แชร์

บทที่ 387

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 18:00:00
ต่งหมิงห้าวเต็มไปด้วยความสงสัย คิดว่าเย่หนานโจวจะมาถามความผิดของเขา แต่เย่หนานโจวก็ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม เขาเพียงมาถามว่าเวินหนี่ไปโรงพยาบาลทำไม

แต่หลังจากถามเสร็จ ร่างสูงก็จากไป

เวินหนี่ท้องเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?

ต่งหมิงห้าวไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตราบใดที่เขาไม่ถูกไล่ออกก็พอใจแล้ว

เย่หนานโจวขึ้นลิฟต์ มือทั้งสองล้วงกระเป๋าเพื่อปิดบังความโกรธของตัวเอง น้ำเสียงเย็นชาพูดออกมา “เช็คให้ฉันเดี๋ยวนี้ว่าเวินหนี่อยู่ที่ไหน!”

เธอกล้านอกใจเขา

ถึงเธอจะหนีไปสุดขอบฟ้า เขาก็ต้องจับเธอกลับมาให้ได้!

เผยชิงไม่เคยเห็นสายตาโกรธเกรี้ยวของเย่หนานโจวมาก่อน ราวกับจะกลืนกินคนทั้งเป็น

เมื่อเริ่มถามถึงที่อยู่ของเวินหนี่ เขาก็อดตัวสั่นไม่ได้ คิดว่าเวินหนี่คงต้องเจอเรื่องหนักหนาแน่นอนเมื่อถูกเจอตัว

ขอให้เธอโชคดีเถอะ!

"ฮัดชิ่ว"

เวินหนี่จามเสียงดัง น้ำตาไหลออกมา

เธอใช้กระดาษเช็ดน้ำตาออก แล้วกลับมาเขียนต้นฉบับต่อ

ไม่รู้ว่ามีใครกำลังคิดถึงเธออยู่

หรือจะเป็นพ่อแม่ของเธอ?

เมื่อไม่กี่วันก่อนเธอเพิ่งโทรไปบอกข่าวว่าปลอดภัย ไม่น่าจะใช่

"เวินหนี่ บรรณาธิการให้เธอแก้ข่าวนี้หน่อย"

เวินหนี่รับเอกสารจากเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 388

    ในภาวะคับขัน เธอใช้กำลังทุบหลังของคนผู้นั้นอย่างแรง พร้อมตะโกนเสียงดังว่า “คุณเป็นใคร ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”แต่ชายคนนั้นไม่สนใจคำพูดของเธอ ปล่อยให้เธอตีและด่าไปตามเรื่อง พร้อมกับเร่งฝีเท้าเดินต่อไปเวินหนี่ร้อนรนและตื่นตระหนก ไม่ทันได้คิดอะไร คิดแต่จะหลุดพ้นจากมือของเขาเธอเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน ไม่รู้ว่าสภาพแวดล้อมรอบ ๆ นี้มีขโมยหรือโจรอยู่หรือเปล่าเธอกลัวจะได้รับอันตราย สิ่งแรกที่คิดคือการหนีออกจากอันตรายแต่ไม่ว่าเธอจะทุบตีแค่ไหน ชายคนนั้นก็ไม่ได้ทำร้ายเธอแต่อย่างใดนั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่โจรอีกอย่างเธอตะโกนเสียงดังขนาดนี้ เขาก็ไม่กลัว หรือว่า…พอเธอคิดได้ เขาก็วางเธอลงกับพื้นอย่างมั่นคงเมื่อเธอมองเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน เวินหนี่ถึงกับหน้าซีดทันที “คุณ...”คำพูดติดอยู่ในลำคอ เวินหนี่ตระหนักได้ว่าพวกเขาแตกหักกันขนาดนี้แล้ว เธอไม่มีใจจะพูดอะไรอีกเธอปิดปากเงียบ ไม่อยากเผชิญหน้ากับเขา และรีบเดินหันหลังหนี“พอเห็นฉันแล้วจะหนี รู้สึกผิดหรือไง?” ชายคนนั้นพูดเสียงเย็นเวินหนี่หยุดเดินและเริ่มมีคำถามในหัว ตลอดเวลาที่เธอจากมา เขาไม่เคยตามหาเธอเธอทำกับเขาอย่างนั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 389

    “แล้วเด็กในท้องเธอหมายความว่ายังไง?” เย่หนานโจวแทบจะตะโกนออกมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธเมื่อได้ยินเช่นนั้น เวินหนี่ถึงกับตาเบิกโพลง ตกใจอย่างมากเขารู้เรื่องที่เธอท้องได้อย่างไร ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก จนไม่สามารถคิดหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้ในทันทีเย่หนานโจวเห็นสายตาเธอที่ตกตะลึง เขาก็รู้ทันทีว่ามันเป็นเรื่องจริง เขาหัวเราะเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “ไม่มีคำจะพูดแล้วใช่ไหม? ชีวิตนี้ฉัน เย่หนานโจว ยังไม่เคยถูกใครทรยศมาก่อน เธอเป็นคนแรก เธอบอกสิว่าฉันควรจะลงโทษเธอยังไงดี!”เวินหนี่รู้สึกถึงมือใหญ่ที่ร้อนแรงและเต็มไปด้วยอันตรายของเขา ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าเขาตามหาเธอเจอเพราะรู้ว่าเธอท้องเมื่อมองดูดวงตาที่อันตรายของเย่หนานโจว ราวกับว่าเขาอยากจะกลืนกินเธอทั้งเป็น เธอยิ่งไม่กล้าบอกความจริงกับเขา มือหนึ่งของเธอโอบป้องท้องไว้ อีกมือหนึ่งพูดออกมาว่า “เย่หนานโจว ต่อให้ฉันท้องจริง ๆ ฉันก็ไม่ได้ผิดสัญญาของเรานะ คุณบอกเองว่าเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน หวังว่าคุณจะรักษาสัญญานั้น ยังไงซะการแต่งงานของฉันกับคุณก็ไม่มีใครรู้มากนัก พอหย่ากันคุณก็แต่งงานใหม่ได้โดยไม่กระทบอะไรเลย!”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 390

    เวินหนี่ฟาดใบหน้าของเย่หนานโจวเต็มแรงเย่หนานโจวไม่หลบ เขารับแรงตบของเธออย่างจัง บนใบหน้าจึงปรากฏรอยแดงชัดเจนศีรษะเขาเอียงไปเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเวินหนี่ด้วยสายตาเย็นชาเวินหนี่เองก็ตกใจ ไม่คิดว่าตัวเองจะตบเขาแรงขนาดนี้ จนมือของเธอเองก็เจ็บการกระทำของเธอทำให้ตัวเองตกใจเช่นกันตลอดเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมานานถึงเจ็ดปี แม้ว่าจะมีความขัดแย้งกัน แต่เธอก็ไม่เคยลงมือทำร้ายเขามาก่อนไม่ใช่แค่เธอ แม้แต่เย่หนานโจวเองที่โตมาอย่างสง่าผ่าเผย ก็คงไม่เคยมีใครตบหน้าเขามาก่อน“เวินหนี่…” เย่หนานโจวเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่แฝงความโกรธและเย็นชาเวินหนี่รีบลดมือลง ดึงมือที่ชาหน่อย ๆ ของเธอกลับมา เธออธิบายว่า “ฉันไม่ได้ตั้งใจ... ถ้าคุณไม่ทำแบบนั้น ฉันจะตบคุณทำไม!”เย่หนานโจวโกรธจนแทบจะระเบิดออกมา เขากำหมัดแน่นจนเสียงกระดูกลั่นท่าทางที่เต็มไปด้วยความโกรธของเขาทำให้เวินหนี่รู้สึกหวาดหวั่น กลัวว่าเขาจะตบเธอกลับแต่เย่หนานโจวเพียงแค่จ้องมองเธอด้วยสายตาเย็นชา “เพื่อผู้ชายคนนั้น เธอกล้าทำทุกอย่างแล้วสินะ!”เวินหนี่จะไม่มีวันบอกเขาถึงความจริงของลูกเธอไม่ต้องการอยู่กับเขาอีกต่อไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 391

    แม้แต่การวางยาเขา เธอก็เอามาใช้!เขามีเพียงข้อเรียกร้องเดียว คือต้องการให้เธอทำแท้ง แต่เธอก็ไม่ยอมยังดื้อดึงที่จะคลอดลูกของคนอื่นออกมาเธอกล้าทำได้ยังไง!เธอกล้าที่จะพูดกับเขาแบบนี้ได้ยังไง!ในที่สุดเย่หนานโจวก็ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ ไม่บังคับเธออีกต่อไป แต่สายตาของเขายังคงเย็นชาและเต็มไปด้วยความผิดหวัง “เวินหนี่ เธอจะต้องเสียใจทีหลัง!”นี่เป็นคำพูดที่เฉียบขาดและเด็ดขาดหลังจากพูดจบ เขาก็ไม่สนใจสายตาเศร้าของเวินหนี่อีกต่อไปในดวงตาของเธอมีแววตาน้ำตาเอ่อคลอ น้ำตาหนึ่งหยดร่วงลงจากดวงตาของเธอ แต่ยังคงเต็มไปด้วยความดื้อรั้น เธอจะไม่ยอมอ่อนข้อให้เขาเย่หนานโจวเดินจากไปอย่างแน่วแน่ โดยไม่หันกลับมามอง จนกระทั่งหายไปจากสายตาของเธอเวินหนี่ค่อย ๆ นั่งยอง ๆ ลง มองดูมือที่ถูกเขาดึงจนแดง เธอกำมันไว้แน่น ก้มหน้าลง ความเจ็บปวดมากมายที่อธิบายไม่ถูกซ่อนอยู่ในใจเธอรู้สึกโดดเดี่ยวแต่ความโดดเดี่ยวนี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการตั้งแต่แรกผ่านมาหลายปีที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง ทำให้เธอคิดว่าการอยู่คนเดียวก็ดีแล้ว การละทิ้งการแต่งงานครั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่ดีเดิมทีเธอคิดว่าชีวิตของเธอจะดีขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 392

    เวินหนี่นิ่งไปหลายวินาที ก่อนจะเงยหน้ามองหลัวฉี “คุณให้ฉันไปสัมภาษณ์กับประธานของเย่กรุ๊ปงั้นเหรอคะ?”หลัวฉีเก็บมือทั้งสองข้างไว้ข้างตัว แล้วลุกขึ้นพูดอย่างสบายใจว่า “ใช่ มีปัญหาอะไร? การสัมภาษณ์กับเย่หนานโจวไม่ใช่งานที่ใครก็รับได้นะ แต่เธอนี่แหละเหมาะที่สุด”เวินหนี่ปิดเอกสารลงก่อนจะพูดอีกครั้งว่า “ในประวัติการทำงานของฉันเขียนไว้อย่างชัดเจนว่าฉันเพิ่งออกมาจากเย่กรุ๊ป คุณจะให้ฉันกลับไปอีกเหรอคะ?”การที่เธอมาทำงานที่สถานีโทรทัศน์ก็เหมือนกับการจากเย่กรุ๊ปโดยไม่บอกกล่าวความขัดแย้งระหว่างเธอกับเย่หนานโจวนั้นลึกซึ้งมาก การกลับไปอีกครั้งก็เท่ากับเป็นการทำร้ายตัวเองยิ่งเป็นการยืนยันคำพูดของเย่หนานโจวที่ว่า เธอจะต้องเสียใจแน่ ๆ !หลัวฉีไม่ได้ใส่ใจมากนักและก็ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเย่หนานโจว เพียงแค่พูดว่า “ก็เพราะเธอออกมาจากเย่กรุ๊ป มีความสัมพันธ์กันบ้าง งานนี้จึงต้องเป็นเธอเท่านั้น”เวินหนี่วางเอกสารลงบนโต๊ะ “บรรณาธิการคะ ฉันขอปฏิเสธงานนี้”ถ้าเธอต้องกลับไป แม้จะในฐานะที่ต่างออกไป แต่เธอก็ไม่อยากทำเธอไม่อยากมีเรื่องเกี่ยวข้องกับเย่หนานโจวอีกต่อไปแล้วที่สำคัญกว่านั้น คร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 393

    เวินหนี่เพิ่งมาทำงานที่สถานีโทรทัศน์ได้ไม่กี่วัน แต่ก็จำชื่อเพื่อนร่วมงานได้หมดแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่ได้พูดคุยกับทุกคนอย่างเช่น เจียงเมิ่งเหยาที่อยู่ตรงหน้า เธอเองก็ยังไม่เคยพูดคุยด้วย“ก็พูดแบบนั้น” เวินหนี่ตอบขณะเก็บเอกสารขึ้นแต่เจียงเมิ่งเหยากลับดูไม่พอใจ “ทำไมบรรณาธิการถึงมอบงานแบบนี้ให้เธอ เธอเพิ่งมาไม่กี่วัน ทำไมถึงคิดว่าเธอทำได้?”เวินหนี่สังเกตได้ว่าเจียงเมิ่งเหยาพูดด้วยน้ำเสียงแฝงความไม่พอใจ “ฉันเองก็คิดว่าฉันอาจจะทำไม่ได้เหมือนกัน” เธอเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อยแล้ว เรื่องงานแบบนี้อาจเป็นงานที่มีคนต้องการ เธอจึงมองไปที่เจียงเมิ่งเหยาและถามว่า “เธออยากทำงานนี้เหรอ?”เจียงเมิ่งเหยาไม่ตอบเธอหญิงสาวที่หยิ่งทะนงตัวแค่นเสียงเย็นชา ดูเหมือนการพูดกับเวินหนี่จะทำให้เธอรู้สึกเสียศักดิ์ศรี จากนั้นก็เดินตรงไปที่ห้องของบรรณาธิการเวินหนี่ไม่ใส่ใจกับความหยิ่งของเจียงเมิ่งเหยา ถ้าเธอรับงานนี้และบรรณาธิการยอมให้ทำ ก็คงจะดีมากถึงแม้ว่าการแข่งขันในสถานีโทรทัศน์จะสูงมาก หลายคนทำงานมาเป็นสิบปีก็ยังไม่อาจมีโอกาสเติบโตแต่เวินหนี่ก็เคยผ่านประสบการณ์มากมาย การสัมภาษณ์พิเศษเย่หนานโจวไม่ได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 394

    “อืม” เวินหนี่ตอบรับเบา ๆเจียงเมิ่งเหยาเห็นว่าเวินหนี่ไม่มีปฏิกิริยาอะไร เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็รู้สึกว่าตนให้ความสำคัญกับคนมาใหม่เกินไป จึงดึงสายตากลับและยังคงรักษาท่าทีหยิ่งทะนง เดินออกไปพร้อมกับเอกสารโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเสียวอิ่งมองตามหลังเจียงเมิ่งเหยาและอดไม่ได้ที่จะทำหน้าล้อเลียนเวินหนี่เห็นท่าทางเหล่านั้น จึงถามว่า “เจียงเมิ่งเหยาทำอะไรให้เธอไม่ชอบใจเหรอ?”เสียวอิ่งตอบ “ทำเยอะเลย ไม่ใช่แค่ฉันหรอก หลายคนก็โดน เธอเป็นคนที่ทุกคนกล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูด ก็ใครจะทำอะไรได้ล่ะ ในเมื่อเธอเป็นคนที่ทำผลงานดีที่สุดในที่นี่!”เวินหนี่พูดว่า “เธอทำผลงานดี ก็ต้องมีเหตุผลของเธอ กล้าลงมือแย่ง กล้าลงมือทำ”“ไม่ใช่แค่นั้นหรอก เธอเล่นแย่งแบบไม่ให้โอกาสคนอื่นเลย” เสียวอิ่งพูดต่อ “ก่อนหน้านี้ฉันเองก็มีโปรเจกต์ที่ไม่เลวเลย ถ้าฉันทำสำเร็จ คงไม่ต้องมานั่งเขียนบทความเหนื่อย ๆ แบบนี้แล้วนะ ถึงฉันจะไม่แน่ว่าจะทำได้สำเร็จไหม แต่ก็ควรได้ลองสักครั้งไหมล่ะ แต่โอกาสนั้นก็ถูกเจียงเมิ่งเหยาแย่งไปหมด เธอไม่ยอมให้โอกาสพวกคนใหม่เลย เธออยากเป็นดาวเด่นตลอดกาลของสถานีนี้ บอกเลยว่าเธอหมายตาเก้าอี้บรรณาธิการอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 395

    เจียงเมิ่งเหยารับกระติกน้ำร้อนมาแล้วยิ้มพร้อมพูดว่า “ถ้าครั้งนี้ฉันทำสำเร็จ ได้เลื่อนตำแหน่งและขึ้นเงินเดือนแน่ ๆ แถมฉันได้ข่าววงในมาว่า บรรณาธิการกำลังจะถูกย้ายไปที่อื่น ฉันมีผลงานโดดเด่นที่สุด ตำแหน่งบรรณาธิการก็ต้องเป็นของฉัน พอถึงตอนนั้น ฉันจะปั้นพวกเธอให้เป็นเหมือนฉัน ไม่ลืมบุญคุณแน่นอน!”“ดีจังเลยค่ะ ต้องขอบคุณพี่เหยาล่วงหน้าเลยนะคะ!”สองสาวดีใจกันใหญ่ เพราะการที่พวกเธอจะได้ตั้งหลักในที่ทำงานก็ขึ้นอยู่กับว่าเจียงเมิ่งเหยาจะได้เป็นบรรณาธิการหรือไม่ครั้งนี้เจียงเมิ่งเหยาโทรไปที่เย่กรุ๊ปหลายสาย แต่ก็ได้เหตุผลเดิม ๆ กลับมาเธอไม่อยากรออย่างไร้ผลอีกแล้ว มันไม่มีประโยชน์จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เธอรู้ดีว่าต้องลงมือเองเท่านั้นถึงจะมีโอกาสเจียงเมิ่งเหยาขับรถสี่ชั่วโมงจนมาถึงหน้าอาคารของเย่กรุ๊ปเธอจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วถามซ้ำอีกครั้งว่า “คุณแน่ใจนะว่าเย่หนานโจว จะออกมาทางประตูนี้ตอนห้าโมงเย็น?”“แน่ใจครับ ประธานเย่ส่วนใหญ่จะใช้ที่จอดรถใต้ดิน แต่ถ้ารีบมากก็จะให้จอดรถที่หน้าประตู แล้วเขาจะลงมาขึ้นรถจากตรงนี้” รปภ.บอกเธอว่า “ช่วงนี้ประธานเย่ออกไปตอนห้าโมงเย็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status