แชร์

บทที่ 1071

ผู้แต่ง: ชวินเป่ยอี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“จะเป็นอย่างไรหากข้าลงมือ เมื่อการต่อสู้กำลังดำเนินไปอย่างเต็มที่? จะเป็นอย่างไรหากข้าลงมือหลังจากที่ปล่อยให้พวกหมานอี๋อย่างพวกเจ้า สูญเสียทหารสองหมื่นถึงสามหมื่นนายไปแล้ว?”

“เกรงว่าไม่เพียงแต่พวกเจ้าจะยึดเมืองสู่ไม่ได้เท่านั้น แต่ยังต้องสูญเสียทหารไปมากมายด้วย”

“ดังนั้น... ผู้คนสองหมื่นถึงสามหมื่นคนที่รอดชีวิตเหล่านี้ คือผลประโยชน์ที่เจ้าได้รับ และพวกเขาก็ยังเป็นผลประโยชน์ที่ข้าสามารถมอบให้เจ้า ผ่านความร่วมมือของเราในครั้งนี้ด้วย”

หวังหยวนยิ้มอย่างจริงใจมาก

แต่คำพูดเหล่านี้ทำให้หมานต๋าถูหดหู่ใจมาก!

เขาปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ!

เพราะสิ่งที่หวังหยวนพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!

ถ้าเป็นเขา เขาคงจะรอจนกว่าทั้งสองฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บหนักก่อนแน่นอน รอให้ทั้งสองฝ่ายอ่อนแอลงแล้วค่อยลงมือ!

แต่หวังหยวนไม่ทำเช่นนั้น และวิธีการของหวังหยวนไม่ได้ถูกนำมาใช้โจมตีกองทหารของเขา เพราะต้องการปล่อยกองทหารจำนวนมากของเขาออกไป!

“หวังหยวน เจ้าวางแผนจะคืนคนของข้าให้เป็นรางวัลแก่ข้าจริง ๆ เกรงว่าเจ้าคงเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ ด้วยการคำนวณทุกอย่างมาหมดแล้ว!”

คำพูดของหมานต๋าถูมีสองความหมาย!

ควา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1072

    เมื่อหมานต๋าถูจากไป ไป๋เฟยเฟยก็มาถึงหน้าค่ายของอู๋หลิงแล้ว!อู๋หลิงอยู่ในกระโจมของผู้บังคับบัญชา กำลังครุ่นคิดหาทางเอาชนะศัตรูอยู่ ทันใดนั้นทหารคนหนึ่งก็เข้ามารายงาน“ขุนพลอู๋ ข้างนอกมีคนมาขอพบท่าน บอกว่ามาจากตระกูลไป๋ขอรับ”อู๋หลิงได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง“คนจากตระกูลไป๋... ฮ่าฮ่า เรียกเข้ามาเลย”อู๋หลิงรู้ว่าเป็นใครโดยไม่ต้องคิดเลย!ไป๋เฟยเฟย!เขารู้มานานแล้วว่าสตรีผู้นี้มีความทะเยอทะยานมาโดยตลอด ตอนนี้คนที่สามารถมาหาเขาเพื่อพูดคุยหาวิธีพิชิตศัตรูได้ อู๋หลิงไม่สามารถคิดถึงใครได้อีกนอกจากนาง!ทหารพยักหน้าแล้วรีบออกไป ไม่นานหลังจากนั้นไป๋เฟยเฟยก็เดินเข้ามา“อู๋หลิง ไม่เจอกันนานเลย”ไป๋เฟยเฟยทักทายด้วยรอยยิ้มอู๋หลิงเหลือบมองไป๋เฟยเฟยแล้วหัวเราะ “เชิญนั่งลงก่อนเถิด”พูดจบ เขาก็รินชาใส่ถ้วยให้ไป๋เฟยเฟย แล้วบอกให้คนที่อยู่ข้างกายเขาซ้ายขวาออกไปไป๋เฟยเฟยมองหน้าอู๋หลิงแล้วพูดตามตรง “ครั้งสุดท้ายที่ข้าพบเจ้า เจ้ายังคงอยู่ในสภาพสิ้นหวัง เมื่อเราพบกันอีกครั้ง เจ้าได้เป็นคนสนิทของฮองเฮาแห่งต้าเย่แล้ว ช่างน่ายินดียิ่ง ขอแสดงความยินดีด้วย!”หลังจากได้ฟังเช่นนี้ อู๋หลิงก็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1073

    อู๋หลิงรู้ว่าไป๋เฟยเฟยยังคงทดสอบเขาอยู่ สตรีผู้นี้เจ้าเล่ห์มากจริง ๆ เขาจึงต้องระมัดระวังทุกคำพูดที่พูดกับนาง“อาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ข้าไม่มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ ไป๋เฟยเฟยก็เริ่มสับสน“อู๋หลิง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”ไป๋เฟยเฟยถามด้วยความสงสัยชายคนนี้อยากเป็นขุนนางผู้ยิ่งใหญ่อันดับหนึ่ง แล้วตอนนี้เหตุใดเขาถึงบอกว่าเขาไม่คิดเรื่องนี้?อู๋หลิงตอบตามตรง “เจ้าเองก็น่าจะรู้สถานการณ์ของข้าดี ตอนนี้ฮ่องเต้ซิงหลงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว ภารกิจของข้าคือการทำให้คนตระกูลอู๋มีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยและสงบสุข ส่วนเรื่องอื่นนั้น ข้าไม่ได้วางแผนไว้”“พูดตามตรง คราวนี้ที่ข้าส่งทหารไปจัดการกับตระกูลเซิ่ง เป็นเพียงเพราะข้าแค่เคารพความปรารถนาสุดท้ายของบิดา และไม่ต้องการให้ต้าเย่ต้องล่มสลาย”“ทุกวันนี้เป็นเพราะข้ายังมีความสามารถอยู่ ต้าเย่จึงมอบหมายภารกิจสำคัญนี้ให้ข้า เพราะข้ายังสามารถใช้ทักษะของตัวเองทำประโยชน์ได้ หากเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น ข้าคิดว่าข้าคงได้อยู่แต่ในคฤหาสน์ของตัวเองอย่างสงบเท่านั้น”หลังจากที่อู๋หลิงพูดจบ สีหน้าเขามีความหมองเศร้าเขาสัญญากับฮองเฮาไว้ว่า

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1074

    เมื่อไป๋เฟยเฟยสังเกตเห็นสีหน้าท่าทางของอู๋หลิง จึงตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบถาม“เจ้าได้ข่าวอะไรหรือ?”อู๋หลิงวางจดหมายจากนกพิราบสื่อสารลงแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้ามีวิธีจับตัวทำให้เซิ่งฟางสี่โดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามแล้ว!”ไป๋เฟยเฟยรีบถามด้วยความประหลาดใจทันทีที่ได้ยินคำตอบ “ทำอย่างไร?”อู๋หลิงถามว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองสู่?”ไป๋เฟยเฟยได้ฟังแล้วก็ตกใจ!นางนึกบางอย่างได้ทันที!“คนที่อยู่ในเมืองสู่คือหวังหยวนนี่!”“หรือว่า... เซิ่งตงฉยงจะพ่ายแพ้แล้ว?”แม้ว่านางจะเชื่อในตัวหวังหยวน แต่นี่มันผ่านไปแค่วันเดียวเท่านั้น!หากหวังหยวนเอาชนะเซิ่งตงฉยงได้แล้วจริง ๆ! นี่จะเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก!นางรู้ว่าตระกูลเซิ่งแข็งแกร่งเพียงใด!แม้ว่าจะมีกองกำลังเพียงสามหมื่นคนเท่านั้น!แต่ความแข็งแกร่งของกองกำลังดังกล่าวสามารถเอาชนะคนได้อย่างน้อยหกหมื่นคน!หวังหยวนกำราบเขาได้ภายในวันเดียวหรือ?เขาไปเอาไพร่พลมากมายมาจากไหน!อู๋หลิงพยักหน้า “เสนาธิการทหารก็คือเสนาธิการทหาร ภายในวันเดียวเซิ่งตงฉยงก็พ่ายแพ้ราบคาบ ตอนนี้เซิ่งตงฉยงกำลังหลบหนีจากเมืองสู่ไปพร้อมกับทหารพ่ายศึกที่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1075

    เพียงแค่วันเดียวแต่ก็พ่ายแพ้แล้วหรือ?ต่อให้พวกนั้นจะยื่นคอให้ตัดเอง เวลาเพียงแค่วันเดียวก็ไม่พอ!ยิ่งไปกว่านั้น คือหวังหยวนไปหากองกำลังมากมายมาจากไหน?“หวังหยวนก็ลักลอบฝึกทหารด้วยหรือ? ตระกูลเซิ่งมีทหารสามหมื่นคน ถ้าต้องการเอาชนะพวกเขาให้ได้ภายในหนึ่งวัน เขาจะต้องมีอย่างน้อยห้าหมื่นนาย! เขาไปหาคนมากมายมาจากไหน!”ไป๋เจิ้นถังรีบถาม ไป๋เฟยเฟยได้ฟังเช่นนี้จึงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หวังหยวนไม่มีกองกำลังมากนัก ข้าคิดว่าเขาคงอาศัยความช่วยเหลือของหมานอี๋”ไป๋เจิ้นถังฟังแล้วจึงพยักหน้า ก่อนพูดว่า “ก็คงจะเป็นเช่นนั้น แต่พ่อยังไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเขาจะสามารถเอาชนะเซิ่งตงฉยงได้ คนผู้นี้... มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมเหนือใครในโลก ถ้าเขามาช่วยตระกูลไป๋ได้ก็คงดีไม่น้อย!”ไป๋เฟยเฟยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านพ่อไม่ต้องห่วงหรอกเจ้าค่ะ หวังหยวนกับข้าเป็นสหายกัน ในอนาคตจะไม่มีทางเป็นศัตรูกันอย่างแน่นอน!”ไป๋เจิ้นถังมองลูกสาวด้วยสายตามีเลศนัย “เป็นสหายกัน... เท่านั้นยังไม่เพียงพอหรอก คงจะดีถ้าเจ้าทั้งสองได้เป็นสามีภรรยากัน”หวังหยวนเป็นอัจฉริยะ ไป๋เจิ้นถังย่อมหวังว่าลูกสาวจะได้แต่งงานกับคนเก่งเช่นนี้ และยังหวั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1076

    ในถิ่นทุรกันดารแห่งหนึ่ง เซิ่งตงฉยงนำทัพทหารพ่ายศึกนับพันคนหนีไปตามทางอย่างบ้าคลั่งเซิ่งตงฉยงขี่ม้านำขบวนหักร้างถางพง ในขณะที่กลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็รีบติดตามมาอย่างรวดเร็วรองขุนพลที่อยู่ข้างกายเซิ่งตงฉยงมีสีหน้าจริงจัง ขณะพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “คุณชาย ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดีขอรับ ตอนนี้เราควรไปที่ใด?”ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยฝุ่นดินสกปรก ไม่เหลือเค้าความหยิ่งทะนงดังเดิมเขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ พื้นที่รกร้างว่างเปล่า หลังจากลังเลอยู่นาน เขาก็เลือกเส้นทางหนึ่ง“ไปทางนี้!”คนกลุ่มหนึ่งที่ติดตามเซิ่งตงฉยงรีบเดินทางไปตามทางข้างหน้านั้นอย่างรวดเร็ว รองขุนพลที่อยู่ข้างเขาลังเล และอดไม่ได้ที่จะถามเซิ่งตงฉยงด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “คุณชาย ตอนนี้พวกเราหมดหวังแล้ว ควรทำอย่างไร…”เมื่อได้ฟังเช่นนี้ ตอนนี้สีหน้าของเซิ่งตงฉยงกลับกลายเป็นจริงจังมากสายตาของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด หลังจากลังเลสักพัก เขาก็พูดว่า “บางทีเราน่าจะต้องเผยไพ่ตายของเราแล้ว”รองขุนพลฟังแล้วก็อดตกใจไม่ได้สายตาของเขาเต็มไปด้วยความลังเล ขณะถามอย่างประหม่า “คุณชาย ท่านคิดว่าสิ่งที่หวังหยวนพูดเป็นเรื่องจริงหรือ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1077

    ราวกับคิดว่าเนื้อกระต่ายนั้นคือหวังหยวน!เมื่อรองขุนพลที่อยู่ข้างเขาเห็นว่าในที่สุดเซิ่งตงฉยงก็ยอมกินอาหารแล้ว ใบหน้าของเขาจึงดีใจทันที จากนั้นเขาก็เริ่มกินด้วยเช่นกันเป็นเวลาหลายวันแล้วที่พวกเขาอยู่ในสภาพตึงเครียดหนักหน่วง และในที่สุดพวกเขาก็มีเวลาพักผ่อน รองขุนพลจึงนึกอยากจะยึดเวลานี้ให้นานขึ้น เพื่อพักผ่อนให้เต็มที่แต่ทันใดนั้น เซิ่งตงฉยงก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบดังมาจากระยะไกลสีหน้าของเซิ่งตงฉยงกลายเป็นจริงจังมาก สายตาดุดันจ้องมองไปในระยะไกลอย่างจริงจังเขาส่งสัญญาณให้คนที่อยู่ข้างหลังเขาเงียบ ขณะมองไปในระยะไกลด้วยสายตาเคร่งขรึม หลายคนมายืนอยู่ข้างเซิ่งตงฉยงพลางมองไปยังทุ่งหญ้าในระยะไกลอย่างระมัดระวัง พวกเขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างอยู่ในหญ้าหนาทึบนั้นเสมอเซิ่งตงฉยงเหงื่อออกโซมกายขณะหายใจแรง สีหน้าของเขาจริงจังเป็นพิเศษ เขาหยิบธนูและลูกธนูในมือขึ้นมาเล็งไปที่พงหญ้าในระยะไกลแต่ทันใดนั้นเสียงย่ำหญ้าแห้งดังกรอบแกรบก็เริ่มดังขึ้น!ทหารสวมชุดเกราะกลุ่มหนึ่งรีบกระโจนออกมาจากกองหญ้าผู้นำคืออู๋หลิงนั่นเอง!เมื่อเซิ่งตงฉยงเห็นอู๋หลิงก็มีสีหน้าเคร่งเครียดมาก นัยน์ตาของเขาเต็มไปด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1078

    เมื่อเสียงสั่งการของอู๋หลิงดังขึ้น พลหน้าไม้ก็เข้าประจำตำแหน่งทันที!ทันใดนั้น คันธนูและลูกธนูก็ทะยานออกไปทั่วท้องฟ้า มุ่งเป้าไปที่ฝ่ายเซิ่งตงฉยง!ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงตื่นตระหนก!พวกเขาทำได้เพียงพยายามต้านทานอย่างสุดกำลังเท่านั้น มีกำลังพลอยู่หนึ่งพันคน และเพิ่งประสบกับการต่อสู้อันหนักหน่วงมาด้วย ทั้งยังเดินทางมาแล้วทั้งวัน ผลก็คือเมื่อถูกอู๋หลิงซุ่มโจมตีตอนนี้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะต้านทาน!เซิ่งตงฉยงเจ็บปวดมาก เมื่อเขาเห็นว่าคนของเขานับพันคนถูกฆ่าตายหรือได้รับบาดเจ็บทันที!เขาต้องการหลบหนี แต่มันยากมากในเวลานี้ ทั่วบริเวณถูกรายล้อมไปด้วยข้าศึกนับหมื่น จึงไม่มีทางที่จะหลบหนีได้!เมื่ออู๋หลิงเห็นดังนั้น จึงโบกมืออีกครั้ง เหล่าทหารนับหมื่นจึงรีบรุดไปข้างหน้านี่เป็นการสังหารหมู่ฝ่ายเดียว คนของเซิ่งตงฉยงถูกสังหารจนราบคาบภายในเวลาเพียงสิบนาที มีคนเหลืออยู่เพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น!เมื่ออู๋หลิงโบกมือทุกคนก็เข้าไปล้อมรอบอีกฝ่ายไว้“เซิ่งตงฉยง ยอมแพ้เสีย เจ้าหมดทางหนีแล้ว”ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีทางหนีรอดไปได้ ถ้าสู้ก็มีทางเดียวคือต้องตาย!“อู๋หลิง ตอนนี้ข้าอยากจะถามเจ้าอย่างหนึ่ง เ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1079

    อู๋หลิงส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่ข้ามักจะรู้สึกว่าเซิ่งตงฉยงมีบางอย่างผิดปกติ”“ผิดปกติหรือขอรับ?”รองขุนพลคนสนิทสับสนมาก ไม่เข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร“ใช่ เขา... ดูสงบมากเกินไป”อู๋หลิงตอบ รองขุนพลได้ฟังคำตอบแล้วกลับยกยิ้ม“ท่านขุนพล ข้าคิดว่าท่านคงคิดมากไปแล้วขอรับ ตอนนี้เขาเป็นหมูในอวยแล้วย่อมต้องสงบเสงี่ยม หรือพูดอีกอย่างก็คือ อาจจะกำลังหดหู่จนจิตตกไปแล้วก็ได้ขอรับ”“เพราะฝ่ายเราจะยึดแคว้นกู่ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้เขาคงไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากสิ้นหวัง”รองขุนพลไม่ได้คิดมากเรื่องนี้ เพราะสถานการณ์มาถึงจุดนี้แล้วจะเกิดปัญหาได้อย่างไร?ในสายตาของเขาเซิ่งตงฉยง เขาต้องรู้สึกว่าฝ่ายเขาเพลี่ยงพล้ำแล้ว ไม่มีทางคิดหนีได้อีกแต่อู๋หลิงกลับปฏิเสธ!“แม้ว่าข้ากับเซิ่งตงฉยงจะไม่ได้เจอกันบ่อยนัก แต่ข้าก็ยังรู้จักเขาดี เขาไม่ใช่คนยอมแพ้โดยง่าย!”“แต่เขากลับสงบเกินไป ข้ารู้สึกอยู่เสมอว่ากำลังจะมีเรื่องร้ายบางอย่างเกิดขึ้น!”หลังจากที่อู๋หลิงพูดเช่นนั้น เขาก็พูดอีกครั้ง “จงระมัดระวังตลอดทาง อย่าปล่อยให้มีช่องโหว่”ในเวลาเดียวกัน ไป๋เจิ้นถังจัดขบวนทัพนอกประตูเมือง และถ

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status