเดียว!ตอนนี้ไป๋ฝูซานจึงรู้สึกได้ถึงความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวที่แฝงอยู่ในใจของตนเองเขาตกใจจนกลืนน้ำลายลงคอไปดัง “อึก” หนึ่งที รู้สึกได้ว่าลมหายใจของตนเองเริ่มหอบถี่ขึ้นเซิ่งฟางฉยงนี่ช่างเก่งกาจเหลือเกิน!พลังอันแข็งแกร่งของเขาทะลวงเข้ามาหาเขาอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดหย่อน!ดวงตาของเขามีแววของความตื่นตระหนกและความกังวล จากนั้นจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ใช้เวลาไม่นานนัก เขาก็สงบสติอารมณ์ของตนเองลงได้ในที่สุด!หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ดวงตาของไป๋ฝูซานก็เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา ขณะเอ่ยปากด่าว่า “เซิ่งฟางฉยง เจ้าจิ้งจอกเฒ่าตายยาก!”“สวรรค์คงส่งให้ข้ามาประจันหน้ากับเจ้าในวันนี้ เพื่อให้ข้ามาสังหารเจ้าที่นี่ เจ้าจงคอยดูเถิด ในไม่ช้าเจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของข้า!”ในวินาทีถัดมา เสียงคำรามอันโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้นอย่างกึกก้อง!นัยน์ตาของเขาฉายแววเลือดเย็น เ
ดวงตาของไป๋ฝูซานเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขาเฝ้ามองเซิ่งฟางฉยงที่กำลังพุ่งเข้ามาหาตนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แสยะยิ้มเยาะอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยปากเสียดสีว่า “เซิ่งฟางฉยง เจ้าคิดจริงหรือว่าเจ้าคู่ควรพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้?”“ฮ่าฮ่า ช่างน่าขัน ช่างน่าขันยิ่งนัก”“ขยะอย่างเจ้าสมควรที่จะมีชีวิตอยู่ในความฝันเท่านั้น หากเจ้ามีความสามารถจริงและกล้าที่จะประลองกับข้าก็จงลองดูเถิด ข้าจะสนองให้เจ้ารู้ว่าอะไรคือความโหดเหี้ยมที่แท้จริง!”หลังจากที่เซิ่งฟางฉยงได้ยินคำพูดของไป๋ฝูซาน มุมปากของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยันดวงตาของเขาฉายแววเย็นชา จากนั้นก็เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมว่า “ข้าบอกเจ้าเลยว่าคนอย่างเจ้ามีชีวิตอยู่ก็เหมือนเศษสวะ!”“ข้าสามารถกำจัดคนอย่างเจ้าได้ในพริบตาเดียว หากเจ้ากล้าล่วงเกินข้า ก็จงเตรียมตัวรอรับความตายได้เลย”“หยุดพูดเหลวไหลสักที มาเริ่มกันเถิด ตอนนี้ทุกนาทีที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ก็เท่ากับเป็นการเสียเวลาเปล่า!”“ขยะอย่างเจ้า ข้าฟันทีเดียวก็ตายแล้ว จะไม่ให้เจ้ามีโอกาสได้พูดอีกต่อไป!”ทั้งสองฝ่ายกำลังจะต่อสู้กัน แต่การด่าทอและการโจมตีทางวาจาก็ยังไม่ยอมหยุด!ตอนนี้ไป๋ฝ
สีหน้าของไป๋ฝูซานดูไม่สู้ดีนัก!ทั่วทั้งร่างของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยว!เมื่อถูกเซิ่งฟางฉยงคอยยั่วยุเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็กลั้นความโกรธและความหงุดหงิดเอาไว้ไม่อยู่ เขาชูดาบในมือขึ้น ฟันลงไปที่ไป๋ฝูซานอย่างแรงด้วยความโกรธแค้น!“เซิ่งฟางฉยง เจ้าเฒ่าไร้ค่าปากสกปรกดีแต่พูด ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตายในวันนี้!”ตอนนี้ความโกรธแค้นที่รุนแรงนับไม่ถ้วนถาโถมเข้ามาในทันที!ดวงตาของเขาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยเปลวไฟที่ลุกไหม้ และโทสะที่แผ่ขยายออกไปอย่างรุนแรง!เหล่าทหารนับไม่ถ้วนต่างก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ!สีหน้าของพวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร จากนั้นก็มองไป๋ฝูซานโดยไม่รู้ตัว!แต่ไป๋ฝูซานไม่ยอมแพ้ เมื่อเผชิญกับการดูถูกและการยั่วยุของเซิ่งฟางฉยง เขาเหมือนกับทนกินดินปืนไปหลายจิน พร้อมที่จะระเบิดความโกรธออกมา เขาเงื้อดาบในมือขึ้นมารวดเร็วด้วยความโกรธแค้นเต็มหัวใจ แล้วฟาดฟันไปที่เซิ่งฟางฉยงอย่างแรง!“อ๊ากกก!”“ฆ่ามัน!”เสียงคำรามนับไม่ถ้วนดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องกึกก้องไปทั่วในทันที!ในไม่ช้าบริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยภูเขาซากศพและทะ
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็พูดกับไป๋ฝูซานด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัย “แม่ทัพไป๋ ข้าได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากในระยะไกล และยังมีเสียงม้าวิ่งมาอีกด้วย...”รองแม่ทัพยิ่งพูด สีหน้าก็ยิ่งตื่นตระหนกออกมาอย่างชัดเจน!จู่ ๆ เขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ หายใจหอบถี่ สีหน้าไม่เชื่อพลันเปลี่ยนเป็นตกใจมากในทันที!ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยและความตกใจ จากนั้นพูดด้วยสีหน้าหวาดผวาอย่างมาก “ข้า... จบแล้วขอรับ แม่ทัพไป๋ ดูเหมือนว่ากองหนุนของเซิ่งฟางฉยงจะมาแล้วกระมัง?”เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ไป๋ฝูซานในเวลานี้ก็มีสีหน้าไม่เชื่อ!เขาตกใจจนพูดไม่ออก รู้สึกหายใจไม่ทัน สีหน้ากังวลและตัวสั่นเทาอย่างรุนแรง!“แย่แล้ว รีบถอย รีบถอยทัพ!”เสียงตะโกนดังขึ้นทีละเสียงในทันที!เหล่าทหารที่อยู่ข้าง ๆ ก็ราวกับจะคลุ้มคลั่งเหมือนกับคนบ้า!พวกเขาวิ่งถอยทัพไปอย่างบ้าคลั่งทีละคน เซิ่งฟางฉยงมีดวงตาที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม เขาตะโกนบอกเหล่าทหารที่อยู่ข้างหลังอย่างบ้าคลั่ง “เหล่าทหารทั้งหลาย!”“พวกเจ้าจงดูเถิด คนกลุ่มนี้พ่ายแพ้ให้กับเราทีละคนแล้ว ตอนนี้เราควรจะไล่สังหารพวกขยะเหล่านี้ให้สิ้นซาก
“แต่น่าเสียดายที่วีรบุรุษเช่นเจ้ากลับติดตามเจ้านายที่ไม่คู่ควร จึงต้องมาพบจุดจบเช่นนี้!”“ข้าขอเตือนอีกครั้ง หากเจ้ายินดีมาอยู่กับข้าหรือบอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ ข้าก็จะไม่ทำร้ายเจ้าอีก!”หลิ่วหรูเยียนไม่เอ่ยคำใดแค่นี้ก็สาสมแล้วลั่วเฉินน่าสงสารยิ่งกว่าโอวหยางอวี่ อย่างน้อยโอวหยางอวี่ยังได้ตายอย่างรวดเร็ว!แต่ลั่วเฉินเล่า?ตอนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด สภาพของเขาย่ำแย่มาก มีลมหายใจอยู่ก็เหมือนรอวันตายการมีชีวิตอยู่ยังทรมานยิ่งกว่าการตาย!“เลิกคิดเถิด!”“ข้าจะไม่ยอมแพ้!”ลั่วเฉินใช้แรงเฮือกสุดท้ายตะโกนด้วยความโกรธ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตามใจเจ้า”“ข้าอยากรู้ว่ากระดูกเจ้าจะแข็งได้สักกี่น้ำ”พูดจบหวังหยวนก็ไม่เสียเวลากับลั่วเฉิน พาหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากคุกระหว่างทาง ทั้งสองไม่ได้หันไปมองตานสยงเฟยต่อไปแค่เค้นถามลั่วเฉินก็พอแล้ว หากไม่ได้ผลค่อยไปหาตานสยงเฟย!เพราะตานสยงเฟยจัดการยากกว่าลั่วเฉินมาก!ตานสยงเฟยรู้ดีว่าที่ซ่อนทรัพย์สมบัติคือเครื่องช่วยชีวิตของเขา ตราบใดที่เขายังปากแข็ง หวังหยวนก็ไม่อาจทำอะไรเขาได้!นี่คือประโยชน์อย่างเดียวของเขา!เขาต้องเก็บไพ่ตายใบนี้ไว้ ไม
“อะแฮ่ม”หวังหยวนกระแอม แล้วรีบแต่งตัว ไม่ได้ตอบคำถามของหลิ่วหรูเยียนจะให้เขาตอบเช่นไร?หรือว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ?แต่เมื่อนึกถึงภรรยาหลายคนที่บ้านก็รู้สึกหนักใจ เพิ่งจะแต่งงานกับเสวี่ยเชียนหลงยังไม่ถึงปี ก็มีหญิงงามมาเพิ่มอีกคน แล้วจะอธิบายกับภรรยาอย่างไร!แต่จะเดินจากไปง่าย ๆ เลยก็คงไม่ดีหรือไม่?หวังหยวนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงต้องตัดสินใจในภายหลัง“จริงสิ”“ข้าต้องไปที่คุก เจ้าจะไปด้วยกันหรือไม่?”หวังหยวนมองหลิ่วหรูเยียน แล้วเอ่ยถาม“แน่นอน!”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าอยากเห็นลั่วเฉินถูกทรมานเพื่อระบายความแค้น!”ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคุกต่งอวี่รีบเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นหวังหยวนก็โค้งคำนับ แล้วกล่าวว่า“ท่านผู้นำ!”“เมื่อคืนข้าอยู่ที่นี่ตลอด ใช้บทลงโทษต่าง ๆ นานากับลั่วเฉินจนเขาบาดเจ็บสาหัส แต่เขากลับปากแข็งไม่ยอมปริปากเลยขอรับ!”“หากไม่ใช่เพราะเขาใกล้จะตายเต็มทน เราคงไม่ปล่อยให้เขาพักหรอกขอรับ”ต่งอวี่กล่าวด้วยความโกรธช่างน่าโมโหนัก!เขาใช้ความอำมหิตไปเกือบหมดแล้ว แต่ลั่วเฉินก็ยังปากแข็ง!ปากอย่างกับแม่กุญแจ!ยากที่จะแงะออกจริงๆ!เขารู้สึกหนัก
ต่งอวี่รับคำแล้วพาลั่วเฉินไปที่คุกก็แค่พวกกระดูกแข็งเท่านั้น!หากใช้การทรมานเข้าช่วยก็ไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครทนได้ กระดูกจะแข็งเพียงใดกัน?หากทนได้ แสดงว่าแค่ทรมานไม่มากพอ!“ข้าคิดว่าเขาคงไม่ยอมเปิดปาก”“แม้ว่าท่านจะฆ่าเขา เขาก็คงไม่บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติ”หลิ่วหรูเยียนเดินไปข้างหวังหยวน มองคนพาตัวลั่วเฉินออกไป แล้วกล่าวต่อว่า “เขาไม่ใช่คนอย่างโอวหยางอวี่ นับว่าเป็นขุนพลที่กล้าหาญและซื่อสัตย์“หวังหยวนพยักหน้า เขาจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?แต่จำต้องลองดูสักครั้ง“เจ้าจัดการโอวหยางอวี่ไปแล้วหรือ?”หวังหยวนเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามด้วยรอยยิ้ม“ใช่แล้ว”“เขายังหวังจะให้นึกถึงความสัมพันธ์ในอดีต ใช้คำพูดโน้มน้าวข้า แต่น่าเสียดายตอนนี้ใจข้าแข็งดั่งหิน ต้องการแค่ล้างแค้นให้บิดามารดา ทวงความยุติธรรมให้พวกท่านเท่านั้น!”“ในสายตาข้า ชีวิตคนของพรรคทมิฬไร้ค่า!”“ไม่ต้องพูดถึงโอวหยางอวี่ แม้แต่ตานสยงเฟย ข้าก็จะฆ่าเขา!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวอย่างหนักแน่นความแค้นในการฆ่าบิดาไม่อาจลืมเลือน จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?หวังหยวนยกยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้ากล่าวว่า “เช่นนั้นก็ดี”“แต่หล
“เพียะ เพียะ เพียะ!”หลิ่วหรูเยียนไม่พูด เพียงแค่ยกมือขึ้นตบหน้าโอวหยางอวี่หลายครั้งจนหน้าบวมปูด!ทหารหลายคนที่อยู่ข้าง ๆ ต่างมองโอวหยางอวี่ด้วยสายตาเย็นชาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะตัวเขาเอง!แต่ต้องยอมรับว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นสตรีที่แข็งแกร่ง ไม่ควรไปยั่วยุนาง!“เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ข้าจึงจะให้เจ้าตายอย่างสงบ!”“ไม่เช่นนั้นข้าจะทรมานเจ้าให้การมีชีวิตยังดีกว่าตาย!”หลิ่วหรูเยียนกล่าวด้วยความโกรธแค้นคนของพรรคทมิฬล้วนไม่ใช่คนดีสักคน ฆ่าทิ้งก็สิ้นเรื่อง!ตอนนี้นางแค่อยากฆ่าคนระดับสูงของพรรคทมิฬให้หมด!“น้องหรูเยียน...”โอวหยางอวี่ตะโกนอีกครั้ง แต่หลิ่วหรูเยียนลงดาบตัดหัวเขาขาดในดาบเดียว!คนชั่วช้าคนหนึ่งจบชีวิตลง!“หัวหน้าองครักษ์คนหนึ่งจากในสี่คน! ก็แค่นี้!”หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจ ไม่เอ่ยคำใด นางโยนดาบทิ้ง แล้วเดินไปหาหวังหยวนตอนนี้หวังหยวนกำลังเผชิญหน้ากับลั่วเฉิน“หรูเยียนกลับมาแล้ว โอวหยางอวี่คงตายแล้ว”“คนเช่นนั้น ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”หวังหยวนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มลั่วเฉินหัวเราะลั่น แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว! คนทรยศ ขี้ขลาดเช่นนั้น ไม่ฆ่าเขา แล้วจะฆ่าใคร?”“เ
“เท่าที่ข้ารู้ พรรคทมิฬมีทรัพย์สมบัติมากมาย!”“วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามาก็เพื่อถามว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นอยู่ที่ใด?”“ก่อนที่ข้าจะบุกหน้าผา ได้ยินว่าของพวกนั้นถูกขนย้ายไปแล้วจริงหรือไม่?”หวังหยวนมองไปที่โอวหยางอวี่ แล้วถามตรงประเด็นโอวหยางอวี่พูดไม่ออก ได้แต่อ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่เอ่ยคำใด“ฮ่าฮ่าฮ่า!”ลั่วเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หัวเราะลั่น“โอวหยางอวี่!”“เจ้าคิดว่าท่านประมุขไม่รู้ความทะเยอทะยานของเจ้าหรือ?”“เรื่องสำคัญเช่นนี้ จะบอกคนชั่วเช่นเจ้าได้อย่างไร?”“ตอนนี้แม้ว่าเจ้าจะประจบสอพลอก็คงไม่มีโอกาสแล้วกระมัง?”นี่...โอวหยางอวี่รู้สึกจนใจ หน้าแดงก่ำ เขาไม่รู้ที่ซ่อนทรัพย์สมบัติจริง ๆ!ไม่เช่นนั้นเขาคงบอกหวังหยวนไปแล้วเพื่อเอาชีวิตรอด!หวังหยวนจะมองความคิดของโอวหยางอวี่ไม่ออกได้อย่างไร?เขาหรี่ตาลง ก่อนจะเตะโอวหยางอวี่ แล้วหันไปพยักหน้าให้หลิ่วหรูเยียน เขาชี้ไปที่โอวหยางอวี่ แล้วกล่าวว่า “คนผู้นี้ไร้ประโยชน์ เจ้าจัดการเขาเถิด!”“จะปล่อยเขาไปหรือจะฆ่าเขาก็สุดแล้วแต่เจ้า ไม่ต้องถามข้า!”หลิ่วหรูเยียนดีใจ รู้สึกซาบซึ้งใจมากส่วนโอวหยางอวี่กลับมีสีหน้าหวาดกลัว รีบ
“ได้เลย!”หวังหยวนยิ้มอย่างพึงพอใจ จากนั้นจึงพาหลิ่วหรูเยียนไปยังสวนหลังบ้านเนื่องจากงานเลี้ยงยังไม่เลิก ทุกคนยังคงดื่มกินอย่างสนุกสนาน หวังหยวนจึงใช้สวนหลังบ้านเป็นสถานที่สอบสวนไม่นานต่งอวี่ก็พาโอวหยางอวี่และลั่วเฉินมา ข้างหลังพวกเขามีทหารหลายคน“ท่านหวัง!”“ท่านโปรดอย่าทำร้ายข้าเลย!”“ก่อนหน้านี้ข้าตาบอด จึงได้ไปอยู่กับตานสยงเฟย แต่ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว หากท่านให้โอกาสข้า ต่อไปข้ายินดีรับใช้ท่านให้ดีที่สุดขอรับ!”“หากท่านไม่ต้องการใช้ข้าก็ปล่อยข้าไปเถิด ข้าจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าท่าน และจะไม่สร้างความเดือดร้อนใด ๆ ให้ท่านแน่นอนขอรับ!”โอวหยางอวี่รีบคุกเข่าลงอ้อนวอนขอความเมตตา!ครั้งก่อน แม้แต่ตอนอยู่บนหน้าผา เขาก็หมดอำนาจแล้ว ได้แต่ถูกขังอยู่ในห้องทุกวันแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพราะหวังหยวน แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้เขาเป็นนักโทษ หากไม่สามารถพูดโน้มน้าวหวังหยวนได้ ต่อไปเขาก็คงมีแต่ต้องตายเท่านั้น!วันชื่นคืนสุขผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว!หลิ่วหรูเยียนพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ ช่างเป็นคนขี้ขลาดนัก!เพิ่งจะพบหน้ากันก็คุกเข่าขอความเมตตาแล้วหรือ?ครั้งก
หวังหยวนเดินไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วถามด้วยรอยยิ้ม“ข้าจำได้”“เพียงแต่...”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีลังเล ครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า “เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้ต่างจากตอนนั้น ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลและรู้จักกาลเทศะ!”“ในเมื่อตานสยงเฟยมีประโยชน์ต่อท่าน ข้าจะฆ่าเขาเพื่อความสาแก่ใจเพียงครู่เดียวได้อย่างไร?”สุดท้ายหลิ่วหรูเยียนก็รีบวิ่งออกไป ไม่อยากเห็นหน้าตานสยงเฟยอีก!ไม่เช่นนั้นนางเกรงว่าตนเองจะอดใจไม่ไหว ลงมือฆ่าเขาจนทำลายแผนการของหวังหยวน!“เจ้าช่างโชคดี”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรักษาหัวไว้บนบ่าได้”หวังหยวนมองตานสยงเฟยด้วยสายตาเย็นชา ไม่ได้เอ่ยคำใด แล้วเดินออกไปข้างหลังมีเพียงเสียงหัวเราะอันน่ารังเกียจของตานสยงเฟยในเมื่อเขามีไพ่ตายอยู่ในมือก็ไม่ต้องกลัวตาย!สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเป็นอิสระ!...“ช้าก่อน!”หลังจากออกจากคุกแล้ว หวังหยวนก็รีบวิ่งตามหลิ่วหรูเยียนไปหลิ่วหรูเยียนหันกลับมามองหวังหยวน แล้วถามด้วยความสงสัยว่า “มีเรื่องอะไรอีกหรือ?”“ข้าแค่อยากถามเจ้าว่า ในบรรดาคนของพรรคทมิฬที่พวกเราจับมาได้มีคนระดับสูงคนอื่น ๆ อีกหรือไม่?”พรรคทมิฬมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มีสาวกมากมาย แสดงว่าคงคนม
ทันใดนั้น ตานสยงเฟยก็หัวเราะลั่น ปรากฏว่าเป็นเช่นนี้เอง!“ดูเหมือนว่าข้ายังมีประโยชน์อยู่บ้าง สิ่งที่เจ้าต้องการคือทรัพย์สมบัติของข้างั้นหรือ?”“แต่ก็ดี พวกเรามาทำข้อตกลงกัน!”“หากเจ้าปล่อยข้าไป ทรัพย์สมบัติและทรัพยากรทั้งหมดของข้าจะเป็นของเจ้า แต่หากเจ้าไม่ยอมรับข้อเสนอ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งเหล่านั้น!”ตานสยงเฟยกล่าว พร้อมกับจ้องหน้าหวังหยวน“จริงสิ”“หลิ่วหรูเยียนกลายเป็นคนของเจ้าแล้ว หากเจ้าไม่เชื่อคำพูดข้าก็ลองถามนางดู ว่าทรัพย์สมบัติของข้ามากมายมหาศาลจริงหรือไม่!”“ถามดูก็รู้ผล!”ตานสยงเฟยกล่าวอย่างมั่นใจเหตุผลที่เขาสามารถสร้างพรรคทมิฬและรวบรวมสาวกมากมายจนมีอิทธิพลในดินแดนทั้งเก้าได้ ก็เพราะเขามีทรัพย์สมบัติมหาศาล!แม้ว่าจะเทียบกับหวังหยวนไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!อย่างน้อยในดินแดนทั้งเก้าก็ยังมีที่ให้เขายืนหยัดในฐานะผู้นำ!หลิ่วหรูเยียนที่ยืนอยู่ข้างหลังหวังหยวนกำหมัดแน่น ไม่เอ่ยคำใด แต่ทุกคนต่างก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของนาง!ความแค้นเพราะบิดาถูกสังหารนั้นไม่อาจลืมเลือน!ศัตรูอยู่ตรงหน้า แต่นางกลับทำอะไรไม่ได้ ช่างไร้ความสามารถ!“เขาพูดจริงหรือ?”
หลายปีมานี้นางเชื่อคำพูดของตานสยงเฟยมาโดยตลอด คิดว่าตัวเองเป็นเด็กกำพร้า แม้กระทั่งเกลียดชังบิดามารดาของตนเองด้วยซ้ำ!เหตุใดพวกเขาจึงทอดทิ้งนาง?ทำให้นางต้องระหกระเหินมานานหลายปี!แต่ทั้งหมดนี้กลับเป็นคำโกหกของตานสยงเฟย บิดามารดาของนางไม่ได้ทอดทิ้งนาง แต่ถูกตานสยงเฟยฆ่าตายต่างหาก!บัดนี้เมื่อความจริงปรากฏ นางจึงอยากไปเคารพหลุมศพของพวกเขา!เป็นการแสดงความกตัญญูและทำให้หมดห่วง“เป็นเช่นนี้เอง”หวังหยวนพยักหน้า“ได้!”“ในเมื่อเจ้าต้องการเช่นนั้น ข้าจะพาเจ้าไปที่คุกเอง”“เพื่อป้องกันไม่ให้ตานสยงเฟยใช้อุบายอันใด”หลิ่วหรูเยียนมีท่าทีแปลกไป อาจจะถูกตานสยงเฟยชักจูงได้หลิ่วหรูเยียนไม่ได้ปฏิเสธ นางพยักหน้า หวังหยวนจึงพานางไปที่คุกที่จวน ทุกคนยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน!ภายในคุกเนื่องจากตานสยงเฟยและพรรคพวกล้วนเป็นคนชั่ว หวังหยวนจึงสั่งให้ขังพวกเขาไว้ที่ชั้นใต้ดินของคุกที่นี่มักจะใช้ขังนักโทษอุกฉกรรจ์ยิ่งไปกว่านั้น การจะหนีออกไปจากที่นี่ก็ช่างยากเย็นพอ ๆ กับการปีนสู่สวรรค์!“หวังหยวน!”“ข้าสำนึกผิดแล้ว ขอท่านปล่อยข้าไปเถิด!”“ต่อไปนี้ข้ายินดีอยู่เคียงข้างรับใช้ท่าน!”“