PV Group“มิลินยังไม่เสร็จเหรอนี่จะทุ่มหนึ่งแล้ว”“ยังเลยพวกเธอกลับไปก่อนเถอะ”“นี่วันศุกร์นะไม่ไปปาร์ตี้ที่ไหนเหรอ”“เฮ้อ…อยากไปอยู่หรอกแต่ก็อย่างที่เห็น มุกจะไปเที่ยวกับแฟนไม่ใช่เหรอรีบไปเถอะ”“งั้นเราไปก่อนนะวันจันทร์เจอกัน”“มิลินรดา” หันกลับไปวุ่นกับงานเขียนโปรแกรมที่แก้แล้วแก้อีกก็ยังไม่ผ่านด่านสุดโหดของบอสหรือผู้จัดการคนใหม่ที่พึ่งจะผันตัวเองลงมาคุมงานแผนก IT และโปรแกรมเมอร์ด้วยตัวเอง “ผมต้องการงานที่มีประสิทธิภาพเหมือนปากของพวกคุณ เลิกประชุม”นั่นเป็นคำทักทายแรกที่เขาพูดในการพบกันที่แผนกเมื่อสี่เดือนก่อน “ภูวินทร์ วิศุทธารานิวัฒน์” CEO หนุ่มและลูกชายคนเดียวของเจ้าของ PV Group บริษัทผลิตซอฟต์แวร์และดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ชื่อดังของเมืองไทยจากที่พนักงานสาว ๆ ต่างสนใจในตัวเขาจนอยากจะร่วมงานด้วยและเฝ้ารอการมาของเขาอย่างใจจดใจจ่อ แต่ผ่านไปเพียงสองสัปดาห์แรกที่เขาลงมาควบคุมงาน ทุกคนก็แทบอยากจะลาออกกันยกแผนกเพราะงานที่หนักและละเอียดมากขึ้นอีกทั้งไม่ว่าพวกเขาและเธอจะสรรหาวิธีการใดไปนำเสนอล้วนถูกปัดตกออกมาหมด“โธ่เว้ย!! ทำไมไม่ผ่านสักทีวะ”“ฉันว่านายแก้ตรงนี้อีกหน่อย ระบบมันทำงานไม่เสถี
เขาพูดพร้อมกับคาบบางอย่างอยู่ที่ปาก ซองถุงยางนั่นเองเพราะเสียงที่เขากำลังฉีกทำให้เธอรู้ว่าไม่มีทางจะหนีซาตานตรงหน้าไปได้อีกแล้ว“บอสคะ จะทำจริง ๆ เหรอคะ”“ผมให้เวลาคุณตัดสินใจไปแล้วถ้าจำได้ ตอนนี้คุณจะเปลี่ยนใจก็คงไม่ทันแล้ว”“แต่ว่า…อ๊าา!!!!”ความใหญ่และคับแน่นนั้นค่อย ๆ สอดเข้ามาหาเธอจนรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัวเหมือนกับถูกไฟช็อต แม้ว่าจะไม่อยากแต่ก็…“เสียว…อ๊าา”เมื่อเธอครางออกมาเขาก็เริ่มพอใจ รอยยิ้มที่คลี่ออกทำเอาใจของมิลินยอมทุกอย่างที่เขาจะทำจากนี้ แรงกระแทกจากบั้นท้ายแข็งแรงนั่นทำให้เธอแทบจะบ้าเมื่อเขายกทั้งตัวเธอขึ้นมาจากโต๊ะ“อ๊ะ จะ จะไปไหนเหรอคะ”“เปลี่ยนที่”“แต่ว่า…”“อ้อ จริงสิผมลืมไปเลยข้างนอกนั่นคงไม่เหลือใครแล้วสินะ”“ไม่มีแล้ว เหลือฉันคนเดียวค่ะ”“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็ครางเสียงดังได้”“อ๊าา เดี๋ยวก่อนช้าลงหน่อยค่ะ”“ทำไมล่ะ คุณจะเสร็จอีกแล้วเหรอ”“บอสคะ!!”“ลองตะคอกอีกทีสิ จะทำจนลืมทางกลับบ้านเลย”“อ๊าา”เขาไม่ได้แค่ขู่เมื่อใช้มือดันไปที่จุดกระสันกลางร่องสวาทที่อยู่เหนือท่อนเอ็นที่สอดลึกจนสุด เธอแทบจะหลุดกรี๊ดออกมาเพราะความเสียววาบไปทั้งตัวอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ทำ
มิลินรดาหมดทางเลือกเพราะทั้งกระเป๋าและมือถือถูกเขายึดเอาไว้จนหมด เธอถูกบังคับให้นั่งที่เบาะหน้าคู่กับเขาพร้อมกับรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย รถหรูขับออกมาจากตึกใหญ่ใจกลางกรุงในตอนเช้าออกมาที่ถนนที่ค่อนข้างโล่งในวันหยุด“บอสจะไปกินข้าวที่ไหนเหรอคะ”“ถึงแล้วก็รู้เอง”“แต่มิลินไม่หิว”จ๊อก…..เสียงท้องที่ร้องออกมาสวนทางกับคำพูดของเธอทำให้เขาหลุดขำออกมาเล็กน้อยแม้ว่าจะยังทำหน้าดุอยู่แต่คนที่นั่งข้าง ๆ ก็ก้มหน้าอายจนพูดอะไรไม่ออก“คนปากแข็ง” ร้านอาหารมิลินกินทุกอย่างที่ถูกยกมาจานแล้วจานเล่าทั้งไข่กระทะ ขนมปังทาเนยและไส้กรอกอเมริกันกับน่องไก่อบที่เขาสั่งมาวางให้เธอเลือกเพราะไม่รู้ว่าเธออยากกินอะไร ร้านนี้อยู่ไม่ห่างจากที่ทำงานมากนักเมื่อเธอกินจนอิ่มเขาก็สั่งให้บริกรเทน้ำส้มคั้นสดให้เธอเพื่อเป็นการล้างปาก“อิ่มหรือยัง”“อิ่มมากเลยค่ะขอบคุณค่ะบอส”“อืม”เธอยกผ้าขึ้นมาเช็ดปากพอดีกับเสียงมือถือของเขาที่สั่นขึ้นมา เขามองไปและหันมามองเธอ“ขอตัวรับสายก่อนนะ”“ค่ะ”ภูวินทร์เดินไปรับสายสำคัญที่โทรเข้ามาและคุยอยู่ประมาณห้านาที เมื่อกลับมาที่โต๊ะก็พบเพียงแค่กระดาษโน้ตลายมือของมิลินที่วางทิ้งเอาไว้“ขอบคุณ
“บอสคะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะที่นี่เป็นห้องทำงานของคุณนะคะ”“และคุณกับผมก็มีเซ็กส์กันครั้งแรกที่นี่ ไม่ต้องย้ำเพราะผมจำได้ จำได้ว่าใช้….”มิลินรีบใช้มือของเธออุดปากเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมามากกว่านี้ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉยแบบนี้ แม้แต่เธอที่ฟังอยู่ยังรู้สึกชาไปทั้งหน้าเพราะความอาย“คุณปิดปากผมทำไม ถ้าอยากปิดต้องใช้อย่างอื่น เช่น…”“อื้อ…ปล่อยนะคะ”ไม่ทันที่เธอจะได้ป้องกันเขาก็ปล้นเอาจูบของเธอไปจนได้ มิลินดิ้นเล็กน้อยอยู่ในอ้อมแขนของเขาและค่อย ๆ นิ่งลงจนเริ่มปล่อยให้เขาจูบเธอไปเงียบ ๆ“จูบตอบสิ ทำไม่เป็นเหรอ”“บอสคะ ไม่ใช่ตอนนี้”“ถ้าอย่างนั้นพักเที่ยงกับตอนเลิกงานได้ใช่ไหม”“ไม่ใช่นะคะมิลิน…อื้อ…อ๊ะ อย่าถอดนะคะ”“ผมชอบกลิ่นน้ำหอมของคุณ”“บอส อื้อ…. หยุดก่อนค่ะเดี๋ยวมีคนเข้ามา”“คุณว่าจะมีสักกี่คนที่อยากจะเข้ามาในห้องนี้ถ้าผมไม่เรียก อีกอย่างถ้าผมไม่ปลดล็อกคุณคิดว่าใครจะเข้ามาได้งั้นเหรอ”“แต่คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะคะ”“งั้นเหรอแต่ผมคิดว่าตั้งแต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันก่อนผมมีสิทธิ์เต็มที่ อีกอย่างอย่าลืมสิว่าผมพึ่งจะช่วยคุณไปเองนะ”มิลินลืม
“อะไรวะเนี่ย!!”“มิลิน เป็นอะไรตกใจหมดเลย”ทุกคนในแผนกหันมามองเธอด้วยท่าทางตกใจ อนุชิตนั้นพุ่งน้ำที่พึ่งจิบออกมาจนเลอะหน้าจอเพราะตกใจ เสื้อของเขาเองก็เปียกเพราะหันมามองเธอ“มิลินเราขอโทษที่ต้องให้เธอแก้งานนะ เรายอมรับใช้เธอเลยจะเอาอะไรก็บอกดี ๆ อย่าพึ่งโมโหเลยนะ”“ไม่นะ ไม่ใช่ ๆ ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ ช่างเถอะมิลินจะลงไปข้างล่างไปซื้อกาแฟหน่อยนะคะ”“เราไปด้วย ๆ เราไปช่วยถือนะ”อนุชิตเป็นผู้อาสาเธอจึงเดินมาพร้อมกับเขาและกดลิฟต์ แต่เมื่อประตูลิฟต์เปิดก็ต้องตกใจเพราะคนที่พึ่งเดินออกมาคือบอสหนุ่มกับเลขาของเขา “พัชระ” นั่นเอง“อ้าวมิลินกำลังจะไปไหนกันเหรอ”“ไปซื้อกาแฟครับคุณพัชระ พวกเราขอตัวก่อนนะครับมิลินรีบไปกันเถอะ”อนุชิตคล้องแขนมิลินและรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ที่ทั้งสองพึ่งจะเดินออกมา ภูวินทร์หันไปมองพวกเขาพร้อมกับหรี่ตาเมื่อประตูลิฟต์กำลังปิดแต่มิลินที่ไม่ได้สังเกตเขาเพราะมัวแต่คุยกับอนุชิตที่จับแขนเธอเอาไว้แน่น“ทำอย่างกับหวงแฟน ตาอนุชิตนี่ก็แปลกนะทำนัวเนียกับคุณมิลินแบบนี้ไม่กลัวเป็นข่าวหรือไงนะหรือว่า... สองคนนั้นคบกันแล้วเหรอครับ”“หุบปากไปเถอะน่ะ เตรียมข้อมูลที่จะไปพบลูกค้าหรือยัง”“ยัง
“อะไรนะคะ”“กลับบ้านไง หรือคุณอยากจะนอนที่นี่ล่ะ”“กลับค่ะ กลับบ้านค่ะรถไฟฟ้าใกล้จะหมดแล้วด้วยต้องรีบ…”“ผมว่าผมบอกคุณชัดเจนแล้วนะว่าจะพาไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน”“เอ่อ…”“เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยแก้งานนี้ให้ พรุ่งนี้จะได้นำไปส่งแผนกซอฟต์แวร์ต่อ”“ค่ะ”“อย่าได้คิดแผนที่จะหนีอีกล่ะ ผมจะไม่ยอมให้จบเหมือนเมื่อเช้าวันเสาร์แน่”เขากระซิบบอกเธอก่อนจะเดินไปหยิบสูทของตัวเองมาสวมอีกครั้งและรอเธอเก็บของและปิดคอมพิวเตอร์ของเขา เมื่อเก็บของเสร็จแล้วเธอก็เดินตามเขาออกมาจากห้องซึ่งด้านนอกไม่มีคนอยู่แล้ว ลิฟต์จึงมีเพียงพวกเขาที่ใช้ในการโดยสารลงไปยังลานจอดรถร้านอาหาร“อาหารอร่อยไหม พอกินได้หรือเปล่า”“อร่อยหมดทุกอย่างเลยค่ะ คิดไม่ถึงเลยนะคะว่าบอสจะรู้จักร้านอาหารที่อร่อย ๆ มากแบบนี้ พาแฟนมากินบ่อยเหรอคะ”“แฟน? ผมไม่มีแฟน ถ้าแค่คู่นอนล่ะก็พอมีจบภารกิจก็แยกย้าย”“แคก แคก”“เป็นอะไร สำลักเหรอทำไมรีบกินแบบนี้ล่ะ”เขาขยับเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เธอเพื่อจะลูบหลังให้ และค่อย ๆ รินน้ำเปล่ายื่นมาให้เธอ“ดื่มเข้าไปหน่อย กินอะไรเข้าไปถึงได้สำลัก ก็ไม่มีอะไรเผ็ดนี่”มิลินตอบไม่ได้เพียงแค่นึกในใจเท่านั้นว่าที่เธอ
“อะ อะไรนะคะ”“หรือจะให้ผมทำอีกรอบคุณถึงจะ...”“เดี๋ยวนะคะบอส คือว่าเรื่องนี้มิลินยังไม่…”ภูวินทร์เองก็ชะงักไปเล็กน้อย นี่เธอคงไม่ถึงกับจะปฏิเสธเขาหรอกมั้ง ทั้ง ๆ ที่เธอกับเขาแนบชิดสนิทสนมกันขนาดนี้และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาพาผู้หญิงมาที่นี่ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา“คุณจะปฏิเสธผมเหรอ”“คือว่า อ๊าา!!”เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ อย่างน้อยวันนี้เขาก็ไม่อยากจะฟังเพราะเขาต้องการครอบครองและเป็นเจ้าของ เขาไม่เคยต้องการอยากได้ผู้หญิงคนไหนมากกว่ามิลินรดาแบบนี้มาก่อน ทั้งอยากได้และอยากเห็นเธออยู่ในสายตาตลอดเวลาจนไม่อยากฟังคำว่า “ไม่” ที่จะออกจากปากของเธอ แม้ว่าจะไม่ยอมรับวันนี้แต่เขามีวิธีอีกมากมายที่จะทำให้เธอยอมรับเขาให้ได้“เบาก่อนค่ะ เจ็บ…อ๊ะ!!”ลิ้นหนาโลมเลียยอดอกสีอิ่มจนเปียกชุ่ม ปากของเขาเผลอขบเม้มรุนแรงตามแรงกระแทก มิลินเองก็กระดกสะโพกรับเขาอย่างเผลอตัวเพราะความเสียวที่เขาเชิญชวน “เพี๊ยะ!!”“อ๊าา!!!”เสียงฝ่ามือฟาดไปที่บั้นท้ายงอนงามนั้นทำเอาใจสาวสะดุ้งและตื่นเต้นไม่น้อย เธอบอกไม่ได้ว่ามันดีหรือไม่แต่ก็ไม่รังเกียจที่เขาจะทำ เสียงของลำเอ็นที่กระแทกถี่ ๆ จนเธอมองอะไรไม่เห็นนอกจากขอบหัวเต
เธอรู้สึกว่าการเชื้อชวนนี้ได้ผลเพราะลำเอ็นที่ใช้หน้าอกนวดอยู่นั้นกำลังแข็งตึงเพิ่มขึ้นเมื่อเธอพูดจบ ภูวินทร์ดึงเธอมาจูบอย่างกระหาย เขาไม่เคยรู้สึกอยากกินใครเท่าเธอมาก่อน ทำไมกินเท่าไหร่ก็ไม่พอเสียทีทั้ง ๆ ที่ควรจะเบื่อแต่เขากลับต้องการเธอมากขึ้น ๆ จนไม่มีขีดจำกัดและไม่อยากให้เธออยู่ห่างเขาเลยแม้แต่นาทีเดียว“อ๊ะ บอสคะ”“ถ้าเรียกบอสอีกทีผมจะไม่ให้คุณได้นอนเลยคอยดู”“จะไปไหนคะ”“คุณบอกว่าจะไปต่อที่เตียง”“แต่ตัวมิลินเปียก”“ไม่เป็นไร ห้องนอนเล็กยังว่าง เราไปนอนที่นั่นได้แต่ตอนนี้ผมต้องการคุณ”“บอสยังกินไม่อิ่มเหรอคะ”“ไม่น่าถาม”เธอถูกเขาอุ้มมาพร้อมกับเสื้อคลุม แม้จะโพกหัวที่เปียกมาแต่ก็ไม่อาจทนรอเวลาได้ เขาทิ้งร่างของเธอบนเตียง มือควานหาสิ่งที่ต้องการและสวมเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่งกายเข้าไปจนเธอครางออกมาด้วยความสุขสม เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มพลังชีวิตให้มิลินได้อีกนิดหน่อย เขาคงต้องรีบเพราะเธอเองคงต้องพักผ่อนแล้ว แม้ว่าจะให้เธอหยุดงานแต่เขาจะกินมูมมามแบบไม่ยั้งอย่างนี้คงไม่ได้“อ๊าา พี่ภูคะ ใกล้แล้วกระแทกมาอีก ถี่อีกเร็ว ๆ เข้า”“อาา…ร้อนแรงจังนะ”“อื้อ เสียว เสียวมาก ทนไ
ห้องพักคู่บ่าวสาว“อ๊าา เดี๋ยวก่อนค่ะที่รัก ยังไม่ได้ถอดชุด”“ผมไม่สน ที่เราเลือกชุดสั้นแบบนี้ก็เพื่อให้สะดวกแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ อาา เสียวจัง หันมาหน่อยสิผมยังจูบไม่พอเลย”“อื้อ…เสียว เบาหน่อยค่ะ อ๊ะ”แต่แรงอัดกระแทกด้านหลังไม่ได้เบาลงเลย ยิ่งเห็นเธอในชุดเจ้าสาวแบบนี้จิตใจเขาก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะมันกระตุ้นอารมณ์เขาได้มากกว่าชุดปกติ “ถอดยากนักก็ต้องทำแบบนี้แหละ”“อื้อ อ๊าา บีบแรง ๆ ค่ะ อ๊าา”เจ้าสาวถูกยกสะโพกขึ้นเพื่อรับแรงอัดกระแทกที่แรงขึ้น มิลินยังไม่ได้ไปถึงเตียงด้วยซ้ำ เพราะเข้าประตูมาได้เจ้าบ่าวก็รีบจัดการเธอทันที ตอนนี้ทั้งคู่ยังอยู่แค่ประตูห้องส่งตัวยังไม่ได้แตะต้องเตียงที่ปูไปด้วยกุหลาบนั่นเลย“ซี๊ด…อ๊าา!! จะเสร็จแล้วค่ะ ที่รักเร็วค่ะ”ภูวินทร์อัดกระแทกแรง ๆ เน้น ๆ เข้าไปอีกครั้งตามที่หมอตะวันแนะนำเพราะเขาให้เธอหยุดกินยาคุมแล้วเพื่อจะได้ปั๊มลูกโดยไม่พักเพราะเขาเห็นหมอตะวันเล่นกับลูกชายแล้วนึกอยากจะมีเป็นของตัวเองบ้าง“ขนาดเลือกแบบง่าย ๆ แล้วยังถอดยากอีก ฉีกเลยดีไหม”“ไม่ได้นะ!! มันแพง”“ที่รัก ผมซื้อให้ใหม่ก็ได้”“ไม่ได้!! ถอยไปเลย”เมื่อถูกภรรยาดุ ภูวินทร์ก็ได้แต่ทำห
บนเรือสำราญ / เกาะพีพี“ยอดไปเลยนะ สมกับเป็นบอสจริง ๆ จัดงานแต่งทั้งทีธรรมดาไม่ได้เลย สมกับเป็นเจ้าพ่อวงการธุรกิจไอที”“พี่อุ่นก็อยากแต่งงานเหรอคะ”“บ้าน่าพิมพ์พี่เลยจุดนั้นมานานแล้ว คงไม่มีใครมาจีบหรอกอยู่เป็นสาวทึกกับพวกเธอนี่แหละ”“แหม คุณอุ่นก็พูดเกินไป ยังสาวยังสวยอยู่อย่าตัดพ้อแบบนั้นสิครับว่าแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวยังไม่เข้ามาอีกเหรอครับเรือออกจากฝั่งนานแล้ว”“รออีกหน่อย ยังไม่ถึงฤกษ์เลยพวกเราก็ไปเตรียมประจำที่เถอะ”พนักงานของพีวี กรุ๊ปทยอยกันมาที่ดาดฟ้าเรือสำราญหรูที่ภูวินทร์เหมาลำสำหรับสองบริษัทมาพักและร่วมพิธีแต่งงานของเขาและมิลินรดา ทั้งพีวี กรุ๊ปและเอส กรุ๊ปที่รวบกิจการเข้าด้วยกันและยังมีตะวันและตันหยงที่มาพร้อมกับวัชระกับแคทที่กรี๊ดทุกครั้งที่เห็นภูวินทร์จนวัชระค้อนไปหลายรอบ“ที่รักคุณไหวหรือเปล่า เมาเรือไหมผมเป็นห่วง"“คุณลืมไปแล้วเหรอคะว่าคุณก็เคยพาหยงไปขอแต่งงานบนเรือมาเหมือนกันแค่นี้สบายมากค่ะ”“แต่ตอนนี้เหมือนกันที่ไหน คุณท้องอยู่นะครับถ้าเวียนหัวก็รีบบอกนะผมเอายาดมมาให้ด้วย”“คุณก็ยังเหมือนเดิมจริง ๆ นะคะหมอ หยงไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” "แล้วนี่ตาภูผาไปไหนแล้ว”“อยู่กับคุณแ
ภูวินทร์ดึงเธอขึ้นมาและจับขึ้นไปวางที่โต๊ะทำงานใหม่ของเธอ มิลินอ้าขาให้เขาทันทีเพื่อให้เขาจัดการกับชั้นในตัวจิ๋วที่เขาเลือกซื้อให้เอง เมื่อมองเห็นภูวินทร์ก็แทบจะทนไม่ไหวที่จะใช้นิ้วลากไล้ไปมาจนมิลินแอ่นรับสัมผัส“อ๊าา อย่ากระตุ้นสิคะ มันเสียว”“แฉะขนาดนี้จะใส่ได้อีกไหมนะ ถอดออกก่อนก็แล้วกันเดี๋ยวทำความสะอาดให้”“อ๊าา”เมื่อพูดจบก็ลงมือทำทันที บอสจอมโหดยังไม่ทิ้งลายความเด็ดขาดเมื่อต้องการรุกฆาตเหยื่อ ลิ้นและนิ้วของเขายังสร้างความเสียวให้เธอไม่ขาดจนน้ำหวานเริ่มไหลออกมาและก่อนที่จะเลอะเขาก็จัดการพามังกรยักษ์สอดเข้าไปทันที“อู๊วว…เสียวจัง เบาหน่อยนะคะเดี๋ยวข้างนอก…”“ไม่ได้ยินหรอก คุณคิดว่าห้องทำงานผมไม่เก็บเสียงเหรอ ผมออกแบบเองเชียวนะไม่มีทางปล่อยผ่านเรื่องนี้ได้หรอกน่าวางใจได้”“คุณมันร้ายกาจ อ๊าา”แรงอัดกระแทกทำเอาโต๊ะทำงานใหม่เกือบจะล้มเขาจึงพาเธอกลับมาที่โซฟาตัวเดิมที่เคยเป็นเตียงแรกของทั้งสอง เมื่อเริ่มกระแทกมิลินก็เริ่มครางดังขึ้นอีกครั้ง“อาา เสียวมาก อ๊าา ท่านี้เสียวไปแล้วที่รักคะ เร็วหน่อย”เขาเองก็รู้ว่าตอนนี้คงจะทำนานไม่ได้เหมือนกับที่คอนโดเพราะยังมีภารกิจต้องไปทำอีกหลายที่ เม
อุณหภูมิของน้ำในอ่างจากุชชี่สุดหรูแม้ว่าจะอุ่นแต่ก็สู้ความเร่าร้อนของคนทั้งสองที่แช่อยู่ไม่ได้ แม้ว่ามิลินจะดีขึ้นแล้วแต่ก็ยังมีปลาสเตอร์กันน้ำอยู่ที่หน้าผาก ภูวินทร์ที่เฝ้าระวังอยู่ก็อ่อนโยนกับเธอมากกว่าครั้งไหน ๆ เพราะเขาพึ่งสังเกตเห็นรอยช้ำตามตัวของเธอ“ไอ้สารเลวนั่น…”“ลืมมันไปเถอะนะคะ มันจบแล้วตอนนี้คุณสนใจแค่มิลินก็พอ ได้ไหมคะบอส”“ผมบอกแล้วว่าถ้าคุณเรียกผมว่าบอส ผมจะจัดการคุณ”“อ๊าา ภูคะ อื้อ เสียวจัง นิ้วคุณซนเกินไปแล้ว อ๊าา ลิ้นด้วย อ๊าา”ลิ้นของภูวินทร์วนไล้ไปทั่วรอบ ๆ ราวหน้าอกอวบที่ตอนนี้กลับมาเนียนขาวอีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ได้รังแกเธอมาหลายวัน ตอนนี้เขาไม่ต้องใช้เครื่องป้องกันแล้วเพราะมิลินตัดสินใจเปลี่ยนไปกินยาคุมแบบรายเดือนแทนซึ่งนั่นก็นับว่าสะดวกกับทั้งคู่มากเพราะมิลินไปปรึกษาตะวันมา เขาจึงแนะนำให้เธอกินยาแบบแผงที่ช่วยเรื่องผิวพรรณเพราะมิลินไม่ชอบวิธีการฉีดยาคุมแบบรายเดือน“มิลินผมจะทนไม่ไหวแล้ว ขอตอนนี้ก่อนได้ไหมมันจะแตกแล้ว”“อือ ได้ค่ะ โอ๊ะ!! เข้ามาเร็วจัง ซี๊ด…แน่น!!”“มันคงคิดถึงกันน่ะสิเพราะไม่ได้เข้าไปนานหลายวัน”“อื้อ ทะลึ่ง อ๊าา เสียว ที่รักคะขยับเร็วขึ้นอีก
มิลินและภูวินทร์หันไปมองที่จอมอนิเตอร์ก็ต้องตกใจทันทีเพราะตัวคนที่พูดในตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นกับแฟนสาวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตันหยงนั่นเอง"พี่วัชระ เป็นพี่เองเหรอคะเนี่ย!!”“ยังดีที่ไม่เรียกว่าแฮกเกอร์โนเนม เชอะจะงอนแล้วนะ นี่ตันหยงน้องสายรหัสคุณนี่ร้ายชะมัดเลยกล้าบอกว่าผมเป็นแฮกเกอร์โนเนม”“พี่วัชระคะ ถ้าเทียบกับบลูเดวิล ยังไงพี่ก็โนเนมสำหรับมิลินอยู่ดีแหละค่ะ”“อะไรนะ!! เดี๋ยวก่อนนะเมื่อกี้พูดว่าบลูเดวิลเหรอ!! ตัวจริง ตัวเป็น ๆ น่ะเหรอไม่จริงน่าเขาคือใครกันน่ะ”ภูวินทร์ยื่นหน้าเข้าไปในจอ วัชระถึงกับกะพริบตาถี่ ๆ เข้ามาหน้ากล้องด้วยความอยากรู้อย่างที่สุด เพื่อมองให้ชัดอีกครั้งเพราะเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากรู้ตัวจริงของ “บลูเดวิล” มาโดยตลอด“สวัสดีครับคุณวัชระ ผมภูวินทร์เองครับหรือที่พวกคุณรู้จักในนาม…”“โอ้มายก็อด!! ใช่จริง ๆ เหรอ บลูเดวิลเทพแห่งเซิร์ฟเวอร์คนนั้น ที่รัก!! เร็ว ๆ เข้ามานี่เร็ว วันนี้เราจะได้เห็นหน้าจริงของบลูเดวิล”“อะไรนะคะ!! เมื่อกี้คุณพูดว่าบลูเดวิลเหรอ”เสียงโวยวายของผู้หญิงด้านหลังเขารีบตะโกนมาเมื่อรู้ว่าคนที่พูดอยู่คือใคร “แคท” เพื่อนสนิทของตันหยงวิ่งมาที่หน้าจอพร้อม
ทุกคนหันไปดูที่จอใหญ่อีกครั้ง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้จิตราแทบอยากจะเดินไปบีบคอภูวินทร์ให้ตายคามือ เอกสารสร้างหุ้นและเงินทุนปลอมและจำนวนเงินที่หุ้นส่วนแต่ละคนนำมาลงทุน“เห็นความผิดปกติอะไรไหมครับ ทุกคนพร้อมที่จะร่วมลงทุนในโปรเจคที่มิลินรดาคิดขึ้นมาแต่มีสองแม่ลูกที่มีเพียงรายชื่อและจำนวนเงินที่ไม่ได้ลงเงินจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่หุ้นส่วนแต่ละคนได้วางเงินลงทุนของตัวเองจนครบ ขาดก็แต่…”“ขาดคุณจิตราและคุณศิระ”คุณจิตรา!! ผมต้องการคำอธิบาย"บอร์ดบริหารที่นั่งโต๊ะเดียวกับจิตราเริ่มหันมาเอาเรื่องเธอเองหลังจากที่ภูวินทร์แสดงเอกสารออกมา“ไม่ใช่แค่นั้น เดิมทีเธอและลูกชายทำหน้าที่ดูแลก็จริง แต่เงินที่ใช้บริหารกลับดึงมาจากส่วนกลางและผู้บริหารคนอื่น ๆ ก็ไม่เคยทราบเลยว่า…ผลประโยชน์ที่ได้นั้นไม่ได้มีสัดส่วนที่เป็นธรรมตั้งแต่แรก”จอเปลี่ยนไปอีกครั้ง ผลกำไรและเม็ดเงินที่เข้าบัญชีของสองแม่ลูกนั้นแตกต่างกับสัดส่วนกำไรของคนอื่น ๆ ที่ได้รับอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้คณะบอร์ดของเอส กรุ๊ปเริ่มลุกขึ้นและหันมาเอาเรื่องจิตราและศิระที่นั่งตัวงออยู่ข้าง ๆ“แก!! เรื่องที่ระบบเซิร์ฟเวอร์ของฉันถูกทำลายก็เป็นแกที่ทำขึ้นมาใช่ไหม”
มิลินรดาเดินมาพร้อมกับภูวินทร์ที่คอยพยุงเธอ ชัตเตอร์หันไปรัวภาพทั้งคู่เมื่อเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับจิตราที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะแถลงข่าว แม้ว่าสีหน้าจะไม่แสดงอาการแต่เธอก็กำหมัดแน่น ส่วนศิระเมื่อเห็นมิลินอีกครั้งเขาก็รีบหลบสายตาทันทีพร้อมกับหันมามองที่แม่ของเขา“แม่ครับ”“อยู่นิ่ง ๆ ฉันสั่งให้คนลบทุกอย่างจากกล้องวงจรปิดไปแล้วมันจะมีหลักฐานที่ไหนเอาผิดแกได้”“ฉันมิลินรดา คนที่คุณจิตราใส่ความว่าเป็นคนทำลายระบบเซิร์ฟเวอร์ของเอส กรุ๊ป”“เอาล่ะค่ะในเมื่อคู่กรณีมาแล้ว ขอถามได้ไหมคะว่าวันนั้นที่เกิดเรื่องขึ้นคุณได้ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าทำร้ายคุณศิระจริงหรือไม่คะ”มิลินรดากับภูวินทร์หันไปมองรสาที่ยืนยิ้มให้กับทั้งคู่เมื่อถามคำถามนี้ขึ้นมา มิลินยิ้มกลับให้เธอและพูดขึ้นมาทันที“ใช่ค่ะ ฉันยอมรับว่าใช้เครื่องช็อตไฟฟ้านั่นทำร้ายเขาจริง ๆ แต่เรื่องมันไม่ได้เริ่มต้นเหมือนกันที่คุณจิตราได้เล่าให้พวกคุณฟังเลยแม้แต่น้อย”นักข่าวเริ่มหันมาทางมิลินโดยที่จิตรายังนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ“คุณเล่าให้ฟังได้ไหมคะว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น”“ได้ค่ะ วันนั้นหลังจากเลิกประชุมโปรเจคสำคัญของบริษัทซึ่งฉันรับหน้าที่เป็นหัวหน้าดูแ
ภูวินทร์และมิลินรดาพักอยู่ที่คอนโดของตะวันยับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น แม้ว่าภูวินทร์จะเข้าบริษัททุกวันแต่ก็ไม่ลืมที่จะโทรมาถามมิลินสามเวลาหลังอาหารอีกทั้งตอนนี้งานที่พีวี กรุ๊ปก็หนักมากจนอนุชิตแทบจะร้องขอชีวิต“บอสครับ เหลืออีกสองที่สุดท้ายแล้วครับ”“ขอบใจมากนะอนุชิต หลังจากงานนี้แล้วผมคงต้องเพิ่มเงินและวันหยุดให้พวกคุณแล้วล่ะ”“ตอนนี้ผมแค่ขอเวลาได้นอนเกินสี่ชั่วโมงก็พอแล้วครับ รอให้ผ่านวิกฤตินี้ไปได้แล้วค่อยว่ากันครับบอส”“ฝากคุณด้วยนะ คุณอุ่นล่ะ”“อ้อ ไปอีกที่หนึ่งครับ เธอฝากเอกสารนี้มาให้บอสด้วยครับ”“ขอบใจมากนะ”“งั้นผมไปก่อนนะครับ”“ให้คนขับรถไปให้นะ ผมเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย”“ขอบคุณครับบอส”อนุชิตเดินออกไปพร้อมกับคนขับรถบริษัท ตอนนี้โปรแกรมเมอร์ในพีวี กรุ๊ปจะมีคนขับรถและบอดี้การ์ดส่วนตัวคอยคุ้มกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา แม้ว่าภูวินทร์จะไม่ใช่เจ้าพ่อมาเฟียเหมือนหมอตะวันแต่เขาเองก็มีเพื่อนในวงการนี้อยู่พอสมควรที่จะเรียกใช้งานได้โรงพยาบาล“คุณหมอคะ อาการที่เขียนมานี่มันเบามากเลยนะคะ ลูกชายฉันบาดเจ็บหนักเพราะโดนเครื่องช็อตไฟฟ้าเลยนะคะ เขาเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้เลยทำไมคุณหมอเขีย
“ค่ะ มิลินจะไม่กลับไปอีกแล้ว”“คุณนอนพักสักหน่อยนะ แผลของคุณยังเจ็บอยู่ไหม ผ้าพันแผลนี่แน่นเกินไปหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ คุณกอดมิลินหน่อยสิคะ”“มาเถอะ พักสักหน่อยนะไม่ต้องห่วงนะมีผมอยู่ไม่มีใครกล้าแตะต้องคุณได้”“มิลินทำสำเร็จแล้วใช่ไหมคะ ใกล้จะจบแล้ว”“ใช่ มันใกล้จะจบแล้วล่ะ”เอส กรุ๊ป“ท่านประธานคะติดต่อคนแก้ไขเซิร์ฟเวอร์ได้แล้วค่ะ แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ”“ดีมาก ฉันคุยเอง”จิตราระดมคนที่มีความสามารถเพื่อหาแฮกเกอร์แทนที่จะหาคนที่แก้ไขงานระบบและสุดท้ายเธอก็ได้มาคนหนึ่งแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเมืองไทยแต่คนนี้เป็นแฮกเกอร์มืออาชีพที่เคยดูแลระบบให้มาเฟียต่างประเทศที่หาตัวจับยากซึ่งโปรแกรมเมอร์ของเธอแนะนำมา“ใช่ค่ะ ปัญหาที่เราพบอยู่ตอนนี้เป็นแบบนี้คุณพอจะช่วยได้ใช่ไหม เยี่ยมเลยค่ะถ้าอย่างนั้นฉันจะส่งข้อมูลไปให้คุณ…อะไรนะ สามล้าน”“ครับ สามล้านดอลล่าห์ต่องานหนึ่งครั้ง”“ดอลล่าห์?”“ครับ ถ้าไม่พร้อมก็ไปคิดดูก่อนได้”“แล้วถ้าคุณทำไม่สำเร็จล่ะ เงินที่ฉันจ่ายไปไม่สูญเปล่าเหรอ”“นั่นก็แล้วแต่คุณ การแก้ไขระบบเองก็มีความเสี่ยง ไม่มีใครรู้ว่าระบบคุณถูกโจมตีด้วยอะไร ใครแต่ผมสามารถหาคนที่ทำและจัดการมัน