Share

บทที่ 1067

Penulis: ชวินเป่ยอี๋
“เพราะเหตุใดหรือขอรับ?”

หวังหยวนมองต้าหู่แล้วพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าฮองเฮาชักชวนตระกูลไป๋ ให้เข้าร่วมกับพวกนางในการจัดการกับตระกูลเซิ่งได้อย่างไร แต่ข้ารู้ว่าตระกูลไป๋มีความทะเยอทะยานมาก ย่อมไม่ยอมปล่อยตำแหน่งสูงสุดไปอย่างง่ายดายแน่นอน!”

“ดังนั้น...เพลิงสงครามครั้งนี้จะยังไม่หยุดยั้ง”

หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ เขาก็เดินลงจากกำแพงเมืองโดยไม่รีรอ แล้วมองไปยังกองทัพหมานอี๋ในระยะไกล!

พวกเขาคงถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว!

กองทัพกว่าสามหมื่นคน!

เซิ่งตงฉยงมีทหารทั้งหมดสามหมื่นนาย!

ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และมีคนหลบหนีไปได้นับพันคน ซึ่งก็ถือว่าไม่เลวเลย!

นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!

“ข้าขอทราบชื่อของเจ้าได้หรือไม่?”

หวังหยวนนั่งบนหลังม้า เมื่ออยู่ไม่ไกลจากกองทัพของเอ้อร์ฮา เขาก็ตะโกนถาม

เอ้อร์ฮารีบตอบ “ท่านหวังหยว นข้าเป็นขุนพลหมานอี๋ นามว่าเอ้อร์ฮา”

“ขุนพลเอ้อร์ฮา โปรดอย่ายึดเมืองสู่ ตราบใดที่มีข้ายังอยู่ที่นี่ เจ้าไม่อาจยึดมันไปได้ แน่นอนเจ้ามีกองกำลังห้าหมื่นนาย หากเจ้าต้องการยึด ก็มาโจมตีได้เลย”

หวังหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม ทันทีที่เขาพูดจบ เอ้อร์ฮาก็ส่ายหน้า

“ไม่หรอกขอรับ... คุณชายหวั
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1068

    ทั้งสองคนย่อมหวาดกลัวอยู่แล้ว!นี่กองกำลังทหารม้าแปดหมื่นนาย!พวกเขาจะปลอดภัยได้อย่างไร?ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเคร่งเครียด เขาคาดไม่ถึงเลยว่าเหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลงเร็วถึงเพียงนี้!เหตุใดจู่ ๆ ตระกูลไป๋จึงลงมือ?พวกเขาบรรลุข้อตกลงกับไป๋เหยียนเฟยจริงหรือ?เป็นไปได้หรือไม่ว่าไป๋เหยียนเฟยต้องการยกต้าเย่ให้กับตระกูลไป๋!เซิ่งฟางสี่โกรธมาก และเนื่องจากเขากำลังบันดาลโทสะในตอนนี้ เขาจึงไม่ลังเลเลย!“เราจะล่าถอยไปยังแคว้นกู่พร้อมกองทหารม้าทั้งหมดของเรา แม้ว่าเราจะมีทหารเหลือเพียงสี่หมื่นนาย แต่เราก็น่าจะยังยึดแคว้นกู่ไว้ได้!”“ตราบใดที่พี่ชายของเจ้ารีบมาทัน ทุกอย่างจะเรียบร้อย!”เซิ่งฟางสี่พูดทันที จากนั้นกองทหารสี่หมื่นนายก็ถอยกลับไปยังแคว้นกู่ ก่อนที่อู๋หลิงและไป๋เจิ้นถังจะมาถึง พวกเขาก็รวมตัวกันเพื่อสร้างแนวป้องกันที่แข็งแกร่งมากทันที!เซิ่งฟางสี่ได้เตรียมการไว้นานแล้ว!หากเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น เขาจะยังคงมีฐานทัพให้อาศัยอยู่!แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะมาถึงจริง ๆ!ในเวลาเดียวกัน เขาได้ส่งจดหมายไปกับนกพิราบสื่อสาร ขอให้เซิ่งตงฉยงมาช่วยเหลือ ส่วนฝ่ายเขาต้องอดทนต่อไปในไม่ช้ากองท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1069

    นี่มันเหนือจริงเกินไปแล้ว!แต่ทหารหลายคนที่อยู่รอบตัวเขาก็พูดเช่นนั้น หมานต๋าถูจึงได้แต่นั่งฟังบนบัลลังก์มังกร!“ให้ตายเถอะ! ไม่น่าแปลกใจเลยที่หวังหยวนผู้นี้กล้าเข้าร่วมกองกำลังกับข้า แท้จริงแล้วเขามีวิธีจัดการกับเซิ่งตงฉยงอยู่แล้ว เพียงเพื่อให้เราล่อเซิ่งตงฉยงออกจากเมืองเท่านั้น!!”“ผลก็คือเขาเข้ายึดครองเมือง และเอาชนะเซิ่งตงฉยงได้ พวกเราย่อมไม่ได้ประโยชน์เลย!”หมานต๋าถูตกใจมาก เขารู้มานานแล้วว่าหวังหยวนนั้นไม่ธรรมดา แต่ใครจะคิดว่าเขาจะใช้วิธีการเช่นนี้!“หวังหยวนขอให้พวกข้าส่งข่าวมาถึงท่าน เขาบอกว่า... หากท่านต้องการโจมตีเมืองสู่ก็สามารถทำได้…”ตอนนี้เอ้อร์ฮาพูดอย่างระมัดระวังอีกครั้งหมานต๋าถูได้ยินเช่นนี้ก็โกรธมาก!“ข้าจะไปพบกับหวังหยวนที่ชายแดน!”เขาย่อมไม่เห็นด้วยกับการต้องเสียเมืองสู่ไปเช่นนี้ แต่เขาก็รู้ด้วยว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะแย่งชิงมันกลับมา!แต่ไม่อาจปล่อยเรื่องนี้ไปได้!เขาต้องไปหาหวังหยวนเพื่อขอคำอธิบาย!พูดจบ เขาก็ออกเดินทางมุ่งหน้าตรงไปยังชายแดนเมืองสู่โดยไม่รีรอในเวลาเดียวกัน เขาก็ส่งข่าวถึงหวังหยวนให้ออกมาพบเขาด้วยหวังหยวนหัวเราะทันทีเมื่อได้รับจดหมา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1070

    หวังหยวนหัวเราะยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ฟังเช่นนั้น“ข้าเป็นพ่อค้า ย่อมเข้าใจดีว่าถ้าเจ้าพูดเรื่องนั้น ข้าคงต้องเถียงกับเจ้าอย่างจริงจัง”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ หมานต๋าถูก็พยักหน้า“ใช่ แต่ก่อนหน้านั้นข้ามีเรื่องจะพูด เจ้าโปรดฟังข้าก่อน”หลังจากที่หมานต๋าถูพูดจบ เขาก็พูดอีกครั้ง“คราวนี้พวกเราหมานอี๋ได้ส่งกองกำลังออกไปห้าหมื่นนาย ถ้าไม่ใช่เพราะกองกำลังห้าหมื่นนายของข้ามาดึงดูดความสนใจของเซิ่งตงฉยง เจ้าคงไม่ประสบความสำเร็จง่ายดายถึงเพียงนี้ เจ้ายอมรับความจริงข้อนี้หรือไม่?”หลังจากที่หมานต๋าถูพูดจบ หวังหยวนก็พยักหน้าทันที“แน่นอน ข้ายอมรับ!”“ดี กองกำลังทหารม้าห้าหมื่นนายของพวกข้ายั่วยุเซิ่งตงฉยง อย่างน้อยก็พาพวกเขาออกจากเมืองได้ ดังนั้นเจ้าจึงมีโอกาสที่จะยึดเมืองสู่ได้ในคราวเดียว เจ้ายอมรับความจริงข้อนี้หรือไม่?”“ได้สิ ข้ายอมรับเหมือนกัน”หวังหยวนพยักหน้าอีกครั้ง หมานต๋าถูถึงพอใจมาก“ในกรณีนี้ พวกข้าช่วยให้เจ้าดึงดูดความสนใจของเซิ่งตงฉยง เพื่อหันเหความสนใจของเขา และช่วยให้เจ้ารั้งเขาไว้ได้ จากนั้นพวกเจ้าก็ชนะการต่อสู้ครั้งนี้ ข้าไม่กล้าบอกว่าพวกข้ามีความดีความชอบถึงครึ่งหนึ่ง แ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1071

    “จะเป็นอย่างไรหากข้าลงมือ เมื่อการต่อสู้กำลังดำเนินไปอย่างเต็มที่? จะเป็นอย่างไรหากข้าลงมือหลังจากที่ปล่อยให้พวกหมานอี๋อย่างพวกเจ้า สูญเสียทหารสองหมื่นถึงสามหมื่นนายไปแล้ว?”“เกรงว่าไม่เพียงแต่พวกเจ้าจะยึดเมืองสู่ไม่ได้เท่านั้น แต่ยังต้องสูญเสียทหารไปมากมายด้วย”“ดังนั้น... ผู้คนสองหมื่นถึงสามหมื่นคนที่รอดชีวิตเหล่านี้ คือผลประโยชน์ที่เจ้าได้รับ และพวกเขาก็ยังเป็นผลประโยชน์ที่ข้าสามารถมอบให้เจ้า ผ่านความร่วมมือของเราในครั้งนี้ด้วย”หวังหยวนยิ้มอย่างจริงใจมากแต่คำพูดเหล่านี้ทำให้หมานต๋าถูหดหู่ใจมาก!เขาปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ!เพราะสิ่งที่หวังหยวนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!ถ้าเป็นเขา เขาคงจะรอจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บหนักก่อนแน่นอน รอให้ทั้งสองฝ่ายอ่อนแอลงแล้วค่อยลงมือ!แต่หวังหยวนไม่ทำเช่นนั้น และวิธีการของหวังหยวนไม่ได้ถูกนำมาใช้โจมตีกองทหารของเขา เพราะต้องการปล่อยกองทหารจำนวนมากของเขาออกไป!“หวังหยวน เจ้าวางแผนจะคืนคนของข้าให้เป็นรางวัลแก่ข้าจริง ๆ เกรงว่าเจ้าคงเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ ด้วยการคำนวณทุกอย่างมาหมดแล้ว!”คำพูดของหมานต๋าถูมีสองความหมาย!ควา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1072

    เมื่อหมานต๋าถูจากไป ไป๋เฟยเฟยก็มาถึงหน้าค่ายของอู๋หลิงแล้ว!อู๋หลิงอยู่ในกระโจมของผู้บังคับบัญชา กำลังครุ่นคิดหาทางเอาชนะศัตรูอยู่ ทันใดนั้นทหารคนหนึ่งก็เข้ามารายงาน“ขุนพลอู๋ ข้างนอกมีคนมาขอพบท่าน บอกว่ามาจากตระกูลไป๋ขอรับ”อู๋หลิงได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง“คนจากตระกูลไป๋... ฮ่าฮ่า เรียกเข้ามาเลย”อู๋หลิงรู้ว่าเป็นใครโดยไม่ต้องคิดเลย!ไป๋เฟยเฟย!เขารู้มานานแล้วว่าสตรีผู้นี้มีความทะเยอทะยานมาโดยตลอด ตอนนี้คนที่สามารถมาหาเขาเพื่อพูดคุยหาวิธีพิชิตศัตรูได้ อู๋หลิงไม่สามารถคิดถึงใครได้อีกนอกจากนาง!ทหารพยักหน้าแล้วรีบออกไป ไม่นานหลังจากนั้นไป๋เฟยเฟยก็เดินเข้ามา“อู๋หลิง ไม่เจอกันนานเลย”ไป๋เฟยเฟยทักทายด้วยรอยยิ้มอู๋หลิงเหลือบมองไป๋เฟยเฟยแล้วหัวเราะ “เชิญนั่งลงก่อนเถิด”พูดจบ เขาก็รินชาใส่ถ้วยให้ไป๋เฟยเฟย แล้วบอกให้คนที่อยู่ข้างกายเขาซ้ายขวาออกไปไป๋เฟยเฟยมองหน้าอู๋หลิงแล้วพูดตามตรง “ครั้งสุดท้ายที่ข้าพบเจ้า เจ้ายังคงอยู่ในสภาพสิ้นหวัง เมื่อเราพบกันอีกครั้ง เจ้าได้เป็นคนสนิทของฮองเฮาแห่งต้าเย่แล้ว ช่างน่ายินดียิ่ง ขอแสดงความยินดีด้วย!”หลังจากได้ฟังเช่นนี้ อู๋หลิงก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1073

    อู๋หลิงรู้ว่าไป๋เฟยเฟยยังคงทดสอบเขาอยู่ สตรีผู้นี้เจ้าเล่ห์มากจริง ๆ เขาจึงต้องระมัดระวังทุกคำพูดที่พูดกับนาง“อาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ข้าไม่มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ ไป๋เฟยเฟยก็เริ่มสับสน“อู๋หลิง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ไป๋เฟยเฟยถามด้วยความสงสัยชายคนนี้อยากเป็นขุนนางผู้ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่ง แล้วตอนนี้เหตุใดเขาถึงบอกว่าเขาไม่คิดเรื่องนี้?อู๋หลิงตอบตามตรง “เจ้าเองก็น่าจะรู้สถานการณ์ของข้าดี ตอนนี้ฮ่องเต้ซิงหลงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ภารกิจของข้าคือการทำให้คนตระกูลอู๋มีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยและสงบสุข ส่วนเรื่องอื่นนั้น ข้าไม่ได้วางแผนไว้”“พูดตามตรง คราวนี้ที่ข้าส่งทหารไปจัดการกับตระกูลเซิ่ง เป็นเพียงเพราะข้าแค่เคารพความปรารถนาสุดท้ายของบิดา และไม่ต้องการให้ต้าเย่ต้องล่มสลาย”“ทุกวันนี้เป็นเพราะข้ายังมีความสามารถอยู่ ต้าเย่จึงมอบหมายภารกิจสำคัญนี้ให้ข้า เพราะข้ายังสามารถใช้ทักษะของตัวเองทำประโยชน์ได้ หากเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น ข้าคิดว่าข้าคงได้อยู่แต่ในคฤหาสน์ของตัวเองอย่างสงบเท่านั้น”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ สีหน้าเขามีความหมองเศร้าเขาสัญญากับฮองเฮาไว้ว่า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1074

    เมื่อไป๋เฟยเฟยสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของอู๋หลิง จึงตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบถาม“เจ้าได้ข่าวอะไรหรือ?”อู๋หลิงวางจดหมายจากนกพิราบสื่อสารลงแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้ามีวิธีจับตัวทำให้เซิ่งฟางสี่โดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามแล้ว!”ไป๋เฟยเฟยรีบถามด้วยความประหลาดใจทันทีที่ได้ยินคำตอบ “ทำอย่างไร?”อู๋หลิงถามว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองสู่?”ไป๋เฟยเฟยได้ฟังแล้วก็ตกใจ!นางนึกบางอย่างได้ทันที!“คนที่อยู่ในเมืองสู่คือหวังหยวนนี่!”“หรือว่า... เซิ่งตงฉยงจะพ่ายแพ้แล้ว?”แม้ว่านางจะเชื่อในตัวหวังหยวน แต่นี่มันผ่านไปแค่วันเดียวเท่านั้น!หากหวังหยวนเอาชนะเซิ่งตงฉยงได้แล้วจริง ๆ! นี่จะเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก!นางรู้ว่าตระกูลเซิ่งแข็งแกร่งเพียงใด!แม้ว่าจะมีกองกำลังเพียงสามหมื่นคนเท่านั้น!แต่ความแข็งแกร่งของกองกำลังดังกล่าวสามารถเอาชนะคนได้อย่างน้อยหกหมื่นคน!หวังหยวนกำราบเขาได้ภายในวันเดียวหรือ?เขาไปเอาไพร่พลมากมายมาจากไหน!อู๋หลิงพยักหน้า “เสนาธิการทหารก็คือเสนาธิการทหาร ภายในวันเดียวเซิ่งตงฉยงก็พ่ายแพ้ราบคาบ ตอนนี้เซิ่งตงฉยงกำลังหลบหนีจากเมืองสู่ไปพร้อมกับทหารพ่ายศึกที่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1075

    เพียงแค่วันเดียวแต่ก็พ่ายแพ้แล้วหรือ?ต่อให้พวกนั้นจะยื่นคอให้ตัดเอง เวลาเพียงแค่วันเดียวก็ไม่พอ!ยิ่งไปกว่านั้น คือหวังหยวนไปหากองกำลังมากมายมาจากไหน?“หวังหยวนก็ลักลอบฝึกทหารด้วยหรือ? ตระกูลเซิ่งมีทหารสามหมื่นคน ถ้าต้องการเอาชนะพวกเขาให้ได้ภายในหนึ่งวัน เขาจะต้องมีอย่างน้อยห้าหมื่นนาย! เขาไปหาคนมากมายมาจากไหน!”ไป๋เจิ้นถังรีบถาม ไป๋เฟยเฟยได้ฟังเช่นนี้จึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หวังหยวนไม่มีกองกำลังมากนัก ข้าคิดว่าเขาคงอาศัยความช่วยเหลือของหมานอี๋”ไป๋เจิ้นถังฟังแล้วจึงพยักหน้า ก่อนพูดว่า “ก็คงจะเป็นเช่นนั้น แต่พ่อยังไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเขาจะสามารถเอาชนะเซิ่งตงฉยงได้ คนผู้นี้... มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมเหนือใครในโลก ถ้าเขามาช่วยตระกูลไป๋ได้ก็คงดีไม่น้อย!”ไป๋เฟยเฟยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านพ่อไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าค่ะ หวังหยวนกับข้าเป็นสหายกัน ในอนาคตจะไม่มีทางเป็นศัตรูกันอย่างแน่นอน!”ไป๋เจิ้นถังมองลูกสาวด้วยสายตามีเลศนัย “เป็นสหายกัน... เท่านั้นยังไม่เพียงพอหรอก คงจะดีถ้าเจ้าทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากัน”หวังหยวนเป็นอัจฉริยะ ไป๋เจิ้นถังย่อมหวังว่าลูกสาวจะได้แต่งงานกับคนเก่งเช่นนี้ และยังหวั

Bab terbaru

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2238

    น่าเสียดาย หากต้องการเก็บเกสรดอกหน้าผาชันก็จำเป็นต้องมีทักษะอย่างแท้จริง!“ท่านรู้จักดอกหน้าผาชันด้วยหรือ?”หวังหยวนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว“ย่อมต้องรู้จักสิ”“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าข้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”“ง่ายมาก! ข้าเองก็มาเพื่อดอกหน้าผาชันนี้เช่นกัน!”ชายคนนั้นกอดอกพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ“ท่านต้องการดอกหน้าผาชันไปทำอะไร?”หวังหยวนรีบถาม“แน่นอนว่าต้องนำไปแลกเงิน”“ดอกหน้าผาชันนับว่าเป็นสมุนไพรล้ำค่า ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อหาทางอยู่รอด!”“ดอกหน้าผาชันหนึ่งดอกสามารถขายได้สิบตำลึงเงิน เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งเดือนของข้า!”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง เพียงแค่สิบตำลึงเงินเองหรือ?“เหตุใดจึงมีราคาแต่ไม่มีคนขาย?”หากสามารถใช้เงินซื้อดอกหน้าผาชันในตอนนั้นได้ เขาจะลำบากเดินทางมาที่นี่เพื่ออะไร?บ่ายวันนี้ หวังหยวนได้แอบสอบถามมาแล้ว ปรากฏว่าในเผ่าไม่มีดอกหน้าผาชันแม้แต่ดอกเดียว!เขามีบารมีสูงส่งในเผ่า ผู้คนในเผ่าย่อมไม่หลอกลวงเขาหรือว่า...ชายตรงหน้าเขากำลังโกหก?“เหตุใดท่านมองข้าเช่นนี้?”“แน่นอนว่าดอกหน้าผาชันไม่ได้มีไว้ขายให้กับคนในเผ่า เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนี

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2237

    ในขณะที่หวังหยวนกับเกาเล่อกำลังพูดคุยกัน พลันได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น“เขาพูดถูก หากตกลงมาจากยอดเขานี้ ต่อให้เจ้ามีสามเศียรหกกรก็จะต้องแหลกเป็นชิ้นแน่นอน!”“ถึงตอนนั้น สภาพย่อมดูไม่จืด!”หวังหยวนกับเกาเล่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียด รีบหันไปมองตามต้นเสียงเมื่อสักครู่นี้พวกเขาทั้งสองคนกลับไม่ทันสังเกตว่าในความมืดมิดนั้นยังมีผู้อื่นซ่อนอยู่ด้วย!“พวกท่านไม่ต้องเครียด! ข้าไม่มีเจตนาร้ายต่อพวกท่าน!”ชายคนนั้นค่อย ๆ เดินออกมาจากความมืด เขาแต่งกายด้วยชุดผ้าป่าน อายุใกล้เคียงกับหวังหยวน ใบหน้าใต้แสงจันทร์ ของเขาเปื้อนรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา“ไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร?”“เหตุใดจึงมาที่นี่ในยามนี้?”ภูเขาทางเหนือตั้งอยู่ในที่ห่างไกล รอบด้านไม่มีบ้านเรือนผู้คน แม้แต่หมู่บ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ยังอยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้!ไม่เช่นนั้น หวังหยวนคงไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาหลายชั่วยาม!แต่ในสถานที่เช่นนี้กลับมีคนแปลกหน้าปรากฏตัว จะไม่ให้สงสัยได้อย่างไร?ชายคนนั้นยิ้มพลางโบกมือเอ่ยว่า “ข้าก็เพียงแค่เดินทางผ่านมาที่นี่ เห็นพวกท่านทั้งสองกำลังเตรียมปีนหน้าผา จึงคิดจะดูความสนุกสักหน่อย”“แต่ข

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2236

    ในใจนางก็รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี และที่พูดเช่นนี้กับไฉจวิ้นก็เพราะว่านางมองว่าไฉจวิ้นเป็นน้องชายแท้ ๆ ของนางเองไม่ใช่หรือ?หากปฏิบัติต่อคนนอกย่อมไม่ใช่ท่าทีเช่นนี้หยอกล้อกันอยู่ครู่หนึ่ง หลิ่วหรูเยียนอาจจะรู้สึกเหนื่อยจึงหลับไปอย่างรวดเร็วในคืนนั้น หลังจากที่หวังหยวนกินอาหารเสร็จก็ได้ออกไปอย่างเงียบเชียบหลายชั่วยามต่อมาก็เป็นเวลาเที่ยงคืน หวังหยวนมายืนอยู่ตรงหน้าผาของภูเขาทางเหนือเมื่อมองออกไป อาจเป็นเพราะความมืดมิด จึงมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดของหน้าผา ให้ความรู้สึกกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก!หวังหยวนกอดอกยืนอยู่ด้านข้าง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มจางที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและสง่างาม“พายุใหญ่คลื่นยักษ์แบบไหนที่ไม่เคยพบเจอ?”“สถานการณ์แบบไหนที่ไม่เคยประสบ?”“เพียงแค่หน้าผา คิดจะขวางทางข้าได้หรือ?”“ช่างน่าขันนัก!”ขณะที่พูด หวังหยวนก็ลุกขึ้นเตรียมที่จะปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่า ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหวมาจากด้านหลังเขาหันกลับไปโดยสัญชาตญาณ สายตาจับจ้องไปที่ผู้มาเยือน ผู้ที่มานั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเกาเล่อ!ท่ามกลางความมืดมิด ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังหวัง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2235

    “เช่นนั้นก็ได้ขอรับ...”เมื่อเห็นท่าทีที่แข็งกร้าวของหวังหยวน ไท่สื่อลี่ก็ไม่ได้กล่าวต่ออีก สุดท้ายก็จำต้องจากไปส่วนหวังหยวนนั่งลงศึกษาแผนที่อย่างละเอียดภายในห้องเมื่อไฉจวิ้นกลับมา หลิ่วหรูเยียนก็รีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหาไฉจวิ้นอย่างรวดเร็ว พลิกดูห่อผ้าในมือเขาอย่างตื่นเต้น“ครั้งนี้เจ้าทำได้ดีมาก!”“ซื้อของดี ๆ มาฝากข้ามากมายเพียงนี้เลยหรือ?”“ต่อไปต้องมอบเรื่องเช่นนี้ให้เจ้าจัดการแล้ว!”หลิ่วหรูเยียนลูบศีรษะของไฉจวิ้น พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มไฉจวิ้นรู้สึกอึดอัด นี่นางเห็นเขาเป็นเด็กน้อยชัด ๆ แต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งแล้ว อายุอานามก็ไม่น้อย กลับถูกปฏิบัติเหมือนเด็กงั้นหรือ?ช่างน่าเจ็บใจนัก!แต่พี่สะใภ้ผู้นี้ก็เป็นคนที่เขาไม่อาจล่วงเกิน จึงทำได้เพียงอดทนหากเป็นผู้อื่นที่กล้าลูบศีรษะของเขา นี่ถือว่าเป็นการหาเรื่องตายชัดๆ!“จริงสิ พี่ใหญ่ของเจ้าอยู่ไหน?”“เมื่อครู่เขาออกไปกับไท่สื่อลี่ นี่ก็ผ่านมานานแล้ว ยังไม่กลับมาอีก หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หลิ่วหรูเยียนกินขนมพลางเอ่ยถามไฉจวิ้นชี้ไปที่นอกประตู แล้วตอบว่า “พี่ใหญ่อยู่ในลานบ้านขอรับ เมื่อครู่ตอนที่ข้าเข้ามา เขากำลั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2234

    ครึ่งชั่วยามต่อมา ไท่สื่อลี่นำแผนที่มาให้ด้วยตนเอง ทางด้านหวังหยวนเฝ้ารออยู่ที่ลานบ้านเมื่อรับแผนที่มาก็ตรวจดูอย่างละเอียด คิ้วของหวังหยวนขมวดแน่นช่างอันตรายยิ่งนัก!แม้ว่าภูเขาทางเหนือจะเป็นภูเขาโดดเดี่ยว แต่ด้านข้างเป็นหน้าผาทั้งสิ้น หากต้องการเก็บเกสรของดอกหน้าผาชันก็ต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผา ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือกเดินนี่ช่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากยิ่งนัก!หากไม่มีวิชาตัวเบา การปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่านั้นยากราวกับปีนขึ้นสวรรค์!หวังหยวนตกอยู่ในห้วงความคิด ครุ่นคิดหาวิธีเก็บเกสรดอกหน้าผาชันส่วนไท่สื่อลี่ไม่ได้เอ่ยคำใด ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเวลาผ่านไปทีละน้อย ไม่นานไฉจวิ้นก็กลับมาพร้อมกับห่อผ้าห่อใหญ่ ในมือไม่เพียงแต่มีของกิน ยังมีของเล่นน่าสนใจอีกมากมายด้วยทั้งหมดนี้ก็เพื่อเอาใจหลิ่วหรูเยียนเป็นเพราะเขาเอง หลิ่วหรูเยียนจึงไม่อาจออกไปเที่ยวเล่นได้ สตรีนั้นอารมณ์แปรปรวน เขากลัวว่าหลิ่วหรูเยียนจะเก็บเรื่องนี้มาคิดเล็กคิดน้อย“กลับมาแล้ว”หวังหยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยไฉจวิ้นพยักหน้า เขามองหวังหยวนก่อนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดี หรือว่าเมื่อครู่นี้ทะเลาะกับพี่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2233

    “ช่างสมกับเป็นท่านหวัง ไม่มีสิ่งใดปิดบังท่านได้จริง ๆ”ไท่สื่อลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนไม่ได้แอบหนีออกมาจากห้อง เขาจึงกระซิบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าได้พูดคุยกับท่านหมอเทวดาอันแล้ว เขาได้บอกอาการของฮูหยินกับข้าทั้งหมดแล้วขอรับ”“อีกทั้งยังบอกวิธีที่จะทำให้อาการของฮูหยินดีขึ้นด้วย”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาพลันเป็นประกาย“ท่านหมายถึง...”หวังหยวนไม่ได้เอ่ยประโยคหลังออกมา แต่ชี้ไปที่ท้องของตนไท่สื่อลี่เข้าใจความหมายในทันที จากนั้นก็พยักหน้า“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!”“เช่นนั้นรีบบอกข้ามา วิธีแก้ต้องทำอย่างไร?”“อีกอย่างคือก่อนหน้านี้ข้าได้ถามท่านหมอเทวดาแล้วว่ามีวิธีใดที่จะทำให้อาการของภรรยาข้าดีขึ้นหรือไม่ ท่านหมอเทวดาไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน ข้านึกว่าไม่อาจรักษาภรรยาของข้าให้หายได้...”“ดูท่าแล้ว ท่านหมอเทวดาจงใจปิดบังข้า!”หวังหยวนเข้าใจดีว่าอันจูหมิงคงมีเหตุผลที่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่บอกเรื่องนี้กับไท่สื่อลี่ไท่สื่อลี่รีบโบกมือกล่าวว่า “ท่านหวังอย่าได้เข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าท่านหมอเทวดาอันไม่อยากบอกท่าน แต่เป็นเพราะว่าตัวยาที่ใช้รักษาฮูหยินนั้นหายา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2232

    เมื่อกลับถึงห้อง ด้วยการดูแลของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนจึงจำต้องนอนลงบนเตียงเมื่อเห็นนางพลิกตัวไปมาไม่หยุด หวังหยวนก็เข้าใจได้ในทันที นี่เป็นเพราะนางไม่อยากนอนหลับ“เจ้านี่นะ เหตุใดจึงได้ดื้อรั้นเพียงนี้?”“ในตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเห็นอะไรในตัวเจ้า!”“หากรู้ล่วงหน้าว่าการเดินทางครั้งนี้จะพบเจอกับเรื่องราวมากมายเพียงนี้ ก็ควรจะให้เจ้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังแต่แรก เจ้าจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย”“สุดท้ายแล้วก็เป็นความผิดของข้า...”หวังหยวนจิบชาพลางพึมพำกับตนเอง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า ภาพในความคิดย้อนกลับไปถึงคำพูดของอันจูหมิงก่อนหน้านี้ยามนี้เขาก็ยังคงคิดหาวิธีที่จะบอกกล่าวเรื่องนี้กับหลิ่วหรูเยียนไม่ได้สำหรับหวังหยวนแล้ว การไม่อาจตั้งครรภ์ได้นั้นสำคัญตรงไหนกัน?ครอบครัวของเขามีเหล่าภรรยาที่เพียบพร้อม ย่อมไม่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้แต่สำหรับหลิ่วหรูเยียนแล้ว สตรีที่ไม่มีบุตรก็ไม่นับว่าเป็นสตรีเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ หวังหยวนจะไม่รู้สึกอึดอัดใจได้อย่างไร?ดูท่าแล้วคงต้องหาจังหวะที่เหมาะสม จากนั้นค่อยบอกความจริงกับหลิ่วหรูเยียน นางจะได้ไม่เจ็บปวดมากนัก“นี่ท่านกำลังคิดอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2231

    “เอาล่ะ!”“ตอนนี้เจ้าเชื่อฟังพี่ใหญ่ของเจ้าใช่หรือไม่?”“พี่ใหญ่ของเจ้าไม่อยู่ไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นคำพูดของพี่สะใภ้ก็ไม่มีค่าแล้วใช่หรือไม่?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ภายภาคหน้าเจ้าก็ไม่ต้องเรียกข้าว่าพี่สะใภ้ ข้าจะออกไปเดินเล่นเอง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับข้า พี่ใหญ่ของเจ้าจะต้องมาเอาเรื่องกับเจ้า ถึงตอนนั้นก็คอยดูเถิดว่าจะเป็นอย่างไร!”หลิ่วหรูเยียนเฉลียวฉลาด ไฉจวิ้นผู้ไม่ประสีประสาจะต่อกรกับนางได้อย่างไร?เพียงชั่วครู่ ไฉจวิ้นถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนกำลังจะเดินจากไป เขาก็รีบวิ่งตาม พลางประจบประแจงว่า “พี่สะใภ้! ท่านอย่าได้ทำให้ช้าต้องลำบากใจเลยขอรับ ตกลงหรือไม่?”“ท่านเพิ่งจะหายป่วย สภาพร่างกายก็ยังฟื้นตัวไม่ดี อีกทั้งท่านหมอเทวดาก็บอกแล้วว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ท่านถึงจะหายดี ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพักผ่อนนะขอรับ!”“แต่ในเมื่อท่านยืนกรานจะออกไป เช่นนั้นพวกเราเดินเล่นเพียงครู่เดียว จากนั้นก็รีบกลับมาก็ได้ ตกลงหรือไม่ขอรับ?”ในที่สุดไฉจวิ้นก็ยอมอ่อนข้อให้ทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นผู้ที่เขาไม่อาจล่วงเกิน!ล่วงเกินหวังหยวนก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าพวกเขาล้วนเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2230

    “นี่คือคำสั่ง!”เกาเล่อถอนหายใจอย่างจนใจ ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ แต่หันหลังเดินไปยังทิศทางหนึ่งในไม่ช้า หวังหยวนก็กลับเข้าไปในห้องทันทีที่เข้าประตูไป เขาเห็นหลิ่วหรูเยียนลืมตาตื่นและกำลังจะลุกขึ้นหวังหยวนรีบวิ่งไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วกล่าวว่า “ฝีมือของท่านหมอเทวดาอันช่างล้ำเลิศยิ่งนัก เพียงเวลาสั้น ๆ เจ้าก็ฟื้นคืนสติแล้วหรือ?”“อีกทั้งดูเหมือนว่า เจ้าจะดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตนดีขึ้น แม้ว่าบริเวณหน้าท้องจะยังเจ็บอยู่บ้าง อีกทั้งร่างกายก็ยังอ่อนแรง แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มากยามนี้ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าอาการดีขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามธรรมชาติหวังหยวนประคองนางนั่งลงที่โต๊ะ จากนั้นนางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของข้าแข็งแรง ท่านไม่เห็นสตรีด้านนอกเหล่านั้นหรือไร แต่ละคนล้วนดูอ่อนแอ จะนำมาเปรียบเทียบกับข้าได้อย่างไร?”“ร่างกายของข้าแข็งแรงดั่งวัว ประกอบกับฝีมืออันล้ำเลิศของท่านหมอเทวดาอัน การรักษาให้หายดีก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา”“น่าเสียดาย ร่างกายอันงดงามของข้ากลับมีรอยแผลเป็น นี่ช่างดูไม่น่ามองเอาเสียเลย”“ไม่ได้! เมื่อข้าหาย

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status