แชร์

บทที่ 46

ผู้แต่ง: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อนานไปก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เขาก็รู้จักเธอดี

เขารักษาท่าทางสุภาพและไม่ได้อธิบายอะไรมากเกินไป “ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณกินต่อเถอะ”

เวินหนี่รู้สึกละอายใจเล็กน้อย สำหรับเธอ ลู่เซินเป็นเพียงเพื่อนร่วมชั้นสมัยเด็กที่ไม่ได้สนิทกันด้วยซ้ำ แต่เขากลับใส่ใจรายละเอียดของเธอมากขนาดนี้

เวินหนี่หยิบตะเกียบขึ้นมาและคีบเนื้อในชาม

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอได้กลิ่นคาวและรู้สึกคลื่นไส้

จนทำให้เธอหมดความอยากอาหาร

“เป็นอะไรไป? กินไม่ลงแล้วเหรอ?” ลู่เซินถาม

เวินหนี่วางตะเกียบลง มันยากที่จะบอกว่าเธอกินลง ได้แต่ตอบไปว่า “ฉันเป็นคนกระเพาะเล็กน่ะค่ะ กินนิดหน่อยก็อิ่มแล้ว”

เย่หนานโจวยืนขึ้น “ถ้าอิ่มแล้วก็หยุดกินเถอะ”

เวินหนี่สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในคำพูดของเขา เธอเงยหน้าขึ้นมองเย่หนานโจว เห็นเพียงใบหน้าที่เย็นชาของเขา

เติ้งจวนกำลังดูแลเวินจ้าว

เวินหนี่จึงต้องเดินไปส่งลู่เซิน

ลู่เซินเห็นว่าสีหน้าของเวินหนี่ไม่ค่อยดีนัก เขาจึงเอ่ยขึ้นว่า “ถ้ารู้สึกไม่สบายก็ไม่ต้องไปส่งผมก็ได้ คุณกลับเข้าไปพักผ่อนเถอะ ไว้ผมจะมาเยี่ยมใหม่”

เวินหนี่มีความสงสัยในใจมากมาย แต่เย่หนานโจวอยู่ด้วย เธอจึงไม่ได้ถามอะไรมาก เลย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 47

    เธอเอามือค้ำผนัง รู้สึกไม่สบายตัวมาก ๆ ใบหน้าของเธอซีดเผือด และอาเจียนไม่หยุดแต่ไม่มีอะไรออกมาเลยเมื่อเห็นแบบนั้นเย่หนานโจวก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างประหม่าและพยุงเธอไว้ “เป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหน?”เวินหนี่ผลักมือของเขาออก ดวงตาของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำตา “เมื่อกี้ยังบอกว่าจะหย่าอยู่เลยไม่ใช่เหรอคะ แล้วคุณจะถามเรื่องพวกนี้ไปทำไม?”เย่หนานโจวเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดเซียว ดูไม่สบายเอามาก ๆ ดังนั้นเขาจึงลดน้ำเสียงลงแล้วพูดขึ้นว่า “กลับบ้านกัน อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องนี้”เขาประคองเธอแล้วพาออกไปเวินหนี่ไม่ได้ต่อต้าน เธอไม่อยากทะเลาะกับเย่หนานโจวตรงประตู เพราะหากพ่อกับแม่เธอมาเห็นเข้าพวกท่านจะเป็นห่วงเอาได้ ชีวิตแต่งงานของเธอไม่ได้มีความสุข แต่จะปล่อยให้พ่อแม่กังวลมากเกินไปไม่ได้เมื่อเดินไปถึงรถ เย่หนานโจวก็จ้องมองสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของเวินหนี่พลางถอนหายใจ ก่อนจะกอดเธอเอาไว้ “เวินหนี่ ฉันจะทำยังไงกับเธอดี?”เวินหนี่พิงไหล่ของเขา จมูกของเธอแสบ ไม่รู้เลยว่าตัวเองเปราะบางขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันบางทีอาจเป็นเพราะตั้งแต่ที่เธอได้รับการตอบรับจากเย่หนานโจว ทำให้เธอมีความต้องการมากขึ้น เป็น

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 48

    “เธอมาก็ดี ฉันต้มยาบำรุงไว้ให้เธอด้วยเหมือนกัน” เย่ซูเฟินหันไปพูดกับคนรับใช้ “ไปเอายาบำรุงที่ต้มไว้มาให้เวินหนี่”เวินหนี่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย หล่อนมุ่งความสนใจไปที่ลู่ม่านเซิง แล้วยังต้มยาบำรุงให้เธอด้วยอย่างนั้นเหรอ?ดวงตาของเย่ซูเฟินจับจ้องไปที่ท้องของเวินหนี่ “ฉันได้ยานี้มาจากแพทย์แผนจีนโบราณ ว่ากันว่าถ้าดื่มแล้วจะทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่าย”คนรับใช้นำยาเข้ามา เวินหนี่สูดดมก่อนจะรู้สึกคลื่นไส้อีกครั้งร่างกายของเธอปฏิเสธไปทั้งตัว และขอให้คนรับใช้เอามันออกไป “เอาออกไป ฉันดื่มไม่ได้”เมื่อเห็นว่าเธอปฏิเสธ เย่ซูเฟินก็ไม่พอใจ “เวินหนี่ เธอเป็นอะไรไป นี่เป็นยาที่ฉันลำบากหามาให้เธอแต่กลับไม่ดื่ม ในเมื่อท้องเธอมันไม่ได้เรื่องก็ต้องดื่มยาบำรุง รีบดื่มลงไปเดี๋ยวนี้”คนรับใช้นำยาไปให้เวินหนี่อีกครั้งกลิ่นมันเหม็นมากจนทำให้เวินหนี่ทนไม่ไหว “ฉันไม่ไหวแล้ว…”เธอวิ่งตรงไปที่ห้องน้ำ“เวินหนี่ นี่เธอ…” เย่ซูเฟินเห็นเธอกำลังวิ่งไปทางห้องน้ำ จึงพูดขึ้นด้วยความโกรธ “ไม่ได้เรื่อง มันดื่มยากตรงไหนกัน? เธอเสแสร้งแกล้งทำเป็นดื่มไม่ได้มากกว่า!”เวินหนี่รู้สึกไม่สบายท้องเป็นอย่างมาก และเธอก็อาเจียนอย

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 49

    คำพูดของเธอทำให้เวินหนี่หยุดฝีเท้าหลอกใช้เธออย่างงั้นเหรอ?เธอมีใช้ประโยชน์อะไรให้ต้องหลอกใช้กัน?คนที่ฉลาดอย่างเย่หนานโจว ต่อให้ต้องหลอกใช้ใคร คน ๆ นั้นก็ไม่มีทางเป็นเธอเมื่อลู่ม่านเซิงเห็นว่าเธอดูลังเล ราวกับอยากรู้ เธอจึงเชิดคางขึ้นแล้วพูดอย่างเหนือกว่า “เธอไม่อยากรู้ว่าเหรอว่าเขาหลอกใช้เธอเรื่องอะไร?”หลอกใช้ มันฟังดูไม่สมจริงเอาซะเลยแต่เธอแน่ใจว่าลู่ม่านเซิงจะต้องคิดหาวิธีคำพูดต่าง ๆ มายุแหย่เธอ เวินหนี่หันกลับไป ลู่ม่านเฉิงยังคงมีรอยยิ้มบนริมฝีปากโดยคาดหวังว่าเธอจะต้องถามมันแน่เธอไม่ต้องการให้ลู่ม่านเซิงได้ใจ งั้นก็ทำตามที่เธอต้องการก็แล้วกัน“ดูเหมือนว่าเธอจะอยากให้ฉันรู้มากซะเหลือเกินนะ”ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแข็งทื่อเธอรำคาญคนอย่างเวินหนี่ที่ไม่เดินไปตามเกมเวินหนี่มองเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “จุดประสงค์ของเธอคือการทำให้ฉันหย่ากับเย่หนานโจว เพื่อที่เธอจะได้แต่งงานเข้าตระกูลเย่อย่างราบรื่นไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอคงรู้สึกถึงวิกฤติสินะ?”ลู่ม่านเซิงกำหมัดโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ยังคงทำท่าทางอวดดี “ยังไงสักวันหนึ่งพวกเธอก็ต้องหย่ากัน ทำไมฉันจะต้องรู้สึกถึงวิกฤตด้วย

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 50

    แพทย์และพยาบาลเข้ามาหามลู่ม่านเซิงออกไปเย่ซูเฟินไม่พอใจเวินหนี่เป็นอย่างมากแต่ก็ต้องหยุดเอาไว้ก่อน เพราะเธอเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของลู่ม่านเซิงมากกว่า ขณะที่ลู่ม่านเซิงถูกวางลงบนเตียง เย่ซูเฟินก็ตามไปด้วยตลอดทางจนถึงประตูห้องฉุกเฉิน และเธอก็พนมมือขึ้นอย่างเป็นกังวล แพทย์กำลังคุยกับเย่หนานโจวเกี่ยวกับอาการของลู่ม่านเซิง เขาจึงไม่มีเวลาได้สนใจเวินหนี่เวินหนี่ยืนอยู่ใกล้ ๆ มองดูพวกเขากำลังยุ่งวุ่นวายเพื่อลู่ม่านเซิง ส่วนเธอนั้นดูเหมือนเป็นคนนอกเมื่อลู่ม่านเซิงถูกเข็นออกมา ก่อนจะถูกล้อมพากลับไปส่งห้องตลอดทางเย่หนานโจวยังไม่ได้เดินเข้าไป เขาสังเกตเวินหนี่เดินตามหลังมา แล้วหันกลับไปพูดกับเธอว่า “ตอนนี้ลู่ม่านเซิงห้ามถูกกระตุ้น อย่าพึ่งอยู่กับเธอตามลำพัง”เวินหนี่รู้สึกหายใจไม่ออก นี่เขากำลังโทษเธออย่างนั้นเหรอ?ตำหนิว่าเธอทำให้ลู่ม่านเซิงโกรธ และขอให้เธออย่าสร้างปัญหาให้กับลู่ม่านเซิงอีกอย่างนั้นสินะ เมื่อเย่หนานโจวเห็นว่าเธอเอาแต่ก้มหน้าไม่พูดไม่จา จึงคิดว่าเธอคงจะกำลังคิดฟุ้งซ่าน จึงลูบหัวเธอ “เป็นอะไรไป ไม่สบายใจเหรอ?”“หนานโจว รีบเข้ามาเร็วเข้า!” เย่ซูเฟินปาดน้ำตา เปิดป

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 51

    เย่จื่อรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่มีความโกรธและความผิดหวังหลงเหลืออยู่เต็มอกในตอนนั้นเองเย่หนานโจวก็เดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วยก็หันมาเจอเย่จื่อและเวินหนี่ที่อยู่ด้วยกัน จึงทักทายด้วยความสุภาพ “คุณอา”“ไม่ต้องมาเรียกฉัน!”ผู้เป็นอาตะโกนใส่หน้าหลานชายด้วยความรู้สึกโกรธ “แกยังถือว่านับว่าฉันเป็นอาอยู่งั้นเหรอ? การหย่าระหว่างแกกับเวินหนี่เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่มาปรึกษาฉัน ลืมที่ปู่กำชับไว้แล้วใช่ไหมว่าให้ดูแลเวินหนี่ดี ๆ? นี่น่ะเหรอการดูแลที่ดีจากแก! เย่หนานโจว ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็ก ไม่คิดเลยว่าแกจะโตมาเป็นคนที่ไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้ แล้วนี่ยังคิดจะหย่าอีก! กับแค่ชู้ที่นอนป่วยอยู่บนเตียง แกไม่เห็นความสำคัญของการเป็นสามีภรรยาเลยหรือไง!” “พูดดี ๆ หน่อยเย่จื่อ นี่มันเรื่องชู้ เรื่องไร้ความรับผิดชอบอะไรกัน มันเกี่ยวกันตรงไหน?” ผู้เป็นแม่อย่างเย่ซูเฟินได้ยินที่เย่จื่อเอ่ยออกมาด้วยความหยาบคายก็โต้กลับไปทันที “เรื่องที่หนานโจวต้องการหย่ามันก็เป็นเรื่องของพวกเขาสองคน แล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ เธอจะมาใช้ความอาวุโสกว่าบังคับและดุด่าลูกชายฉันแบบนี้ได้ยังไง!”เวินหนี่ไม่คิดว่าจะเก

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 52

    ส่วนตัวเวินหนี่ก็รู้สึกโทษตัวเองเช่นกัน ทนมาได้ตั้งนาน ทำไมถึงไม่อดทนต่ออีกสักหน่อยหากว่าเธอไม่ทำตัวหุนหันพลันแล่น เย่จื่อก็คงไม่รู้“ฉันขอโทษจริง ๆ”เวินหนี่เองก็ไม่อยากจะสร้างปัญหาให้เย่หนานโจว แต่คำพูดที่ได้พูดออกไปแล้วมันไม่สามารถเก็บกลับมาได้อีกหญิงสาวกำลังคิดทบทวนอีกครั้งว่าเธออยากจะหย่าจริง ๆ `หรือไม่?ที่จริงแล้วเธอแค่อยากจะมอบชีวิตใหม่ให้กับตัวเองตอนนี้เธอรู้สึกสิ้นหวัง ไม่มีความหวังใดหลงเหลืออยู่เลยและไม่อยากจะจมอยู่กับความรู้สึกนี้อีกต่อไปแล้วเย่หนานโจวไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา “การใช้ชีวิตอยู่กับฉันมันทำให้เธอลำบากมากใช่ไหม?”ได้ยินอย่างนั้นเวินหนี่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ดวงตากลมเริ่มร้อนผ่าวราวกับกำลังมีอะไรบางอย่างร่วงหล่นลงมาในไม่ช้าหากว่าเขาแสดงความโกรธออกมา เธอก็คงไม่ต้องมารู้สึกอะไรแบบนี้การที่เขาเอ่ยถามออกมาเบา ๆ แบบนั้นมันทำให้เธอควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่ได้เลยแทนที่จะตอบว่าลำบากใจ คงจะดีกว่าถ้าเธอพูดออกไปตรง ๆ ว่าเธอไม่อยากเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเขาและลู่ม่านเซิงอีกแต่นั่นมันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว“ก็นิดหน่อย”เวินหนี่ก้มหน้าลง ไม่อยากใ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 53

    ได้ยินอย่างนั้นหลี่ถิงก็รีบเข้าไปคว้าแก้วไวน์มาไว้ในมือตัวเองแทน “ประธานหลี่ พี่เวินดื่มไม่ได้จริง ๆ ดังนั้นให้ฉันดื่มแทนนะคะ”ประธานหลี่ไม่พอใจ “แบบนี้ก็ไม่มีน้ำใจต่อกันเลยน่ะสิ”หลี่ถิงรู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย เพราะมีประสบการณ์การเข้างานสังคมไม่มากนักจึงไม่มีไหวพริบมากพอที่จะรับสถานการณ์ให้ได้ จึงรู้สึกอายและเป็นกังวลมากเกรงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้เกิดผลที่ไม่ดีตามมา“เวินหนี่ คุณจะปล่อยให้ลูกน้องของตัวเองดื่มไวน์แทนไม่ได้นะ”เพราะเห็นว่าทั้งสองคนเป็นผู้หญิงจึงทำให้ประธานหลี่รู้สึกมีความกล้ามากขึ้น คำพูดคำจาของเขาจึงฟังดูไม่ได้สุภาพนัก “คุณเป็นตัวแทนของประธานเย่ ประธานเย่จะดื่มกับเราเสมอ คุณจะไม่ดื่มได้ยังไง ในเมื่อคุณอยู่ที่นี่แทนเขาแล้วก็ควรที่จะมาสนุกกับเรานะ”“มา เดี๋ยวผมเติมให้ คืนนี้ดื่มให้จุใจไปเลย”คนอื่น ๆ เองก็เออออตามเขา “เวินหนี่รักษาหน้ากันหน่อยเถอะ ถ้าประธานหลี่ขอให้ดื่มก็แค่ดื่ม อย่าหาข้ออ้างให้มันมากมายเลย!”“อย่าทำให้บรรยากาศมันไม่สนุกสิ ถ้าประธานเย่รู้เข้าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ เดี๋ยวกลับไปก็คงโดนดุเสียเปล่า!”เวินหนี่ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยจริง ๆแม้ว่

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 54

    สัมผัสจากประธานหลี่ทำให้เวินหนี่รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เธอรีบผลักเขาออกด้วยความตกใจ “ประธานหลี่ ให้เกียรติฉันด้วยค่ะ!”“คุณต้องการเกียรติอะไรงั้นเหรอ? ก็แค่ทาสรับใช้ของประธานเย่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณนอนกับเขาไปกี่ครั้งแล้ว เราให้โอกาสคุณดื่มเพื่อรักษาหน้าเอาไว้ อย่าหน้าไม่อายหน่อยเลย!” ประธานหลี่ผู้ดื้อรั้นยังคงยืนหยัดคำเดิม ทว่าหญิงสาวก็ปฏิเสธทุกครั้ง จนในที่สุดเมื่อความอดทนหมดลงเขาก็โผเข้าไปกอดเธอทันที “อะไรที่เย่หนานโจวให้ได้ ผมก็ให้คุณได้เหมือนกัน ให้บ้านสักหลังล่ะเป็นไง ในอนาคตคุณไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรเลยมาเป็นคนของผมยังดีกว่าเย่หนานโจวอีกนะ...”“ปล่อยนะ!”เวินหนี่พยายามดิ้นหนี ก่อนจะตบเข้าที่หน้าอีกฝ่ายเต็มแรง “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”เมื่อถูกตบอย่างแรงตอนนี้ดวงตาของประธานหลี่จึงแดงก่ำ เขากำลังจ้องมองเวินหนี่ด้วยความโกรธจัด “นังสารเลว กล้าดียังไง ฉันจะฆ่าให้ตายเลยคอยดูเถอะ!”หลี่ถิงรู้สึกกลัวมากส่วนเวินหนี่เองก็กลัวว่าหลี่ถิงจะได้รับอันตรายเช่นกันเพราะอยู่ตรงบริเวณประตูพอดี เธอจึงรีบผลักหลี่ถิงให้ออกไป “ที่นี่มันอันตราย รีบออกไปเร็ว ๆ !”หลี่ถิงตกใจมาก “พี่เวินหนี่ พี่จะท

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 459

    [ตอนนี้เลย! ตอนนี้ได้เลยจ้ะ!]ลู่ม่านเซิงยิ้มมุมปาก เธอรู้ว่าเย่ซูเฟินต้องอยากมาเจอเธอแน่นอน เธอแค่ต้องนั่งรอที่นี่ก็พอเธอเดินวนไปรอบ ๆ แต่ก็ยังรู้สึกสนใจห้องนอนใหญ่ จึงเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีใครพักอยู่ที่นี่มาสักระยะหนึ่งแล้วเธอเปิดตู้เสื้อผ้าทันที ข้างในมีชุดนอนของผู้หญิงอยู่หลายชุดมีบางตัวที่เอาป้ายออกแล้ว บางตัวก็ยังไม่ได้เอาป้ายออกยังมีชุดนอนแบบสายเดี่ยวเซ็กซี่อยู่หลายชุดด้วยเธอหยิบมันออกมาลองทาบบนตัวเอง แล้วหมุนตัวไปมาหน้ากระจกถ้าเธอสวมมันแล้วหมุนตัวต่อหน้าเย่หนานโจว เขาต้องคิดว่าเธอดูดีแน่ ๆเธอไม่ได้อยู่ในห้องนานนัก เพราะโอกาสบางอย่างรอได้เธอมองไปที่เตียงใหญ่ คิดภาพตัวเองกับเย่หนานโจวอยู่บนเตียงนั้น ในฉากอันเร่าร้อนยี่สิบนาทีผ่านไปเย่ซูเฟินก็มาถึงว่างเจียงหยวนเธอส่งเสียงเรียกมาตั้งแต่หน้าประตู “เซิงเซิง! เซิงเซิง!”แต่ลู่ม่านเซิงไม่ได้ออกมาเมื่อเย่ซูเฟินไม่เห็นลู่ม่านเซิงในห้องนั่งเล่น เธอจึงถามว่า “เซิงเซิงอยู่ไหน? ไม่ใช่ว่าเธออยู่ที่ว่างเจียงหยวนหรือไง?”“คุณลู่อยู่ข้างบนค่ะ” คนรับใช้ตอบ ก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วบอกว่า “คุณลู่หูหนวกอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 458

    ไม่เป็นไรวันเวลายังอีกยาวไกล สักวันหนึ่งเธอจะได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้แน่นอนลู่ม่านเซิงรู้สึกว่าเธอได้ก้าวเข้าใกล้เป้าหมายนั้นไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว เธอจึงมองไปที่เผยชิง ซึ่งมากับเธอในวันนี้เพราะเขาเป็นคนใกล้ชิดของเย่หนานโจว และเพราะเธอรู้ว่า ‘ต้องเกรงใจคนที่ให้ความช่วยเหลือ’ ลู่ม่านเซิงจึงต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา เธอถามอย่างเป็นมิตรว่า “คุณเผย ช่วงนี้พี่หนานโจวมาอยู่ที่นี่บ่อยไหม?”เผยชิงตอบเธอโดยใช้โทรศัพท์พิมพ์ว่า “ช่วงนี้เขาอยู่ที่นี่บ่อยขึ้น แต่หลายวันแล้วที่ประธานเย่ไม่ได้มาที่นี่ครับ”“เขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลเหรอ?” ลู่ม่านเซิงไม่ได้ติดต่อกับเย่ซูเฟินมานานแล้ว ช่วงนี้เธอมัวแต่ยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาเลยมีหลายครั้งที่เย่ซูเฟินส่งข้อความมาหา แต่เธอยุ่งจนลืมตอบไป“ประธานเย่จะกลับไปเป็นบางครั้งครับ” เผยชิงตอบอย่างจงใจ “แต่คุณผู้หญิงไม่ค่อยชอบกลับไปที่นั่น ประธานเย่ก็เลยไม่ชอบกลับไปมากนัก”ลู่ม่านเซิงเผลอกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว แต่ยังคงแสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วถามต่อว่า “แล้วช่วงนี้เขาจะมาที่นี่ไหม?”“เรื่องนั้นผมไม่ทราบครับ” เผยชิงตอบ “ช่วงนี้ประธานเย่ยุ่งกับงานม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 457

    ลู่เซินยังไม่เข้าใจทั้งหมดเมื่อก่อนเขาสนใจเวินหนี่มากจนละเลยข้อมูลสำคัญ เป็นไปได้ว่าเขาอาจมองผิดไป แล้วเวินหนี่ที่ผ่านเรื่องราวนั้นมาล่ะ? หรือว่าเป็นหนังสือพิมพ์ที่เขียนผิด?เวินหนี่เห็นลู่เซินคิดหนักตั้งแต่เมื่อครู่จึงถามว่า “ลู่เซิน กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?”ลู่เซินดึงสติกลับมา “ไม่มีอะไร สั่งอาหารเถอะ”“ฉันสั่งเรียบร้อยแล้ว” เวินหนี่บอก “คุณอาจะดื่มเบียร์หน่อย นายก็ดื่มด้วยนะ”“โอเค”ทั้งสองออกจากห้องทำงานเย่จื่อนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาอย่างสงบ สำหรับเธอ ตอนนี้การดูทีวีก็เป็นการฆ่าเวลาในทีวีกำลังออกข่าวฉาวของเธอเวินหนี่เดินเข้าไปนั่งดูทีวีด้วย เธอเห็นว่าในจอมีภาพเจียงเมิ่งเหยาในห้องพักฟื้น “ดูตามกล้องมานะคะ นี่คือเหยื่อของเรา ลู่ม่านเซิง คุณลู่คะ คุณยังได้ยินอยู่ไหมคะ?”ลู่ม่านเซิงดูไม่ค่อยพอใจกับกล้อง “ไม่ต้องถ่ายแล้ว ฉันไม่ให้สัมภาษณ์”“คุณลู่คะ” เจียงเมิ่งเหยาเรียกอีกครั้ง“ฉันไม่ได้ยิน ไม่รู้ว่าคุณพูดอะไร ไม่ต้องถ่ายแล้ว ฉันไม่อยากเจอใครทั้งนั้นตอนนี้!” ลู่ม่านเซิงดูซีดเซียว อ่อนแอมาก เหมือนนางเอกในเรื่องเศร้าเจียงเมิ่งเหยาฉวยโอกาสนี้ ชี้ไปที่กล้องแล้วพูดว่า “คุณลู่

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 456

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของลู่เซินก็แสดงความตกใจออกมา "เป็นไปได้ยังไง ต้องเป็นเวินหนี่สิ"ตอนนั้น เขาชอบเวินหนี่มาก เขาห่วงใยเธอจนต้องรีบกลับประเทศในคืนนั้นผู้ช่วยที่ถือหนังสือพิมพ์อยู่ก็ยังคิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ และคิดว่าตัวเองอาจเข้าใจผิด "ผมจำได้ว่าคุณเคยบอกว่า คุณกับเวินหนี่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียน แต่คนนี้อายุน้อยกว่าคุณหนึ่งปี"เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของลู่เซินก็ยิ่งตกใจ เขารีบเดินเข้ามาหยิบหนังสือพิมพ์ไปพิจารณาอย่างละเอียดแม้ว่าหนังสือพิมพ์จะเก่าแล้ว แต่ก็ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี หัวข้อข่าวยังคงชัดเจน ข่าวระบุว่าโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเกิดคดีฆาตกรรม มีคนตายจำนวนมาก และผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือ…สายตาของลู่เซินนิ่งงัน เขาตกใจจนต้องกะพริบตาสองสามครั้ง ราวกับว่าเขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์ที่ต่างจากที่เคยเห็นมาก่อนผู้รอดชีวิตในหนังสือพิมพ์ก็ชื่อเวินหนี่เหมือนกัน แต่เป็นนักเรียนที่อายุน้อยกว่าหนึ่งปี นั่นหมายความว่าไม่ใช่เวินหนี่ที่เขารู้จักมันเกิดอะไรขึ้น?สีหน้าของลู่เซินเริ่มเปลี่ยนไป เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผิดคือหนังสือพิมพ์หรืออะไรบางอย่างในกระบวนการนี้เวินหนี่เค

DMCA.com Protection Status