หลังจากออกคำสั่ง ทหารสองหมื่นนายก็ยกธงรบขึ้นสูงทันที พวกเขามีท่าทีโหดร้ายเป็นพิเศษ ทุกคนต่างคำรามและตะโกนให้เริ่มโจมตีพวกถังหม่าง!ถังหม่างเห็นเช่นนั้นจึงยิ้มอย่างเย็นชา“หมานต๋าถูคิดว่ามีโอกาสชนะจริงหรือ? ดูเหมือนว่าหากไม่สอนบทเรียนให้พวกเขา พวกเขาก็คงจะไม่ยอมรับความจริงที่ว่าพวกเขาจะต้องพ่ายแพ้”ถังหม่างกำระเบิดไว้ในมือของเขา แม้ว่าทหารหลายคนที่อยู่ข้างหลังเขาจะรู้สึกไม่สบายใจเลย แต่เมื่อเห็นว่าขุนพลถังหม่างไม่มีท่าทีว่าจะถอย พวกเขาจึงยังคงยืนอยู่ด้านหลังเพื่อคอยปกป้องถังหม่างอย่างแน่วแน่!เมื่อเห็นกองทหารของศัตรูสองหมื่นนายเข้ามาใกล้!ในช่วงเวลาวิกฤติอย่างยิ่งนี้ ถังหม่างโบกมือแล้วพูดด้วยความโกรธ “ในเมื่อพวกเจ้ากำลังรนหาที่ตายเองอย่างประมาท เช่นนั้นข้าก็จะช่วยสงเคราะห์ให้!”สิ้นเสียงตะโกนอันโกรธเกรี้ยว ทันใดนั้นถังหม่างก็ขว้างระเบิดไปยังตำแหน่งตรงหน้าเขา!ระเบิดลูกนั้นลอยเป็นวิถีโค้งพุ่งเข้าใส่ฝูงชนทันที วินาทีต่อมาก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว และควันไฟลอยฟุ้งจนปกคลุมฝูงชน!ทรายและฝุ่นจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดขึ้นมาในทันที ทหารจำนวนมากถูกแรงอัดที่รุนแรงกระแทกจนร่างกระเด็นห่าง
หมานต๋าถูตกใจมาก!เขารู้จากครั้งที่แล้วว่าสิ่งนี้ทรงพลังเพียงใด แต่เขายังไม่เคยเห็นมันมาก่อน!แต่ตอนนี้ได้เห็นแล้ว...ทำให้เขาตกประหวั่นพรั่นพรึง!ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต เขาจึงไม่ต้องการจะยอมแพ้แต่เมื่อเขาเห็นอาวุธที่ซ่อนอยู่ในมือของถังหม่างเขาก็ลังเลทันที!ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าทหารแปดหมื่นนายของเขาจะสามารถสังหารทหารหนึ่งหมื่นนายของถังหม่างได้ แต่ครึ่งหนึ่งของทหารของเขาก็อาจจะถูกสังหารด้วยการระเบิดนี้!ถึงตอนนั้นฝ่ายเขาจะมีทหารเพียงสี่หมื่นนายเท่านั้น...เกรงว่าจะเอาชนะได้ยาก!ยิ่งไปกว่านั้นคือคนผู้นี้อยู่ในดินแดนต้าเย่และสังหารคนต้าเย่ได้!ถ้าล้มเหลวก็อาจจะ...ยากที่จะกลับมาแล้ว!เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของหมานต๋าถูก็เคร่งเครียดมาก จากนั้นเขาก็พูดด้วยความโกรธ “ถังหม่าง กลับไปบอกหวังหยวนว่าข้าจดจำเรื่องนี้ไว้แล้ว สักวันหนึ่งข้าจะให้เขาชดใช้อย่างสาสม!”พูดจบหมานต๋าถูก็ทำได้เพียงสั่งถอยทัพเท่านั้น!ถังหม่างเห็นเช่นนั้นจึงยกยิ้มอ่อน ก่อนจะสั่งให้ทหารบุกเข้าควบคุมเมืองสู่อย่างแข็งขัน!ใช้เวลาอีกสองวันเรื่องก็จะจบลงแล้ว!ในเวลาเดียวกัน อากู่ต๋าที่สูญเสียทห
อากู่ต๋าตกใจเล็กน้อย แม้ว่าจะมีสายลับเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่พวกเขาไม่กล้าแสดงท่าทีหุนหันพลันแล่น เพราะเมื่อไปค้นหาแล้ว อีกฝ่ายจะต้องเตรียมพร้อมไว้แล้วอย่างแน่นอน!สิ่งที่ทรงพลังที่สุดของสายลับนี้คือทำให้สามารถตรวจสอบทุกอย่างภายในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ได้พวกเขาอยากจะลงมือโจมตี แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารพร้อมกันหมด!ตราบใดที่หนึ่งในนั้นส่งสัญญาณเตือน พวกเขาจะล้มเหลว!“ให้ตายเถอะ! หวังหยวน เจ้าไม่ได้มาด้วยแต่ก็ยังคงยอดเยี่ยมจริง ๆ!”อากู่ต๋าพูดตามตรง ความโกรธเกรี้ยวปรากฏบนใบหน้าของเขา!ในขณะนี้ตระกูลเซิ่งได้เริ่มโจมตีเมืองหลวงแล้ว แต่ก็ยากที่จะพิชิตได้ในทันที!นักสืบมารายงานตัวว่าค้นพบกองกำลังของตระกูลไป๋แล้วทั้งเซิ่งฟางสี่และเซิ่งตงฉยงจึงเครียดมาก!ไม่จำเป็นต้องบอกว่าความพากเพียรของอู๋หลิงนั้นไม่ลดลงเลย สิ่งสำคัญคือยังมีกองกำลังจำนวนมากของตระกูลไป๋กำลังจับตาดูสถานการณ์อยู่ ซึ่งมันไม่ใช่ข่าวดีสำหรับพวกเขาเลย!“ลูกเอ๋ย วันนี้... เราควรจะแข็งแกร่งพอที่จะยึดเมืองหลวงได้อย่างสมบูรณ์แล้ว!”เซิ่งฟางสี่ถอนหายใจ ถ้าพวกเขาสามารถเอาชนะได้ตอนนี้เลยก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่ยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่
หวังหยวนรู้ดีว่าตอนจบเช่นนี้ไม่สามารถแก้ไขได้!ไม่มีอะไรที่ใครทำได้เลย!แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนย่อมสรุปได้ว่าทั้งสามเสาหลักจะต้องแยกออกจากกัน!เพราะเมื่อเสือทั้งสามตัวต่อสู้กันย่อมไม่กล้าไปไกลเกินไป ต้าเย่ที่เหลืออยู่แม้ว่าจะไม่ใช่เสือที่ดุร้ายนัก แต่หากอยู่ในช่วงพลบค่ำก็ยังไม่อาจประมาทได้!ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน แผ่นดินต้าเย่กลับมามีเสถียรภาพแล้ว!หวังหยวนรู้สึกได้ว่าการปกครองเช่นนี้จะมั่นคงเป็นเวลาอย่างน้อยสามหรือห้าปี!“ตอนนี้เราอยู่ใน... ดินแดนของตระกูลไป๋แล้ว...”หวังหยวนยกยิ้มแต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะนี่คือสิ่งที่เขาหวังมากที่สุดถ้าเมืองหลิงถูกแยกจากตระกูลเซิ่งก็เกรงว่าตระกูลเซิ่งจะเข้าไปรุกรานเป็นครั้งคราว“ใช่แล้ว ตอนนี้แผ่นดินถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนอย่างสมบูรณ์แล้ว พี่หยวน เราควรทำอย่างไรดี?”ในเวลานี้เกาเล่อถามขึ้นมา“แน่นอนว่าต้องสะสมกำลังไว้ ไม่อย่างนั้นจะทำอย่างไร? เริ่มทำสงครามกับพวกเขาหรือ? เหนื่อยเกินไปหรือไม่”หวังหยวนโบกมือ ไม่มีอะไรที่เขาอยากทำในสถานการณ์นี้สามอาณาจักรนั้นมีเสถียรภาพที่สุดมาโดยตลอด สองฝ่ายถูกยึดเข้ามากันเหมือนแผ่นเหล็ก ไม่มีใครสามาร
ข่าวนี้แพร่ไปยังเมืองหวงด้วยเซียวฉู่ฉู่มีสีหน้าไม่พอใจเมื่อทราบข่าว!“เป็นเรื่องคาดไม่ถึงจริง ๆ ที่ต้าเย่ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน สามารถบอกได้ว่าอาณาจักรเมืองหวงของเราเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก…”เซียวฉู่ฉู่ถอนหายใจ แต่นี่เป็นเพียงผิวเผินเท่านั้น หากหารือกันอย่างงจริงจัง อาณาจักรนี้ก็เกือบจะเหมือนกับหนึ่งในสามอาณาจักรนั้น!เพราะดินแดนทั้งเก้านั้นอุดมสมบูรณ์มาก ดินแดนของพวกเขาเทียบไม่ได้เลย!“ไทเฮา เมื่อต้าเย่แบ่งออกเป็นสามส่วนแล้ว เราจะฉวยโอกาสจับปลาในน้ำขุ่นได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”ในเวลานี้อากู่ต๋าถามตามตรง“เราอยู่ใกล้กับอาณาจักรต้าเป่ยของตระกูลไป๋มากที่สุด หากเราร่วมมือกับอาณาจักรต้าอันของตระกูลเซิ่งเพื่อทำงานร่วมกัน เราอาจจะทำลายพวกเขาได้!”เซียวฉู่ฉู่โบกมือหลังจากได้ฟังเช่นนี้ นางส่ายหน้าแล้วพูดว่า “แม้ว่าตระกูลไป๋จะอยู่ใกล้กับเรามากที่สุด แต่ในดินแดนของตระกูลไป๋มีหวังหยวนอยู่ด้วย...”หลังจากได้ฟังเช่นนี้อากู่ต๋าก็พยักหน้าและถอนหายใจเขายังไม่ลืมว่ากองกำลังสองหมื่นนายของหวังหยวนขัดขวางคนของพวกเขาได้อย่างไรหลังจากที่หมานต๋าถูทราบเรื่องนี้ ใบหน้าของเขาก็โกรธแค้นเดิมทีพ
หลังจากที่ไป๋ชิงชางพูดเช่นนั้น ไป๋เจิ้นถังก็สามารถเข้าใจได้ว่าแม้ว่าการก่อตั้งอาณาจักรของตระกูลไป๋จะไม่ราบรื่นและสงบสุขนักในความคิดของผู้คน แต่จากการวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายมากเกินไปเพราะเมื่อก่อตั้งอาณาจักรนี้แล้ว พวกเขาจะสามารถดำเนินการหลายเรื่องได้ง่ายขึ้นมาก!สำหรับจิตใจของราษฎรนั้น หากบอกว่าง่ายที่จะพิชิตก็ง่าย หากบอกว่ายากที่จะพิชิตก็ยาก!เพราะแล้วคนเหล่านี้จำเป็นต้องเลี้ยงปากท้องตนเองเปรียบเสมือนต้าเย่เป็นบิดามารดาผู้ให้กำเนิด แต่เมื่ออยู่กับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ชีวิตของพวกเขากลับแร้นแค้นจนน่าสังเวชตอนนี้พวกเขาอยู่ที่นี่กับพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยง หากพวกเขามีชีวิตที่ดี มีอาหารและเสื้อผ้าที่อบอุ่นเพียงพอ แม้ว่าพวกเขาจะยังผูกพันกับบิดามารดาผู้ให้กำเนิด แต่พวกเขาก็ย่อมรู้ว่าใครดีต่อพวกเขา!หากใจคนรวมกันเป็นหนึ่งได้ บางทีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกเขาเคยมีก็อาจจางหายไปในท้ายที่สุดดังนั้นไป๋เจิ้นถังจึงไม่กังวลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประชาชนในทั้งสามแคว้น!“ตอนนี้เสาหลักทั้งสามกำลังพัฒนาอยู่ แม้ว่าสถานการณ์นี้จะไม่เป็นประโยชน์ต่อพว
“อีกทั้งหวังหยวนยังมีความสามารถเลิศล้ำ ข้าคิดว่าหากเขาเข้ามาในตระกูลไป๋ของเราก็คงจะดีกว่า และตอนนี้ยังมีโอกาส…”ทันทีที่ได้ฟังเช่นนี้ ไป๋เจิ้นถังก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจในทันใด“เจ้าคิดว่า… เฟยเอ๋อร์หรือ?”ไป๋เจิ้นถังถาม ไป๋ชิงชางได้ฟังแล้วจึงพยักหน้า“ใช่ขอรับท่านพ่อ ความจริงแล้ว... ข้าคิดไว้เช่นนั้น สาเหตุแรกเป็นเพราะผลประโยชน์ส่วนตัว หากน้องสาวกับหวังหยวนอยู่ด้วยกันจริง ๆ ก็ย่อมเป็นประโยชน์กับตระกูลไป๋ของเราขอรับ”“สาเหตุที่สอง... ในโลกนี้มีคนไม่มากนักที่มีอำนาจมากกว่าหวังหยวน ไม่ว่าจะเป็นอู๋หลิง เซิ่งตงฉยง หรือแม้แต่อ๋องหมานอี๋ ข้าก็คิดว่าพวกเขาไม่ดีเท่าหวังหยวน ไม่ต้องพูดถึงว่าท่านพ่อเองก็คงไม่คิดจะให้น้องสาวแต่งงานนอกต้าเป่ย ใช่หรือไม่ขอรับ?”คำพูดของไป๋ชิงชางไม่ได้มาจากมุมมองเพื่อคนตระกูลไป๋ทั้งหมด แต่เป็นมุมมองเพื่อน้องสาวของเขาด้วยหวังหยวนเป็นคนพิเศษมาก น้องสาวของเขาจะไม่มีทางตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน หากนางติดตามเขาดังนั้น...ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็คงจะดีถ้าตระกูลไป๋และหวังหยวนเป็นทองแผ่นเดียวกันได้ไป๋เจิ้นถังย่อมเข้าใจเรื่องนี้“นั่นก็จริง เช่นนั้น...
รอยยิ้มจางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไป๋ชิงชางเขามองไป๋เฟยเฟยด้วยสายตาจริงจังแล้วถามว่า “น้องสาว เจ้าไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าควรจะแต่งงานแล้ว”สีหน้าของไป๋เฟยเฟยเปลี่ยนเป็นลังเลทันทีที่ได้ฟังดังนั้นไป๋ชิงชางแสร้งทำเป็นไม่เห็น เขามองไป๋เฟยเฟยด้วยรอยยิ้มแล้วถามเบา ๆ“น้องสาว ช่วงนี้เจ้าได้ติดต่อกับผู้ชายไม่กี่คน คนเดียวที่มีความสามารถเทียบเท่าเจ้าก็คือ เซิ่งตงฉยง จากตระกูลเซิ่ง”“น่าเสียดายที่เขามาจากตระกูลเซิ่ง เจ้าทั้งสองจึงไม่ได้ถูกลิชิตให้คู่กัน”เมื่อได้ฟังเช่นนั้น สีหน้าของไป๋เฟยเฟยก็กลายเป็นจริงจังขึ้นมาทันทีนางส่ายหน้าโดยไม่ลังเลแล้วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ เซิ่งตงฉยงแข็งแกร่งมากจริง ๆ และความสามารถของเขาในการนำทัพยามเกิดศึกสงครามก็ไม่เลว แต่ถ้าข้าต้องต่อสู้กับเขาจริง ๆ ข้าคงไม่แพ้เขาหรอก”ไป๋เฟยเฟยมีสีหน้าภาคภูมิใจมาก ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ตระกูลเซิ่งเป็นคู่ต่อสู้ของพวกนางด้วย แม้ว่าเมื่อก่อนจะไม่ใช่ แต่นางก็ไม่กลัวเลย!นางรู้ดีว่าคนอย่างเซิ่งตงฉยงเจ้าเล่ห์เพทุบายและมีไหวพริบ คนเช่นนี้จะเข้ากับนางได้ดีได้อย่างไร?เมื่อเห็นความมุ่งมั่นบนใบหน้าของไป๋เฟยเฟย ราวกับว่านาง