หลังจากที่ไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ ไป๋เจิ้นถังก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็เข้าใจเช่นกันสิ่งที่น้องสาวของเขาต้องการ คือให้โอรสของนางกับฮ่องเต้ซิงหลงได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่ว่า...นางควบคุมไม่ได้ว่าจะสามารถนั่งบนบัลลังก์นี้ได้นานแค่ไหน และนางก็ไม่อยากดิ้นรนแล้ว!หากพูดเช่นนี้ เขาก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไร“น้องสาว เนื่องจากเจ้าพูดเช่นนี้ พี่ก็สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนแก่เจ้าได้ ตอนนี้เจ้าสามารถให้ชางเอ๋อร์เป็นฮ่องเต้ได้ และพวกพี่ยังสามารถช่วยให้เจ้ารักษาตำแหน่งอันสูงส่งของเจ้าไว้ได้ด้วย”“แต่หลังจากที่ตระกูลเซิ่งถูกกำจัด แผ่นดินของต้าเย่จะต้องเป็นของตระกูลไป๋เท่านั้น”“เมื่อถึงเวลานั้น พี่จะให้พวกเจ้า ฮองเฮาสองคนแม่ลูก ได้ใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งและมีเกียรติ”ตอนนี้มีรอยยิ้มจางบนใบหน้าของไป๋เจิ้นถัง ในการเจรจาระหว่างเขากับน้องสาวของเขา ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายชนะการที่น้องสาวมีความคิดเช่นนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่านางไม่อยากต่อสู้อีกต่อไปแล้วยิ่งไปกว่านั้น ไป๋เจิ้นถังไม่ได้โกหก!...หวังหยวนกำลังดื่มชาอยู่ที่บ้านในหมู่บ้านต้าหวัง ทันใดนั้นหวงเจียวเจียวก็เข้ามาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ดวงตาของนางเต็
ผู้นำพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปดักพวกมันกันเถอะ!”หลังจากออกคำสั่งแล้ว ทุกคนก็รีบพากันวิ่งลงจากภูเขาใบหน้าของหวงเจียวเจียวที่ติดตามหวังหยวนมาด้วย เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความไม่สบายใจฉายชัดไปทั่วดวงตาของนาง นางรู้สึกว่ามีอันตรายซ่อนเร้นอยู่มากมายรอบตัวนาง!โชคดีที่มีต้าหู่และทหารเกราะดำหลายสิบคนคอยอยู่เคียงข้าง จึงรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเล็กน้อย“สามี พวกเรา...”ก่อนที่หวงเจียวเจียวจะพูดจบ นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำใบไหม้แห้งดังกรอบแกรบใบหน้าของต้าหู่เคร่งขรึม เขาถอยกลับไปหาหวังหยวนและหวงเจียวเจียวทันที เพื่อเตรียมปกป้องทั้งสองใช้เวลาไม่นานนัก โจรหลายพันคนก็รีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วหวงเจียวเจียวตกใจ นางรีบคว้าแขนเสื้อของหวังหยวน แล้วไปซ่อนอยู่ข้างหลังเขาด้วยความตื่นตระหนกต้าหู่และทหารเกราะดำหลายสิบคนก็ตื่นตัวทันที ทุกคนต่างจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าจริงจังหวังหยวนตกตะลึงเมื่อได้เผชิญหน้ากับพวกโจรอาจเป็นไปได้ว่ามีโจรหน้าใหม่บุกโจมตีเนินเขาในบริเวณนี้ และกำลังวางแผนจะปล้นพวกเขาใช่หรือไม่?เขาจึงถามอย่างสุภาพทันที “พวกเจ้ามาจากหุบเขาโจรแห่งใดกั
ต้าหู่ที่อยู่ด้านข้างเตรียมรับมือ!แต่ฝ่ายตรงข้ามมีคนจำนวนมาก แม้ว่าฝีมือของต้าหู่จะทรงพลังมาก และทหารเกราะดำก็ไม่ได้อ่อนแอเลย แต่ฝ่ายตรงข้ามมีคนมากกว่าหนึ่งพันคน จำนวนที่แตกต่างกันมากนี้ เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัว!ต้าหู่พาคนไปปกป้องหวงเจียวเจียวและหวังหยวน เพราะเกรงว่าคนเหล่านี้จะมีโอกาสแอบโจมตีอย่างฉับพลันหวังหยวนรู้ดีว่าหากไม่สามารถหลบหนีได้ในครั้งนี้ พวกเขาทั้งหมดจะต้องตายที่นี่เขาจึงแอบพกอาวุธอย่างระเบิดมือไว้ในกระเป๋า พร้อมจะขว้างในช่วงเวลาวิกฤติ!หัวหน้าโจรย่อมไม่รู้ว่าหวังหยวนแข็งแกร่งแค่ไหน สีหน้าของเขาบ่งบอกว่ากำลังทะนงตัวยิ่ง เขามองหวังหยวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดเสียงเย็นชา “หวังหยวน ขอโทษด้วย”“หากจะโทษใครสักคน ก็ต้องโทษตัวเองที่มีตาหามีแววไม่ ไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรทำให้ขุ่นเคืองเสียได้ ช่างโง่เขลาเบาปัญญานัก”“ไป พวกเจ้าไปฆ่าพวกมันให้ข้า ขยับมือเท้าให้คล่องแคล่วกันหน่อย ทำให้พวกเขาตายให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้พวกเขาต้องรู้สึกเจ็บปวด” “ทราบ”คนกลุ่มหนึ่งก้าวมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว วิ่งตรงมายังตำแหน่งของหวังหยวน“ยอมตายซะเถอะ อย่าได้กังวล ข้าจะไม่ปล
เซิ่งตงฉยงยกยิ้มเย็นชา ในสถานการณ์รุมสังหารเช่นนี้ ไม่มีทางรอดไปได้อย่างแน่นอนเขาแตะคางตัวเองครุ่นคิดด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “หวังหยวนเป็นคนที่มีความสามารถยอดเยี่ยม หากอยากจะฆ่าเขา การใช้วิธีธรรมดานั้นไม่ง่ายเลย”“ดังนั้นเราจึงต้องหาทางล่อให้เขาออกจากหมู่บ้านต้าหวังก่อน หลังจากที่เขาออกมา จะได้ฆ่าเขาได้ง่ายขึ้น”“คุณชายใหญ่เซิ่งยังคงมีไหวพริบดีมากเสมอเลยนะขอรับ”รองขุนพลกล่าวชื่นชมเขาทันที “ล่อหวังหยวนออกมา แล้วส่งคนเกือบพันคนไปฆ่าเขา ต่อให้หวังหยวนจะมีปีกบินได้ ก็ไม่อาจหนีพ้น!”เซิ่งตงฉยงยกยิ้ม มองไปในระยะไกลด้วยดวงตาที่ราวกับจะลุกเป็นไฟ แล้วพูดเสียงดัง “ถูกต้อง!”“หวังหยวนภาคภูมิใจในความเฉลียวฉลาด ที่ไม่มีใครเทียบได้ของตนเองงั้นหรือ หากเป็นเช่นนั้น ข้าอยากเห็นนักว่าเขาจะสามารถฝ่าวงล้อม หาทางรอดชีวิตจากเงื้อมมือของคนเกือบพันคนได้อย่างไร?”“คุณชายใหญ่ ทุกคนที่ท่านมอบหมายไปล้วนเป็นระดับปรมาจารย์กันทั้งนั้น ตราบใดที่พวกเขาได้พบกับหวังหยวน หวังหยวนจะต้องตายแน่นอนขอรับ!”ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยกยิ้ม ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง!“ฮ่าฮ่า หวังหยวนคนนั้
“สิ่งนั้นคล้ายกับประทัด แต่... พลังโจมตีของมันน่าทึ่งมาก ในบรรดาพี่น้องของเราที่ถูกโจมตี คนที่เลวร้ายที่สุดคือแขนขาขาดจากแรงระเบิด บางคนก็ร่างแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย…”เมื่อทหารเล่าถึงตรงนี้ เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้เห็นนรกความรู้สึกนั้นทำให้เขาหวาดกลัวแทบสิ้นสติ!จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หวังหยวนขว้างอะไรมากันแน่ และเหตุใดพวกเขาถึงถูกระเบิดเช่นนี้!เซิ่งตงฉยงตกใจมากเมื่อได้ฟังเช่นนี้!คนหลายร้อยคนเสียชีวิตพร้อมกันทันที แม้แต่การใช้หน้าไม้ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพถึงเพียงนี้!สิ่งนั้นมันคืออะไร?เขานึกถึงข้อมูลที่หวังหยวนมีปืนคาบศิลา ซึ่งมีขนาดเล็ก สร้างขึ้นอย่างประณีตและมีพลังทำลายล้างสูง เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาสร้างอาวุธที่ทรงพลังกว่าสิ่งนี้ได้แล้ว?เซิ่งตงฉยงไม่อยากจะเชื่อเลย หวังหยวนเป็นอัจฉริยะจริง ๆ!“หวังหยวนเอ๋ยหวังหยวน เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจได้จริง ๆ แต่คนของข้ากำลังควบคุมทั้งสองเมืองนี้ ดังนั้นต่อให้เจ้ามีปีกบินหนี ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้หรอก!”“ส่วนพวกโจรของเจ้าค่อนข้างมีความสามารถ แต่ข้ารู้ข้อมูลหมดแล้ว คนของข้ามีอยู่รอบกายเจ้า หากเจ้ากล้าปรากฏ
เมื่อเสียงประหลาดใจของต้าหู่ดังขึ้น หวังหยวนก็ยกยิ้ม“แม้ว่าจะไม่แน่ใจนัก แต่ก็อาจป้องกันไม่ให้เซิ่งตงฉยงจัดการกับเราได้”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ต้าหู่ก็หัวเราะทันที“พี่หยวน บอกข้ามาเถอะว่าเราควรทำอย่างไร?”หวังหยวนหรี่ตาพูด “กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคน!”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนก็งุนงงเพราะไม่เข้าใจความหมายกลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคนที่ว่านี้เป็นอย่างไร?มันหมายความว่าอะไร?หวังหยวนไม่ได้ตอบ เพียงแค่ยกยิ้มมีเลศนัยขณะที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นที่นี่ ลึกเข้าไปในวังหลวง ไป๋เจิ้นถังเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มหลังจากที่เขาจากไปแล้ว ดวงตาของไป๋เหยียนเฟยก็ฉายแววรู้สึกผิดตอนนี้ไป๋หลิงเข้ามาพูดอย่างระมัดระวัง “ฮองเฮา พระองค์... ตอบตกลงแล้วจริงหรือเพคะ? ในกรณีนี้... ไท่จื่อจะควบคุมแผ่นดินได้อย่างไรเพคะ?”นางฟังบทสนทนาอยู่ตลอด จึงรับรู้เงื่อนไขระหว่างพวกเขา พูดตามตรง...มันน่าตกใจมาก!นางคิดว่าฮองเฮาจะไม่มีทางยอมตกลงแต่ไม่คิดเลยว่าฮองเฮาจะยอมตกลงไปแล้ว!“หลิงเอ๋อร์ ตระกูลไป๋ไม่ได้ขออะไรมาก ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยอมจำนน เมื่อแผ่นดินสงบลง ลูกชายของข้าจะได้ครองราชย์เป็นฮ่องเต้และมีชีวิตที่มั่ง
ตราบใดที่มีการรบกวนเช่นนี้อยู่ ต้าเย่ก็จะเป็นเหมือนจอกแหนที่ได้แต่ไหลไปตามสายน้ำ เพราะข้อจำกัดของทั้งสามฝ่ายเหมือนหมาป่าชั่วร้ายสามตัวที่ต่างจับตาดูเนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นนี้!“ในเรื่องนี้ เสนาบดีฝ่ายซ้ายและเสนาบดีฝ่ายขวาได้คิดวิธีแก้ปัญหาให้ข้า ซึ่งเป็นทางออกที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าคืออะไร?”ในเวลานี้ไป๋เหยียนเฟยพูดอีกครั้ง อู๋หลิงได้ฟังแล้วก็ตกใจวิธีแก้ปัญหาหรือ?เรื่องนี้ยังสามารถหาทางแก้ไขได้หรือ?มันเป็นสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้!ต้าเย่ไม่มีกองกำลัง ปัญหาทั้งภายในและภายนอกรุมเร้า แม้ว่าจะสามารถเอาชนะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ แต่ก็ยังมีอีกสองฝ่ายอยู่ข้างนอกอีกหนึ่ง และอยู่ข้างในอีกหนึ่ง กลายเป็นสามเหลี่ยมแห่งหายนะไปแล้ว!แก้ไขได้ยากจริง ๆ!“ฮองเฮาโปรดอธิบายให้ชัดเจนด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”อู๋หลิงรีบพูดด้วยความอยากรู้ว่าพวกเขายังสามารถทำอะไรได้อีกบ้างไป๋เหยียนเฟยได้ยินเช่นนี้จึงกล่าวว่า “วิธีการที่พวกเขาเสนอนั้นง่ายมาก ขอความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋”หลังจากพูดจบ อู๋หลิงขมวดคิ้วทันทีเขารู้เรื่องความบาดหมางระหว่างตระกูลไป๋กับฮองเฮา แล้วตระกูลไป๋จะช่วยได้อย่างไร?เรื่
หลังจากได้ฟังเช่นนี้ อู๋หลิงก็ยิ่งสับสนมากขึ้น!นี่คือ...หมายความว่าอย่างไร?ฮองเฮาพูดเรื่องเหล่านี้เพื่ออะไร?เหตุใดถึงบอกว่านางไม่ผิดหวัง?หรือว่า...นางไม่ได้เห็นด้วยหรือ? แค่ทดสอบเขาเท่านั้นหรือ?“ฮองเฮา พระองค์หมายความว่าอย่างไร?”อู๋หลิงสับสนมากจนรีบถามไป๋เหยียนเฟยได้ยินเช่นนี้จึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดตามตรง “อู๋หลิง ข้าไม่เคยทรยศต่อต้าเย่ ไม่เคยทรยศต่อฮ่องเต้ผู้ล่วงลับไปแล้ว ทั้งที่เป็นมาโดยตลอด และในอนาคตตลอดไป แต่ว่า... ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า!”หลังจากที่ไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ อู๋หลิงก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก“ฮองเฮา กระหม่อมยังไม่เข้าใจ”ไป๋เหยียนเฟยสูดหายใจ แล้วพูดว่า “ข้าได้แอบพบกับพี่ชายของข้า และข้อตกลงให้เขายอมช่วยเหลือเรา เมื่อเรื่องนี้สำเร็จและแผ่นดินสงบ ก็จะปล่อยให้เขาเข้ามารับช่วงปกครองต้าเย่ต่อ!”“นี่คือสิ่งที่ข้าสัญญาไว้ แต่... ข้าแกล้งสัญญาเท่านั้น เจ้าเข้าใจหรือไม่?”หลังจากพูดเช่นนี้ อู๋หลิงก็ตกใจทันที“นี่... นี่มันคือการชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านไม่ใช่หรือ? ถ้าตระกูลไป๋เข้ามาแทรกแซงราชสำนักแล้ว ก็คงยากที่จะกำจั
“พวกเจ้าออกไปก่อน”เมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นหน้าดำคร่ำเครียด ซือหม่าอันจึงโบกมือให้พวกเขาออกไปในชั่วพริบตา คนเหล่านั้นก็จากไปด้วยความโล่งอกพวกเขาถึงกับกังวลว่าหานเทาจะสังหารพวกเขาเพราะความโกรธด้วยซ้ำ...“ท่านขุนพลหานไม่ต้องโมโห”“อันที่จริง เรื่องเหล่านี้ล้วนสมเหตุสมผล”“แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าแล้ว แต่ชื่อเสียงของพวกเราก็ไม่ค่อยดีนัก พวกเขาจะเดินทางมาได้อย่างไร?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็สร้างหอไร้เทียมทานขึ้นมาเอง ท่านคิดเห็นเช่นไร?”ซือหม่าอันหรี่ตาลง ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาจับจ้องไปที่หานเทาหานเทากลืนน้ำลาย เอ่ยถามขึ้นว่า “ท่านมีความคิดดี ๆ แล้วหรือ?”ซือหม่าอันกล่าวว่า “หลายปีมานี้ ผู้คนต่างก็เกลียดชังอาณาจักรต้าเป่ย ถึงกับคิดว่าต้นตอของสงครามในดินแดนทั้งเก้าก็คืออาณาจักรต้าเป่ยของพวกเรา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อยากเข้าร่วมกับพวกเรา”“เช่นนั้นพวกเราก็นำยอดฝีมือจำนวนมากจากภายนอกเข้ามาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตนเองสิ!”“ตามที่ข้ารู้ หวังหยวนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อว่าไฉจวิ้น ทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ว่ากันว่าเป็นพี่น้องร่วมสาบาน”“ไฉ
“เมื่อคืนข้าไม่ได้บอกเจ้าแล้วหรือ ว่าอีกสองวันพวกเราจะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง?”“ท่านถงและคนอื่น ๆ ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวัง พวกเราไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องราวที่นั่น”“เมื่อพวกเรากลับไปแล้ว ก็เพียงแค่ใช้ชีวิตให้มีความสุข”หวังหยวนไม่ใช่คนไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้มีความรักชาติอันยิ่งใหญ่และคำนึงถึงปวงประชาเป็นหลัก!เขาเพียงต้องการดูแลครอบครัวของตนเอง รวมถึงสหายและพี่น้องที่อยู่เคียงข้าง!หากสามารถช่วยเหลือปวงประชาได้ ย่อมเป็นเรื่องดี แต่หากต้องเสียสละสิ่งใดจริง ๆ เกรงว่าเขาคงจะไม่ทำเช่นนั้น...แม้แต่การประชุมที่หอหลิวหลีในตอนนั้น ก็เป็นเพียงเพราะหวังหยวนต้องการความสงบสุข“ไม่ได้ ไม่ได้!”“ข้าไม่อยากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง!”“ข้าอยากจะติดตามท่านไปยังสถานที่ที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน เมื่อข้าให้กำเนิดลูกแล้ว พวกเราค่อยกลับไปก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลิ่วหรูเยียนฉลาดยิ่งนักเมื่อกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง นางจะสามารถติดตามหวังหยวนได้ทุกวันได้อย่างไร?อย่าว่าแต่ต้องการจะมีลูกเป็นของตนเองเลย เกรงว่าแม้แต่พื้นที่ส่วนตัวของเขากับนางก็ยังแทบจะไม่มี!ในบ้านยังมีพี่สาวอีกหลายคน
หวังหยวนได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องราวในเมืองอู่เจียงใกล้จะสิ้นสุด เขาเตรียมที่จะกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังในอีกสองวันครั้งนี้เขาออกมานานกว่าครึ่งปี แม้ว่าพวกหลี่ซื่อหานจะไม่ได้เร่งรัดให้เขากลับบ้าน แต่ด้วยนิสัยของพวกนาง เกรงว่าคงจะอยากมาตามหาเขาแล้วกระมัง?มีปัญหาน้อยดีกว่ามีปัญหามาก รีบกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวังย่อมดีกว่าอีกอย่างคือเมื่อมีคนรักใหม่แล้วจะลืมคนรักเก่าได้อย่างไร!ฝนตกทั่วฟ้าถึงจะถูกต้อง!“ท่านผู้นำ มีเรื่องสำคัญที่ต้องรายงานท่านขอรับ!”“ข้าเพิ่งได้รับข่าว หานเทาและซือหม่าอันได้ก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน ตอนนี้กำลังรวบรวมยอดฝีมือทั่วหล้า!”“นี่มันจงใจเป็นศัตรูกับพวกเราชัด ๆ”“ข้าจึงอยากจะถามว่า ต่อไปพวกเราต้องทำการตอบโต้หรือไม่ขอรับ?”หากเป็นเมื่อก่อน เกาเล่อย่อมต้องการความมั่นคง ไม่เคยทำเรื่องหุนหันพลันแล่นในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่เลือกที่จะปะทะกับหานเทาโดยตรงแต่ยามนี้แตกต่างออกไป เมื่อก่อนหวังหยวนมีเพียงแคว้นเดียวเท่านั้น ตอนนี้แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เผ่าทางเหนือทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การบัญชาของหวังหยวนแล้ว และท่านไท่สื่อก็เป็นคนของพวกเขาด้วย!ประกอบก
กองทัพทั่วหล้าตกอยู่ในมือของเขาแล้ว!หากเกิดสงครามกับหวังหยวน เขาก็ต้องเป็นแนวหน้า!ซือหม่าอันหรี่ตา จากนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เรื่องที่ท่านขุนพลหานกังวล มีหรือที่ข้าจะไม่กังวล?”“ข้าได้กราบทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทแล้ว แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้ใส่ใจ ตอนนี้ท่านโปรดปรานการใช้ดินปืน ซ้ำยังให้คนไปคิดค้นอาวุธร้อนเพิ่มด้วย!”“เพียงแต่ว่าการจะพัฒนาอาวุธร้อนให้สมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในชั่วข้ามคืน!”หานเทาถอนหายใจยาว มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจหลักการนี้?น่าเสียดายที่ไม่สามารถพูดคุยกับฝ่าบาทให้เข้าใจได้!“เช่นนั้นตามความคิดเห็นของท่านซือหม่า ต่อไปพวกเราต้องทำอย่างไร?”หานเทาเอ่ยถามเขาเป็นเพียงขุนศึก ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องการความช่วยเหลือจากซือหม่าอันเมื่อทั้งสองปรึกษาหารือกัน อาจจะสามารถหาผลลัพธ์ที่ดีได้!ซือหม่าอันหรี่ตาลง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ จากนั้นกล่าวว่า “หรือว่าพวกเราจะก่อตั้งสถานที่ที่คล้ายกับหอไร้เทียมทาน จากนั้นก็ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ทั่ว ให้ผู้คนทั่วหล้าเดินทางมา เช่นนี้แล้ว ต่อให้พวกเราไม่สามารถรวบรวมยอดฝีมือได้มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ปล่อยให้
“เจ้านี่นะ! ถึงกับหึงหวงเพราะผู้ชายเลยหรือ? หากกลับไปยังหมู่บ้านต้าหวัง เช่นนั้นข้าจะมีความสุขได้อย่างไร?”หวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ ที่บ้านเขายังมีภรรยาสาวสวยอีกหลายคน ท่าทางของหลิ่วหรูเยียนเช่นนี้ ช่างทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นที่สำคัญที่สุดก็คือ ภรรยาในบ้านแต่ละคนล้วนไม่ใช่คนธรรมดา!โดยเฉพาะหวงเจียวเจียว นิสัยของนางร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ นอกจากหลี่ซื่อหานและคนอื่น ๆ แล้ว ก็เกรงว่าจะไม่ยอมรับใครอีกหากสตรีทั้งสองนี้มาพบกัน ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ในเมื่อรับพวกนางมาเป็นภรรยาแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดเวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงสามวันนี้ หวังหยวนอยู่ในหอไร้เทียมทานต้องยอมรับว่าการก่อตั้งหอไร้เทียมทานได้ดึงดูดผู้มีความสามารถมากมายมาให้หวังหยวนที่สำคัญที่สุดก็คือหวังหยวนเป็นเพียงผู้ดูแล เรื่องราวทั้งหมดมอบให้เกาเล่อจัดการ โดยเพียงแค่ใช้ชื่อเสียงของหวังหยวนเท่านั้น!ต้องรู้ว่าหวังหยวนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งดินแดนทั้งเก้า เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด แม้แต่ปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าก็เคารพหวังหยวน แล้วใครเล่าจะไม่อยากมาอยู่ใต้บัญชาของหวังหยวน?ยิ่งไป
การประลองย่อมต้องดำเนินต่อไปเพียงแต่ว่าตำแหน่งอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้านั้นมีมากมาย หวังหยวนจึงไม่ได้อยู่ดูการแข่งขันต่อคาดว่าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หอไร้เทียมทานคงจะคึกคักเป็นอย่างมากในไม่ช้า หวังหยวน ไฉจวิ้น และหลิ่วหรูเยียนทั้งสามก็กลับมาถึงห้อง ส่วนเรื่องภายนอกมอบให้เกาเล่อจัดการทันทีที่เดินเข้าห้อง หวังหยวนจึงรีบจับมือไฉจวิ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด“พี่ใหญ่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอกขอรับ ข้าสบายดี!”“ต่อให้ต้องประลองต่อ ข้าก็ยังไหว!”“เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะยอมแพ้...”“เช่นนี้ก็ดี ทำให้ข้าไม่ต้องเปลืองแรง!”“อีกอย่าง หากต้องประลองกันต่อ เกรงว่าแม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่...”นี่เป็นความจริงทุกคนรู้ว่าไฉจวิ้นมีพละกำลังมหาศาล ตัวเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ แต่ขีดจำกัดของตนอยู่ที่ใด เกรงว่าแม้แต่เขาเองก็คงจะไม่รู้“เห็นว่าเจ้าไม่เป็นอะไร ข้าก็โล่งใจ”“แต่ต่อไปเมื่อทำสิ่งใด ต้องใช้ความคิดให้มาก”“แม้ว่าเจ้าจะมีพละกำลังมหาศาล แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน เจ้าไม่มีทางรู้ได้ว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงใด”“ดังนั้นเมื่อทำสิ่งใด อย่าได้อวดดี เข้าใจหรือไม่?”
“ช่างมีพละกำลังมหาศาลจริง ๆ!”ขณะที่หวังหยวนกับพวกกำลังสนทนากัน สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปที่ดาร์เนล ซึ่งในตอนนี้ได้ยกติ่งหนักถึงเจ็ดร้อยชั่งขึ้นเหนือศีรษะบนเวทีเหลือเพียงไฉจวิ้นและดาร์เนลเมื่อดาร์เนลยกติ่งขึ้นได้ สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่ไฉจวิ้น ตอนนี้เขาคือความหวังของปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้า ตำแหน่งจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้าจะไปตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติได้อย่างไร?เช่นนี้แล้ว ภายภาคหน้าปวงประชาแห่งดินแดนทั้งเก้าจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไร?ทางด้านสายตาของหวังหยวนนั้นจับจ้องไปที่ดาร์เนล ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่“ดูท่าแล้วไฉจวิ้นยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดาร์เนลมีความสามารถจริง ๆ ข้าเห็นว่าตอนที่เขายกติ่งขึ้นเมื่อครู่ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย ช่างมีพละกำลังมหาศาลนัก หากบอกว่าคนผู้นี้คือจอมพลังอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า นั่นไม่ถือว่าเป็นการดูหมิ่นชื่อเสียงอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า”หลิ่วหรูเยียนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างช้า ๆการกระทำทั้งหมดของดาร์เนลล้วนอยู่ในสายตาของพวกเขา นี่คือผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าจะไม่มีใครทำได้อย่างเข้าไม่ใช่หรือ?
แต่ทั้งหมดนี้นั้น นับว่าเป็นความดีความชอบของปู่ของไฉจวิ้นด้วย หากไม่ใช่เพราะมีปู่ช่วยเหลืออยู่ข้าง ๆ และใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาหลายปี แล้วเขาจะมีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ได้อย่างไร?เมื่อไฉจวิ้นยกติ่งใหญ่ขึ้น ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ก็ทยอยแสดงความสามารถของตนน่าเสียดาย ในท้ายที่สุดผู้ที่สามารถยกติ่งใหญ่ขึ้นได้ นอกจากไฉจวิ้นแล้วมีเพียงชาวต่างชาติที่มาจากต่างแดนเท่านั้นเสียงปรบมือดังกึกก้องจากข้างล่างเวที “คนผู้นี้มีความสามารถยิ่งนัก”หวังหยวนกอดอกมองชาวต่างชาติผู้นั้น พลางกวักมือเรียกเกาเล่อในชั่วพริบตา เกาเล่อก็มาอยู่ข้างกายหวังหยวน แต่สีหน้ากลับดูตึงเครียด“คนผู้นั้นคือชาวต่างชาติที่เจ้าเพิ่งพูดถึงหรือ?”หวังหยวนชี้ไปที่อีกคนบนเวที แล้วเอ่ยถามเกาเล่อพยักหน้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “คนผู้นี้มีที่มาไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกข้อมูลของเขาให้ท่านทราบแล้ว คนผู้นี้มีชื่อว่าดาร์เนล ว่ากันว่ามีพละกำลังมหาศาลตั้งแต่เด็ก และเคยต่อยเสือร้ายตายด้วยหมัดเดียว!”“เดิมทีคิดว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องเล่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องโกหก...”สามารถยกติ่งใหญ่หนักห้าร้อยชั่งได้ นั่นก็
เขามีความมั่นใจในตัวน้องชายคนนี้ก่อนหน้านี้ หวังหยวนเคยเห็นความสามารถของไฉจวิ้นมาก่อน อย่าว่าแต่จะหาผู้ที่เทียบเทียมเขาในบรรดาคนรุ่นเดียวกันได้ยากเลย แม้แต่คนที่อายุมากกว่าเขาก็ยังไม่มีใครมีพละกำลังเท่าเขา!ยิ่งไปกว่านั้น หวังหยวนเองก็ยังไม่รู้ขีดจำกัดของไฉจวิ้น!ดูท่าแล้ววันนี้คงมีเรื่องสนุกให้ชมกันเกาเล่อกลับเอ่ยว่า “ข้าเห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น คนที่อยู่ข้างกายไฉจวิ้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา! หนึ่งในนั้นมาจากต่างแดน คนผู้นี้มีชื่อเสียงมานาน ว่ากันว่าสามารถยกหินใหญ่หนักสองร้อยจินได้ด้วยมือเดียว!”“หากใช้สองมือ คาดว่าของหนักห้าร้อยจินก็คงไม่คณนามือขอรับ!”นี่...หวังหยวนกลืนน้ำลาย คนเหล่านี้กินหินเป็นอาหารกันหรืออย่างไร?ฝึกฝนร่างกายจนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยหรือ?อย่าว่าแต่ยกของหนักห้าร้อยจินเลย แม้แต่สองร้อยห้าสิบจิน เขาก็ยังยกไม่ขึ้น!“รอดูไปก่อน ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าศักยภาพของไฉจวิ้นมีขีดจำกัดอยู่ที่ใด”“เจ้าจำไว้ว่าต้องไปเตือนเขาด้วยว่าอย่าได้มุทะลุดุดัน!”“เขายังเด็กนัก ภายภาคหน้ายังมีโอกาสอีกมากที่จะพิสูจน์ตนเอง หากได้รับบาดเจ็บเพราะเรื่องนี้แล้วนั้น ย่อมไม่คุ้มค่า”ห