ทั้งสองเดินออกไปพร้อมกับผู้โดยสารที่เหลืออยู่ในเครื่องในไม่ช้า หลินตงเย่ก็ได้รับโทรศัพท์จากหลินซี เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ฮัลโหล?""พี่ใหญ่ ฉันเห็นสายการบินของพี่มาถึงแล้วนะคะ ฉันรอพี่อยู่ข้างนอกนะ เดี๋ยวเราไปกินข้าวด้วยกันสักหน่อย ฉันจองร้านอาหารเอาไว้แล้วนะคะ"เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของหลินตงเย่ก็เปลี่ยนไปทันที แผนการเดินทางของเขาเป็นความลับอย่างชัดเจน หลินซีรู้ได้อย่างไรว่าเขานั่งเที่ยวบินนี้มาวินาทีต่อมา หลินตงเย่ก็พูดว่า "ฉันนั่งรถออกมาแล้ว ไม่ได้เดินออกจากตรงนั้นหรอกนะ""งั้นฉันรอพี่อยู่ในรถดีกว่านะคะ""ไม่ต้องหรอก ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ เธอกลับไปก่อนเถอะ"ท้ายที่สุดแล้วซีซีก็ยังรออยู่ข้างนอก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถออกไปพบหลินซีได้"พี่ใหญ่ ไหนๆฉันก็มาแล้ว พี่ไม่ต้องเกรงใจฉันขนาดนั้นหรอกนะ เดี๋ยวฉันจะไปรอพี่ที่ลานจอดรถนะคะ"พอพูดจบหลินซีก็วางสายไปทันที เธอจะไม่เปิดโอกาสให้พี่ใหญ่ปฏิเสธได้อย่างแน่นอน เพราะกว่าที่เธอจะสอบถามข่าวว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้มาได้มันไม่ง่ายเลย เธอจะต้องแสดงให้พวกเขาเห็นถึงจะถูกนะเพราะท้ายที่สุดแล้ว การที่พี่ใหญ่ยอมมาร่วมงานหมั้นของตัวเอง มั
หลินเป่ยมองไปรอบๆ รับสายโทรศัพท์แล้วพูดว่า "มีอะไร?""พี่สามคะ วันนี้พี่ใหญ่และพี่สะใภ้บินมาแล้วนะคะ พี่รู้หรือเปล่าคะ?""จริงเหรอ ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้เลยล่ะ?"หลินเป่ยเดาว่าหลินซีคงต้องการสอบถามข่าว แต่เขาไม่ได้พูดแต่อย่างใดเมื่อครู่ที่ผ่านมาพี่สะใภ้ยังได้บอกเรื่องที่หลินซีแอบไปโจมตีที่สนามบิน และเกือบจะเผชิญหน้ากับจ้าวซีซีแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะบอกหลินซีแต่อย่างใดหลินซีกําลังอยู่ในโรงจอดรถของสนามบินในขณะนี้ รอมานานขนาดนี้ก็ไม่ได้เห็นพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ออกมา สีหน้าของเธอค่อนข้างจะสงสัยแล้ว "พี่สาม พี่ไม่รู้จริงๆเหรอคะ?""ฉันยุ่งมาตลอด จะรู้ได้ยังไง?""พี่ใหญ่พี่สะใภ้มาจริงๆ ฉันมาสนามบินช้าไปนิด มารับพวกเขาไม่ทัน พี่โทรไปถามพวกเขาหน่อยนะว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน เราจะได้กินข้าวด้วยกันสักหน่อย ยังไงพวกเขาก็มางานเลี้ยงหมั้นของฉัน หากไม่ทำอะไรสักหน่อย มันก็คงไม่ดีสักเท่าไหร่"หลินเป่ยตอบอย่างคลุมเครือว่า "รอให้ฉันเสร็จงานแล้วค่อยว่ากันใหม่นะ"แน่นอนว่า การที่จะถามมันคงเป็นไปไม่ได้ลึกๆแล้วหลินซีไม่พอใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านี่เป็นข้ออ้าง เธอจึงถามต่อไปว่า "พี่สามคะ พี่รู้ไหมว่า
เธอไม่ได้ใช้เงินอย่างมือเติบและไม่มีแผนการอะไรอย่างฮั่วซานซานหรอกนะหากเธอเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลินจริงๆ เธอก็ไม่ต้องทํางานหนักขนาดนี้ และก็คงใช้ชีวิตอย่างไร้ความกังวลเหมือนเช่นฮั่วซานซานอยู่เหมือนกัน——ทางนี้ จ้าวซีซีได้กลับถึงบ้านพร้อมกับพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ โดยที่ป้าใหญ่ได้ยุ่งอยู่ในครัวเป็นเวลานานแล้วพี่สะใภ้ฉินอันจิ้งมองไปที่ห้องครัว แล้วพูดว่า "หอมจัง ป้าใหญ่ทําอะไรอร่อยๆหรือคะเนี่ย?""ป้าใหญ่ตั้งใจจะทำอาหารพื้นเมืองของเมืองเป่ยเฉิงน่ะค่ะ ครั้งที่แล้วพี่สะใภ้ชอบทานไม่ใช่หรือคะ? ป้าใหญ่ไปซื้อวัตถุดิบสดใหม่มาจากตลอดเช้าเลยนะคะ""ดีจังเลยค่ะ งั้นพี่จะไปช่วยในครัวก่อนนะ"หลังจากพี่สะใภ้ฉินอันจิ้งวางของขวัญลงแล้ว เธอก็พุ่งเข้าไปในห้องครัวทันทีจ้าวซีซีกับพี่ใหญ่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น เธอวางผลไม้ลง แล้วพูดว่า "พี่ใหญ่คะ นั่งเครื่องมานานขนาดนี้คงลำบากมาเลยนะคะ กินผลไม้เสริมวิตามินหน่อยนะ"จริงๆ แล้วหลินตงเย่ปกติไม่ค่อยชอบกินผลไม้เหล่านี้ เพราะมันหวานเกินไป ปกติเขาจะกินวิตามินเม็ดเพื่อเสริมวิตามินเสียมากกว่าแต่เมื่อมองหน้าน้องสาวแล้ว หลินตงเย่ก็กินผลไม้ไปหลายคํา "ซีซี
เมื่อจ้าวซีซีเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างนอก เธอก็อยากจะปิดประตูทันทีเมื่อครู่นี้เธอคิดว่าเป็นพี่สามที่กลับมาและไม่ได้พกกุญแจมา ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มองตาแมวว่าใครอยู่ด้านนอก และตอนนี้เธอก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาเสียแล้ว"จ้าวซีซี นังเด็กบ้าจะปิดประตูทำไม?"แม่บุญธรรมผลักเปิดประตู และก็เบียดใบหน้าหนาๆเข้ามา "จ้าวซีซี กว่าพวกเราสองคนจะหาพวกเธอพบ อยู่ชุมชนที่สะอาดและหรูขนาดนี้ ยังจะพูดว่าไม่มีเงินอีก เธอโกหกใครน่ะ?"พ่อบุญธรรมทําหน้าเรียบเฉย "จ้าวซีซี บ้านและเงินจากการเวนคืน พวกเธออย่าคิดไปเลยนะ ทั้งหมดต้องเก็บเอาไว้ให้กับลูกชายของฉัน และก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเพียงคนเดียวของตระกูลจ้าวเรา ฉันจะมาบอกให้พวกเธอรับรู้เอาไว้น่ะ"จ้าวซีซีตอบด้วยสีหน้าเย็นชาว่า "บ้านหลังนั้นเป็นของป้าใหญ่ พวกคุณไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะเอาไปได้""ป้าใหญ่ของเธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง จะเอาบ้านและเงินไปทำไมกัน พี่ใหญ่ของฉันยังนอนพะงาบๆอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลยนะ หากพวกเธอเอาบ้านและเงินไป ต่อไปหากแต่งงานใหม่และเอาไปให้ผู้ชายคนอื่นจะทำอย่างไร? ดังนั้นในฐานะที่ฉันเป็นน้องชาย ควรที่จะออกหน้ารักษาเงินจำนวนนี้เอาไว้ เพื่อไม่ให้พี่ใหญ่ข
เพราะยังไงเสียพ่อแม่บุญธรรมคู่นี้ก็เป็นคนที่เลี้ยงดูน้องสาวของตัวเองมา แม้ว่าตอนหลังๆพวกเขาจะทำไม่ดีต่อน้องสาว และก็เป็นพี่สะใภ้ของพ่อแม่บุญธรรมคู่นี้ ซึ่งก็คือป้าใหญ่คนนี้เป็นคนรับเลี้ยงจ้าวซีซีต่อมานั่นเองหากพูดจริงๆแล้ว หลินตงเย่ก็ยังยอมรับพระคุณที่ตระกูลจ้าวได้เลี้ยงดูน้องสาวของเขามาแต่คิดไม่ถึงเลยว่า พ่อแม่บุญธรรมคู่นี้จะโลภมาก และคิดที่จะมาข่มขู่น้องสาวจนถึงที่บ้านแบบนี้ เขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปจ้าวซีซีปิดประตูและกลับไปนั่งบนโซฟา แล้วพูดว่า "นับตั้งแต่ชุมชนแจ้งว่าจะมีการเวนคืน ฉันก็รู้ว่าจะต้องมีวันนี้อย่างแน่นอน ซึ่งพ่อแม่บุญธรรมก็คงจะมาแย่งบ้านหลังนั้นถึงหน้าประตูแน่ๆ"เมื่อผลประโยชน์อยู่ตรงหน้า แม้แต่ญาติก็ยังทะเลาะกัน นับประสาอะไรกับพ่อแม่บุญธรรมที่เป็นคนแบบนี้อยู่แล้วหลินตงเย่พูดอย่างเด็ดขาดว่า "ซีซี น้องไม่ต้องกังวลนะ เรื่องนี้พี่จะจัดการให้เอง"การจัดการกับคนแบบนี้ ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยในเวลานี้ ป้าใหญ่ก็เดินออกมาจากห้องครัวด้วยสีหน้ากังวล พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ซีซี ในเมื่อพวกเขามาแล้ว ต่อไปก็คงจะมีครั้งที่สองอย่างแน่นอน ป้าอึดอัดใจมากเลยนะ พวกนั้นรู้ไ
หลังจากที่จ้าวซีซีนำอาหารมาวางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อเกลี้ยกล่อมป้าใหญ่ที่ตาแดงระเรื่อให้ออกมาป้าใหญ่รู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย "ดูสิฉันอายุปูนนี้แล้ว เจอเรื่องแบบนี้ก็ทำอะไรไม่ถูก ก่อนหน้านี้ลุงใหญ่ของเธอเป็นคนซื่อๆ ดีที่ซีซีมีนิสัยกล้าแกร่งมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่งั้นพวกเราก็คงจะถูกรังแกอย่างแน่นอน"หลินตงเย่สามารถดูออก และก็รู้สึกผิดต่อซีซีมากยิ่งขึ้นถ้าน้องสาวไม่ได้พลัดพรากไปในตอนนั้น ซีซีคงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้อย่างแน่นอนวันนี้เมื่อเห็นพ่อแม่บุญธรรมมาอาละวาดและข่มขู่แบบนั้นแล้ว ก็สามารถจินตนาการได้ว่าเมื่อก่อนอีกฝ่ายจะหยิ่งผยองและเผด็จการแค่ไหนหลินตงเย่จึงแน่วแน่มากขึ้นว่า ครั้งนี้เขาต้องแก้ไขความสัมพันธ์กับหลินซี แล้วปูทางให้ซีซีกลับบ้านให้ได้หลังมื้ออาหาร จ้าวซีซีก็ได้ปรึกษากับพี่สะใภ้เกี่ยวกับการเวนคืนและคิดมาตรการรับมือบางอย่างด้วยจริงๆ แล้วหลินตงเย่รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่จําเป็นต้องอภิปรายแต่อย่างใด เขาแค่ส่งคนไปโดยตรงก็แก้ไขแล้วแต่ทว่าฉินอันจิ้งกลับแอบเหยียบเท้าสามีตัวเองไปหลายครั้ง ต้องใจเย็นและนิ่งเฉย อย่าให้ซีซีมองเห็นความปกติอะไรได้ ป
"ซีซี แต่โครงการของชุมชน XX ที่เธอรับผิดชอบก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายระบุชื่อให้เธอมารับช่วงต่อนะ เขาค่อนข้างจะชื่นชมสไตล์การออกแบบของเธอมากเลยล่ะ""งั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปสักครั้งนะคะ"เมื่อวางสายโทรศัพท์ จ้าวซีซีก็ไปที่สตูดิโอทันที เธอสวมหมวกและหน้ากากแมส เพราะกลัวว่าจะถูกค้นพบอีกครั้งเมื่อฉินเฟิงเห็นการแต่งตัวของเธอ ก็พูดขึ้นมาว่า "เป็นโจรหรือไง?""ก็ฉันกังวลว่าจะถูกจับได้และสร้างปัญหาให้กับทุกคนในสตูดิโออีกน่ะค่ะ ส่งข้อมูลรายการนั้นไปที่คอมพิวเตอร์โดยตรงได้เลยนะคะ ฉันจะดูว่ามีปัญหาอะไรอีกหรือเปล่า"ทางด้านจ้าวซีซีเพิ่งจะนั่งไปที่ตำแหน่งของตัวเองได้ไม่นาน ข้างนอกก็มีคนวิ่งเข้ามาด้วยความโกรธ แววตาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้ออย่างไงอย่างงั้น"จ้าวซีซี!"เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อของตัวเอง จ้าวซีซีก็เงยหน้าขึ้นและก็เห็นคนคนนั้นที่คาดไม่ถึง ซึ่งก็เป็นจางเหวินเหวินนั่นเอง?ไม่ได้พบกันแค่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่จางเหวินเหวินซีดเซียวและแก่ไปไม่น้อยเลย การแต่งตัวของเธอแย่มาก เหมือนกับว่าไม่ได้อาบน้ำมาหลายวันแล้วอย่างไงอย่างงั้นจ้าวซีซีหยุดงานในมือ "มีอะไรหรือเปล่า?"ฉินเฟิงเดินออกจากห
ในวินาทีที่จ้าวซีซีเห็นว่าจางเหวินเหวินจะเข้ามากระแทกท้องของตัวเอง เธอก็แทบจะหยุดหายใจไปในทันทีเธอแทบจะปกป้องท้องของตัวเองโดยสัญชาตญาณ และคิดที่จะปกป้องลูกของตัวเองอย่างเต็มที่โดยทันทีทันใด ฉินเฟิงเข้ามาคว้าจางเหวินเหวินเอาไว้ และผลักเธอไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว "คุณบ้าไปแล้วใช่ไหม?"จางเหวินเหวินยิ้มอย่างโหดเหี้ยม และจ้องไปที่ท้องของจ้าวซีซี "ฉันรู้ความลับของคุณแล้ว ความลับของจ้าวซีซีถูกค้นพบแล้ว"เธอเคยสงสัยว่าจ้าวซีซีท้องเมื่อกี้เธอยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เต็มใจ ตอนนี้เธอไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย แต่จ้าวซีซียังคงเป็นดีไซเนอร์ที่สูงส่ง และก็มีฉินเฟิงคอยปกป้องอีกต่างหาก จู่ๆเธอก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา และคิดที่จะวิ่งชนท้องของจ้าวซีซี เพื่ออยากจะเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของจ้าวซีซีออกมาแต่น่าเสียดายเหลือเกิน ที่ฉินเฟิงเข้ามาขวางเอาไว้ก่อนใบหน้าของจ้าวซีซีขาวซีดเล็กน้อย และก็มองไปที่จางเหวินเหวินอย่างตกตะลึง เมื่อกี้เกือบจะเกิดเรื่องขึ้นแล้วถ้าไม่ใช่ฉินเฟิง เธอก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไรจ้าวซีซีชักสีหน้าเย็นชา และตบไปที่หน้าของจางเหวินเหวินหนึ่งฉาด "จางเหวินเหวิน ฉันคิดว่าเธ