Share

บทที่ 1464

Penulis: ชวินเป่ยอี๋
“ไม่คิดว่าจะมีหมาป่าที่ไม่ฉลาดตัวหนึ่งจริง ๆ ปกติแล้วหมาป่ามักจะฉลาดและเจ้าเล่ห์มาตั้งแต่เกิด แต่กลับให้กำเนิดลูกหมาป่าโง่เขลาเช่นนี้”

หวังหยวนบ่นพึมพำเบา ๆ แล้วค่อย ๆ ดึงเชือกเส้นนั้นเข้ามา หมูย่างจึงใกล้ตัวเขามากขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อลูกหมาป่าตัวนั้นเกือบจะงับหมูย่าง จู่ ๆ แม่หมาป่าขาวก็ลืมตาตื่นขึ้นมา

เมื่อเห็นหมูย่างที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันจึงเกิดความสงสัย รีบกระโดดเข้าไปคาบลูกหมาป่าขาวแล้วโยนกลับไป

คราวนี้แย่แล้ว แม่หมาป่าขาวคงไม่ยอมปล่อยไปง่ายดายแน่นอน มันค่อย ๆ เดินเข้าไปหาหมูย่าง แล้วก็เห็นเชือกเส้นนั้นที่ผูกติดอยู่!

“กรรซ์!”

แม่หมาป่าขาวส่งเสียงคำรามขึ้นฟ้า เสียงคำรามนี้เป็นการเตือนหวังหยวนไม่ให้ก้าวเข้ามาอีก และไม่ให้ทำร้ายลูก ๆ ของมัน

แต่ตอนนี้แม่หมาป่าขาวอยู่ในช่วงที่อ่อนแอ มันสามารถรับรู้ได้ถึงระดับพลังยุทธ์ของหวังหยวน จึงรับรู้ได้ถึงความน่ากลัวของหวังหยวนด้วย มันจึงไม่ไม่กล้าเอาชีวิตของตนเองและลูก ๆ มาเสี่ยง!

เมื่อหวังหยวนเตรียมจะถอยหนีก็มีเสียงดังกึกก้องดังมาจากนอกถ้ำ ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างโจมตีถ้ำนี้ จากนั้นถ้ำก็เริ่มพังทลายลงมาในทันที

แม่หมาป่าขาวไม่ห่วงชีวิตต
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (1)
goodnovel comment avatar
Pongprom
Why you selling unfinished book? It took too long to wait
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1465

    ทว่าพละกำลังของเด็กหนุ่มผู้นี้กลับมหาศาล เพียงกระบวนท่าเดียวก็สามารถทลายหินก้อนใหญ่ที่ขวางหน้าจนแหลกละเอียดได้“ฮึ่ม! อย่าได้ขลาดกลัวเหมือนหนูที่คอยหลบซ่อนอยู่เช่นนี้เลย ข้ารู้สึกน่าเบื่อหน่ายนัก เจ้าไม่ได้เอาชนะนายน้อยตระกูลเจิ้งไปแล้วหรอกหรือ? เหตุใดเมื่อมาเผชิญหน้ากับข้าจึงอ่อนแอเช่นนี้เล่า?”เด็กหนุ่มผู้นี้ร่อนสู่พื้นอย่างมั่นคงพลางถือดาบประจำกายไว้ในมือเขาจ้องมองหวังหยวนด้วยแววตาเหยียดหยาม หวังให้หวังหยวนใช้พลังทั้งหมดเมื่อต่อสู้กับเขา ไม่เช่นนั้นเขาจะรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับการให้ความสำคัญหวังหยวนไม่ได้ปรารถนาจะต่อสู้กับเขา จึงคิดจะอธิบายเหตุผลให้กระจ่างทว่าเด็กหนุ่มผู้นี้กลับโจมตีเข้ามาอีกครั้ง และทุกการโจมตีล้วนตรงไปยังจุดสำคัญของเขา มุ่งหมายจะเอาชีวิตเขาให้ได้ ช่างอำมหิตยิ่งนัก!“พวกเจ้าเหล่าคนจากแปดตระกูลใหญ่ไม่เคยรับฟังคำพูดของผู้อื่นบ้างเลยหรือไร? หรือว่าหูหนวก? บางทีอาจจะไร้สมองมากกว่า เหตุใดข้าจะไม่สามารถอยู่รอดในป่ามรณะเพียงลำพังได้สามวัน สำหรับพวกเจ้าแล้วอาจเป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับข้าผู้ผ่านประสบการณ์มามากมายแล้วย่อมเป็นเรื่องง่ายดาย”หวังหยวนก็รู้สึกหงุดหงิดเพรา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1466

    แม้ว่ามันจะไม่รู้ว่าชายผู้นั้นเป็นใคร แต่เขาก็ช่วยให้พวกมันรอดพ้นจากอันตรายมาได้หากวันหน้าได้พบกันอีกครั้ง มันจะต้องตอบแทนบุญคุณชายที่ช่วยชีวิตมันให้ได้!ขณะที่หมาป่าขาวกำลังคาบลูก ๆ ของตนเตรียมจะหนีออกไป องครักษ์ที่อยู่ด้านข้างก็สังเกตเห็นพวกมันจึงรีบขวางทางไว้แม้ว่าหมาป่าขาวจะมีพละกำลังมาก แต่ก็มีเพียงตัวเดียว ลูก ๆ ของมันยังเล็กเกินกว่าจะเข้าร่วมต่อสู้ได้ หากต้องต่อสู้กับปรมาจารย์หลายคนเช่นนี้ก็คงเป็นเรื่องยาก“กรรซ์! กรรซ์!”หมาป่าขาวส่งเสียงคำรามเตือนผู้คนเหล่านี้ว่าอย่าได้ก้าวเข้ามาอีก และอย่าได้ทำร้ายพวกมัน ไม่เช่นนั้นจะต้องต่อสู้กับมันจนตัวตาย“ฮ่าฮ่าฮ่า! หมาป่าขาวตัวนี้ช่างงดงามนัก หากแม่มันตายไปตัวหนึ่ง ตัวลูกก็คงจะอยู่ต่อกันได้ใช่หรือไม่? หรือเราจะบอกนายน้อยว่าลูกหมาป่าสามตัวนี้ตายไปสองตัว แล้วเราเก็บไว้เองสองตัวก็คงไม่เป็นอะไร!”หัวหน้าองครักษ์เกิดความโลภ เขาคิดจะฆ่าแม่หมาป่าขาวแล้วเลี้ยงลูกหมาป่าไว้สองตัว จากนั้นก็มอบตัวหนึ่งให้กับนายน้อยแม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงองครักษ์ แต่ก็มีวิทยายุทธ์ที่เก่งกาจไม่แพ้หวังหยวน พวกเขาทั้งหลายล้วนเป็นปรมาจารย์ขั้นต้น การต่อสู้กับห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1467

    สายตาของหวังหยวนเย็นชา เขามองไปยังผู้ไม่เกรงกลัวความตายเหล่านี้ จากนั้นมือของเขาก็ค่อย ๆ ออกแรงมากขึ้นนายน้อยเริ่มกลอกตาไปมา มีอาการหายใจไม่ออกเล็กน้อย“อย่าทำร้ายนายน้อยเลย เจ้าต้องการอะไร พวกข้าจะให้ทั้งหมด ขอเพียงปล่อยนายน้อยของพวกข้าไป เมื่อกลับไปแล้วพวกข้าจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น แน่นอนว่าจะไม่ตามรังควานเจ้าอีกแล้วด้วย โปรดปล่อยนายน้อยของพวกข้าไปเถิด!”นายน้อยได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้ แต่เหล่าองครักษ์กลับสนใจเพียงความโลภของตนเองหากกลับไปแล้วถูกใต้เท้าหวังตำหนิ ต่อให้พวกเขาจะต้องเอาชีวิตทั้งครอบครัวมาชดใช้ก็คงไม่เพียงพอ!ตอนนี้คงทำได้เพียงแค่ทำให้หวังหยวนสงบลง แล้วปกป้องชีวิตของนายน้อยไว้ให้ได้ก่อน“ให้ข้าปล่อยเขาไปก็ได้ แต่พวกเจ้าห้ามคิดจะทำร้ายหมาป่าขาวเหล่านั้นอีก ตอนนี้รีบออกไปจากป่ามรณะเดี๋ยวนี้ แล้วอย่าให้ข้าได้เห็นพวกเจ้าอีก ถ้าหากข้าเจอนายน้อยของพวกเจ้าอีก ข้าจะฆ่าเขาให้ตาย!”หวังหยวนเองก็ไม่อยากให้ตนเองและตระกูลเสวี่ยต้องเดือดร้อน จึงไม่อาจลงมือสังหารนายน้อยได้โดยง่ายก่อนหน้านี้ก็เพียงแค่ขู่ให้กลัวเพื่อให้เขาได้เรียนรู้บทเรียนเท่านั้น“ได้ ได้ ได้! พวกเราจะไม่พูดเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1468

    เขาเดินไปหาหมาป่าขาวช้า ๆ“หงิงหงิง...” อาจเป็นเพราะได้รับการช่วยเหลือจากหวังหยวนถึงสองครั้ง แม่หมาป่าจึงลดความระแวดระวังที่มีต่อหวังหยวนลงไปเสียงร้องของมันครั้งนี้ไม่เหมือนกับเสียงเห่าหรือขู่อย่างดุร้ายก่อนหน้านี้ กลับมีนัยของการอ้อนวอนขอความช่วยเหลือที่แฝงอยู่หวังหยวนมองไปที่แม่หมาป่า บาดแผลของมันรุนแรงเกินไป เกรงว่าจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงวันพรุ่งนี้แล้ว แต่ข้างตัวมันยังมีลูกน้อยสามตัวที่กำลังหิวโหยหวังหยวนอยากจะช่วยเหลือมันมาก แต่ตอนนี้เขายังอยู่ในช่วงทดสอบ ไม่มีสมุนไพรใด ๆ ติดตัวเลย มีเพียงเครื่องมือธรรมดาสามชิ้นเท่านั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถช่วยชีวิตมันได้ แม้แต่ช่วยพันแผลให้มันก็ยังทำไม่ได้เลย“ขอโทษนะ ข้าไม่สามารถช่วยชีวิตเจ้าได้”หมาป่าเหล่านี้ล้วนมีความฉลาดเฉลียว พวกมันจึงเข้าใจในสิ่งที่หวังหยวนพูดมันมองไปที่ลูก ๆ ของตนเองด้วยความเจ็บปวด ลูกของมันยังไม่โต ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องการการดูแล หากมันจากไปแล้ว ลูก ๆ ของมันจะทำอย่างไรหวังหยวนเข้าใจว่ามันคิดอะไรอยู่แม้จะไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ แต่เขาก็ไม่ต้องการเห็นลูกหมาป่าสามตัวนี้ตายไป เพราะพวกมันฉล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1469

    หวังหยวนอุ้มลูกหมาป่าตัวน้อยไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างลูบหัวของเสวี่ยเชียนหลงเบา ๆ“อืม ไปกันเถิด”ทั้งสามคนกลับมายังจวนเสวี่ยพร้อมกัน ผู้นำของแปดตระกูลใหญ่และเสวี่ยโส่วจุนรอคอยพวกเขามานานแล้ว ทุกคนนั่งอยู่ในห้องประชุมหวังหยวนส่งลูกหมาป่าให้เสวี่ยเชียนหลง แล้วตบหลังมือของนางเบา ๆ เป็นสัญญาณว่าไม่ต้องกังวล เขาจะรีบกลับมา จากนั้นเดินตามนักพรตชิงอีไปเมื่อมาถึงหน้าห้องประชุม“ไม่ต้องกังวล ผ่อนคลายเข้าไว้ เมื่อผ่านการทดสอบแล้ว นับจากวันนี้เจ้าก็เป็นศิษย์ของข้าแล้ว เราจะวางตัวกันตามสถานการณ์ หากอยู่ข้างนอกเจ้าก็เรียกข้าว่าอาจารย์ แต่เมื่ออยู่กันตามลำพัง เจ้าค่อยเรียกข้าว่าพี่ชายได้”พี่ชิงอียักคิ้วให้หวังหยวน หวังหยวนพยักหน้า จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไป ทั้งสองคนเดินเข้าไปด้วยกันในห้องประชุมมีโต๊ะขนาดใหญ่ มีผู้นำแปดตระกูลนั่งอยู่ข้าง ๆ ส่วนด้านหน้าสุดคือเสวี่ยโส่วจุนเมื่อเห็นหวังหยวนเข้ามา เสวี่ยโส่วจุนก็ลุกขึ้นยืนทันที“หวังหยวน ขอแสดงความยินดีที่เจ้าผ่านการทดสอบทั้งสามขั้นตอน เจ้าพิสูจน์ให้พวกเราเห็นแล้วว่าเจ้ามีความสามารถ นับจากวันนี้เจ้าคือศิษย์ของนักพรตชิงอีและเป็นสมาชิก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1470

    ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจหวังหยวนเช่นกัน แต่ก็จะไม่ทำตัวแย่เหมือนกับคนตระกูลหวังตอนนี้ผู้นำตระกูลหวังเถียงไม่ออกแล้ว สีหน้าของเสวี่ยโส่วจุนยิ่งแย่ลงไปอีก เขาตบโต๊ะทันที“พอแล้ว! ไม่ต้องพูดเรื่องนี้อีกต่อไป เมื่อผู้นำตระกูลหวังกลับไปแล้ว ขอให้สั่งสอนลูกชายคนเล็กของตนเองให้ดี ไม่เช่นนั้นก็ต้องปล่อยให้คนอื่นมาช่วยสั่งสอนแทนแล้ว!”เสวี่ยโส่วจุนไม่สามารถเผชิญหน้ากับคนของแปดตระกูลใหญ่ได้โดยตรง ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีนี้เพื่อเตือนผู้นำตระกูลหวัง“รับทราบขอรับ”ผู้นำตระกูลหวังก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความหงุดหงิดเมื่อเขาหันไปมองหวังหยวน ความแค้นในดวงตาของเขาไม่อาจซ่อนเร้นได้แต่หวังหยวนเพียงแค่ยิ้มเยาะอย่างไม่ใส่ใจเรื่องราวในวันนี้จะแพร่กระจายไปทั่วทั้งเทียนไว่เทียนต่างรู้กันว่าหวังหยวนได้ผ่านการทดสอบสามขั้นตอน ที่เสนอโดยแปดตระกูลใหญ่และเสวี่ยโส่วจุนสำเร็จแล้ว เขากลายเป็นศิษย์คนแรกจากโลกมนุษย์ที่เข้าร่วมเทียนไว่เทียน!“ไม่คิดว่าหวังหยวนจะประสบความสำเร็จจริง ๆ! แต่บทกวีของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก ครั้งแรกที่ได้ยินบทกวีที่เขาแต่ง ใจของข้าเต้นแรงไปหมด!”“เก่งกาจมากจริง ๆ ผ่าน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1471

    เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ ประโยคเดียวก็ทำให้หัวใจของหวังหยวนรู้สึกอบอุ่นในใจแล้ว จากนั้นเขาก็ยิ้มตอบนางทั้งสองยืนยิ้มให้กันท่ามกลางแสงแดด ขณะที่นักพรตชิงอียืนอยู่ข้าง ๆ และแทบจะทนมองต่อไปไม่ไหว“ข้ายังยืนอยู่ตรงนี้ พวกเจ้าทั้งสองช่วยทำเรื่องเหล่านี้ในที่ลับไม่ได้หรือ”หลังจากได้ยินคำพูดของนักพรตชิงอี ใบหน้าของเสวี่ยเชียนหลงก็แดงก่ำขึ้นมาอีกครั้งช่วงหลังมานี้เหมือนว่านางจะหน้าแดงบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ“ท่านอาจารย์ ท่านพูดอะไรเจ้าคะ ข้าไม่ได้...”เสียงของเสวี่ยเชียนหลงค่อย ๆ เบาลง จนในที่สุดก็ไม่มีเสียงใดเหลือเลยทั้งสามกำลังพูดคุยกันอยู่ ทันใดนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับเสียงห้าว“น้องสาว เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”ผู้มาเยือนคือพี่ชายของเสวี่ยเชียนหลง เขาหมกมุ่นอยู่กับการฝึกเคล็ดวิชาจนแทบไม่ได้กลับบ้าน วันนี้ที่กลับมาก็เพราะได้ยินข่าวว่าผู้ที่สามารถช่วยชีวิตเสวี่ยเชียนหลงได้ ถูกนักพรตชิงอีพากลับมาด้วย เขาจึงมาดูจากที่ได้ยินมาจากข้างนอก เขาได้ยินเรื่องราวมากมาย แต่ก็ต้องรอจนได้พบตัวจริงถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไรเขาได้สอบถามที่อยู่ของหวังหยวนจากคนรับใช้ จากนั้นก็รีบตรงมาทันทีผลก็คือ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1472

    “วางใจเถิด พี่ใหญ่เสวี่ย ข้าจะไม่ยกเชียนหลงให้กับชายอื่นอย่างง่ายดายแน่นอน และพวกเขาก็ช่วยเชียนหลงไม่ได้ด้วย แม้ว่าจะแต่งงานกันแล้วก็จะทำให้เชียนหลงต้องสูญเสียชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์ แม้ว่าในที่สุดข้าจะไม่ชนะการประลองยุทธ์เพื่อหาคู่ ข้าก็จะคิดหาวิธีพาเชียนหลงหนีไปอย่างแน่นอน จะไม่ปล่อยให้นางต้องจบชีวิตลงตรงนี้เป็นแน่!”เมื่อหวังหยวนพูดถ้อยคำเหล่านี้ ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นพี่ใหญ่เสวี่ยรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น แม้ว่าหวังหยวนจะไม่ชนะการประลองยุทธ์เพื่อหาคู่ เขาก็ยังจะพาเชียนหลงหนีไปนี่ก็เป็นสิ่งที่พี่ใหญ่เสวี่ยอยากเห็นเช่นกัน คงเป็นไปตามที่บิดาวางแผนไว้จึงได้ส่งองครักษ์ไปช่วยเหลือหวังหยวนในที่ลับ“ดี ข้าชอบนิสัยเช่นนี้ของเจ้า ข้ารับเจ้าเป็นน้องเขยของข้าแล้ว”พี่ใหญ่เสวี่ยหัวเราะด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็โอบไหล่หวังหยวนแรงขึ้นอีกเล็กน้อยหวังหยวนไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพี่ใหญ่เสวี่ยคิดอย่างไรเมื่อครู่นี้ยังบอกว่าจะไม่ยอมรับเขาเป็นน้องเขย แต่ตอนนี้จู่ ๆ ก็ยอมรับเสียอย่างนั้น“มีอีกเรื่องหนึ่ง ข้ารู้ว่าเจ้ามีภรรยาสามคน ภรรยาสามคนของเจ้าอนุญาตให้เจ้าแต่งงานอีกครั้งได้หรือไม่?”

Bab terbaru

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2257

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2256

    “เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2255

    หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2254

    กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2253

    “เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2252

    การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2251

    “ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2250

    แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2249

    เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status