“บอสคะ ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะที่นี่เป็นห้องทำงานของคุณนะคะ”
“และคุณกับผมก็มีเซ็กส์กันครั้งแรกที่นี่ ไม่ต้องย้ำเพราะผมจำได้ จำได้ว่าใช้….”
มิลินรีบใช้มือของเธออุดปากเขาเอาไว้ก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมามากกว่านี้ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉยแบบนี้ แม้แต่เธอที่ฟังอยู่ยังรู้สึกชาไปทั้งหน้าเพราะความอาย
“คุณปิดปากผมทำไม ถ้าอยากปิดต้องใช้อย่างอื่น เช่น…”
“อื้อ…ปล่อยนะคะ”
ไม่ทันที่เธอจะได้ป้องกันเขาก็ปล้นเอาจูบของเธอไปจนได้ มิลินดิ้นเล็กน้อยอยู่ในอ้อมแขนของเขาและค่อย ๆ นิ่งลงจนเริ่มปล่อยให้เขาจูบเธอไปเงียบ ๆ
“จูบตอบสิ ทำไม่เป็นเหรอ”
“บอสคะ ไม่ใช่ตอนนี้”
“ถ้าอย่างนั้นพักเที่ยงกับตอนเลิกงานได้ใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะคะมิลิน…อื้อ…อ๊ะ อย่าถอดนะคะ”
“ผมชอบกลิ่นน้ำหอมของคุณ”
“บอส อื้อ…. หยุดก่อนค่ะเดี๋ยวมีคนเข้ามา”
“คุณว่าจะมีสักกี่คนที่อยากจะเข้ามาในห้องนี้ถ้าผมไม่เรียก อีกอย่างถ้าผมไม่ปลดล็อกคุณคิดว่าใครจะเข้ามาได้งั้นเหรอ”
“แต่คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะคะ”
“งั้นเหรอแต่ผมคิดว่าตั้งแต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันก่อนผมมีสิทธิ์เต็มที่ อีกอย่างอย่าลืมสิว่าผมพึ่งจะช่วยคุณไปเองนะ”
มิลินลืมเรื่องของศิระไปเสียสนิทเลย ตั้งแต่เขาเอามือถือของเธอไปพูดแทนวันนั้น ศิระก็เงียบไปและไม่ได้พยายามโทรมาหาเธออีกเลยซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีแต่เพราะมิลินมัวแต่คิดวนเวียนกับเรื่องเมื่อวันศุกร์จึงได้ลืมไป
“ทำไมล่ะ เงียบแบบนี้คุณคิดจะขอบคุณผมยังไงล่ะ…มิลิน”
“บอสคะ เดี๋ยวก่อนนะคะเรามานั่งคุยกันดี ๆ ก่อนได้ไหมคะ ฉันยังมีงานต้องทำและคุณเองก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ว่างขนาดนั้นนะคะ”
“ก็ได้ คุยก็คุย”
เขายอมให้เธอลุกไปนั่งแต่ก็ไม่ยอมแยกที่นั่ง เธอยังต้องถูกดึงมานั่งข้าง ๆ เขาเมื่อภูวินทร์ดึงกาแฟมาตรงหน้าเธอ
“กินสิ แล้วค่อยพูด”
“ไม่ค่ะ มิลินคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันก่อน…บอส…”
“ทำไม คุณว่ามาสิผมฟังอยู่”
“เราสองคนก็แค่พลาด…ดังนั้นพวกเราลืมมันไปแล้วก็เป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้องเหมือนเดิมนะคะ”
เขายังคงอ่านแฟ้มงานต่อแม้ว่ามือจะเริ่มสั่นเพราะความโกรธกับสิ่งที่เธอพูดแต่เขาเก็บอาการได้ดีจนเธอไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ก่อนจะพ่นลมออกมาทางจมูก
“ลืมเหรอ นี่คุณจะเอาแบบนั้นจริงเหรอ”
“ค่ะ ฉันคิดว่าบอสเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องแบบนี้เพราะ…”
“ว่ามาสิ ผมฟังคุณอยู่”
“เพราะว่าเรา ไม่ได้…ชะ…”
“ปัง!!”
แฟ้มในมือถูกกระแทกลงที่โต๊ะขณะที่เธอกำลังพูดอยู่ เขาเองก็ลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะทำงานทันทีเช่นกันพร้อมกับใบหน้าที่เคร่งขรึมที่มักจะเห็นกันอยู่เป็นประจำ
“เอาแฟ้มงานกลับออกไปบอกทีมของคุณให้แก้งานใหม่นั่นทั้งหมด แล้วอย่าส่งงานชุ่ย ๆ แบบนั้นมาให้ผมอีก ออกไปได้แล้ว”
“คะ?”
“ไม่ได้ยินเหรอผมบอกว่าออกไปได้แล้วยังไงล่ะ เอาขยะนั่นออกไปด้วยให้เวลาแก้สามชั่วโมง บ่ายสองนี้ผมจะเรียกประชุมเตรียมตัวให้พร้อมด้วย”
“ค่ะ จะรีบไปทำเดี๋ยวนี้ค่ะ”
มิลินตั้งตัวไม่ทันกับท่าทางที่เขาเปลี่ยนไปกะทันหัน เธอรีบคว้าแก้วกาแฟซึ่งมีของเขาติดมาด้วยและค่อย ๆ นำมาวางที่โต๊ะทำงานของเขาซึ่งตอนนี้ไม่ได้มองเธออีกต่อไปแล้วแต่สายตาของเขาอยู่กับคอมพิวเตอร์ที่พึ่งเปิดขึ้นมา
“กะ กาแฟค่ะบอส ขอตัวก่อนนะคะ”
ภูวินทร์กดรีโมทที่มือเพื่อปลดล็อกประตูให้เธอออกไป มิลินที่รีบเดินออกไปอย่างรีบร้อนพร้อมกับแฟ้มงานในแผนกที่เอามาวางไว้ก่อนที่เขาจะเข้ามาก็รีบปิดประตูทันที ภูวินทร์หันไปมองประตูที่พึ่งปิดไปอีกครั้งพร้อมกับอุทานออกมาด้วยความโมโหที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“ลืมงั้นเหรอ คิดว่ามันง่ายแบบนั้นเลยงั้นเหรอ”
กาแฟที่เริ่มเย็นแล้วถูกกระแทกลงในถังขยะทันทีเมื่อเธอเดินออกไป
แผนกโปรแกรมเมอร์
“ฟู่ว…. เกือบตายแล้วไหมล่ะ”
“มิลินเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงถูกอีตาบอสถึงได้เรียกไปแต่เช้า”
“นี่ไงสาเหตุ โดนด่าเละเทะเลยเอาไปแก้ด้วย อ้อ บอสโหดนั่นบอกว่าแก้ให้เสร็จบ่ายสองจะประชุม”
""เฮ้อ….""
เสียงของเพื่อน ๆ ในแผนกนั้นไม่บอกก็รู้ว่าอะไรจะรอทุกคนอยู่ตอนบ่ายสอง ทุกคนหันกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองเงียบ ๆ และเริ่มทำงานที่ต้องแก้ทั้งระบบทันที
“นี่มิลินแกไปทำอะไรให้อีตาบอสนั่นไม่พอใจหรือเปล่า”
“พี่อุ่น เมื่อเช้าเห็นเขาขึ้นมากับพี่แล้วไม่ใช่เหรอทำไม…”
“ขึ้นบ้าอะไรล่ะ เขาเดินออกจากลิฟต์ทันทีพอแกบอกว่าจะไปซื้อกาแฟพี่ไลน์ไปแล้วแกไม่ได้อ่านเหรอ”
“ไม่ทันได้อ่านค่ะเขาเดินมาก่อน สยองชะมัด”
“รีบแก้ไขงานเถอะ แต่ของมิลินรอดแล้วนี่ เฮ้อ…ของพี่สิไม่รู้ว่าเขาจะให้แก้ยังไงอีก”
“มิลินช่วยค่ะพี่อุ่น”
“มิลินเธอคือแม่พระมาโปรดแท้ ๆ ช่วยพี่หน่อยเถอะยาไมเกรนพี่แทบจะหมดกระปุกแล้วตั้งแต่บอสย้ายมาคุมแผนกเรา”
บ่ายสอง / ห้องประชุม
“นี่อย่าบอกนะว่าพวกคุณแก้ไขทุกอย่างมาหมดแล้ว”
เป็นไปตามที่คาด ระเบิดย่อม ๆ ลงลงที่ห้องประชุมเล็กของแผนกอีกครั้งกับห้องเย็นที่พวกเขามักพูดกันเพราะมันทั้งหนาวและน่ากลัวเพียงเพราะมีบอสอย่างภูวินทร์
“ระบบมีความผิดพลาดเต็มไปหมด เปิดช่องโหว่ให้เซิร์ฟเวอร์ อนุชิตคุณลืมจุดนี้ไปได้ยังไง”
“ครับบอส ผมจะรีบแก้ไขครับ”
“วาดดาว คุณเองก็ลืมโค้ดการเขียนโปรแกรม แก้มาสองครั้งแล้วก็ยังผิดอีก”
“ขอโทษค่ะบอส จะรีบแก้ไขค่ะ”
“โค้ดของคุณผิดไปแปดตัว คุณเรียนจบมาได้ยังไงกันกับการเขียนโปรแกรมพื้นฐานแบบนี้ยังทำผิดพลาดเอาไปแก้ไขให้เรียบร้อย”
“ค่ะบอส”
“มิลินรดา”
“ค่ะบอส”
เขาหันไปมองหน้าเธอที่หันมาสบตาเขาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ซึ่งเธอนับเป็นคนเดียวในทุก ๆ ครั้งที่เข้าประชุมที่ไม่เคยยอมแพ้เขาสักครั้ง แม้ว่าเธอจะมีฝีมือในการจัดการเรื่องผิดพลาดของแผนก แต่เขากลับหงุดหงิดทุกครั้งเมื่อเห็นสายตาอวดดีของเธอ หงุดหงิดจนอยากจะกินเธอทั้งตัวให้เธอยอมแพ้ในอ้อมกอดเขาเหมือนคืนนั้น
“รวบรวมข้อผิดพลาดนี้และเข้าไปส่งที่ห้องผม วันนี้เราต้องมานั่งแก้ไขด้วยกัน”
“อะไรนะคะ ทำไมต้อง...”
“คุณก็ดูสภาพเพื่อนร่วมงานของคุณแต่ละคนสิ ว่าใครที่มีความสามารถแก้ไขงานนี้ได้อีก อย่าพูดมากแล้วทำตามที่ผมสั่งจะได้ส่งไปให้ฝ่ายอื่นเสียที เลิกประชุม”
ทุกคนค่อย ๆ ทยอยกันออกจากห้องประชุม ภูวินทร์ที่นั่งอ่านแฟ้มงานอยู่ในมือยังคงนิ่งอยู่ซึ่งมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง มิลินเองก็รู้ว่าเขาทุ่มเทกับงานมากแค่ไหนซึ่งเป็นเช่นนี้มาโดยตลอดไม่อย่างนั้นผลประกอบการของบริษัทตั้งแต่ที่เขาเข้ามาดูแลคงไม่พุ่งสูงทะลุเพดานจนเป็นที่ยอมรับขนาดนี้
“มิลินไปเถอะ”
“ค่ะพี่อุ่น”
ดูเหมือนว่าเรื่องเมื่อเช้าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเพราะภูวินทร์ที่ยังคงนั่งเฉยอยู่ในห้องประชุมก็ไม่ได้มีท่าทีที่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยสักนิด เมื่อมิลินและคนอื่น ๆ เดินออกมาจากห้องประชุมและนำงานของแผนกมาตรวจสอบโดยละเอียดก็พบความผิดพลาดหลายจุดอย่างที่บอสเคยพูดเอาไว้ เพื่อนร่วมงานของเธอไม่ละเอียดรอบคอบในการทำงานจริง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้คงจะหลุดรอดออกไปเหมือนกันแต่เพราะไม่ใช่โปรเจคใหญ่จึงยังไม่พบปัญหา
“คิดไม่ถึงว่าแม้แต่จุดเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาก็สังเกตเห็นสมกับเป็นซาตานแห่งวงการจริง ๆ”
ไม่ทันที่เธอจะได้ทำงานต่อเสียงมือถือก็สั่นขึ้นมาพร้อมกับข้อความในไลน์ที่มาจากคนที่เธอไม่รู้จัก
“ผมอยากดื่มกาแฟ เมื่อเช้านี้มันเย็นแล้วลงไปซื้อมาให้ผมด้วย ให้เวลาสิบนาที”
“อะไรวะเนี่ย!!”“มิลิน เป็นอะไรตกใจหมดเลย”ทุกคนในแผนกหันมามองเธอด้วยท่าทางตกใจ อนุชิตนั้นพุ่งน้ำที่พึ่งจิบออกมาจนเลอะหน้าจอเพราะตกใจ เสื้อของเขาเองก็เปียกเพราะหันมามองเธอ“มิลินเราขอโทษที่ต้องให้เธอแก้งานนะ เรายอมรับใช้เธอเลยจะเอาอะไรก็บอกดี ๆ อย่าพึ่งโมโหเลยนะ”“ไม่นะ ไม่ใช่ ๆ ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ ช่างเถอะมิลินจะลงไปข้างล่างไปซื้อกาแฟหน่อยนะคะ”“เราไปด้วย ๆ เราไปช่วยถือนะ”อนุชิตเป็นผู้อาสาเธอจึงเดินมาพร้อมกับเขาและกดลิฟต์ แต่เมื่อประตูลิฟต์เปิดก็ต้องตกใจเพราะคนที่พึ่งเดินออกมาคือบอสหนุ่มกับเลขาของเขา “พัชระ” นั่นเอง“อ้าวมิลินกำลังจะไปไหนกันเหรอ”“ไปซื้อกาแฟครับคุณพัชระ พวกเราขอตัวก่อนนะครับมิลินรีบไปกันเถอะ”อนุชิตคล้องแขนมิลินและรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ที่ทั้งสองพึ่งจะเดินออกมา ภูวินทร์หันไปมองพวกเขาพร้อมกับหรี่ตาเมื่อประตูลิฟต์กำลังปิดแต่มิลินที่ไม่ได้สังเกตเขาเพราะมัวแต่คุยกับอนุชิตที่จับแขนเธอเอาไว้แน่น“ทำอย่างกับหวงแฟน ตาอนุชิตนี่ก็แปลกนะทำนัวเนียกับคุณมิลินแบบนี้ไม่กลัวเป็นข่าวหรือไงนะหรือว่า... สองคนนั้นคบกันแล้วเหรอครับ”“หุบปากไปเถอะน่ะ เตรียมข้อมูลที่จะไปพบลูกค้าหรือยัง”“ยัง
“อะไรนะคะ”“กลับบ้านไง หรือคุณอยากจะนอนที่นี่ล่ะ”“กลับค่ะ กลับบ้านค่ะรถไฟฟ้าใกล้จะหมดแล้วด้วยต้องรีบ…”“ผมว่าผมบอกคุณชัดเจนแล้วนะว่าจะพาไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน”“เอ่อ…”“เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยแก้งานนี้ให้ พรุ่งนี้จะได้นำไปส่งแผนกซอฟต์แวร์ต่อ”“ค่ะ”“อย่าได้คิดแผนที่จะหนีอีกล่ะ ผมจะไม่ยอมให้จบเหมือนเมื่อเช้าวันเสาร์แน่”เขากระซิบบอกเธอก่อนจะเดินไปหยิบสูทของตัวเองมาสวมอีกครั้งและรอเธอเก็บของและปิดคอมพิวเตอร์ของเขา เมื่อเก็บของเสร็จแล้วเธอก็เดินตามเขาออกมาจากห้องซึ่งด้านนอกไม่มีคนอยู่แล้ว ลิฟต์จึงมีเพียงพวกเขาที่ใช้ในการโดยสารลงไปยังลานจอดรถร้านอาหาร“อาหารอร่อยไหม พอกินได้หรือเปล่า”“อร่อยหมดทุกอย่างเลยค่ะ คิดไม่ถึงเลยนะคะว่าบอสจะรู้จักร้านอาหารที่อร่อย ๆ มากแบบนี้ พาแฟนมากินบ่อยเหรอคะ”“แฟน? ผมไม่มีแฟน ถ้าแค่คู่นอนล่ะก็พอมีจบภารกิจก็แยกย้าย”“แคก แคก”“เป็นอะไร สำลักเหรอทำไมรีบกินแบบนี้ล่ะ”เขาขยับเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เธอเพื่อจะลูบหลังให้ และค่อย ๆ รินน้ำเปล่ายื่นมาให้เธอ“ดื่มเข้าไปหน่อย กินอะไรเข้าไปถึงได้สำลัก ก็ไม่มีอะไรเผ็ดนี่”มิลินตอบไม่ได้เพียงแค่นึกในใจเท่านั้นว่าที่เธอ
“อะ อะไรนะคะ”“หรือจะให้ผมทำอีกรอบคุณถึงจะ...”“เดี๋ยวนะคะบอส คือว่าเรื่องนี้มิลินยังไม่…”ภูวินทร์เองก็ชะงักไปเล็กน้อย นี่เธอคงไม่ถึงกับจะปฏิเสธเขาหรอกมั้ง ทั้ง ๆ ที่เธอกับเขาแนบชิดสนิทสนมกันขนาดนี้และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาพาผู้หญิงมาที่นี่ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา“คุณจะปฏิเสธผมเหรอ”“คือว่า อ๊าา!!”เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ อย่างน้อยวันนี้เขาก็ไม่อยากจะฟังเพราะเขาต้องการครอบครองและเป็นเจ้าของ เขาไม่เคยต้องการอยากได้ผู้หญิงคนไหนมากกว่ามิลินรดาแบบนี้มาก่อน ทั้งอยากได้และอยากเห็นเธออยู่ในสายตาตลอดเวลาจนไม่อยากฟังคำว่า “ไม่” ที่จะออกจากปากของเธอ แม้ว่าจะไม่ยอมรับวันนี้แต่เขามีวิธีอีกมากมายที่จะทำให้เธอยอมรับเขาให้ได้“เบาก่อนค่ะ เจ็บ…อ๊ะ!!”ลิ้นหนาโลมเลียยอดอกสีอิ่มจนเปียกชุ่ม ปากของเขาเผลอขบเม้มรุนแรงตามแรงกระแทก มิลินเองก็กระดกสะโพกรับเขาอย่างเผลอตัวเพราะความเสียวที่เขาเชิญชวน “เพี๊ยะ!!”“อ๊าา!!!”เสียงฝ่ามือฟาดไปที่บั้นท้ายงอนงามนั้นทำเอาใจสาวสะดุ้งและตื่นเต้นไม่น้อย เธอบอกไม่ได้ว่ามันดีหรือไม่แต่ก็ไม่รังเกียจที่เขาจะทำ เสียงของลำเอ็นที่กระแทกถี่ ๆ จนเธอมองอะไรไม่เห็นนอกจากขอบหัวเต
เธอรู้สึกว่าการเชื้อชวนนี้ได้ผลเพราะลำเอ็นที่ใช้หน้าอกนวดอยู่นั้นกำลังแข็งตึงเพิ่มขึ้นเมื่อเธอพูดจบ ภูวินทร์ดึงเธอมาจูบอย่างกระหาย เขาไม่เคยรู้สึกอยากกินใครเท่าเธอมาก่อน ทำไมกินเท่าไหร่ก็ไม่พอเสียทีทั้ง ๆ ที่ควรจะเบื่อแต่เขากลับต้องการเธอมากขึ้น ๆ จนไม่มีขีดจำกัดและไม่อยากให้เธออยู่ห่างเขาเลยแม้แต่นาทีเดียว“อ๊ะ บอสคะ”“ถ้าเรียกบอสอีกทีผมจะไม่ให้คุณได้นอนเลยคอยดู”“จะไปไหนคะ”“คุณบอกว่าจะไปต่อที่เตียง”“แต่ตัวมิลินเปียก”“ไม่เป็นไร ห้องนอนเล็กยังว่าง เราไปนอนที่นั่นได้แต่ตอนนี้ผมต้องการคุณ”“บอสยังกินไม่อิ่มเหรอคะ”“ไม่น่าถาม”เธอถูกเขาอุ้มมาพร้อมกับเสื้อคลุม แม้จะโพกหัวที่เปียกมาแต่ก็ไม่อาจทนรอเวลาได้ เขาทิ้งร่างของเธอบนเตียง มือควานหาสิ่งที่ต้องการและสวมเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะพุ่งกายเข้าไปจนเธอครางออกมาด้วยความสุขสม เมื่ออาบน้ำเสร็จก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มพลังชีวิตให้มิลินได้อีกนิดหน่อย เขาคงต้องรีบเพราะเธอเองคงต้องพักผ่อนแล้ว แม้ว่าจะให้เธอหยุดงานแต่เขาจะกินมูมมามแบบไม่ยั้งอย่างนี้คงไม่ได้“อ๊าา พี่ภูคะ ใกล้แล้วกระแทกมาอีก ถี่อีกเร็ว ๆ เข้า”“อาา…ร้อนแรงจังนะ”“อื้อ เสียว เสียวมาก ทนไ
ภูวินทร์นอนดิ้นอยู่ที่เตียง ที่จริงเขาเป็นคนตื่นเช้าอยู่แล้วแต่วันนี้เมื่อมีมิลินอยู่ด้วยเขาก็แค่อยากนอนคลอเคลียกับเธอไปเรื่อย ๆ แบบนั้นเอง ซึ่งเรื่องแบบนี้เขาไม่เคยคิดอยากจะทำกับใครมาก่อนเพราะก่อนหน้านั้นคู่นอนของเขาแต่ละคนเมื่อจบภารกิจก็กลับมาพักทันทีโดยทุกอย่างจะจบที่โรงแรมและการจ่ายเงินก้อนโตให้พวกเธอและเขาจะเรียกก็ต่อเมื่อต้องการปลดปล่อยเท่านั้น“โธ่เว้ย!!”เขานึกโมโหที่เธอไม่เป็นอย่างที่เขาต้องการแต่คงต้องนิ่งเอาไว้เพราะเขาเองก็เป็นอย่างที่เธอพูดเช่นกัน ก่อนหน้านั้นสำหรับเธอภูวินทร์คือบอสใจโหดที่คอยจับผิดลูกน้องอย่างที่ทุกคนในแผนกรับรู้ มีเหรอที่เธอจะคุ้นเคยกับท่าทางเผด็จการอย่างเขา ภูวินทร์ลุกขึ้นไปอาบน้ำเพื่อให้อารมณ์เย็นลงซึ่งเขาใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะแต่งชุดอยู่บ้านสบาย ๆ ออกมาจากห้อง และเมื่อเดินออกมาก็ได้กลิ่นหอมของอาหารซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในห้องนี้ หัวใจเขาพลันอบอุ่นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นมิลินในชุดคลุมอาบน้ำและกำลังทำบางอย่างที่เคาน์เตอร์ครัวที่เขาไม่เคยไปแตะต้องเลย“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอคะ อาหารเช้าเสร็จพอดีคุณจะรับกาแฟหรือขนมปังกับชาร้อนดีคะ”“เอ่อ…นี่คุณทำอาหารเช้าเ
“คุณภู!!” “ก็คุณบอกเองว่าไม่อยากใส่นี่นา”“คุณออกไปเลยนะ”“อ้าวมิลินนี่ห้องของผมนะ นั่นก็ชุดของผมแล้วก็…คนนี้ก็ของผม”เสียงที่เขาพูดในประโยคสุดท้ายทำเอาใจคอเธอวาบหวิวและนึกอยากจะทำอย่างอื่นมากกว่าออกไปซื้อของกับเขาเสียอย่างนั้น สงสัยเธอจะบ้าไปแล้วแค่เขาพูดแค่นี้ก็หวั่นไหวและตามอารมณ์เขาไป“พอทีเถอะค่ะ อย่าล้อเล่นแบบนี้ออกไปก่อนค่ะมิลินจะเปลี่ยนชุด”“ไม่ต้องเปลี่ยนหรอกน่าเสียเวลารีบไปเถอะจะได้รีบกลับ”“กลับ? แต่มิลินต้องกลับบ้านนะคะ”“หืม ก็ไม่ได้บอกนี่ว่าไม่ให้กลับ”“คุณ!!”“เอาน่า ๆ ชุดพวกนี้ผมเตรียมเอาไว้เพื่อคุณ คุณไม่ได้สังเกตเหรอว่าชุดชั้นในนั่นไม่ใช่ของเก่าแต่เป็นของใหม่ ส่วนชุดพวกนี้ก็ตัดมาเพื่อคุณ ผมถึงได้เข้ามาดูว่าคุณใส่พอดีหรือเปล่า”“อะไรนะคะ”มิลินรีบหันกลับไปที่หน้ากระจกเพื่อปิดบังรอยยิ้มเอาไว้ทันที คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้เพื่อเธอ แล้วแบบนี้เธอจะทนได้อีกนานแค่ไหนกันนะ ถ้าหากเขากลายร่างจากบอสจอมโหดนั่นเป็นแมวน้อยขี้อ้อนแบบนี้ มีหวังเธอคงได้ตกอเวจีมดของเขาเป็นแน่“ไปกันได้หรือยังครับ อย่ามัวแต่เขินอยู่เลยน่า”“เปล่าเขินเสียหน่อย!! เราจะไปไหนกันคะ”“ไปซื้อของน่ะสิ ถุงยาง
“อะไรนะคะ”“ลงมาสิ”มิลินรู้สึกแปลกใจไม่น้อยแต่ก็ยอมตามเขาลงไปเมื่อบอสของเธอเปิดท้ายรถเพื่อนำถุงที่ซื้อมาลงมาส่วนหนึ่งเธอจึงหันไปช่วยหยิบในส่วนของเธอแต่กลับถูกเขาดึงมือขึ้นมา“จะทำอะไร”“ก็ช่วยถือของไงล่ะคะ”“ไม่ต้อง ผมเอาที่ต้องใช้ลงมาหมดแล้ว”“เอ่อ แล้วที่เหลือ…”“ใครบอกจะให้คุณเอาลงที่นี่”“บอสคะ นี่มัน...”“เร็ว ๆ เข้าผมหนักนะไหนจะของสดของคุณนี่อีก รีบไปเปิดประตูให้ผมได้แล้ว”มิลินเดินนำทางเขาเข้าไปตึกที่พักเมื่อเธอใช้กระเป๋ายกขึ้นเพื่อให้คีย์การ์ดในกระเป๋าทำงานประตูก็เปิดออกมาพร้อมกับ รปภ. ที่ยืนทักทายเธออยู่“อ้าวหนูมิลินวันนี้ไม่ได้ไปทำงานหรอกเหรอ”“ลุงสม วันนี้ไม่หยุดเหรอคะ มิลินมีธุระนิดหน่อยขอตัวก่อนนะคะ”“ครับผม ๆ เดี๋ยวผมกดลิฟต์ให้นะครับ”“ขอบคุณค่ะ”เธอยิ้มให้กับ รปภ. หน้าตึกเมื่อภูวินทร์เห็นก็หันไปค้อนให้เธอที่มักจะยิ้มและทักทายคนไปทั่วซึ่งแม้ว่าจะเป็นเรื่องดีแต่เขาก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่“แฟนคุณมิลินหล่อเหมือนดาราเลยนะครับ เชิญครับ ๆ”“ขอบคุณนะครับที่ช่วย มิลินไม่ค่อยชอบให้ผมมาที่นี่เท่าไหร่ก็เลยไม่ค่อยมีโอกาสได้พบกัน”“ครับ มาบ่อย ๆ นะครับผมไม่เคยเห็นคุณมิลินพาใครมาที่นี่
มิลินไม่ตอบแต่เดินออกไปข้างนอกและเดินถือกล่องคอนดอมที่เขาซื้อมายกแผงนั่นออกมาและใช้ปากแกะออกมาพร้อมกับเดินมาสวมให้เขาทันทีและเริ่มสอดใส่เข้ามาในตัวเธอ“อ๊าา เสียวจัง ใหญ่มากเกินไปแล้ว อื้อ….”“เพี๊ยะ!!”“อ๊าา มิลิน!! คุณตีผม”“อย่าดื้อ…เชื่อฟังดี ๆ ไม่งั้นจะโดนเข็มขัดฟาดแทน อ๊าา เสียวจัง”เขามองราวกับไม่เคยรู้จักเธอมาก่อนและเริ่มปรับตัวได้แล้วว่าเธอต้องการควบคุมเขา ดังนั้นมีเหรอที่เขาจะยอมแพ้ เมื่อเธอเสร็จไปรอบแรกเพราะเสียงกรีดร้องนั่นเขาก็จับร่างเล็กลงมาและกระแทกซ้ำเข้าไปทันทีโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว“อ๊าาา เดี๋ยวก่อน ยังไม่…แฮก แฮก…อ๊าา เสียว…”“เพี๊ยะ!!”“อ๊าาา คุณตีมิลินทำไม”“อย่าดื้อสิ คืนนี้ผมจะสอนว่าการควบคุมเกมเขาทำกันยังไง”“อ๊าา ภูคะ อ๊าา เสียว ถี่ขึ้นอีกสิคะ ขอแรงกว่านี้ อ๊าา!!!”ศึกของทั้งคู่คงไม่จบลงง่าย ๆ เพราะคืนนี้ดูเหมือนว่าภูวินทร์เตรียมตัวมาอย่างดีอีกทั้งเครื่องป้องกันซองแล้วซองเล่าที่ค่อย ๆ ถูกถอดออกมาใช้ ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะไม่มีใครยอมใครเลยเหมือนกัน“อือ…เสียว รอก่อนค่ะ อ๊ะ แบบนั้นแหละค่ะ อ๊าา”“มิลิน คุณเก่งมากเลย อาาา ที่รักผมไม่ไหวแล้ว….”“อ๊าา แรงกว่านี้อีก
ห้องพักคู่บ่าวสาว“อ๊าา เดี๋ยวก่อนค่ะที่รัก ยังไม่ได้ถอดชุด”“ผมไม่สน ที่เราเลือกชุดสั้นแบบนี้ก็เพื่อให้สะดวกแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ อาา เสียวจัง หันมาหน่อยสิผมยังจูบไม่พอเลย”“อื้อ…เสียว เบาหน่อยค่ะ อ๊ะ”แต่แรงอัดกระแทกด้านหลังไม่ได้เบาลงเลย ยิ่งเห็นเธอในชุดเจ้าสาวแบบนี้จิตใจเขาก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะมันกระตุ้นอารมณ์เขาได้มากกว่าชุดปกติ “ถอดยากนักก็ต้องทำแบบนี้แหละ”“อื้อ อ๊าา บีบแรง ๆ ค่ะ อ๊าา”เจ้าสาวถูกยกสะโพกขึ้นเพื่อรับแรงอัดกระแทกที่แรงขึ้น มิลินยังไม่ได้ไปถึงเตียงด้วยซ้ำ เพราะเข้าประตูมาได้เจ้าบ่าวก็รีบจัดการเธอทันที ตอนนี้ทั้งคู่ยังอยู่แค่ประตูห้องส่งตัวยังไม่ได้แตะต้องเตียงที่ปูไปด้วยกุหลาบนั่นเลย“ซี๊ด…อ๊าา!! จะเสร็จแล้วค่ะ ที่รักเร็วค่ะ”ภูวินทร์อัดกระแทกแรง ๆ เน้น ๆ เข้าไปอีกครั้งตามที่หมอตะวันแนะนำเพราะเขาให้เธอหยุดกินยาคุมแล้วเพื่อจะได้ปั๊มลูกโดยไม่พักเพราะเขาเห็นหมอตะวันเล่นกับลูกชายแล้วนึกอยากจะมีเป็นของตัวเองบ้าง“ขนาดเลือกแบบง่าย ๆ แล้วยังถอดยากอีก ฉีกเลยดีไหม”“ไม่ได้นะ!! มันแพง”“ที่รัก ผมซื้อให้ใหม่ก็ได้”“ไม่ได้!! ถอยไปเลย”เมื่อถูกภรรยาดุ ภูวินทร์ก็ได้แต่ทำห
บนเรือสำราญ / เกาะพีพี“ยอดไปเลยนะ สมกับเป็นบอสจริง ๆ จัดงานแต่งทั้งทีธรรมดาไม่ได้เลย สมกับเป็นเจ้าพ่อวงการธุรกิจไอที”“พี่อุ่นก็อยากแต่งงานเหรอคะ”“บ้าน่าพิมพ์พี่เลยจุดนั้นมานานแล้ว คงไม่มีใครมาจีบหรอกอยู่เป็นสาวทึกกับพวกเธอนี่แหละ”“แหม คุณอุ่นก็พูดเกินไป ยังสาวยังสวยอยู่อย่าตัดพ้อแบบนั้นสิครับว่าแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวยังไม่เข้ามาอีกเหรอครับเรือออกจากฝั่งนานแล้ว”“รออีกหน่อย ยังไม่ถึงฤกษ์เลยพวกเราก็ไปเตรียมประจำที่เถอะ”พนักงานของพีวี กรุ๊ปทยอยกันมาที่ดาดฟ้าเรือสำราญหรูที่ภูวินทร์เหมาลำสำหรับสองบริษัทมาพักและร่วมพิธีแต่งงานของเขาและมิลินรดา ทั้งพีวี กรุ๊ปและเอส กรุ๊ปที่รวบกิจการเข้าด้วยกันและยังมีตะวันและตันหยงที่มาพร้อมกับวัชระกับแคทที่กรี๊ดทุกครั้งที่เห็นภูวินทร์จนวัชระค้อนไปหลายรอบ“ที่รักคุณไหวหรือเปล่า เมาเรือไหมผมเป็นห่วง"“คุณลืมไปแล้วเหรอคะว่าคุณก็เคยพาหยงไปขอแต่งงานบนเรือมาเหมือนกันแค่นี้สบายมากค่ะ”“แต่ตอนนี้เหมือนกันที่ไหน คุณท้องอยู่นะครับถ้าเวียนหัวก็รีบบอกนะผมเอายาดมมาให้ด้วย”“คุณก็ยังเหมือนเดิมจริง ๆ นะคะหมอ หยงไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” "แล้วนี่ตาภูผาไปไหนแล้ว”“อยู่กับคุณแ
ภูวินทร์ดึงเธอขึ้นมาและจับขึ้นไปวางที่โต๊ะทำงานใหม่ของเธอ มิลินอ้าขาให้เขาทันทีเพื่อให้เขาจัดการกับชั้นในตัวจิ๋วที่เขาเลือกซื้อให้เอง เมื่อมองเห็นภูวินทร์ก็แทบจะทนไม่ไหวที่จะใช้นิ้วลากไล้ไปมาจนมิลินแอ่นรับสัมผัส“อ๊าา อย่ากระตุ้นสิคะ มันเสียว”“แฉะขนาดนี้จะใส่ได้อีกไหมนะ ถอดออกก่อนก็แล้วกันเดี๋ยวทำความสะอาดให้”“อ๊าา”เมื่อพูดจบก็ลงมือทำทันที บอสจอมโหดยังไม่ทิ้งลายความเด็ดขาดเมื่อต้องการรุกฆาตเหยื่อ ลิ้นและนิ้วของเขายังสร้างความเสียวให้เธอไม่ขาดจนน้ำหวานเริ่มไหลออกมาและก่อนที่จะเลอะเขาก็จัดการพามังกรยักษ์สอดเข้าไปทันที“อู๊วว…เสียวจัง เบาหน่อยนะคะเดี๋ยวข้างนอก…”“ไม่ได้ยินหรอก คุณคิดว่าห้องทำงานผมไม่เก็บเสียงเหรอ ผมออกแบบเองเชียวนะไม่มีทางปล่อยผ่านเรื่องนี้ได้หรอกน่าวางใจได้”“คุณมันร้ายกาจ อ๊าา”แรงอัดกระแทกทำเอาโต๊ะทำงานใหม่เกือบจะล้มเขาจึงพาเธอกลับมาที่โซฟาตัวเดิมที่เคยเป็นเตียงแรกของทั้งสอง เมื่อเริ่มกระแทกมิลินก็เริ่มครางดังขึ้นอีกครั้ง“อาา เสียวมาก อ๊าา ท่านี้เสียวไปแล้วที่รักคะ เร็วหน่อย”เขาเองก็รู้ว่าตอนนี้คงจะทำนานไม่ได้เหมือนกับที่คอนโดเพราะยังมีภารกิจต้องไปทำอีกหลายที่ เม
อุณหภูมิของน้ำในอ่างจากุชชี่สุดหรูแม้ว่าจะอุ่นแต่ก็สู้ความเร่าร้อนของคนทั้งสองที่แช่อยู่ไม่ได้ แม้ว่ามิลินจะดีขึ้นแล้วแต่ก็ยังมีปลาสเตอร์กันน้ำอยู่ที่หน้าผาก ภูวินทร์ที่เฝ้าระวังอยู่ก็อ่อนโยนกับเธอมากกว่าครั้งไหน ๆ เพราะเขาพึ่งสังเกตเห็นรอยช้ำตามตัวของเธอ“ไอ้สารเลวนั่น…”“ลืมมันไปเถอะนะคะ มันจบแล้วตอนนี้คุณสนใจแค่มิลินก็พอ ได้ไหมคะบอส”“ผมบอกแล้วว่าถ้าคุณเรียกผมว่าบอส ผมจะจัดการคุณ”“อ๊าา ภูคะ อื้อ เสียวจัง นิ้วคุณซนเกินไปแล้ว อ๊าา ลิ้นด้วย อ๊าา”ลิ้นของภูวินทร์วนไล้ไปทั่วรอบ ๆ ราวหน้าอกอวบที่ตอนนี้กลับมาเนียนขาวอีกครั้งหลังจากที่เขาไม่ได้รังแกเธอมาหลายวัน ตอนนี้เขาไม่ต้องใช้เครื่องป้องกันแล้วเพราะมิลินตัดสินใจเปลี่ยนไปกินยาคุมแบบรายเดือนแทนซึ่งนั่นก็นับว่าสะดวกกับทั้งคู่มากเพราะมิลินไปปรึกษาตะวันมา เขาจึงแนะนำให้เธอกินยาแบบแผงที่ช่วยเรื่องผิวพรรณเพราะมิลินไม่ชอบวิธีการฉีดยาคุมแบบรายเดือน“มิลินผมจะทนไม่ไหวแล้ว ขอตอนนี้ก่อนได้ไหมมันจะแตกแล้ว”“อือ ได้ค่ะ โอ๊ะ!! เข้ามาเร็วจัง ซี๊ด…แน่น!!”“มันคงคิดถึงกันน่ะสิเพราะไม่ได้เข้าไปนานหลายวัน”“อื้อ ทะลึ่ง อ๊าา เสียว ที่รักคะขยับเร็วขึ้นอีก
มิลินและภูวินทร์หันไปมองที่จอมอนิเตอร์ก็ต้องตกใจทันทีเพราะตัวคนที่พูดในตอนนี้อยู่ญี่ปุ่นกับแฟนสาวซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตันหยงนั่นเอง"พี่วัชระ เป็นพี่เองเหรอคะเนี่ย!!”“ยังดีที่ไม่เรียกว่าแฮกเกอร์โนเนม เชอะจะงอนแล้วนะ นี่ตันหยงน้องสายรหัสคุณนี่ร้ายชะมัดเลยกล้าบอกว่าผมเป็นแฮกเกอร์โนเนม”“พี่วัชระคะ ถ้าเทียบกับบลูเดวิล ยังไงพี่ก็โนเนมสำหรับมิลินอยู่ดีแหละค่ะ”“อะไรนะ!! เดี๋ยวก่อนนะเมื่อกี้พูดว่าบลูเดวิลเหรอ!! ตัวจริง ตัวเป็น ๆ น่ะเหรอไม่จริงน่าเขาคือใครกันน่ะ”ภูวินทร์ยื่นหน้าเข้าไปในจอ วัชระถึงกับกะพริบตาถี่ ๆ เข้ามาหน้ากล้องด้วยความอยากรู้อย่างที่สุด เพื่อมองให้ชัดอีกครั้งเพราะเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากรู้ตัวจริงของ “บลูเดวิล” มาโดยตลอด“สวัสดีครับคุณวัชระ ผมภูวินทร์เองครับหรือที่พวกคุณรู้จักในนาม…”“โอ้มายก็อด!! ใช่จริง ๆ เหรอ บลูเดวิลเทพแห่งเซิร์ฟเวอร์คนนั้น ที่รัก!! เร็ว ๆ เข้ามานี่เร็ว วันนี้เราจะได้เห็นหน้าจริงของบลูเดวิล”“อะไรนะคะ!! เมื่อกี้คุณพูดว่าบลูเดวิลเหรอ”เสียงโวยวายของผู้หญิงด้านหลังเขารีบตะโกนมาเมื่อรู้ว่าคนที่พูดอยู่คือใคร “แคท” เพื่อนสนิทของตันหยงวิ่งมาที่หน้าจอพร้อม
ทุกคนหันไปดูที่จอใหญ่อีกครั้ง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้จิตราแทบอยากจะเดินไปบีบคอภูวินทร์ให้ตายคามือ เอกสารสร้างหุ้นและเงินทุนปลอมและจำนวนเงินที่หุ้นส่วนแต่ละคนนำมาลงทุน“เห็นความผิดปกติอะไรไหมครับ ทุกคนพร้อมที่จะร่วมลงทุนในโปรเจคที่มิลินรดาคิดขึ้นมาแต่มีสองแม่ลูกที่มีเพียงรายชื่อและจำนวนเงินที่ไม่ได้ลงเงินจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่หุ้นส่วนแต่ละคนได้วางเงินลงทุนของตัวเองจนครบ ขาดก็แต่…”“ขาดคุณจิตราและคุณศิระ”คุณจิตรา!! ผมต้องการคำอธิบาย"บอร์ดบริหารที่นั่งโต๊ะเดียวกับจิตราเริ่มหันมาเอาเรื่องเธอเองหลังจากที่ภูวินทร์แสดงเอกสารออกมา“ไม่ใช่แค่นั้น เดิมทีเธอและลูกชายทำหน้าที่ดูแลก็จริง แต่เงินที่ใช้บริหารกลับดึงมาจากส่วนกลางและผู้บริหารคนอื่น ๆ ก็ไม่เคยทราบเลยว่า…ผลประโยชน์ที่ได้นั้นไม่ได้มีสัดส่วนที่เป็นธรรมตั้งแต่แรก”จอเปลี่ยนไปอีกครั้ง ผลกำไรและเม็ดเงินที่เข้าบัญชีของสองแม่ลูกนั้นแตกต่างกับสัดส่วนกำไรของคนอื่น ๆ ที่ได้รับอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้คณะบอร์ดของเอส กรุ๊ปเริ่มลุกขึ้นและหันมาเอาเรื่องจิตราและศิระที่นั่งตัวงออยู่ข้าง ๆ“แก!! เรื่องที่ระบบเซิร์ฟเวอร์ของฉันถูกทำลายก็เป็นแกที่ทำขึ้นมาใช่ไหม”
มิลินรดาเดินมาพร้อมกับภูวินทร์ที่คอยพยุงเธอ ชัตเตอร์หันไปรัวภาพทั้งคู่เมื่อเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับจิตราที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะแถลงข่าว แม้ว่าสีหน้าจะไม่แสดงอาการแต่เธอก็กำหมัดแน่น ส่วนศิระเมื่อเห็นมิลินอีกครั้งเขาก็รีบหลบสายตาทันทีพร้อมกับหันมามองที่แม่ของเขา“แม่ครับ”“อยู่นิ่ง ๆ ฉันสั่งให้คนลบทุกอย่างจากกล้องวงจรปิดไปแล้วมันจะมีหลักฐานที่ไหนเอาผิดแกได้”“ฉันมิลินรดา คนที่คุณจิตราใส่ความว่าเป็นคนทำลายระบบเซิร์ฟเวอร์ของเอส กรุ๊ป”“เอาล่ะค่ะในเมื่อคู่กรณีมาแล้ว ขอถามได้ไหมคะว่าวันนั้นที่เกิดเรื่องขึ้นคุณได้ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าทำร้ายคุณศิระจริงหรือไม่คะ”มิลินรดากับภูวินทร์หันไปมองรสาที่ยืนยิ้มให้กับทั้งคู่เมื่อถามคำถามนี้ขึ้นมา มิลินยิ้มกลับให้เธอและพูดขึ้นมาทันที“ใช่ค่ะ ฉันยอมรับว่าใช้เครื่องช็อตไฟฟ้านั่นทำร้ายเขาจริง ๆ แต่เรื่องมันไม่ได้เริ่มต้นเหมือนกันที่คุณจิตราได้เล่าให้พวกคุณฟังเลยแม้แต่น้อย”นักข่าวเริ่มหันมาทางมิลินโดยที่จิตรายังนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ“คุณเล่าให้ฟังได้ไหมคะว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น”“ได้ค่ะ วันนั้นหลังจากเลิกประชุมโปรเจคสำคัญของบริษัทซึ่งฉันรับหน้าที่เป็นหัวหน้าดูแ
ภูวินทร์และมิลินรดาพักอยู่ที่คอนโดของตะวันยับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น แม้ว่าภูวินทร์จะเข้าบริษัททุกวันแต่ก็ไม่ลืมที่จะโทรมาถามมิลินสามเวลาหลังอาหารอีกทั้งตอนนี้งานที่พีวี กรุ๊ปก็หนักมากจนอนุชิตแทบจะร้องขอชีวิต“บอสครับ เหลืออีกสองที่สุดท้ายแล้วครับ”“ขอบใจมากนะอนุชิต หลังจากงานนี้แล้วผมคงต้องเพิ่มเงินและวันหยุดให้พวกคุณแล้วล่ะ”“ตอนนี้ผมแค่ขอเวลาได้นอนเกินสี่ชั่วโมงก็พอแล้วครับ รอให้ผ่านวิกฤตินี้ไปได้แล้วค่อยว่ากันครับบอส”“ฝากคุณด้วยนะ คุณอุ่นล่ะ”“อ้อ ไปอีกที่หนึ่งครับ เธอฝากเอกสารนี้มาให้บอสด้วยครับ”“ขอบใจมากนะ”“งั้นผมไปก่อนนะครับ”“ให้คนขับรถไปให้นะ ผมเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย”“ขอบคุณครับบอส”อนุชิตเดินออกไปพร้อมกับคนขับรถบริษัท ตอนนี้โปรแกรมเมอร์ในพีวี กรุ๊ปจะมีคนขับรถและบอดี้การ์ดส่วนตัวคอยคุ้มกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา แม้ว่าภูวินทร์จะไม่ใช่เจ้าพ่อมาเฟียเหมือนหมอตะวันแต่เขาเองก็มีเพื่อนในวงการนี้อยู่พอสมควรที่จะเรียกใช้งานได้โรงพยาบาล“คุณหมอคะ อาการที่เขียนมานี่มันเบามากเลยนะคะ ลูกชายฉันบาดเจ็บหนักเพราะโดนเครื่องช็อตไฟฟ้าเลยนะคะ เขาเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้เลยทำไมคุณหมอเขีย
“ค่ะ มิลินจะไม่กลับไปอีกแล้ว”“คุณนอนพักสักหน่อยนะ แผลของคุณยังเจ็บอยู่ไหม ผ้าพันแผลนี่แน่นเกินไปหรือเปล่า”“ไม่ค่ะ คุณกอดมิลินหน่อยสิคะ”“มาเถอะ พักสักหน่อยนะไม่ต้องห่วงนะมีผมอยู่ไม่มีใครกล้าแตะต้องคุณได้”“มิลินทำสำเร็จแล้วใช่ไหมคะ ใกล้จะจบแล้ว”“ใช่ มันใกล้จะจบแล้วล่ะ”เอส กรุ๊ป“ท่านประธานคะติดต่อคนแก้ไขเซิร์ฟเวอร์ได้แล้วค่ะ แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่ญี่ปุ่นค่ะ”“ดีมาก ฉันคุยเอง”จิตราระดมคนที่มีความสามารถเพื่อหาแฮกเกอร์แทนที่จะหาคนที่แก้ไขงานระบบและสุดท้ายเธอก็ได้มาคนหนึ่งแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเมืองไทยแต่คนนี้เป็นแฮกเกอร์มืออาชีพที่เคยดูแลระบบให้มาเฟียต่างประเทศที่หาตัวจับยากซึ่งโปรแกรมเมอร์ของเธอแนะนำมา“ใช่ค่ะ ปัญหาที่เราพบอยู่ตอนนี้เป็นแบบนี้คุณพอจะช่วยได้ใช่ไหม เยี่ยมเลยค่ะถ้าอย่างนั้นฉันจะส่งข้อมูลไปให้คุณ…อะไรนะ สามล้าน”“ครับ สามล้านดอลล่าห์ต่องานหนึ่งครั้ง”“ดอลล่าห์?”“ครับ ถ้าไม่พร้อมก็ไปคิดดูก่อนได้”“แล้วถ้าคุณทำไม่สำเร็จล่ะ เงินที่ฉันจ่ายไปไม่สูญเปล่าเหรอ”“นั่นก็แล้วแต่คุณ การแก้ไขระบบเองก็มีความเสี่ยง ไม่มีใครรู้ว่าระบบคุณถูกโจมตีด้วยอะไร ใครแต่ผมสามารถหาคนที่ทำและจัดการมัน