Share

บทที่ 492

Author: เซียงปู้อี๋
last update Last Updated: 2024-11-29 18:31:38
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เวินหนี่ก็กำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว เธอหลบสายตาเขา กลัวว่าตัวเองจะคิดมากเกินไป “เพราะว่าใส่ใจถึงได้อยากเปลี่ยนแปลง แล้วทำไมต้องใส่ใจขนาดนั้นด้วยล่ะ?”

เย่หนานโจวมองเธอ “เพราะเธอเป็นภรรยาของฉัน”

เวินหนี่ยิ้มขมขื่นแล้วขยับริมฝีปากเบา ๆ คนช้อนในหม้อไฟไปมาแต่ก็ยังไม่ยอมกิน “บอกว่าจะหย่ากันไม่ใช่เหรอ แค่เพียงเงื่อนไขที่เป็นภรรยามันดูเป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลแล้ว เมื่อก่อนไม่เห็นว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงเพื่อฉัน ตอนนี้กลับมาทำเป็นใส่ใจซะงั้น”

เย่หนานโจวมองไปที่เธอ เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

เวินหนี่รู้สึกถึงสายตาของเขา แต่เห็นว่าเขายังคงเงียบ เธอจึงไม่รอและก้มหน้ากินอาหาร

“รู้สึกว่าฉันจะชอบเธอเข้าให้แล้ว”

“แค่ก แค่ก แค่ก…”

คำพูดเบา ๆ นี้ทำให้เวินหนี่สำลักน้ำซุป เธอรู้สึกแสบร้อนที่คอและรู้สึกไม่สบายตัว

เมื่อเห็นแบบนั้น เย่หนานโจวก็รู้ว่าเธอกำลังรู้สึกไม่ดี จึงรีบเทน้ำให้เธอ “เป็นไงบ้าง? ดื่มน้ำสักหน่อย!”

เวินหนี่น้ำตาไหล ม่านตาของเธอพร่ามัวและในช่วงเวลานั้นก็ไม่รู้ว่าน้ำตานี้ไหลออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน

เป็นเพราะเธอรอคอยมาหลายปี จนในที่สุดก็ได้ยินค
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (2)
goodnovel comment avatar
faaye
เวินหนี่ใจอ่อนเถอะ จะ500ตอนล่ะพระเอกนางเอกยังไม่ได้รักกันดีๆเลย
goodnovel comment avatar
saprangporn
อัพหลายตอนดีจัง ดีต่อใจมากกก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 493

    เวินหนี่นั่งอยู่บนเตียง มองไปที่ประตู เมื่อรู้ว่าเย่หนานโจวยังอยู่ข้างนอก เธอก็นอนไม่หลับ ภายในใจไม่สามารถสงบลงได้ เธอยังคิดถึงคำพูดของเย่หนานโจวในเรื่องนี้เธอยังคงขี้ขลาดอยู่บ้าง ไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมาแต่ในใจกลับมีความกระวนกระวายไม่นานประตูก็เปิดออกอีกครั้ง เวินหนี่มองไปและเห็นเย่หนานโจวเดินเข้ามา เธอจ้องมองเขาอย่างเหม่อลอย ราวกับตอนที่เจอเขาครั้งแรก ที่ทำได้เพียงมองเขาเงียบ ๆ โดยไม่กล้าพูดอะไรสักคำเย่หนานโจวถือแก้วนมเข้ามาและวางไว้ตรงหน้าเธอ ก่อนจะพูดขึ้นเสียงทุ้ม “ดื่มนมก่อนนอนจะดีต่อร่างกาย รสหวาน ๆ ช่วยลดความเครียดได้”เวินหนี่มองแก้วนมตรงหน้า แขนของเย่หนานโจวมีเส้นเลือดปูดขึ้นเล็กน้อย ครู่หนึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนภาพนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนเวินหนี่รู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองแปลกไป ไม่เพียงแค่เธอรู้สึกระแวงสงสัยเท่านั้น แต่ยังมีภาพบางอย่างที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อนปรากฏขึ้นมาอีกด้วยศีรษะปวดขึ้นมาแปลบหนึ่งเธอจึงรีบยกมือกุมหัวเย่หนานโจวเห็นสีหน้าเธอไม่ดีจึงถามขึ้นว่า “ปวดหัวเหรอ?”เวินหนี่ดึงสติกลับมา “ไม่เป็นไร”เธอรีบจับแก้วนมไว้ในมือ ก้มตัวและดื่มน

    Last Updated : 2024-11-30
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 494

    เมื่อเห็นว่าเขาดูไม่รู้จริง ๆ และเหมือนจะจำอะไรไม่ได้เลย เวินหนี่ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเธอส่ายหัว “เปล่า ไม่มีอะไรค่ะ”เย่หนานโจวเงียบเวินหนี่นอนลงและพลิกตัวไปด้านข้าง โดยไม่ได้มองหน้าเย่หนานโจวอีกเลยแต่เธอสังเกตเห็นสีหน้าของเขาเมื่อครู่ เขาดูสงบอย่างมากทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าอาจ้านก็คือตัวเขาเองเขาลืมเหตุการณ์ในครั้งนั้นไปหมดแล้วจริง ๆ เหรอ?แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ควรจำชื่อเก่าของตัวเองได้ไม่ใช่เหรอปัญหามันอยู่ตรงไหนกัน?ยิ่งเวินหนี่คิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกตกอยู่ในทางตันมากขึ้นเท่านั้นเธอหลับตาและหยุดคิดเย่หนานโจวจัดผ้าห่มให้เธออย่างดี ก่อนจะนั่งมองเธออยู่ข้าง ๆ สักพัก จนกระทั่งเธอหายใจสม่ำเสมอแล้วถึงค่อย ๆ เดินออกไปเขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา มีสายที่ไม่ได้รับหลายสิบสายเขาโทรกลับด้วยสีหน้าจริงจัง และสิ่งที่เขาได้ยินทางโทรศัพท์ก็คือ “ประธานเย่ หุ้นของบริษัทร่วงลงหลายจุดเพราะเหตุการณ์ของลู่ม่านเซิง เราก็ติดต่อคุณไม่ได้และไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร คุณต้องให้วิธีแก้ปัญหากับพวกเราด้วยนะครับ”เย่หนานโจวไม่มีเวลาจัดการ “มีข่าวเกี่ยวกับลู่ม่านเซิงไหม?”“ไม่เลย

    Last Updated : 2024-11-30
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 495

    เพียงแค่เธอพ้นจากเรื่องพวกนี้ไปได้ ก็จะสามารถยืนหยัดในวงการบันเทิงได้ และบริษัทจะยืนหยัดเคียงข้างเธออย่างไม่มีเงื่อนไขลู่ม่านเซิงเดินออกมาไม่นาน ก็ถูกคนเห็นทันทีและมีคนพูดขึ้นว่า “นี่ไม่ใช่ลู่ม่านเซิงคนที่โกหกหลอกลวงหรอกหรอ?”เมื่อเห็นว่าผู้คนจำเธอได้ ลู่ม่านเซิงก็ตื่นตระหนกและรีบปิดหน้าตัวเองโดยไม่รู้ตัว“ใช่เลย เธอนั่นแหละ เธอรู้สึกผิดเลยไม่กล้ามองหน้า!”ลู่ม่านเซิงสวมแว่นกันแดดและหน้ากากอยู่แล้ว และไม่คาดคิดว่าจะมีคนจำเธอได้ เมื่อมีคนหนึ่งพูดขึ้นมา แล้วก็มีหลายคนหันมามองเธอทันใดนั้น เธอก็ถูกผู้คนล้อมรอบ“ทำไมเธอถึงยังมีหน้ามาออกมาอีก ไม่กลัวคนโยนไข่เน่าใส่หรือไง?”“เธอจะรักษาหน้าไปทำไมกันล่ะ?! ถ้าเธอมีความละอายก็คงไม่ทำเรื่องเลว ๆ แบบนี้หรอก!”“จอมโกหก! ชักชวนแฟนคลับไปกลั่นแกล้งคนอื่นในโลกออนไลน์ เธอสมควรตกนรก!”ลู่ม่านเซิงมองพวกเขาที่มีสีหน้าดุดัน ใบหน้าของเธอซีดเผือด หัวใจก็เต้นระรัว เธอรีบอธิบายว่า “ฉันไม่ได้กลั่นแกล้งใครในโลกออนไลน์ แล้วฉันก็ไม่ได้โกหก...”เพียะ!มีคนหยิบก้อนโคลนจากกระถางต้นไม้ขึ้นมาขว้างใส่เธอด้วยความโกรธลู่ม่านเซิงกลัวมากและกอดหัวตัวเองไว้โดยไ

    Last Updated : 2024-11-30
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 496

    ทำไมเป็นเขาล่ะ?“ทำไมคุณถึงมาหาฉันถึงที่นี่?”เวินหนี่ยังคงระมัดระวัง เธอมีการติดต่อกับเขาน้อยมาก ก่อนหน้านี้มีแค่ครั้งเดียวที่ได้เจอกันเพราะเรื่องของลู่ม่านเซิงที่เขาโผล่มาที่นี่ทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ว่าว่าเขาสะกดรอยตามเธอมาและมีจุดประสงค์บางอย่างสายตาของเย่หวูโหยวกลับดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงสงบว่า “ห้องข้าง ๆ คือคุณงั้นเหรอ”เวินหนี่มองเขา ยังไม่เข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอกเย่หวูโหยวเห็นสายตาของเธอที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังและความสงสัย จึงชี้ไปที่ห้องข้าง ๆ และอธิบายว่า “ผมอาศัยอยู่ห้องข้าง ๆ เป็นเพื่อนบ้านของคุณที่พึ่งย้ายเข้ามาใหม่”เวินหนี่มองไปที่ประตูห้องข้าง ๆ ที่เปิดอยู่ และเริ่มเข้าใจ ห้องว่างข้าง ๆ มีคนย้ายเข้ามาอยู่แล้วเธอหันมามองเย่หวูโหยวอีกครั้ง แล้วถามว่า “คุณย้ายมาตอนไหน?”“เช้านี้”“ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนที่ฉันไปหาคุณ ที่ทำงานของคุณดูเหมือนที่อยู่อาศัยมากกว่านี้เสียอีก” เวินหนี่คิดว่าเขาน่าจะอาศัยอยู่ที่นั่น “เปล่า เวลายุ่ง ๆ ก็จะนอนพักที่นั่น แต่ยังไงก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองด้วยเหมือนกัน”เวินหนี่เริ่มนึกถึงการพบกันในครั้

    Last Updated : 2024-11-30
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 497

    แม้ว่าเธอจะจ่ายเงินให้เขาไปแล้ว แต่บุญคุณนี้ก็ยังคงอยู่ในใจเธอ“ไว้มีโอกาสนะคะ” เวินหนี่ไม่ได้ปฏิเสธ “รอครู่หนึ่งนะ คุณให้สตรอเบอร์รี่มา งั้นฉันก็จะให้ของบางอย่างกับคุณเหมือนกัน”พูดเสร็จเธอก็รีบเดินเข้าไปในห้อง เย่หวูโหยวไม่ได้ตามเข้าไปในบ้าน แต่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูเวินหนี่ยังไม่รู้ว่าจะให้ของขวัญอะไรกับเขาจนกระทั่งเห็นขวดนมสดอยู่ในบ้าน เธอก็หยิบมันมาทั้งหมดเย่หวูโหยวมองแผ่นหลังของเธอพลางยิ้มเล็กน้อย ดวงตาของเขาดูอบอุ่นจนกระทั่งเมื่อเวินหนี่หันมาจึงรีบซ่อนอารมณ์ที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขากลับคืนไป“ในบ้านไม่มีอะไร พวกนี้เป็นนมที่ฉันชอบดื่ม กลิ่นนมจะค่อนข้างเข้ม ไม่รู้ว่าจะถูกปากคุณไหม” เวินหนี่พูดเย่หวูโหยวไม่ปฏิเสธ รับนมทั้งสองขวดมาจากมือเธอ “ขอบคุณครับ”“ไม่เป็นไร คุณเคยช่วยฉันไว้ บุญคุณนี้ฉันจะจำไว้เสมอ”“คุณจ่ายเงินซื้อข่าว ผมคิดว่าคุณไม่มีอะไรติดค้างผมแล้ว” เย่หวูโหยวตอบ“ข่าวของลู่ม่านเซิงไม่ใช่ข่าวธรรมดา” เวินหนี่มองเขาตรง ๆ “ในเมื่อคุณยอมขายมันให้ฉัน ฉันก็จะจำมันเอาไว้ค่ะ”เย่หวูโหยวถูขวดนมในมือและพูดด้วยน้ำเสียงมีความหมายว่า “คุณจะรู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้ตั้งใจเข้

    Last Updated : 2024-12-01
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 498

    พวกเธอทั้งสองเดินนำเข้าไปข้างในเย่หวูโหยวตามหลังเข้าไปขณะที่เขาก้าวเท้าเข้าไปในห้อง เขาก็ยังมีความลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็เดินเข้าไปถังเยาวางกระเป๋าไว้ข้าง ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาเวินหนี่เดินไปที่ห้องครัว เตรียมทำบะหมี่สามชามเย่หวูโหยวยืนอยู่ที่ประตู ดวงตาสีน้ำตาลของเขามองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง โดยไม่พูดอะไร ก่อนที่ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยถังเยาเห็นเขายืนอยู่จึงพูดขึ้นว่า “ทำไมยืนอยู่ล่ะ รีบนั่งลงสิคะ”เย่หวูโหยวมองไปที่ถังเยาแล้วเดินไปนั่งถังเยาเดินไปเทน้ำชาให้เขาเธอรู้สึกอยากรู้เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้มากกว่า เพราะเขาหน้าตาดีขนาดนี้ดวงความรักของเวินหนี่นั้นดีจริง ๆทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเธอมีแต่คนหล่อเหลาทั้งนั้น“คุณทำงานอะไรเหรอ? อายุเท่าไร? ในครอบครัวมีกี่คน?” ถังเยาจิบชา ทำตัวเหมือนคนในครอบครัวของเวินหนี่ที่กำลังถามถึงฐานะของอีกฝ่าย“หมอ” เย่หวูโหยวตอบแค่คำนี้แรกเสียงเบา แล้วหยิบแก้วชาขึ้นมาดื่มถังเยาสังเกตเห็นเขามีสร้อยข้อมือที่ทำจากลูกปัดห้อยอยู่ มันดูน่าสนใจมาก และรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีความลึกลับ “ที่มือของคุณใส่ลูกปัดด้วย ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย คุณเชื่อ

    Last Updated : 2024-12-01
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 499

    เวินหนี่มองไปที่เย่หวูโหยว “ไม่ต้องหรอก ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น”เย่หวูโหยวตอบ “ผมไม่ค่อยชอบกินผลไม้ สตรอเบอร์รี่หากปล่อยทิ้งเอาไว้ก็สุกจนเน่า เอามาให้คุณกินจะไม่ดีกว่าเหรอ”ถังเยามองไปที่เย่หวูโหยว และรู้สึกแปลก ๆเขาดูเหมือนจะใส่ใจเวินหนี่มาก“รีบกินบะหมี่เถอะ ไม่งั้นมันจะเย็นแล้วจับตัวเป็นก้อน” เวินหนี่พูดพวกเขากินบะหมี่ด้วยกันแต่เย่หวูโหยวกลับมองบะหมี่ในชามอยู่นาน ก่อนจะเริ่มกินเขากินช้า ๆตอนที่เวินหนี่กินเสร็จ เขายังเหลือบะหมี่อยู่เกือบครึ่งชามเวินหนี่เก็บชามไปที่ครัว ถังเยาตามไปและผลักไหล่เธอเบา ๆ “เขาชอบเธอหรือเปล่า?”เวินหนี่แทบจะอ้วกบะหมี่ออกมา “จะเป็นไปได้ยังไง รวมวันนี้พวกเราพึ่งจะเจอกันแค่สามครั้งเอง แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรกันมากด้วย”ถังเยาคิดตาม เหมือนว่าจะไม่เคยเห็นคนแบบเขามาก่อนจริง ๆ“แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอกับเขารู้จักกันมานานแล้วกันนะ” ถังเยาพูด “สายตาที่เขามองเธอมันเหมือนรู้จักกันมานานแล้วเลย แถมเขายังเอาสตรอเบอร์รี่มาให้เธอด้วย เธอชอบกินสตรอเบอร์รี่มากไม่ใช่เหรอ? ทั้งผลใหญ่ทั้งแดงสด เธอต้องชอบมันมากแน่ ๆ แบบนี้มันบังเอิญเกินไปหน่อยไหม”“ไม่น่าจะขนาดนั้นหร

    Last Updated : 2024-12-01
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 500

    “เกินไปแล้วมั้ง ซุปก็ซดหมด” ถังเยาแซวเวินหนี่ใช้ข้อศอกผลักถังเยาเบา ๆ ไม่อยากให้เธอพูดมาก แล้วก็รับชามจากเย่หวูโหยวมาเย่หวูโหยวกล่าว “ผมชอบทานน้ำซุปน่ะ”หลังจากนั้นเขาก็พูดกับพวกเธอว่า “ผมยังมีงานต้องทำ งั้นก็ไม่รบกวนพวกคุณแล้วก็แล้วกัน”เวินหนี่กล่าวตอบ “ค่ะ”เย่หวูโหยวพยักหน้าก่อนที่จะเดินออกจากห้องเวินหนี่เดินไปส่งเขา ก่อนจะปิดประตูเมื่อได้ยินเสียงประตูปิด เย่หวูโหยวก็หยุดเดินชั่วขณะ แล้วค่อย ๆ หันกลับมามองที่ประตูอยู่นาน ก่อนจะเดินจากไปเขาลงไปที่ชั้นล่าง พบว่ามีรถเบนซ์จอดอยู่เมื่อกำลังจะเข้าไปในรถ ทันใดนั้น รถสปอร์ตคันข้าง ๆ ก็เปิดกระจกลงผู้หญิงผมแดง หน้าตาสะสวย ผมลอนยาว และดวงตาที่เย้ายวนกำลังเท้าคางแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไมถึงย้ายที่อยู่ล่ะ? แล้วยังไม่บอกฉันสักคำ”เมื่อเห็นเธอ เย่หวูโหยวก็ปิดประตูรถ และยิ้มตอบไปว่า “หาเจอเร็วดีนี่”ผู้หญิงผมแดงลงจากรถสปอร์ต เดินท่าทางสูงสง่า สวมรองเท้าส้นสูงที่มีส้นบางเฉียบ สายตากวาดมองไปรอบ ๆ “ทำไมเลือกที่นี่? มันไม่ค่อยเหมือนสไตล์ของคุณเลย”ต้องบอกก่อนว่าเย่หวูโหยวเป็นคนรักความสะอาดสุด ๆ ของใช้ทุกชิ้นที่พกติดตัวจึงต้องดูเร

    Last Updated : 2024-12-01

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status