เธอเอามือค้ำผนัง รู้สึกไม่สบายตัวมาก ๆ ใบหน้าของเธอซีดเผือด และอาเจียนไม่หยุดแต่ไม่มีอะไรออกมาเลยเมื่อเห็นแบบนั้นเย่หนานโจวก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างประหม่าและพยุงเธอไว้ “เป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหน?”เวินหนี่ผลักมือของเขาออก ดวงตาของเธอเปียกโชกไปด้วยน้ำตา “เมื่อกี้ยังบอกว่าจะหย่าอยู่เลยไม่ใช่เหรอคะ แล้วคุณจะถามเรื่องพวกนี้ไปทำไม?”เย่หนานโจวเห็นว่าใบหน้าของเธอซีดเซียว ดูไม่สบายเอามาก ๆ ดังนั้นเขาจึงลดน้ำเสียงลงแล้วพูดขึ้นว่า “กลับบ้านกัน อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องนี้”เขาประคองเธอแล้วพาออกไปเวินหนี่ไม่ได้ต่อต้าน เธอไม่อยากทะเลาะกับเย่หนานโจวตรงประตู เพราะหากพ่อกับแม่เธอมาเห็นเข้าพวกท่านจะเป็นห่วงเอาได้ ชีวิตแต่งงานของเธอไม่ได้มีความสุข แต่จะปล่อยให้พ่อแม่กังวลมากเกินไปไม่ได้เมื่อเดินไปถึงรถ เย่หนานโจวก็จ้องมองสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของเวินหนี่พลางถอนหายใจ ก่อนจะกอดเธอเอาไว้ “เวินหนี่ ฉันจะทำยังไงกับเธอดี?”เวินหนี่พิงไหล่ของเขา จมูกของเธอแสบ ไม่รู้เลยว่าตัวเองเปราะบางขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันบางทีอาจเป็นเพราะตั้งแต่ที่เธอได้รับการตอบรับจากเย่หนานโจว ทำให้เธอมีความต้องการมากขึ้น เป็น
“เธอมาก็ดี ฉันต้มยาบำรุงไว้ให้เธอด้วยเหมือนกัน” เย่ซูเฟินหันไปพูดกับคนรับใช้ “ไปเอายาบำรุงที่ต้มไว้มาให้เวินหนี่”เวินหนี่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย หล่อนมุ่งความสนใจไปที่ลู่ม่านเซิง แล้วยังต้มยาบำรุงให้เธอด้วยอย่างนั้นเหรอ?ดวงตาของเย่ซูเฟินจับจ้องไปที่ท้องของเวินหนี่ “ฉันได้ยานี้มาจากแพทย์แผนจีนโบราณ ว่ากันว่าถ้าดื่มแล้วจะทำให้ตั้งครรภ์ได้ง่าย”คนรับใช้นำยาเข้ามา เวินหนี่สูดดมก่อนจะรู้สึกคลื่นไส้อีกครั้งร่างกายของเธอปฏิเสธไปทั้งตัว และขอให้คนรับใช้เอามันออกไป “เอาออกไป ฉันดื่มไม่ได้”เมื่อเห็นว่าเธอปฏิเสธ เย่ซูเฟินก็ไม่พอใจ “เวินหนี่ เธอเป็นอะไรไป นี่เป็นยาที่ฉันลำบากหามาให้เธอแต่กลับไม่ดื่ม ในเมื่อท้องเธอมันไม่ได้เรื่องก็ต้องดื่มยาบำรุง รีบดื่มลงไปเดี๋ยวนี้”คนรับใช้นำยาไปให้เวินหนี่อีกครั้งกลิ่นมันเหม็นมากจนทำให้เวินหนี่ทนไม่ไหว “ฉันไม่ไหวแล้ว…”เธอวิ่งตรงไปที่ห้องน้ำ“เวินหนี่ นี่เธอ…” เย่ซูเฟินเห็นเธอกำลังวิ่งไปทางห้องน้ำ จึงพูดขึ้นด้วยความโกรธ “ไม่ได้เรื่อง มันดื่มยากตรงไหนกัน? เธอเสแสร้งแกล้งทำเป็นดื่มไม่ได้มากกว่า!”เวินหนี่รู้สึกไม่สบายท้องเป็นอย่างมาก และเธอก็อาเจียนอย
คำพูดของเธอทำให้เวินหนี่หยุดฝีเท้าหลอกใช้เธออย่างงั้นเหรอ?เธอมีใช้ประโยชน์อะไรให้ต้องหลอกใช้กัน?คนที่ฉลาดอย่างเย่หนานโจว ต่อให้ต้องหลอกใช้ใคร คน ๆ นั้นก็ไม่มีทางเป็นเธอเมื่อลู่ม่านเซิงเห็นว่าเธอดูลังเล ราวกับอยากรู้ เธอจึงเชิดคางขึ้นแล้วพูดอย่างเหนือกว่า “เธอไม่อยากรู้ว่าเหรอว่าเขาหลอกใช้เธอเรื่องอะไร?”หลอกใช้ มันฟังดูไม่สมจริงเอาซะเลยแต่เธอแน่ใจว่าลู่ม่านเซิงจะต้องคิดหาวิธีคำพูดต่าง ๆ มายุแหย่เธอ เวินหนี่หันกลับไป ลู่ม่านเฉิงยังคงมีรอยยิ้มบนริมฝีปากโดยคาดหวังว่าเธอจะต้องถามมันแน่เธอไม่ต้องการให้ลู่ม่านเซิงได้ใจ งั้นก็ทำตามที่เธอต้องการก็แล้วกัน“ดูเหมือนว่าเธอจะอยากให้ฉันรู้มากซะเหลือเกินนะ”ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแข็งทื่อเธอรำคาญคนอย่างเวินหนี่ที่ไม่เดินไปตามเกมเวินหนี่มองเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “จุดประสงค์ของเธอคือการทำให้ฉันหย่ากับเย่หนานโจว เพื่อที่เธอจะได้แต่งงานเข้าตระกูลเย่อย่างราบรื่นไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เธอคงรู้สึกถึงวิกฤติสินะ?”ลู่ม่านเซิงกำหมัดโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ยังคงทำท่าทางอวดดี “ยังไงสักวันหนึ่งพวกเธอก็ต้องหย่ากัน ทำไมฉันจะต้องรู้สึกถึงวิกฤตด้วย
แพทย์และพยาบาลเข้ามาหามลู่ม่านเซิงออกไปเย่ซูเฟินไม่พอใจเวินหนี่เป็นอย่างมากแต่ก็ต้องหยุดเอาไว้ก่อน เพราะเธอเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของลู่ม่านเซิงมากกว่า ขณะที่ลู่ม่านเซิงถูกวางลงบนเตียง เย่ซูเฟินก็ตามไปด้วยตลอดทางจนถึงประตูห้องฉุกเฉิน และเธอก็พนมมือขึ้นอย่างเป็นกังวล แพทย์กำลังคุยกับเย่หนานโจวเกี่ยวกับอาการของลู่ม่านเซิง เขาจึงไม่มีเวลาได้สนใจเวินหนี่เวินหนี่ยืนอยู่ใกล้ ๆ มองดูพวกเขากำลังยุ่งวุ่นวายเพื่อลู่ม่านเซิง ส่วนเธอนั้นดูเหมือนเป็นคนนอกเมื่อลู่ม่านเซิงถูกเข็นออกมา ก่อนจะถูกล้อมพากลับไปส่งห้องตลอดทางเย่หนานโจวยังไม่ได้เดินเข้าไป เขาสังเกตเวินหนี่เดินตามหลังมา แล้วหันกลับไปพูดกับเธอว่า “ตอนนี้ลู่ม่านเซิงห้ามถูกกระตุ้น อย่าพึ่งอยู่กับเธอตามลำพัง”เวินหนี่รู้สึกหายใจไม่ออก นี่เขากำลังโทษเธออย่างนั้นเหรอ?ตำหนิว่าเธอทำให้ลู่ม่านเซิงโกรธ และขอให้เธออย่าสร้างปัญหาให้กับลู่ม่านเซิงอีกอย่างนั้นสินะ เมื่อเย่หนานโจวเห็นว่าเธอเอาแต่ก้มหน้าไม่พูดไม่จา จึงคิดว่าเธอคงจะกำลังคิดฟุ้งซ่าน จึงลูบหัวเธอ “เป็นอะไรไป ไม่สบายใจเหรอ?”“หนานโจว รีบเข้ามาเร็วเข้า!” เย่ซูเฟินปาดน้ำตา เปิดป
เย่จื่อรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่มีความโกรธและความผิดหวังหลงเหลืออยู่เต็มอกในตอนนั้นเองเย่หนานโจวก็เดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วยก็หันมาเจอเย่จื่อและเวินหนี่ที่อยู่ด้วยกัน จึงทักทายด้วยความสุภาพ “คุณอา”“ไม่ต้องมาเรียกฉัน!”ผู้เป็นอาตะโกนใส่หน้าหลานชายด้วยความรู้สึกโกรธ “แกยังถือว่านับว่าฉันเป็นอาอยู่งั้นเหรอ? การหย่าระหว่างแกกับเวินหนี่เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่มาปรึกษาฉัน ลืมที่ปู่กำชับไว้แล้วใช่ไหมว่าให้ดูแลเวินหนี่ดี ๆ? นี่น่ะเหรอการดูแลที่ดีจากแก! เย่หนานโจว ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็ก ไม่คิดเลยว่าแกจะโตมาเป็นคนที่ไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้ แล้วนี่ยังคิดจะหย่าอีก! กับแค่ชู้ที่นอนป่วยอยู่บนเตียง แกไม่เห็นความสำคัญของการเป็นสามีภรรยาเลยหรือไง!” “พูดดี ๆ หน่อยเย่จื่อ นี่มันเรื่องชู้ เรื่องไร้ความรับผิดชอบอะไรกัน มันเกี่ยวกันตรงไหน?” ผู้เป็นแม่อย่างเย่ซูเฟินได้ยินที่เย่จื่อเอ่ยออกมาด้วยความหยาบคายก็โต้กลับไปทันที “เรื่องที่หนานโจวต้องการหย่ามันก็เป็นเรื่องของพวกเขาสองคน แล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ เธอจะมาใช้ความอาวุโสกว่าบังคับและดุด่าลูกชายฉันแบบนี้ได้ยังไง!”เวินหนี่ไม่คิดว่าจะเก
ส่วนตัวเวินหนี่ก็รู้สึกโทษตัวเองเช่นกัน ทนมาได้ตั้งนาน ทำไมถึงไม่อดทนต่ออีกสักหน่อยหากว่าเธอไม่ทำตัวหุนหันพลันแล่น เย่จื่อก็คงไม่รู้“ฉันขอโทษจริง ๆ”เวินหนี่เองก็ไม่อยากจะสร้างปัญหาให้เย่หนานโจว แต่คำพูดที่ได้พูดออกไปแล้วมันไม่สามารถเก็บกลับมาได้อีกหญิงสาวกำลังคิดทบทวนอีกครั้งว่าเธออยากจะหย่าจริง ๆ `หรือไม่?ที่จริงแล้วเธอแค่อยากจะมอบชีวิตใหม่ให้กับตัวเองตอนนี้เธอรู้สึกสิ้นหวัง ไม่มีความหวังใดหลงเหลืออยู่เลยและไม่อยากจะจมอยู่กับความรู้สึกนี้อีกต่อไปแล้วเย่หนานโจวไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมา “การใช้ชีวิตอยู่กับฉันมันทำให้เธอลำบากมากใช่ไหม?”ได้ยินอย่างนั้นเวินหนี่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ดวงตากลมเริ่มร้อนผ่าวราวกับกำลังมีอะไรบางอย่างร่วงหล่นลงมาในไม่ช้าหากว่าเขาแสดงความโกรธออกมา เธอก็คงไม่ต้องมารู้สึกอะไรแบบนี้การที่เขาเอ่ยถามออกมาเบา ๆ แบบนั้นมันทำให้เธอควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่ได้เลยแทนที่จะตอบว่าลำบากใจ คงจะดีกว่าถ้าเธอพูดออกไปตรง ๆ ว่าเธอไม่อยากเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเขาและลู่ม่านเซิงอีกแต่นั่นมันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว“ก็นิดหน่อย”เวินหนี่ก้มหน้าลง ไม่อยากใ
ได้ยินอย่างนั้นหลี่ถิงก็รีบเข้าไปคว้าแก้วไวน์มาไว้ในมือตัวเองแทน “ประธานหลี่ พี่เวินดื่มไม่ได้จริง ๆ ดังนั้นให้ฉันดื่มแทนนะคะ”ประธานหลี่ไม่พอใจ “แบบนี้ก็ไม่มีน้ำใจต่อกันเลยน่ะสิ”หลี่ถิงรู้สึกเขินอายขึ้นมาเล็กน้อย เพราะมีประสบการณ์การเข้างานสังคมไม่มากนักจึงไม่มีไหวพริบมากพอที่จะรับสถานการณ์ให้ได้ จึงรู้สึกอายและเป็นกังวลมากเกรงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้เกิดผลที่ไม่ดีตามมา“เวินหนี่ คุณจะปล่อยให้ลูกน้องของตัวเองดื่มไวน์แทนไม่ได้นะ”เพราะเห็นว่าทั้งสองคนเป็นผู้หญิงจึงทำให้ประธานหลี่รู้สึกมีความกล้ามากขึ้น คำพูดคำจาของเขาจึงฟังดูไม่ได้สุภาพนัก “คุณเป็นตัวแทนของประธานเย่ ประธานเย่จะดื่มกับเราเสมอ คุณจะไม่ดื่มได้ยังไง ในเมื่อคุณอยู่ที่นี่แทนเขาแล้วก็ควรที่จะมาสนุกกับเรานะ”“มา เดี๋ยวผมเติมให้ คืนนี้ดื่มให้จุใจไปเลย”คนอื่น ๆ เองก็เออออตามเขา “เวินหนี่รักษาหน้ากันหน่อยเถอะ ถ้าประธานหลี่ขอให้ดื่มก็แค่ดื่ม อย่าหาข้ออ้างให้มันมากมายเลย!”“อย่าทำให้บรรยากาศมันไม่สนุกสิ ถ้าประธานเย่รู้เข้าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ เดี๋ยวกลับไปก็คงโดนดุเสียเปล่า!”เวินหนี่ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยจริง ๆแม้ว่
สัมผัสจากประธานหลี่ทำให้เวินหนี่รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เธอรีบผลักเขาออกด้วยความตกใจ “ประธานหลี่ ให้เกียรติฉันด้วยค่ะ!”“คุณต้องการเกียรติอะไรงั้นเหรอ? ก็แค่ทาสรับใช้ของประธานเย่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณนอนกับเขาไปกี่ครั้งแล้ว เราให้โอกาสคุณดื่มเพื่อรักษาหน้าเอาไว้ อย่าหน้าไม่อายหน่อยเลย!” ประธานหลี่ผู้ดื้อรั้นยังคงยืนหยัดคำเดิม ทว่าหญิงสาวก็ปฏิเสธทุกครั้ง จนในที่สุดเมื่อความอดทนหมดลงเขาก็โผเข้าไปกอดเธอทันที “อะไรที่เย่หนานโจวให้ได้ ผมก็ให้คุณได้เหมือนกัน ให้บ้านสักหลังล่ะเป็นไง ในอนาคตคุณไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรเลยมาเป็นคนของผมยังดีกว่าเย่หนานโจวอีกนะ...”“ปล่อยนะ!”เวินหนี่พยายามดิ้นหนี ก่อนจะตบเข้าที่หน้าอีกฝ่ายเต็มแรง “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน!”เมื่อถูกตบอย่างแรงตอนนี้ดวงตาของประธานหลี่จึงแดงก่ำ เขากำลังจ้องมองเวินหนี่ด้วยความโกรธจัด “นังสารเลว กล้าดียังไง ฉันจะฆ่าให้ตายเลยคอยดูเถอะ!”หลี่ถิงรู้สึกกลัวมากส่วนเวินหนี่เองก็กลัวว่าหลี่ถิงจะได้รับอันตรายเช่นกันเพราะอยู่ตรงบริเวณประตูพอดี เธอจึงรีบผลักหลี่ถิงให้ออกไป “ที่นี่มันอันตราย รีบออกไปเร็ว ๆ !”หลี่ถิงตกใจมาก “พี่เวินหนี่ พี่จะท