แชร์

บทที่ 1262

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ อ๋องหลงซีก็ยิ้มอีกครั้ง

“หวังหยวน เจ้าไม่ต้องพูดสุภาพกับข้าเช่นนี้หรอก ข้าอยากรู้ว่าวันนี้เจ้าเรียกข้ามา เจ้าต้องการทดสอบข้าหรือไม่?”

อ๋องหลงซีพูดอีกครั้ง เมื่อเขาพูดจบก็ทำให้หวังหยวนตกใจอีกครั้ง!

ตาเฒ่าคนนี้ช่างฉลาดนัก!

“ฮ่าฮ่าฮ่า อ๋องหลงซี ท่านช่าง... ทำให้ข้าประหลาดใจนัก!”

“ไม่ผิด วันนี้ข้าต้องการทดสอบท่าน!”

“อ๋องหลงซี ข้าอยากรู้ว่าท่านคิดอย่างไร!”

“ไม่ว่าจะเรื่องทำเพื่อไทเฮาของพวกท่าน ปกป้องเมืองหวงหรือว่าท่านมีความคิดอื่น บอกข้ามาตามจริงเถิด!”

หวังหยวนไม่พูดอ้อมค้อมอีกต่อไป เมื่อคำพูดนี้หลุดออกจากปากเขา อ๋องหลงซีก็หรี่ตาลง

“หวังหยวนเอ๋ยหวังหยวน เจ้าทดสอบข้าด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเผด็จการ เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะโกรธหรือ?”

อ๋องหลงซีพูดพลางยิ้ม

“โกรธหรือ? ข้าไม่กลัวหรอก หากท่านโกรธ ข้าก็จะฆ่าท่านทิ้งเสีย!”

หวังหยวนไม่เสียเวลา ชักปืนคาบศิลาออกมาทันที จากนั้นก็ยิงออกไปด้านข้าง!

กระสุนปืนพุ่งเข้าใส่ไหสุราที่อยู่ไกลออกไปจนแตกกระจาย!

ในระยะประชิดเช่นนี้ อ๋องหลงซีไม่มีทางหลบกระสุนปืนของเขาได้อย่างแน่นอน!

เรื่องเช่นนี้ อ๋องหลงซีก็รู้เช่นกัน!

“ปืนดี ข้ารู้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1263

    เมื่ออ๋องหลงซีกล่าวจบ หวังหยวนก็ต้องตกตะลึงไปครู่หนึ่ง!ลืมคิดถึงคนผู้หนึ่งไปงั้นหรือ?ผู้ใดกัน?เหตุใดเขาจึงนึกไม่ออก?“อ๋องหลงซี ขอโปรดไขข้อข้องใจด้วย”ที่หวังหยวนนึกไม่ออกนั้นไม่ใช่เพราะเหตุอื่นใด แต่เพียงเพราะเขารู้จักผู้คนในเมืองหวงแห่งนี้น้อยเกินไป!บุคคลที่ต้องระวังนั้นจะเป็นผู้ใดได้?อ๋องถูหนานหรือ?หากเป็นเช่นนั้นจริงก็คงมีแต่เขาเท่านั้น!“ผู้ที่ต้องระวัง... ก็ยังคงเป็นเจิ้งกุ้ยเหริน!”เมื่ออ๋องหลงซีกล่าวจบ หวังหยวนก็นิ่งอึ้งไปในตอนแรก แต่สักพักก็หัวเราะออกมา“ฮ่าฮ่าฮ่า อ๋องหลงซี ต้องกล่าวว่าท่านช่างรอบรู้และมองการณ์ไกลเสียจริง!”หวังหยวนย่อมเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อ!ปกป้องนาง แต่ก็ต้องระวังนางด้วย!เพราะว่า...ยาพิษในร่างกายของไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ดังนั้นทุกคนในวังชั้นในก็ล้วนตกเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งสิ้นจึงจำเป็นต้องระมัดระวังไว้บ้าง!“เจิ้งกุ้ยเหรินมีความสัมพันธ์อันดีกับไทเฮามาโดยตลอด ทั้งสองเรียกขานกันว่าพี่น้อง ความสัมพันธ์นี้มีรากฐานมาจากสมัยที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีชีวิตอยู่ และก็ยังคงเป็นเช่นนี้มาโดยตลอดหลายปี”“นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1264

    แต่ว่า...กลับไม่ได้ขัดขวางในทันทีและยังพูดประโยคนี้กับเขาอีก อาจจะมีความหมายอื่นแฝงอยู่!“อ๋องหลงซี ดูเหมือนว่าท่านจะต้องการทดสอบเจิ้งกุ้ยเหรินเสียแล้ว!”นั่นคือสิ่งเดียวที่หวังหยวนนึกออกเมื่ออ๋องหลงซีได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา“ผู้ที่รู้จักข้าดีที่สุดก็คือหวังหยวนนั่นเอง ถูกต้องแล้ว ข้าจะทดสอบเจิ้งกุ้ยเหรินผู้นี้!”“จะดูว่าเมื่อถูกอันกุ้ยเหรินใส่ร้าย นางจะใช้วิธีใด!”“หากนางสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ ก็เป็นที่ชัดเจนว่านางมีพลังที่เราคาดไม่ถึง!”“หรือนางอาจแอบลงมือโจมตีอันกุ้ยเหรินเพื่อนำสิทธิ์ที่สูญเสียไปกลับคืนมา”“หรืออาจเป็นไปได้ว่านางไม่มีความสามารถใดเลย และทำได้เพียงร้องไห้คร่ำครวญ!”แผนการของอ๋องหลงซีย่อมล้ำลึกอย่างไม่ต้องสงสัย!แม้แต่หวังหยวนก็ยังต้องตกใจ!จิ้งจอกเฒ่า!ช่างเป็นจิ้งจอกเฒ่าอย่างแท้จริง!“ฮ่าฮ่า ผู้ใดก็ตามที่ได้เข้ามาอยู่ในสายตาของอ๋องหลงซีคงจะลำบากไม่น้อย!”หวังหยวนเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ด้วยวิธีเช่นนี้ หากมีปัญหาใด ๆ ก็คงจะถูกเปิดเผยออกมาจนหมด!อ๋องหลงซีฟังแล้วก็หัวเราะ“หวังหยวน เจ้าชมข้าเกินไปแล้ว ข้าคิดว่าเรื่องนี้คงจะเกิดขึ้นในอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1265

    ไม่นานนักอ๋องทั้งสี่ก็มาถึงตำหนักของเจิ้งกุ้ยเหริน!สำหรับเรื่องเช่นนี้ หวังหยวนและอ๋องหลงซีทราบความจริงอยู่แล้ว จึงทราบว่าคงไม่มีอันตรายใดแก่ไท่จื่อมากนัก จึงไม่ได้กังวลนัก!แต่กลับเป็นอ๋องเจิ้นตงที่แสร้งทำเป็นกังวล!ส่วนอ๋องถูหนานนั้นกังวลมากอย่างแท้จริง จนเดินไปเดินมาด้วยความร้อนใจ!เจิ้งกุ้ยเหรินนั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้าซีดเผือด รู้สึกกังวลยิ่งนัก!ส่วนอันกุ้ยเหรินพ่นลมหายใจเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยความร้ายกาจ!“วันนี้เป็นวันแรกที่ข้าได้พบหน้ากุ้ยเหรินทั้งสอง ข้าคือหวังหยวน ขอถวายบังคม”ขณะนี้หวังหยวนพูดขึ้นแล้วมองดูพวกนางทั้งสอง ขณะประสานมือโค้งคำนับอันกุ้ยเหรินได้ฟังเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาทันที“ได้ยินกิตติศัพท์ของท่านหมิงถันมานานแล้วว่ามีสติปัญญาล้ำเลิศ ครั้นได้พบเจอเช่นนี้ก็ช่างน่าทึ่งนัก”อันกุ้ยเหรินพูดอย่างสุภาพ ส่วนเจิ้งกุ้ยเหรินก็ฝืนใจยิ้ม“ขอถวายบังคมท่านอ๋องเป่ยหลิงเพคะ”ใบหน้าของเจิ้งกุ้ยเหรินแฝงไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน แตกต่างจากอันกุ้ยเหรินที่แฝงไปด้วยความแข็งกร้าวกระนั้นหวังหยวนก็ไม่ได้ตัดสินว่าเจิ้งกุ้ยเหรินเป็นผู้ที่อ่อนแอไร้พิษสงจากเพียงการกระทำนี้!ตร

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1266

    เมื่ออ๋องเจิ้นตงได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “จริงอยู่ เรื่องนี้ต้องจัดการแก้ไขให้เรียบร้อย!”“เจิ้งกุ้ยเหริน พวกเราทั้งสี่เป็นขุนนางผู้ช่วยไท่จื่อแทน แม้จะไม่อาจปกครองวังชั้นในได้ แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเรื่องของวังชั้นในได้เช่นกัน!”“บัดนี้ไท่จื่อประชวรเช่นนี้ เจ้าก็ไม่อาจปฏิเสธการต้องโทษได้ เรื่องนี้ต้องอธิบายให้ชัดเจน!”เมื่ออ๋องเจิ้นตงพูดจบก็มองไปยังหวังหยวน“อ๋องเป่ยหลิง ท่านเห็นว่าอย่างไร?”อ๋องเจิ้นตงถามหวังหยวนตามตรง หวังหยวนได้ฟังแล้วจึงกะพริบตา“เรื่องนี้... เป็นเรื่องภายในวังชั้นใน แม้ข้าจะเป็นขุนนางผู้ช่วยไท่จื่อ แต่แท้จริงแล้วหน้าที่ของข้าคือป้องกันไม่ให้ต้าเย่และต้าเป่ยรุกรานเมืองหวง ส่วนเรื่องภายในวังหลวง ข้าไม่ประสงค์จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากเกินไป”“แต่ว่า... เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องสืบสวนอย่างละเอียด”“เราจะไม่อาจกล่าวโทษเจิ้งกุ้ยเหรินโดยไม่ยุติธรรมได้ และไม่อาจปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวลได้ ไม่ใช่หรือ?”หวังหยวนพูดเช่นนี้ ก็เป็นการเสนอแนะแนวทางที่เป็นกลางเมื่ออ๋องหลงซีได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า“เรื่องนี้ยังต้องสืบสวนให้แน่ชัด หากเป็นเจิ้งกุ้ยเห

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1267

    ถ้อยคำของหวังหยวนนั้นเข้าใจง่าย เจิ้งกุ้ยเหรินสีหน้าไม่สู้ดีนักเมื่อได้ฟัง!นางย่อมรู้ดีว่าหวังหยวนจะสื่ออะไร!หากมีผู้ใดจงใจใส่ร้ายนางจริง ๆ!แล้วหาหลักฐานมายืนยันอีก เมื่อนั้นนางคงถึงคราวอับจนหนทาง!เพราะเป็นการตอกย้ำความผิดนี้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น!สีหน้าของนางจึงไม่สู้ดีนัก!“เจิ้งกุ้ยเหริน ท่านควรไตร่ตรองให้ดีว่าในสองสามวันที่ผ่านมานี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง จงให้ความร่วมมือในการสืบสวน ไม่เช่นนั้นแล้วหากความผิดนี้เป็นที่ประจักษ์ เมื่อไทเฮาเสด็จกลับมาเกรงว่าจะไม่เมตตา!”“อีกทั้ง... หากท่านถูกส่งไปยังตำหนักเย็น ความเป็นความตาย... คงไม่เป็นไปตามที่ท่านปรารถนา!”หวังหยวนกล่าวถ้อยคำเหล่านี้จบก็หันหลังเดินจากไปเขาต้องการบอกให้เจิ้งกุ้ยเหรินรู้ว่าในยามนี้นางกำลังตกอยู่ในอันตราย!นางจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับหลักฐานว่าจะเป็นเช่นไร!หากมีผู้ใดลงมือกระทำการและหลักฐานชี้ไปที่นาง นางก็จบสิ้น!นางถูกใส่ร้ายหรือไม่ นางย่อมรู้ดีกว่าผู้ใด!ดังนั้นในใจของนางย่อมคิดที่จะหาหลักฐานนั้นให้พบในทันที!ทว่าเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย!นางเป็นพระสนมที่ไม่มีอำนาจใด ๆ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1268

    “เป็นอย่างไร มีหลักฐานอยู่ในมือแล้วหรือเปล่า?”หวังหยวนถามอ๋องหลงซีตามตรงอ๋องหลงซียกยิ้มแล้วพยักหน้า“ย่อมได้มาแล้ว ทันทีที่พวกเขาลงมือ ทุกอย่างล้วนอยู่ใต้การควบคุมของข้าทั้งหมดแล้ว!”“รวมถึง... บทสนทนาระหว่างเจ้ากับเจิ้งกุ้ยเหริน!”“ข้าก็รู้แล้ว!”อ๋องหลงซีหัวเราะหวังหยวนก็ยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าเพียงแค่ต้องการบีบบังคับนางเท่านั้น”“แต่ว่าเจิ้งกุ้ยเหรินผู้นี้ฉลาดมาก นึกไม่ถึงว่านางจะคิดได้มากมายเช่นนี้ พูดตามตรงคือข้ารู้สึกตกใจเล็กน้อย!”หวังหยวนกล่าวจบ อ๋องหลงซีก็กล่าวว่า“เป็นธรรมดา เจิ้งกุ้ยเหรินผู้นี้เคยตามเสด็จฮ่องเต้องค์ก่อนไปตรวจดูราชกิจเสมอ นางย่อมมีความสามารถเช่นนี้!”“แต่ว่า... กับดักที่ดักจับนางในตอนนี้ ไม่รู้ว่านางจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่!”อ๋องหลงซียกยิ้มแล้วจิบชา“ทางฝั่งอ๋องเจิ้นตงและอันกุ้ยเหรินมีการเคลื่อนไหวใดบ้างหรือไม่?”หวังหยวนถามขึ้นอ๋องหลงซีหัวเราะเมื่อได้ยินดังนั้น“ย่อมมีการเคลื่อนไหวแล้ว!”“ข้าสืบหาความจริง ส่วนเขาต้องการสร้างเรื่องให้สมจริง ดังนั้น... เจ้าว่าตอนนี้เขาจะยุ่งอยู่กับอะไร?”หลังจากที่อ๋องหลงซีกล่าวจบ หวังหยวนก็ถอนหายใจอ๋อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1269

    หวังหยวนยกยิ้มจาง แล้วมองไปที่อ๋องหลงซีพลางกล่าวว่า“ไม่ต้องกังวลหรอก จะไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว เพราะพวกเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องลงมือกับเมืองหวง!”“แม้ว่าไทเฮาเซียวฉู่ฉู่จะไม่อยู่ที่นี่ แต่กองทัพของท่านที่เมืองหวงก็ไม่ได้มีจำนวนลดลงแม้แต่น้อย พวกเขารู้ดี จึง... จะไม่กล้ามาล่วงเกินโดยง่าย!”“ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าพวกเขาจะอดทนไม่ไหวก็คงจะไม่กล้าเคลื่อนทัพเข้ามาในเขตแดนของเมืองหวงโดยง่ายหรอก!”เมื่อหวังหยวนกล่าวจบประโยคนี้ อ๋องหลงซีก็ชะงักไปเล็กน้อย แล้วอดไม่ได้ที่จะถามว่า“เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?”หวังหยวนก็ไม่ได้ปิดบัง อธิบายว่า“ง่ายนิดเดียว เพราะดินแดนทั้งเก้าต่างหากคือสิ่งที่พวกเขาหมายปอง เหมือนกับการที่หมานอี๋ในเวลานี้ก่อความไม่สงบเล็กน้อย พวกท่านจะส่งกองทัพไปโดยง่ายหรือ?”เมื่อหวังหยวนกล่าวจบ อ๋องหลงซีก็พยักหน้า คำพูดนี้ก็ฟังดูมีเหตุผล เมืองหวงและหมานอี๋ต่างก็อยู่นอกดินแดนทั้งเก้าและเป็นดินแดนที่ไม่อุดมสมบูรณ์ พวกเขาคงจะไม่กล้ามาบุกรุกโดยง่ายแน่นอนว่ายังมีอีกกรณีหนึ่ง นั่นคือเมื่อต้าเย่รวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว พวกเขาต้องการจะรวมแผ่นดินนี้เข้าด้วยกัน พวกเขาจึงจะทำเช่นนั้น!และสถา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1270

    หลี่ซื่อหานมองไปที่หวงเจียวเจียว เมื่อได้ยินประโยคนี้ หวงเจียวเจียวย่อมรู้สึกตื้นตันใจนางอยากจะรีบไปหาหวังหยวนโดยทันที แต่เรื่องเช่นนี้ นางรู้สึกอับอายที่จะพูดออกมา“แต่... แต่สามีไม่ได้ให้ข้าไป...”หวงเจียวเจียวหน้าแดง อดไม่ได้ที่จะพูด“โอ้ น้องสาว ใจเจ้าคงจะบินไปถึงที่นั่นตั้งนานแล้วใช่หรือไม่? อย่าได้ปิดบังเลย!”หลี่ซื่อหานหัวเราะ ขณะที่หูเมิ่งอิ๋งก็พยักหน้า“ใช่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะให้พวกเราไปแทนหรือไม่ล่ะ?”หูเมิ่งอิ๋งพูดติดตลกขึ้นมา เมื่อหวงเจียวเจียวได้ยินดังนั้นจึงทำหน้ามุ่ยใส่พวกนางทั้งสอง!“ฮึ่ม! ข้าจะไปหาสามีที่เมืองหวงเดี๋ยวนี้ แล้วฟ้องเขาว่าพวกท่านทั้งสองรังแกข้า!”หลังจากที่หวงเจียวเจียวพูดจบก็รีบเข้าไปเก็บของหูเมิ่งอิ๋งได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะขึ้นมาทันที“หากเจ้าไปถึงที่นั่น สามีจะยิ่งรังแกเจ้ามากกว่าเดิม...”“บางทีครั้งต่อไปที่เจอหน้ากัน เจ้าอาจจะไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกแล้ว อาจจะมีสองคนในคนเดียวแล้วก็ได้...”คำพูดของหูเมิ่งอิ๋งทำให้หวงเจียวเจียวหน้าแดงก่ำ นางรู้ดีว่าหูเมิ่งอิ๋งหมายความว่าอย่างไร!แต่ในใจก็ยิ่งมีความคาดหวังมากขึ้น!เพราะท้ายที่สุดแล้วการได้อยู่สอ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1884

    สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปยังตงฟางฮั่นพลางเอ่ยถามขึ้นแม้เขาจะได้รับฟังเรื่องราวของเมืองอู่เจียงจากเกาเล่อมาบ้าง แต่ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นในเมืองอู่เจียงมีสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลซูล้วนรวมอยู่ในนั้น!แม้ทั้งสองตระกูลไม่ใช่ตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!“ท่านหวังทราบหรือไม่ว่าตระกูลซูทำธุรกิจด้านใด?”ตงฟางฮั่นเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า“ข้าได้ยินเกาเล่อรายงานว่าตระกูลซูทำธุรกิจขนส่งทางบก”“ว่ากันว่าในอดีต ซูหนานอัน หัวหน้าตระกูลซู เริ่มต้นจากการใช้รถเข็นสามล้อ แล้วค่อย ๆ สร้างฐานะขึ้นมา”“ต่อมาตระกูลซูก็เจริญรุ่งเรืองจนมีอำนาจดังเช่นทุกวันนี้”ทันใดนั้นหวังหยวนก็ตบหน้าผากตนเองอย่างแรง ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกธุรกิจขนส่งทางบก!หากมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ผลประโยชน์ของตระกูลซูย่อมเสียหาย พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ต้องการขัดขวางโครงการนี้มากที่สุด!“ท่านตงฟางช่างเฉียบแหลมนัก!”หวังหยวนเอ่ยชมตงฟางฮั่นส่ายหน้ากล่าวว่า “บัดนี้ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูกต้องหรือไม่”“แต่ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นถึงเจ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1883

    “ข้าคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรพิจารณาว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไปขัดผลประโยชน์ของผู้ใด”“หากไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ อีกฝ่ายคงไม่ลงมือเช่นนี้”“เช่นนั้นพวกเราก็จะพบเป้าหมายได้โดยเร็ว”สมแล้วที่ตงฟางฮั่นเป็นบุคลากรที่ใคร ๆ ก็ต้องการ คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนรู้สึกกระจ่าง!“เช่นนั้นเอง”“ตอนนี้พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่ม!”“กลุ่มแรกให้ฉุนอวี๋อันไปสืบหาตัวคนที่แอบเข้าใกล้บ่อน้ำเมื่อคืน!”“เพื่อตามหาตัวคนวางยา แล้วเค้นถามข้อมูลจากมันให้ได้!”“อีกกลุ่มหนึ่งต้องไปสืบในเมือง ดูว่าใครได้รับผลกระทบ ก็จะทำให้เรามุ่งเป้าหมายได้ถูกต้อง!”“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลอบขวัญชาวบ้าน หากไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะอ้างเรื่องศาลเจ้ามังกรแล้วหยุดการทำงาน!”“เช่นนั้นจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า!”ความคิดของหวังหยวนตรงกับคนอื่น ๆเพราะแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำเพื่อให้เมืองอู่เจียงพัฒนาจากนั้นก็จะสามารถพัฒนาเมืองหลิงได้!“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก!”“ที่จริงข้าพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร”“ไม่ทราบว่าท่านหวังจะไปกับข้าหรือไม่?”ตงฟางฮั่นมองหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1882

    ช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!สิ่งที่เรียกว่าศรัทธาและเทพเจ้าก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็ไม่มีสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไป หากมีเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริง เหตุใดจึงมีผู้คนอดอยากยากไร้อยู่ทั่วทุกหนแห่ง?“ไร้สาระ!”หวังหยวนตำหนิ ฉุนอวี๋อันจึงไม่กล้าพูดต่อ“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”“หรือไม่ทุกคนติดโรคระบาดจึงเป็นเช่นนี้!”“รอข้าไปถึงแล้วค่อยว่ากัน!”หวังหยวนหลับตา ไม่พูดกับฉุนอวี๋อันอีกเพื่อไม่ให้ตนเองโมโหฉุนอวี๋อันงุนงง เขาเคยได้ยินชื่อโรคมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องโรคระบาดมาก่อน!หรือจะเป็นโรคประหลาด?เมื่อเห็นหวังหยวนไม่สนใจ เขาก็เช็ดเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบไม่นานพวกหวังหยวนก็มาถึงเขตก่อสร้าง ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างมามุงดู สถานที่แห่งนี้ช่างคึกคักทางด้านตงฟางฮั่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างตงฟางฮั่นเห็นหวังหยวนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นเดินไปหาหวังหยวน“ท่านตงฟาง ข้าได้ยินเรื่องที่นี่แล้วจึงรีบมา”“ท่านมาก่อน พบเบาะแสอะไรหรือไม่?”ตงฟางฮั่นส่ายหน้า พลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้าให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1881

    ยามตะวันโด่งฟ้า หวังหยวนกับภรรยายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ“ท่าน!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”“ท่านรีบออกมาเถิดขอรับ!”เสียงของฉุนอวี๋อันเต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเคาะประตูไม่หยุดปกติฉุนอวี๋อันเป็นคนรอบคอบ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนเสมอด้วยเหตุนี้ฉุนอวี๋อันจึงถูกมองว่าอ่อนแอ ไร้ความสามารถ เมืองอู่เจียงไม่เคยได้รับการจัดการอย่างดี และสี่ตระกูลใหญ่ก็มีอำนาจอยู่เหนือเขา!วันนี้เขากลับกล้ามาหาหวังหยวนถึงห้อง ทั้งยังมารบกวนการนอนของพวกเขา แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ!หวังหยวนค่อย ๆ ยืดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูมองไปที่ฉุนอวี๋อันเมื่อเห็นเขามีสีหน้าร้อนรนก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”อย่างไรเสียฉุนอวี๋อันก็เคยเป็นผู้ว่าราชการเมือง จึงจำเป็นต้องสงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว แม้ภูผาจะถล่มก็ตามไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา ฉุนอวี๋อันจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!แต่น่าเสียดายที่ฉุนอวี๋อันไม่ได้รับการฝึกฝน!โชคดีที่เขาเห็นข้อนี้ จึงให้ฉุนอวี๋อันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1880

    “ต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว”เกาเล่อรีบพยักหน้า“อีกอย่าง”“เจ้าไปเมืองผีครั้งนี้ต้องระวังตัวด้วย”“คำพูดของหลิ่วหรูเยียนเชื่อได้ แต่ก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมด”“เมืองผีอาจไม่ใช่สถานที่ที่เราจะอยู่ได้ง่าย ๆ...”“หากพบเจอเรื่องยุ่งยากก็ปรึกษาข้าได้ตลอด อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม!”หวังหยวนกำชับอีกสองสามประโยคเกาเล่อเป็นมือขวาของเขา เขาย่อมไม่อยากให้เกาเล่อเป็นอันตราย ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากบ่ายวันนั้น เกาเล่อเดินทางไปเมืองผีด้วยตัวเองส่วนหวังหยวนก็กลับไปที่พักหลี่ซื่อหานรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนเดินเข้ามา นางก็ยิ้มหวานเดินเข้ามาหา แล้วควงแขนหวังหยวนขณะกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านกำลังทำอยู่ในช่วงนี้”“จะรับอนุภรรยาอีกแล้วหรือ?”หวังหยวนถึงกับหน้าเสียใครปากมาก เอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่ซื่อหาน?ที่เขาไปหอนางโลมนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสถานการณ์บ้านเมืองต่างหาก!“ในสายตาเจ้า ข้าเป็นผู้ชายที่เห็นผู้หญิงแล้วอดใจไม่ได้หรือ?”หวังหยวนจิบชา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์หลี่ซื่อหานยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน แต่คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของท่าน อาจทำให้เกิด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1879

    “ข้าบอกก็ได้...”“เหตุใดต้องโหดเหี้ยมกับข้าด้วย?”“ข้าเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”หลิ่วหรูเยียนมองหวังหยวน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหวานมีเสน่ห์ “เจ้ารู้จักสถานที่แห่งหนึ่งทางตะวันตกที่ชื่อว่าเมืองผี หรือไม่?”“เมืองผี?”หวังหยวนส่ายหน้า ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่สายตาของเขามองไปที่เกาเล่อเกาเล่อเป็นหัวหน้าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ ข้อมูลทั่วหล้าล้วนอยู่ในมือเขา หากแม้แต่เกาเล่อยังไม่รู้จัก แสดงว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ลับจริง ๆ!แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คือหลิ่วหรูเยียนกำลังหลอกลวง!ทั้งหมดเป็นเพียงกลลวงของนาง!เกาเล่อเดินไปข้าง ๆ หวังหยวนแล้วกระซิบ “ข้ารู้จักเมืองผี...”“เดิมทีมันไม่ได้ชื่อเมืองผี ปัจจุบันมีชื่ออื่นแล้ว แต่เพราะเมื่อก่อนมีคนอดตายที่นั่นมากมาย มีข่าวลือว่ากลางดึกมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ จึงเรียกที่นั่นว่าเมืองผี”“แต่ที่จริงแล้วก็แค่เรื่องเล่าลือขอรับ”ฟังคำอธิบายของเกาเล่อแล้วหวังหยวนก็พยักหน้าจากนั้น ฃเขาก็มองไปที่หลิ่วหรูเยียนอีกครั้ง ก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าฐานทัพใหญ่ของพรรคทมิฬอยู่ในเมืองผีหรือ?”หลิ่วหรู

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1878

    ทันใดนั้นหวังหยวนก็ให้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อถอยไป ส่วนเขามานั่งยอง ๆ ตรงหน้าหลิ่วหรูเยียนมุมปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ต่อรองกับข้าหรือ?”“ตอนนี้เจ้าอยู่ในมือข้า ตราบใดที่เจ้าทำตามที่ข้าต้องการ ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า ไม่ให้ใครมารังแกเจ้าได้”“แต่ถ้าเจ้ายังกล้าต่อรอง เจ้าก็ลองดู ว่าข้าจะทำเรื่องโหดร้ายอะไร”“แต่อย่าหาว่าข้าไม่เตือน หากเจ้าท้าทายข้า ทำให้ข้าหมดความอดทน ผลลัพธ์สุดท้ายคงคาดเดาได้...”“เจ้าจะต้องเสียใจแน่นอน”เมื่อเห็นแววตาจริงจังของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนก็อยากจะฆ่าเขานักเหตุใดนางจึงต้องมาเจอกับปีศาจตนนี้ด้วย?ช่างโชคร้ายเสียจริง!“ตกลง!”“เช่นนั้นเจ้าต้องปล่อยข้าก่อน”“เจ้าจับข้าไว้ด้วยตาข่ายเช่นนี้ ข้าอึดอัดจะตายแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วพูดหวังหยวนรับมีดสั้นจากสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อมาตัดตาข่ายใหญ่ตรงหน้าออก หลิ่วหรูเยียนจึงเป็นอิสระหวังหยวนกล่าวต่อ “ตอนนี้ข้าทำตามที่เจ้าต้องการแล้ว เจ้าควรจะบอกสิ่งที่ข้าอยากรู้ได้แล้วกระมัง?”เขาเองก็ใจกว้างพอหากไม่ใช่เพราะเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นผู้หญิง คงลงมือกับนางไปแล้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1877

    “เจ้าช่างเป็นคนต่ำทรามชั่วช้าเหลือเกิน!” หลิ่วหรูเยียนจะไม่เข้าใจสิ่งที่หวังหยวนจะสื่อได้อย่างไร ใบหน้านางซีดเผือดราวกับกระดาษ นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกลัวขณะตวาด!หญิงงามผู้มีชื่อเสียงในสถานเริงรมย์ แม้จะอยู่ในที่เช่นนั้น แต่ก็รักษาความบริสุทธิ์ไว้เสมอ ไม่เคยยอมให้ชายใดแตะต้องเรือนร่างอันงดงามของตน!แต่บัดนี้บุรุษผู้มีนามว่าหวังหยวนกลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่นาง เป็นการกระทำที่ชั่วช้าที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา!เหตุใดไม่รู้มาก่อนเลยว่าหวังหยวนน่ารังเกียจถึงเพียงนี้?“เจ้าไม่สมควรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน!” “เจ้าเป็นแค่คนเลวทรามต่ำช้า!”“เช่นนั้นก็สังหารข้าเสีย การที่เจ้ามาล่วงละเมิดสตรีเช่นนี้ เจ้ายังถือว่าตนเป็นบุรุษผู้กล้าหาญได้อยู่หรือ?” “หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ชื่อเสียงของเจ้าจะต้องเสื่อมเสียอย่างแน่นอนใช่หรือไม่?”นางพยายามอย่างตะโกนเพื่อที่จะเปลี่ยนใจหวังหยวนให้ได้ ทว่าใบหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใด เขายืนกอดอกเอ่ยเสียงเรียบเฉย “เป็นเรื่องปกติที่จะใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อปฏิบัติต่อผู้คนที่แตกต่างกัน”“หากเจ้าไม่ดื้อดึง ข้าก็คงไม่ต้องทำรุนแรงเช่นนี้ ข้าจะทำเช่นนี้กับ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1876

    “ข้าอยากรู้ว่าปากของนางกับมือของข้า อะไรจะแข็งกว่ากัน!”แม้จะเป็นเด็กกำพร้าก็ต้องหาวิธีง้างปากนางให้ได้!ไม่บรรลุเป้าหมายย่อมไม่หยุดยั้ง!ไม่นานหวังหยวนกับเกาเล่อก็มุ่งหน้าออกนอกเมืองที่หน้าศาลเจ้าเฉิงหวงหลิ่วหรูเยียนนั่งผิงไฟ ครุ่นคิดถึงแผนการต่อไปที่นางมาเมืองอู่เจียงนั้นเป็นเพราะคำสั่งของผู้นำระดับสูงในพรรคทมิฬ!เพื่อแทรกซึมเข้ามาในดินแดนศัตรู แล้วค่อย ๆ แผ่ขยายอำนาจไปยังเมืองหลิง!สาเหตุที่สาวกพรรคทมิฬแทรกซึมเข้ามาในดินแดนของหวังหยวน ไม่ใช่เพียงเพราะดินแดนของหวังหยวนเล็ก แต่เป็นเพราะหวังหยวนผู้นี้เป็นคนชาญฉลาดและรอบคอบ!หากเขาพบเบาะแสใดๆ ก็จะตามสืบจนเจอ และอาจนำพาหายนะมาสู่พวกเขา!แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!หวังหยวนเพิ่งจะสังเกตเห็นร่องรอยของสาวกพรรคทมิฬ ไม่คิดเลยว่าจะพบตัวหลิ่วหรูเยียน!จากนั้นค่อยสืบหาความลับของพรรคทมิฬ!เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี!“เหตุใดนกพิราบสื่อสารยังไม่กลับมาอีกนะ?”“หรือว่าจะเกิดเรื่อง...”หลิ่วหรูเยียนที่นั่งอยู่หน้ากองไฟ สำรวจสถานการณ์นอกประตูด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักแม้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะซ่อนตัวอยู่ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของนาง!แต

DMCA.com Protection Status