“แต่...ต้าหวังบอกว่าหากยังไม่กลับต้าหวังจะมาตามที่ตำหนักบูรพา”
ลี่กังเลิกคิ้วสูงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เจิ้งจินเทาไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องเช่นนี้เป็นแน่
“ข้าว่าเจ้ากลับไปก่อนดีกว่า ข้าให้ขันทียกเครื่องเสวยอีกชุดตามไปที่เรือนรับรอง”
“ข้าอิ่มแล้ว แต่ยังไม่อยากกลับ”
หลินฮวาพูดขึ้นดังๆ เมื่อเห็นว่าร่างสูงยืนอยู่ข้างนอกประตูนั้นเป็นของเจิ้งจินเทา พูดยังไม่ทันขาดคำร่างสูงก้าวยาวๆ เข้ามาในตำหนักบูรพา
“อาเล็ก ช้าก่อนอย่าเพิ่งโมโหไป”
เจิ้งลี่กัง เข้าขว้างเจิ้งจินเทาที่ก้าวเท้าเข้าหาหลินฮวา
“ไท่จือนางกำลังจะแต่งเข้าจวนข้า ถือว่าเป็นคนของข้าครึ่งหนึ่งแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องภายใน”
คว้าแขนหลินฮวาลากออกจากตำหนักบูรพาไป
หลินฮวาขืนตัวไว้สุดแรงแต่รูปร่างเมื่อเทียบกันแล้ว อย่างไรจะสู้กำลังเขาได้
“ปล่อยเลยนะ ข้ากำลังจะแต่งแล้วก็ยังไม่ได้รับปากว่าจะแต่ง เช่นนั้นข้ายังไม่ได้เป็นคนของท่าน หากเรื่องที่ท่านข่มเหงกัน รู้ไปถึงฝ่าบาทข้าก็อาจหาข้ออาจปฏิเสธที่จะแต่งได้”ปล่อยมือแต่กลับซ้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน
“เจ้ากล้าหรือ”หลินฮวาตกใจไม่น้อย ขันทีนางในต่างจ้องมอง เจิ้งลี่กังวิ่งตามออกมา
“อาเล็ก ได้โปรดอย่าทำอะไรนาง หลานผิดเอง หลานเป็นคนชวนนาง”
เจิ้งลี่กังรู้ดีว่าหากใครทำให้ เจิ้งจินเทาที่ดังเสือหลับถูกปลุกขึ้นมาผลจะเป็นเช่นไร
“ไท่จือท่านก็ควรกลับไปนอนเสียดึกมากแล้ว เรื่องนี้ข้าบอกแล้วเป็นเรื่องระหว่างข้ากับนาง”
สาวเท้าเดินตัวปลิวกลับไปยังจวนอ๋อง ทั้งๆที่อุ้มหลินฮวาอยู่
เจิ้งลี่กังได้แต่ถอนหายใจ
“ปล่อยนะ”
ยกมือขึ้นทุบตรงกลางอกแต่ไม่มีอาการว่าสะดุ้งสะเทือน
“จะมาข่มเหงกันง่ายๆ ไม่ได้นะ ข้ายังไม่ได้เป็นอะไรกับท่านเสียหน่อย”
“เช่นนั้นข้าคงเร่งทำให้มันเป็นเสีย เจ้าจะได้รู้ว่าคนอย่างข้าหยามไม่ได้”
“อย่านะ”
“ช้าไปแล้ว ทุ่มร่างบางลงบนพื้นหญ้าสีเขียว แม้จะนุ่มเหมือนพรมแต่ทว่าด้วยการที่ถูกทุ่มลงขนาดนั้นหลินฮวากลับรู้สึกจุก ไม่มีใครตามมาสักคนแล้วก็ไม่มีใครอยู่ ที่นั่นสักคนหานห้าวตงก็ล่วงหน้าไปก่อนแล้วหลินฮวาจุกจนพูดไม่ออก ร่างใหญ่กับ โถมเข้าใส่ทั้งตัว
“อย่านะ”
เงื้อมือรอฟาดเข้าใส่แก้มสากเต็มแรง เจิ้งจินเทารวบมือไว้ทั้งสองข้าง กดริมฝีปากที่ปากบาง แต่หลินฮวากลับเม้มปากแน่น
“ปล่อยนะ” ผลักร่างใหญ่ออกห่างแต่ไม่สะทกสะท้าน
“ปล่อยเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าหลุดไปได้จะหนีไปเสียไม่อยู่แต่งกับท่านแล้ว”
เจิ้งจินเทาชะงักงัน ลุกขึ้นยืนก่อนจะก้าวขาจากไป
หลินฮวางงงันกลับอาการของเจิ้งจินเทา ลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินกลับไปที่เรือนรับรอง
“เสี่ยวหลิน”บิดาส่งเสียงเข้มดุ ซึ่งนานๆ หลินฮวาจะได้ยินเสียงนี้เสียที
“ท่านพ่อ”
“ลูกทำเรื่อง น่าละอาย ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าจะแต่งเป็นชายารองของต้าหวังเหตุใดต้อง ไปที่ตำหนักบูรพา เรื่องเช่นนี้ทำให้ต้าหวังขายหน้าไม่น้อย”
“ลูกแค่ไปหาอะไรกินแล้วอีกอย่าง ต้าหวังผู้นั้นสั่งไม่ให้มีของกินติดไว้ในห้องเครื่อง เหมือนจงใจกลั่นแกล้งลูก”
“แค่เรื่องง่ายๆ อย่างนี้ หลินฮวายังไม่สามารถอดกลั้นได้ แล้วต่อจากนี้เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องทุกข์เข็ญกว่านี้จะจัดการเช่นไร”
“ท่านพ่อลูกผิดไปแล้ว”
“พรุ่งนี้ ไปคุกเข่าขออภัยต้าหวังเสีย เจ้าทำให้เขาอับอายตำแหน่งต้าหวังหากจัดการกับคนในปกครองไม่ได้ก็จะถูกครหา หลินฮวาบางเรื่องแข็งไปก็ไม่ได้ ความอ่อนโยนแม้ข้าไม่ได้สอนเจ้าทว่าเรื่องผิดถูกจะสอนให้เจ้ารู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาด้วยตัวเอง”
หลินฮวาก้มหน้านิ่งรู้สึกผิดอย่างแท้จริง เจิ้งจินเทาคงเสียหน้าไม่น้อยที่ปล่อยให้หลินฮวาไปที่ตำหนักบูรพายามค่ำคืนทั้งๆ ที่กำลังจะแต่งเป็นชายารอง เรื่องแบบนี้ เป็นใครก็ไม่อาจยอม นับว่าเจิ้งจินเทาใจเย็นเหลือนเกินแล้ว หลินฮวาคิดน้อยไปจริงๆ ถึงว่าเมื่อครู่เขาถึงมีอาการโมโหมากมายขนาดนั้น
เช้าสดใส เสี่ยวจงเดินหาวมาแต่เช้าภาพที่เห็นคือหลินฮวานั่งคุกเข่าหน้าจวนอ๋อง
รีบลนลาน เข้าไปยังห้องนอนของเจิ้งจินเทา
ที่ยืนมองหลินฮวาอยู่ก่อนแล้วที่ริมหน้าต่าง
“ต้าหวังนาง”
“ปล่อยนาง”
“แต่อากาศเย็นมากเกรงว่านางจะล้มป่วย”สาวเท้ายาวๆ ออกจากห้องไป
หลินฮวายิ้ม ดีใจเมื่อเห็นเจิ้งจินเทาออกมาข้างนอก
“เข้ามาข้างใน”
ลุกขึ้นบิดขี้เกียจขยับแขนขยับขา นับว่าไม่เสียแรงเปล่าเขาหายโกรธแล้ว เดินตามเจิ้งจินเทาเข้าไปในห้องอยู่ๆ เขาก็หยุดชะงักหลินฮวาชนเข้ากับร่างใหญ่เต็มแรง เจิ้งจินเทาหันมามองด้วย แววตาดุดุก่อนจะหันไปปิดประตูลงกลอน แน่นหนาเสี่ยวจงก็ไม่อาจตามเข้าไปได้
“คุกเข่า”
“หา”
“คุกเข่า ห้าชั่วยาม”
“อ้าว ท่านยัง..ไม่หายโกรธอีกหรือ”
“ตอนนี้ยัง แต่หากว่าคุกเข่าจนกว่าข้าจะพอใจก็ไม่แน่”
“แต่ หลินฮวา ..แต่ข้าคุกเข่าตั้งสองชั่วยามแล้วนะอีกทั้งข้างนอกนั่นอากาศหนาว”
“นั่นอย่าไงเล่าหนาวจนอาจป่วย แล้วก็อาจตาย ทำให้ข้าถูกครหาอีกจนได้”
พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ถอดเสื้อคลุม เผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม หลินฮวาเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้าใจสั่นไหว เจิ้งจินเทาเดินถือเสื้อคลุมมาห่มให้หลินฮวาที่คุกเข่าใช้มือสองข้างถูกันไปมาแก้หนาว แต่เสมองไปเสียทางอื่น
“เสี่ยวจงยกเครื่องเสวย”
หลินฮวาท้องร้องจอกเมื่อคิดได้ว่าตัวเองก็หิวเหมือนกัน
เสี่ยวจงยกเครื่องเสวย ล้วนแต่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย หลินฮวาเผลอกลืนน้ำลายลงคอเจิ้งจินเทาจัดการกับตัวเองเรียบร้อยทั้งสวมอาภรณ์เพียงลำพังและสิ่งต่างๆ ที่มักจะเป็นขันทีควรจะทำให้ หลินฮวาเลือกที่จะก้มหน้าเพราะไม่อยากเห็นภาพที่ทำให้ใจสั่น อีกคนทำเหมือนไม่มีหลินฮวาอยู่ในนั้น นั่งลงบนเก้าอี้ใบหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใดใด เสี่ยวจงใช้ตะเกียบเงินคีบอาหารขึ้นชิม ก่อนจะผายมือหลินฮวาถอนหายใจกลืนน้ำลายลงคอ เจิ้งจินเทาเหลือบมองหลินฮวาสีหน้าเรียบเฉยลงมือกินทันทีหลินฮวาก้มหน้ามองพื้นตามเดิม เจิ้งจินเทากินไปเพียงน้อยนิด“อิ่มแล้ว เสี่ยวจงยกเครื่องเสวยเก็บ”“อ้าวแล้วข้าล่ะ” ถามเพราะคิดว่าหากเจิ้งจินเทาอิ่มแล้วต้องเรียกให้หลินฮวาไปนั่งกิน แต่กลับเข้าใจผิดอุตส่าห์อดทนรอ“หิว มากหรือไม่”“หิวจะตายอยู่แล้ว”โบกมือให้เสี่ยวจงยกเครื่องเสวยไปเก็บ“เมื่อคืน กินมาจากตำหนักบูรพาเสียมากมาย เมื่อเช้าไท่จือยังให้คนนำเครื่องเสวยส่งมาถึงเรือนรับรอง”“กว่าข้าจะคุกเข่าเสร็จกว่าจะได้กิน”เจิ้งจินเทาลุกขึ้นยืน เดินไปที่เก้าอี้อีกตัว“เครื่องเสวยจวนอ๋องรสชาติเทียบไม่ได้กับเครื่องเสวยที่ตำหนักบูรพา” หลินฮวาถอนหายใจแม้กระท
เช้าสดใสหลินฮวานอนหลับๆตื่นๆ เมื่อคืนนั่งรอ ยิ้มหยันรออะไรกันจนกระทั่งดึกดื่น"ชายารองต้าหวังให้ท่านรีบแต่งตัว วันนี้ต้องยกน้ำชาคารวะฮองเฮา"เสี่ยวถิงสาวใช้ที่นอนเฝ้าหน้าห้องนอน เอ่ยปากเมื่อเห็นว่าหลินฮวาตื่นแล้ว"เฮ้อ ทำไมต้องให้ชายารองไปด้วย"เสี่ยวถิงยิ้ม"ก็แต่งเป็นชายาก็ต้องไปให้ฮองเฮาเห็นหน้าค่าตาในตอนเช้าของคืนเข้าหอ บ้างก็ว่าเพื่อให้เหล่าป้าๆ ทั้งหลายในวังช่วยกันดูว่าชายาจะตั้งครรภ์ไหมเป็นเพราะต้าหวัง แต่งสองชายาพร้อมกันจึงต้องเข้าไปทั้งสองชายา"จะตั้งครรภ์หลินฮวายิ้มจะตั้งได้อย่างไร เจ้าบ่าวยังไม่ย่างกรายด้วยซ้ำไปชุดสีขาวขลิบสีแดงและทองตัดกัน ริมฝีปากสีชาดสีแดงเข้มกับใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มจนเข้มบ่งบอกฐานะและทำให้หลินฮวาดูสวยเกินวัย เสี่ยวถิงยิ้มพิศมองใบหน้าสวยของหลินฮวา"พระชายาของเสี่ยวถิงสวยสดใสที่สุด อย่าทำหน้าเศร้ายิ้มเข้าไว้อย่าให้ใครรู้ว่าต้าหวังไม่ได้แวะมาในคืนเข้าหอ"หลินฮวาถลาเข้ากอดเสี่ยวถิงแน่นกัดฟันกล้ำกลืนความน้อยใจลงไปในอกเสี่ยวถิงกอดตอบ"เสี่ยวอิงยกเครื่องเสวยมาแล้วกินเสียหน่อยแล้วก็ค่อยเข้าวังไม่ต้องรีบเจ้าค่ะป่านนี้ต้าหวังกับชายาเอกยังไม่ตื่นจากบรรทม"สาวใช้นามเ
“ท่านอ่อง ศึกในครั้งนี้แคว้ยฉีพ่ายแพ้ย่อยยับ แม่ทัพต้วนแห่งแค้วนฉียินดีให้ท่านปลิดชีพเขาเพื่อแลกกับชีวิตของราษฎรและทหาร ที่เหลือเพียงหยิบมือ”ร่างสูงชลูดในอาภรณืตามแบบแม่ทัพใหญ่ก้าวขายาวๆยังค่ายทหารที่มีแต่ฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณของกองทัพแคว้นฉี“นำเขากลับ แคว้นเว่ยในฐานะเชลย”ส่งเสียงดังออกคำสั่ง“เจ้าคนใจร้าย จะเอาพ่อข้าไปไหน”สาวน้อยต้วนหลินฮวากอดแข้งกอดขาบิดาไว้มั่น ปฏิญาณไว้ว่าแม้ตายก็ไม่ยอมปล่อยบิดาไป เพราะตอนนี้ตลอดมาเหลือเพียงบิดาผู้เดียว แม้กระทั่งยามรบยังติดตามดั่งรองแม่ทัพของแค้วนฉีก็ไม่ปาน คนผู้นั้นใบหน้าหมดจดงดงามไฉนใจคอถึงได้โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ ชนะศึกแต่กลับจะฆ่าแกงล้างผลาญ“หลินฮวา เจ้าไปเสีย”ส่ายหน้าไปมาน้ำตาไหลอาบแก้มเนียนใสด้วยวัยเพียง 15ปี“ท่านพ่อ หลินฮวาจะไปกับท่านเป็นตายไม่ยอมหนีไปไหน”บุรุษหนุ่มรูปงามท่านอ๋องเจิ้งจินเทาส่ายหน้าไปมาคล้ายเบื่อระอาเสียเต็มประดา“ดี เช่นนั้นนำนางตามติดไปด้วย เชลยหนึ่งได้ถึงสองนับว่ากำไรโดยแท้”ต้วนหลินฮวา มองบุรุษรูปงามผู้นั้นด้วยสายตาเกลียดชัง หลินฮวากอด แขนบิดาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าจะพลัดพรากจากกัน“บัดนี้ดินแดนทางเหนือ
“ต้วนเจี้ยนหลินคารวะท่านอ๋องแปด”ฉุดมือหลินฮวาให้คุกเข่า หลินฮวามีท่าทีฮึดฮัด แม่ทัพต้วนส่งสายตาดุดุ จินเทาอ๋องเหลือบตามองหลินฮวาที่ไม่หลบตาเขามองเขาตาแป๋ว“ท่านแม่ทัพไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อมาที่นี่แล้วก็เหมือนเป็นแขกคนหนึ่ง”ผายมือให้นั่งบนเก้าอี้ข้างๆเขา“ท่านอ๋องเกรงใจไปแล้ว ข้าเป็นเชลยหากฝ่าบาทแคว้นฉีรู้ว่าอยู่ดีกินดีเช่นแขกเมืองเช่นนี้ กลับไปแคว้นฉี คง..ไม่พ้นหัวหลุดจากบ่า อีกทั้งอาจถูกกล่าวหาว่าเป็นไส้ศึก” เจิ้งจินเทายิ้ม“ข้าไม่ได้ปฏิบัติต่อท่านเพียงผู้เดียวเหล่าทหารที่เหลือของแคว้นฉีก็ถูกปล่อย ออกจากการคุมขัง ใครมีลูกเมียพ่อแม่จะกลับแคว้นฉีก็ไม่ขัดแต่หากใครจะอยู่ที่แคว้นเว่ยตั้งรกรากหรือเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฝ่าบาทก็ทรงมอบเงินทุนให้ไม่น้อย”“เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่สุด”ต้วนเจี้ยนหลินคิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ของแคว้นเว่ยจะทรงคุณธรรมถึงเพียงนี้“ท่านแม่ทัพ...และบุตรีก็พักผ่อนเสียให้สบายใจ หากจะกลับข้าก็คงไม่อาจรั้ง แต่กลับไปท่านแม่ทัพเองก็รู้ถึงโทษทัณฑ์ที่จะได้รับและหากจะรั้งอยู่ที่นี่ ข้าจะกราบทูลฝ่าบาท ให้รับท่านเข้าช่วยงานในราชสำนัก และกองทัพของแคว้นเว่ย”“ข้า ต้วนเจี้ยหลินถือกำเนิดที
หานห้าวตงประสานมือรอรับคำสั่งอยู่ด้านหน้า“ต้าหวัง ท่านอ๋องเก้า เข้าเฝ้าฝ่าบาทเรื่องชายาเอกของต้าหวัง”“ข้ารู้แล้ว เพียงแต่ไม่อยากใส่ใจน้องเก้าแต่เดิมก็ไม่ถูกจริตกับข้าอยู่แล้วเรื่องบางเรื่องแม้จะดีเพียงใดเขาก็ไม่เคยเห็นด้วย”“ฝ่าบาทกับต้าหวัง ถูกเลี้ยงมาโดยไทเฮาสนิทชิดเชื้อกันกว่าผู้ใดไม่แปลกที่พวกเขาย่อมรู้สึกว่าฝ่าบาทเอนเอียงมาทางต้าหวัง”“ข้ากับฝ่าบาท มองตารู้ใจ เรื่องที่เขาหวังดีกับข้า ข้าเข้าใจดี แต่เรื่องชายาเอกกับชายารอง ข้าก็อยากจะให้เจ้าเก้าทูลยับยั้งสำเร็จจะดีไม่น้อย”“ต้าหวัง ท่านต้องเผชิญความยากลำบากมาช่วงเวลานี้ ทุกคนรอบกายล้วนหวังดีอยากให้ ต้าหวังมีความสุข”เจิ้งจินเทายิ้มเรือนพักรับรองของจวนอ๋อง ที่พำนักชั่วคราวของ ใต้เท้าต้วนและต้วนหลินฮวา“ฮองเฮาเชิญคุณหนูที่ตำหนักชิงหนิงกง”นางกำนัล ย่อตัวด้วยท่าทีนอบน้อม ต้วนเจี้ยนหลินมองสบตาลูกสาว ตบที่หลังมือเบาๆตำหนักชิงหนิงกง“ต้วนหลินฮวาถวายพระพรฮองเฮา”อิงเผยฮองเฮา มองหลินฮวาด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม“ลุกขึ้น เงยหน้าให้ข้ามองเจ้าชัดๆ ” หลินฮวาเงยหน้าขึ้นช้าๆ“ข้าคิดไว้ไม่ผิด หญิงทางเหนือไม่ว่าจะเป็นหน้าตาผิวพรรณล้วนงดงามสดใส อีกไม่นา
“ท่านพ่อไม่ต้องห่วงลูก หลายเรื่องที่เคยห่วงมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถึงคราวต้องงัดเอากลยุทธ์ที่ท่านพ่อเคยสั่งสอนมาใช้ในยามวิกฤติ”พูดปลอบใจบิดา แม้วาจาจะเข้มแข็งเพียงใดแต่ใจดวงน้อยกับไหวเอนศาลาฉาฮวาที่งดงาม เจิ้งจินเทานั่งขัดสมาธิหลับตานิ่งรอให้หลินฮวามาทรุดกายลงนั่งด้านตรงกันข้าม เงียบกริบอีกคนยังหลับตานิ่ง“เจ้ามาช้า คราวหลังอย่าให้ข้าต้องรอ”น้ำเสียงเรียบเฉย แต่หลินฮวากลับรู้สึกว่านั่นคือคำสั่ง“ข้าไม่ได้อยากมา”“เสี่ยวจงยกเครื่องเสวย”ไม่สนใจว่าหลินฮวาจะกล่าวว่าเช่นไรเสี่ยวจง ยกเครื่องเสวยตรงหน้าคนทั้งสอง หลินฮวามองเครื่องเสวยอย่างตื่นตาตื่นใจ เคยเข้าวังหลายครั้งก็ไม่เคยได้ร่วมเสวยสักครั้งด้วยบิดาบอกหลินฮวาว่ากิริยาเช่นหลินฮวาไม่สมควรร่วมเสวยอย่างยิ่งเผลอทำตาโตด้วยความตื่นเต้นกับเครื่องเสวยที่น่ากินตรงหน้าหยิบตะเกียบเมื่อเห็นว่า เจิ้งจินเทายังนั่งหลับตานิ่ง เหมือนไม่สนใจจะกิน คีบเอาเครื่องเสวยที่คิดว่าน่ากินที่สุด แต่เจิ้งจินเทายกมือขึ้นฟาดที่มือบางอย่างแรงจนตะเกียบหลุดมือ“ท่าน”สีหน้าอีกคนยังเรียบเฉย มีแต่ท่านพ่อเท่านั้นที่กล้าทำแบบนี้กับ หลินฮวา“ผู้น้อยเช่นไรจึงกล้าเสวยก่อน”หลินฮ
“หลินฮวากำลังคิดว่าหากเขาจะมีชายาเอกแล้วทำไมฝ่าบาทจึงแต่งหลินฮวาเป็นชายารองอีกคน”บิดายิ้มอ่อนโยน“การมีชายาหลายคน เป็นเรื่องที่บุรุษทั่วไปชมชอบ ฝ่าบาทคงตั้งใจประทานสมรสชายาเอกให้แต่แรกแล้ว แต่เพราะเราสองคนมาที่นี่จึงไม่แคล้วให้เจ้ารั้งตำแหน่งชายารองเสีย เพื่อตั้งใจจะรั้งพ่อให้อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน เรื่องรักใคร่เห็นว่าต้าหว้งคง ไม่คิดถึงข้อนี้ แต่ที่ฝ่าบาทต้องทำเช่นนี้เพราะเหมือนกับจะให้ความสำคัญกับต้าหวัง ไม่น้อยที่เดียว”“ท่านพ่อไม่ต้องห่วงทุกอย่างไม่มีอะไรน่าห่วงลูกจะต้องอยู่ในฐานะชายารองอย่างมีความสุข”กล้ำกลืนความขมขื่นไว้กลัวบิดาจะเห็นมัน แสร้งยิ้มกว้างกลบเกลื่อน ความกังวลภายใน“ว่าแต่ มีอะไรให้ลูกกินแก้หิวบ้างไหม” ยิ้มเหมือนเด็กเล็กๆ“ยังทำตัวเหมือนเด็กๆไม่ผิด เช่นนี้พ่อจะวางใจให้เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องขายหน้าพ่อได้อย่างไรกัน”หลินฮวากอดเอวหนาซบหน้าลงบนอก หัวเราะเสียงใส“ไม่เป็นไรไปหาอะไรกินในห้องเครื่องลำพังดีกว่า”วิ่งออกจากห้องไปทันทีหลินฮวามาถึงห้องเครื่องในเวลาไม่นานนักนางกำนัลห้องเครื่อง วัยกลางคนยืนขว้างอยู่หน้าห้อง“ ท่านป้ามีอะไร เหลือให้ข้ากินบ้างไหม”พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวา
เช้าสดใสหลินฮวานอนหลับๆตื่นๆ เมื่อคืนนั่งรอ ยิ้มหยันรออะไรกันจนกระทั่งดึกดื่น"ชายารองต้าหวังให้ท่านรีบแต่งตัว วันนี้ต้องยกน้ำชาคารวะฮองเฮา"เสี่ยวถิงสาวใช้ที่นอนเฝ้าหน้าห้องนอน เอ่ยปากเมื่อเห็นว่าหลินฮวาตื่นแล้ว"เฮ้อ ทำไมต้องให้ชายารองไปด้วย"เสี่ยวถิงยิ้ม"ก็แต่งเป็นชายาก็ต้องไปให้ฮองเฮาเห็นหน้าค่าตาในตอนเช้าของคืนเข้าหอ บ้างก็ว่าเพื่อให้เหล่าป้าๆ ทั้งหลายในวังช่วยกันดูว่าชายาจะตั้งครรภ์ไหมเป็นเพราะต้าหวัง แต่งสองชายาพร้อมกันจึงต้องเข้าไปทั้งสองชายา"จะตั้งครรภ์หลินฮวายิ้มจะตั้งได้อย่างไร เจ้าบ่าวยังไม่ย่างกรายด้วยซ้ำไปชุดสีขาวขลิบสีแดงและทองตัดกัน ริมฝีปากสีชาดสีแดงเข้มกับใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มจนเข้มบ่งบอกฐานะและทำให้หลินฮวาดูสวยเกินวัย เสี่ยวถิงยิ้มพิศมองใบหน้าสวยของหลินฮวา"พระชายาของเสี่ยวถิงสวยสดใสที่สุด อย่าทำหน้าเศร้ายิ้มเข้าไว้อย่าให้ใครรู้ว่าต้าหวังไม่ได้แวะมาในคืนเข้าหอ"หลินฮวาถลาเข้ากอดเสี่ยวถิงแน่นกัดฟันกล้ำกลืนความน้อยใจลงไปในอกเสี่ยวถิงกอดตอบ"เสี่ยวอิงยกเครื่องเสวยมาแล้วกินเสียหน่อยแล้วก็ค่อยเข้าวังไม่ต้องรีบเจ้าค่ะป่านนี้ต้าหวังกับชายาเอกยังไม่ตื่นจากบรรทม"สาวใช้นามเ
เสี่ยวจงยกเครื่องเสวย ล้วนแต่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย หลินฮวาเผลอกลืนน้ำลายลงคอเจิ้งจินเทาจัดการกับตัวเองเรียบร้อยทั้งสวมอาภรณ์เพียงลำพังและสิ่งต่างๆ ที่มักจะเป็นขันทีควรจะทำให้ หลินฮวาเลือกที่จะก้มหน้าเพราะไม่อยากเห็นภาพที่ทำให้ใจสั่น อีกคนทำเหมือนไม่มีหลินฮวาอยู่ในนั้น นั่งลงบนเก้าอี้ใบหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใดใด เสี่ยวจงใช้ตะเกียบเงินคีบอาหารขึ้นชิม ก่อนจะผายมือหลินฮวาถอนหายใจกลืนน้ำลายลงคอ เจิ้งจินเทาเหลือบมองหลินฮวาสีหน้าเรียบเฉยลงมือกินทันทีหลินฮวาก้มหน้ามองพื้นตามเดิม เจิ้งจินเทากินไปเพียงน้อยนิด“อิ่มแล้ว เสี่ยวจงยกเครื่องเสวยเก็บ”“อ้าวแล้วข้าล่ะ” ถามเพราะคิดว่าหากเจิ้งจินเทาอิ่มแล้วต้องเรียกให้หลินฮวาไปนั่งกิน แต่กลับเข้าใจผิดอุตส่าห์อดทนรอ“หิว มากหรือไม่”“หิวจะตายอยู่แล้ว”โบกมือให้เสี่ยวจงยกเครื่องเสวยไปเก็บ“เมื่อคืน กินมาจากตำหนักบูรพาเสียมากมาย เมื่อเช้าไท่จือยังให้คนนำเครื่องเสวยส่งมาถึงเรือนรับรอง”“กว่าข้าจะคุกเข่าเสร็จกว่าจะได้กิน”เจิ้งจินเทาลุกขึ้นยืน เดินไปที่เก้าอี้อีกตัว“เครื่องเสวยจวนอ๋องรสชาติเทียบไม่ได้กับเครื่องเสวยที่ตำหนักบูรพา” หลินฮวาถอนหายใจแม้กระท
“แต่...ต้าหวังบอกว่าหากยังไม่กลับต้าหวังจะมาตามที่ตำหนักบูรพา”ลี่กังเลิกคิ้วสูงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เจิ้งจินเทาไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องเช่นนี้เป็นแน่“ข้าว่าเจ้ากลับไปก่อนดีกว่า ข้าให้ขันทียกเครื่องเสวยอีกชุดตามไปที่เรือนรับรอง”“ข้าอิ่มแล้ว แต่ยังไม่อยากกลับ”หลินฮวาพูดขึ้นดังๆ เมื่อเห็นว่าร่างสูงยืนอยู่ข้างนอกประตูนั้นเป็นของเจิ้งจินเทา พูดยังไม่ทันขาดคำร่างสูงก้าวยาวๆ เข้ามาในตำหนักบูรพา“อาเล็ก ช้าก่อนอย่าเพิ่งโมโหไป”เจิ้งลี่กัง เข้าขว้างเจิ้งจินเทาที่ก้าวเท้าเข้าหาหลินฮวา“ไท่จือนางกำลังจะแต่งเข้าจวนข้า ถือว่าเป็นคนของข้าครึ่งหนึ่งแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องภายใน”คว้าแขนหลินฮวาลากออกจากตำหนักบูรพาไปหลินฮวาขืนตัวไว้สุดแรงแต่รูปร่างเมื่อเทียบกันแล้ว อย่างไรจะสู้กำลังเขาได้“ปล่อยเลยนะ ข้ากำลังจะแต่งแล้วก็ยังไม่ได้รับปากว่าจะแต่ง เช่นนั้นข้ายังไม่ได้เป็นคนของท่าน หากเรื่องที่ท่านข่มเหงกัน รู้ไปถึงฝ่าบาทข้าก็อาจหาข้ออาจปฏิเสธที่จะแต่งได้”ปล่อยมือแต่กลับซ้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน“เจ้ากล้าหรือ”หลินฮวาตกใจไม่น้อย ขันทีนางในต่างจ้องมอง เจิ้งลี่กังวิ่งตามออกมา“อาเล็ก ได้โปรดอย่าทำอะไรน
“หลินฮวากำลังคิดว่าหากเขาจะมีชายาเอกแล้วทำไมฝ่าบาทจึงแต่งหลินฮวาเป็นชายารองอีกคน”บิดายิ้มอ่อนโยน“การมีชายาหลายคน เป็นเรื่องที่บุรุษทั่วไปชมชอบ ฝ่าบาทคงตั้งใจประทานสมรสชายาเอกให้แต่แรกแล้ว แต่เพราะเราสองคนมาที่นี่จึงไม่แคล้วให้เจ้ารั้งตำแหน่งชายารองเสีย เพื่อตั้งใจจะรั้งพ่อให้อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน เรื่องรักใคร่เห็นว่าต้าหว้งคง ไม่คิดถึงข้อนี้ แต่ที่ฝ่าบาทต้องทำเช่นนี้เพราะเหมือนกับจะให้ความสำคัญกับต้าหวัง ไม่น้อยที่เดียว”“ท่านพ่อไม่ต้องห่วงทุกอย่างไม่มีอะไรน่าห่วงลูกจะต้องอยู่ในฐานะชายารองอย่างมีความสุข”กล้ำกลืนความขมขื่นไว้กลัวบิดาจะเห็นมัน แสร้งยิ้มกว้างกลบเกลื่อน ความกังวลภายใน“ว่าแต่ มีอะไรให้ลูกกินแก้หิวบ้างไหม” ยิ้มเหมือนเด็กเล็กๆ“ยังทำตัวเหมือนเด็กๆไม่ผิด เช่นนี้พ่อจะวางใจให้เจ้าแต่งเข้าจวนอ๋องขายหน้าพ่อได้อย่างไรกัน”หลินฮวากอดเอวหนาซบหน้าลงบนอก หัวเราะเสียงใส“ไม่เป็นไรไปหาอะไรกินในห้องเครื่องลำพังดีกว่า”วิ่งออกจากห้องไปทันทีหลินฮวามาถึงห้องเครื่องในเวลาไม่นานนักนางกำนัลห้องเครื่อง วัยกลางคนยืนขว้างอยู่หน้าห้อง“ ท่านป้ามีอะไร เหลือให้ข้ากินบ้างไหม”พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวา
“ท่านพ่อไม่ต้องห่วงลูก หลายเรื่องที่เคยห่วงมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถึงคราวต้องงัดเอากลยุทธ์ที่ท่านพ่อเคยสั่งสอนมาใช้ในยามวิกฤติ”พูดปลอบใจบิดา แม้วาจาจะเข้มแข็งเพียงใดแต่ใจดวงน้อยกับไหวเอนศาลาฉาฮวาที่งดงาม เจิ้งจินเทานั่งขัดสมาธิหลับตานิ่งรอให้หลินฮวามาทรุดกายลงนั่งด้านตรงกันข้าม เงียบกริบอีกคนยังหลับตานิ่ง“เจ้ามาช้า คราวหลังอย่าให้ข้าต้องรอ”น้ำเสียงเรียบเฉย แต่หลินฮวากลับรู้สึกว่านั่นคือคำสั่ง“ข้าไม่ได้อยากมา”“เสี่ยวจงยกเครื่องเสวย”ไม่สนใจว่าหลินฮวาจะกล่าวว่าเช่นไรเสี่ยวจง ยกเครื่องเสวยตรงหน้าคนทั้งสอง หลินฮวามองเครื่องเสวยอย่างตื่นตาตื่นใจ เคยเข้าวังหลายครั้งก็ไม่เคยได้ร่วมเสวยสักครั้งด้วยบิดาบอกหลินฮวาว่ากิริยาเช่นหลินฮวาไม่สมควรร่วมเสวยอย่างยิ่งเผลอทำตาโตด้วยความตื่นเต้นกับเครื่องเสวยที่น่ากินตรงหน้าหยิบตะเกียบเมื่อเห็นว่า เจิ้งจินเทายังนั่งหลับตานิ่ง เหมือนไม่สนใจจะกิน คีบเอาเครื่องเสวยที่คิดว่าน่ากินที่สุด แต่เจิ้งจินเทายกมือขึ้นฟาดที่มือบางอย่างแรงจนตะเกียบหลุดมือ“ท่าน”สีหน้าอีกคนยังเรียบเฉย มีแต่ท่านพ่อเท่านั้นที่กล้าทำแบบนี้กับ หลินฮวา“ผู้น้อยเช่นไรจึงกล้าเสวยก่อน”หลินฮ
หานห้าวตงประสานมือรอรับคำสั่งอยู่ด้านหน้า“ต้าหวัง ท่านอ๋องเก้า เข้าเฝ้าฝ่าบาทเรื่องชายาเอกของต้าหวัง”“ข้ารู้แล้ว เพียงแต่ไม่อยากใส่ใจน้องเก้าแต่เดิมก็ไม่ถูกจริตกับข้าอยู่แล้วเรื่องบางเรื่องแม้จะดีเพียงใดเขาก็ไม่เคยเห็นด้วย”“ฝ่าบาทกับต้าหวัง ถูกเลี้ยงมาโดยไทเฮาสนิทชิดเชื้อกันกว่าผู้ใดไม่แปลกที่พวกเขาย่อมรู้สึกว่าฝ่าบาทเอนเอียงมาทางต้าหวัง”“ข้ากับฝ่าบาท มองตารู้ใจ เรื่องที่เขาหวังดีกับข้า ข้าเข้าใจดี แต่เรื่องชายาเอกกับชายารอง ข้าก็อยากจะให้เจ้าเก้าทูลยับยั้งสำเร็จจะดีไม่น้อย”“ต้าหวัง ท่านต้องเผชิญความยากลำบากมาช่วงเวลานี้ ทุกคนรอบกายล้วนหวังดีอยากให้ ต้าหวังมีความสุข”เจิ้งจินเทายิ้มเรือนพักรับรองของจวนอ๋อง ที่พำนักชั่วคราวของ ใต้เท้าต้วนและต้วนหลินฮวา“ฮองเฮาเชิญคุณหนูที่ตำหนักชิงหนิงกง”นางกำนัล ย่อตัวด้วยท่าทีนอบน้อม ต้วนเจี้ยนหลินมองสบตาลูกสาว ตบที่หลังมือเบาๆตำหนักชิงหนิงกง“ต้วนหลินฮวาถวายพระพรฮองเฮา”อิงเผยฮองเฮา มองหลินฮวาด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม“ลุกขึ้น เงยหน้าให้ข้ามองเจ้าชัดๆ ” หลินฮวาเงยหน้าขึ้นช้าๆ“ข้าคิดไว้ไม่ผิด หญิงทางเหนือไม่ว่าจะเป็นหน้าตาผิวพรรณล้วนงดงามสดใส อีกไม่นา
“ต้วนเจี้ยนหลินคารวะท่านอ๋องแปด”ฉุดมือหลินฮวาให้คุกเข่า หลินฮวามีท่าทีฮึดฮัด แม่ทัพต้วนส่งสายตาดุดุ จินเทาอ๋องเหลือบตามองหลินฮวาที่ไม่หลบตาเขามองเขาตาแป๋ว“ท่านแม่ทัพไม่ต้องเกรงใจ ในเมื่อมาที่นี่แล้วก็เหมือนเป็นแขกคนหนึ่ง”ผายมือให้นั่งบนเก้าอี้ข้างๆเขา“ท่านอ๋องเกรงใจไปแล้ว ข้าเป็นเชลยหากฝ่าบาทแคว้นฉีรู้ว่าอยู่ดีกินดีเช่นแขกเมืองเช่นนี้ กลับไปแคว้นฉี คง..ไม่พ้นหัวหลุดจากบ่า อีกทั้งอาจถูกกล่าวหาว่าเป็นไส้ศึก” เจิ้งจินเทายิ้ม“ข้าไม่ได้ปฏิบัติต่อท่านเพียงผู้เดียวเหล่าทหารที่เหลือของแคว้นฉีก็ถูกปล่อย ออกจากการคุมขัง ใครมีลูกเมียพ่อแม่จะกลับแคว้นฉีก็ไม่ขัดแต่หากใครจะอยู่ที่แคว้นเว่ยตั้งรกรากหรือเริ่มต้นชีวิตใหม่ ฝ่าบาทก็ทรงมอบเงินทุนให้ไม่น้อย”“เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่สุด”ต้วนเจี้ยนหลินคิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ของแคว้นเว่ยจะทรงคุณธรรมถึงเพียงนี้“ท่านแม่ทัพ...และบุตรีก็พักผ่อนเสียให้สบายใจ หากจะกลับข้าก็คงไม่อาจรั้ง แต่กลับไปท่านแม่ทัพเองก็รู้ถึงโทษทัณฑ์ที่จะได้รับและหากจะรั้งอยู่ที่นี่ ข้าจะกราบทูลฝ่าบาท ให้รับท่านเข้าช่วยงานในราชสำนัก และกองทัพของแคว้นเว่ย”“ข้า ต้วนเจี้ยหลินถือกำเนิดที
“ท่านอ่อง ศึกในครั้งนี้แคว้ยฉีพ่ายแพ้ย่อยยับ แม่ทัพต้วนแห่งแค้วนฉียินดีให้ท่านปลิดชีพเขาเพื่อแลกกับชีวิตของราษฎรและทหาร ที่เหลือเพียงหยิบมือ”ร่างสูงชลูดในอาภรณืตามแบบแม่ทัพใหญ่ก้าวขายาวๆยังค่ายทหารที่มีแต่ฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณของกองทัพแคว้นฉี“นำเขากลับ แคว้นเว่ยในฐานะเชลย”ส่งเสียงดังออกคำสั่ง“เจ้าคนใจร้าย จะเอาพ่อข้าไปไหน”สาวน้อยต้วนหลินฮวากอดแข้งกอดขาบิดาไว้มั่น ปฏิญาณไว้ว่าแม้ตายก็ไม่ยอมปล่อยบิดาไป เพราะตอนนี้ตลอดมาเหลือเพียงบิดาผู้เดียว แม้กระทั่งยามรบยังติดตามดั่งรองแม่ทัพของแค้วนฉีก็ไม่ปาน คนผู้นั้นใบหน้าหมดจดงดงามไฉนใจคอถึงได้โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ ชนะศึกแต่กลับจะฆ่าแกงล้างผลาญ“หลินฮวา เจ้าไปเสีย”ส่ายหน้าไปมาน้ำตาไหลอาบแก้มเนียนใสด้วยวัยเพียง 15ปี“ท่านพ่อ หลินฮวาจะไปกับท่านเป็นตายไม่ยอมหนีไปไหน”บุรุษหนุ่มรูปงามท่านอ๋องเจิ้งจินเทาส่ายหน้าไปมาคล้ายเบื่อระอาเสียเต็มประดา“ดี เช่นนั้นนำนางตามติดไปด้วย เชลยหนึ่งได้ถึงสองนับว่ากำไรโดยแท้”ต้วนหลินฮวา มองบุรุษรูปงามผู้นั้นด้วยสายตาเกลียดชัง หลินฮวากอด แขนบิดาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าจะพลัดพรากจากกัน“บัดนี้ดินแดนทางเหนือ