Share

บทที่ 1046

Author: ชวินเป่ยอี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
ไป๋เหยียนเฟยพูดตามตรง คำพูดของนางตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก ไม่มีการอ้อมค้อมเลย

สุดท้ายเรื่องนี้ก็เคยพูดคุยกันตั้งแต่ครั้งที่แล้ว

ไป๋เจิ้นถังจ้องมองไป๋เหยียนเฟย หลังจากคิดอยู่นานเขาก็พูด

“น้องสาว เหตุผลที่พี่มาที่นี่ก็เพราะความเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตอนนี้เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ หากท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะทำอย่างไร?”

ไป๋เจิ้นถังไม่ต้องการแสดงความเห็นจากมุมมองของตัวเอง แต่เลือกยกมุมมองของพ่อมาพูดแทน เพื่อให้ไป๋เหยียนเฟยเข้าใจความจริงนี้

แม้ว่าเขาจะพูดประโยคนี้ไปแล้วเมื่อครั้งที่แล้ว แต่คราวนี้เขาก็จะยังพูดอีกอยู่ดี!

“ข้า... ข้าเข้าใจ...”

ไป๋เหยียนเฟยพยักหน้า นางรู้ดีว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนตระกูลไป๋ปรารถนาสิ่งใด

ตอนนี้เป็นช่วงที่มีความหวังมากที่สุด แต่แล้วตัวนางเองล่ะ...

นางไม่ได้ช่วยตระกูลไป๋เลย ถ้าพ่อของนางยังอยู่ เขาคงจะโกรธมาก!

จากนี้ไปเขาอาจไม่ถือว่านางเป็นลูกสาวแล้วด้วยซ้ำ!

เรื่องทั้งหมดนี้นางรู้ดี!

แต่นางไม่สามารถละทิ้งต้าเย่ไปได้! ไม่อยากทำให้ฮ่องเต้ซิงหลงต้องผิดหวัง

ในฐานะสามีภรรยา นางไม่คงไม่กล้าไปเผชิญหน้ากับเขาในปรโลก เพราะรู้สึกผิดมากเกินไป!

Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1047

    โดยเฉพาะเมืองหวง ความแข็งแกร่งของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ หากเห็นความวุ่นวายในต้าเย่ พวกเขาอาจดำเนินการไปนานแล้ว!ครั้งนี้ยึดเมืองเหลียงไป และตระกูลเซิ่งไม่กล้าไปบุกยึดง่าย ๆ แต่กลับบุกเมืองสู่ และขับไล่หมานอี๋กลับไปเป็นเพราะเมืองหวงนั้นแข็งแกร่งเกินไป!“น้องสาว พี่ขอพูดหน่อยเถิด คนในแผ่นดินต้าเย่แห่งนี้สิ้นหวังแล้ว ตอนนี้โจรออกอาละวาดไปทั่วทุกเมืองทุกแคว้น ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่บ่งชี้ว่าผู้คนอดอยาก ถ้ามีกินมีใช้เพียงพอ ใครจะอยากขึ้นไปเป็นโจรบนภูเขาบ้าง”ไป๋เจิ้นถังวิเคราะห์สถานการณ์ทั่วไปนี้ เพื่อให้ไป๋เหยียนเฟยเข้าใจความจริง!ทั้งตระกูลไป๋และตระกูลเซิ่งไม่สามารถหยุดความวุ่นวายนี้ได้!เพียงแต่ว่าตระกูลไป๋และตระกูลเซิ่งได้เริ่มดำเนินการแล้ว!หากความวุ่นวายเกิดขึ้นในแผ่นดินต่อไปไปเรื่อย ๆ หลายคนคงหันมาสนใจพวกเขา!ต้าเย่ในปัจจุบันเปรียบเสมือนหยาดน้ำฝน ที่ลอยไร้ทิศทางอยู่ท่ามกลางสายฝน อาจตกลงมาแตกกระจายเมื่อใดก็ได้!นี่จึงเป็นเพียงโอกาสหนึ่ง!“ข้าเข้าใจ... แต่... แต่ข้าไม่เต็มใจจะยอมแพ้...”ไป๋เหยียนเฟยกัดฟันพูดตามตรง“เจ้าไม่เปิดใจรับความจริง น้องสาว ไม่ใช่ว่าพี่อ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1048

    น้ำเสียงของไป๋เจิ้นถังเริ่มดุดัน!ขณะพูดเรื่องนี้ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด!เพราะนี่เป็นโอกาสสำหรับตระกูลไป๋จริง ๆ!แต่ไป๋เหยียนเฟยล่ะ?ต้าเย่กำลังจะเกิดความหายนะ แต่นางกลับขัดขวางการเคลื่อนไหวของตระกูลไป๋ ไป๋เจิ้นถังย่อมโกรธอยู่แล้ว!ตอนนี้ต้าเย่ตกอยู่ในภาวะวิกฤติ จึงต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา สิ่งที่ไป๋เจิ้นถังอยากทำมากที่สุดในวันนี้ คือการเตือนสติน้องสาวให้ได้ แม้จะต้องดุก็ตาม!แม้ว่านางจะรักฮ่องเต้ซิงหลงและลูกชายของนาง แต่นางก็ต้องไม่ปล่อยให้ความพยายามหลายชั่วอายุคนของตระกูลไป๋ต้องสูญเปล่า!ใครเป็นคนเลี้ยงดูนางให้เติบโตมา?ใครพร่ำสอนบทกวีและอบรมมารยาท?ใครเป็นคนวางแผนให้นางแต่งงานกับราชวงศ์?ใครทำให้นางมีความมั่นใจในการครองวังหลังของต้าเย่?คนที่ทำทั้งหมดนี้คือคนตระกูลไป๋!ตอนนี้เมื่อไป๋เหยียนเฟยยอมทำเช่นนี้เพื่อฮ่องเต้ซิงหลง เขาจึงโกรธมากเป็นธรรมดา!ไป๋เหยียนเฟยสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองพี่ชายของตน นางรู้ดีว่านางไม่ควรเป็นเช่นนี้ทว่า...นางทนไม่ไหวจริง ๆ!ไป๋เจิ้นถังรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็รู้ด้วยว่าหลังจากที่เขาพูดในวันนี้ อย่างน้อยน้องสาวของเขาก็มีปฏิ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1049

    หลังจากที่ไป๋เหยียนเฟยพูดเช่นนี้ ไป๋เจิ้นถังก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แต่เขาก็เข้าใจเช่นกันสิ่งที่น้องสาวของเขาต้องการ คือให้โอรสของนางกับฮ่องเต้ซิงหลงได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ แต่ว่า...นางควบคุมไม่ได้ว่าจะสามารถนั่งบนบัลลังก์นี้ได้นานแค่ไหน และนางก็ไม่อยากดิ้นรนแล้ว!หากพูดเช่นนี้ เขาก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไร“น้องสาว เนื่องจากเจ้าพูดเช่นนี้ พี่ก็สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนแก่เจ้าได้ ตอนนี้เจ้าสามารถให้ชางเอ๋อร์เป็นฮ่องเต้ได้ และพวกพี่ยังสามารถช่วยให้เจ้ารักษาตำแหน่งอันสูงส่งของเจ้าไว้ได้ด้วย”“แต่หลังจากที่ตระกูลเซิ่งถูกกำจัด แผ่นดินของต้าเย่จะต้องเป็นของตระกูลไป๋เท่านั้น”“เมื่อถึงเวลานั้น พี่จะให้พวกเจ้า ฮองเฮาสองคนแม่ลูก ได้ใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งและมีเกียรติ”ตอนนี้มีรอยยิ้มจางบนใบหน้าของไป๋เจิ้นถัง ในการเจรจาระหว่างเขากับน้องสาวของเขา ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายชนะการที่น้องสาวมีความคิดเช่นนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่านางไม่อยากต่อสู้อีกต่อไปแล้วยิ่งไปกว่านั้น ไป๋เจิ้นถังไม่ได้โกหก!...หวังหยวนกำลังดื่มชาอยู่ที่บ้านในหมู่บ้านต้าหวัง ทันใดนั้นหวงเจียวเจียวก็เข้ามาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก ดวงตาของนางเต็

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1050

    ผู้นำพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แล้วสั่งการด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไปดักพวกมันกันเถอะ!”หลังจากออกคำสั่งแล้ว ทุกคนก็รีบพากันวิ่งลงจากภูเขาใบหน้าของหวงเจียวเจียวที่ติดตามหวังหยวนมาด้วย เต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความไม่สบายใจฉายชัดไปทั่วดวงตาของนาง นางรู้สึกว่ามีอันตรายซ่อนเร้นอยู่มากมายรอบตัวนาง!โชคดีที่มีต้าหู่และทหารเกราะดำหลายสิบคนคอยอยู่เคียงข้าง จึงรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเล็กน้อย“สามี พวกเรา...”ก่อนที่หวงเจียวเจียวจะพูดจบ นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าย่ำใบไหม้แห้งดังกรอบแกรบใบหน้าของต้าหู่เคร่งขรึม เขาถอยกลับไปหาหวังหยวนและหวงเจียวเจียวทันที เพื่อเตรียมปกป้องทั้งสองใช้เวลาไม่นานนัก โจรหลายพันคนก็รีบวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วหวงเจียวเจียวตกใจ นางรีบคว้าแขนเสื้อของหวังหยวน แล้วไปซ่อนอยู่ข้างหลังเขาด้วยความตื่นตระหนกต้าหู่และทหารเกราะดำหลายสิบคนก็ตื่นตัวทันที ทุกคนต่างจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าจริงจังหวังหยวนตกตะลึงเมื่อได้เผชิญหน้ากับพวกโจรอาจเป็นไปได้ว่ามีโจรหน้าใหม่บุกโจมตีเนินเขาในบริเวณนี้ และกำลังวางแผนจะปล้นพวกเขาใช่หรือไม่?เขาจึงถามอย่างสุภาพทันที “พวกเจ้ามาจากหุบเขาโจรแห่งใดกั

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1051

    ต้าหู่ที่อยู่ด้านข้างเตรียมรับมือ!แต่ฝ่ายตรงข้ามมีคนจำนวนมาก แม้ว่าฝีมือของต้าหู่จะทรงพลังมาก และทหารเกราะดำก็ไม่ได้อ่อนแอเลย แต่ฝ่ายตรงข้ามมีคนมากกว่าหนึ่งพันคน จำนวนที่แตกต่างกันมากนี้ เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาหวาดกลัว!ต้าหู่พาคนไปปกป้องหวงเจียวเจียวและหวังหยวน เพราะเกรงว่าคนเหล่านี้จะมีโอกาสแอบโจมตีอย่างฉับพลันหวังหยวนรู้ดีว่าหากไม่สามารถหลบหนีได้ในครั้งนี้ พวกเขาทั้งหมดจะต้องตายที่นี่เขาจึงแอบพกอาวุธอย่างระเบิดมือไว้ในกระเป๋า พร้อมจะขว้างในช่วงเวลาวิกฤติ!หัวหน้าโจรย่อมไม่รู้ว่าหวังหยวนแข็งแกร่งแค่ไหน สีหน้าของเขาบ่งบอกว่ากำลังทะนงตัวยิ่ง เขามองหวังหยวนที่อยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดเสียงเย็นชา “หวังหยวน ขอโทษด้วย”“หากจะโทษใครสักคน ก็ต้องโทษตัวเองที่มีตาหามีแววไม่ ไปยุ่งกับคนที่ไม่ควรทำให้ขุ่นเคืองเสียได้ ช่างโง่เขลาเบาปัญญานัก”“ไป พวกเจ้าไปฆ่าพวกมันให้ข้า ขยับมือเท้าให้คล่องแคล่วกันหน่อย ทำให้พวกเขาตายให้เร็วที่สุด อย่าปล่อยให้พวกเขาต้องรู้สึกเจ็บปวด” “ทราบ”คนกลุ่มหนึ่งก้าวมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว วิ่งตรงมายังตำแหน่งของหวังหยวน“ยอมตายซะเถอะ อย่าได้กังวล ข้าจะไม่ปล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1052

    เซิ่งตงฉยงยกยิ้มเย็นชา ในสถานการณ์รุมสังหารเช่นนี้ ไม่มีทางรอดไปได้อย่างแน่นอนเขาแตะคางตัวเองครุ่นคิดด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “หวังหยวนเป็นคนที่มีความสามารถยอดเยี่ยม หากอยากจะฆ่าเขา การใช้วิธีธรรมดานั้นไม่ง่ายเลย”“ดังนั้นเราจึงต้องหาทางล่อให้เขาออกจากหมู่บ้านต้าหวังก่อน หลังจากที่เขาออกมา จะได้ฆ่าเขาได้ง่ายขึ้น”“คุณชายใหญ่เซิ่งยังคงมีไหวพริบดีมากเสมอเลยนะขอรับ”รองขุนพลกล่าวชื่นชมเขาทันที “ล่อหวังหยวนออกมา แล้วส่งคนเกือบพันคนไปฆ่าเขา ต่อให้หวังหยวนจะมีปีกบินได้ ก็ไม่อาจหนีพ้น!”เซิ่งตงฉยงยกยิ้ม มองไปในระยะไกลด้วยดวงตาที่ราวกับจะลุกเป็นไฟ แล้วพูดเสียงดัง “ถูกต้อง!”“หวังหยวนภาคภูมิใจในความเฉลียวฉลาด ที่ไม่มีใครเทียบได้ของตนเองงั้นหรือ หากเป็นเช่นนั้น ข้าอยากเห็นนักว่าเขาจะสามารถฝ่าวงล้อม หาทางรอดชีวิตจากเงื้อมมือของคนเกือบพันคนได้อย่างไร?”“คุณชายใหญ่ ทุกคนที่ท่านมอบหมายไปล้วนเป็นระดับปรมาจารย์กันทั้งนั้น ตราบใดที่พวกเขาได้พบกับหวังหยวน หวังหยวนจะต้องตายแน่นอนขอรับ!”ทั้งสองมองหน้ากันแล้วยกยิ้ม ใบหน้าของเซิ่งตงฉยงเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง!“ฮ่าฮ่า หวังหยวนคนนั้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1053

    “สิ่งนั้นคล้ายกับประทัด แต่... พลังโจมตีของมันน่าทึ่งมาก ในบรรดาพี่น้องของเราที่ถูกโจมตี คนที่เลวร้ายที่สุดคือแขนขาขาดจากแรงระเบิด บางคนก็ร่างแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย…”เมื่อทหารเล่าถึงตรงนี้ เขารู้สึกเหมือนตัวเองได้เห็นนรกความรู้สึกนั้นทำให้เขาหวาดกลัวแทบสิ้นสติ!จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หวังหยวนขว้างอะไรมากันแน่ และเหตุใดพวกเขาถึงถูกระเบิดเช่นนี้!เซิ่งตงฉยงตกใจมากเมื่อได้ฟังเช่นนี้!คนหลายร้อยคนเสียชีวิตพร้อมกันทันที แม้แต่การใช้หน้าไม้ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพถึงเพียงนี้!สิ่งนั้นมันคืออะไร?เขานึกถึงข้อมูลที่หวังหยวนมีปืนคาบศิลา ซึ่งมีขนาดเล็ก สร้างขึ้นอย่างประณีตและมีพลังทำลายล้างสูง เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาสร้างอาวุธที่ทรงพลังกว่าสิ่งนี้ได้แล้ว?เซิ่งตงฉยงไม่อยากจะเชื่อเลย หวังหยวนเป็นอัจฉริยะจริง ๆ!“หวังหยวนเอ๋ยหวังหยวน เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจได้จริง ๆ แต่คนของข้ากำลังควบคุมทั้งสองเมืองนี้ ดังนั้นต่อให้เจ้ามีปีกบินหนี ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้หรอก!”“ส่วนพวกโจรของเจ้าค่อนข้างมีความสามารถ แต่ข้ารู้ข้อมูลหมดแล้ว คนของข้ามีอยู่รอบกายเจ้า หากเจ้ากล้าปรากฏ

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1054

    เมื่อเสียงประหลาดใจของต้าหู่ดังขึ้น หวังหยวนก็ยกยิ้ม“แม้ว่าจะไม่แน่ใจนัก แต่ก็อาจป้องกันไม่ให้เซิ่งตงฉยงจัดการกับเราได้”หลังจากที่หวังหยวนพูดจบ ต้าหู่ก็หัวเราะทันที“พี่หยวน บอกข้ามาเถอะว่าเราควรทำอย่างไร?”หวังหยวนหรี่ตาพูด “กลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคน!”เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนก็งุนงงเพราะไม่เข้าใจความหมายกลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคนที่ว่านี้เป็นอย่างไร?มันหมายความว่าอะไร?หวังหยวนไม่ได้ตอบ เพียงแค่ยกยิ้มมีเลศนัยขณะที่เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นที่นี่ ลึกเข้าไปในวังหลวง ไป๋เจิ้นถังเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มหลังจากที่เขาจากไปแล้ว ดวงตาของไป๋เหยียนเฟยก็ฉายแววรู้สึกผิดตอนนี้ไป๋หลิงเข้ามาพูดอย่างระมัดระวัง “ฮองเฮา พระองค์... ตอบตกลงแล้วจริงหรือเพคะ? ในกรณีนี้... ไท่จื่อจะควบคุมแผ่นดินได้อย่างไรเพคะ?”นางฟังบทสนทนาอยู่ตลอด จึงรับรู้เงื่อนไขระหว่างพวกเขา พูดตามตรง...มันน่าตกใจมาก!นางคิดว่าฮองเฮาจะไม่มีทางยอมตกลงแต่ไม่คิดเลยว่าฮองเฮาจะยอมตกลงไปแล้ว!“หลิงเอ๋อร์ ตระกูลไป๋ไม่ได้ขออะไรมาก ไม่มีอะไรมากไปกว่าการยอมจำนน เมื่อแผ่นดินสงบลง ลูกชายของข้าจะได้ครองราชย์เป็นฮ่องเต้และมีชีวิตที่มั่ง

Latest chapter

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1862

    “ต่อให้คนธรรมดาทำงานหนักทั้งชีวิตก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ของเหมือนที่อยู่ในห้องข้าได้!”แม่นางหรูเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาและแฝงไปด้วยความรำคาญทว่าตั้งแต่เข้ามาในห้อง หวังหยวนก็จ้องมองแม่นางหรูเยียนตลอดเวลา พิจารณาแม้แต่ท่าทางการพูดของนางแม้ว่าแม่นางหรูเยียนจะแสร้งทำเป็นหยิ่งผยองและทำท่าทางเย็นชา แต่หวังหยวนรู้สึกได้ว่านางไม่ใช่คนเช่นนี้แน่นอน นางกำลังจงใจเล่นละครเพื่อปกปิดอะไรบางอย่าง!แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้หวังหยวนยังไม่สามารถค้นพบความลับของนางได้โชคดีที่เขายังมีเวลาอีกมากพอที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ค่อย ๆ ขุดคุ้ยความลับเบื้องหลังของแม่นางหรูเยียน!เวลาผ่านไปทีละวินาทีแม่นางหรูเยียนก็แอบมองหวังหยวนเป็นระยะ นางคาดเดาความคิดของชายผู้นี้อยู่ในใจพลางครุ่นคิด“เขาคงไม่เฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรอกใช่หรือไม่?”“เขาต้องการอะไรกันแน่?”“ข้ากับเขาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เหตุใดข้าถึงจำไม่ได้เลยว่าเคยพบเขามาก่อน?”ส่วนหวังหยวนก็นั่งจิบชาเงียบ ๆ ด้วยท่าทางสบายใจทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างเร่งรีบ ตามมาด้วยเสียงสนทนาของชายหญิงดังเข้ามาในห้อง“คุณชายเฉิน! ท่านเข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ!”

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1861

    “ว่ามาสิว่าเจ้าเป็นใครกันแน่?” สตรีผู้นี้มีวิทยายุทธไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ นางจะซ่อนเร้นให้รอดพ้นสายตาของหวังหยวนไปได้อย่างไร?ที่นี่คือเมืองอู่เจียง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของเขา ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นนี้ปรากฏตัวได้! แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสตรี หวังหยวนก็จำต้องระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาด!แม่นางหรูเยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นดึงปิ่นปักผมของตนเองออกมาอย่างรวดเร็ว แล้วจ่อไปที่ลำคอของตนเอง ทำท่าทางเหมือนพร้อมจะสละชีพ!“ได้!”“ถือว่าข้าโชคร้ายเองที่ได้พบเจ้า!”“หากเจ้ายังคงบีบบังคับข้าต่อไป ข้าจะตายตรงหน้าเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”หลังจากพูดจบ แม่นางหรูเยียนก็พร้อมที่จะใช้ปิ่นปักผมแทงเข้าที่คอของตนเอง!โชคดีที่หวังหยวนตาไว คว้าปิ่นปักผมออกจากมือของนางได้ทัน แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อย่ามาเล่นละครตบตากับข้า!”แม้จะพูดเช่นนั้น แต่ในใจก็ยังหวาดกลัวอยู่บ้าง!สตรีผู้นี้ช่างบ้าคลั่งนัก กล้าลงมือกับตนเองเช่นนี้!ช่างโหดเหี้ยมนัก แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เว้น!“เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?” ใบหน้าของแม่นางหรูเยียนบึ้งตึง วิทยายุทธของหวังหยวนนั้นสูงส่งแล

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1860

    ก่อนที่แม่นางหรูเยียนจะทันได้ตั้งตัว มือของหวังหยวนก็สัมผัสผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว!เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงผ้าคลุมหน้าออก!แต่ที่หวังหยวนไม่คาดคิดก็คือแม่นางหรูเยียนมีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วมาก เห็นได้ชัดว่านางมีวรยุทธ!นางรีบยกมือขึ้นมาสกัดกั้นมือของหวังหยวน แล้วถอยหลังอย่างรวดเร็วไปยังเตียงนอนนางคว้ามีดสั้นออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาหวังหยวนด้วยท่าทางน่าเกรงขาม!“มีวรยุทธด้วยหรือ?”หวังหยวนหรี่ตาแล้วยกยิ้ม เรื่องราวยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆไม่น่าแปลกใจเลยที่แม่นางหรูเยียนช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ นางมีความลึกลับซ่อนอยู่มากมาย!เพียงชั่วพริบตาเดียว หวังหยวนก็เข้าต่อสู้กับแม่นางหรูเยียน!แม้ว่าหวังหยวนจะระวัง แต่กระบวนท่าโจมตีอันทรงพลังของแม่นางหรูเยียนนั้นรุนแรงมาก เห็นได้ชัดว่านางต้องการสังหารหวังหยวนให้ได้!โชคดีที่หวังหยวนหลบหลีกได้ทัน สามารถเลี่ยงการโจมตีของนางได้ครั้งแล้วครั้งเล่า!“เจ้าเป็นสตรี เหตุใดถึงได้โหดร้ายเช่นนี้?”หวังหยวนส่ายหน้าขณะพูดแม่นางหรูเยียนขมวดคิ้ว “นั่นก็เพราะท่านชั่วร้ายเกินไปไม่ใช่หรือ?”“ท่านรู้เรื่องที่ควรจะรู้แล้ว แต่ท่านยังคงหยาบคาย เห็นได้ชัด

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1859

    “ข้าได้กล่าวไปแล้วว่าข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงแต่ต้องการสนทนากับเจ้าเท่านั้น” ริมฝีปากของหวังหยวนเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ราวกับว่าได้กลับมาถึงบ้านของตนเองต่อจากนั้น หวังหยวนก็นั่งลงรินน้ำชาให้ตนเอง แล้วโบกมือให้อีกฝ่ายนั่งลง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “หากเจ้าคิดจะเรียกคนมาช่วย ข้ารับรองว่าได้ว่าก่อนที่พวกเขาจะมาถึง ข้าสามารถทำให้เจ้าเสียโฉมได้แน่นอน”“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้”หวังหยวนยังคงพูดด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าฝาถ้วยชามาอยู่ในมือของเขาตั้งแต่เมื่อใด เป็นการเตือนแม่นางหรูเยียนอย่างชัดเจนแม่นางหรูเยียนสีหน้าซีดเผือด นี่เป็นครั้งแรกที่นางถูกข่มขู่ ในหอชิงสุ่ยนี้ ชายแทบทุกคนต่างปรารถนาจะได้ใกล้ชิดนาง แต่ก็ไม่มีใครได้โอกาสและไม่มีใครกล้าล่วงเกินนางแม้แต่ข่มขู่นางก็ไม่เคยมีมาก่อนหวังหยวนเป็นคนแรกที่ทำเช่นนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แม่นางหรูเยียนจึงขมวดคิ้วพูดว่า “ท่านต้องการอะไร?”ขณะที่พูด แม่นางหรูเยียนก็รักษาระยะห่างจากหวังหยวน ไม่ได้เข้าใกล้เขาแม้แต่น้อยแต่สามารถเห็นได้ชัดจากแววตาของนางว่านางก็หวาดกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะหวังหยวนเป็นคนแรกที่เข้ามาในห้องนี้!แต่ที่ไม่คาดคิดก

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1858

    เกาเล่อไม่ได้สนใจ เพียงแค่ดื่มสุราต่อไปในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายหลอกล่อลูกค้าเท่านั้นเพียงแค่เสนอราคาให้เหมาะสม เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าหญิงสาวที่นี่จะรักนวลสงวนตัว!มันเป็นเพียงเรื่องน่าขัน!ทันใดนั้นชายหลายคนจากโต๊ะข้าง ๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมา“เจ้าคิดว่ามีเงินแล้วจะยิ่งใหญ่นักหรือ?”“ที่อื่นอาจจะได้ แต่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนอยากดื่มสุราร่วมกับแม่นางหรูเยียนกี่คน?”“มากมายจนถ้าต่อแถวแล้ว แถวคงยาวออกไปนอกเมือง!”“ในบรรดาคนเหล่านั้นมีคุณชายจากตระกูลชั้นสูง แต่แม่นางหรูเยียนก็ไม่ได้สนใจพวกเขา”“ส่วนเจ้าก็คงไม่ต่างกัน!”ทุกคนต่างหัวเราะกันครื้นเครงหวังหยวนไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขา หลังจากเก็บทองบนโต๊ะกลับคืนมาแล้ว เขาก็โบกมือให้เสี่ยวเอ้อออกไปเสี่ยวเอ้อสบถ เดิมทีคิดว่าหวังหยวนจะให้เงินทอง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลย…ช่างน่าโมโหนักหวังหยวนมองไปที่เกาเล่อ แล้วกระซิบว่า “เจ้าส่งคนไปสืบเรื่องราวของแม่นางหรูเยียนที ข้าค่อนข้างสนใจนาง”“ท่านผู้นำ ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่ขอรับ?”“ท่านเชื่อคำพูดไร้สาระของพวกเขาหรือ?”“ข้าสงสัยว่านางคนนั้น

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1857

    หวังหยวนประหลาดใจ ที่นี่มีกฎเกณฑ์ด้วยงั้นหรือ? ขณะที่เกาเล่อกำลังจะแสดงความไม่พอใจ แต่หวังหยวนรีบส่งสัญญาณให้เขาด้วยสายตา เกาเล่อจึงไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ยังคงยืนแข็งทื่อราวกับรูปปั้นอยู่ด้านหลังของหวังหยวน แต่ดวงตาของเกาเล่อแสดงถึงความไม่สบอารมณ์“เหตุใด?”“หรือว่าเจ้าจะคิดทำร้ายคน?”หญิงสาวที่เพิ่งสนทนากับหวังหยวนเบ้ปากใส่เกาเล่อ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “หากไม่ได้มาเพื่อความสนุกสนานก็จงรีบออกไปจากที่นี่เสีย!”“อย่ามาขวางทาง อย่าทำให้พวกข้าเสียเวลา!”“พวกข้ายังต้องทำมาหากิน!”หญิงคนนั้นก็ชนไหล่ของหวังหยวนแล้วเดินผ่านไปที่หน้าประตู หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็ทำเช่นเดียวกัน“พวกนางช่างไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!”“หากพวกนางรู้ถึงตัวตนของท่าน คงต้องคุกเข่าขอความเมตตาจากท่าน”เกาเล่อบ่นพึมพำ“เช่นนั้นอย่าให้พวกนางรู้ถึงตัวตนของข้าดีกว่า”“ข้าไม่อยากมีเรื่องกับพวกนาง”หวังหยวนกล่าวติดตลกแล้วเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับเกาเล่อ เลือกที่นั่งแล้วมองไปยังเวทีกลางพลางพิจารณาหอชิงสุ่ยอย่างละเอียดต้องยอมรับว่าที่นี่ตกแต่งได้อย่างหรูหราอลังการอาคารหลังนี้มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นล่าง

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1856

    แต่เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ในวันเดียวหากต้องการให้เมืองอู่เจียงกลายเป็นเมืองสำคัญทางคมนาคมคงต้องใช้เวลาอีกสองสามปีจึงจะสมบูรณ์หวังหยวนเองก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เขาพยายามค้นหาคนที่เหมาะจะเป็นผู้ว่าราชการคนใหม่ในเมืองอู่เจียง แต่ก็ยังหาไม่พบณ หอชิงสุ่ยเมื่อค่ำคืนนี้มาเยือน หวังหยวนกำลังไปเดินเล่นชมเมืองและบังเอิญมาถึงหอชิงสุ่ยที่นั่นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและผู้คนพลุกพล่าน“ที่นี่คือที่ใด?” หวังหยวนถามเกาเล่อผู้ติดตามอยู่ข้างกาย“ที่นี่คือสถานที่แห่งความสุขทางโลกขอรับ”“ท่านผู้นำสนใจจะเข้าไปดูหรือไม่ขอรับ?”เกาเล่อตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้...”“อีกอย่างซื่อหานก็รอข้าอยู่ที่บ้าน หากข้ามมัวเมาสุราอยู่ที่นี่ แล้วพวกผู้หญิงในบ้านรู้เข้าคงต้องมีเรื่องวุ่นวายเป็นแน่”หวังหยวนส่ายหน้า หลี่ซื่อหานนั้นยังเข้าใจได้และจะไม่พูดอะไรมาก แต่สำหรับหวงเจียวเจียว...นั่นคือคนที่ยากจะรับมือเกาเล่อหัวเราะ แล้วกล่าวต่อ “ท่านผู้นำอาจเข้าใจผิด ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ธรรมดาอย่างที่ท่านคิดหรอกนะขอรับ”“ข้าเคยสืบเรื่องที่นี่มาแล้ว”“เท่าที่ข้าทราบ เจ้าของที่นี่มีเบื้

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1855

    ในไม่ช้าหวังหยวนพร้อมคณะก็กลับมายังที่ว่าการเมืองอู่เจียงฉุนอวี๋อันเฝ้ารอมาพักใหญ่แล้ว“ท่านผู้นำ ข้าสั่งให้เหล่าแรงงานเตรียมพร้อมแล้ว พวกเขาพร้อมจะเริ่มงานได้ทุกเมื่อขอรับ!”“ข้าได้แจกจ่ายแบบแปลนให้แก่พวกเขาแล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง...”ฉุนอวี๋อันพูดเพียงเท่านี้ก็เงียบไป สีหน้าบ่งบอกถึงความลำบากใจ“ต้องการเงินเท่าใด?”หวังหยวนทราบความคิดของเขาในทันทีจึงเอ่ยถามออกไป“ท่านผู้นำฉลาดหลักแหลมยิ่งนักขอรับ!”“ใช่แล้วขอรับ เพียงแค่ต้องการเงินจำนวนหนึ่ง!”“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองอู่เจียงไม่ได้มีเงินทองมากมาย จึงไม่เพียงพอที่จะใช้ในการก่อสร้างครั้งนี้”“ข้าจึงจำต้องมาแจ้งเรื่องนี้กับท่านผู้นำขอรับ...”ฉุนอวี๋อันรีบกล่าว“เจ้าไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว ต้องการเงินเท่าใดก็บอกมาเถิด เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้”หวังหยวนไม่ได้ขาดแคลนเงินทองนั่นคือเรื่องเดียวที่เขาได้เปรียบในบรรดาอาณาจักรทั้งสี่ฉุนอวี๋อันรีบนำบัญชีรายรับรายจ่ายที่รวบรวมไว้มาให้หวังหยวน “ข้าได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้แล้ว ท่านผู้นำโปรดพิจารณา หากไม่มีปัญหาอะไรก็โปรดอนุมัติตามจำนวนนี้ด้วยขอรับ”หวังหยวนรับม

  • บัณฑิตยอดนักคิดแห่งต้าเย่   บทที่ 1854

    ถ้อยคำของตงฟางฮั่นมีความหมายแฝงอยู่ แต่หวังหยวนก็เข้าใจในทันที“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านหมายถึงพรรคทมิฬใช่หรือไม่?”ตงฟางฮั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ แล้วพยักหน้า“ดูเหมือนว่าท่านจะไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนที่ข้าคิด สามารถสังเกตเห็นพรรคทมิฬได้เร็วถึงเพียงนี้!”เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ สีหน้าของเกาเล่อก็เปลี่ยนไปเช่นกันหลังจากจับกุมสาวกของพรรคทมิฬได้หลายคน เกาเล่อและหวังหยวนก็รู้เรื่องของพรรคทมิฬมากขึ้น และในช่วงนี้เกาเล่อก็ได้ส่งคนจำนวนมากไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพรรคทมิฬแต่ก็ยังไม่มีประโยชน์มากนักแสดงให้เห็นว่าคนของพรรคทมิฬนั้นเหมือนพวกหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด!การขุดคุ้ยเรื่องคนเหล่านี้ต้องใช้เวลา!“แล้วเหตุใดคนของพรรคทมิฬถึงได้ทำร้ายท่านเล่า?” “หรือว่าพวกท่านเคยมีเรื่องขัดแย้งกัน?”หวังหยวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สายตาจ้องมองไปที่ตงฟางฮั่นอีกครั้งตงฟางฮั่นส่ายหน้าแล้วยิ้มเยาะ “ข้าจะไปเข้าร่วมกับคนพวกนั้นได้อย่างไร?” “ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินชื่อของข้ามาจากไหน จึงได้มาติดต่อข้า หวังว่าข้าจะเข้าร่วมพรรคทมิฬ!” “แต่ข้าได้ปฏิเสธพวกเขามาหลายครั้งแล้ว” “แต่พวกเขาก็ยังคงตามติดไม่เลิก ก่อนหน้านี้พวกเขาย

DMCA.com Protection Status