Share

บทที่ 380

Author: เซียงปู้อี๋
ขณะที่เขากอดเธอ ร่างกายของเวินหนี่ก็แข็งทื่อ ภายในไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็วางหม้อที่กำลังปรุงอยู่ลงแล้วถามขึ้นว่า “เป็นอะไรไปคะ? ฉันใกล้ทำเสร็จแล้วล่ะค่ะ”

แต่เย่หนานโจวก็กอดเธอแน่นขึ้นเรื่อย ๆ และซุกหน้าลงในเส้นผมของเธอ กลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้เขาผ่อนคลายลงทันที “เปล่า ฉันแค่อยากอยู่กับเธอ แบบนี้ฉันถึงจะรู้สึกสบายใจขึ้น”

ดวงตาของเวินหนี่เป็นประกาย และเธอยังคงผัดอาหารในหม้อต่อ “ในห้องครัวมีควันเยอะ มันไม่เหมาะกับคุณ”

เย่หนานโจวกล่าว “ถ้าได้อยู่กับเธอ ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น”

หากเป็นเมื่อก่อนเวินหนี่คงจะรู้สึกอบอุ่นและตื่นเต้นอยู่ข้างใน

แต่ตอนนี้เธอใจนิ่งดั่งน้ำ ราวกับว่าคำพูดหวาน ๆ ของเย่หนานโจวนั้นไร้ผล

บางทีอาจเพราะเคยคาดหวังมากเกินไป จนหัวใจเธอมันชินชาไปแล้ว

เธอไม่ได้ผลักเขาออก ไม่ได้ปฏิเสธ และไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่อยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆ

เธอรู้ดีว่า พวกเธอไม่ค่อยมีโอกาสแบบนี้

และโอกาสแบบนี้ก็มีไม่มากนัก

เมื่อเธอทำอาหารเสร็จแล้ว ถึงได้ดึงมือของเย่หนานโจวออก เธอมองย้อนกลับไปที่เขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ออกไปเถอะค่ะ อาหารเสร็จแล้ว เดี๋ยวจัดใส่จานก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว”

“ทำไมต้องพิถีพิถ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
พี่ชอบขอ น้องชอบเบิ้ล
เวินหนี่จะหนีไปคลอดลูกแล้วเหรอ บางครั้งก็สงสารเย่หนานโจวเหมือนกันนะ ก็รักเวินหนี่แหละแต่ไม่กล้าแสดงออก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 381

    เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะฟังยังไงเขาก็รู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังเหน็บแนม เขามองไปที่เวินหนี่ที่อยู่ตรงข้ามเขา แต่รู้สึกว่าเธออยู่ห่างไกลเขาเหลือเกิน ระยะห่างทำให้เขารู้สึกว่างเปล่า ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มลึก “เวินหนี่ เขยิบเข้ามาใกล้อีกหน่อย”เวินหนี่ไม่ได้ปฏิเสธ และขยับเก้าอี้มาข้าง ๆ พร้อมทั้งคีบอาหารให้เขา “เย็นหมดแล้ว ทำไมยังไม่กินอีกล่ะคะ หรือเป็นเพราะว่าฉันทำไม่อร่อยเหรอ?”เย่หนานโจวเฝ้าดูเธอตักอาหารใส่ชามของเขา พลางชะงักไปครู่หนึ่ง เขามองเวินหนี่อีกครั้ง ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมา “ก่อนจะทำอาหารฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ขอแค่เธอเป็นคนทำฉันก็กินหมดอยู่แล้ว”เขาคีบอาหารที่เวินหนี่ใส่ไว้ในจานของตัวเองขึ้นมาต่อหน้าเธอ แล้วใส่เข้าไปในปากพร้อมทั้งพยักหน้าอย่างถูกใจ “อืม ไม่เลว เธอมีพรสวรรค์ในการทำอาหารจริง ๆ!”เขากินอาหารจานเดียวกันอีกสองคำเมื่อเวินหนี่เห็นว่าเขาดูเหมือนจะชอบ อารมณ์ของเธอก็ผันผวน เธอยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ไม่มีทาง ไหนฉันขอชิมดูหน่อย มันจะอร่อยขนาดนั้นอย่างที่คุณพูดหรือเปล่า”เธอวางตะเกียบลงในจานอีกใบแล้วคีบกินคำเล็ก ๆ “มันก็เ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 382

    หากให้เป็นเลขาเวินตลอดไป เธอก็คงจะเหมาะสมอย่างแน่นอนแต่เธอโลภมากเกินไปที่ต้องการความรักจากเขาหากยังอยู่ด้วยกันต่อ พวกเธอจะไม่มีทางจบกันด้วยดี และแม้แต่ความทรงจำที่สวยงามที่สุดก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป“เวินหนี่...” เย่หนานโจวอารมณ์พุ่ง แต่ยาก็ออกฤทธิ์เร็วขึ้น ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่เธอ “เธอทิ้งฉัน...เพื่อจะไปหาอาจ้านงั้นเหรอ?”เวินหนี่ไม่ได้ตอบ แต่รวบรวมความกล้าสัมผัสใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ภายใต้การจ้องมองอันเฉียบคมของเขาเธอมองเขา พยายามค้นหาเงาของอาจ้านในตัวเขาแต่เขาคือเย่หนานโจว ไม่ใช่ชายหนุ่มที่อยู่ในความคิดเพ้อฝันของเธออีกต่อไปเธอจำความเสียสละตนของเขาในการช่วยชีวิตเธอจากเงื้อมมือของพวกอันธพาลจนตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสได้เธอเป็นหนี้ชีวิตเขา เพราะเขาได้รับบาดเจ็บเพราะเธอ แต่ต่อมาเธอก็ไม่มีอะไรติดค้างเขาแล้ว เพราะเธอก็ช่วยชีวิตเขาไว้ครั้งหนึ่งเช่นกัน เวินหนี่จำเรื่องราวเกี่ยวกับเขาได้เป็นอย่างดี หลังจากเรียนจบมัธยมต้น สายตาของเธอก็ตกอยู่บนตัวเขามาโดยตลอด เธอเรียนโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยที่เดียวกันกับเขา สำหรับเย่หนานโจว เธอมีตัวตนอยู่เพียงเจ็ดปีเท่านั้นแต่สำหรับเ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 383

    เวินหนี่ดื่มน้ำผลไม้ในแก้วจนหมด และก่อนจะดื่มหมดเธอก็ชนแก้วกับแก้วไวน์ของเย่หนานโจวเป็นครั้งสุดท้ายนี่ถือเป็นการอำลากันด้วยดี ก่อนหน้านี้พวกเธอได้ทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุขก่อนที่เวินหนี่จะจากไป เธอก็ได้วางสัญญาหย่าไว้บนโต๊ะถัดมาเป็นตั๋วไปฝรั่งเศสสองใบแต่ตั๋วนี้ไม่ใช่ของเธอกับเย่หนานโจว แต่เป็นของเย่หนานโจวกับลู่ม่านเซิง ฝรั่งเศสเป็นสถานที่ที่โรแมนติกมาก ดังนั้นการไปที่นั่นกับคนรักน่าจะเหมาะกว่าหลังจากทำสิ่งที่เธอควรทำเสร็จแล้ว เวินหนี่ก็หยิบกระเป๋าเดินทางและออกจากบ้านคืนนี้ไม่มีใครเฝ้ายามทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น…วันรุ่งขึ้น“ประธานเย่!”“ประธานเย่ ตื่นเถอะครับ!”เย่หนานโจวค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา หัวของเขายังคงมึนงง และเหมือนมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ในหัวของเขาเขากุมขมับและรู้สึกปวดหัว ก่อนจะนึกถึงฉากที่เวินหนี่ทำอาหารให้เขาเมื่อวานนี้ขึ้นมาได้เขาลุกขึ้นยืนทันทีและมองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาเย็นชา ไม่มีร่างของเวินหนี่อีกต่อไป “ประธานเย่ เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณต้องการไปโรงพยาบาลไหม?” เผยชิงถามอย่างเป็นกังวลเมื่อเห็นว่าสีหน้าของเขาไม่ดีนักในตอนเช้า คนรับใช้พบว่าเย่ห

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 384

    เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็ชะงักและหรี่ตาที่เป็นอันตรายของเขาลงเล็กน้อย “ปิดบังอะไร?”เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเย่หนานโจวยังดูเหมือนสนใจ จึงบอกความจริงกับเขา “คุณเวินไปโรงพยาบาลหลายครั้ง แพทย์และพยาบาลไม่ยอมพูดว่าเธอไปทำอะไร ดูเหมือนว่าคุณเวินจะขอให้พวกเขาเก็บไว้เป็นความลับ แต่เราพยายามอย่างเต็มในการสืบค้นในกล้องวงจรปิด และสถานที่ที่คุณเวินไปน่าจะเป็นแผนกสูตินรีเวชครับ”เมื่อได้ยินคำตอบดังกล่าว เย่หนานโจวก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกสักพักเขาบังเอิญเจอเวินหนี่ที่โรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง เธอบอกว่าประจำเดือนมาผิดปกติจึงไปโรงพยาบาลให้หมอตรวจดูให้ทุกครั้งที่เขาจะพาเธอไปตรวจ เธอก็ปฏิเสธทุกครั้งเธอจงใจปกปิดเขา และเขาก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องส่วนตัวของเธอ จึงไม่ได้สาวความเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่คิดก็ยังไม่กล้าคิดเขาและเวินหนี่รักษาระห่างกันตลอดสามปีที่ผ่านมา และเขาก็ไม่เคยแตะต้องเธอเลยแม้ว่าเขาจะต้องการ แต่หากเวินหนี่ไม่ต้องการ เขาก็จะไม่บังคับเธอมีช่องว่างในชีวิตแต่งงานของพวกเขาที่ไม่สามารถเชื่อมเข้าด้วยกันได้ และเขาก็ให้ความเคารพเธออย่างที่สุดแม้กระทั่งตอนนี้ เย่หนานโจวก็ไม่กล้าคิดเกี่ยวกั

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 385

    แต่เย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นว่าเวินหนี่ไม่ได้กลับมากับเขาด้วยเธอรู้ว่าเย่หนานโจวไม่ต้องการให้เวินหนี่คอยดูสีหน้าเธอ และไม่อยากให้เวินหนี่ถูกรังแก ถึงได้พาหล่อนไปอาศัยอยู่ที่อื่นในช่วงที่ผ่านมาแต่เขากลับมาอยู่ที่บ้านหลายวันติดต่อกันแล้วโดยไม่เห็นเวินหนี่เลย ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจเธอไม่เคยได้ยินเย่หนานโจวพูดถึงเวินหนี่ ดังนั้นเธอรู้สึกสนใจเรื่องนี้ขึ้นมา เธอลองสืบและพบว่าเวินหนี่ไม่ได้ไปที่บริษัทหลายวันแล้วหรือเธอเลิกกับเขาแล้วอย่างนั้นเหรอ?เธอต้องการสืบ แต่เย่หนานโจวไม่ยอมให้เธอรู้ทุกอย่าง ยกตัวอย่างเรื่องในว่างเจียงหยวนเธอก็ไม่อาจสืบได้ตามจริงแล้วเธอเป็นแม่ของเย่หนานโจว เป็นนายหญิงของตระกูลนี้ รวมถึงคนที่ว่างเจียงหยวนก็ต้องให้ความเคารพเธอ แต่พวกเขากลับไม่สามารถงัดปากได้ด้วยเงินและฟังแค่คำสั่งของเย่หนานโจวเท่านั้นซึ่งมันทำให้เธอหงุดหงิดมากไม่ว่าจะยังไง สิ่งสำคัญคือเวินหนี่เลิกลากับเย่หนานโจวแล้ว เธอต้องถามอะไรบางอย่างขณะที่เย่หนานโจวกำลังขึ้นไปชั้นบน เย่ซูเฟินก็กล่าวขึ้นว่า “ช่วงนี้ไม่เห็นเวินหนี่เลย ลูกทะเลาะกับเธอ หรือว่าหย่ากันแล้ว?”หากพวกเขาหย่ากันแล้ว เธ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 386

    ชายคนนั้นได้เจอกับเวินหนี่และคุยกันอยู่สักพักดูเหมือนว่าจะคุ้นเคยกันมากคนนี้เขาพอจะจำได้ลาง ๆ ว่าน่าจะเป็นคนในบริษัทของเขาหลังจากเวินหนี่เดินไปแล้ว เขาก็เริ่มค้นหาในถังขยะการกระทำของเขาทำให้เย่หนานโจวขมวดคิ้ว แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ความจริงที่แท้จริง!…ต่งหมิงห้าวกำลังเร่งทำโปรแกรมบริษัทใหญ่ขนาดเย่กรุ๊ป การแข่งขันย่อมดุเดือดมาก ตอนที่เขาทำงานในบริษัทเล็ก ๆ เขาคือคนสำคัญแต่เมื่อมาที่นี่แล้ว โปรแกรมเมอร์ที่มีความสามารถแบบเขามีตั้งสิบกว่าคนหากต้องการก้าวหน้า เขาต้องโดดเด่นกว่าใครการออกจากบริษัทเก่า ก็เพราะอยากจะปีนไปให้สูงขึ้น เขาไม่กล้าผ่อนคลายเลยแม้แต่นาทีเดียว จึงทำงานอย่างบ้าคลั่งการกินข้าว ก็แค่กัดขนมปังไม่กี่คำเพื่อให้ผ่านไปในตอนนั้นเองขณะที่ต่งหมิงห้าวถือขนมปังอยู่ในมือ เตรียมจะใส่เข้าปาก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีคนยืนอยู่ข้าง ๆเขาเงยหน้าขึ้นก็ตกใจเกือบสะดุ้ง ขนมปังในมือเกือบหลุดร่วง “ประธานเย่!”ร่างสูงใหญ่ของเย่หนานโจวยืนอยู่ตรงหน้าเขา สร้างแรงกดดันมหาศาลต่งหมิงห้าวรีบลุกขึ้นทันที “ประธานเย่ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”สายตาของเย่หนานโจวจ้องมองชาย

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 387

    ต่งหมิงห้าวเต็มไปด้วยความสงสัย คิดว่าเย่หนานโจวจะมาถามความผิดของเขา แต่เย่หนานโจวก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เขาเพียงมาถามว่าเวินหนี่ไปโรงพยาบาลทำไมแต่หลังจากถามเสร็จ ร่างสูงก็จากไปเวินหนี่ท้องเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?ต่งหมิงห้าวไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตราบใดที่เขาไม่ถูกไล่ออกก็พอใจแล้วเย่หนานโจวขึ้นลิฟต์ มือทั้งสองล้วงกระเป๋าเพื่อปิดบังความโกรธของตัวเอง น้ำเสียงเย็นชาพูดออกมา “เช็คให้ฉันเดี๋ยวนี้ว่าเวินหนี่อยู่ที่ไหน!”เธอกล้านอกใจเขาถึงเธอจะหนีไปสุดขอบฟ้า เขาก็ต้องจับเธอกลับมาให้ได้!เผยชิงไม่เคยเห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของเย่หนานโจวมาก่อน ราวกับจะกลืนกินคนทั้งเป็นเมื่อเริ่มถามถึงที่อยู่ของเวินหนี่ เขาก็อดตัวสั่นไม่ได้ คิดว่าเวินหนี่คงต้องเจอเรื่องหนักหนาแน่นอนเมื่อถูกเจอตัวขอให้เธอโชคดีเถอะ!"ฮัดชิ่ว"เวินหนี่จามเสียงดัง น้ำตาไหลออกมาเธอใช้กระดาษเช็ดน้ำตาออก แล้วกลับมาเขียนต้นฉบับต่อไม่รู้ว่ามีใครกำลังคิดถึงเธออยู่หรือจะเป็นพ่อแม่ของเธอ?เมื่อไม่กี่วันก่อนเธอเพิ่งโทรไปบอกข่าวว่าปลอดภัย ไม่น่าจะใช่"เวินหนี่ บรรณาธิการให้เธอแก้ข่าวนี้หน่อย"เวินหนี่รับเอกสารจากเ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 388

    ในภาวะคับขัน เธอใช้กำลังทุบหลังของคนผู้นั้นอย่างแรง พร้อมตะโกนเสียงดังว่า “คุณเป็นใคร ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”แต่ชายคนนั้นไม่สนใจคำพูดของเธอ ปล่อยให้เธอตีและด่าไปตามเรื่อง พร้อมกับเร่งฝีเท้าเดินต่อไปเวินหนี่ร้อนรนและตื่นตระหนก ไม่ทันได้คิดอะไร คิดแต่จะหลุดพ้นจากมือของเขาเธอเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน ไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมรอบ ๆ นี้มีขโมยหรือโจรอยู่หรือเปล่าเธอกลัวจะได้รับอันตราย สิ่งแรกที่คิดคือการหนีออกจากอันตรายแต่ไม่ว่าเธอจะทุบตีแค่ไหน ชายคนนั้นก็ไม่ได้ทำร้ายเธอแต่อย่างใดนั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่โจรอีกอย่างเธอตะโกนเสียงดังขนาดนี้ เขาก็ไม่กลัว หรือว่า…พอเธอคิดได้ เขาก็วางเธอลงกับพื้นอย่างมั่นคงเมื่อเธอมองเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน เวินหนี่ถึงกับหน้าซีดทันที “คุณ...”คำพูดติดอยู่ในลำคอ เวินหนี่ตระหนักได้ว่าพวกเขาแตกหักกันขนาดนี้แล้ว เธอไม่มีใจจะพูดอะไรอีกเธอปิดปากเงียบ ไม่อยากเผชิญหน้ากับเขา และรีบเดินหันหลังหนี“พอเห็นฉันแล้วจะหนี รู้สึกผิดหรือไง?” ชายคนนั้นพูดเสียงเย็นเวินหนี่หยุดเดินและเริ่มมีคำถามในหัว ตลอดเวลาที่เธอจากมา เขาไม่เคยตามหาเธอเธอทำกับเขาอย่างนั

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status