Share

บทที่ 1256

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“เหตุใดจู่ ๆ จึงถามเช่นนี้?”

อันกุ้ยเหรินรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยออกมา แต่กลับพูดว่า “ท่านพี่ เรื่องนี้พักไว้ก่อนเถิด ข้าอยากถามท่านว่า... เซียวฉู่ฉู่ป่วยจริงหรือไม่?”

เมื่ออ๋องเจิ้นตงได้ยินคำถามก็ขมวดคิ้ว

“ข้าก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ว่า... ข้าคิดว่าน่าจะจริง ไม่เช่นนั้นนางคงไม่เรียกหวังหยวนมา และจะไม่จากเมืองหวงไป ข้าจึงคาดว่านางคงจะป่วยจริง ๆ!”

หลังจากที่อ๋องเจิ้นตงพูดจบ อันกุ้ยเหรินก็พยักหน้า

“ท่านพี่และข้าคิดเหมือนกัน แต่ข้ายังมีเรื่องหนึ่งที่ไม่เข้าใจ นั่นก็คือ... เซียวฉู่ฉู่จะหายดีหรือไม่”

“เมื่อนางจากไปเช่นนี้ นางจะรอดหรือไม่!”

เมื่ออันกุ้ยเหรินพูดจบ อ๋องเจิ้นตงก็หรี่ตา

“เรื่องนี้พูดตามตรงพี่เองก็อยากรู้เช่นกัน เซียวฉู่ฉู่คนนี้จะรอด... หรือไม่รอด!”

อ๋องเจิ้นตงสูดหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นจึงพูดต่อ

“น้องสาว ครั้งก่อนที่พี่ล้มเหลวจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ในเวลานั้นเซียวฉู่ฉู่อยู่ที่เมืองหลวงและยังมีหวังหยวนคนนี้อีกด้วย พี่จึงล้มเหลว!”

“แต่ว่า... ครั้งนี้เซียวฉู่ฉู่ออกจากเมืองหลวงเมืองหวงไปแล้ว และยังเป็นเวลาอย่างน้อยครึ่งปีหรือหนึ่งปี นี่คือโอกาสสำคัญสำหรับเรา!
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1257

    อ๋องเจิ้นตงชื่นชมและเคารพหวังหยวนมาโดยตลอด!เพราะคนที่เขาพ่ายแพ้ไม่ใช่เซียวฉู่ฉู่ แต่เป็นหวังหยวน!และในปัจจุบัน หวังหยวนยิ่งเก่งกล้ามากขึ้น ดังนั้น...เขาจึงเกรงกลัวเป็นธรรมดา!“เช่นนั้นจะทำอย่างไรดีล่ะ!”เมื่ออันกุ้ยเหรินได้ฟังเช่นนั้นก็ถึงกับอึ้งไป!หากไม่สามารถจัดการกับหวังหยวนได้ แล้วการที่พวกเขามาหารือกันที่นี่จะมีประโยชน์อะไร?“น้องสาว เรื่องนี้... สิ่งที่เราต้องทำไม่ใช่ลงมือจากภายนอก แต่ต้องลงมือจากภายในกำแพงวังนี้ต่างหาก!”หลังจากที่อ๋องเจิ้นตงพูดจบ อันกุ้ยเหรินก็ถึงกับตกใจ“อะไรนะ? ท่านพี่ ข้าไม่เข้าใจ ท่านต้องการจะสื่ออะไร!”อันกุ้ยเหรินสงสัย เมื่ออ๋องเจิ้นตงได้ยินคำถามก็ยกยิ้ม“ง่ายมาก สิ่งที่เราต้องทำคือยึดครองวังหลวงแห่งนี้โดยเร็วที่สุด! ให้วังชั้นในตกอยู่ในกำมือของเจ้า!”หลังจากที่อ๋องเจิ้นตงตรัสจบ อันกุ้ยเหรินก็ตกตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นจึงเข้าใจ“ท่านพี่ ข้าเข้าใจแล้วว่าท่านจะสื่ออะไร แต่...เรื่องนี้คงยาก เพราะเซียวฉู่ฉู่ได้สั่งให้ข้าและเจิ้งกุ้ยเหรินร่วมกันดูแลวังชั้นใน แล้วข้า... ข้าจะให้นางมอบอำนาจในการดูแลวังชั้นในให้ข้าคนเดียวได้อย่างไร?”คำพูดของอันก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1258

    อันกุ้ยเหรินไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว เพราะนางทราบดีว่าหากพี่ชายของนางครองอำนาจในวังหลวงแล้วจะเกิดอะไรขึ้น!อย่างน้อยนางก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าใครอีกต่อไปแล้ว!...ในขณะเดียวกัน ภายในจวนอ๋องเป่ยหลิงหวังหยวนและเกาเล่อกำลังนั่งจิบชาพูดคุยกันอยู่ในห้อง“เกาเล่อ เจ้ารู้จักอันกุ้ยเหรินและเจิ้งกุ้ยเหรินบ้างหรือไม่?”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เกาเล่อก็พยักหน้า“ทั้งสององค์นี้เป็นพระสนมเอกของฮ่องเต้องค์ก่อน แม้ว่าจะไม่ได้รับความโปรดปรานเท่ากับไทเฮา แต่ก็ถือว่าได้รับความโปรดปรานมากทีเดียว!”“ก่อนฮ่องเต้องค์เสด็จสวรรคต พระองค์ไม่ได้ขับไล่พระสนมทั้งสองออกไป แต่ให้พระสนมทั้งสองพำนักอยู่ในวังหลวงเพื่อเสวยสุขต่อไป จึงแสดงให้เห็นว่าฮ่องเต้องค์ก่อนเมตตาต่อพระสนมทั้งสอง”“ส่วนเรื่องนิสัยใจคอ ข้าไม่รู้จักเจิ้งกุ้ยเหริน แต่ข้ารู้จักอันกุ้ยเหรินอยู่บ้าง เมื่อครั้งที่นางติดตามอ๋องเจิ้นตง ข้าเคยพบนางหลายครั้ง!”“นาง... ไม่ค่อยมีสติปัญญาเฉียบแหลมมากนัก หลายเรื่องล้วนแต่เชื่อฟังอ๋องเจิ้นตง!”“ส่วนเจิ้งกุ้ยเหริน ข้ารู้จักนางน้อยมาก!”หลังจากหวังหยวนฟังแล้วก็ยกยิ้ม“เชื่อฟังอ๋องเจิ้นตงมากสินะ...”หลังจา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1259

    เมื่อเกาเล่อกล่าวจบ หวังหยวนก็ยกยิ้มก่อนจะกล่าวว่า“เหตุใดจึงบอกว่ายากที่จะพูดเล่า?”หวังหยวนใคร่รู้ความหมายในคำพูดของเกาเล่อเพราะอย่างไรเสีย...สำหรับเขานั้น คนที่รู้จักอ๋องเจิ้นตงมากที่สุดก็คือผู้ติดตามมานานหลายปีอย่างตัวเขาเอง!เขารู้ทั้งความสามารถ จุดอ่อน แม้กระทั่งความคิดและอุปนิสัย!หวังหยวนจึงเชื่อคำพูดของเกาเล่อ!“พี่หยวน ท่านก็ทราบดีว่าอ๋องเจิ้นตงเคยล้มเหลวมาก่อน ดังนั้นเขาย่อมต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก!”“และอ๋องเจิ้นตงที่ข้ารู้จักนั้นไม่ใช่คนโหดเหี้ยมนัก เขาค่อนข้างลังเล หลายเรื่องราวจึงเกิดปัญหาขึ้นเพราะความลังเลของเขา!”“หากเขาไม่มีนิสัยเช่นนี้ บางทีเขาอาจจะประสบความสำเร็จไปนานแล้ว!”เมื่อเกาเล่อกล่าวจบ หวังหยวนก็หรี่ตาลงลังเล!ไม่เด็ดขาด!อ๋องเจิ้นตงอาจจะเป็นเช่นนั้นจริง!แม้จะมีความทะเยอทะยานแต่ก็ไม่ได้โหดเหี้ยม เป็นคนหวาดกลัวและกังวลมากเกินไป!หากจะทำก็ทำไปเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องผลลัพธ์!หรือไม่ก็ไม่ทำแล้วยอมรับอย่างเต็มใจ!แต่อ๋องเจิ้นตงไม่มีความคิดเช่นนั้น!“หากพูดตามหลักเหตุผล เขาเคยล้มเหลวไปแล้วก็ไม่ควรจะทำเรื่องเช่นนี้อีกโดยง่าย เขาไม่ใช่คนกลัวตา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1260

    “พี่หยวน กล่าวมาถึงตรงนี้แล้วฟังจากคำพูดของท่าน นั่นหมายความว่ากุญแจสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนี้ใช่หรือไม่?”“ท่านต้องการพูดถึงวังหลวงหรือเปล่า?”ในเวลานี้เกาเล่อกล่าวขึ้นทันใด เมื่อเขากล่าวจบ หวังหยวนก็ยกยิ้ม“เจ้าพูดถูกแล้ว!”“ในราชสำนักนั้นอาจจะไม่สามารถชี้ชัดเรื่องนี้ได้ แต่... ในวังชั้นในกลับสามารถชี้ชัดได้จริง ๆ!”“อ๋องเจิ้นตงและอันกุ้ยเหรินเป็นพี่น้องกัน... หากอันกุ้ยเหรินควบคุมวังชั้นในได้ แล้วไท่จื่อ... จะตกอยู่ในอันตรายหรือไม่?”“แม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าลงมือกับไท่จื่อ แต่หากพวกเขาควบคุมวังชั้นในได้ก็เท่ากับว่าควบคุมไท่จื่อได้แล้ว การใช้ฮ่องเต้บังคับขุนนางทั้งหลายก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!”“อย่างไรเสีย... ในเวลานั้นไท่จื่อก็อยู่ในมือของอันกุ้ยเหริน เด็กตัวเล็ก ๆ เช่นนั้น ใช้กลอุบายเพียงเล็กน้อย ก็สามารถให้ออกราชโองการได้โดยง่าย”“อย่างเช่น... แต่งตั้งให้อ๋องเจิ้นตงเป็นอัครมหาเสนาบดีเพื่อกำกับดูแลราชกิจ!”“แม้กระทั่ง...ปลดพวกอ๋องทั้งสามอย่างข้าออก! ก็ยังสามารถทำได้!”สิ่งที่หวังหยวนกังวลอยู่ในกำแพงวังหลวงแห่งนี้!เดิมทีมีเซียวฉู่ฉู่คอยดูแลอยู่จึงไม่ต้องกังวล!แต่ตอนนี้!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1261

    หลังจากที่หวังหยวนกล่าวจบ เกาเล่อก็คลี่ยิ้มกว้าง“ท่านพี่หยวน ท่านช่างร้ายกาจนัก เรื่องเช่นนี้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ล้วนแต่ผลักดันให้อ๋องหลงซีออกหน้าแทนทั้งสิ้น ไม่รู้ว่าเขาจะยินยอมหรือไม่!”เกาเล่อพูดพลางหัวเราะแล้วส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้หวังหยวนก็ยิ้มออกมาทันทีแล้วกล่าวอีกว่า “เกาเล่อเอ๋ยเกาเล่อ เจ้าลืมเลือนไปแล้วหรือไร? ความหมายที่แท้จริงที่ทำให้ข้าต้องกระทำเช่นนี้ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ?”เมื่อกล่าวจบ เกาเล่อก็กะพริบตาและเข้าใจในทันที!“ท่าน... ท่านต้องการ... ทดสอบ... อ๋องหลงซี!”เขานิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงเข้าใจ เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น หวังหยวนจึงพยักหน้า“แน่นอน ข้าจำเป็นต้องทดสอบอ๋องหลงซี หากผู้เฒ่าคนนี้มีความคิดคดโกงขึ้นมาจริง ๆ จะเป็นอย่างไร?”“ถึงแม้ว่า... เขาจะมีกลอุบายที่ข้ายังมองไม่ออก แต่ว่าอย่างน้อยข้าก็เชื่อว่าเขาจะไม่โกหกหลอกลวงเรื่องปกป้องเจิ้งกุ้ยเหริน!”“แน่นอน หากเขาสนับสนุนอ๋องเจิ้นตงก็คงต้องพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ!”“แต่ว่า...หากเขาคิดจะทำเช่นนั้นจริง ข้าก็คงจะต้องฆ่าทั้งเขาและอ๋องเจิ้นตงเสีย!”“การตายของอ๋องทั้งสอง สำหรับเมืองหวงแห่งนี้ ไม่ได้นับเป็นเรื่องใหญ่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1262

    หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ อ๋องหลงซีก็ยิ้มอีกครั้ง“หวังหยวน เจ้าไม่ต้องพูดสุภาพกับข้าเช่นนี้หรอก ข้าอยากรู้ว่าวันนี้เจ้าเรียกข้ามา เจ้าต้องการทดสอบข้าหรือไม่?”อ๋องหลงซีพูดอีกครั้ง เมื่อเขาพูดจบก็ทำให้หวังหยวนตกใจอีกครั้ง!ตาเฒ่าคนนี้ช่างฉลาดนัก!“ฮ่าฮ่าฮ่า อ๋องหลงซี ท่านช่าง... ทำให้ข้าประหลาดใจนัก!”“ไม่ผิด วันนี้ข้าต้องการทดสอบท่าน!”“อ๋องหลงซี ข้าอยากรู้ว่าท่านคิดอย่างไร!”“ไม่ว่าจะเรื่องทำเพื่อไทเฮาของพวกท่าน ปกป้องเมืองหวงหรือว่าท่านมีความคิดอื่น บอกข้ามาตามจริงเถิด!”หวังหยวนไม่พูดอ้อมค้อมอีกต่อไป เมื่อคำพูดนี้หลุดออกจากปากเขา อ๋องหลงซีก็หรี่ตาลง“หวังหยวนเอ๋ยหวังหยวน เจ้าทดสอบข้าด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเผด็จการ เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะโกรธหรือ?”อ๋องหลงซีพูดพลางยิ้ม“โกรธหรือ? ข้าไม่กลัวหรอก หากท่านโกรธ ข้าก็จะฆ่าท่านทิ้งเสีย!”หวังหยวนไม่เสียเวลา ชักปืนคาบศิลาออกมาทันที จากนั้นก็ยิงออกไปด้านข้าง!กระสุนปืนพุ่งเข้าใส่ไหสุราที่อยู่ไกลออกไปจนแตกกระจาย!ในระยะประชิดเช่นนี้ อ๋องหลงซีไม่มีทางหลบกระสุนปืนของเขาได้อย่างแน่นอน!เรื่องเช่นนี้ อ๋องหลงซีก็รู้เช่นกัน!“ปืนดี ข้ารู้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1263

    เมื่ออ๋องหลงซีกล่าวจบ หวังหยวนก็ต้องตกตะลึงไปครู่หนึ่ง!ลืมคิดถึงคนผู้หนึ่งไปงั้นหรือ?ผู้ใดกัน?เหตุใดเขาจึงนึกไม่ออก?“อ๋องหลงซี ขอโปรดไขข้อข้องใจด้วย”ที่หวังหยวนนึกไม่ออกนั้นไม่ใช่เพราะเหตุอื่นใด แต่เพียงเพราะเขารู้จักผู้คนในเมืองหวงแห่งนี้น้อยเกินไป!บุคคลที่ต้องระวังนั้นจะเป็นผู้ใดได้?อ๋องถูหนานหรือ?หากเป็นเช่นนั้นจริงก็คงมีแต่เขาเท่านั้น!“ผู้ที่ต้องระวัง... ก็ยังคงเป็นเจิ้งกุ้ยเหริน!”เมื่ออ๋องหลงซีกล่าวจบ หวังหยวนก็นิ่งอึ้งไปในตอนแรก แต่สักพักก็หัวเราะออกมา“ฮ่าฮ่าฮ่า อ๋องหลงซี ต้องกล่าวว่าท่านช่างรอบรู้และมองการณ์ไกลเสียจริง!”หวังหยวนย่อมเข้าใจสิ่งที่เขาจะสื่อ!ปกป้องนาง แต่ก็ต้องระวังนางด้วย!เพราะว่า...ยาพิษในร่างกายของไทเฮาเซียวฉู่ฉู่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ดังนั้นทุกคนในวังชั้นในก็ล้วนตกเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งสิ้นจึงจำเป็นต้องระมัดระวังไว้บ้าง!“เจิ้งกุ้ยเหรินมีความสัมพันธ์อันดีกับไทเฮามาโดยตลอด ทั้งสองเรียกขานกันว่าพี่น้อง ความสัมพันธ์นี้มีรากฐานมาจากสมัยที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีชีวิตอยู่ และก็ยังคงเป็นเช่นนี้มาโดยตลอดหลายปี”“นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1264

    แต่ว่า...กลับไม่ได้ขัดขวางในทันทีและยังพูดประโยคนี้กับเขาอีก อาจจะมีความหมายอื่นแฝงอยู่!“อ๋องหลงซี ดูเหมือนว่าท่านจะต้องการทดสอบเจิ้งกุ้ยเหรินเสียแล้ว!”นั่นคือสิ่งเดียวที่หวังหยวนนึกออกเมื่ออ๋องหลงซีได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา“ผู้ที่รู้จักข้าดีที่สุดก็คือหวังหยวนนั่นเอง ถูกต้องแล้ว ข้าจะทดสอบเจิ้งกุ้ยเหรินผู้นี้!”“จะดูว่าเมื่อถูกอันกุ้ยเหรินใส่ร้าย นางจะใช้วิธีใด!”“หากนางสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ ก็เป็นที่ชัดเจนว่านางมีพลังที่เราคาดไม่ถึง!”“หรือนางอาจแอบลงมือโจมตีอันกุ้ยเหรินเพื่อนำสิทธิ์ที่สูญเสียไปกลับคืนมา”“หรืออาจเป็นไปได้ว่านางไม่มีความสามารถใดเลย และทำได้เพียงร้องไห้คร่ำครวญ!”แผนการของอ๋องหลงซีย่อมล้ำลึกอย่างไม่ต้องสงสัย!แม้แต่หวังหยวนก็ยังต้องตกใจ!จิ้งจอกเฒ่า!ช่างเป็นจิ้งจอกเฒ่าอย่างแท้จริง!“ฮ่าฮ่า ผู้ใดก็ตามที่ได้เข้ามาอยู่ในสายตาของอ๋องหลงซีคงจะลำบากไม่น้อย!”หวังหยวนเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ด้วยวิธีเช่นนี้ หากมีปัญหาใด ๆ ก็คงจะถูกเปิดเผยออกมาจนหมด!อ๋องหลงซีฟังแล้วก็หัวเราะ“หวังหยวน เจ้าชมข้าเกินไปแล้ว ข้าคิดว่าเรื่องนี้คงจะเกิดขึ้นในอ

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1884

    สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปยังตงฟางฮั่นพลางเอ่ยถามขึ้นแม้เขาจะได้รับฟังเรื่องราวของเมืองอู่เจียงจากเกาเล่อมาบ้าง แต่ก็รู้เพียงผิวเผินเท่านั้นในเมืองอู่เจียงมีสี่ตระกูลใหญ่ ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลซูล้วนรวมอยู่ในนั้น!แม้ทั้งสองตระกูลไม่ใช่ตระกูลที่รุ่งเรืองที่สุด แต่ก็มีบทบาทสำคัญในเมืองอู่เจียง!“ท่านหวังทราบหรือไม่ว่าตระกูลซูทำธุรกิจด้านใด?”ตงฟางฮั่นเอ่ยถามอย่างเชื่องช้า“ข้าได้ยินเกาเล่อรายงานว่าตระกูลซูทำธุรกิจขนส่งทางบก”“ว่ากันว่าในอดีต ซูหนานอัน หัวหน้าตระกูลซู เริ่มต้นจากการใช้รถเข็นสามล้อ แล้วค่อย ๆ สร้างฐานะขึ้นมา”“ต่อมาตระกูลซูก็เจริญรุ่งเรืองจนมีอำนาจดังเช่นทุกวันนี้”ทันใดนั้นหวังหยวนก็ตบหน้าผากตนเองอย่างแรง ราวกับนึกอะไรบางอย่างออกธุรกิจขนส่งทางบก!หากมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำ ผลประโยชน์ของตระกูลซูย่อมเสียหาย พวกเขาจึงเป็นผู้ที่ต้องการขัดขวางโครงการนี้มากที่สุด!“ท่านตงฟางช่างเฉียบแหลมนัก!”หวังหยวนเอ่ยชมตงฟางฮั่นส่ายหน้ากล่าวว่า “บัดนี้ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าสิ่งที่ข้าคิดนั้นถูกต้องหรือไม่”“แต่ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง”“ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเป็นถึงเจ้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1883

    “ข้าคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เราควรพิจารณาว่าการสร้างเขื่อนกั้นน้ำไปขัดผลประโยชน์ของผู้ใด”“หากไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ อีกฝ่ายคงไม่ลงมือเช่นนี้”“เช่นนั้นพวกเราก็จะพบเป้าหมายได้โดยเร็ว”สมแล้วที่ตงฟางฮั่นเป็นบุคลากรที่ใคร ๆ ก็ต้องการ คำพูดของเขาทำให้หวังหยวนรู้สึกกระจ่าง!“เช่นนั้นเอง”“ตอนนี้พวกเราแบ่งเป็นสองกลุ่ม!”“กลุ่มแรกให้ฉุนอวี๋อันไปสืบหาตัวคนที่แอบเข้าใกล้บ่อน้ำเมื่อคืน!”“เพื่อตามหาตัวคนวางยา แล้วเค้นถามข้อมูลจากมันให้ได้!”“อีกกลุ่มหนึ่งต้องไปสืบในเมือง ดูว่าใครได้รับผลกระทบ ก็จะทำให้เรามุ่งเป้าหมายได้ถูกต้อง!”“ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องปลอบขวัญชาวบ้าน หากไม่สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่พวกเขา พวกเขาก็คงจะอ้างเรื่องศาลเจ้ามังกรแล้วหยุดการทำงาน!”“เช่นนั้นจะทำให้การก่อสร้างล่าช้า!”ความคิดของหวังหยวนตรงกับคนอื่น ๆเพราะแท้จริงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างเส้นทางคมนาคมทางน้ำเพื่อให้เมืองอู่เจียงพัฒนาจากนั้นก็จะสามารถพัฒนาเมืองหลิงได้!“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากถึงเพียงนั้นหรอก!”“ที่จริงข้าพอจะเดาออกแล้วว่าเป็นใคร”“ไม่ทราบว่าท่านหวังจะไปกับข้าหรือไม่?”ตงฟางฮั่นมองหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1882

    ช่างเป็นเรื่องเหลวไหล!สิ่งที่เรียกว่าศรัทธาและเทพเจ้าก็เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เชื่อก็มี ไม่เชื่อก็ไม่มีสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไป หากมีเทพเจ้าและศักดิ์สิทธิ์เช่นนั้นจริง เหตุใดจึงมีผู้คนอดอยากยากไร้อยู่ทั่วทุกหนแห่ง?“ไร้สาระ!”หวังหยวนตำหนิ ฉุนอวี๋อันจึงไม่กล้าพูดต่อ“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเป็นแน่”“หรือไม่ทุกคนติดโรคระบาดจึงเป็นเช่นนี้!”“รอข้าไปถึงแล้วค่อยว่ากัน!”หวังหยวนหลับตา ไม่พูดกับฉุนอวี๋อันอีกเพื่อไม่ให้ตนเองโมโหฉุนอวี๋อันงุนงง เขาเคยได้ยินชื่อโรคมากมาย แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องโรคระบาดมาก่อน!หรือจะเป็นโรคประหลาด?เมื่อเห็นหวังหยวนไม่สนใจ เขาก็เช็ดเหงื่อ ไม่กล้าพูดอะไรอีก ได้แต่นั่งเงียบไม่นานพวกหวังหยวนก็มาถึงเขตก่อสร้าง ชาวบ้านที่ได้ยินข่าวต่างมามุงดู สถานที่แห่งนี้ช่างคึกคักทางด้านตงฟางฮั่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน กำลังตรวจสอบอะไรบางอย่างตงฟางฮั่นเห็นหวังหยวนเดินเข้ามาจึงลุกขึ้นเดินไปหาหวังหยวน“ท่านตงฟาง ข้าได้ยินเรื่องที่นี่แล้วจึงรีบมา”“ท่านมาก่อน พบเบาะแสอะไรหรือไม่?”ตงฟางฮั่นส่ายหน้า พลางขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ข้าให้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1881

    ยามตะวันโด่งฟ้า หวังหยวนกับภรรยายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ“ท่าน!”“เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”“ท่านรีบออกมาเถิดขอรับ!”เสียงของฉุนอวี๋อันเต็มไปด้วยความร้อนใจ เขาเคาะประตูไม่หยุดปกติฉุนอวี๋อันเป็นคนรอบคอบ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียก่อนเสมอด้วยเหตุนี้ฉุนอวี๋อันจึงถูกมองว่าอ่อนแอ ไร้ความสามารถ เมืองอู่เจียงไม่เคยได้รับการจัดการอย่างดี และสี่ตระกูลใหญ่ก็มีอำนาจอยู่เหนือเขา!วันนี้เขากลับกล้ามาหาหวังหยวนถึงห้อง ทั้งยังมารบกวนการนอนของพวกเขา แสดงว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริง ๆ!หวังหยวนค่อย ๆ ยืดตัวบิดขี้เกียจ จากนั้นสวมเสื้อผ้าแล้วเปิดประตูมองไปที่ฉุนอวี๋อันเมื่อเห็นเขามีสีหน้าร้อนรนก็ส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “ฟ้าถล่มหรืออย่างไร?”อย่างไรเสียฉุนอวี๋อันก็เคยเป็นผู้ว่าราชการเมือง จึงจำเป็นต้องสงบนิ่ง ไม่หวั่นไหว แม้ภูผาจะถล่มก็ตามไม่เช่นนั้นหากเกิดเรื่องใดขึ้นมา ฉุนอวี๋อันจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้!แต่น่าเสียดายที่ฉุนอวี๋อันไม่ได้รับการฝึกฝน!โชคดีที่เขาเห็นข้อนี้ จึงให้ฉุนอวี๋อันลาออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้เป็นการทำร้า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1880

    “ต้องระมัดระวังทุกย่างก้าว”เกาเล่อรีบพยักหน้า“อีกอย่าง”“เจ้าไปเมืองผีครั้งนี้ต้องระวังตัวด้วย”“คำพูดของหลิ่วหรูเยียนเชื่อได้ แต่ก็ไม่ควรเชื่อทั้งหมด”“เมืองผีอาจไม่ใช่สถานที่ที่เราจะอยู่ได้ง่าย ๆ...”“หากพบเจอเรื่องยุ่งยากก็ปรึกษาข้าได้ตลอด อย่าได้ทำอะไรบุ่มบ่าม!”หวังหยวนกำชับอีกสองสามประโยคเกาเล่อเป็นมือขวาของเขา เขาย่อมไม่อยากให้เกาเล่อเป็นอันตราย ไม่เช่นนั้นหวังหยวนจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากบ่ายวันนั้น เกาเล่อเดินทางไปเมืองผีด้วยตัวเองส่วนหวังหยวนก็กลับไปที่พักหลี่ซื่อหานรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหวังหยวนเดินเข้ามา นางก็ยิ้มหวานเดินเข้ามาหา แล้วควงแขนหวังหยวนขณะกล่าวว่า “ข้าได้ยินเรื่องที่ท่านกำลังทำอยู่ในช่วงนี้”“จะรับอนุภรรยาอีกแล้วหรือ?”หวังหยวนถึงกับหน้าเสียใครปากมาก เอาเรื่องนี้ไปบอกหลี่ซื่อหาน?ที่เขาไปหอนางโลมนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อสถานการณ์บ้านเมืองต่างหาก!“ในสายตาเจ้า ข้าเป็นผู้ชายที่เห็นผู้หญิงแล้วอดใจไม่ได้หรือ?”หวังหยวนจิบชา และกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์หลี่ซื่อหานยิ้มก่อนกล่าวว่า “ข้าเชื่อใจท่าน แต่คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของท่าน อาจทำให้เกิด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1879

    “ข้าบอกก็ได้...”“เหตุใดต้องโหดเหี้ยมกับข้าด้วย?”“ข้าเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง เจ้าไม่สงสารข้าบ้างหรือ?”หลิ่วหรูเยียนมองหวังหยวน ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงหวานมีเสน่ห์ “เจ้ารู้จักสถานที่แห่งหนึ่งทางตะวันตกที่ชื่อว่าเมืองผี หรือไม่?”“เมืองผี?”หวังหยวนส่ายหน้า ไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่สายตาของเขามองไปที่เกาเล่อเกาเล่อเป็นหัวหน้าองค์กรเครือข่ายผีเสื้อ ข้อมูลทั่วหล้าล้วนอยู่ในมือเขา หากแม้แต่เกาเล่อยังไม่รู้จัก แสดงว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ลับจริง ๆ!แต่ก็มีความเป็นไปได้อีกอย่าง คือหลิ่วหรูเยียนกำลังหลอกลวง!ทั้งหมดเป็นเพียงกลลวงของนาง!เกาเล่อเดินไปข้าง ๆ หวังหยวนแล้วกระซิบ “ข้ารู้จักเมืองผี...”“เดิมทีมันไม่ได้ชื่อเมืองผี ปัจจุบันมีชื่ออื่นแล้ว แต่เพราะเมื่อก่อนมีคนอดตายที่นั่นมากมาย มีข่าวลือว่ากลางดึกมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ จึงเรียกที่นั่นว่าเมืองผี”“แต่ที่จริงแล้วก็แค่เรื่องเล่าลือขอรับ”ฟังคำอธิบายของเกาเล่อแล้วหวังหยวนก็พยักหน้าจากนั้น ฃเขาก็มองไปที่หลิ่วหรูเยียนอีกครั้ง ก่อนกล่าวอย่างใจเย็น “เช่นนั้นเจ้าหมายความว่าฐานทัพใหญ่ของพรรคทมิฬอยู่ในเมืองผีหรือ?”หลิ่วหรู

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1878

    ทันใดนั้นหวังหยวนก็ให้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อถอยไป ส่วนเขามานั่งยอง ๆ ตรงหน้าหลิ่วหรูเยียนมุมปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเจ้ามีสิทธิ์ต่อรองกับข้าหรือ?”“ตอนนี้เจ้าอยู่ในมือข้า ตราบใดที่เจ้าทำตามที่ข้าต้องการ ข้าก็จะไว้ชีวิตเจ้า ไม่ให้ใครมารังแกเจ้าได้”“แต่ถ้าเจ้ายังกล้าต่อรอง เจ้าก็ลองดู ว่าข้าจะทำเรื่องโหดร้ายอะไร”“แต่อย่าหาว่าข้าไม่เตือน หากเจ้าท้าทายข้า ทำให้ข้าหมดความอดทน ผลลัพธ์สุดท้ายคงคาดเดาได้...”“เจ้าจะต้องเสียใจแน่นอน”เมื่อเห็นแววตาจริงจังของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนก็อยากจะฆ่าเขานักเหตุใดนางจึงต้องมาเจอกับปีศาจตนนี้ด้วย?ช่างโชคร้ายเสียจริง!“ตกลง!”“เช่นนั้นเจ้าต้องปล่อยข้าก่อน”“เจ้าจับข้าไว้ด้วยตาข่ายเช่นนี้ ข้าอึดอัดจะตายแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วพูดหวังหยวนรับมีดสั้นจากสมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อมาตัดตาข่ายใหญ่ตรงหน้าออก หลิ่วหรูเยียนจึงเป็นอิสระหวังหยวนกล่าวต่อ “ตอนนี้ข้าทำตามที่เจ้าต้องการแล้ว เจ้าควรจะบอกสิ่งที่ข้าอยากรู้ได้แล้วกระมัง?”เขาเองก็ใจกว้างพอหากไม่ใช่เพราะเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนเป็นผู้หญิง คงลงมือกับนางไปแล้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1877

    “เจ้าช่างเป็นคนต่ำทรามชั่วช้าเหลือเกิน!” หลิ่วหรูเยียนจะไม่เข้าใจสิ่งที่หวังหยวนจะสื่อได้อย่างไร ใบหน้านางซีดเผือดราวกับกระดาษ นัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความตกใจกลัวขณะตวาด!หญิงงามผู้มีชื่อเสียงในสถานเริงรมย์ แม้จะอยู่ในที่เช่นนั้น แต่ก็รักษาความบริสุทธิ์ไว้เสมอ ไม่เคยยอมให้ชายใดแตะต้องเรือนร่างอันงดงามของตน!แต่บัดนี้บุรุษผู้มีนามว่าหวังหยวนกลับใช้เรื่องนี้มาข่มขู่นาง เป็นการกระทำที่ชั่วช้าที่สุดเท่าที่เคยพบเจอมา!เหตุใดไม่รู้มาก่อนเลยว่าหวังหยวนน่ารังเกียจถึงเพียงนี้?“เจ้าไม่สมควรเป็นใหญ่ในแผ่นดิน!” “เจ้าเป็นแค่คนเลวทรามต่ำช้า!”“เช่นนั้นก็สังหารข้าเสีย การที่เจ้ามาล่วงละเมิดสตรีเช่นนี้ เจ้ายังถือว่าตนเป็นบุรุษผู้กล้าหาญได้อยู่หรือ?” “หากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป ชื่อเสียงของเจ้าจะต้องเสื่อมเสียอย่างแน่นอนใช่หรือไม่?”นางพยายามอย่างตะโกนเพื่อที่จะเปลี่ยนใจหวังหยวนให้ได้ ทว่าใบหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกใด เขายืนกอดอกเอ่ยเสียงเรียบเฉย “เป็นเรื่องปกติที่จะใช้วิธีการที่แตกต่างกันเพื่อปฏิบัติต่อผู้คนที่แตกต่างกัน”“หากเจ้าไม่ดื้อดึง ข้าก็คงไม่ต้องทำรุนแรงเช่นนี้ ข้าจะทำเช่นนี้กับ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1876

    “ข้าอยากรู้ว่าปากของนางกับมือของข้า อะไรจะแข็งกว่ากัน!”แม้จะเป็นเด็กกำพร้าก็ต้องหาวิธีง้างปากนางให้ได้!ไม่บรรลุเป้าหมายย่อมไม่หยุดยั้ง!ไม่นานหวังหยวนกับเกาเล่อก็มุ่งหน้าออกนอกเมืองที่หน้าศาลเจ้าเฉิงหวงหลิ่วหรูเยียนนั่งผิงไฟ ครุ่นคิดถึงแผนการต่อไปที่นางมาเมืองอู่เจียงนั้นเป็นเพราะคำสั่งของผู้นำระดับสูงในพรรคทมิฬ!เพื่อแทรกซึมเข้ามาในดินแดนศัตรู แล้วค่อย ๆ แผ่ขยายอำนาจไปยังเมืองหลิง!สาเหตุที่สาวกพรรคทมิฬแทรกซึมเข้ามาในดินแดนของหวังหยวน ไม่ใช่เพียงเพราะดินแดนของหวังหยวนเล็ก แต่เป็นเพราะหวังหยวนผู้นี้เป็นคนชาญฉลาดและรอบคอบ!หากเขาพบเบาะแสใดๆ ก็จะตามสืบจนเจอ และอาจนำพาหายนะมาสู่พวกเขา!แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!หวังหยวนเพิ่งจะสังเกตเห็นร่องรอยของสาวกพรรคทมิฬ ไม่คิดเลยว่าจะพบตัวหลิ่วหรูเยียน!จากนั้นค่อยสืบหาความลับของพรรคทมิฬ!เรื่องนี้ต้องระวังให้ดี!“เหตุใดนกพิราบสื่อสารยังไม่กลับมาอีกนะ?”“หรือว่าจะเกิดเรื่อง...”หลิ่วหรูเยียนที่นั่งอยู่หน้ากองไฟ สำรวจสถานการณ์นอกประตูด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักแม้สมาชิกองค์กรเครือข่ายผีเสื้อจะซ่อนตัวอยู่ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของนาง!แต

DMCA.com Protection Status