แชร์

บทที่ 1044

ผู้เขียน: ชวินเป่ยอี๋
คนส่งจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากไป๋เหยียนเฟย!

จดหมายฉบับนี้ของนางไม่ได้มีถ้อยคำมากมาย มีเพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น!

ให้พวกเขาไปเมืองหลวงเพื่อคุยกัน!

“ท่านอาคงกำลังเผชิญปัญหาเป็นแน่”

ไป๋เฟยเฟยรีบพูด นัยน์ตาฉายแววกระตือรือร้น

ไป๋เจิ้นถังก็เข้าใจความจริงข้อนี้เช่นกัน แต่ว่า...

เขาถอนหายใจ รู้สึกหดหู่เล็กน้อย

“เฮ้อ...อาของเจ้าเรียกให้พวกเราไปที่นั่นเพื่อประโยชน์ของนางเอง”

ไป๋เจิ้นถังเข้าใจทันทีที่เขาเห็นจดหมายลับ

ทุกวันนี้ตระกูลเซิ่งกำลังบุกอย่างดุเดือด และต้าเย่ก็ไม่มีความสามารถในการต่อต้าน หากตระกูลไป๋ช่วยนาง นางก็จะสามารถควบคุมราชสำนักได้ หรือแม้กระทั่งกำจัดตระกูลเซิ่งได้ด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋ด้วยซ้ำ

ความคิดนี้ย่อมเป็นความคิดที่ดี แต่น่าเสียดายที่ไป๋เจิ้นถังไม่มีทางเห็นด้วย

“ท่านพ่อ เช่นนั้นพวกเรา... จะไปหรือไม่?”

ไป๋เฟยเฟยรีบถาม เมื่อนี้ไป๋เจิ้นถังได้ยินคำถามนั้นก็ถอนหายใจ

“แน่นอนว่าพ่อไม่อยากไป แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ เราไม่ไปได้ด้วยหรือ? เจ้าไม่รู้จักอาของเจ้าหรือ? นางมีนิสัยดื้อรั้นเพียงใด ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้จริง ๆ นางคงไม่มีทางขอร้องพวกเร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1045

    ไป๋เหยียนเฟยก็ฉลาดมากเช่นกัน นางรู้ดีว่าตระกูลไป๋ไม่เพียงแต่จะมาคุยเท่านั้น แต่พวกเขาจะมาพร้อมกับเงื่อนไขด้วย!บางทีอาจจะพยายามดึงนางไปช่วยฝ่ายพวกเขาด้วยซ้ำ!ไป๋เหยียนเฟยรู้ทุกอย่าง แม้นางจะรู้ว่ามันยากมาก แต่นางก็ยังต้องพยายาม เพราะต้าเย่ในวันนี้ต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลไป๋จริง ๆ!“เงื่อนไขหรือ? ใช่แล้ว... ย่อมต้องมีเงื่อนไข…”ไป๋หลิงถอนหายใจ จำเป็นต้องคิดเรื่องนี้อีกหรือ?เนื่องจากตระกูลไป๋กำลังจะมา พวกเขาย่อมมีเรื่องจะขอแน่นอน ไม่เช่นนั้นตระกูลไป๋จะไม่มีทางช่วยฮองเฮาเป็นแน่ท้ายที่สุดแล้ว ความทะเยอทะยานของตระกูลไป๋ ก็ไม่น้อยไปกว่าความทะเยอทะยานของตระกูลเซิ่งเลย“ความจริงแล้ว วิธีที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลไป๋คือไม่ต้องมา ไม่สนใจข้าไปเลย เพราะพวกเขาสามารถรอจนกว่าแผ่นดินจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แล้วฉวยโอกาสดำเนินการ”“เมื่อถึงเวลานั้น ทั้งฝ่ายเราและตระกูลเซิ่งจะต้องประสบกับความสูญเสีย และมันจะเป็นผลดีที่สุดสำหรับตระกูลไป๋!”เมื่อไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ นัยน์ตานางก็ฉายแววหมดหนทาง“แต่ว่า... เหตุใดตระกูลไป๋ถึงมาล่ะ มาเพียงเพราะเงื่อนไขหรือ แต่จากที่พูดมา เงื่อนไขอะไรก็ไม่ดีเท

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1046

    ไป๋เหยียนเฟยพูดตามตรง คำพูดของนางตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก ไม่มีการอ้อมค้อมเลยสุดท้ายเรื่องนี้ก็เคยพูดคุยกันตั้งแต่ครั้งที่แล้วไป๋เจิ้นถังจ้องมองไป๋เหยียนเฟย หลังจากคิดอยู่นานเขาก็พูด“น้องสาว เหตุผลที่พี่มาที่นี่ก็เพราะความเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ หากท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะทำอย่างไร?”ไป๋เจิ้นถังไม่ต้องการแสดงความเห็นจากมุมมองของตัวเอง แต่เลือกยกมุมมองของพ่อมาพูดแทน เพื่อให้ไป๋เหยียนเฟยเข้าใจความจริงนี้แม้ว่าเขาจะพูดประโยคนี้ไปแล้วเมื่อครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้เขาก็จะยังพูดอีกอยู่ดี!“ข้า... ข้าเข้าใจ...”ไป๋เหยียนเฟยพยักหน้า นางรู้ดีว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนตระกูลไป๋ปรารถนาสิ่งใดตอนนี้เป็นช่วงที่มีความหวังมากที่สุด แต่แล้วตัวนางเองล่ะ...นางไม่ได้ช่วยตระกูลไป๋เลย ถ้าพ่อของนางยังอยู่ เขาคงจะโกรธมาก!จากนี้ไปเขาอาจไม่ถือว่านางเป็นลูกสาวแล้วด้วยซ้ำ!เรื่องทั้งหมดนี้นางรู้ดี!แต่นางไม่สามารถละทิ้งต้าเย่ไปได้! ไม่อยากทำให้ฮ่องเต้ซิงหลงต้องผิดหวังในฐานะสามีภรรยา นางไม่คงไม่กล้าไปเผชิญหน้ากับเขาในปรโลก เพราะรู้สึกผิดมากเกินไป!

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1047

    โดยเฉพาะเมืองหวง ความแข็งแกร่งของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ หากเห็นความวุ่นวายในต้าเย่ พวกเขาอาจดำเนินการไปนานแล้ว!ครั้งนี้ยึดเมืองเหลียงไป และตระกูลเซิ่งไม่กล้าไปบุกยึดง่าย ๆ แต่กลับบุกเมืองสู่ และขับไล่หมานอี๋กลับไปเป็นเพราะเมืองหวงนั้นแข็งแกร่งเกินไป!“น้องสาว พี่ขอพูดหน่อยเถิด คนในแผ่นดินต้าเย่แห่งนี้สิ้นหวังแล้ว ตอนนี้โจรออกอาละวาดไปทั่วทุกเมืองทุกแคว้น ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่บ่งชี้ว่าผู้คนอดอยาก ถ้ามีกินมีใช้เพียงพอ ใครจะอยากขึ้นไปเป็นโจรบนภูเขาบ้าง”ไป๋เจิ้นถังวิเคราะห์สถานการณ์ทั่วไปนี้ เพื่อให้ไป๋เหยียนเฟยเข้าใจความจริง!ทั้งตระกูลไป๋และตระกูลเซิ่งไม่สามารถหยุดความวุ่นวายนี้ได้!เพียงแต่ว่าตระกูลไป๋และตระกูลเซิ่งได้เริ่มดำเนินการแล้ว!หากความวุ่นวายเกิดขึ้นในแผ่นดินต่อไปไปเรื่อย ๆ หลายคนคงหันมาสนใจพวกเขา!ต้าเย่ในปัจจุบันเปรียบเสมือนหยาดน้ำฝน ที่ลอยไร้ทิศทางอยู่ท่ามกลางสายฝน อาจตกลงมาแตกกระจายเมื่อใดก็ได้!นี่จึงเป็นเพียงโอกาสหนึ่ง!“ข้าเข้าใจ... แต่... แต่ข้าไม่เต็มใจจะยอมแพ้...”ไป๋เหยียนเฟยกัดฟันพูดตามตรง“เจ้าไม่เปิดใจรับความจริง น้องสาว ไม่ใช่ว่าพี่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1048

    น้ำเสียงของไป๋เจิ้นถังเริ่มดุดัน!ขณะพูดเรื่องนี้ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด!เพราะนี่เป็นโอกาสสำหรับตระกูลไป๋จริง ๆ!แต่ไป๋เหยียนเฟยล่ะ?ต้าเย่กำลังจะเกิดความหายนะ แต่นางกลับขัดขวางการเคลื่อนไหวของตระกูลไป๋ ไป๋เจิ้นถังย่อมโกรธอยู่แล้ว!ตอนนี้ต้าเย่ตกอยู่ในภาวะวิกฤติ จึงต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา สิ่งที่ไป๋เจิ้นถังอยากทำมากที่สุดในวันนี้ คือการเตือนสติน้องสาวให้ได้ แม้จะต้องดุก็ตาม!แม้ว่านางจะรักฮ่องเต้ซิงหลงและลูกชายของนาง แต่นางก็ต้องไม่ปล่อยให้ความพยายามหลายชั่วอายุคนของตระกูลไป๋ต้องสูญเปล่า!ใครเป็นคนเลี้ยงดูนางให้เติบโตมา?ใครพร่ำสอนบทกวีและอบรมมารยาท?ใครเป็นคนวางแผนให้นางแต่งงานกับราชวงศ์?ใครทำให้นางมีความมั่นใจในการครองวังหลังของต้าเย่?คนที่ทำทั้งหมดนี้คือคนตระกูลไป๋!ตอนนี้เมื่อไป๋เหยียนเฟยยอมทำเช่นนี้เพื่อฮ่องเต้ซิงหลง เขาจึงโกรธมากเป็นธรรมดา!ไป๋เหยียนเฟยสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองพี่ชายของตน นางรู้ดีว่านางไม่ควรเป็นเช่นนี้ทว่า...นางทนไม่ไหวจริง ๆ!ไป๋เจิ้นถังรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็รู้ด้วยว่าหลังจากที่เขาพูดในวันนี้ อย่างน้อยน้องสาวของเขาก็มีปฏิ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1049

    หลังจากที่ไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ ไป๋เจิ้นถังก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็เข้าใจเช่นกันสิ่งที่น้องสาวของเขาต้องการ คือให้โอรสของนางกับฮ่องเต้ซิงหลงได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่ว่า...นางควบคุมไม่ได้ว่าจะสามารถนั่งบนบัลลังก์นี้ได้นานแค่ไหน และนางก็ไม่อยากดิ้นรนแล้ว!หากพูดเช่นนี้ เขาก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไร“น้องสาว เนื่องจากเจ้าพูดเช่นนี้ พี่ก็สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนแก่เจ้าได้ ตอนนี้เจ้าสามารถให้ชางเอ๋อร์เป็นฮ่องเต้ได้ และพวกพี่ยังสามารถช่วยให้เจ้ารักษาตำแหน่งอันสูงส่งของเจ้าไว้ได้ด้วย”“แต่หลังจากที่ตระกูลเซิ่งถูกกำจัด แผ่นดินของต้าเย่จะต้องเป็นของตระกูลไป๋เท่านั้น”“เมื่อถึงเวลานั้น พี่จะให้พวกเจ้า ฮองเฮาสองคนแม่ลูก ได้ใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งและมีเกียรติ”ตอนนี้มีรอยยิ้มจางบนใบหน้าของไป๋เจิ้นถัง ในการเจรจาระหว่างเขากับน้องสาวของเขา ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายชนะการที่น้องสาวมีความคิดเช่นนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่านางไม่อยากต่อสู้อีกต่อไปแล้วยิ่งไปกว่านั้น ไป๋เจิ้นถังไม่ได้โกหก!...หวังหยวนกำลังดื่มชาอยู่ที่บ้านในหมู่บ้านต้าหวัง ทันใดนั้นหวงเจียวเจียวก็เข้ามาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ดวงตาของนางเต็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1050

    ผู้นำพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปดักพวกมันกันเถอะ!”หลังจากออกคำสั่งแล้ว ทุกคนก็รีบพากันวิ่งลงจากภูเขาใบหน้าของหวงเจียวเจียวที่ติดตามหวังหยวนมาด้วย เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความไม่สบายใจฉายชัดไปทั่วดวงตาของนาง นางรู้สึกว่ามีอันตรายซ่อนเร้นอยู่มากมายรอบตัวนาง!โชคดีที่มีต้าหู่และทหารเกราะดำหลายสิบคนคอยอยู่เคียงข้าง จึงรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเล็กน้อย“สามี พวกเรา...”ก่อนที่หวงเจียวเจียวจะพูดจบ นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำใบไหม้แห้งดังกรอบแกรบใบหน้าของต้าหู่เคร่งขรึม เขาถอยกลับไปหาหวังหยวนและหวงเจียวเจียวทันที เพื่อเตรียมปกป้องทั้งสองใช้เวลาไม่นานนัก โจรหลายพันคนก็รีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วหวงเจียวเจียวตกใจ นางรีบคว้าแขนเสื้อของหวังหยวน แล้วไปซ่อนอยู่ข้างหลังเขาด้วยความตื่นตระหนกต้าหู่และทหารเกราะดำหลายสิบคนก็ตื่นตัวทันที ทุกคนต่างจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าจริงจังหวังหยวนตกตะลึงเมื่อได้เผชิญหน้ากับพวกโจรอาจเป็นไปได้ว่ามีโจรหน้าใหม่บุกโจมตีเนินเขาในบริเวณนี้ และกำลังวางแผนจะปล้นพวกเขาใช่หรือไม่?เขาจึงถามอย่างสุภาพทันที “พวกเจ้ามาจากหุบเขาโจรแห่งใดกั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1051

    ต้าหู่ที่อยู่ด้านข้างเตรียมรับมือ!แต่ฝ่ายตรงข้ามมีคนจำนวนมาก แม้ว่าฝีมือของต้าหู่จะทรงพลังมาก และทหารเกราะดำก็ไม่ได้อ่อนแอเลย แต่ฝ่ายตรงข้ามมีคนมากกว่าหนึ่งพันคน จำนวนที่แตกต่างกันมากนี้ เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัว!ต้าหู่พาคนไปปกป้องหวงเจียวเจียวและหวังหยวน เพราะเกรงว่าคนเหล่านี้จะมีโอกาสแอบโจมตีอย่างฉับพลันหวังหยวนรู้ดีว่าหากไม่สามารถหลบหนีได้ในครั้งนี้ พวกเขาทั้งหมดจะต้องตายที่นี่เขาจึงแอบพกอาวุธอย่างระเบิดมือไว้ในกระเป๋า พร้อมจะขว้างในช่วงเวลาวิกฤติ!หัวหน้าโจรย่อมไม่รู้ว่าหวังหยวนแข็งแกร่งแค่ไหน สีหน้าของเขาบ่งบอกว่ากำลังทะนงตัวยิ่ง เขามองหวังหยวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดเสียงเย็นชา “หวังหยวน ขอโทษด้วย”“หากจะโทษใครสักคน ก็ต้องโทษตัวเองที่มีตาหามีแววไม่ ไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรทำให้ขุ่นเคืองเสียได้ ช่างโง่เขลาเบาปัญญานัก”“ไป พวกเจ้าไปฆ่าพวกมันให้ข้า ขยับมือเท้าให้คล่องแคล่วกันหน่อย ทำให้พวกเขาตายให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้พวกเขาต้องรู้สึกเจ็บปวด” “ทราบ”คนกลุ่มหนึ่งก้าวมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว วิ่งตรงมายังตำแหน่งของหวังหยวน“ยอมตายซะเถอะ อย่าได้กังวล ข้าจะไม่ปล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1052

    เซิ่งตงฉยงยกยิ้มเย็นชา ในสถานการณ์รุมสังหารเช่นนี้ ไม่มีทางรอดไปได้อย่างแน่นอนเขาแตะคางตัวเองครุ่นคิดด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “หวังหยวนเป็นคนที่มีความสามารถยอดเยี่ยม หากอยากจะฆ่าเขา การใช้วิธีธรรมดานั้นไม่ง่ายเลย”“ดังนั้นเราจึงต้องหาทางล่อให้เขาออกจากหมู่บ้านต้าหวังก่อน หลังจากที่เขาออกมา จะได้ฆ่าเขาได้ง่ายขึ้น”“คุณชายใหญ่เซิ่งยังคงมีไหวพริบดีมากเสมอเลยนะขอรับ”รองขุนพลกล่าวชื่นชมเขาทันที “ล่อหวังหยวนออกมา แล้วส่งคนเกือบพันคนไปฆ่าเขา ต่อให้หวังหยวนจะมีปีกบินได้ ก็ไม่อาจหนีพ้น!”เซิ่งตงฉยงยกยิ้ม มองไปในระยะไกลด้วยดวงตาที่ราวกับจะลุกเป็นไฟ แล้วพูดเสียงดัง “ถูกต้อง!”“หวังหยวนภาคภูมิใจในความเฉลียวฉลาด ที่ไม่มีใครเทียบได้ของตนเองงั้นหรือ หากเป็นเช่นนั้น ข้าอยากเห็นนักว่าเขาจะสามารถฝ่าวงล้อม หาทางรอดชีวิตจากเงื้อมมือของคนเกือบพันคนได้อย่างไร?”“คุณชายใหญ่ ทุกคนที่ท่านมอบหมายไปล้วนเป็นระดับปรมาจารย์กันทั้งนั้น ตราบใดที่พวกเขาได้พบกับหวังหยวน หวังหยวนจะต้องตายแน่นอนขอรับ!”ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยกยิ้ม ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง!“ฮ่าฮ่า หวังหยวนคนนั้

บทล่าสุด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2234

    ครึ่งชั่วยามต่อมา ไท่สื่อลี่นำแผนที่มาให้ด้วยตนเอง ทางด้านหวังหยวนเฝ้ารออยู่ที่ลานบ้านเมื่อรับแผนที่มาก็ตรวจดูอย่างละเอียด คิ้วของหวังหยวนขมวดแน่นช่างอันตรายยิ่งนัก!แม้ว่าภูเขาทางเหนือจะเป็นภูเขาโดดเดี่ยว แต่ด้านข้างเป็นหน้าผาทั้งสิ้น หากต้องการเก็บเกสรของดอกหน้าผาชันก็ต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผา ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือกเดินนี่ช่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากยิ่งนัก!หากไม่มีวิชาตัวเบา การปีนขึ้นหน้าผาด้วยมือเปล่านั้นยากราวกับปีนขึ้นสวรรค์!หวังหยวนตกอยู่ในห้วงความคิด ครุ่นคิดหาวิธีเก็บเกสรดอกหน้าผาชันส่วนไท่สื่อลี่ไม่ได้เอ่ยคำใด ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเวลาผ่านไปทีละน้อย ไม่นานไฉจวิ้นก็กลับมาพร้อมกับห่อผ้าห่อใหญ่ ในมือไม่เพียงแต่มีของกิน ยังมีของเล่นน่าสนใจอีกมากมายด้วยทั้งหมดนี้ก็เพื่อเอาใจหลิ่วหรูเยียนเป็นเพราะเขาเอง หลิ่วหรูเยียนจึงไม่อาจออกไปเที่ยวเล่นได้ สตรีนั้นอารมณ์แปรปรวน เขากลัวว่าหลิ่วหรูเยียนจะเก็บเรื่องนี้มาคิดเล็กคิดน้อย“กลับมาแล้ว”หวังหยวนเอ่ยอย่างเรียบเฉยไฉจวิ้นพยักหน้า เขามองหวังหยวนก่อนเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ใหญ่อารมณ์ไม่ดี หรือว่าเมื่อครู่นี้ทะเลาะกับพี่

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2233

    “ช่างสมกับเป็นท่านหวัง ไม่มีสิ่งใดปิดบังท่านได้จริง ๆ”ไท่สื่อลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนไม่ได้แอบหนีออกมาจากห้อง เขาจึงกระซิบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าได้พูดคุยกับท่านหมอเทวดาอันแล้ว เขาได้บอกอาการของฮูหยินกับข้าทั้งหมดแล้วขอรับ”“อีกทั้งยังบอกวิธีที่จะทำให้อาการของฮูหยินดีขึ้นด้วย”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาพลันเป็นประกาย“ท่านหมายถึง...”หวังหยวนไม่ได้เอ่ยประโยคหลังออกมา แต่ชี้ไปที่ท้องของตนไท่สื่อลี่เข้าใจความหมายในทันที จากนั้นก็พยักหน้า“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!”“เช่นนั้นรีบบอกข้ามา วิธีแก้ต้องทำอย่างไร?”“อีกอย่างคือก่อนหน้านี้ข้าได้ถามท่านหมอเทวดาแล้วว่ามีวิธีใดที่จะทำให้อาการของภรรยาข้าดีขึ้นหรือไม่ ท่านหมอเทวดาไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน ข้านึกว่าไม่อาจรักษาภรรยาของข้าให้หายได้...”“ดูท่าแล้ว ท่านหมอเทวดาจงใจปิดบังข้า!”หวังหยวนเข้าใจดีว่าอันจูหมิงคงมีเหตุผลที่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่บอกเรื่องนี้กับไท่สื่อลี่ไท่สื่อลี่รีบโบกมือกล่าวว่า “ท่านหวังอย่าได้เข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าท่านหมอเทวดาอันไม่อยากบอกท่าน แต่เป็นเพราะว่าตัวยาที่ใช้รักษาฮูหยินนั้นหายา

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2232

    เมื่อกลับถึงห้อง ด้วยการดูแลของหวังหยวน หลิ่วหรูเยียนจึงจำต้องนอนลงบนเตียงเมื่อเห็นนางพลิกตัวไปมาไม่หยุด หวังหยวนก็เข้าใจได้ในทันที นี่เป็นเพราะนางไม่อยากนอนหลับ“เจ้านี่นะ เหตุใดจึงได้ดื้อรั้นเพียงนี้?”“ในตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเห็นอะไรในตัวเจ้า!”“หากรู้ล่วงหน้าว่าการเดินทางครั้งนี้จะพบเจอกับเรื่องราวมากมายเพียงนี้ ก็ควรจะให้เจ้าอยู่ที่หมู่บ้านต้าหวังแต่แรก เจ้าจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย”“สุดท้ายแล้วก็เป็นความผิดของข้า...”หวังหยวนจิบชาพลางพึมพำกับตนเอง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า ภาพในความคิดย้อนกลับไปถึงคำพูดของอันจูหมิงก่อนหน้านี้ยามนี้เขาก็ยังคงคิดหาวิธีที่จะบอกกล่าวเรื่องนี้กับหลิ่วหรูเยียนไม่ได้สำหรับหวังหยวนแล้ว การไม่อาจตั้งครรภ์ได้นั้นสำคัญตรงไหนกัน?ครอบครัวของเขามีเหล่าภรรยาที่เพียบพร้อม ย่อมไม่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้แต่สำหรับหลิ่วหรูเยียนแล้ว สตรีที่ไม่มีบุตรก็ไม่นับว่าเป็นสตรีเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ หวังหยวนจะไม่รู้สึกอึดอัดใจได้อย่างไร?ดูท่าแล้วคงต้องหาจังหวะที่เหมาะสม จากนั้นค่อยบอกความจริงกับหลิ่วหรูเยียน นางจะได้ไม่เจ็บปวดมากนัก“นี่ท่านกำลังคิดอ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2231

    “เอาล่ะ!”“ตอนนี้เจ้าเชื่อฟังพี่ใหญ่ของเจ้าใช่หรือไม่?”“พี่ใหญ่ของเจ้าไม่อยู่ไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นคำพูดของพี่สะใภ้ก็ไม่มีค่าแล้วใช่หรือไม่?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ภายภาคหน้าเจ้าก็ไม่ต้องเรียกข้าว่าพี่สะใภ้ ข้าจะออกไปเดินเล่นเอง หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับข้า พี่ใหญ่ของเจ้าจะต้องมาเอาเรื่องกับเจ้า ถึงตอนนั้นก็คอยดูเถิดว่าจะเป็นอย่างไร!”หลิ่วหรูเยียนเฉลียวฉลาด ไฉจวิ้นผู้ไม่ประสีประสาจะต่อกรกับนางได้อย่างไร?เพียงชั่วครู่ ไฉจวิ้นถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่าหลิ่วหรูเยียนกำลังจะเดินจากไป เขาก็รีบวิ่งตาม พลางประจบประแจงว่า “พี่สะใภ้! ท่านอย่าได้ทำให้ช้าต้องลำบากใจเลยขอรับ ตกลงหรือไม่?”“ท่านเพิ่งจะหายป่วย สภาพร่างกายก็ยังฟื้นตัวไม่ดี อีกทั้งท่านหมอเทวดาก็บอกแล้วว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ท่านถึงจะหายดี ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพักผ่อนนะขอรับ!”“แต่ในเมื่อท่านยืนกรานจะออกไป เช่นนั้นพวกเราเดินเล่นเพียงครู่เดียว จากนั้นก็รีบกลับมาก็ได้ ตกลงหรือไม่ขอรับ?”ในที่สุดไฉจวิ้นก็ยอมอ่อนข้อให้ทั้งสองฝ่ายล้วนเป็นผู้ที่เขาไม่อาจล่วงเกิน!ล่วงเกินหวังหยวนก็ไม่เป็นอะไร เพราะว่าพวกเขาล้วนเ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2230

    “นี่คือคำสั่ง!”เกาเล่อถอนหายใจอย่างจนใจ ไม่ได้อยู่ที่นี่ต่อ แต่หันหลังเดินไปยังทิศทางหนึ่งในไม่ช้า หวังหยวนก็กลับเข้าไปในห้องทันทีที่เข้าประตูไป เขาเห็นหลิ่วหรูเยียนลืมตาตื่นและกำลังจะลุกขึ้นหวังหยวนรีบวิ่งไปหาหลิ่วหรูเยียน แล้วกล่าวว่า “ฝีมือของท่านหมอเทวดาอันช่างล้ำเลิศยิ่งนัก เพียงเวลาสั้น ๆ เจ้าก็ฟื้นคืนสติแล้วหรือ?”“อีกทั้งดูเหมือนว่า เจ้าจะดูมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกว่าสภาพร่างกายของตนดีขึ้น แม้ว่าบริเวณหน้าท้องจะยังเจ็บอยู่บ้าง อีกทั้งร่างกายก็ยังอ่อนแรง แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้านี้มากยามนี้ก็ไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าอาการดีขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามธรรมชาติหวังหยวนประคองนางนั่งลงที่โต๊ะ จากนั้นนางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของข้าแข็งแรง ท่านไม่เห็นสตรีด้านนอกเหล่านั้นหรือไร แต่ละคนล้วนดูอ่อนแอ จะนำมาเปรียบเทียบกับข้าได้อย่างไร?”“ร่างกายของข้าแข็งแรงดั่งวัว ประกอบกับฝีมืออันล้ำเลิศของท่านหมอเทวดาอัน การรักษาให้หายดีก็เป็นเพียงเรื่องของเวลา”“น่าเสียดาย ร่างกายอันงดงามของข้ากลับมีรอยแผลเป็น นี่ช่างดูไม่น่ามองเอาเสียเลย”“ไม่ได้! เมื่อข้าหาย

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2229

    ไท่สื่อลี่ก็เอ่ยเสริมขึ้นบ้าง “ถูกต้อง ถูกต้อง ท่านเกาไม่ต้องเป็นกังวล ข้าเห็นท่านเองก็เหนื่อยล้าไม่น้อย รีบกลับไปพักผ่อนเถิด”“ส่วนท่านหวัง ให้ข้าดูแลเองเถิด”พวกเขาทั้งสองล้วนรู้ดีแก่ใจ เกาเล่อเพียงแค่ไม่วางใจเท่านั้นเพิ่งจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น ซ้ำร้ายหลิ่วหรูเยียนยังบาดเจ็บสาหัส เขาเป็นมือขวาของหวังหยวน ย่อมต้องรู้สึกว่าตนมีความผิดที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง“ช่างเถิด หากข้ากลับไปตอนนี้ก็เกรงว่าจะพักผ่อนไม่เต็มที่”“รอฮูหยินหายดีแล้ว ข้าค่อยพักผ่อนให้เต็มที่”เกาเล่อยิ้มพลางโบกมือหวังหยวนส่ายหน้าอย่างจนใจ มีพี่น้องเช่นนี้อยู่เคียงข้างจะต้องการสิ่งใดอีกเล่า?เขาไม่ได้บังคับเกาเล่ออีกแต่ไม่ได้หมายความว่าไฉจวิ้นไม่ดี เพียงแต่จิตใจของไฉจวิ้นไม่ละเอียดอ่อนเท่าเกาเล่อ จึงไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้เพียงชั่วครู่ ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังทิศทางหนึ่งในอีกหลายชั่วยามต่อมา อันจูหมิงและหลิ่วหรูเยียนก็ยังคงอยู่ในห้องเห็นได้ชัดว่าอันจูหมิงเหนื่อยล้าไม่น้อย เพราะการฝังเข็มต้องใช้ความพยายามไม่น้อยเช่นกันหวังหยวนและคนอื่น ๆ ได้เตรียมตัวยาสมุนไพรไว้พร้อมแล้ว ยามนี้การฝังเข็มได้เสร็จสิ้นลง ประ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2228

    หวังหยวนไม่เอ่ยคำใด ดวงตาจับจ้องไปที่อันจูหมิง รอคอยคำพูดต่อไป อันจูหมิงเอ่ยต่อว่า “เกรงว่าภายภาคหน้า ฮูหยินของท่านจะไม่อาจมีบุตรได้อีก”หวังหยวนชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าพลางยิ้ม แล้วกล่าวว่า “ข้านึกว่าเรื่องใหญ่อะไร ที่แท้ก็เพียงแค่ไม่อาจมีบุตรได้!”“เรื่องนี้ สำหรับข้าแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!”“เพียงแค่ให้หรูเยียนหายดีก็เพียงพอแล้ว!”“ในสายตาของข้า สตรีไม่ใช่เครื่องมือในการสืบสกุล แต่เป็นคู่ชีวิตที่จะอยู่เคียงข้างกันไปจนแก่เฒ่า!”อันจูหมิงอดไม่ได้ที่จะมองหน้าหวังหยวนรักษาผู้คนมาครึ่งชีวิต เขาได้พบเจอโรคภัยไข้เจ็บอันแปลกประหลาดมากมาย อีกทั้งยังได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาคนที่มีจิตใจเป็นอิสระและง่ายดายอย่างหวังหยวนนั้น ช่างหาได้ยากยิ่ง!ในโลกนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนมากมายเพียงใดที่เมื่อรู้ว่าภรรยาของตนไม่อาจตั้งครรภ์ได้ ก็จะเปลี่ยนท่าทีไปในทันที แม้กระทั่งขับไล่ภรรยาออกจากบ้าน แต่ฐานะของหวังหยวนก็สูงส่ง กลับไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อย ทั้งยังเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก!อันจูหมิงกล่าวต่อว่า “ในเมื่อท่านหวังเอ่ยเช่นนี้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลแล้ว ข้าจะฝังเข็ม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2227

    “ข้าน้อยอันจูหมิง คำนับท่านหวัง!”ชายชราผู้มีผมขาวแต่ใบหน้าเยาว์วัยเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหวังหยวน แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ท่านอย่าได้เกรงใจ รีบมาดูอาการภรรยาของข้าก่อนเถิด!”“แม้แต่หมอหลวงแห่งราชวงศ์ต้าเย่ยังจนปัญญา ข้าต้องขอฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ท่านแล้ว”ขณะที่พูด เกาเล่อและไฉจวิ้นก็อุ้มร่างของหลิ่วหรูเยียนออกมาเมื่อมองดูแล้ว สภาพของหลิ่วหรูเยียนยิ่งแย่ลง ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด ร่างกายซูบผอมอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าหวังหยวนจะเจ็บปวดใจยิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยคำใด เพียงรอคอยการวินิจฉัยของอันจูหมิงในไม่ช้า หวังหยวนและคนอื่น ๆ ต่างช่วยกันนำร่างของหลิ่วหรูเยียนเข้าไปในห้อง ภายในห้องเหลือเพียงหวังหยวนและอันจูหมิงส่วนคนอื่นรอคอยอยู่ด้านนอกอย่างอดทนเวลาผ่านไปเท่ากับหนึ่งก้านธูปไหม้หมด อันจูหมิงยังคงจับชีพจรของหลิ่วหรูเยียน สีหน้าแปรเปลี่ยนไปมายากจะคาดเดาความคิดในใจเขาหวังหยวนรู้สึกกดดันยิ่งนัก แต่ก็ไม่กล้าเร่งเร้าอันจูหมิง ทำได้เพียงกำหมัดแน่น รอคอยผลลัพธ์อย่างอดทนความหวังสุดท้ายอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่หากแม้แต่อันจูหมิงก็จนปัญญา เช่นนั้นจะทำเช่นไร?หรือว่า...เขาจะต้องพลัดพรากจ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 2226

    “ในที่สุดพวกท่านก็มาถึง!”แม้ว่าหวังหยวนจะยังไม่เห็นตัวผู้พูด แต่เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็จำได้ทันทีว่าเจ้าของเสียงนี้เป็นผู้ใดจะเป็นใครไปได้อีก ถ้าไม่ใช่ไท่สื่อลี่?สายตาของหวังหยวนจับจ้องไปที่ไท่สื่อลี่ จากนั้นรีบลงจากรถม้า แล้วกล่าวว่า “ท่านไท่สื่อ ยามนี้ไม่ใช่เวลามาย้อนความหลังกัน ได้ยินว่าท่านหาหมอเทวดาพบแล้ว เช่นนั้นพวกเรารีบไปที่เผ่ากันเลยดีหรือไม่?”“ดีขอรับ ดีขอรับ!”“ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว ท่านหวังตามข้ามาก็พอ!”ในไม่ช้าคณะเดินทางก็ออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งหน้าไปยังทิศทางของเผ่าอย่างโอ่อ่าในช่วงเวลาที่หวังหยวนกลับไปยังต้าเย่ ไท่สื่อลี่ใช้ความสามารถอันล้ำเลิศของตน ประกอบกับความช่วยเหลือจากหวังหยวนเข้าควบคุมชนเผ่าอื่นได้สำเร็จ!ยามนี้เผ่าทางเหนือทั้งหมดตกอยู่ในมือของเขา และเขาก็กลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนเหนือ!ทว่าทั้งหมดนี้ล้วนต้องขอบคุณหวังหยวนอีกทั้งเขารู้ดีแก่ใจว่าหากเป็นศัตรูกับหวังหยวน รากฐานที่ตนอุตส่าห์สร้างขึ้นมาก็จะพังทลายลงในชั่วพริบตาในคืนนั้น เมื่อพลบค่ำมาเยือน ขบวนรถม้าก็เดินทางมาถึงเผ่าเมื่อมองออกไปจะเห็นคนในเผ่ายืนรออยู่สองข้างทาง ทุกคนล้วนรอคอยก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status