ทั้งสองคนย่อมหวาดกลัวอยู่แล้ว!นี่กองกำลังทหารม้าแปดหมื่นนาย!พวกเขาจะปลอดภัยได้อย่างไร?ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเคร่งเครียด เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลงเร็วถึงเพียงนี้!เหตุใดจู่ ๆ ตระกูลไป๋จึงลงมือ?พวกเขาบรรลุข้อตกลงกับไป๋เหยียนเฟยจริงหรือ?เป็นไปได้หรือไม่ว่าไป๋เหยียนเฟยต้องการยกต้าเย่ให้กับตระกูลไป๋!เซิ่งฟางสี่โกรธมาก และเนื่องจากเขากำลังบันดาลโทสะในตอนนี้ เขาจึงไม่ลังเลเลย!“เราจะล่าถอยไปยังแคว้นกู่พร้อมกองทหารม้าทั้งหมดของเรา แม้ว่าเราจะมีทหารเหลือเพียงสี่หมื่นนาย แต่เราก็น่าจะยังยึดแคว้นกู่ไว้ได้!”“ตราบใดที่พี่ชายของเจ้ารีบมาทัน ทุกอย่างจะเรียบร้อย!”เซิ่งฟางสี่พูดทันที จากนั้นกองทหารสี่หมื่นนายก็ถอยกลับไปยังแคว้นกู่ ก่อนที่อู๋หลิงและไป๋เจิ้นถังจะมาถึง พวกเขาก็รวมตัวกันเพื่อสร้างแนวป้องกันที่แข็งแกร่งมากทันที!เซิ่งฟางสี่ได้เตรียมการไว้นานแล้ว!หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น เขาจะยังคงมีฐานทัพให้อาศัยอยู่!แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะมาถึงจริง ๆ!ในเวลาเดียวกัน เขาได้ส่งจดหมายไปกับนกพิราบสื่อสาร ขอให้เซิ่งตงฉยงมาช่วยเหลือ ส่วนฝ่ายเขาต้องอดทนต่อไปในไม่ช้ากองท
นี่มันเหนือจริงเกินไปแล้ว!แต่ทหารหลายคนที่อยู่รอบตัวเขาก็พูดเช่นนั้น หมานต๋าถูจึงได้แต่นั่งฟังบนบัลลังก์มังกร!“ให้ตายเถอะ! ไม่น่าแปลกใจเลยที่หวังหยวนผู้นี้กล้าเข้าร่วมกองกำลังกับข้า แท้จริงแล้วเขามีวิธีจัดการกับเซิ่งตงฉยงอยู่แล้ว เพียงเพื่อให้เราล่อเซิ่งตงฉยงออกจากเมืองเท่านั้น!!”“ผลก็คือเขาเข้ายึดครองเมือง และเอาชนะเซิ่งตงฉยงได้ พวกเราย่อมไม่ได้ประโยชน์เลย!”หมานต๋าถูตกใจมาก เขารู้มานานแล้วว่าหวังหยวนนั้นไม่ธรรมดา แต่ใครจะคิดว่าเขาจะใช้วิธีการเช่นนี้!“หวังหยวนขอให้พวกข้าส่งข่าวมาถึงท่าน เขาบอกว่า... หากท่านต้องการโจมตีเมืองสู่ก็สามารถทำได้…”ตอนนี้เอ้อร์ฮาพูดอย่างระมัดระวังอีกครั้งหมานต๋าถูได้ยินเช่นนี้ก็โกรธมาก!“ข้าจะไปพบกับหวังหยวนที่ชายแดน!”เขาย่อมไม่เห็นด้วยกับการต้องเสียเมืองสู่ไปเช่นนี้ แต่เขาก็รู้ด้วยว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะแย่งชิงมันกลับมา!แต่ไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ไปได้!เขาต้องไปหาหวังหยวนเพื่อขอคำอธิบาย!พูดจบ เขาก็ออกเดินทางมุ่งหน้าตรงไปยังชายแดนเมืองสู่โดยไม่รีรอในเวลาเดียวกัน เขาก็ส่งข่าวถึงหวังหยวนให้ออกมาพบเขาด้วยหวังหยวนหัวเราะทันทีเมื่อได้รับจดหมา
หวังหยวนหัวเราะยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ฟังเช่นนั้น“ข้าเป็นพ่อค้า ย่อมเข้าใจดีว่าถ้าเจ้าพูดเรื่องนั้น ข้าคงต้องเถียงกับเจ้าอย่างจริงจัง”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ หมานต๋าถูก็พยักหน้า“ใช่ แต่ก่อนหน้านั้นข้ามีเรื่องจะพูด เจ้าโปรดฟังข้าก่อน”หลังจากที่หมานต๋าถูพูดจบ เขาก็พูดอีกครั้ง“คราวนี้พวกเราหมานอี๋ได้ส่งกองกำลังออกไปห้าหมื่นนาย ถ้าไม่ใช่เพราะกองกำลังห้าหมื่นนายของข้ามาดึงดูดความสนใจของเซิ่งตงฉยง เจ้าคงไม่ประสบความสำเร็จง่ายดายถึงเพียงนี้ เจ้ายอมรับความจริงข้อนี้หรือไม่?”หลังจากที่หมานต๋าถูพูดจบ หวังหยวนก็พยักหน้าทันที“แน่นอน ข้ายอมรับ!”“ดี กองกำลังทหารม้าห้าหมื่นนายของพวกข้ายั่วยุเซิ่งตงฉยง อย่างน้อยก็พาพวกเขาออกจากเมืองได้ ดังนั้นเจ้าจึงมีโอกาสที่จะยึดเมืองสู่ได้ในคราวเดียว เจ้ายอมรับความจริงข้อนี้หรือไม่?”“ได้สิ ข้ายอมรับเหมือนกัน”หวังหยวนพยักหน้าอีกครั้ง หมานต๋าถูถึงพอใจมาก“ในกรณีนี้ พวกข้าช่วยให้เจ้าดึงดูดความสนใจของเซิ่งตงฉยง เพื่อหันเหความสนใจของเขา และช่วยให้เจ้ารั้งเขาไว้ได้ จากนั้นพวกเจ้าก็ชนะการต่อสู้ครั้งนี้ ข้าไม่กล้าบอกว่าพวกข้ามีความดีความชอบถึงครึ่งหนึ่ง แ
“จะเป็นอย่างไรหากข้าลงมือ เมื่อการต่อสู้กำลังดำเนินไปอย่างเต็มที่? จะเป็นอย่างไรหากข้าลงมือหลังจากที่ปล่อยให้พวกหมานอี๋อย่างพวกเจ้า สูญเสียทหารสองหมื่นถึงสามหมื่นนายไปแล้ว?”“เกรงว่าไม่เพียงแต่พวกเจ้าจะยึดเมืองสู่ไม่ได้เท่านั้น แต่ยังต้องสูญเสียทหารไปมากมายด้วย”“ดังนั้น... ผู้คนสองหมื่นถึงสามหมื่นคนที่รอดชีวิตเหล่านี้ คือผลประโยชน์ที่เจ้าได้รับ และพวกเขาก็ยังเป็นผลประโยชน์ที่ข้าสามารถมอบให้เจ้า ผ่านความร่วมมือของเราในครั้งนี้ด้วย”หวังหยวนยิ้มอย่างจริงใจมากแต่คำพูดเหล่านี้ทำให้หมานต๋าถูหดหู่ใจมาก!เขาปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ!เพราะสิ่งที่หวังหยวนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!ถ้าเป็นเขา เขาคงจะรอจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บหนักก่อนแน่นอน รอให้ทั้งสองฝ่ายอ่อนแอลงแล้วค่อยลงมือ!แต่หวังหยวนไม่ทำเช่นนั้น และวิธีการของหวังหยวนไม่ได้ถูกนำมาใช้โจมตีกองทหารของเขา เพราะต้องการปล่อยกองทหารจำนวนมากของเขาออกไป!“หวังหยวน เจ้าวางแผนจะคืนคนของข้าให้เป็นรางวัลแก่ข้าจริง ๆ เกรงว่าเจ้าคงเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ ด้วยการคำนวณทุกอย่างมาหมดแล้ว!”คำพูดของหมานต๋าถูมีสองความหมาย!ควา
เมื่อหมานต๋าถูจากไป ไป๋เฟยเฟยก็มาถึงหน้าค่ายของอู๋หลิงแล้ว!อู๋หลิงอยู่ในกระโจมของผู้บังคับบัญชา กำลังครุ่นคิดหาทางเอาชนะศัตรูอยู่ ทันใดนั้นทหารคนหนึ่งก็เข้ามารายงาน“ขุนพลอู๋ ข้างนอกมีคนมาขอพบท่าน บอกว่ามาจากตระกูลไป๋ขอรับ”อู๋หลิงได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง“คนจากตระกูลไป๋... ฮ่าฮ่า เรียกเข้ามาเลย”อู๋หลิงรู้ว่าเป็นใครโดยไม่ต้องคิดเลย!ไป๋เฟยเฟย!เขารู้มานานแล้วว่าสตรีผู้นี้มีความทะเยอทะยานมาโดยตลอด ตอนนี้คนที่สามารถมาหาเขาเพื่อพูดคุยหาวิธีพิชิตศัตรูได้ อู๋หลิงไม่สามารถคิดถึงใครได้อีกนอกจากนาง!ทหารพยักหน้าแล้วรีบออกไป ไม่นานหลังจากนั้นไป๋เฟยเฟยก็เดินเข้ามา“อู๋หลิง ไม่เจอกันนานเลย”ไป๋เฟยเฟยทักทายด้วยรอยยิ้มอู๋หลิงเหลือบมองไป๋เฟยเฟยแล้วหัวเราะ “เชิญนั่งลงก่อนเถิด”พูดจบ เขาก็รินชาใส่ถ้วยให้ไป๋เฟยเฟย แล้วบอกให้คนที่อยู่ข้างกายเขาซ้ายขวาออกไปไป๋เฟยเฟยมองหน้าอู๋หลิงแล้วพูดตามตรง “ครั้งสุดท้ายที่ข้าพบเจ้า เจ้ายังคงอยู่ในสภาพสิ้นหวัง เมื่อเราพบกันอีกครั้ง เจ้าได้เป็นคนสนิทของฮองเฮาแห่งต้าเย่แล้ว ช่างน่ายินดียิ่ง ขอแสดงความยินดีด้วย!”หลังจากได้ฟังเช่นนี้ อู๋หลิงก็
อู๋หลิงรู้ว่าไป๋เฟยเฟยยังคงทดสอบเขาอยู่ สตรีผู้นี้เจ้าเล่ห์มากจริง ๆ เขาจึงต้องระมัดระวังทุกคำพูดที่พูดกับนาง“อาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ข้าไม่มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ ไป๋เฟยเฟยก็เริ่มสับสน“อู๋หลิง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ไป๋เฟยเฟยถามด้วยความสงสัยชายคนนี้อยากเป็นขุนนางผู้ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่ง แล้วตอนนี้เหตุใดเขาถึงบอกว่าเขาไม่คิดเรื่องนี้?อู๋หลิงตอบตามตรง “เจ้าเองก็น่าจะรู้สถานการณ์ของข้าดี ตอนนี้ฮ่องเต้ซิงหลงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ภารกิจของข้าคือการทำให้คนตระกูลอู๋มีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยและสงบสุข ส่วนเรื่องอื่นนั้น ข้าไม่ได้วางแผนไว้”“พูดตามตรง คราวนี้ที่ข้าส่งทหารไปจัดการกับตระกูลเซิ่ง เป็นเพียงเพราะข้าแค่เคารพความปรารถนาสุดท้ายของบิดา และไม่ต้องการให้ต้าเย่ต้องล่มสลาย”“ทุกวันนี้เป็นเพราะข้ายังมีความสามารถอยู่ ต้าเย่จึงมอบหมายภารกิจสำคัญนี้ให้ข้า เพราะข้ายังสามารถใช้ทักษะของตัวเองทำประโยชน์ได้ หากเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น ข้าคิดว่าข้าคงได้อยู่แต่ในคฤหาสน์ของตัวเองอย่างสงบเท่านั้น”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ สีหน้าเขามีความหมองเศร้าเขาสัญญากับฮองเฮาไว้ว่า
เมื่อไป๋เฟยเฟยสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของอู๋หลิง จึงตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบถาม“เจ้าได้ข่าวอะไรหรือ?”อู๋หลิงวางจดหมายจากนกพิราบสื่อสารลงแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้ามีวิธีจับตัวทำให้เซิ่งฟางสี่โดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามแล้ว!”ไป๋เฟยเฟยรีบถามด้วยความประหลาดใจทันทีที่ได้ยินคำตอบ “ทำอย่างไร?”อู๋หลิงถามว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองสู่?”ไป๋เฟยเฟยได้ฟังแล้วก็ตกใจ!นางนึกบางอย่างได้ทันที!“คนที่อยู่ในเมืองสู่คือหวังหยวนนี่!”“หรือว่า... เซิ่งตงฉยงจะพ่ายแพ้แล้ว?”แม้ว่านางจะเชื่อในตัวหวังหยวน แต่นี่มันผ่านไปแค่วันเดียวเท่านั้น!หากหวังหยวนเอาชนะเซิ่งตงฉยงได้แล้วจริง ๆ! นี่จะเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก!นางรู้ว่าตระกูลเซิ่งแข็งแกร่งเพียงใด!แม้ว่าจะมีกองกำลังเพียงสามหมื่นคนเท่านั้น!แต่ความแข็งแกร่งของกองกำลังดังกล่าวสามารถเอาชนะคนได้อย่างน้อยหกหมื่นคน!หวังหยวนกำราบเขาได้ภายในวันเดียวหรือ?เขาไปเอาไพร่พลมากมายมาจากไหน!อู๋หลิงพยักหน้า “เสนาธิการทหารก็คือเสนาธิการทหาร ภายในวันเดียวเซิ่งตงฉยงก็พ่ายแพ้ราบคาบ ตอนนี้เซิ่งตงฉยงกำลังหลบหนีจากเมืองสู่ไปพร้อมกับทหารพ่ายศึกที่
เพียงแค่วันเดียวแต่ก็พ่ายแพ้แล้วหรือ?ต่อให้พวกนั้นจะยื่นคอให้ตัดเอง เวลาเพียงแค่วันเดียวก็ไม่พอ!ยิ่งไปกว่านั้น คือหวังหยวนไปหากองกำลังมากมายมาจากไหน?“หวังหยวนก็ลักลอบฝึกทหารด้วยหรือ? ตระกูลเซิ่งมีทหารสามหมื่นคน ถ้าต้องการเอาชนะพวกเขาให้ได้ภายในหนึ่งวัน เขาจะต้องมีอย่างน้อยห้าหมื่นนาย! เขาไปหาคนมากมายมาจากไหน!”ไป๋เจิ้นถังรีบถาม ไป๋เฟยเฟยได้ฟังเช่นนี้จึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หวังหยวนไม่มีกองกำลังมากนัก ข้าคิดว่าเขาคงอาศัยความช่วยเหลือของหมานอี๋”ไป๋เจิ้นถังฟังแล้วจึงพยักหน้า ก่อนพูดว่า “ก็คงจะเป็นเช่นนั้น แต่พ่อยังไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเขาจะสามารถเอาชนะเซิ่งตงฉยงได้ คนผู้นี้... มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมเหนือใครในโลก ถ้าเขามาช่วยตระกูลไป๋ได้ก็คงดีไม่น้อย!”ไป๋เฟยเฟยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านพ่อไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าค่ะ หวังหยวนกับข้าเป็นสหายกัน ในอนาคตจะไม่มีทางเป็นศัตรูกันอย่างแน่นอน!”ไป๋เจิ้นถังมองลูกสาวด้วยสายตามีเลศนัย “เป็นสหายกัน... เท่านั้นยังไม่เพียงพอหรอก คงจะดีถ้าเจ้าทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากัน”หวังหยวนเป็นอัจฉริยะ ไป๋เจิ้นถังย่อมหวังว่าลูกสาวจะได้แต่งงานกับคนเก่งเช่นนี้ และยังหวั